ขั้วโลกเหนือเดือนเมษา
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าขั้วโลกเหนือถูกย้ายมาประจำที่โซลโซไซตี้ในหน้าร้อน?
PG || One Shot (ที่เหมือนSF)
Hyorinmaru x Toshiro
❄
"ทำไมถึงร้อนขนาดนี้"
หัวหน้าหน่วยสิบกำลังทำงานอย่างขะมักเขม้นเช่นเคย เว้นแต่ต่างออกไปเพราะวันนี้ร้อนเป็นพิเศษชวนหงุดหงิดงุ่นง่าน ยิ่งเห็นรองหัวหน้ามัตสึโมโต้ที่ควรจะนั่งทำงานฟุบหลับบนโต๊ะแบบไม่เกรงใจก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมา
ทว่าตามนิสัยของฮิตสึกายะ โทชิโร่ ร้อนแค่ไหนเจ้าตัวก็ไม่หยุดงาน
พลังน้ำแข็งทำให้โทชิโร่ทนหนาวได้แต่ร่างกายไม่ทนร้อนเท่าไรนัก หน้าเริ่มแดงลามไปจนถึงลำคอ เหงื่อแตกพลักจนไรผมเริ่มลู่ลงตามใบหน้า...จนกระทั่งเริ่มรู้สึกมึนงงในหัว
'ให้ข้าช่วยเถิด'
พลันเสียงหนึ่งก้องดังขึ้น อุณหภูมิห้องลดลงฉับพลันกลายเป็นเย็นสบาย พร้อมกับร่างสูงปรากฏนั่งอยู่บนโซฟาของห้องทำงานหัวหน้าหน่วย นั่งในท่วงท่าสง่างามปล่อยผมมรกตยาวสยาย รอยเกล็ดน้ำแข็งขึ้นประปรายบนบริเวณโซฟาใกล้ตำแหน่งที่เขานั่ง
"ข้าไม่ได้เรียกให้เจ้าออกมาสักหน่อย"
"ซัมปาคุโตมีจิตนึกคิด ย่อมมีจิตใจต้องการรับใช้ผู้เป็นเจ้านาย" เฮียวรินมารุนั่งนิ่งตอบคำถามด้วยเสียงโทนเรียบ
โทชิโร่มองแล้วก็สงสัยอยู่ไม่น้อย ไม่ได้เรียกชื่อให้ออกมาแต่ก็ออกมาได้นี่มันปกติหรือ?
แต่พอนึกถึงความร้อนก่อนหน้าก็เลิกใส่ใจ ปล่อยให้เฮียวรินมารุนั่งเล่นบ้างพร้อมไปกับสร้างประโยชน์ในมุมอื่นนอกจากต่อสู้ก็ไม่เลว
"ว้าว ห้องเย็นฉันพลัน!" ไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อ มัตสึโมโต้ก็กระเด้งตื่นขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นกับอากาศที่เย็นสบายมีแรงพูดไปเรื่อยต่อทันที
"สุดหล่อคนนี้--อ้อ ดาบฟันวิญญาณของหัวหน้านี่นา ทำไมหัวหน้าไม่เรียกเขาออกมาเร็วกว่านี้ล่ะค้า"
"น่ารำคาญมัตสึโมโต้"
"โถถถ ได้ทำงานไปจ้องหน้าซัมปาคุโตหน้าตาดีก็ไม่เลวนะคะหัวหน้า ข้าอาจจะตรวจเอกสารได้มากขึ้นสองสามใบ--"
มัตสึโมโต้ รันงิคุไม่ยอมหยุดพูด หัวหน้าหน่วยผู้เคยชินแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเอือมระอานั่งทำงานต่อไปจนกระทั่งได้ยินเสียงตึงตังจากรองหัวหน้าและดาบฟันวิญญาณของตน
โครม!
"อย่ามาแตะข้า"
เฮียวรินมารุปัดมือรันงิคุที่ยื่นมาจับผมอย่างสนอกสนใจด้วยลมหนาวเยือกจนเธอชักมือกลับอุทาน
"โอ๊ะ หวงตัวกว่าที่คิดนะเนี่ย ขนาดหัวหน้าของข้ายังยอมให้ข้ากอดเลย"
"เจ้าพูดว่าอะไรนะ"
"โอ๊ยๆ หนาวๆ ไม่จับเจ้าแล้วก็ได้"
"แต่เจ้ากอดนายข้า"
"อะไรนะ? ใช่สิ เมื่อก่อนหัวหน้าข้าเป็นเด็กน่าเอ็นดูเชียวน้าา เจ้าก็รู้อยู่ใช่ไหมล่ะ ตอนที่หัวหน้ายังเป็นเด็กอยู่ ข้าทั้งกอดทั้งบีบแก้มเล่นแทบทุกครั้งที่เจอเลย"
รันงิคุนึกว่าจะกอบกู้สถานการณ์ได้จากการเปลี่ยนประเด็นไปพูดชื่นชมสมัยเด็กของฮิตสึกายะ โทชิโร่ แต่ที่ไหนได้ อากาศกลับเย็นฮวบลงมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวจนน้ำแข็งเริ่มเกาะ สุดท้ายจึงยอมแพ้เลิกพูด เดินไปหยิบผ้านวมผืนใหญ่มาห่มตัวพยายามทำงานต่อทั้งที่ยังสั่นงันงก
"หนาวเหรอมัตสึโมโต้" โทชิโร่เพิ่งรู้สึกตัวเห็นรองหัวหน้าของตนห่มผ้านวมตัวสั่น
"หนาวค่ะ! หนาวจะตายอยู่แล้วหัวหน้า!" รันงิคุพูดพลางพยักเพยิดไปทางเฮียวรินมารุ ขอคะแนนความสงสารให้หัวหน้าช่วยลดอุณหภูมิห้องอย่างเต็มที่
"เฮียวรินมารุลดอุณหภูมิห้องลงหน่อย"
"นายข้าหนาวหรือ"
"เปล่า ข้าสบายดี แต่มัตสึโมโต้หนาวสั่นอยู่"
"เช่นนั้นก็อยู่อย่างนี้ดีกว่า ข้าเองก็ชอบอากาศประมาณนี้" เฮียวรินมารุพูดพลางเหลือบมองหญิงสาวตรงหน้าที่หน้าซีดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
"ข้าเข้าใจ แต่มัตสึโมโต้ต้องอยู่ช่วยงานข้า" โทชิโร่แย้งพลางมีรองหัวหน้าหน่วยพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยอย่างเต็มที่แม้ตรงหน้าเธอจะมีกระดาษเพียงสองใบจากทั้งกองที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว
"ช่วยทำเป็นชั่วโมงทว่าลุล่วงเพียงสองใบ?"
เฮียวรินมารุรู้ทันเสียยิ่งกว่าอะไร นิ้วมือยาวแหลมประกอบไปด้วยน้ำแข็งคีบหยิบใบรายงานที่ถูกมัตสึโมโต้ตรวจสอบสองใบแกว่งไปมาอย่างดูถูก
"ให้ข้าช่วยไม่ดีกว่าหรือนายข้า เป็นดาบฟันวิญญาณของท่านคงเป็นตำแหน่งที่เพียงพอสำหรับการตรวจงานเช่นนี้"
โทชิโร่ได้ยินดังนั้นก็ช่างใจ แต่พอมองเห็นกระดาษเพียงสองใบที่ถูกขีดเขียนด้วยลายมือไก่เขี่ยก็เริ่มรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง
"เจ้าช่วยทำงานแทนมัตสึโมโต้ก็แล้วกัน.."
"เพื่อนายข้า ยินดีเป็นอย่างยิ่ง"
มัตสึโมโต้มองเหตุการณ์ตรงหน้าไม่อยากจะเชื่อ นี่เธอกลายเป็นหมาหัวเน่าเหรอ!?
ไม่ทันที่จะได้เอ่ยปาก ลมหนาวก็พัดแรงจนแสบผิวไล่ให้เธอออกทางประตูอย่างโจ่งแจ้งจนเธอได้ประสบการณ์ของความรู้สึกหมั่นไส้ดาบฟันวิญญาณขึ้นมาเป็นครั้งแรก แต่เพราะทำอะไรไม่ได้จึงเดินออกมาพร้อมกับผ้าห่มห่อตัวเพราะหนาวไม่หาย พอเดินออกจากห้อง ปิดประตูสนิทดีแล้วเธอก็กรี๊ดเสียงดังระบายไปหนึ่งครั้ง...หน้าตาดีแลดูสุขุมภูมิฐานแท้ๆ ทำไมถึงร้ายกาจกับเธอขนาดนี้!
"อ้าวรองหัวหน้าไหงวันนี้ห่มผ้าห่มล่ะครับ"
ลูกน้องมองตามสาวสวยที่ปกติแทบจะถอดชุดเครื่องแบบออกในหน้าร้อน แต่รอบนี้ดันเดินลากผ้าห่มหนามาอย่างผิดปกติ
"หน่วยของข้าหนาวน่ะ"
"หืม?" อยากจะถามต่ออีกสักหน่อยแต่ก็หุบปากโค้งให้รองหัวหน้าอีกคนที่เดินผ่านมา อาบาไร เร็นจิ ผู้กำลังเดินสับขาสวนมาพอดี
"หัวหน้าฮิตสึกายะอยู่ไหน หัวหน้าคุจิกิมีเรื่องฝากมาแจ้ง"
"อยู่ในห้องทำงาน"
"แล้วเจ้าอู้งานอีกแล้วเรอะ" เร็นจิอดไม่ได้ที่จะแซวรันงิคุพลางมองเธอราวกับมองตัวประหลาดตัวประหลาดที่ห่มผ้าเดินทั้ง
นี่เขาร้อนจนเหงื่อเปียกท่วมตัวยังกะอาบน้ำแล้ว!
"ตอนนี้เฮียวรินมารุอยู่ช่วยงาน ข้าเลยออกมา"
"หา?"
เร็นจิยังไม่เข้าใจและส่งสายตาเหมือนมองตัวประหลาดให้รันงิคุเช่นเดิมจนเธอเริ่มรำคาญ หญิงสาวที่มือไม่ว่างเพราะจับผ้าห่มอยู่ จึงเอาตัวดันสหายผมแดงไปหน้าประตูที่ทำงานหัวหน้าหน่วยสิบ ก่อนจะกระโดดกลับไปทั้งที่ห่อผ้าห่มหนาอย่างทุลักทุเล
"ช่างเหอะ พอเจ้าเข้าไปเดี๋ยวก็รู้เอง"
พูดไม่ทันขาดคำลมพัดวูบหนึ่งก็หอบเอาความเย็นสบายมาให้ เร็นจิกลับรู้สึกหนาวตามกระดูกไขสันหลังอย่างประหลาด แต่ก็ยังใจแข็งเลื่อนเปิดประตู
ครืดด
"หัวหน้าฮิตสึกา--"
"เจ้ามีอะไรกับนายข้า" ชายหนุ่มนั่งอยู่ในท่วงท่าสง่างาม ผ้าคลุมที่เกาะเป็นน้ำแข็งอยู่บนบ่าทั้งสองและศรหางน้ำแข็งบ่งบอกถึงตัวตนของเจ้าของเสียงได้เป็นอย่างดี
"หะ หัวหน้าหน่วยที่หกฝากข้อความมา" เร็นจิกัดฟันอดทนต่อความหนาวฉับพลันฝืนพูดออกไป
"แล้วทำไมไม่มาด้วยตัวเอง"
"อากาศร้อนมาก ขะ ข้าเสนอมาส่งข้อความแทน" การที่ต้องพูดประโยคนี้ในห้องที่หนาวราวกับขั้วโลกเหนือทำให้เร็นจิรู้สึกขัดปากอย่างประหลาด
"ที่นี่อากาศไม่ร้อน"
"..."
เจอคำตอบแบบนี้มาเร็นจิก็ไร้หมดสิ้นคำที่อยากจะพูด ชักไม่ค่อยแน่ใจว่าทำไมถึงต้องมาเกรงใจทำตามซัมปาคุโตของชาวบ้านด้วย
"อีกประการ ตอนนี้นายข้าพักอยู่ ถ้าจะมาก็จงรู้เวลาด้วย"
ครืดด ปึง!
ประตูห้องทำงานหัวหน้าหน่วยสิบถูกเลื่อนปิดดังปังพร้อมกับเร็นจิที่ถูกลมพัดลิ่วกระเด็นมานั่งอยู่ด้านนอก ค้นพบเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะตามตัวจากเหงื่อของตนกำลังละลายเป็นน้ำหยดลงบนพื้นพร้อมกับร่างกายที่แปรปรวนจนเริ่มมึนหัว
"หลังจากนี้ไปพึ่งแอร์โลกมนุษย์ดีกว่า ขืนอยู่แบบนี้ได้เป็นไข้ตายแน่"
พอเริ่มบุกได้ก็มุ่งหน้าเดินกลับหน่วยของตัวเองไปรายงานหัวหน้าพร้อมกับคิดในใจว่าจะขอลาหยุดสักครึ่งวันลงไปโลกมนุษย์
"เอ้อ บอกให้รันงิคุเบิกงบลงไปซื้อแอร์ติดห้องหัวหน้าฮิตสึกายะสักตัวก็น่าจะดี"
ก่อนหน้านี้โซลโซไซตี้ไม่เคยต้องมีอุปกรณ์พวกนี้เพราะยมทูตมีร่างกายที่ทนทานกว่ามนุษย์อยู่มากโขและยังคงยึดถือธรรมเนียมเก่า ไม่เอาอะไรใหม่ที่ไม่จำเป็นเข้ามา
..แต่ตอนนี้อาจจะจำเป็นขึ้นมาแล้วก็ได้
.
"เราจะไปที่หน่วยสิบกันเซ็มบงซากุระ"
คุจิกิ เบียคุยะ ได้รับรายงานจากรองหัวหน้า อาบาไร เร็นจิแล้ว ดูเหมือนว่าเขาควรจะเข้าไปพูดคุยด้วยตัวเองพร้อมกับซัมปาคุโตของตนเอง
เวลาของวันนี้มีไม่มาก ถ้าไปก็ต้องรีบไปตอนนี้
การเดินทางของหัวหน้าหน่วยที่หกพร้อมกับซัมปาคุโตของเขาในร่างแปลงเป็นที่ฮือฮามากในหน่วยที่สิบ ยกเว้นเพียงห้องทำงานห้องหนึ่งที่ยังสงบสุขไร้สัญญาณรบกวน ฮิตสึกายะ โทชิโร่ที่ยังคงงีบหลับพักผ่อนอยู่จึงไม่รู้อะไรเลย
..น่าเสียดายที่เร็นจิลืมรายงานไปว่างหัวหน้าของหน่วยที่สิบกำลังพักผ่อนอยู่อย่าเพิ่งเข้าไปรบกวน
ครืดด
ทันทีที่เบียคุยะเลื่อนเปิดประตู ไอเย็นเยียบก็พวยพุ่งออกมาจนรู้สึกหน้าชา ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อไอหมอกเย็นจางหายก็ทำให้เห็นฮิตสึกายะ โทชิโร่ ที่อยู่ในสภาพไม่พร้อมเจรจา
"หลับอยู่รึ"
"บังอาจเรียกนายข้ามาถึงที่ แต่หลับนอนขี้เกียจตัวเป็นขนเช่นนี้รึ สามหาวยิ่งนัก!"
เซ็มบงซากุระอารมณ์ขึ้นเร็วไม่ต่างกับคุจิกิ เบียคุยะในวัยเด็ก ทันทีที่เห็นสายตาเย็นชาไม่ต้อนรับของเฮียวรินมารุ จากห้องทำงานที่มีไอน้ำแข็งก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนกลีบดอกซากุระปลิวว่อนพร้อมเชือดเฉือนฝ่ายตรงข้าม
"จงโปรยปราย!--"
ลมกรรโชกแรงเมื่อกลีบดอกซากุระเริ่มหมุนวนเป็นพายุลูกใหญ่หอบเอากระดาษเอกสารปลิวว่อนเต็มห้อง เก้าอี้โคลงจนฮิตสึกายะ โทชิโร่ ที่เอนพิงเก้าอี้หลับอยู่นั้นหัวหล่นเกือบฟาดพื้น
แต่เฮียวรินมารุเร็วกว่า เข้าไปประคองเจ้านายของตนได้ทันเวลาพร้อมส่งสายตาอาฆาตปะทะกับเซ็มบงซากุระที่พร้อมเอาเรื่อง พลันฟ้าแลบแปลบปลาบเริ่มมีเมฆครึ้มทะมึนกลางแดดจ้าอย่างไร้สาเหตุ
"หยุด พอได้แล้ว" เบียคุยะรีบก้าวออกมากางแขนกั้นเป็นเชิงห้ามซัมปาคุโตของตน
"เจ้านั่นไม่มันให้ความเคารพต่อนายท่านสักนิดเดียว!"
เบียคุยะเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองคิดผิดมหันต์ ว่าการเอาเซ็มบงซากุระมาจะทำให้เข้าทางเฮียวรินมารุได้ง่ายขึ้น ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนต้องมาห้ามเด็กที่จะพังบ้านทั้งหลังจากการทะเลาะกัน แทนที่จะได้ทำงานของตนให้ลุล่วง
"ช่างเถอะ ไว้ข้าจะส่งจดหมายมาแทน" เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะลากเซ็มบงซากุระออกมาตามกัน
ตอนที่เดินกลับออกมาฟ้ากลับมาสว่างร้อนแดดเหมือนเดิมแล้ว
คุจิกิ เบียคุยะผู้ไม่โปรดปรานอากาศร้อนได้แต่นึกกับตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าแดดร้อนๆ นี่จะสามารถทำให้โล่งใจได้เหมือนกัน..
เรื่องที่ต้องหารือคุจิกิ เบียคุยะลงความเห็นว่าไม่สำคัญมากพอที่จะต้องไปเจรจาอีกรอบ จึงตัดสินใจทั้งหมดและเขียนเป็นเอกสารให้เซ็นว่าเห็นด้วยหรือไม่แทน และเอกสารก็ถูกส่งไปถึงมือในวันต่อมาด้วยผู้ส่งสารที่เบียคุยะไตร่ตรองว่าดีที่สุดตามเวลาเดิม
ครืดด
"มีเอกสารให้หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ที่สิบเจ้าค่ะ" เสียงหญิงสาวผู้มาใหม่นุ่มนวลน่าฟังกว่าเป็นไหนๆ ไม่มีแม้แต่อาการสั่นเพราะความหนาว
"จากบุรุษเจ้าของเซ็มบงซากุระ?"
"ใช่ค่ะ จากท่านพี่ข้าเอง"
โซเดะโนะชิรายูกิเดินเหินได้สบายๆ ในสภาพอากาศจุดเยือกแข็งดังนั้นอุณหภูมิใกล้เคียงกับขั้วโลกเหนือจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา เช่นเดียวกันกับลูเคียที่พลันเข้าใจขึ้นมาทันที ว่าทำไมท่านพี่ถึงบอกให้เขาเอาเอกสารแผ่นนี้มาส่งถึงมือด้วยตัวเองพร้อมกับดาบฟันวิญญาณเท่านั้น
ลูเคียเหลือบมองหัวหน้าฮิตสึกายะที่กำลังหลับลึกอยู่บนตักเฮียวรินมารุแทนที่จะนั่งทำงานเช่นยามปกติ พอเฮียวรินมารุเห็นเข้าก็ยกมือลูบหัวเจ้านายตนอย่างราวกับกล่อมเด็กทำให้ลูเคียที่กำลังมองอยู่มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
อยากจะถามแต่ก็กลัวจะก่อเรื่องจากที่ท่านพี่กำชับไว้..
"ดูเหมือนว่าเจ้านายของเฮียวรินมารุจะพักผ่อนได้เยอะกว่าปกตินะเจ้าคะ" โซเดโนะชิรายูกิถามออกไปรู้ใจลูเคีย ส่วนลูเคียก็ได้แต่ภาวนาว่าจะไม่มีเรื่องใหญ่อะไรตามมา
"สองวันที่ผ่านมานี้ข้าช่วยงานนายข้าอย่างขันแข็ง เพราะอยากให้นายข้าได้พัก ปกติเห็นจะทำงานตลอดเวลาพยายามอยู่เสมอจนข้าอดเป็นห่วงมิได้"
"เป็นช่วงเวลาที่ดีสินะคะ"
"ใช่ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่พอออกมาแล้วนายข้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะสั่งให้ข้ากลับไปในสภาพดาบเลย"
"มีความสุขมากนะนั่น คนอื่นเลยไม่กล้าอยู่ด้วยเลย.." ลูเคียได้ยินแล้วก็เผลอปากบ่นออกมา จะรีบตะครุบปากเอาไว้ก็ไม่ทันเสียแล้ว
"ผู้อื่นที่ว่านั่นเจ้าหมายถึงผู้ใด" สายตาที่เฮียวรินมารุมองผู้อื่นนอกจากนายตนช่างเย็นชา แต่ลูเคียก็ไม่คิดอะไรนอกจากโชคดีที่เธอไม่ได้อยู่ในจำพวกคนที่เฮียวรินมารุเกลียด
"หากเจ้าหมายถึงยมทูตที่มีตำแหน่งทว่าช่วยงานนายข้าไม่ได้เรื่องเทียบเท่าข้า เจ้าพวกนั้นล้วนเป็นยมทูตไร้ประโยชน์ทั้งนั้น"
"อ่า ข้าเข้าใจแล้ว.." ลูเคียรู้สึกเสียวสันหลังแทนคนที่อยู่ในจำพวกยมทูตไร้ประโยชน์ของเฮียวรินมารุ
คาดว่ายมทูตที่เฮียวรินมารุหมายถึงพวกนั้น ลาพักร้อนเร็วขึ้นและมุ่งไปโลกมนุษย์ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้หัวหน้าฮิตสึกายะรู้เรื่องหรือยัง...อย่าน้อยเธอก็ควรจะบอกให้เขารู้รึเปล่านะ?
"พวกเจ้ายังไม่เสร็จธุระอีกหรือ"
เฮียวรินมารุถามน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทว่าลูเคียก็สัมผัสได้ว่าเขาอยากให้เธอและซัมปาคุโตของเธอออกไปโดยเร็ว
"ข้าขอเขียนฝากข้อความเพิ่มอีกนิดเดียวเดี๋ยวข้าก็ไปแล้ว ไม่ต้องห่วง" ลูเคียเขียนข้อความลาไปโลกมนุษย์ให้รันงิคุอย่างรวดเร็วพร้อมกับเรียกโซเดโนะชิรายูกิให้ออกไปพร้อมกัน
"แล้วพบกันใหม่เจ้าค่ะ" อาจจะเป็นเพราะซัมปาคุโตของเธอเป็นธาตุเดียวกันกับของหัวหน้าฮิตสึกายะจึงไม่ถูกเขม่น เธอรู้สึกโล่งใจเหลือเกินที่มีโซเดโนะชิรายูกิ
"รบกวนเจ้าปิดประตูเบาๆด้วย ข้าไม่อยากให้นายข้าตื่น"
"..เจ้าค่ะ"
ช่างเป็นซัมปาคุโตที่ไม่สนใครหน้าไหนนอกจากหัวหน้าของตนเลยจริงๆ..
.
ณ บ้านหลังหนึ่งในเมืองคาราคุระ
"ไปอยู่ห้องเดียวกับเฮียวรินมารุก็น่าจะดีไม่ใช่เหรอ ญี่ปุ่นร้อนจะตายอยู่แล้ว" อิจิโกะเกาหัวแกรก
ญี่ปุ่นอากาศร้อนกับหนาวต่างกันสุดขั้ว หน้าหนาวก็ลงซะติดลบ แต่ทันทีที่แตะเดือนเมษาเข้าหน้าร้อน กราฟความร้อนก็พุ่งปรี๊ดแตกต่างจากเดิมเกิน 80% ดังนั้นมีห้องเย็นให้อยู่ก็น่าจะดีไม่ใช่เหรอ?
"ไม่ ไม่ดีเด็ดขาดเลย!" เร็นจิสั่นหัวดิกทำหน้าเหมือนเห็นผี
"ร้อนก็ไม่ได้เย็นก็ไม่ดี เซ้นซิทีฟเหมือนผู้หญิงเลยนะเร็นจิ" อิจิโกบ่นล้อเลียนในขณะที่ขยับตัวหลบฝ่าเท้า
"ยังไงก็ไม่เข้าใจหรอก" รันงิคุถอนหายใจเฮือกใหญ่และพูดต่อ
"เย็นขนาดขั้วโลกเหนือใครจะไปอยู่ได้ ยิ่งเห็นสายตาของคนสร้างห้องน้ำแข็งนั่นนะ...โห ขนาดข้าที่เป็นรองหัวหน้าหน่วยยังไม่อยากจะอยู่เลย มีแค่หัวหน้าเท่านั้นแหละที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเล้ยย"
"เอ้อใช่ แล้วก็อย่าลืมพาพวกข้าไปดูร้านขายแอร์ด้วย ไอ้ตัวพวกนี้มันราคาสักกี่เยนเหรออิจิโกะ"
อิจิโกะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยังงงไม่หาย เขามองเพื่อนยมทูตที่ติดสอยห้อยตามลงมานอนตากแอร์ที่บ้านของตัวเองก็พาลคิ้วกระตุกไม่หยุด
อะไรมันจะแย่นักหนาห้องหัวหน้าหน่วยสิบสำหรับยมทูตระดับรองหัวหน้าอย่างพวกเขามันจะเป็นอะไรไป คนที่เป็นน่ะคือเขาต่างหาก
อยู่หลายคนเร่งแอร์ขนาดนี้ มันเปลืองโว้ยยยย!
夏を生き残る☀
"อยู่ให้รอดหน้าร้อนนี้"
- END -
01.04.2021
ย ยาว..โดดดองงานที่ต้องทำมาเขียนฟิคไปครึ่งวันตั้งแต่เที่ยงอู้มาเสร็จค่อนคืนทันพอดี5555
เพิ่งนึกได้ว่านี่มันวันเมษาหน้าโง่นี่นา!//ต่อให้คิดพล็อตใหม่ได้ก็ไม่ทัน;_; แต่หวังว่ารีดจะชอบตอนนี้เนอะ
ส่วนใครที่เป็นนักอ่านเงาก็เม้นได้เหมือนกันน้าา เอพริลฟูลส์เดย์ แกล้งๆเม้นหน่อยก็ได้ค่า--ฮ่าๆ//แห้ง
ปล.เราใช้ทั้งคำว่าซัมปาคุโตและดาบฟันวิญญาณ เขียนไปมากลัวรีดงง แค่จะมาบอกว่ามันคืออย่างเดียวกันนะคะ เราแค่เขียนรวดเดียวแล้วไม่มีแรงมานั่งเกลาภาษาอีกรอบเท่านั้นเอง...แต่ถ้าอันไหนอ่านขัดจริงๆก็บอกได้ค่า
ความคิดเห็น