คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : [The Gifter Academy] : Luel Versie
APPLICATION FORM
“ดวงดาว... ต่อให้แปดเปื้อนเพียงใดก็อยู่บนผืนฟ้า ผืนดิน... ต่อให้งดงามซักเพียงใด ก็อยู่ได้เพียงแค่เบื้องล่างเท่านั้น”
บท : นักเรียนห้อง A บ้านแบล็คดราก้อน
ABOUT ME
ชื่อ-นามสกุล : Luel Versie (ลูเอล เวอซายส์)
ชื่อเล่น : El (เอล), Luel (ลูเอล)
อายุ : 17 ปี
ชั้นปี : 1
รูปร่างหน้าตา : เด็กชายร่างเล็ก เอวบางและไหล่แคบ ผิวสีขาวนวล เส้นผมสีฟ้าอ่อน ดวงตาสีชมพูม่วง สูง 167 cm. หนัก 51 kg.
นิสัย :
-สดใสก็ไม่ใช่ โศกเศร้าก็ไม่เชิง
เอลเป็นคนที่มีสีหน้าที่ดูอ่อนโยนและสดใสอยู่ตลอดเวลา เสียงที่อ่อนหวานและแววตาที่ดูอ่อนโยน ทว่าทุกอย่างที่เขาทำ ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม การหัวเราะ ดวงตาที่จ้องมอง ความรู้สึกที่หนักหน่วงราวกับคนที่ไม่เคยมีความสุขจริงๆซักครั้งในชีวิต
-ให้ความรู้สึกที่อ่อนโยน ทะนุถนอม
เอลเป็นคนที่ไม่ค่อยออกแรงหรือใส่อารมณ์มาก เหมือนกับสายน้ำที่ไหลไปช้าๆหรือราตรีอันเงียบสงบ ทุกการกระทำของเขาสื่อให้เห็นถึงความใจเย็น ความอ่อนโยนและความเอาใจใส่
-เห็นความสุขของคนอื่นสำคัญกว่าตัวเอง โกรธใครไม่เป็น
ชอบช่วยเหลือและให้กำลังใจคนอื่นอยู่บ่อยๆ แต่มักจะปล่อยปัญหาของตัวเองแบบผ่านๆและไม่ค่อยบอกกับใคร ถ้ามีอะไรจะเก็บเงียบไว้กับตัวเองเพียงอย่างเดียวและไม่ค่อยแสดงออกให้คนรอบข้างรู้ และเอลนั้นโกรธหรือเกลียดคนอื่นไม่เป็น
-ชอบอ่านหนังสือ บรรยากาศที่ไม่อึกทึกอึกโครม ความสงบ
เอลเป็นคนที่พูดเพียงพอประมาณ พูดเสียงไม่ดังจนเกินไป แม้แต่เสียงร้องตกใจยังเบาอย่างน่าเหลือเชื่อ เอลมักจะอ่านหนังสืออยู่บ่อยๆ โดยส่วนมากเขามักจะชอบอ่านพวกบทกวีที่มีเนื้อหาค่อนข้างดาร์ค ดราม่า เจ็บปวด
-ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
เอลเป็นพวกที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่นัก แต่เขาไม่ค่อยแสดงออกมาเป็นอาการลนลาน แต่จะเป็นการเอาแต่คอยฟังและทำตามคนอื่น โดยความจริงแล้วเขาเป็นคนที่ฉลาดมาก แต่ว่าเขาไม่เคยคิดว่าไอเดียของเขานั้นดีเลยแม้แต่น้อย เขาจึงไม่ค่อยเสนอสิ่งที่ตัวเองคิดและทำตามแต่สิ่งที่คนอื่นบอกเท่านั้น
-ร่างกายอ่อนแอ แพ้อากาศหนาว
ร่างกายของเอลนั้นอ่อนแอมาก อ่อนแอเสียจนถึงขั้นที่สู้แรงผู้หญิงบางคนไม่ได้ด้วยซ้ำ และเอลนั้นเป็นคนที่หนาวง่ายมากๆ เขาจึงมักจะใส่เสื้อแขนยาวตัวหนาทับอีกชั้นไว้เสมอ มีความเป็นตัวถ่วงสูง เพราะอ่อนแอและสู้ใครไม่เป็น
-ยอมแพ้ง่าย ไม่มีความพยายาม
อะไรที่ไม่ใช่เขาก็ไม่ฝืน เป็นคนที่ไม่มีความพยายามเท่าไหร่นัก ไม่มีแรงจูงใจในชีวิตเสียเท่าไหร่ ใช้ชีวิตอย่างผ่านๆ ไม่มีเป้าหมายในชีวิต มีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่นเท่านั้น เนื่องจากไม่เคยมองมีใครมองเห็นคุณค่าจริงๆในตัวเขา และเขาก็ไม่เคยมองเห็นมัน
-คนที่ปิดบังเก่งที่สุด ก็คือคนที่ทำตัวปกติที่สุด
การมองเพียงแค่ครู่เดียวของเอลก็สามารถดูออกได้แล้วว่าใครมีปัญหาอะไรปิดบังไว้หรือเปล่า เนื่องจากเขาเข้าใจในคนที่พยายามปิดบังทุกอย่างดีเหมือนกับตัวเขาในอดีต ไม่สิ แม้แต่ตัวเขาในตอนนี้ ก็คือคนที่ปิดบังอดีตและความขมขื่นทั้งหมดเอาไว้ตัวคนเดียว
-ไม่มีความทุกข์...และไร้ซึ่งความสุข
แม้จะทำตัวเหมือนคนปกติ แต่สภาพจิตใจของเอลนั้นไม่ค่อยปกติเหมือนคนอื่น เขาเป็นคนที่เมินเฉยต่อความทุกข์จนชินกับมัน ในขณะเดียวกัน เขาก็ลืมคำว่าความสุขไปเสียแล้ว เอลนั้นจดจำช่วงเวลาที่เขามีความสุขไม่ได้...หรือบางทีเขาอาจจะไม่เคยมีมันเลยมาก่อนเลยก็เป็นได้ ทุกสิ่งที่เขาทำอยู่เป็นเพียงอารมณ์จอมปลอมเท่านั้น
-ไม่ตัดสินคนอื่นเพียงผิวเผิน แต่ตัดสินตนเองเพียงผิวเผิน มองคนอื่นอย่างลึกซึ้ง แต่กลับมองตนเองเพียงเปลือกนอก
เอลเป็นคนที่พยายามมองและเข้าใจในตัวตนของคนอื่น และมองว่าพวกเขานั้นเป็นตัวตนที่ดี กลับกัน เขาไม่เคยมองตัวเองในแง่ดีเลยซักครั้ง ชอบบอกว่าตัวเองอ่อนแอ เป็นตัวถ่วง ไม่เหมือนผู้ชาย และตัดสินว่าตัวเองนั้นผิดมาตั้งแต่เกิด
-ชอบเวลากลางคืนมาก ชอบตากลมและมองท้องฟ้าในยามตรี
เอลชอบความสงบในตอนกลางคืน ช่วงเวลาที่สงบ สายลมที่พัดผ่านช้าๆ แม้จะหนาวไปบ้างแต่เขาก็ชอบมัน เขาจึงมักจะตื่นในช่วงเวลากลางคืนเป็นส่วนใหญ่จนทำให้มีปัญหาสุขภาพเรื่องการนอนดึก
ความชอบ-เกลียด : ชอบ - ความอบอุ่น, การอ่านหนังสือ, ช่วงเวลากลางคืน
เกลียด - เพราะชินกับการเป็นผู้ถูกกระทำ เลยไม่มีความรู้สึกเกลียดหรือแค้นเป็นพิเศษ *ยกเว้นแต่ถ้ามีคนรัก จะไม่ค่อยชอบพวกที่เข้ามาเกาะแกะกับคู่ตัวเองเท่าไหร่นัก (ยันดีๆนี่เองแหละครับ...)
ประวัติ : ตั้งแต่เกิดมา ความรักและความอ่อนโยนที่เขาได้สัมผัสนั้นมีอยู่เพียงช่วงเดียว คือช่วงวัยทารกที่เขาไม่อาจจะจำความได้ เมื่อเอลได้เจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ พ่อและแม่ของเขาได้พบกับความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นร่างกายที่ค่อนข้างอ่อนแอ ผิวขาวนุ่ม ใบหน้าที่ดูไม่ค่อยเหมือนเด็กผู้ชายเท่าไหร่นัก ยิ่งเติบโตขึ้นก็ยิ่งเด่นชัด ความอ้อนแอ้นของเขา ใบหน้าที่ดูอ่อนหวานเกินไปของเขานั้นทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกไม่พอใจ รวมถึงแม่ของเขาด้วยเช่นกัน ในฐานะที่เขาเป็นลูกคนแรก และยังเป็นเด็กที่กว่าจะให้กำเนิดมาได้ เนื่องจากแม่ของเขานั้นมีปัญหาตั้งครรภ์ได้ยาก สามีภรรยาจึงมีบุตรได้ช้ากว่าญาติของตน อีกทั้งบุตรคนแรกที่เกิดมายังมีบุคลิกผิดเพี้ยนไปจากเพศของตน จึงยิ่งทำให้ทั้งคู่รู้สึกอับอายขึ้นไปอีก
เอลได้ใช้ชีวิตในแบบที่ถูกเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นๆ ถูกล้อเลียน และผู้เป็นพ่อของเขานั้นพยายามปลูกฝังเขาให้เขาดูเหมือนผู้ชายอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรพวกเขาก็ไม่อาจฝืนร่างกายที่เกิดมาเพื่อเป็นแบบนี้ ท้ายที่สุด ความพยายามที่ล้มเหลวหลายครั้งพาลให้กลายเป็นความเกลียดชัง ในวัย 6 ขวบของเอล เอลได้ถูกพ่อของเขาทิ้ง และพาตัวเขาไปอาศัยอยู่กับคนรู้จักของพ่อเขาแทน และที่นั่นก็ไม่ใช่สถานที่ที่ดีเลยซักนิดเดียว...
สถานที่ที่เอลได้ไปใช้ชีวิตนั้นคือที่ที่รวบรวมเด็กไว้หลายคน ทั้งเด็กกำพร้าหรือเด็กที่ถูกทิ้ง โดยจุดหมายของที่นี่ก็คือการเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตเป็นกิฟเตอร์ที่แข็งแกร่ง เพื่อนำพาผลประโยชน์มาหาผู้ที่ฝึกสอนพวกเขาหรือก็คือสถานที่แห่งนี้ ทั้งการฝึกร่างกาย จับคู่สู้กันเอง หากทำได้ดีก็จะได้รับห้องนอนและอาหารดีๆ แต่หากทำได้ไม่ดี ก็จะได้ห้องนอนโทรมๆและอาหารเก่าๆแทน และแน่นอนว่าความอ่อนแอของเอลนั้นเป็นที่ประจักษ์ตั้งแต่วันแรก เขาถูกเอาชนะ ถูกกลั่นแกล้ง และถูกเหยียดหยามโดยเด็กคนอื่นๆ
จนกระทั่งวันที่ชีวิตของเอลได้พลิกผัน เนื่องจากเขาได้พบคุณสมบัติของกิฟต์ของเขา คุณสมบัติเฉพาะตัวที่หาได้ยากในบรรดาเหล่าเด็กๆที่ถูกส่งตัวมา นั่นก็คือ พลังในการ"มอบ"มานาของตนให้กับคนอื่น โดยกิฟต์สายสนับสนุนอย่างการรักษานั้นยังพอมีคนหลายคนที่ครอบครอง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา กิฟต์ที่สามารถเพิ่มพูนมานาให้คนอื่นได้นั้นเรียกได้ว่าหายาก ด้วยความสามารถนี้ เอลไม่จำเป็นจะต้องถูกทดสอบเหมือนคนอื่นๆ เขาสามารถนอนในที่สบายๆ และทานอาหารชั้นเลิศได้ตลอดเวลา จากคนอ่อนแอกลายเป็นคนพิเศษในชั่วข้ามคืน นำพาความอิจฉามาสู่บรรดาเด็กคนอื่นๆ จนทำให้ทุกคนพาลเกลียดเขาไปเสียหมด
ทุกวันในชีวิตของเอลนั้นรู้สึกเปล่าเปลี่ยว ไม่มีความรักจากใคร มีเพียงการหวังผลประโยชน์ และความอิจฉาเท่านั้นที่เขาได้รับในทุกๆวัน เขาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความรู้สึกเหล่านั้น พยายามเมินและไม่ใส่ใจมัน จนกระทั่งในที่สุด เขาก็ได้ชินชากับมัน ชินชากับการถูกคนอื่นมองในแง่ร้าย ชินชากับการถูกเกลียด ถูกนินทา เขาไม่ได้รู้สึกทุกข์หรือเดือดร้อนกับมันอีกต่อไป ในขณะเดียวกัน เอลนั้นได้สูญเสียตัวตนในอดีตของตนไปจนหมดเช่นกัน รวมถึงเป้าหมายในการมีชีวิตด้วย...
สเป็ค : ชอบคนที่ปากร้าย ทำตัวก้าวร้าว แต่เป็นคนดีและแอบห่วงคนอื่นอยู่บ้าง(แนวๆซึนเดเระก็ว่าได้) ตัวสูงและเข้มแข็งกว่าตัวเอง ไม่ค่อยสนใจเรื่องเพศเท่าไหร่ ไม่ค่อยเข้าหาก่อนและดูท่าทีอีกฝ่าย ถ้าไม่เห็นแววว่าอีกฝ่ายจะชอบตนก็เททิ้งทันที ไม่ตอแย
STATUS
กิฟต์ : อ้อมกอดของรัติกาล พลังมืดที่มีความสามารถในการควบคุมมานา ผู้ที่ถือครองจะมีการฟื้นฟูมานาที่ไวกว่าคนปกติ ทว่าร่างกายจะอ่อนแอกว่าคนทั่วไป [เมื่อใช้มานาเกิน 5 จุด จะทำการฟื้นฟูมานา 8 จุดภายในเวลา 15 นาที มีเวลาเว้นช่วง 30 นาที] และสามารถโอนถ่ายมานาให้คนอื่นได้ [1 จุดต่อการโอนถ่ายมานา 1 จุด] ผู้ที่ได้รับมานาจะได้รับการฟื้นฟูความเหนื่อยล้า มีคูลดาวน์ 10 นาทีหลังโอนถ่ายเสร็จ
สกิล :
สายลมคำสาป :: [3 จุด] โจมตีด้วยลมหนาวสีม่วงดำ มีพลังทำลายน้อยมาก แต่ผู้ที่ถูกโจมตีจะอ่อนแอและเชืองช้าลง มีคูลดาวน์ 5 วินาที
นภารัติกาล :: [4 จุด] คลุมพื้นที่ด้วยม่านพลังสีดำ ป้องกันการมองเห็นและการตรวจจับของศัตรู
ศรสาปพิฆาต :: [4 จุด] ยิงลูกศรสีดำขนาดใหญ่ใส่ศัตรู หากศรผลักใส่ศัตรูติดกำแพงจะทำให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวไม่ได้ชั่วครู่หนึ่ง ศัตรูที่ถูกศรปักจะได้รับความเสียหายจากการโจมตีมากขึ้น
สกิลผู้พิชิต : รัติกาลทมิฬ :: [8 จุด] สร้างโดมสีม่วงกดร่างของศัตรูไว้ชั่วครู่และสูบมานาออกจากร่างทั้งหมด มานาจะลอยค้างอยู่กลางอากาศและค่อยๆกลับเข้าร่างเจ้าของเดิมภายใน 3 นาที หากใช้มานาไปจะทำให้มานาทั้งหมดจะระเบิดออกและนับเวลาฟื้นฟูใหม่อีกครั้ง (เป็นสกิลเป้าเดียว) ในระหว่างที่ติดผลจากสกิลนี้อยู่ ยิ่งอีกฝ่ายมีมานาน้อยร่างกายจะยิ่งอ่อนแอลง คูลดาวน์ 60 นาที
ค่ามานา : 20 จุด
ความสามารถพิเศษ :
-เขียนกวีเก่ง
-ถักผ้าพันคอ เย็บผ้าได้ดี
-คิดแผนเก่ง ฉลาดหลักแหลม(แต่ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะไม่มั่นใจในตัวเอง)
-ช่างสังเกต มองเห็นในความมืดได้ดี
-อ่านหนังสือได้นานมาก จดจำรายละเอียดได้ดี
อาวุธ : ปืนพก (ถึงเจ้าตัวจะเล็งได้กา..กมากก็เถอะ...)
เพิ่มเติม :
-ร่างกายของเอลจะโตช้ากว่าผู้ชายทั่วไป
-ที่ติดๆอยู่ตรงหัวนั่นคือที่คาดผมส่วนตัวเองครับ...
-ตอนแรกๆน้องจะเหมือนเคะน้อยรอรับ แต่ถ้าคบกันจริงๆแล้วน้องเป็นรุกนะครับ แถมค่อนข้างจะแรงนิดหน่อยเพราะมีปมเรื่องหน้าสวย...
ความคิดเห็น