ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SecretRoom's whiteTiger

    ลำดับตอนที่ #12 : กว่าจะถึงปาไป 2ปี

    • อัปเดตล่าสุด 27 ส.ค. 58


              มาจะกล่าวบทไป.......ไม่ใช่สิ เราต้องมาเริ่มกันที่ประวัติของตัวผมสินะ บีสต์เสือขาวที่หล่อที่สุดในสายตาตัวเอง ผมรู้นะว่าคุณต้องคิดว่าผมไม่เต็มแน่ๆ ใช่อาจสติไม่เต็มจริง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น จุดเริ่มต้นของผมน่ะอย่างเท่เลย ในเวลาบ่ายอันร้อนแรงจนแทบไหม้ในตัวเมืองไอโซร่า ที่เต็มไปด้วยอัญมณีมากมายมาเจอกับแสงอาทิตย์ ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะสะท้อนแสงออกมาได้ดีขนาดไหน ทำให้กิจกรรมที่ผมควรทำที่สุดในเวลานี้คือการนอนอยู่เฉยๆบนเตียงให้เหงื่อออกเล่น แต่ด้วยความอยู่ไม่สุขของผมดลบันดาลให้ผมออกไปเดินเล่นในตัวเมือง เพื่อสำรวจตลาด อ่า...ผมลืมบอกไปสินะว่าครอบครัวผมประกอบอาชีพนักออกแบบเครื่องประดับ แม้ร้านของเราจะไม่ใหญ่มาก แต่ผลงานที่ขายทุกชิ้นจะถูกทำด้วยมือของแม่ผมเชียวนะ โดยตอนนี้ก็มีผมที่คอยช่วยออกแบบและทำขายด้วย ส่วนพ่อของผมน่ะเหรอเป็นนักบัญชีให้กับร้านนี่แหละ เห็นรึยังว่าธุรกิจครอบครัวขนาดไหน


                อยู่มาวันหนึ่งแม่ผมก็เรียกผมไปคุยเรื่องอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าจริงจังมาก แบบที่ทำให้ผมรู้สึกหวั่นๆเล็กน้อย นานทีแม่ผมจะจริงจังขนาดนี้นะเนี่ยนอกจากเวลาบ่น

                “เคซิล ตอนนี้ลูกก็อายุได้ 18ปีแล้ว ควรจะออกไปหาประสลการณ์นอกบ้านบ้าง ชีวิตวัยรุ่นของเรามีครั้งเดียวต้องใช้ให้คุ้มสิ” แม่พูดพร้อมกับตบบ่าผม ผมรับฟังด้วยสีหน้าที่กำลังคิดตาม สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ว่าเราควรจะหาความสนุกนอกบ้านให้ป่วนไปเลย

                “แม่ครับ ถ้าผมไม่อยู่ขึ้นมาอย่าบ่นว่าเหงาก็แล้วกัน” ขยิบตาส่งให้อย่างล้อเลียน จนได้รางวัลมาเป็นมะเหงกหนึ่งลูกถ้วน

                “ผมบอกไว้เลยนะ ถ้าไม่ถึง25ผมจะยังไม่กลับบ้านแน่ ไปบอกพ่อก่อนดีกว่า” รีบวิ่งหนีไปหาพ่อด้วยความเร็วแสง ก่อนที่แม่จะแจกรางวัลอีกรอบ

                หลังจากนั้น 2-3วัน ผมก็ออกเดินทางโดยมีเป้าหมายคือกิลด์สักอย่างที่แม่บอกมานี่แหละ ระหว่างการเดินทางไปก็ถือว่าเป็นผลกำไรละกัน พร้อมกับหาวัตถุดิบใหม่ๆมาทำงานด้วย ผมตะลอนไปทั่วพบเจอผู้คนมากมายทั้งเพื่อนใหม่ที่แสบไม่แพ้กัน ประสบการณ์สนุกสนานที่ทำด้วยกันอย่างการรวมหัววางแผนไปวางระเบิดค่ายโจรกลางป่า สุดท้ายก็ต้องวิ่งหนีโจรไปปะหมาป่า แทบเอาตัวไม่รอด จนคิดได้ว่าตัวเองคงต้องไปหาอาวุธดีๆสักชิ้นหลังจากใช้แต่เขี้ยวเล็บตัวเองมานาน ผมจึงมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองเฮลิโอโทรปที่จะต่อไปยังเมืองพิโอนี่ที่ตั้งกิลด์ที่แม่บอกมาเมื่อประมาณหนึ่งปีที่เดินทางมา


                สิ่งแรกที่ทำหลังจากเข้าเมืองหลวงมาได้คือการอาบน้ำ และนำของที่ทำระหว่างว่างๆตอนเดินทางไปขาย เห็นอย่างนี้ผมก็มีฝีมือการทำเครื่องประดับพอตัวนะ สุดท้ายคือการหาซื้ออาวุธตามที่ตั้งเป้าไว้ ผมเดินมาตามทางเรื่อยๆจนมาเจอตรอกลึกลับแห่งหนึ่ง มีพ่อค้าตั้งแผงอยู่ในนั้นอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้ผมเดินเข้าไปดูของบนแผงนั่น แล้วก็พบกับอาวุธหน้าตาธรรมดาทั่วไปวางอยู่หลายชนิดบนผ้าเก่าๆที่ยิ่งทำให้ของดูไม่มีราคามากขึ้น

                “นี่พ่อค้า นึกยังไงมาขายของในนี้เนี่ย บางทีก็ลึกลับไปหน่อยนะ” เอ่ยแซวพ่อค้าด้วยรอยยิ้มพรายบนใบหน้าอย่างต้องการจะแซว

                “ของดีก็มักหายากเป็นธรรมดาหรอก อย่างกรงเล็บนี่ก็สามรารถปรับขนาดความยาวได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ดาบที่เจ้ามองก็สามารถแยกออกมาได้เป็นหลายเล่ม” ผมมองพ่อค้าที่เสนอขายของด้วยสายตาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ผมก็ซื้อดาบคาตะนะที่ความสามารถหลังคือแยกออกมาเป็นหลายเล่มนั่นมาจนได้ เห็นว่าลดราคาให้เยอะหรอกนะเลยซื้อ แต่ความสามารถอื่นนี่สิผมคงต้องค้นหาเองต่อไป


                หลังจากสาธยายการเดินทางผมมาแบบกระชับ และรวบรัดตัดตอนมา เพราะ ถ้าผมเล่าอย่างละเอียดไปละก็ภาพพจน์ที่ผมสะสมมาอย่างยากลำบากคงไม่เหลือกันพอดี แต่ละอย่างที่ไปป่วน...แค่กๆ ไปผจญภัยร่วมกับสหายระหว่างทางมีแต่การทำความดี(?)ทั้งนั้นเลย

                ในที่สุดผมก็เดินทางมาถึงกิลด์ที่ท่านแม่ที่เคารพรักขับไล่ไสส่งมาด้วยความรัก ผมแหงนมองความใหญ่โตอย่างอึ้งเล็กน้อย ความสนุกมันต้องแปรผันตรงกับขนาดตัวตึกแน่ๆเลย ไม่รู้หรอกนะว่าตอนนั้นผมยิ้มออกมาแบบไหน แต่คนที่มองเห็นนี่ดูจะหน้าหวาดผวาอย่างประหลาด แล้วรีบเดินหนีไป ผมว่าผมออกจะหล่อหน้าตาดี มีแต่คนรุมล้อม

     

    “เคซิลมาแล้ว ความสนุกรอก่อนนะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×