คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 12: Death Eve
Chapter 12: Death Eve
“ไม่เอาน่ารอน นายไม่ได้พูดจริงๆใช่ไหม” แฮร์รี่ถามอย่างลังเล รอนกะพริบตา
“แน่นอน ฉันพูดจริง เห็นๆอยู่ว่า มัลฟอยใช้คาถาบางอย่างกับไมโอนี่ ไม่ใช่แค่เพียงเขาจะต้องชดใช้หรอกนะ แต่ถ้าเขาตาย คาถาก็จะถูกทำลาย” เขาหันกลับและเดินต่อไป
“รอน!” จินนี่ร้องเสียงแหลม ในขณะที่เธอวิ่งไปข้างหน้า เธอคว้าแขนเขาไว้อีกครั้ง
“รอน พี่ทำไม่ได้หรอก! พี่ไม่เข้าใจ มันไม่ใช่คาถา! เชื่อฉันสิ!” รอนหยุดแต่ไม่พูดอะไร จินนี่ได้โอกาส
“รอน ฉันเป็นผู้หญิง ฉันรู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันเป็นอย่างไร ฉันจับตามองสองคนนี้มาสักพักแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันเป็นไปตามธรรมชาติอย่างแท้จริง เชื่อหรือเปล่าล่ะ และ...” เธอสูดหายใจลึก
“ฉันค่อนข้างแน่ใจว่ามันเกิดขึ้นกับคนทั้งคู่ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ตัว” จินนี่พูด รอนแผดเสียงค้าน
“ถ้างั้น เราก็แค่ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้นเหรอ” เขาถามอย่างเกรี้ยวกราด หันกลับไปหาเพื่อน และน้องสาวของเขา จินนี่ถอนหายใจ เธอจับมือแฮร์รี่กับรอนไว้กับมือของเธอ
“ฟังนะ หนุ่มๆเฮอร์ไมโอนี่ไม่คุ้นเคยกับมันเลยจริงๆ รู้ไหม ทุกสิ่งดำเนินไปเหมือนหนังสือ ทุกสิ่งมีเหตุผลสำหรับเธอเสมอ ลองนึกภาพดูสิว่าเธอจะรู้สึกยังไง กับการตกหลุมรักเจ้าชาย
***เดรโกสูดลมหายใจและควักน้ำเย็นเต็มกำมือขึ้นมาล้างหน้า จ้องมองไปที่กระจกในขณะที่เขาใช้มือลูบผม เขาคิ้วขมวด เขารู้สึกคล้ายเป็นคนโง่ และยังเป็นเหมือนคนเย็นชา เขานึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับศาสตราจารย์ ทรีลอนีย์เมื่อปีที่ห้า ที่เธอขู่ให้เขาสอบตก ถ้าเขาไม่หยุดสร้างความวุ่นวายให้นักเรียนคนอื่นๆ และก่อกวนในห้องเรียน เดรโกพยักหน้าเงียบๆ เธอเพ่งพิจารณาหน้าของเขาผ่านแว่นตาขนาดใหญ่เกินจริงของเธอ และเตือนเขาด้วยคำพูดเดิมๆว่า
“โอกาสที่อาจจะสอบตกทำให้เธอไม่มีความสุขใช่ไหม” ศาสตราจารย์ ทรีลอนีย์ถามเขาด้วยความสงสัยกึ่งขู่ เขาสะดุ้งและตอบกลับไปว่า
“ใช่ มันทำให้ผมไม่มีความสุข” เธอส่ายหัว
“ใบหน้าของเธอไม่มีอารมณ์แบบมนุษย์เลย เดรโก มัลฟอย ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าเธอรู้สึกอะไรบ้างหรือเปล่า”
เดรโกสะบัดหัวและหันออกมาจากกระจก หยุดความคิดเหล่านั้น หมู่นี้ดูเหมือนว่าอารมณ์ต่างๆจะคอยกวนใจเขาค่อนข้างมาก เขาครุ่นคิดอย่างขมขื่น เดรโกเดินอย่างเมื่อยล้าไปยังห้องนั่งเล่นรวมและตรงไปยังที่หน้าต่าง มองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีฝนโปรยปรายอย่างว้าวุ่นใจ
“เมี้ยว!” ครุกแชงก์ปรากฏตัวและเริ่มเอาตัวมาถูขาของเดรโกอย่างสบายใจ เดรโกไม่อาจทำให้ตัวเองยิ้มได้และยังคงจ้องมองความว่างเปล่าต่อไป เขาครุ่นคิดถึงเธอ...
‘เกรนเจอร์!
เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์!
เฮอร์ไมโอนี่!’
เลือดสีโคลนที่เขาสมควรจะเกลียด คนที่อวดรู้ไปซะทุกเรื่อง คนที่เขาแกล้งเธออย่างไร้ความเมตตานับตั้งแต่ที่เขารู้จักเธอ ถ้ามันเป็นความต้องการที่เธออยากจะแก้แค้นเขา เธอก็ทำสำเร็จแล้ว เดรโกคิ้วขมวดโดยไม่ได้ตั้งใจ มันง่ายสำหรับเธอใช่ไหมที่จะล่อลวงเขา เธอกำลังหัวเราะอยู่กับเพื่อนๆถึงเรื่องที่เขาหลบออกมาเพราะเธออยู่ใช่ไหม พอตเตอร์ และพวกวีสลีย์คงจะกำลังสนุกสนานกับสถานการณ์ทั้งหมดอย่างแน่นอน เดรโกหยุดคิดชั่วขณะ สถานการณ์นั้นคืออะไร เขาไม่มีเงื่อนงำหรือความคิดใดๆเลย และนั่นคือปัญหา
“เดรโก นายเป็นอะไรหรือเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่ ให้ตายเหอะ เดรโกรู้สึกถึงมือของเธอที่วางอยู่บนไหล่ของเขา ภาพสะท้อนใบหน้าวิตกกังวลของเธอเป็นระลอกเพราะหยดน้ำบนหน้าต่าง เขาใช้เวลาชั่วครู่สำรวจใบหน้าอันงดงามของเธอ และได้บทสรุปที่ว่าภาพสะท้อนใบหน้านั้นแสดงให้เห็นถึงความกังวลที่มีต่อเขาอย่างแท้จริง เดรโกถอนหายใจ เขาหันไปเผชิญหน้ากับเธอและพยายามทำให้ท่าทางของเขาดูเข้มแข็งขึ้น
“ฉันจะเป็นอะไรหรือไม่ มันไม่ใช่เรื่องของเธอ” เขาพูดอย่างเกรี้ยวกราด เฮอร์ไมโอนี่ผงะราวกับถูกตบหน้า
“ดีล่ะ ไม่มีความจำเป็นต้องปกปิดอีกต่อไปแล้ว” เธอพูดด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
“ฉันแค่สงสัยว่า...ทำไมหลังจากเต้นรำ นายรีบเดินจากไป...และตอนนี้นายดูเศร้า...” ดวงตาของเดรโกเบิกกว้างเล็กน้อย
“เธอบอกว่าอะไรนะ” เดรโกพูดแทรกขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว
“ฉันบอกว่านายดูเศร้า” เธอตอบอย่างระวัง เดรโกรู้สึกว่าท้องของเขาติดกันแน่น
“เธอรู้ได้ยังไง ว่าฉันเศร้า” เขาถามเงียบๆ เฮอร์ไมโอนี่เอียงหัวเล็กน้อย และเอื้อมมือขึ้นไปสัมผัสใบหน้าด้านข้างของเขาด้วยนิ้วมือ
“ไม่ง่ายนักหรอก ถ้าเป็นสิ่งที่นายหมายถึง” เธอตอบอย่างอ่อนโยน เดรโกกุมมือเธอไว้ เฮอร์ไมโอนี่หยุดการสำรวจโครงหน้าของเขา
“เธอรู้ได้ยังไง ว่าฉันรู้สึกแบบนั้น” เขาถาม เสียงฟังดูสิ้นหวัง แม้แต่กับหูของเขาเองก็รับรู้ถึงมันได้ เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองไปที่ดวงตาของเขา ซึ่งมันเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ทั้งหมดที่เขามี
“ฉันก็แค่... รู้สึกถึงมันได้ก็เท่านั้น” เธอพูดตามจริง เธอไม่เข้าใจว่าทำไม แต่รู้สึกว่ามันสำคัญต่อเขา เดรโกถอนหายใจ และเริ่มกวาดสายตาไปทั่วร่างกายของเธอ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าตัวเองหน้าแดงในขณะที่เขาวางมือลงบนเอวของเธอ ดึงเธอแนบชิดติดกับร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา เขาแนบแก้มประทับลงบนแก้มเธออย่างอ่อนโยน เธอปิดตาลงในขณะที่ลมหายใจร้อนๆของเขาสัมผัสไปทั่วทั้งหูของเธอ
“อะไร ที่เธอจะบอกฉันได้อีก เฮอร์ไมโอนี่” เขาถามด้วยเสียงแหบแห้ง เฮอร์ไมโอนี่ซบไหล่เขาเพื่อช่วยพยุงตัวเธอเอง ซึ่งดูเหมือนเข่าทั้งสองข้างของเธอจะอ่อนแรงลง เธอจะบอกอะไรเขาได้อีกล่ะ เธอเองก็อยากรู้ เฮอร์ไมโอนี่บอกได้ว่า ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหน เธอก็ไม่อาจขจัดชายน่าทึ่งคนนี้ออกไปจากสมองได้เลย เธอบอกได้แม้กระทั่งสิ่งที่เธอบอกกับตัวเองว่า เธอรักเวลาที่เขาสัมผัสเธอ เธอบอกได้แค่ว่า...
“ว่าฉันกำลังตกหลุมรัก...” เธอหยุดพูด ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ถึงร่างกายที่เกร็งกระตุกของเดรโก ในขณะเดียวกันเขาก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่เธอกำลังจะพูดต่อไป เธอคงจะพูดว่า...ฉันกำลังตกหลุมรักนาย... เดรโกกระชากตัวกลับไปโดยเร็ว และเพ่งมองเธออย่างเป็นอันตราย
“อย่าพูดแบบนั้นกับฉัน” เขาพูดผ่านฟันที่ขบกัดไว้แน่น
“อย่าได้พูดแบบนั้นกับฉันอีก นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการให้ฉันคิดใช่ไหม เกรนเจอร์ หรือนั่นคือสิ่งที่เธอเชื่อจริงๆ” เขาร้องถาม กลับไปเรียกนามสกุลเธอโดยไม่รู้ตัว เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้ามองเขาด้วยความสับสน
“นายหมายถึงอะไร” เธอถามอย่างอ่อนแรง น้ำเสียงของเธอแตกพร่าเล็กน้อย เดรโกตรวจตราดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อคลอ น้ำเสียงนั้นสั่นเครือ ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน ด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้ที่ว่า เธอคิด...ว่าเธอตกหลุมรักเขาเข้าแล้วจริงๆ
“ฟังฉันนะ เกรนเจอร์ เธอไม่ได้ตกหลุมรักฉัน” เดรโกพูเสียงแข็ง จับไหล่ทั้งสองข้างของเธอเพื่อดึงความสนใจของเธอทั้งหมด (ยังกับว่าเธอจะสนใจอย่างอื่นได้!) ปากของเฮอร์ไมโอนี่อ้าค้าง
“นายว่าอะไรนะ” เธอพูดไป หอบไป ด้วยความโกรธ เดรโกเลิกคิ้วใส่เธอ
“ฉันบอกว่า...เธอไม่ได้ตกหลุมรักฉัน” เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตาลงไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด
“ฟังนะ เดรโก มัลฟอย เพราะนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะพูด อย่าได้ทึกทักว่าฉันจะรู้สึกหรือไม่รู้สึกอะไรกับนาย และถ้านายไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉัน นายก็แค่พูดมันออกมา!” เธอร้องตะโกน น้ำตาพรั่งพรูลงสู่ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ เดรโกรู้สึกว่าท้องไส้ของเขาปั่นป่วนเมื่อเห็นว่าเธอร้องไห้ แต่เขารู้ดีว่าไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้เลย เขาไม่สามารถที่จะรักเธอตอบได้เพราะถึงอย่างไรอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เขาคงจะต้องตาย เธอจะต้องเจ็บปวด... แน่นอน! ใช่ว่าเขาจะสน ทำไมมัลฟอย ต้องสนใจเธอด้วยล่ะ พวกมัลฟอยจะต้องไม่สนใจหรือแยแสสิ่งใด เดรโกปั้นหน้าด้วยรอยยิ้มแบบเหยียดหยามที่พยายามทำอย่างดีที่สุด
“แค่นั้นใช่ไหม เกรนเจอร์” เขาพูดลากเสียงแสดงความขบขัน
“เธอคิดว่าฉันจะมีความรู้สึกกับเธอจริงๆเหรอไง” เฮอร์ไมโอนี่ผงะถอยหลังอย่างไม่มั่นคง เพราะน้ำเสียงของเขา เขาไม่ได้พูดแบบนั้นมาหลายสัปดาห์แล้ว เธอต้องทำสิ่งที่กริฟฟินดอร์ควรจะทำ และเธอเชิดหน้าขึ้นอย่างมีศักดิ์ศรี
“อันที่จริง รู้ไหม มัลฟอย ฉันไม่ได้คิดหวังอะไรมากนักหรอก แต่ก็ขอบคุณสำหรับการยืนยัน ถ้านายไม่ถือที่ฉันพูด ฉันก็จะไป” เธอพูดด้วยความหยิ่งยโส แต่น้ำตายังคงไหลรินต่อไปไม่หยุด
“ฉันไม่เหมือนกับใครบางคน...นายรู้ไหม ฉันไม่อยากอยู่เพียงเพื่อแค่เล่นเกมส์บ้าๆพวกนี้” และเธอหุนหันกลับไปยังห้องทันที
***
หนึ่งเดือนครึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีเหตุการณ์อะไรสำคัญ ไม่มีงานเต้นรำที่ต้องวางแผน จนถึงวันวาเลนไทน์ และสุดสัปดาห์ที่ฮอกมี้ดส์ ค่อนข้างจะไปได้ดี โดยไม่ต้องทำอะไรมากมายนัก นอกจากการประชุมที่พวกเขาต้องทำตามปกติ เดรโกและเฮอร์ไมโอนี่หลีกเลี่ยงกันและกันในทุกโอกาส ความตึงเครียดระหว่างทั้งคู่เกือบจะโจ่งแจ้ง สำแดงให้ทุกคนเห็น พวกนักเรียนและคนที่ร่วมทำงานกับพวกเขามองดูด้วยความสงสัยอย่างเงียบๆ ทั้งสองพูดคุยกันด้วยท่าทางอย่างเป็นทางการ และเมินเฉย และไม่มีใครได้เห็นทั้งคู่ถกเถียงกันอีกเลย
และด้วยเหตุผลนี้ที่ทำให้เด็กกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันขึ้นที่หน้าร้านไม้กวาดสามอันในวันไป ฮอกมี้ดส์ที่แสนหนาวเหน็บ...
“ออกไปให้พ้นทางฉันเลย มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่จ้องตาเขม็งไปที่หัวหน้านักเรียนชายผู้หล่อเหลา ในขณะที่เขายืนพิงประตูทางเข้าหน้าร้านไม้กวาด 3 อันอย่างเฉื่อยชา เขายักคิ้วให้เธอ
“ฉันไม่คิดว่า...ฉันควรจะไป” เขาพูดสียงยานคาง ความสนุกสนานชั่วขณะหนึ่งเห็นได้จากดวงตาของเขา เมื่อเฮอร์ไมโอนี่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอกัดฟันแน่นด้วยความโมโห เฮอร์ไมโอนี่คิด ‘เขาจะทำอะไรอีกล่ะ ทำไมครั้งนี้เขาเลือกที่จะทำตัวงี่เง่าใส่ฉัน ในเมื่อสิ่งต่างๆระหว่างพวกเราก็เป็นปกติดีที่สุดแล้ว ตลอดเดือนที่ผ่านมา และถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ปกติสักเท่าไหร่ก็เถอะ แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการก่อกวน...’
“เราจะเข้าไป มัลฟอย ฉันขอบอกให้นายถอยไป ถ้านายไม่อยากถูกสาป” เธอพูดอย่างเย็นชา เดรโกเห็นพอตเตอร์ วีเซิลและวีสเล็ทยืนอยู่ข้างหลังเธออย่างระวังตัว พวกเขามีสีหน้าที่แปลกไป สีหน้าของพอตเตอร์กับวีสเล็ท ดูไม่ปกติ ส่วนวีเซิ่ลแค่ดูคลุ้มคลั่ง เดรโกเหลือบมองไปยังเฮอร์ไมโอนี่ เขาพยายามจดจำใบหน้าของเธอภายใต้การจ้องมองหยามเหยียดที่เขาใช้บังหน้า
มันเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้วที่เขาไม่ได้เห็นเธอเต็มตา และเวลานี้ตั้งแต่ที่เธอมาอยู่ตรงหน้าเขา มันก็นานพอสำหรับการที่จะจ้องมองเธอ เพื่อเก็บทุกอณูที่เป็นเธอไว้กับเขา เธอช่างงดงาม สายลมเย็นๆแต่งแต้มให้แก้มของเธอมีสีสันของดอกกุหลาบอย่างเป็นธรรมชาติ และประกายแสงแห่งความโกรธที่อยู่ภายในดวงตาเธอ ทำให้เธอดูสวยดุอย่างไม่น่าเชื่อ เดรโกรู้สึกว่าภายในอกของเขาเจ็บปวดอีกครั้ง เวลานี้เขาปล่อยความคิดออกไปเสี้ยววินาทีหนึ่ง เธอทำให้เขารู้สึกแบบนั้นเสมอ
“เอ่อ มัลฟอย” พอตเตอร์เรียกอย่างระมัดระวัง เดรโกที่กำลังครุ่นคิดอยู่สะดุ้ง ไม่ทันสังเกตเห็นว่าสิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับเฮอร์ไมโอนี่ด้วย
“ก็ได้ พอตเตอร์” เขาพูดเสียงติดอยู่ในลำคอ เดินจากไปด้วยท่าทางเฉพาะตัวแบบมัลฟอย แฮร์รี่จ้องมองเขาจากไปด้วยความงุนงง ‘นั่นมันอะไร ที่ทำให้มัลฟอยยอมแพ้ง่ายๆ อย่างนี้ล่ะ’ แฮร์รี่คิด เห็นได้ชัดว่าฝูงชนกำลังคิดเช่นเดียวกัน พวกเขาแยกย้ายสลายกลุ่มออกไปด้วยเสียงพูดงึมงำอย่างผิดหวัง
“เอาล่ะ เข้าไปข้างในกันเถอะ ข้างนอกหนาวจนจะทำให้ฉันแข็งอยู่แล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยความฉุนเฉียว ในขณะที่เธอวิ่งเข้าไปข้างใน รอนตามหลังเธอเข้าไปติดๆ แฮร์รี่กับจินนี่แลกเปลี่ยนสายตาวิตกกังวลให้กันและกัน ในขณะที่พวกเขาเข้าไปข้างในเพื่อสมทบกับรอนและเฮอร์ไมโอนี่ ที่โต๊ะประจำของพวกเขา
“ทั้งหมดนั่น มันเรื่องอะไรกัน เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ถาม เฮอร์ไมโอนี่แกล้งทำเป็นสนใจรายการอาหารที่เธอจะสั่ง รอนขมวดคิ้ว
“เฮอร์ไมโอนี่ พวกเรารู้ว่าเธอไม่ได้หูหนวก! ทำไมไอ้งี่เง่ามัลฟอยนั่น กั้นทางเดินเราและอยู่ดีๆเขาก็ยอมปล่อยเราไปง่ายๆอย่างนั้นล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นในทันใด
“นายยังไม่พอใจเหรอไง รอน ใช่ บางอย่างผิดปกติที่เขาขวางทาง แต่พอเขาหลีกทางให้ก็ผิดปกติอีกใช่ไหม แล้วฉันล่ะรอน ทำไมนายไม่ถามฉันบ้างว่า ฉันขู่ที่จะสาปเขาและทำไมฉันไม่ทำมันให้เร็วกว่านี้” เธอต่อว่าด้วยความฉุนเฉียวก่อนที่จะรีบลุกออกไปจากโต๊ะ ปล่อยให้เพื่อนๆตกอยู่ในความเงียบงัน รอนกะพริบตาให้เพื่อนกับน้องสาวของเขาด้วยความงุนงง
“พวกนายสองคนเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นใช่ไหม” รอนพูด
“ไม่! ฉันไม่เข้าใจ” แฮร์รี่กับจินนี่ตอบขึ้นพร้อมกัน พวกเขาทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบ เพื่อใช้ความคิดชั่วขณะ
“นี่ มันไร้สาระ” แฮร์รี่ถอนหายใจ รอนจ้องเขาด้วยความสงสัย
“อะไรกันที่ไร้สาระ”
“ทั้งหมดนี่ เป็นเรื่องที่เฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยแกล้งทำเป็นเกลียดกัน และมันกำลังทำให้ฉันบ้า”แฮร์รี่กล่าวหน้าตาดูเซ็งๆ
“อะไรนะ! นายต้องการทำให้เธอลงเอยกับเจ้าโง่นั่นเหรอ ฉันคนหนึ่งล่ะ ที่จะมีความสุขเมื่อรู้ว่าเธอจะลืมเขาได้!” รอนแย้ง
“โอ่! ไม่เอาน่า รอน!” จินนี่พูดด้วยความโมโห
“พี่คิดจริงๆเหรอว่า เธอจะลืมเขาได้ เธอเหมือนกับซอมบี้ไม่มีผิด! จำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ไหมที่เธอลืมใช้คาถาเตือนภัยกับกระเป๋าของเธอเอง เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยเป็นแบบนั้น ไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นว่าพี่ลอกเรียงความของเธอ!” หูของรอนเป็นสีชมพู
“โอ้! ฉันคิดว่าบางที มันอาจจะเป็นวิธีที่เธออนุญาตฉันก็ได้นี่” เขาแก้ตัว จินนี่กลอกตา
“ไม่ว่าจะยังไงนะ รอน ประเด็นคือ เธอไม่มีความสุขเอามากๆ พี่เข้าใจไหม”
“มันจะพอช่วยได้หรือเปล่าล่ะ ถ้าฉันจะสาปมัลฟอยเพื่อเธอ” รอนถามอย่างมีความหวัง
“ยาก! และพี่บ้าหรือไง” จินนี่พูดอย่างระวัง
“มัลฟอยเป็นเพียงสิ่งเดียวที่อาจจะช่วยเธอได้ แต่อย่างที่เห็น เมื่อถึงเวลาของความรัก เขาทึ่มพอๆกับพี่เลย” คำพูดนี้ทำให้เธอถูกท้วงในทันที
‘เฮ้!’ รอนท้วงอย่างขุ่นเคือง ทันใดนั้นเองดูเหมือนว่าแฮร์รี่ จะตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
“ใช่แล้ว เอาล่ะ” เขาพูดในขณะที่ลุกขึ้นยืน และสวมเสื้อคลุม จินนี่มองด้วยความสงสัย
“จะไปไหน แฮร์รี่” จินนี่ร้องถามเขา แฮร์รี่ส่งรอยยิ้มมีเสน่ห์ให้เธอและพยุงเธอออกจากเก้าอี้ เธอหน้าแดงเล็กน้อย
“ฉันจะไปหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความรักสักหน่อย” เขาตอบอย่างอารมณ์ดี เขาเหลือบไปมองที่เธอ
“นายไปกับจินนี่นะ” แฮร์รี่ร้องบอกรอน รอนลุกขึ้นยืนอย่างกระสับกระส่าย สีหน้าของเขาดูสับสน
“นายจะให้พวกเราไปไหนกันล่ะ” รอนถามเขา
“แค่ไปเตือนสติเฮอร์ไมโอนีบ้างก็เท่านั้นเอง พวกนายสองคนเก่งเรื่องแบบนี้” ดวงตาสีเขียวมรกตสดใสของแฮร์รี่ระยิบระยับอย่างซุกซน
“แล้วฉันจะไปจัดการมัลฟอยเอง” แฮร์รี่ตอบ
เดรโกสูดลมหายใจลึก และยังคงเดินไปตามถนน ชำเลืองมองทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเขา แต่สายตาคู่นั้นเห็นได้แค่เพียงสีสันของร้านค้าที่หลากหลายในขณะที่เขาเดินผ่าน เขาละทิ้งเพื่อนสลิธีริน คนสนิทไว้ที่ร้านเดอร์วิชแอนด์แบนเจส เมื่อการพูดคุยกับแครบและกอยล์ทำให้เขารู้สึกสนุกสนานมากพอแล้ว เขาจำเป็นต้องมีเวลาที่จะคิดบางอย่าง วันมะรืนเป็นวันแรกของการหยุด วันที่ 20 ธันวาคม เดรโกแสยะยิ้ม ความพินาศของโวลเดอมอร์ใกล้จะเป็นจริงแล้ว และเดรโกรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ แน่นอน ไม่ใช่แค่ว่าเขายินดีที่จะตาย แต่มันเป็นการล้างแค้นที่เขารอคอยด้วยความตื่นเต้น และชื่อเสียงที่จะตามมาถ้าเขาทำสำเร็จ เขาจะมีชื่อเสียงมากว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ เมื่อเขาทำมันได้ ใช่ ตอนนั้นเขาคงจะตายไปแล้ว แม้แต่คนที่มีชื่อเสียงก็ยังต้องตายในที่สุด ส่วนเขาก็แค่ตายเร็วเกินไปหน่อยก็เท่านั้น
เดรโกสังเกตคู่หนุ่มสาวที่จับมือกัน หัวเราะกันต่อกระซิก เดรโกจ้องมองพวกเขา ‘ไอ้พวกโง่’ เขาคิดด้วยความโกรธเคืองอย่างไม่รู้สาเหตุ
“เห็นอะไรน่าสนใจบางไหม มัลฟอย” เสียงคุ้นเคยเสียงหนึ่งดังมาจากด้านซ้าย เดรโกหันไปมองด้วยความประหลาดใจ
“พอตเตอร์! นายมาทำบ้าอะไรที่นี่” เขาถาม พยายามซ่อนอารมณ์ทุกอย่างในน้ำเสียงอย่างระมัดระวัง ให้มันเหลือเพียง แค่น้ำเสียงเหยียดหยามที่เขาพอจะทำได้ แท้จริงแล้ว เขาอยากรู้อย่างที่สุด ว่าแฮร์รี่ต้องการอะไร ‘พอตเตอร์ไม่ได้ดูพอใจตัวเองหรือโกรธ หรือ อะไรก็ตามที่จะแสดงให้เห็นได้ว่าเขาสนใจ... แล้วอะไรล่ะเป็นสิ่งที่พอตเตอร์ต้องการ’ เดรโกครุ่นคิด
“ฉันอยากคุยกับนายเรื่องเฮอร์ไมโอนี่” เขาพูดออกมาตรงๆ เดรโกหยุดและหันไปยังเด็กชาย-ผู้-รอดชีวิต-เพื่อ-ยั่วเย้า
“เรื่องของเฮอร์ไมโอนี่เหรอ?” เดรโกถามอย่างระมัดระวัง ภายนอกเขาดูเยือกเย็น สงบนิ่ง เย็นชา แต่ในหัวของเขาความคิดต่างๆกำลังโลดแล่น ‘เฮอร์ไมโอนี่กำลังมีปัญหาใช่ไหม แล้วถ้ามีบางอย่างที่เลวร้ายเกิดขึ้นกับเธอหลังจากคริสต์มาสล่ะ เขาคงจะไม่ได้อยู่เพื่อช่วยเธอใช่ไหม’
“เอาล่ะ อย่างที่เห็น” แฮร์รี่พูด เอื้อมมือขึ้นไปเกาหัวในลักษณะที่เคยชิน
“พวกเรา ไม่มีใครรู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ” เดรโกถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน แฮร์รี่พยายามไม่สนใจในน้ำเสียงของเขา
“เธอกำลังจะอยู่กับนายตามลำพังในช่วงวันหยุด ในขณะที่เกือบจะทุกคนต้องกลับบ้าน และฉันหวังว่านายจะพยายามล้วงปัญหาออกมาจากเธอให้ได้” เขาพูด จ้องไปที่เดรโกด้วยความหวัง เดรโกกระพริบตา จากนั้นระเบิดเสียงหัวเราะในทันใด ‘โอ้! นี่มันดูเกินไปหน่อย’ แฮร์รี่ยืนกอดอกและจ้องมองเขา
“ตลกบ้าอะไรนักเหรอ มัลฟอย” แฮร์รี่ถามด้วยอารมณ์โกรธ เดรโกหยืดตัวตรงและชี้นิ้วมือไปที่เขาอย่างกล่าวหา
“นายพยายามจับคู่ให้เราเหรอไง!” เขาพูดอย่างไม่เชื่อ และเริ่มหัวเราะอีกครั้ง เดรโกแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาได้ยิน เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น แฮร์รี่ พอตเตอร์ พยายามจับคู่เพื่อนสนิทให้กับเขา หน้าของแฮร์รี่เปลี่ยนเป็นสีแดงและยิ้มอย่างอายๆ
“มันโจ่งแจ้งอย่างนั้นเลยเหรอ มัลฟอย” เขาถามอย่างคนนิสัยดี เดรโกจ้องเขาด้วยความแปลกใจ
“อืม ใช่ พอตเตอร์ ให้ตายเหอะ อย่างน้อยที่สุดถ้ามีข้อสงสัยใดๆก่อนที่นายจะถูกคัดให้ไปอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ ลืมข้อสงสัยพวกนั้นไปได้เลย เพราะไม่มีกริฟฟินดอร์คนไหนมีเล่ห์เหลี่ยมเอาตัวเองรอดได้หรอก พวกเขาไม่ลื่นไหลพอ นั่นแหละเหตุผลว่าทำไมพวกกริฟฟินดอร์จึงมักเป็นวีระบุรุษผู้กล้าหาญ” ด้วยเหตุผลบางอย่างที่เดรโกพูด ข้อคิดเห็นนี้ดูเหมือนทำให้แฮร์รี่พอใจ
“ก็ได้ มัลฟอย นายจับฉันได้ในที่สุด แต่ถึงยังไง ฉันก็พูดความจริง...เป็นส่วนใหญ่”
“โอ่! นายพูดแล้วเหรอเนี่ย แล้วไอ้ส่วนเล็กๆน้อยๆที่นายโกหกล่ะคืออะไร” เขาถามเชิงเหน็บแนม พอตเตอร์ถอนหายใจและจับผมของตัวเองอีกครั้ง
“เรารู้ว่าทำไมเฮอร์ไมโอนี่ ถึงเศร้า”
“ทำไมล่ะ” เดรโกถามก่อนที่เขาจะหยุดยั้งตัวเองได้ พอตเตอร์มองเขาด้วยสายตาจริงจัง
“พูดง่ายๆ มันก็เพราะ...นาย! นายทำให้เธอเศร้าตั้งแต่ต้นปี และฉันจะไม่ยอมให้ความเศร้านั้นมันเกาะกินเธอนานไปกว่านี้อีก ฉันไม่รู้ นายทำอะไรถึงทำให้มันเป็นแบบนี้ แต่ไม่ว่าจะยังไง นายได้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ เอเธนน่า เกรนเจอร์ตกหลุมรักนาย!”
“โอ้ อย่าตลกน่า--”
“เงียบเหอะ มัลฟอย!” พอตเตอร์ตะคอก ทำให้เขาตกใจ
“ฉันถือว่าความสุขของเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ และอย่างที่นายน่าจะได้เห็นชัดเจนในความจริงที่ว่า ฉันเพิ่งจับคู่เพื่อนของฉันให้กับศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของฉัน” เดรโกกลอกเมื่อได้ฟัง
“และตอนนี้ ฉันคิดว่าโวลเดอมอร์เป็นศัตรู” เดรโกพูดออกมาอย่างไม่พอใจ และย้อนคิดถึงครั้งก่อน ที่เขาพูดสิ่งเดียวกันนี้กับเฮอร์ไมโอนี่
“โอ้ นายพูดถูก แน่นอน” แฮร์รี่พูดด้วยความลังเล เดรโกอดกลั้นแรงกระตุ้นที่จะพูดต่อ เขาแค่หันมองไปทางอื่น เขาคิด ‘พอตเตอร์คงจะไม่ประหลาดใจในอีก 1 สัปดาห์จากนี้!’
“แต่ตราบใดที่ยังอยู่ที่ฮอกวอตส์ นายเป็นศัตรูอันดับต้นของฉัน ประเด็นคือฉันต้องการให้เฮอร์ไมโอนี่มีความสุข และเห็นได้ชัดว่านายต้องการเธอ ดังนั้นนายจะทำให้เธอมีความสุขได้” แฮร์รี่ พูดจบประโยคอย่างมีชัย
“โว้ พอตเตอร์ นายคิดทั้งหมดนั่นด้วยตัวเองเหรอ” เขาพูดเสียงยานคาง แม้ว่าจริงๆแล้ว เขาประทับใจในความเป็นผู้ใหญ่ของแฮร์รี่ กลับกัน ถ้าแผนการนี้ให้วีสลีย์เป็นคนจัดการ หนทางคงจะเป็นไปตามแนวทางที่ว่า ‘ฆ่ามัลฟอย! ฆ่ามัลฟอย!’ เดรโกหลับตาลงและสั่นหัวไล่ความคิดไร้สาระนี้ออกไป
“นายจะทำยังไงต่อไป มัลฟอย” แฮร์รี่ถามด้วยความวิตกอย่างน่าประหลาด
“ฉันต้องขอโทษจริงๆ พอตเตอร์ แต่ฉันช่วยนายไม่ได้” เดรโกหันกลับ และเริ่มเดินจากไป
“เดี๋ยวก่อน มัลฟอย!” แฮร์รี่เรียก วิ่งเหยาะๆไล่ตามเขา
“ทำไมนายช่วยไม่ได้ล่ะ เห็นแก่พระเจ้าเถอะ อยู่กับเธออย่างลับๆ ก็ได้ ถ้าหากชื่อเสียงของนายมันสำคัญต่อนายมาก แต่อย่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดไป! อย่าหาข้ออ้างหรืออะไรก็ตามมาขัดขวางความรักของนาย ฉันอยากรู้แค่ว่านายจะหาผู้หญิงทีรักนายอย่างแท้จริงได้อีกหรือเปล่า และถ้านายหาได้ เธอคงจะไม่น่าทึ่งเท่ากับเฮอร์ไมโอนี่” เดรโกไม่โต้แย้งใดๆจากความคิดเห็นนี้
ทุกสิ่งที่แฮร์รี่พูด มันคือความจริง เดรโกหยุดเดิน และหันไปยังเด็กหนุ่มผมกระเซิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ฟังนะ พอตเตอร์ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เฮอร์ไมโอนี่มารักฉัน และฉันไม่อาจให้ในสิ่งที่เธอต้องการได้ เธอต้องการใครสักคนแบบนาย หรือ...” เขาทำปากยื่นแบบไม่พอใจ
“เฮ้อ! บางทีอาจจะไม่ใช่วีเซิล ประเด็นคือ เธอต้องการใครสักคนที่ไม่ใช่ฉัน” เดรโกไม่ได้พยายามบอกแฮร์รี่ว่าเขาเกลียดเธอด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่ได้เกลียดเธอ ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาไม่ต้องการที่จะโกหกพอตเตอร์ไม่ว่าจะยังไง สิ่งที่เขารู้สึกต่อเธอ เขาลงความเห็นแล้วว่า มันไม่ใช่ความเกลียดชัง หรือแม้แต่ความไม่ชอบ มันเป็นสิ่งอื่น เป็น...
“มัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่คือคนที่ฉลาดที่สุดที่ฉันรู้จัก เห็นได้ชัดว่าเธอเห็นบางอย่างในตัวนายที่มีค่าต่อการจดจำ แม้ว่าฉันจะไม่ชอบนายมากเท่าไหร่ แต่ฉันก็เชื่อในการตัดสินใจของเธอ นายควรจะทำเช่นเดียวกัน” เดรโกร้องคำรามด้วยความหงุดหงิดใจ
“พอตเตอร์...ถ้าฉันอธิบายเหตุผลทั้งหมดให้นายฟังว่าทำไมเรื่องนี้จึงเกิดขึ้นไม่ได้ นายจะสาบานด้วยเกียรติของนาย ว่าจะไม่บอกใครต่อได้ไหมล่ะ ไม่ว่าจะทางใด รูปแบบไหน ต่อใครก็ตามหรือสิ่งใดก็ตาม” แฮร์รี่เลิ่กคิ้ว
“ถ้าฉันรับปาก นายจะเชื่อฉันใช่ไหม?”
“แน่นอน นายเป็นกริฟฟินดอร์”
“ฉันสาบานได้” แฮร์รี่พูด เดรโกพยักหน้า
“ดี! เหตุผลที่ฉันไม่สามารถเข้าใกล้เฮอร์ไมโอนี่ได้มากกว่านี้ นั่นเพราะเหตุผลเรียบง่ายที่ว่า พวกมัลฟอยไม่สามารถรักใครได้” เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นแฮร์รี่พูดขึ้น
“เป็นเรื่องไร้สาระที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมาทั้งชีวิต มัลฟอย” เดรโกปล่อยลมหายใจเสียงดัง
“พอตเตอร์ นายอยู่ในโลกที่สมบูรณ์แบบ ที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสายรุ้ง และแสงอาทิตย์ ความจริงหัวข้อที่เรากำลังคุยกันอยู่นี้เป็นข้อพิสูจน์ได้ ในโลกแห่งความจริง สิ่งต่างๆ--”
“อย่ามาสั่งสอนฉันในเรื่องโลกแห่งความจริง มัลฟอย พ่อแม่ของฉัน--”แฮร์รี่โต้แย้ง
“ตายเพื่อนาย และมันงดงามและสูงส่งมากแค่ไหน อธิบายกับฉันสิว่า นั่นไม่ใช่สายรุ้งและแสงอาทิตย์” เดรโกพูดด้วยความขมขื่น
“พวกเขาตายแล้ว!” แฮร์รี่ตะโกนอย่างไม่อยากจะเชื่อ ราวกับว่าเขาไม่อยากเชื่อว่าตัวเองต้องอธิบายเรื่องนี้ด้วย
“ใช่! ตายแล้ว และพ่อของฉันยังอยู่ นั่นสิแย่กว่า” ดวงตาของแฮร์รี่เบิกกว้างด้วยความตกใจ นาย
“ยังมีความจริงที่ว่าฉันเป็นวายร้ายแห่งสลิธีริน ส่วนเธอเป็นลูกรักแห่งกริฟฟินดอร์ ฉันเป็นเลือดบริสุทธิ์ และเธอเป็นพวกที่เกิดจากมักเกิ้ล ฉันในความเป็นจริงเป็นพ่อมดด้านมืด และเธอเป็นแม่มดจิตใจดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมา โอ้! และเราเข้ากันไม่ได้มาตลอด อธิบายกับฉันอีกครั้งสิ ว่าทำไมสิ่งที่นายแนะนำจะเป็นความคิดที่ดี พอตเตอร์” เดรโกพูด
“เพราะพวกนายรักกันอย่างไงล่ะ!!!” แฮร์รี่ตะโกนอย่างหมดความอดทน สลิธีรินผมสีเงินถอนหายใจ
“รักคือการเพ้อฝัน พอตเตอร์” เขาพูดอย่างเย็นชาก่อนที่จะหัน และเดินจากไป
****
เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนรักของเธอทั้งสองคน จะพยายามโน้มน้าวให้เธอจัดการกับปัญหารักของเธอให้รู้แล้วรู้รอด และให้เธอเอามัลฟอยกลับมาให้ได้ พวกเขาให้คำแนะนำเรื่องชีวิตรักของเธอ! ‘ใครบอกว่าฉันต้องการมัลฟอยกลับคืนมาล่ะ’ เธอคิดอย่างประชด ‘โอ้! เธอหมายถึง เธอไม่ต้องการเขาเหรอ’ เสียงจากจิตใต้สำนึกของเธอกระซิบ ‘เอาล่ะ ก็ได้! บางทีเดรโก มัลฟอย อาจจะมอบจูบที่น่าอัศจรรย์มากที่สุดเท่าที่เธอเคยพบเจอมา แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลอย่างเพียงพอสำหรับเธอที่จะวิ่งไล่และเอาเขากลับมา! มันจริงที่ว่าเขาคือทุกอย่างที่จะคิดถึงได้.. เธอตกหลุมรักเขาซะแล้ว เฮ้อ! แย่จริงๆ’ เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างขมขื่น
นั่นก็เพราะเขาไม่ได้รักเธอ
**
เดรโกพิจารณาห้องโถงใหญ่อย่างตั้งอกตั้งใจ มันเป็นวันศริสต์มาสอีฟ และมีจำนวนคนไม่มากนักอยู่ที่ฮอกวอตส์ มีเพียงแค่โต๊ะกลมตัวใหญ่ตัวหนึ่งเท่านั้น ที่ตั้งอยู่ในห้องสำหรับอาหารมื้อค่ำ ในคืนวันศริสต์มาส มันเป็น...มื้อค่ำในคืนสุดท้ายของเขา ในฉับพลันเขารู้สึกถึงดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องเขา และเดรโกเงยหน้าขึ้น เขาพบสายตาพิจารณาของดัมเบิลเดอร์ เดรโกฝืนยิ้ม และ ดัมเบิลเดอร์ส่งยิ้มกลับไปแต่เขามองไม่เห็นถึงรอยยิ้มนั้น
เดรโกตัดสินใจว่าเขาจะไม่คิดถึงสิ่งที่ทำให้ตัวเองหดหู่ที่ คนอื่นๆดูเหมือนกำลังทำให้ตัวเองสนุกสนาน เฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่ข้างๆเขา แต่เดรโกจดจ่ออยู่กับเรื่องการรวมตัวกันของเหล่าผู้เสพความตายในวันพรุ่งนี้ เขาจึงไม่ทันสังเกตเห็นสายตาเป็นกังวลที่แอบเหลือบมองโดยเฮอร์ไมโอนี่ที่ส่งให้แก่เขา เขาฝึกฝนคาถาที่จำเป็นทั้งหมดตามคำแนะนำของสลิธีรินแล้ว และรู้ดีว่าเขาต้องเตรียมตัวเพื่อใช้คาถามัลธัส อะบิก็เท่านั้น มันก็แค่.....ยาก การต้องรับรู้ว่านี่จะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของเขา มันทำให้รู้สึกแปลก เหมือนกับว่ามันไม่เป็นความจริง ...เขาจะไม่ได้บินด้วยไม้กวาด ไม่ได้ไปงานเลี้ยง... ไม่ได้อยู่จนจบชั้นเรียน... ไม่ได้ต่อสู้ตัวต่อตัวกับใคร หรือไม่ได้มีเซ็กส์อีก เดรโกยิ้มอย่างคร่ำครวญ เขาเสียใจกับการตายที่กำลังใกล้เข้ามาเพราะเขาจะไม่ได้เล่นควิดดิช หรือ มีเซ็กส์อีกต่อไป
“ขอโทษที ได้โปรดฟังทางนี้” ดัมเบิลเดอร์กล่าว คนในโต๊ะเงียบ
“ขอบคุณ ข้อแรกสุขสันต์วันคริสต์มาส!” ดัมเบิลดอร์พูดอย่างอารมณ์ดี และทุกคนตอบกลับไปว่า
“สุขสันต์วันศริสมาส!”
“ขอบคุณ ขอบคุณ ข้อสอง ฉันอยากจะเชิญทุกๆคนที่นี่ไปร่วมการต่อสู้ ปาลูกหิมะซึ่งจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ตอนบ่าย!” เฮอร์ไมโอนี่หันไปหาเดรโกและพูด
“นายระวังตัวไว้ให้ดีเหอะ มัลฟอย” เธอพูดหมายหัวเขาไว้ ด้วยดวงตาที่มีประกายอย่างแบบล้อเล่น เดรโกหันไปหาเธอด้วยความตกใจ แปลกใจและพอใจที่เธอกำลังพูดกับเขา เดรโกเริ่มยิ้ม จากนั้นเขารู้สึกว่าหน้าของตัวเองไม่มีสีเลือดอีกต่อไป พรุ่งนี้บ่าย ในตอนนั้นแผนการคงจะถูกกระทำ เขาปิดตาลงไม่อยากมองใบหน้าที่มีรอยยิ้มของทุกคนที่อยู่รอบตัวเขา ฉันทนมันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เดรโกรีบออกไปจากโต๊ะ วิ่งไปยังห้องนั่งเล่นรวม
“ฮอกวอตส์!” เขาพูดอย่างสิ้นหวังกับภาพวาด เหล่าผู้ก่อตั้งคิ้วขมวดอย่างพร้อมเพรียง
“เดรโก เธอเป็นอะไรหรือเปล่า หนุ่มน้อย- -”
“แค่เปิดประตูบ้าบอนี่ซะ!” เขาตะคอก ประตูเหวี่ยงเปิดออกในทันใด และเดรโกวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เขาจ้องตัวเองในกระจก
“สวัสดี ภาพสะท้อน ฉันมาเพื่อ คารวะตัวฉันเองเป็นครั้งสุดท้าย!” เขาพูดด้วยเสียงหัวเราะอย่างคนบ้า
“เข้าใจไหม ว่านายกำลังจะตายจริงๆแล้ว โอ้! พวกเขาจะนึกถึงนายที่หนังสือพิมพ์ Witch Weekly หนุ่มน้อย” เดรโกยังคงหัวเราะหึๆต่อไปเรื่อยๆในขณะที่เขาไถลตัวลงไปสู่พื้นกระเบื้องแข็งๆ เขาไม่สนว่าตัวเองกำลังจะตายหรือไม่ เขาเพียงแค่คิด... ‘มันจริงใช่ไหม ที่ไม่มีใครสนฉัน ผู้คนคงจะคิดถึงแต่เฉพาะใบหน้าอันหล่อหลาของเขา และเขาคงจะไม่คิดถึงคนพวกนั้นอย่างแน่นอน ทุกๆคนที่ควรจะรักเขา กลับเย็นชากับเขา ทุกๆคนที่เย็นชากับเขาก็เกลียดเขา และด้วยเหตุผลอะไรก็ตามผู้หญิงคนเดียวที่ควรจะเกลียดเขา เธอกลับรักเขา และเขาก็กำลังตาย มันค่อนข้างตลกจริงๆ
เวลาผ่านไปไม่นานขณะที่เขาปล่อยใจให้จดจ่ออยู่กับความคิด ก่อนที่เดรโกจะได้ยินเสียงภาพวาดเหวี่ยงออก เฮอร์ไมโอนี่ก็ก้าวเท้าตรงมาหาเขา เธอพูด
“เดรโก นายเป็นอะไร” เธอถามด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่เขายังคงหัวเราะในลำคอ “เดรโก นายตลกอะไรนักหนา” เขาเงยหน้ามองเธอ และ เสียงหัวเราะของเขาหายไปทันที
เขาส่ายหัวเป็นเชิงปฏิเสธ
“ไม่มีอะไร เฮอร์ไมโอนี่ ฉันไม่คิดว่าเธอจะเข้าใจมุขตลกนี้หรอก” เธอคิ้วขมวดด้วยความกังวล และลงมานั่งกับเขาบนพื้น
“ลองพูดมันออกมาซิ” เธอพูดอย่างแน่วแน่ เดรโกพิจารณาใบหน้าสมบรูณ์แบบดุจนางฟ้าของเธอเป็นครั้งสุดท้าย
“ชีวิตเป็นเรื่องตลก เฮอร์ไมโอนี่ แค่นั้นจริงๆ” เขาหยุดชั่วขณะในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่พยายามที่จะทำความเข้าใจเขา
“เธอเคยตัดสินใจอะไรโง่ๆ โง่มากแบบโง่จริงๆบ้างไหมล่ะเฮอร์ไมโอนี่” เขาถามเธอ
“ไม่ฉันไม่คิดว่าเธอ จะเคยทำแบบนั้น ใช่ไหมล่ะ” เขายังคงจ้องมองเธอในเสี้ยววินาทีก่อนที่จะปิดตาลง และพิงกำแพง
“เคยซิ ฉันคิดว่าฉันเคย” เธอพูดเสียงเบาราวกระซิบ ดวงตาของเดรโกเปิดออก และเขามองเธอด้วยความแปลกใจ
“เมื่อไหร่กัน” เขาถามเอาจริงเอาจัง เดรโกลากตัวของเขาไปด้านหน้าเธอ จนเข่าของทั้งคู่สัมผัสกัน เขากุมมือบอบบางของเธอไว้ในมืออุ่นๆของเขา
“เฮอร์ไมโอนี่ ได้โปรดบอกให้ฉันรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับเธอได้ไหม ฉันรู้ว่าฉันเป็นสลิธีริน แต่เชื่อฉันเถอะ ฉันไม่เคยไว้ใจได้มากเท่านี้มาก่อน” ดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่ เต็มตื้นไปด้วยน้ำตาเพราะเหตุผลบางอย่าง และเธอพยักหน้า จากนั้นเธอเริ่มพูด เธอบอกเขาว่าพ่อแม่ของเธอเคยต่อสู้อย่างไร, เธอเคยเป็นเหมือนพวกอันธพาลอย่างไร, เธอรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินระหว่างแฮร์รี่กับรอนเสมอ, และนับตั้งแต่ที่เธอจำความได้ ชีวิตของเธอดูเหมือนจะผสมปนเปกันระหว่างภัยพิบัติ กับความไม่มั่นคง เดรโกไม่ส่งเสียงเลยตลอดเวลาที่เธอพูด เขาแค่นั่งอยู่ตรงนั้น จ้องเธอราวกับเขาไม่ต้องการให้เธอจากไป ไม่ต้องการที่จะลืมเธอ
เมื่อเธอเล่าจบ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกสดชื่น อย่างแปลกประหลาด เหมือนยกภูเขาออกจากอก จากนั้นเธอเพ่งความสนใจไปที่เดรโก ‘ดวงตาของเขาในวันนี้เป็นสีเทาหมองหม่นยิ่งนัก’ เธอคิดกับตัวเอง และเขาดูเคร่งเครียด เฮอร์ไมโอนี่เกิดความคิดในทันใด
“เดรโก มีอะไรที่นายอยากจะบอกฉันไหม” เขาตัวแข็งทื่อ
“เธอหมายถึงอะไร” เขาถามอย่างว้าวุ่นใจ เธอขมวดคิ้ว
“ฉันหมายถึงอย่างที่ฉันพูด นายช่วยเอาภาระความทุกข์ใจออกไปจากอกของฉัน และ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันควรทำแบบเดียวกัน และนาย...” เดรโกยิ้มเล็กน้อย
“เธอไม่ได้ติดหนี้อะไรฉันเลย เฮอร์ไมโอนี่”
“แต่ฉันอยากจะรู้จริงๆ” เธอยืนกราน
“ฉันอยากจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนาย” เธอพูดอย่างร้องขอ เธอกุมมือข้างหนึ่งของ
เขาไว้ และเริ่มใช้นิ้วมืออ้อยอิ่งเล่นอยู่บนฝ่ามือของเขา เธอเงยหน้าขึ้นมอง
“ได้โปรด เล่าให้ฉันฟัง ได้ไหม”
เดรโกถอนหายใจ ยังกับว่าเขาจะต้านทานเธอได้ และเขาทำเช่นเดียวกันกับเธอ เขาค่อยๆเล่าเรื่องราวที่ว้าวุ่นใจ บอกเธอเรื่องกระจกบานแรก และเมื่อพ่อจับได้ว่าเขาเล่นกับเด็กมักเกิล ผลมันป็นยังไง และกฎต่างๆที่คุณจะต้องปฏิบัติตามเพื่อดำรงชีวิตอยู่ในฐานะมัลฟอยคนหนึ่ง อย่างเช่น อย่าแสดงความอ่อนแอของคุณ อย่าแสดงอารมณ์ หรือยิ่งไปกว่านั้นอย่ารู้สึกอะไร เขาบอกเธอว่ามันแปลกแค่ไหนที่สนุกกับการเป็นคนที่คุณเป็น และรู้สึกเกลียดในเวลาเดียวกัน ลูเซียส และโวลเดอร์มอร์ จับแม่ของเขาไปไว้ที่เซนต์มังโกอย่างไร จากนั้นเธอก็ตาย.
“เธอ
เป็น
เอ่อ
.” เดรโกลังเลที่จะพูด และเงยหน้ามองเฮอร์ไมโอนี่อย่างคาดคะเน เขาเห็นน้ำตากำลังไหลลงสู่ใบหน้าของเธอ และเธอใช้มือปิดปากไว้ เดรโกตำหนิตัวเอง
“โธ่เอ้ย! ฉันขอโทษเฮอร์ไมโอนี่” เขากระซิบในขณะที่เขาโน้มตัวไปข้างหน้า และโอบเธอไว้ในอ้อมแขน
“ฉันลืมบางอย่าง เธอรู้ไหม ฉันลืมไปว่าสำหรับคนส่วนใหญ่เรื่องราวเหล่านี้ฟังดูแย่แค่ไหน แต่มันก็ไม่ใช่ชีวิตที่เลวร้ายจริงๆนักหรอก”เดรโกหยุด นึกถึงความผิดพลาดที่พูดออกไป ต้องขอบคุณที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ยอมให้หยุดพูด
“แม่ของนายเป็นอะไร อย่าหยุดพูดนะ” เธอพูดต่อ เก็บปลายผมที่ร่วงหล่นทัดหูให้กับเขา “ฉันสงสัยว่านายเคยเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ กับคนอื่นๆมาก่อนรึเปล่า” เดรโกเห็นว่าริม
ฝีปากของเธอดูล่อใจมากแค่ไหน และเขาหักห้ามตัวเองให้หันไปทางอื่น
“แม่ของฉัน เธอเป็นผู้มองเห็นอนาคต” เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้าง
“นั่นคือเหตุผลที่ฉันได้รับบาดเจ็บในคืนนั้น จำได้ใช่ไหม คืนนั้นที่เธอพบฉันในห้องนั่งเล่นรวมของพวกเรายังไงล่ะ พรสวรรค์ของเธอส่งผ่านมาให้ฉัน มันเจ็บปวดอย่างที่สุด ฉันเกลียดมัน
มันน่ากลัวจริงๆสำหรับบางสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าพรสวรรค์” เกิดความเงียบที่แสนอบอุ่นขึ้น ในขณะที่เดรโกกอดเธอไว้แน่น หัวของเธอพิงไหล่ของเขา เขารู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นจากน้ำตาของเธอที่หยดลงบนผิวหนังของเขา เธอกำลังร้องไห้เพื่อเขา เขาคิด ไม่มีใครเคยร้องไห้เพื่อเขามาก่อน มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดเหลือเกิน
ในทันใด เดรโกเพิ่งตระหนักถึงตำแหน่งที่พวกเขานั่งอยู่ ในตอนนี้เธอนั่งคร่อมตัวเขาไว้ ขาอันเรียวยาวของเธอล็อคแน่นอยู่รอบตัวเขา เขารู้สึกได้ถึงหน้าอกอันเต่งตึงของเธอที่บดขยี้แผ่นอกของเขาอย่างแนบแน่น และลมหายใจร้อนๆของเธอที่ประเล้าประโลมผิวหนังบริเวณลำคอของเขา เธอกระตุ้นความรู้สึกทุกอณูของเขา และเขาควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่แล้วในตอนนี้ เขาเอียงหัวเพื่อหาจังหวะและเริ่มฝังรอยจูบช้าๆ อย่างยั่วยวนหลายครั้งไปตามส่วนโค้งเนียนนุ่ม บริเวณลำคอของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้าง และเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาสีช็อกโกแลตของเธอ เดรโกคิ้วขมวดด้วยความกังวลใจ ด้วยเหตุผลบางประการ ถ้าเฮอร์ไมโอนี่ปฎิเสธเขา เธอคงจะแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ และเดรโกไม่คิดว่าเขาจะรับความผิดหวังนี้ได้ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยรู้จัก และ ให้ตายเถอะ เมอร์ลิน! เขาสนใจความรู้สึกของเธอจริงๆเข้าแล้ว เขาไม่เคยต้องการใคร เหมือนที่เขาต้องการเธอในตอนนี้ เขาพิจารณาใบหน้าของเธอทุกสัดส่วน และพบว่าเขาอ่านความรู้สึกของเธอไม่ออกเลย
“เฮอร์ไมโอนี่ เป็นอะไรไหม” เขาถามเสียงแผ่วเบา แทนที่เธอจะตอบ เธอกลับโน้มตัวไปข้างหน้า เพื่อใช้ริมฝีปากของเธอ บดขยี้ริมฝีปากที่หิวกระหายของเขา เหมือนริมฝีปากนี้ได้รับน้ำจากทะเลสาบแห่งความปรารถนา เขาร้องคราง และลุกขึ้นยืนพร้อมกับเธอที่ยังคงโอบกอดเขาไว้แน่น มือของเธอลูบไล้ไปตามเส้นผมของเขาอย่างนุ่มนวล เดรโกยินยอมทำตามความปรารถนาของเธอ อย่างสนอกสนใจ
เดรโกพาเฮอร์ไมโอนี่ไปที่ห้องนอนของเขา และวางเธอลงบนเตียงอย่างทะนุทะนอม พวกเขาสำรวจทุกส่วนในร่างกายของกันและกัน ในแบบที่คนรักเท่านั้นที่จะทำได้ จากนั้นร่างกายของเดรโกทาบทับอยู่เหนือร่างกายของเฮอร์ไมโอนี่ เขาอยู่บนตัวเธอ... สัมผัสเธอ... เล้าโลมเธอ... อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เขาส่งสายตาไปที่เธอเป็นเชิงตั้งคำถามเพื่อขออนุญาตสำหรับบางสิ่ง... บางสิ่ง...ที่มันอัด
อั้นและเขาไม่สามารถทนมันต่อไปได้อีก เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า ยอมรับสัมผัสทั้งหมดที่เดรโกรจะ มอบให้ และในวินาทีนั้นไม่มีสิ่งใดที่จะมาขวางกั้นระหว่างพวกเขาทั้งสองได้อีก ไม่มีสลิธีริน และกริฟฟรินเดอร์ ไม่มีหกปีแห่งการเยาะเย้ย ถากถาง หรือสบประมาท ไม่มีสงครามระหว่างฝ่ายดี ฝ่ายมืด ไม่มีอะไรเลย...เว้นแต่ความรู้สึกของผู้ชายที่เธอรัก ซึ่งเขาอยู่เบื้องหน้าเธอ บนร่างกายของเธอ... ความรู้สึกหลากหลายผสานเป็นหนึ่งเดียว เธอทั้งตกใจและพอใจในเวลาเดียวกัน มันหล่อหลอมพวกเขาทั้งคู่ ทุกอย่างที่เดรโกทำ มันแผดเผาผ่านทั้งร่างกายของเธอ และสร้างความหวังที่เธอจะสามารถอยู่ร่วมกับเขาไปตลอดกาลได้
**
+++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น