คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : HaeEun สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก - ตอนแรก
“ สวัสดีวันเปิดเทอมนะเด็กๆ ... เด็กๆจ๊ะ นี่เพื่อนใหม่ของเรา เพิ่งย้ายมาจากอเมริกา เขาค่อนข้างจะขี้อายนิดหน่อย เรามาปรบมือต้อนรับเพื่อนใหม่กันก่อนดีมั้ย ” ครูประจำชั้นเอ่ยขณะนำแนะเด็กชายให้รู้จักกับเพื่อนใหม่ในชั้นเรียน หากแต่เด็กชายยังคงหลบอยู่หลังร่างบางของครูสาว จนหญิงสาวต้องดันออกมาหน้าห้อง
“ ฉะ ฉะหวัดดีเราชื่อ อีฮยอกแจ อายุ 6 ขวด ” เด็กชายตัวเล็กในแว่นตากรอบหนา ผิวสีขาวตัดกับเส้นผมสีน้ำตาลอ่อน รูปร่างผอมบางคล้ายเด็กผู้หญิง แนะนำตัวเสียงแผ่วเบา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเด็กคนหนึ่งตะโกนแซวออกมา
“ อายุเค้าเรียกว่า ขวบไม่ใช่ขวด คนอะไรหน้าเหมือนไก่แล้วยังพูดไม่ชัดอีก ”
“ นี่ทงเฮ อย่าว่าเพื่อนแบบนี้สิจ๊ะ ฮยอกแจเขาเพิ่งย้ายมาจากอเมริกา ยังพูดภาษาเราไม่ชัดน่ะ ”
“ ไปทำไรกับข้าวผัดอเมริกาฮับ ”
“ ประเทศอเมริกา ไม่ใช่ข้าวผัดอเมริกา คุณพ่อของฮยอกแจเป็นทูตอยู่ที่นั่นจ้ะ ”
“ อี๋ มีพ่อเป็นหูดด้วยเหรอฮับ ”
“ ทูต ไม่ใช่หูด เอาล่ะๆทงเฮ หยุดถามสักแป๊บ ให้ฮยอกแจไปนั่งที่ก่อนนะ ... ฮยอกแจไปนั่งใกล้ๆทงเฮก็แล้วกันนะ ” ครูสาวชี้ที่นั่งให้เด็กชาย
“ นี่นาย เป็นหูดแบบพ่อนายรึเปล่า ” เด็กชายทงเฮกระซิบถาม เมื่อสมาชิกใหม่ในห้องนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้กับตน เพราะกลัวคุณครูดุ
“ ป่าวนะ เราไม่ได้เปง แต่โตขึ้นเราจะเปงแหละ ”
“ นี่ไก่ใส่แว่นมาจากอเมริการึมาจากจีน ทำไมพูดไม่ชัดเนี่ย แล้วหูดจะเป็นทำไม แหวะ ”
“ พ่อเราเปงทูก ไม่ใช่หูก นาย หูไม่ดีอ๊ะเป่า ” เด็กชายผิวขาวราวน้ำนมบ่นเบาๆ
“ อ้าว ว่าเราหูไม่ดีเรอะ เราได้ยินนะ คนพูดไม่ชัด พูดไม่ชัดแถมสายตาก็ยังจะสั้นอีก ” ทงเฮตะโกน จนเพื่อนๆและครูหันมามอง
“ นี่ทงเฮ เบาๆหน่อยสิ เดี๋ยวเพื่อนก็ตกใจหมด มาวันแรกก็ขวัญเสียซะแล้ว ”
“ เสียก็ซ่อมสิฮับคุณครู ”
“ โอเค ครูยอมแล้วทงเฮ ” ครูประจำชั้นตัดบท
.
.
.
“ เรียนมาจบเทอมแล้ว เทอมหน้าก็เลื่อนชั้นกันแล้ว ดีใจกันมั้ย ”
“ ดีคร่า // ดีฮ้าบบบบบบ ”
“ แล้ว ปิดเทอม 3 เดือน จะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างจ๊ะ ”
“ ไปต่างจังหวัดคร่า ”
“ ไปเที่ยวน้ำตกฮับ ”
“ ไปต่างประเทศฮับ ”
“ ไม่ไปไหนฮับ นอนเล่นเกมทั้งสามเดือนนี่แหละ ” หลายคำตอบที่ได้รับกลับมา แต่เด็กชายอีฮยอกแจกลับนั่งเงียบจนครูสาวเอ่ยถาม
“ แล้วฮยอกแจล่ะ จะไปเที่ยวที่ไหนเอ่ย ”
“ ผมไปเที่ยวที่ไหนไม่ได้ครับ ผมต้องไปสำรวจอวกาก ”
“ เค้าเรียกว่า อวกาศ ไม่ใช่อวกาก ขี้โม้จังนายอ่ะ ”
“ เราไม่ได้โม้นะ พอโรงเรียงปิด ตั้งแต่ปีที่แล้วเราก็ไปอวกากทุกที เราต้องนอนอยู่ในแคปซุงสีขาว แล้วมันก็สว่างมากๆด้วย ไม่เชื่อไปถามพ่อแม่เราจิ ”
“ ฮยอกแจขี้โม้ ” เด็กชายทงเฮเบ้ปาก
“ เอาล่ะๆ สองคนนี่นั่งก็ติดกัน แต่ทะเลาะกันได้ทุกวันสิน่า คอยดูนะ ปิดเทอมไปต้องเหงาแน่ๆ เพราะไม่มีใครให้ทะเลาะด้วย ”
“ จ้างให้ก็ไม่คิดถึงคนหน้าไก่หรอกฮับ ”
“ แต่เราจะคิกถึงทงเฮนะ ”
หากสิ่งที่เจอมันจะเพียงแค่บังเอิญ
ก็คงจะเป็นความบังเอิญครั้งยิ่งใหญ่
ทำให้ได้รู้ทันทีว่ารักเป็นเช่น ไร
ความหวั่นไหวที่ได้พบในวันนี้
10 ปีต่อมา
“ ปิดเทอมไปเที่ยวไหนมาไก่ใส่แว่น ไปสำรวจอวกากมาอีกหรือเปล่า ” ชายหนุ่มวิ่งมากอดไหล่เพื่อนรัก ขณะที่ร่างบางกำลังเดินขึ้นไปยังอาคารเรียน
“ หยุดแซวได้แล้วทงเฮ ตอนนี้ฉันพูดชัดแล้ว แต่นายดิ ยังหูตึงเหมือนเดิม ฮะ ฮะ ” ฮยอกแจปัดแขนเรียวออกจากไหล่บางของตน
“ ฉันไม่ได้หูตึงนะเฟ่ย แค่อยากรับฟังสิ่งที่อยากฟังก็เท่านั้นเอง ”
“ เหรออออออออออออ ” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยเสียงยานคาง
“ ก็แน่ล่ะสิ...อ๊ะ!!! แล้วสร้อยข้อมือที่ฉันให้นายอยู่ไหน ทำไมนายไม่ใส่ไว้ ” ทงเฮถามเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ควรจะอยู่บนข้อมือของเพื่อนรักกลับไม่อยู่ในที่ๆควรจะอยู่
“ อ๋อ...ฉันเก็บไว้น่ะ ”
“ เก็บได้ไง ฉันให้นายใส่ นายก็ต้องใส่สิ นั่นน่ะของที่ฉันสละให้นายในวันเกิดนายเองนะ ”
“ สละเหรอ ... สละหรือว่างก ไม่อยากจะซื้อของใหม่ๆให้ฉันกันแน่ ”
“ งก อะไร นั่นน่ะชิ้นพิเศษสุดของฉันเลยนะ โห่ย น้อยใจว่ะ พูดงี้ได้ไงวะ ” ร่างหนาทำหน้างอ
“ อย่าเว่อร์น่ะทงเฮ ฉันเก็บมันไว้เพราะกลัวมันเก่าต่างหาก ”
“ นี่ นายไม่รู้เรื่องการใช้ชีวิตเลยรึไงฮยอกแจ เวลาใครให้ของเรานะ เขาก็ย่อมอยากให้เราใช้ของๆเขา ไม่ใช่อยากให้เก็บไว้กลัวเก่า ”
“ อันที่จริงแล้วมันเล็กเกินไป ฉันใส่ไม่ได้แล้วน่ะ ”
“ เก็บไว้ แล้วก็มา เส้นเล็ก อืม!!! ฮยอกแจ ไม่ใช่ว่านายทำหายหรอกนะ ” ทงเฮหรี่ตา ขมวดคิ้วสงสัย
“ บะ บ้าเรอะ ไม่ได้หายโว๊ย ยังอยู่ในในกล่องอย่างดี แต่เส้นมันเล็กไง ฉันเลยต้องเก็บไว้ ใครเขาจะขี้หลงขี้ลืมเหมือนนายวะ ” ฮยอกแจโวยลั่น
“ เก็บไว้ก็ดีแล้ว ทำไมต้องโวยวายด้วยวะ ไปกินนม ฉะตรอเบอรี่ของนายต่อเหอะ ฉันขี้เกียจคุยด้วยแล้ว ” คนตัวเล็กยังไม่ทันอ้าปากพูดตอบกลับ ร่างหนาก็เดินออกไปทันที
“ เหอะ พอเห็นซองมิน ก็ขี้เกียจคุยกับฉันขึ้นมาทันทีเลยนะ ” ฮยอกแจมองตามแผ่นหลังนั้นไป ร่างสูงที่เดินยิ้มร่าไปหาเพื่อนร่วมชั้นอีกคน เพื่อนร่วมชั้นคนพิเศษของอีทงเฮ
“ 10ปี 4เดือน กับอีก 1 วัน ผ่านมานานขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย รอยยิ้มแบบที่นายให้อีซองมิน แบ่งมาให้ฉันสักนิดไม่ได้เลยใช่มั้ยทงเฮ ”
เก็บอาการไว้จนในใจห้ามไม่อยู่
ไม่อยากให้รู้มีอะไรซ่อนในใจ
เป็นสิ่งเล็กเล็กในมุมลึกลับในหัวใจ
เก็บเอาไว้เผื่อวันหนึ่งเธอจะรู้
“ อ๊ากกกกกกก รายงาน ฉันเกลียดรายงาน ” ร่างหนากระแทกกระเป๋าลงบนโต๊ะนักเรียน ก่อนจะนั่งลงและฟุบหน้าลงกับโต๊ะเล็ก
“ วิชานี้ก็เป็นแบบนี้บ่อยจะตาย นายจะบ่นทำไมทงเฮ ”
“ จะไม่ให้บ่นยังไง ฉันไม่ได้หัวเดียวกระเทียมลีบเหมือนนายนะ เสาร์นี้ฉันมีนัดกับซองมินด้วย ”
“ ก็เลื่อนนัดสิ ง่ายจะตาย ” ร่างบางนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆกัน
“ นายก็พูดง่ายดิ นายไม่เคยมีแฟน ไม่เคยรักใคร นายไม่รู้หรอกว่าการออกเดทมันสำคัญแค่ไหนน่ะ ”
“ แล้วนายจะเอาไงล่ะทงเฮ ” เสียงใสเบาลงกว่าเดิม
“ ฮยอกแจเพื่อนรัก ” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเอามือจับมือเล็กของเพื่อนรักเอาไว้ด้วยสายตาวิงวอน
“ โอเค โอเค ฉันจะช่วยนาย ไม่ต้องทำน้ำเสียงดัดจริต แล้วก็เลิกทำตาปริบๆอย่างนั้นได้แล้ว เห็นแล้วอยากอ๊วก ” ฮยอกแจสะบัดมืออกจากเกาะกุม
“ โอ้ ฮยอกแจเพื่อนยาก นายคนเดียว นอราโก แค่นายคนเดียวเท่านั้น ที่จะช่วยชีวิตฉันไว้ได้ ” ร่างสูงลุกขึ้นกอดเพื่อนชายทันที
“ ปล่อยได้แล้ว แกไม่อาย ฉันอายนะเฟ่ย ”
“ อายทำไม ใครๆก็รู้ว่าเราเป็นเพื่อนรักกัน โอ้ มาย ฮยอกแจ มาให้จุ๊บทีนึงมะ ” ไม่พูดเปล่าทงเฮแกล้งเอาปากยื่นมายังอีกคนด้วย จนร่างบางขึ้นเข่าไปหนึ่งทีจนจุก
“ ฮะ ฮะ สม แกรู้จัก โทนี โชวี่น้อยไป ”
“ กะ แก ไปเรียนมวยไทยกับ จา พนมมารึไงวะ จุกนะเฟ่ย ถ้าน้องชายฉันใช้การไม่ได้ ฉันจะฆ่าแก ”
“ สมน้ำหน้า เพื่อนกันก็ไม่จำเป็นต้องกอดกันแบบนี้หรอก ไอ้บ้า แล้วถ้ากล้าด่าฉันอีก รายงานทำเองก็แล้วกัน ฮะ ฮ่ะ ฮ่า ” ร่างบางหัวเราะก่อนจะเดินออกนอกห้องไป
“ รอฉันด้วย คุณเพื่อนที่เคารพรัก ”
“ รอเหรอ ทำไมฉันต้องรอนายด้วยล่ะทงเฮ ในเมื่อนายเดินพร้อมกับฉันเสมอ ในนี้ ในใจฉัน ”
สิ่งที่เล็กเล็กที่ฉันเรียก มันว่าความรัก
แค่เพียงได้รักเท่านั้นคงไม่ยิ่งใหญ่
แต่โลกของฉันนั้นหมุนไป
ด้วยหัวใจที่ได้รักเธอ เพราะเธอคือ
.
“ คุณหนูทงเฮครับ คุณหนูฮยอกแจฝากรายงานมาให้ครับ ” ชายร่างใหญ่ยื่นซองใส่เอกสารให้เพื่อนของเจ้านาย
“ ขอบใจนะคนขับรถคิม แล้วหมอนั่นไปไหน ทำไมไม่มาโรงเรียนล่ะ ”
“ คุณหนูฮยอกแจ ไปทำธุระครับ คงจะหยุดหลายวัน ... ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ ” คนตัวโตลา
“ อืม ขอบใจมาก ” ทงเฮยิ้มให้ พร้อมหยิบรายงานในซองออกมา ก่อนที่ใบหน้าหวานจะฉายแววสงสัยขึ้นมา
“ คนขับรถคิม ” ร่างหนาวิ่งตามไป
“ ครับ คุณหนูทงเฮ ”
“ แล้วรายงานของหมอนั่นล่ะ ทำไมมีแต่ของฉัน หมอนั่นไม่ฝากมาด้วยหรือ ”
“ ไม่นี่ครับ คุณหนูฝากมาเท่านี้ ”
“ งั้นหรือครับ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ไว้ผมโทรไปถามเอง ”
“ เอ่อ...ช่วงนี้คุณหนูคงยุ่งมาก อาจจะไม่มีเวลารับโทรศัพท์นะครับ ”
“ ยุ่งอะไรนักหนา ไปสำรวจอวกาศอีกรึไง ” ชายหนุ่มยิ้ม หากแต่คนขับรถกลับมีสีหน้าไม่ค่อยจะสดชื่นนัก
“ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ ”
“ ครับ ขอบคุณมาก ”
.
.
.
“ อีฮยอกแจ หายหัวไปไหนมาตั้งหลายวัน ฉันคิดถึงนายแทบแย่ ” ร่างสูงวิ่งไปหาเพื่อนชายตัวเล็กทันที ที่คนตัวเล็กก้าวเข้ามาในห้องเรียน
“ ขอบใจสำหรับการกล่าวต้อนรับอย่างอบอุ่น ซึ้งชิบ ” คนตัวเล็กทำหน้าเซ็ง
“ ทำไมพูดแบบนี้ ฉันคิดถึงนายจริงๆนะ ”
“ คิดถึงฉัน เพราะไม่มีใครช่วยทำการบ้านใช่มั้ยล่ะ ”
“ ฮยอกแจ นายนี่แสนรู้จริงๆ ” ทงเฮตบลงไปเบาๆที่บ่าของอีกคน
“ นายอย่าใช้คำว่าแสนรู้กับคนอื่น นอกจากตัวเองดิ ”
“ เฮ้อ ~ ปากดีเหมือนเดิม ค่อยยังชั่ว ที่นายหายไปฉันคิดว่านายไม่สบายซะอีก กลับมาถึงก็กัดเก่งแบบนี้ แสดงว่าไปทำธุระจริงๆ ” ร่างสูงถอนหายใจ
“ ขอบใจที่เป็นห่วง แต่ฉันยังไม่ตายตอนนี้หรอก ” ร่างบางยิ้มให้
“ ใช่ นายยังตายตอนนี้ไม่ได้ นายต้องอยู่แสดงความดีใจกับฉันก่อน ”
“ หืม ??? ดีใจกับนาย เรื่องอะไร ”
“ ฉันจูบกับซองมินแล้ว ” ร่างหนากระซิบ
“ เรื่องแค่นี้ก็เอามาบอก บ้ารึเปล่า ” ฮยอกแจกระแทกกระเป๋าลงบนโต๊ะ
“ ก็นายคือเพื่อนคนสนิทของฉันนี่ มีอะไรฉันก็อยากบอกนายคนแรก จริงๆฉันโทรไปหานายด้วย แต่นายดันไม่รับสายฉันซะงั้น ”
“ นี่ทงเฮ ถ้าฉันไม่ได้อยู่กับนาย แบบว่า ถ้าฉันต้องไปที่ไกลๆ นายไม่อกแตกตายรึไง ” คนตัวเล็กหันมาถาม
“ โหย ฮยอกแจ โลกเราไปถึงไหนแล้ว โทรศัพท์มีมาเป็นร้อยปี อินเตอร์เน็ตก็ไวกว่าอะไรอีก มีอะไรให้ฉันต้องห่วง ”
“ แล้วถ้าที่ๆฉันจะไป มันไม่มีทั้งสัญญาณโทรศัพท์ แล้วก็ไม่มีอินเตอร์เน็ตด้วยล่ะ ”
“ มันมีด้วยเหรอที่แบบนั้นน่ะ ตอนนี้นะถึงจะกันดารแค่ไหนก็มีสัญญาณโทรศัพท์กันทุกที่แหละ นอกจากนายจะอยู่ในยมโลก เพราะมันคงจะอับสัญญาณ ฮะฮะ ”
“ โห ปากเรอะปาก อย่างฉันต้องอยู่บนสวรรค์โว๊ย ”
“ ไม่จริงหรอก บนสวรรค์ คลื่นโทรศัพท์เยอะจะตาย เพราะฉะนั้นสัญญาณชัดแน่ๆ ฮะฮะ ”
“ โอเค ฉันจะพยายามทำตัวดีๆ จะได้ขึ้นสวรรค์ นายจะได้โทรหาฉันได้...แต่ว่า.... ”
“ แต่ว่า แต่ว่าอะไร ” ร่างหนาถาม
“ คนขี้เกียจอย่างนาย ต้องตกนรกแน่ แล้วตอนนั้น นายจะโทรหาฉันได้ไงทงเฮ เพราะฉันอยู่บนสวรรค์ ฮะ ฮ่ะ ฮ่า ”
“ หุบปากไปเลย ยังไงฉันก็ไม่สนหรอก เพราะตอนนี้สวรรค์ของฉันคือ ซองมินคนเดียว ” พูดจบก็ทำหน้าชวนฝัน สองมือกอดอกขึ้นมาทันที
“ เฮ้อ ~ เห็นหน้านายแบบนี้แล้ว ฉันปวดหัวจริงๆ ” พูดก่อนจะซบหน้าลงบนโต๊ะ
“ อย่ามาปวดหัวตายตรงนี้นะเฟ่ย ”
“ ดูท่านายอยากให้ฉันตายจริงๆนะทงเฮ ” เสียงอู้อี้ดังขึ้น
“ ฮยอกแจอ่า~ ฉันจะคิดแบบนั้นได้ไง นายเป็นเพื่อนคนสำคัญของฉันนะ ถ้านายตาย ฉันจะตายตามนายไปด้วย ”
“ จริงเหรอ ” ร่างบางเงยหน้าขึ้นมาทันที
“ ไม่จริง ” ตอบกลับทันควัน
“ ไปตายซะ อีทงเฮ ” ฮยอกแจชักสีหน้าก่อนจะก้มหน้าลงไปกับโต๊ะอีกครั้ง
“ หน้าไก่ อย่าเพิ่งพูดเรื่องตายดิ เราต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนานเท่านานนะ เข้าใจมั้ย ” มือเรียวผลักหัวคนที่นอนอยู่ ก่อนจะยิ้มบางๆให้เพื่อนรักของตน
“ รู้แล้วล่ะน่า ฉันจะอยู่กับนายไปนานๆนะทงเฮ ” คนตัวเล็กยิ้มตอบกลับไป
สิ่งที่เล็กเล็กที่ฉันเรียก เธอว่าความรัก
เก็บคำว่ารักไม่กล้าพอจะพูดไป
อยากให้เธอรู้ฉันรักเธอสุดหัวใจ
วันพรุ่งนี้เป็นไง หัวใจเป็นของเธอ
“ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ” เสียงทุ้มดังขึ้นมาหลังจากประกาศรายชื่อผู้ที่จะต้องแต่งหญิงในงานวันโรงเรียน
“ หัวเราะหามารดาคุณหรือครับ คุณทงเฮ ” ฮยอกแจหน้าถอดสี เมื่อได้เห็นรายชื่อที่เพื่อนๆเสนอ
“ ฮะ ฮะ ก็มันอดขำไม่ได้นี่หว่า ซองมินของฉันทั้งแบ๊ว ทั้งน่ารัก แต่งยังไงก็ต้องน่ารักแน่ๆ แต่นาย นายนี่สิ ฮะ ฮะ มันจะออกมาอีท่าไหนนะ ” พูดไปก็ขำไป
“ จะบ้าตาย แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วย ” มือเรียวกุมขมับ
“ ไม่ต้องเครียดๆ ดูสิ เครียดมากหน้าซีดเป็นไก่ต้มเลย ฮะฮะ ”
“ หน้าของคนป่วยใกล้ตายก็ซีดอย่างนี้แหละ ใครจะมาหน้าใสไร้สิวแบบซองมินของแกล่ะ ” พูดจบก็เดินเตะพื้น ก่อนจะเดินออกไป
“ อย่าเพิ่งตายนะฮยอกแจ ขนาดยังไม่ตายนายยังน่ากลัวขนาดนี้แล้วถ้าตายไป จะน่ากลัวขนาดไหนวะ ฮะฮะ ฮะ ”
“ ถ้าฉันตาย ฉันจะมาหลอกนายเป็นคนแรกเลยคอยดูไอ้ปลาเน่า ” ร่างบางตะโกนกลับมา
“ นายก็พูดไป ฉันว่าฮยอกแจน่ารักดีออก ” เสียงเข้มของคยูฮยอนเอ่ยขึ้น (เพิ่งจะมีบท 55+)
“ อืม ~ ดูท่านายเป็นอีกคนที่ต้องไปหาแว่นมาใส่นะ ” ทงเฮหันไปยังต้นเสียง ก่อนจะพยักหน้าพูดกับตัวเอง แล้วเดินตามเพื่อนรักของตนออกไป
“ ในเวลานี้ นายต้องเดินไปหาซองมินไม่ใช่รึไง อีทงเฮ ” ร่างสูงส่ายศีรษะเอ่ยพึมพำกับตัวเองพร้อมริมฝีปากที่ยกยิ้มเล็กน้อย
วันงานโรงเรียน
“ ไหวมั้ยฮยอกแจ สีหน้านายแย่มากเลยนะ ” คยูฮยอนถาม
“ ไม่เป็นไร ฉันยังไหว ขอบใจนะ ” ร่างบางยิ้มให้ก่อนจะส่ายสายตามองหาใครบางคน
“ หาทงเฮอยู่เหรอ หมอนั่นอยู่กับซองมิน ”
“ อื้อ เปล่า ทำไมฉันต้องมองหาหมอนั่นด้วยล่ะ ”
“ ฉันนึกว่านายต้องการกำลังใจซะอีก ” ชายหนุ่มยิ้ม
“ คยูฮยอน นายนี่พูดอะไรแปลกๆนะ ”
“ ฉันก็พูดอย่างที่เห็นก็เท่านั้นเอง ... อยากให้หมอนั่นเห็นว่านายเปลี่ยนไปใช่มั้ยล่ะ ”
“ ฉันไม่ได้เปลี่ยนนะ ยังคิดกับหมอนั่นเป็นเพื่อนเหมือนเดิม ” คนตัวเล็กรีบแย้ง แต่ใบหน้าที่ขึ้นสีก็ไม่อาจตบตาร่างสูงตรงหน้าได้
“ คิดไปถึงไหนน่ะ ฉันหมายถึง วันนี้นายไม่ได้ใส่แว่น แล้วก็ดูน่ารักมากเลยต่างหาก อยากให้หมอนั่นชมใช่มั้ยล่ะ ”
“ เปล่านะ ไม่ได้คิดเลย เลิกพูดได้แล้วน่า ”
“ ไม่คิดแล้วทำไมหน้าแดงแบบนี้ล่ะ ... อ๊ะนั่นไง หมอนั่นเดินมาแล้ว ให้ฉันช่วยพูดมั้ย ”
“ ไม่ต้องเลยนะ หุบปากไปเลย... ฉันไปห้องน้ำก่อนดีกว่า คุยกับนายแล้วปวดฉี่ ” ร่างบางเดินหนีไปเข้าห้องน้ำก่อนจะกลับมาประจำที่ของตน ที่ตอนนี้ทงเฮกำลังยืนคุยอยู่กับคยูฮยอนจอมปากมาก ทั้งๆที่อยากเดินเข้าไปห้ามไม่ให้ร่างสูงพูดอะไรออกไป แต่ขาเรียวก็ก้าวไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทของตนจะพูดอะไรกับการแต่งกายของตนในวันนี้ แต่ก็ค่อยๆเดินเข้าไปหา สองคนที่กำลังสนทนานกันอยู่
“ ไปห้องน้ำมาแล้วเหรอ นึกว่าหาทางฉี่ไม่เจอซะอีก ไปซะนานเลย ” คยูฮยอนแซว
“ ฉันบอกให้หุบปากไงล่ะ ”
“ ฮะ ฮะ ฮยอกแจนายตลกเป็นบ้าเลยว่ะ ใครหาชุดกี่เพ้าสั้นให้นายใส่วะ ” ทงเฮหลุดขำเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูซีดๆของเพื่อนรักของตน
“ นายก็ด้วย หุบปากไปด้วย ” ฮยอกแจหน้างอ
“ อะไรวะทงเฮ ฉันว่าฮยอกแจสวยจนฉันจำแทบไม่ได้เลยนะ ใครๆเห็นก็ตะลึงกันทั้งนั้น ฉันว่าเผลอๆสวยกว่าซองมินของแกอีก ”
“ ไม่จริงหรอก ฉันนะพอเห็นซองมินครั้งแรกเล่นเอาตะลึงเลย แต่กับฮยอกแจเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ดูยังไงก็ขำว่ะ ”
“ โห นี่ฉันดูไม่เปลี่ยนอะไรเลยรึไง ดูนี่ ฉันแต่งหน้าด้วยนะ ”
“ แต่งยังไง นายก็เป็นไอ้หน้าไก่อยู่ดีแหละ ฉันว่าแบบปกติยังจะเข้าท่ากว่าอีก ฮะฮะ ”
“ ใช่สิ คนอย่างฉันทำอะไรก็ดูไม่ดีไปหมดทุกอย่างแหละ ” ฮยอกแจ หน้าบึ้งก่อนจะหันหลังเดินหนีไป
“ งานเข้าแล้วทงเฮ แกนี่ปากหมาจริง ”
“ หุบปากไปเลยคยูฮยอน ” ชายหนุ่มว่าก่อนจะเดินตามหลังร่างบางไป
“ ทงเฮ แกนี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ” ร่างสูงหัวเราะอยู่คนเดียว พร้อมกับมองดูเพื่อนสมัยเด็กของตนทั้งสองเดินง้องอนกันอยู่
“ ฮยอกแจ รอด้วยดิวะ ” ร่างหนาฉุดข้อมือเล็กเอาไว้
“ ปล่อยเลย ไปหาซองมินของแกเลย ไม่ต้องมาพูดกับฉัน ” ร่างเล็กสะบัดมือ แต่ถึงยังไงก็ยังไม่หลุดจากมือหนา
“ อย่าโกรธสิ ”
“ ไม่ได้โกรธ ปล่อยได้แล้ว ”
“ ไม่โกรธก็คุยกันดีๆสิ ”
“ ใครกันแน่ที่คุยไม่ดี นั่นมันนายไม่ใช่รึไง เอะอะก็ว่าฉันตลอด ”
“ ฉันก็พูดปกตินี่ หรือว่า นายอยากให้ฉันชมว่านายสวย ”
“ ไม่ต้อง ... ถ้ามันไม่ได้มาจากใจ ชมไปก็เท่านั้น ”
“ ฮยอกแจ จริงๆแล้ววันนี้นายก็เปลี่ยนไปเหมือนกันนะ ”
“
” ร่างบางไม่พูดอะไร เพียงแค่มองหน้าทงเฮนิ่ง
“ นั่นแน่ อยากรู้ล่ะสิ ว่าฉันคิดว่า นายเปลี่ยนไปตรงไหน ” ร่างหนายิ้ม
“ รอฟังอยู่ ให้ไวเลยนะอีทงเฮ ”
“ ฮยอกแจ... ” ทงเฮเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกุมมือของคนตัวเล็กไว้ในมือ ก่อนจะยกขึ้นมาในระดับอกของตน ใบหน้าใส ขยับเข้ามาใกล้ใบหน้าหวานทีละนิดๆ
“ จะ จะ ทำอะไร น่ะ ” ฮยอกแจเอ่ยเสียงเบา
“ ฮยอกแจ วันนี้นาย... นายไม่ได้ใส่แว่น ฮะฮะ ”
“ ไปตายซะ... ” ร่างบางผลักอีกคนออกไปและหันหลังหนี
“ .... ”
“ ... ” ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา จนทำให้บรรยากาศบริเวณนั้นเงียบสนิทไปทันที ก่อนที่ร่างหนาของทงเฮจะค่อยๆเดินเข้าไป แตะที่ไหล่เล็กของเพื่อนรักเบาๆ
“ อย่าโกรธเลยน่าฮยอกแจ สำหรับฉันน่ะ แค่เสียงฝีเท้านายก็จำได้แม่นแล้ว ต่อให้นายแต่งให้เริ่ดกว่านี้ หรือต่อให้นายปลอมเป็นตัวอะไรก็ตาม นายก็ยังเป็นฮยอกของฉันเสมอ นายยังเป็นไอ้แว่นหน้าไก่ของฉันนะ... ”
“ ทงเฮ ” คนตัวเล็กหันไปยิ้มให้
“ สู้ๆนะฮยอกแจ ”
“ อื้อ...ขอบใจนะ ”
สิ่งที่เธอเห็นคงจะดูไม่ยิ่งใหญ่
ไม่ได้มีแรงบันดาลใจมากเพียงพอ
แต่ข้างในนั้นยังมีหัวใจที่เฝ้ารอ
อยากให้เธอมองให้เห็นที่ตรงนี้
สิ่งที่เล็กเล็กที่ฉันเรียก มันว่าความรัก
แค่เพียงได้รักเท่านั้นคงไม่ยิ่งใหญ่
แต่โลกของฉันนั้นหมุนไป
ด้วยหัวใจที่ได้รักเธอ เพราะเธอคือ
สิ่งที่เล็กเล็กที่ฉันเรียก เธอว่าความรัก
เก็บคำว่ารักไม่กล้าพอจะพูดไป
อยากให้เธอรู้รักใช้เหตุและผลเป็นไง
หัวใจเป็นของเธอ
วันพรุ่งนี้ ขอเรียกเธอว่าความรัก
ฟังเพลงนี้แล้วรูดปรื๊ดขึ้นมาทันที
แต่งมั่วๆกันไป ถึงยังไงก็ไม่มีคนอ่าน
(มีแต่นางฟ้าของเหล่าลูกลิงที่อ่านแล้วเม้นให้ ^^)
สะอึก สะอื้น มีแต่คนอ่าน หาคนเม้นไม่เจอ 55+
ความคิดเห็น