คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : chapter 11 อา...มันเล็กกว่าที่ฉันคิดอีกนะ
Chapter 11
‘พี่ฮีชอลคิดจะตบคยูฮยอนเหรอครับ?’
‘แล้วนายไปจูบมันก่อนทำไม’
‘ผมกำลังถามพี่อยู่นะ’
‘แต่นายกำลังปกป้องเด็กนั่น ซีวอน...นายมีอะไรกับมันแล้วใช่ไหม’
ฮีชอลเอาแต่คิดเรื่องที่เขาทะเลาะกับซีวอนที่มหาวิทยาลัย เขาอยากได้ยินคำแก้ตัวจากซีวอนมากกว่าการเงียบเช่นนั้น มันทำให้ฮีชอลเข้าใจได้ทันทีว่าซีวอนไม่ได้ปฏิเสธคำกล่าวหาจากเขา
มือเรียวยกแก้วใสที่บรรจุของเหลวสีอำพันขึ้นดื่มรวดเดียว ก่อนจะกระแทกแก้วลงบนโต๊ะเพราะเริ่มควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองไม่ได้ ร่างโปร่งเอนกายผงะไปด้านหลังอย่างมึนหัว โชคดีที่มีใครบางคนมารับร่างของเขาไว้
“ซีวอน...”
“ผมอีทึกคนรักของคุณไง จำไม่ได้เหรอ?” เขาประคองฮีชอลให้นั่งตัวตรงตามเดิม ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทะเล้น
“ไม่ใช่ นายมัน...คนบ้ากาม” นิ้วเรียวจิ้มเข้าหน้าอกของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาจนจองซูอดขำกับท่าทางน่ารักนั้นไม่ได้
“คุณเมามากแล้วนะเนี่ย”
“ยัง...ยังไม่เมา ฉันต้องเมาให้มากกว่านี้ เมาให้ตายไปเลย”
“ใครกันนะที่กล้าใจร้ายกับฮีชอลของผมได้มากขนาดนี้”
จองซูเกลี่ยไรผมที่ร่วงลงมาปรกหน้าผากมนเอาไว้ ฮีชอลรินเหล้าจนเต็มแก้ว ก่อนกระดกขึ้นอีกครั้ง ทว่ามือแกร่งกลับรั้งเอาไว้
“คุณไม่ไหวแล้ว กลับเถอะ”
“บอกแล้วไงว่าไม่เมา ปล่อยนะ” ฮีชอลสะบัดตัวเองออกจากอ้อมกอดของอีกฝ่าย หากแต่ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์กลับทำให้เขาหงายหลังไปอีกครั้ง คราวนี้จองซูจึงปล่อยให้ร่วงลงไปด้านล่างทันที “โอ๊ย!”
“คนไม่เมาที่ไหนจะนั่งตกเก้าอี้” จองซูบอกก่อนจะหัวเราะเบาๆ เขาควักเงินสดมาจำนวนหนึ่งแล้ววางลงบนโต๊ะ หลังจากนั้นก็ก้มลงไปประคองร่างระหงมาไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง ก่อนจะพาเดินออกไปจากร้านทันที
“ซีวอน...ฉันเกลียดนาย ฉันเกลียด...ฮึก...”
จองซูนิ่งอึ้งเมื่อพาฮีชอลเดินมาถึงรถยนต์ของตัวเอง เขาพาร่างที่ไม่ได้สติของฮีชอลไปนั่งฝั่งคนขับ รัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย ก่อนจะจ้องมองในหน้าที่สวยหวานไม่ต่างจากหญิงงาม ผิวที่แดงเรื่อไปทั้งตัวเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้จองซูนึกสงสารอีกฝ่ายจับใจ
“คุณเจอเรื่องอะไรมานะ สองครั้งแล้วที่ผมเห็นคุณดื่มเหล้าจนเมามายแบบนี้”
“ฮึก...ซีวอน...นายรักมันมากกว่าพี่เหรอ...คนเลว...”
ฮีชอลยื่นมือมาทุบหน้าอกของจองซูด้วยความปวดร้าว แทนที่จองซูจะหนี เขากลับรวบมือของฮีชอลเข้าหาตัวแล้วโน้มลงไปกอดร่างที่สั่นเทาไว้แนบแน่น
น่าเสียดายที่ตอนนี้ฮีชอลมีสติไม่ครบถ้วน
ไม่อย่างนั้นเขาคงได้เห็นด้านที่อ่อนโยนของผู้ชายที่ชื่อปาร์ค จองซู
คิบอมขับรถมาส่งทงเฮที่บ้านในตอนกลางคืนหลังจากไปนั่งเล่นอยู่ที่สวนสาธารณะนัมซานมาตั้งแต่ตอนบ่าย ทงเฮไม่ยอมพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวตั้งแต่เห็นฮยอกแจเดินไปกับผู้ชายคนนั้น
“ทงเฮ” คิบอมเอ่ยเรียกเมื่อดับเครื่องยนต์ที่หน้าบ้านของคนตัวเล็ก
“หืม?”
“ถึงบ้านนายแล้ว ไม่ลงไปเหรอ?”
ทงเฮค่อยๆ ปลดเข็มขัดออกอย่างไร้เรี่ยวแรง คิบอมไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรดี เพราะสิ่งเดียวที่เขามั่นใจในตอนนี้คือทงเฮกำลังตกหลุมรักฮยอกแจเพื่อนของเขา แต่นอกเหนือจากนั้นเขาก็ไม่รู้อะไรเลย
“ขอบใจที่มาส่งนะคิบอม” หันไปบอกช้าๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไป ทว่าคิบอมกลับรั้งข้อมือบางเอาไว้
“ทงเฮ”
“...”
“ถึงนายจะไม่มีใคร แต่นายยังมีฉันนะ”
คิบอมรู้ดีว่าคำพูดของเขามันเฉิ่มและเชยอย่างมาก แต่นี่เป็นความจริงใจที่คิบอมจะสามารถมอบให้ทงเฮได้ มือหนาเลื่อนต่ำลงมากุมมือของทงเฮเอาไว้อย่างปลอบใจ ทว่าทงเฮกลับชักมือออก
“ขอบใจที่อยู่ข้างๆ ฉัน ขอบใจจริงๆ”
ทงเฮบอกก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านอย่างเลื่อนลอย คิบอมได้แต่มองตามแผ่นหลังบางอย่างนึกสงสัย มันคงจะดีกว่านี้หากทงเฮระบายสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจให้คิบอมรับรู้ อย่างน้อยคิบอมจะได้ช่วยบรรเทาความเศร้านั้นลงบ้าง แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
ซีวอนเดินวนเวียนไปมาอยู่หน้าบ้าน ร่างสูงก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเขามายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร คนที่ซีวอนควรจะไปง้อคือคิม ฮีชอลไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมเขาถึงได้กระวนกระวายใจนักเมื่อรู้ว่าเด็กรับใช้ส่วนตัวยังไม่กลับมาที่บ้านทั้งๆ ที่ดึกขนาดนี้
รถยนต์คุ้นตาเลี้ยวเข้ามาในรั้วบ้าน ก่อนจะจอดและดับเครื่องลงสนิท ประตูทั้งสองฝั่งเปิดออกแทบจะพร้อมกัน ซีวอนปรายตามองเพียงแวบหนึ่งเท่านั้น ก่อนจะรีบหันหลังกลับเข้าไปในบ้านทันที ทว่าเสียงทุ้มกลับเอ่ยเรียกเอาไว้
“ซีวอน” เสียงของฮยอกแจดังขึ้นทำให้ซีวอนเดินเลี่ยงไปไม่ได้ “ฉันพาคยูฮยอนมาส่งแล้ว”
“ฉันเห็นแล้ว ไม่ต้องบอกซ้ำหรอก”
เขาพูดทั้งๆ ที่ไม่ได้มองหน้าฮยอกแจหรือคยูฮยอนเลยสักนิด
“แค่บอกให้นายรับรู้ว่าฉันพาคยูฮยอนมาส่งแล้วจริงๆ ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้พูดอะไร แค่พามาส่ง”
“อืม” ซีวอนขานรับในลำคอ ฮยอกแจจึงถอนหายใจและเดินขึ้นไปบนรถ ก่อนจะขับเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว ที่บริเวณหน้าบ้านจึงเหลือเพียงซีวอนและคยูฮยอนเท่านั้น
“ผมขอโทษครับ”
คยูฮยอนก้มหน้างุดพลางเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด
“ขอโทษเรื่องอะไร”
“เรื่องที่ไปมหาวิทยาลัยของคุณซีวอนโดยไม่ได้รับอนุญาต นี่นาฬิกาของคุณครับ”
มือทั้งสองข้างจับนาฬิกาแล้วยื่นส่งไปให้ ซีวอนแค่รับมาถือไว้ ก่อนจะหย่อนนาฬิกาข้อมือลงในกระเป๋ากางเกงราวกับว่ามันไม่ใช่สิ่งของสลักสำคัญอะไรกับเขาเลย
“แล้วอีกเรื่อง...”
“...”
“...ที่ผมไปกับคุณฮยอกแจ ผมไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นนะครับ”
“จะมีหรือไม่มีมันก็ไม่เกี่ยวกับฉัน” ซีวอนไม่เคยทำตัวเย็นชามากขนาดนี้ เขาพูดจบก็หันหลังให้กับร่างโปร่งทันที ทว่าเสียงที่สั่นเครือของเด็กรับใช้กลับดังไล่หลังมา
“คุณซีวอนบอกว่าผมเป็นของคุณเท่านั้น ต่อไปนี้...ผมจะไม่ไปไหนอีกถ้าคุณไม่สั่ง ได้โปรดอย่าล่ามโซ่ผมเลยนะครับ”
ซีวอนไม่อยากฟังคำพูดเหล่านั้นอีกแล้ว เขาเดินจากไปพร้อมๆ กับปล่อยให้คยูฮยอนยืนร้องไห้อยู่ด้านหลัง มันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว เจ้านายกับคนใช้จะรักกันได้อย่างไร
แค่มีสิทธิ์ได้รัก...ก็นับว่าเป็นบุญของโจ คยูฮยอนนักหนาแล้ว
เช้าวันต่อมา
ทงเฮเดินออกมาจากบ้านเพื่อขึ้นรถประจำทางที่หน้าปากซอย ทว่าเสียงบีบแตรที่ดังขึ้นกลับทำให้ร่างเล็กที่เดินอยู่ลำพังสะดุ้งโหยง
“ขึ้นมาสิทงเฮ ไปมหา’ลัยด้วยกัน” คิบอมยื่นหน้ามาจากรถแล้วบอกกับเขา
“คือฉัน...”
“มาเถอะน่า ยืนข้างนอกนานๆ เดี๋ยวก็ป่วยหรอก”
ทงเฮจำต้องขึ้นไปนั่งบนรถเพราะไม่อยากให้คิบอมเปิดกระจกคุยกับเขาเป็นเวลานาน ทว่าเมื่อปิดประตูลง ทงเฮก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากเครื่องทำความร้อนที่อยู่ในตัวรถ
“หน้าซีดหมดแล้ว บอกให้ขึ้นมาเร็วๆ ก็ไม่เชื่อ” คิบอมบ่นลอยๆ กับความดื้อรั้นของคนข้างกาย เขาทำท่าจะเหยียบคันเร่งเพื่อเคลื่อนรถไปด้านหน้า ทว่ามือหนากลับเลื่อนมาเปลี่ยนเป็นเกียร์ว่างเมื่อนึกอะไรขึ้นได้
“มีอะไรเหรอ?” ทงเฮถาม
“...”
“เฮ้ย! จะทำอะไรน่ะ” ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงเมื่อจู่ๆ คิบอมก็ถอดเสื้อของตัวเองออกจนเหลือแต่ร่างกายท่อนบนที่เปล่าเปลือย
“ถอดมาสิ!”
“ถอดอะไร?” ทงเฮแสร้งเอียงคอถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก็ถอดเสื้อของนายมาแลกกันไง เร็วๆ สิ ฉันหนาวนะ”
“หันหน้าไปทางอื่นก่อนได้ไหม” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา คิบอมคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะหันออกไปด้านนอกรถ ทงเฮค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกแล้วยัดลงในมือของอีกฝ่าย ก่อนหยิบเสื้อที่คิบอมเพิ่งถอดมาสวมใส่บ้าง
เขาก็ไม่เข้าใจนักหรอกว่าทำคิบอมจึงทำเช่นนี้ หากแต่เสียงทุ้มที่เอ่ยขึ้นก็ช่วยคลายความสงสัยได้ดี
“ถ้านายโกหกว่าตัวเองรวย นายก็ควรจะใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมด้วย”
“ฉันไม่มี...”
“อา...มันเล็กกว่าที่ฉันคิดอีกนะ” คิบอมไม่ได้สนใจในคำพูดของทงเฮเลย เขามัวแต่ก้มมองดูตัวเองที่สวมเสื้อตัวเล็กๆ ของทงเฮ มันไม่เล็กจนใส่ไม่ได้ แต่มันก็เล็กพอที่จะทำให้เห็นสัดส่วนของเขาได้ชัดเจนมากขึ้น
“เปลี่ยนคืนไหมล่ะ?” ทงเฮเอ่ยถาม คิบอมจึงหันมายิ้มและส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะหักพวกมาลัยแล้วขับรถออกไปยังมหาวิทยาลัยในทันที
“จำไว้นะทงเฮ ต่อไปนี้นายคือแฟนของฉัน คนอื่นจะนินทายังไงก็ช่าง...แต่นายเป็นแฟนของฉันแล้ว”
ที่มหาวิทยาลัย
คิบอมเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับทงเฮ สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่เขาไม่เว้นแม้แต่ฮยอกแจ แต่ดูเหมือนว่าฮยอกแจจะเก็บความรู้สึกของตัวเองได้เป็นอย่างดี
“มาแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มเบสเอ่ยถามขึ้น คิบอมจึงพยักหน้า ก่อนจะเดินมานั่งข้างเพื่อนสนิทแล้วให้ทงเฮนั่งในที่นั่งถัดไป
“ฉันคบกับทงเฮแล้วนะ” คิบอมพูดเสียงดัง จงใจจะให้คนทั้งห้องได้ยินเสียงของเขา
“จริงเหรอทงเฮ?”
เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น ทงเฮได้แต่อึกอักไม่กล้าพูดจนคิบอมต้องยกมือที่เขาจับมือเรียวของทงเฮขึ้นมาแสดงให้คนอื่นดู
“ฉันตอบได้เลยว่าจริง เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาถามอีกแล้วนะ เพราะไม่ว่าฉันหรือทงเฮจะตอบก็มีค่าเท่ากัน”
คิบอมตั้งใจจะพูดล้อเลียนคำพูดของฮยอกแจเมื่อวันก่อน หากแต่ฮยอกแจกลับนั่งนิ่งเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น สายตาวูบไหวถูกซุกซ่อนเป็นอย่างดี แม้แต่ทงเฮก็ยังไม่อาจล่วงรู้ความรู้สึกที่อยู่ในใจของฮยอกแจได้
“ปล่อยมือฉันเถอะคิบอม” ทงเฮกระซิบอย่างแผ่วเบา
“เชื่อใจฉัน” คิบอมกระซิบกลับไปเช่นกัน หากแต่ภาพที่ฮยอกแจมองด้วยหางตาเช่นนั้นกลับทำให้ตีความหมายไปอีกทาง
ฮยอกแจมองเห็นว่าทงเฮกับคิบอมผลัดกันหอมแก้มของกันและกันอยู่
มือหนาล้วงเข้าไปในลิ้นชักใต้โต๊ะทำท่าเหมือนจะหยิบสิ่งของบางอย่าง หากแต่เมื่อลับสายตาคน ฮยอกแจกลับกำหมัดแน่น สิ่งที่เขาทำอยู่มันช่วยให้ทงเฮดีขึ้นหรือไม่ฮยอกแจไม่รู้
อี ฮยอกแจรู้เพียงว่า...
ตอนนี้เขาเจ็บปวดมากเหลือเกิน
Talk with Lee Seen
เห็นคนอ่านทุกคนพร้อมใจกันคอมเม้นท์ ซีนเลยใจดีมาอัพต่อให้
ช่วงนี้ปั่นเรื่องนี้ได้หลายตอนเลยค่ะ
รู้สึกชีวิตจริงเริ่มดราม่าตามฟิกแล้ว เดี่ยวจะเครียดไปกันใหญ่
ปล. B1A4 ใครชอบวงนี้บ้างคะ ซีนจองจินยองน้า... 555+
ความคิดเห็น