คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : กว่าจะถึงปาไป 2ปี
มาจะกล่าวบทไป.......ไม่ใช่สิ
เราต้องมาเริ่มกันที่ประวัติของตัวผมสินะ บีสต์เสือขาวที่หล่อที่สุดในสายตาตัวเอง
ผมรู้นะว่าคุณต้องคิดว่าผมไม่เต็มแน่ๆ ใช่อาจสติไม่เต็มจริง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
จุดเริ่มต้นของผมน่ะอย่างเท่เลย ในเวลาบ่ายอันร้อนแรงจนแทบไหม้ในตัวเมืองไอโซร่า
ที่เต็มไปด้วยอัญมณีมากมายมาเจอกับแสงอาทิตย์
ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะสะท้อนแสงออกมาได้ดีขนาดไหน
ทำให้กิจกรรมที่ผมควรทำที่สุดในเวลานี้คือการนอนอยู่เฉยๆบนเตียงให้เหงื่อออกเล่น
แต่ด้วยความอยู่ไม่สุขของผมดลบันดาลให้ผมออกไปเดินเล่นในตัวเมือง เพื่อสำรวจตลาด
อ่า...ผมลืมบอกไปสินะว่าครอบครัวผมประกอบอาชีพนักออกแบบเครื่องประดับ
แม้ร้านของเราจะไม่ใหญ่มาก แต่ผลงานที่ขายทุกชิ้นจะถูกทำด้วยมือของแม่ผมเชียวนะ
โดยตอนนี้ก็มีผมที่คอยช่วยออกแบบและทำขายด้วย ส่วนพ่อของผมน่ะเหรอเป็นนักบัญชีให้กับร้านนี่แหละ
เห็นรึยังว่าธุรกิจครอบครัวขนาดไหน
อยู่มาวันหนึ่งแม่ผมก็เรียกผมไปคุยเรื่องอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าจริงจังมาก
แบบที่ทำให้ผมรู้สึกหวั่นๆเล็กน้อย
นานทีแม่ผมจะจริงจังขนาดนี้นะเนี่ยนอกจากเวลาบ่น
“เคซิล ตอนนี้ลูกก็อายุได้ 18ปีแล้ว ควรจะออกไปหาประสลการณ์นอกบ้านบ้าง
ชีวิตวัยรุ่นของเรามีครั้งเดียวต้องใช้ให้คุ้มสิ” แม่พูดพร้อมกับตบบ่าผม
ผมรับฟังด้วยสีหน้าที่กำลังคิดตาม
สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ว่าเราควรจะหาความสนุกนอกบ้านให้ป่วนไปเลย
“แม่ครับ
ถ้าผมไม่อยู่ขึ้นมาอย่าบ่นว่าเหงาก็แล้วกัน” ขยิบตาส่งให้อย่างล้อเลียน
จนได้รางวัลมาเป็นมะเหงกหนึ่งลูกถ้วน
“ผมบอกไว้เลยนะ ถ้าไม่ถึง25ผมจะยังไม่กลับบ้านแน่ ไปบอกพ่อก่อนดีกว่า”
รีบวิ่งหนีไปหาพ่อด้วยความเร็วแสง ก่อนที่แม่จะแจกรางวัลอีกรอบ
หลังจากนั้น 2-3วัน
ผมก็ออกเดินทางโดยมีเป้าหมายคือกิลด์สักอย่างที่แม่บอกมานี่แหละ ระหว่างการเดินทางไปก็ถือว่าเป็นผลกำไรละกัน
พร้อมกับหาวัตถุดิบใหม่ๆมาทำงานด้วย
ผมตะลอนไปทั่วพบเจอผู้คนมากมายทั้งเพื่อนใหม่ที่แสบไม่แพ้กัน
ประสบการณ์สนุกสนานที่ทำด้วยกันอย่างการรวมหัววางแผนไปวางระเบิดค่ายโจรกลางป่า
สุดท้ายก็ต้องวิ่งหนีโจรไปปะหมาป่า แทบเอาตัวไม่รอด
จนคิดได้ว่าตัวเองคงต้องไปหาอาวุธดีๆสักชิ้นหลังจากใช้แต่เขี้ยวเล็บตัวเองมานาน
ผมจึงมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองเฮลิโอโทรปที่จะต่อไปยังเมืองพิโอนี่ที่ตั้งกิลด์ที่แม่บอกมาเมื่อประมาณหนึ่งปีที่เดินทางมา
สิ่งแรกที่ทำหลังจากเข้าเมืองหลวงมาได้คือการอาบน้ำ
และนำของที่ทำระหว่างว่างๆตอนเดินทางไปขาย
เห็นอย่างนี้ผมก็มีฝีมือการทำเครื่องประดับพอตัวนะ
สุดท้ายคือการหาซื้ออาวุธตามที่ตั้งเป้าไว้
ผมเดินมาตามทางเรื่อยๆจนมาเจอตรอกลึกลับแห่งหนึ่ง
มีพ่อค้าตั้งแผงอยู่ในนั้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้ผมเดินเข้าไปดูของบนแผงนั่น
แล้วก็พบกับอาวุธหน้าตาธรรมดาทั่วไปวางอยู่หลายชนิดบนผ้าเก่าๆที่ยิ่งทำให้ของดูไม่มีราคามากขึ้น
“นี่พ่อค้า
นึกยังไงมาขายของในนี้เนี่ย บางทีก็ลึกลับไปหน่อยนะ”
เอ่ยแซวพ่อค้าด้วยรอยยิ้มพรายบนใบหน้าอย่างต้องการจะแซว
“ของดีก็มักหายากเป็นธรรมดาหรอก อย่างกรงเล็บนี่ก็สามรารถปรับขนาดความยาวได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ
ดาบที่เจ้ามองก็สามารถแยกออกมาได้เป็นหลายเล่ม”
ผมมองพ่อค้าที่เสนอขายของด้วยสายตาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
แต่ผมก็ซื้อดาบคาตะนะที่ความสามารถหลังคือแยกออกมาเป็นหลายเล่มนั่นมาจนได้
เห็นว่าลดราคาให้เยอะหรอกนะเลยซื้อ แต่ความสามารถอื่นนี่สิผมคงต้องค้นหาเองต่อไป
หลังจากสาธยายการเดินทางผมมาแบบกระชับ
และรวบรัดตัดตอนมา เพราะ ถ้าผมเล่าอย่างละเอียดไปละก็ภาพพจน์ที่ผมสะสมมาอย่างยากลำบากคงไม่เหลือกันพอดี
แต่ละอย่างที่ไปป่วน...แค่กๆ ไปผจญภัยร่วมกับสหายระหว่างทางมีแต่การทำความดี(?)ทั้งนั้นเลย
ในที่สุดผมก็เดินทางมาถึงกิลด์ที่ท่านแม่ที่เคารพรักขับไล่ไสส่งมาด้วยความรัก
ผมแหงนมองความใหญ่โตอย่างอึ้งเล็กน้อย
ความสนุกมันต้องแปรผันตรงกับขนาดตัวตึกแน่ๆเลย
ไม่รู้หรอกนะว่าตอนนั้นผมยิ้มออกมาแบบไหน แต่คนที่มองเห็นนี่ดูจะหน้าหวาดผวาอย่างประหลาด
แล้วรีบเดินหนีไป ผมว่าผมออกจะหล่อหน้าตาดี มีแต่คนรุมล้อม
“เคซิลมาแล้ว ความสนุกรอก่อนนะ”
ความคิดเห็น