ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [หอศิลา] Stone tower of elysia state

    ลำดับตอนที่ #12 : [oศิลาอักษร :E12:} พงศาวดารชาติพันธุ์

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 56






    Abyssinian
    ปีศาจแมว

    เป็นเผ่าพันธุ์ที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับคน��แต่ก็ยังคงความเย่อหยิ่งทรนงในตนเองและรักการผจญภัย
    สายลมอุ่นๆเป็นดั่งเพื่อนสนิท�ไม่ถูกกับอากาศหนาวเย็นเป็นที่สุด��
    โดยส่วนมากจะมีดวงตาสีทองเป็นประกายสวยงามยามเมื่อต้องแสงอาทิตย์
    หากพอตะวันลาลับจะเร้นกายอยู่ภายใต้ความมืดมิดของรัตติกาล

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์�
    เนื่องจากเผ่าปีศาจแมวนั้นรักสายลมและความอบอุ่น ดังนั้นจึงค่อนข้างจะเหมาะกับธาตุลมและไฟ เป็นพิเศษ

    ธาตุที่แพ้ทาง�
    น้ำและน้ำแข็ง เพราะเผ่าปีศาจแมวนั้นชอบอยู่ในที่ๆมีอากาศอบอุ่น��ดังนั้นน้ำและน้ำแข็งจึงถือเป็นสิ่งที่พวกเธอและเขาเกลียดมาก

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    ความเร็วดุจสายลม ร่างกายที่มีความยืดหยุ่นสูง มีสัญชาตญาณและประสาทรับรู้อันเฉียบแหลม สามารถกลายร่างเป็นแมวได้

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    เมื่อหลายร้อยปีก่อนได้มีต้นไม้พิศวงต้นหนึ่งเกิดขึ้นมาท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม
    ผู้ก่อตั้งรุ่นแรกเป็นเพียงแมวจรจัดที่พลัดหลงเข้าไปในป่าแห่งนั้น�
    ในขณะที่มันกำลังจะตายนั้นเองก็ได้มาเจอกับต้นไม้ต้นนี้เข้า
    มันปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อและสามารถต่อกรกับเหล่ามนุษย์หรืออสูรร้ายได้ พลันคำขอ�ร่างกายของมันกลับกลายเป็นมนุษย์
    แต่ยังคงมีหูและหางเพื่อแสดงถึงเผ่าพันธุ์เดิม��เมื่อแมวตนนั้นได้ไปบอกสหายของตนที่เป็นแมวจรจัดด้วยกัน

    มันมันก็พากันมาอ้อนวอนต่อต้นไม้พิศวงเพื่อที่จะได้กลายเป็นมนุษย์บ้าง คำอวยพรจากต้นไม้พิศวงนั้นทำให้แมวหลายร้อยตัว
    กลายร่างเป็นครึ่งคนครึ่งแมว��พวกเขาต่างตั้งรกรางอยู่บริเวณใกล้กับต้นไม้พิศวง

    คำบอกเล่านี้สืบสารมาจนถึงปัจจุบัน�ปีศาจแมวตนใดเมื่อมีอายุครบ�18�ปี จะได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ใหญ่
    และสามารถขอพรจากต้นไม้นี้ได้คนละครั้ง
    ไม่ว่าคำขอนั้นจะเป็นสิ่งใดก็สามารถทำให้มันเป็นจริงได้��
    ดังนั้นเหล่าเด็กหลายคนจึงเฝ้าฝันว่าจะได้โตเป็นผู้ใหญ่เสียที เพราะเด็กไม่มีสิทธิออกจากหมู่บ้าน�
    นั้นคือกฎเหล็กของพวกเขา…�แต่ครั้งหนึ่ง�กลับมีเด็กคนหนึ่งหายไปจากหมู่บ้านอย่างไม่ทราบสาเหตุ

    มหาสรรพาวุธของเผ่าพันธุ์
    คำอวยพรแห่งอาคาเดีย
    ต้นไม้พิศวงที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อมอบความปารถนาแก่พวกเขา��
    กิ่งก้านของมันสามารถนำมาสร้างเป็นอาวุธได้��ดอกของมันมีกลิ่นหอมหวานและช่วยเยียวยาจิตวิญญาณ
    ��
    ใบของมันมีไว้เพื่อเป็นยารักษาโรคต่างๆ
    ______________________________________________

    Animus
    สัตว์เทวะ (พันธะ)

    สัตว์ที่อสูรที่มีการวิวัฒนาการมาจากสัตว์อสูรทั่วไป�
    มีความสามารถทางกายและพลังเวทย์ในสายเวทย์นั้นๆที่สูง

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ๋
    ไม่มีธาตุชัดเจนที่เหมาะกับเผ่า�
    ขึ้นกับแต่ละตนว่าจะมีลักษณะอย่างไร

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ไม่มีธาตุชัดเจนที่เหมาะกับเผ่า
    ขึ้นกับแต่ละตนว่าจะมีลักษณะอย่างไร

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    สามารถใช้มหาเวทย์ได้

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    แรกเริ่มเดิมทีสัตว์เทวะนั้นมาจากสัตว์อสูรทั่วๆไป�
    แต่เพราะมีความสามารถและพลังเวทย์ที่เพิ่มสูงขึ้นจนเกินขีดจำกัดทางความสามารถของเผ่าสัตว์อสูรเดิม�
    จึงมีการวิวัฒนาการกลายเป็นสัตว์เทวะที่มีลักษณะแตกต่างไปจากเดิมและแข็งแกร่งมากขึ้น�
    มีอำนาจทางสายเวทย์นั้นๆที่เพิ่มมากขึ้นจนสามารถใช้มหาเวทย์ได้�
    ส่วน "พันธะ" นั้นหมายถึงการที่ได้ทำพันธะเป็นบริวารของมนุษย์ และถึงแม้ว่าจะทำพันธะตั้งแต่ตอนยังเป็นเพียงสัตว์อสูร�
    เมื่อวิวัฒนาการสู่ขึ้นเป็นสัตว์เทวะแล้ว ก็ยังคงเป็นบริวารของมนุษย์ผู้นั้นเช่นเดิม�
    หากแต่มนุษย์ผู้นั้นต้องสูญเสียพลังเวทย์ในการหล่อเลี้ยงและการดำรงอยู่ของสัตว์เทวะมากขึ้นอย่างมาก�
    การทำพันธะก็ทำให้สามารถติดต่อกับผู้เป็นนายทางจิตได้ รวมไปถึงการคืนสู่ร่างสัตว์อสูรเดิมของตนได้�
    และไม่อาจทำภัยอันตรายใดๆต่อมนุษย์ผู้นั้นได้หากไม่จำเป็น

    มหาสรรพาวุธของเผ่าพันธุ์
    เนื่องจากสัตว์เทวะเป็นการวิวัฒนาการมาจากสัตว์อสูรทั่วไป จึงไม่มีมหาสรรพาวุธประจำเผ่า
    ______________________________________________

    Asura / Demon
    ปีศาจ / อสุรา


    เผ่าพันธุ์อันเป็นตัวแทนแห่งความมืด ผู้ชักนำรัตติกาลมาสู่พิภพทั้งมวล
    ปีศาจนั้นมีรูปร่างหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่า ปีศาจตนนั้นมีหน้าอย่างไร มีความสามารถเช่นไร
    หรืออยู่อาศัยอยู่ที่ใดๆ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ปีศาจมักมีพลังเวทย์ที่สูงส่งเสมอ
    มักเป็นที่เข้าใจผิดกันอยู่บ่อยๆ ว่า ปีศาจอาศัยอยู่ในนรก ซึ่งจริงๆ แล้ว นั่นเป็นความเชื่อที่ถูกเพียงส่วนเดียว
    หากเพราะแท้แล้วปีศาจต่างก็กระจายอยู่ในทุกๆ พิภพ กระทั่งบนสวรรค์ก็ยังมีอาศัยอยู่
    หากเพราะเพื่อค้ำจุนอำนาจไม่ให้เผ่าพันธุ์เทพเป็นใหญ่ในแสงสว่างมากนัก


    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ความมืด

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ส่วนใหญ่แพ้แสงสว่าง แต่ใช่ว่าจะเป็นเช่นเดียวกับทุกตนเสมอไป

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    ทนทานต่อการถูกโจมตี ความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ เพราะพลังทั้งหมดเป็นความมืดจึงทำให้แฝงกายตามเงา
    ปกปิดจิตสังหารที่แนบเนียน สามารถเรียกอาวุธออกมาจากห้วงมิติแห่งความมืด

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    นานจนเกินคณานับ ตั้งแต่จักรวาลนี้กำเนิดขึ้น ดำเนินมาจนกระทั่งพิภพต่างๆ ก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิต
    ในเวลานั้น จักรวาลธาตุหลายแขนงก่อกำเนิดสรรพชีวิตขึ้น นั่นเองถือเป็นจุดกำเนิดที่ปีศาจถือกำเนิดจากความมืดแห่งจักรวาล
    ปีศาจนับเป็นเผ่าพันธุ์เก่าแก่ที่กำเนิดขึ้นจนนับได้ว่ามีอายุรุ่นราวคราวเดียวเท่าเทียมกับเทพเจ้า รวมถึงที่อยู่เองก็ตั้งอยู่บนสวรรค์เช่นกัน
    เพราะแสงสว่างนั้นมีคุณ หากแต่แสงสว่างที่เหลื่อล้นก็อาจให้โทษได้เช่นกัน ดังนั้นปีศาจที่ถือกำเนิดจากความมืดจึงเป็นผู้คานอำนาจเทพ
    ทุกๆ วันนี้ ปีศาจและเทพเจ้าต่างก็คานอำนาจซึ่งกันและกันเสมอ เพื่อให้พิภพทั้งหลายอยู่ในสภาพสมดุล ไม่เกิดมหาวิบัติขึ้น
    ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดนั่นคือ เทพเจ้าจะเป็นผู้นำพารุ่งอรุณมาสู่ทุกพิภพ ขณะเดียวกันปีศาจก็จะชักนำรัตติกาลมาสู่สรรพชีวิตเช่นกัน
    ปีศาจทั้งหลายตั้งตนอยู่ในสวรรค์อยู่นาน จนกระทั่งเทพเจ้าได้รังสรรค์สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ขึ้น
    ปีศาจบางส่วนจึงได้ลงไปอยู่อาศัยร่วมกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ เช่นเดียวกับเทพบางองค์ที่อยู่ร่วมกับมนุษย์
    ทำให้มีปีศาจกระจายออกไปทั่วพิภพทั้งหลายเช่นกัน ปัจจุบันพิภพหลักที่ปีศาจอาศัยอยู่คือสวรรค์ชั้นสูงสุด อันมีชื่อว่าปรนิมมิตสวัสดี
    และอาศัยอยู่ร่วมกับเทพโดยแบ่งสวรรค์ออกเป็นสองส่วน และแยกการปกครองกันอย่างเป็นอิสระ
    *(ซึ่งตามจริงแล้วในอดีตสวรรค์แบ่งออกเป็นสามส่วน คือ อาณาจักรของเทพ ปีศาจ(อสุรา) และยักษา
    ต่อมาปีศาจได้ก่อสงครามขึ้นและขับไล่ยักษ์ออกไป ทำให้ปีศาจได้ครอบครองดินแดนส่วนของยักษา
    ทว่าก็ทำให้ทั้งสองเผ่าพันธุ์เป็นศัตรูกันตั้งแต่นั้นมา)


    มหาสรรพาวุธของเผ่าพันธุ์
    อีเทอร์ เวทย์มหากาฬโบราณ มีความสามารถกลืนกินทุกสรรพสิ่ง
    ดูดกลืนพลังเอาชีวิตเเละเสริมความเเข็งเเกร่งไร้เทียมทานให้กับผู้ใช้
    (*ในอดีต : กิ่งปาริชาตมหาเวทย์ [ มิราบิลลิส ] ปัจจุบันหายสาปสูญ)
    ________________________________________

    Deity
    เทพเจ้า

    เผ่าพันธุ์แห่งการรังสรรค์ มหาอำนาจที่ถือกำเนิดจากแสงสว่าง
    รู้จักกันในนามเทพผู้มีเมตตาทั้งหลาย และผู้ให้กำเนิดสรรพชีวิต
    *(ซึ่งแท้แล้วนับว่าผิดโดยสิ้นเชิง เพราะเทพไม่ได้ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิต แต่คอยดูแลสิ่งมีชีวิต)
    มักเป็นที่เข้าใจผิดว่า เทพและปีศาจเป็นศัตรูกัน ซึ่งความจริงแล้วเป็นศัตรูกันแค่ธาตุของเผ่าพันธุ์เท่านั้น
    ปัจจุบันเทพเจ้ายังคงคานอำนาจกับปีศาจเพื่อความสมดุลของพิภพทั้งหลายอยู่เช่นเดิม

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ขึ้นอยู่กับอำนาจที่ครอบครอง

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ขึ้นอยู่กับอำนาจที่ครอบครอง

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    รังสรรค์ธรรมชาติทุกอย่างได้โดยมีพื้นฐานมาจากอำนาจของตน
    แม้กระทั่งปรากฏการณ์บางอย่าง เทพเองก็สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้เช่นกัน
    นั่นหมายความว่า เทพมีอำนาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละองค์
    โดยที่ระดับของอำนาจจะต่างกันไป ตั้งแต่เวทย์ธรรมดา
    ไปจนถึงการใช้มหาเวทย์ได้เลยทีเดียว

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    เช่นเดียวกับปีศาจ เทพเองก็เป็นรูปธรรมของแสงสว่างเช่นกัน
    นานมาแล้ว เทพต่างกำเนิดจากแสงสว่างในจักรวาล และกลายเป็นเผ่าพันธุ์ดึกดำบรรพ์เผ่าหนึ่ง
    ในช่วงแรกๆ เทพต่างก็อาศัยอยู่ในสวรรค์และดำรงชีวิตเฉกเช่นเผ่าพันธุ์อื่นๆ
    แต่แล้ว เมื่อเทพค้นพบว่าเผ่าพันธุ์ของตนมีอำนาจเฉพาะตัว และคุณสมบัติพิเศษ
    อันได้แก่ มีรัศมีแห่งแสงอันเป็นศัตรูต่อปิศาจ มีอายุขัยที่ยืนยาว
    และสามารถถือกำเนิดจากการสิ้นอายุขัยของสัตว์อันมีความดีมากอีกด้วย
    ทำให้เทพเจ้าต่างใช้อำนาจส่วนนี้ครอบครองสวรรค์ส่วนใหญ่
    และคอยนำแสงสว่างเข้าสู่พิภพต่างๆ โดยมีปีศาจคอยเกื้อหนุนค้ำจุน
    เพื่อป้องกันไม่ให้อำนาจเทพลุกลามจนเกิดเหตุจนทำลายล้างโลกได้
    ส่วนใหญ่แล้ว หลายๆ อารยธรรมมักจะมีเทพเจ้าประจำอยู่
    หากในความเป็นจริงแล้ว เทพเจ้าต่างหากที่นำอารยธรรมนั้นลงมาให้สรรพสัตว์
    อาทิ องค์เทพทั้งสามที่ให้ความดูแลแก่เอลีเซีย เป็นต้น
    ปัจจุบัน อาณาจักรสูงสุดของเทพเจ้าตั้งอยู่ในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตสวัสดี
    โดยแบ่งเขตอาณาจักรแยกกับปีศาจ แล้วปกครองอยู่อย่างเป็นอิสระ

    มหาสรรพาวุธแห่งเผ่าพันธุ์
    มีหลายประเภท ดังนี้
    คทามหาสรรค์ [ อินโกลเฟอรัสชั่น ]
    พัดแห่งมหาอรุณ [ อีเทอโรรา ]
    เกวียนแห่งสุริยนตร์ [ เฮกซัส ]
    ฯลฯ
    *(ในอดีต : กระบี่เพลิงปฐพีพิพากษา [ อิมพีเรียมจัสทิเทีย ] ปัจจุบันหายสาปสูญ)
    ________________________________________

    Dwarf
    คนแคระ

    เผ่าพันธุ์ที่เกิดจากอำนาจแห่งโชคของอิซซุนโบชิ บรรพกษัตริย์ห่งคนแคระทั้งมวล
    แม้จะชื่อว่าคนแคระ แต่ลักษณะทั่วไปเมื่อดูจากภายนอกนั้นไม่ต่างอะไรจากมนุษย์ธรรมดา
    เพียงแต่มีพรสวรรค์เรื่องโชค ทักษะการช่าง และการต่อสู้อย่างรวดเร็วเท่านั้น
    เวทมนตร์ที่คนแคระใช้ออกจะแตกต่างจากมนุษย์อยู่มาก อาจเพราะอารยธรรมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
    จึงทำให้คนแคระมีเวทย์ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะช่วงหลังๆ มานี้
    ก็ได้มีการติดต่อกันฉันมิตรกับอาณาจักรยักษ์ที่อยู่ไม่ไกลนักเสียด้วยซ้ำ
    เวทมนตร์ อารยธรรม ไปจนถึงเทคโนโลยีของคนแคระจึงพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
    นับว่าคนแคระเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่น่าจับตามองในปัจจุบันมากพอควรทีเดียว

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ปฐพี ทอง โชค

    ธาตุที่แพ้ทาง
    น้ำ

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    มีอำนาจแห่งโชคซึ่งสามารถเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้หากรู้วิธีติดตัว
    โดยเฉพาะเมื่อร่วมกับความสามารถที่มีอยู่แล้วของคนแคระยิ่งทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
    หากเพราะเมื่อพรสวรรค์ช่างและกำลังแห่งปัญญามารวมกับอำนาจแห่งโชคแล้ว
    ไม่ว่าสิ่งใด หากคนแคระรู้วิธีการก็สามารถบันดาลให้เกิดขึ้นได้ จึงนับว่าเป็นความสามารถที่น่ากลัวทีเดียว
    นอกจากนี้คนแคระยังเคลื่อนไหวได้รวดเร็วว่องไวกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ อีกด้วย
    หากคิดจะโจมตีให้โดนคนแคระละก็ ขอบอกได้เลยว่ายากนัก

    ประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์
    คนแคระถือกำเนิดเป็นครั้งแรกในโลก เมื่อ 5,700 ปีที่แล้ว
    เมื่อตายายผู้อาศัยอยู่กลางป่าคู่หนึ่งได้พบว่ามีเด็กน้อยกำเนิดขึ้นจากตอต้นไทรยักษ์
    ทว่าเด็กผู้นั้นมีขนาดเพียงหัวแม่มือเท่านั้น
    กระนั้นแล้ว ตายายทั้งสองก็ตัดสินใจรับเลี้ยงเด็กดังกล่าวมาเป็นดั่งบุตร
    ทั้งคู่ตั้งชื่อเด็กแคระให้ว่า อิซซุนโบชิ แล้วชุบเลี้ยงในฐานะบุตรบุญธรรมมาจนเติบใหญ่
    เมื่ออิซซุนโบชิอายุย่างเข้า 20 ปี ตายายทั้งสองกลับถูกอสุรกายในป่าฆ่าตาย
    อิซซุนโบชิเกิดความแค้นเป็นอย่างมาก จึงได้ออกเดินทางไปยังดินแดนที่เป็นนรกโบราณในปัจจุบัน
    โดยมีของติดตัวเพียงแค่เสื้อผ้า อาหาร และค้อนไม้ธรรมดาๆ เท่านั้น
    ในขณะที่อสุรกายดังกล่าวมีร่างกายสูงเท่ากับปราสาทหลังหนึง
    แต่แล้ว เขาก็สามารถเอาชนะอสุรกายนั้นมาได้ด้วยกำลังปัญญาและอำนาจแห่งโชค
    อสุรกายนั้นหนีไป แล้วทิ้งขุมเวทย์แสงสีแสดเรืองไว้บนพื้น
    อิซซุนโบชิเห็นดังนั้นแล้วจึงนำเวทย์ของตนรวมเข้ากับขุมเวทย์ของอสุรกาย
    แล้วผนึกเข้ากับค้อนไม้ของตน กลายเป็นค้อนนำโชค
    จากนั้นจึงขอพรสามประการ กล่าวคือ ให้ได้เป็นเจ้าปกครองนครของตน
    ขอให้ตัวสูงเท่าคนปกติ และขอให้มีจำนวนบุตรหลานที่เกิดจากตนเท่ากับดาวบนฟ้า
    เมื่อสิ้นคำขอ ร่างกายของเขาก็ขยายขึ้นจนเท่าคนปกติ
    หลังจากนั้น อิซซุนโบชิก็กลายเป็นปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรคนแคระ
    และสืบเชื้อสายปกครองอาณาจักรของตนเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

    มหาสรรพาวุธแห่งเผ่าพันธุ์
    ดิเรกภัณฑ์แห่งชัยชนะ [ เอคตัสฮาร์โมนี ]
    *(ในอดีต : มหาค้อนวิเศษ [ อิซซุนิโออะเรกทัส ] ปัจจุบันหายสาปสูญ)
    ________________________________________

    Elf
    เอลฟ์

    เอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์หนึ่งที่เกิดจากจิตวิญญาณแห่งธรรมชาติ
    ทำให้มีความสว่างในดวงจิตสูงมาก เอลฟ์ปกติจะมีหูแหลมยาวเป็นสัญลักษณ์

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ธาตุแสงสว่าง , ธาตุสายฟ้า
    เอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีธาตุแสงสว่างในตัวสูงมาก เมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ
    แต่ก็ยังไม่ถึงกับมากที่สุดการต่อสู้ในสภาพรอบตัวที่มีแสงสว่างจะทำให้เอลฟ์�มีความได้เปรียบสูงมากขึ้น
    แม้เผ่าพันธุ์อื่นอาจดวงตาพร่ามัว แต่เอลฟ์ที่มีสายตาเฉียบคมนั้น แสงสว่างไม่เป็นปัญหาเลยแม้แต่น้อย

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ธาตุความมืด
    ถ้าโดนเพียงเล็กน้อย การขับออกไม่ใช่ปัญหา แต่ถ้าโดนเข้าไปในปริมาณมาก
    พลังสว่างข้างในจะออกมาต่อต้านจนทำให้ร่างกายเสียสมดุล
    ถึงแม้เอลฟ์จะไม่ตาย แต่ดวงจิตจะถูกขับออกจากร่างในที่สุด

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    มีฝีมือการยิงธนูที่เก่งกาจ สายตาที่ฉับไวกว่าเผ่าพันธุ์อื่นใดและพลังการรักษาที่เยี่ยมยอด
    มีสติปัญญาและการแก้ไขปัญหาในระดับที่ดี�

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    นานแสนนานมาแล้ว เผ่าพันธุ์เอลฟ์ได้ถือกำเนิดจากบนโลกจากจิตวิญญาณแห่งธรรมชาติ
    เอลฟ์ถือกำเนิดและอยู่อาศัยในผืนป่าใหญ่ มีนิสัยที่ใจดี รักอิสระและพร้อมที่จะช่วยเหลือสิ่งต่างๆ การอยู่ในผืนป่าทำให้เอลฟ์จากรุ่นสู่รุ่น
    มีพัฒนาการและการตอบสนองที่จัดว่าไวเมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ การรักษาและเยียวยาก็ถือเป็นพลังที่สุดยอดของเผ่าพันธุ์�
    แต่เมื่อโลกถึงคราวเปลี่ยนแปลง ผืนป่าน้อยใหญ่ถูกทำลาย เอลฟ์เริ่มสูญหายไปเรื่อยๆ จนทำให้เอลฟ์ที่ยังมีชีวิตรอด
    ตะเกียกตะกายออกมาจากป่าเพื่อเรียกร้องสิทธิ์และปกป้องผืนป่า
    และปัจจุบันนี้เจตจำนงอันแรงกล้าของเอลฟ์ก็ยังถูกสืบทอดมาจนถึงตอนนี้

    มหาสรรพาวุธของเผ่าพันธุ์�
    คำสอนแห่งเอลฟ์และกระจกแห่งปัญญา
    ______________________________________________

    Fiend
    อสุรกาย


    เผ่าพันธุ์พิเศษ ไม่มีลักษณะแน่ชัด
    อสุรกายมักเกิดได้จากเหตหลายอย่างด้วยกัน ดังนั้นพวกมันจึงไม่มีรูปแบบ
    บ้างก็เกิดมาจากการผสมกันทางสายเลือด บ้างก็เกิดมาจากการกลายพันธุ์
    หรือบางทีอสุรกายที่เกิดมาจากอำนาจเวทย์ที่ผิดเพี้ยนก็มี
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อสูรกายก็ยังนับว่าแกร่งเมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ อยู่ดี
    อสุรกายมักจะรู้จักกันในนามของอสูรที่อยู่รอบๆ แคว้น
    กล่าวคือ ไม่ใช่เผ่าอะไรเลย แต่กลับเป็นจำพวกอสูรกายนั่นเอง
    โดยทั่วไปแล้ว อสุรกายจะแบ่งออกเป็นสองพวก
    คืออสุรกายธรรมดา และอสุรกายที่มีปัญญา
    โดยประเภทหลังจะอันตรายกว่าประเภทแรก และหากระดับความมีปัญญาสูงมากเท่าไร
    ความอันตรายก็ยิ่งมีสูงขึ้นเท่านั้น

    ธาตุที่เหมาะสมกับเผ่าพันธุ์
    แล้วแต่ประเภทของอสุรกาย

    ความสามารถเผ่าพันธุ์
    แล้วแต่ประเภทของอสุรกาย

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    อสูรกายมีหลายจำพวก แต่ก็ใช่ว่าจำพวกที่มีเจตนาดีนั่นจะไม่มีเสียทีเดียว
    อสูรกายตนแรกที่มีปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์คือมหามัจฉาติสสรนนท์
    พญาปลายักษ์ที่ทำหน้าที่หนุนจักรวาลไว้ให้ทรงตัวอยู่ได้
    หลังจากนั้นเรื่องราวของอสุรกายก็แพร่กระจายไปทั่วโลก
    มีตำนานต่างๆ มากมายที่กล่าวถึงอสุรกาย แต่ที่รู้จักกันมากที่สุด
    คือตำนานอสูรมังกรที่นำทัพเข้าจู่โจมเอเลเซียเมื่อหลายพันปีก่อน
    แล้วถูกนักบวชแห่งหมอกสยบลงได้ในเวลาต่อมา
    อสูรกายนั้นนับว่ากระจายไปทั่วพิภพ โดยเฉพาะประเภทมีปัญญาแล้ว
    ยิ่งเรียนรู้และรู้จักการทำตัวเป็นสัตว์สังคมอยู่ร่วมกับสัตว์อื่นได้ดี
    หากเพราะอสุรกายมีปัญญาบางตนไม่รู้เผ่าพันธุ์ตนเองจริงๆ เลยก็มี
    ไม่แน่ว่า ตัวท่านหรือคนรอบข้างของท่านอาจจะเป็นอสูรกายเสียเองก็ได้นะ?

    มหาสรรพาวุธแห่งเผ่าพันธุ์
    ตามบันทึกประวัติศาสตร์ทั่วโลกแล้ว
    มหาสรรพาวุธแห่งเผ่าพันธุ์อสูรกายทั่วโลกมีมากกว่าร้อยชิ้น
    เกินขอบเขตที่จะบันทึกลงเสียหมดได้
    ______________________________________________

    Frozen Fairy
    ภูติน้ำแข็ง

    เผ่าพันธุ์ที่อยู่คู่กับน้ำและน้ำแข็งมาเนิ่นนานแต่โบราณมาแล้ว รักสงบและเกลียดการฆ่าฟัน
    เป็นเผ่าพันธุ์ที่จะเลี้ยงดูและฝึกฝนให้ทุกคนใช้น้ำและน้ำแข็งได้อย่างคล่องแคล่ว
    เพื่อใช้ในชีวิตประจำวันและเพื่อป้องกันตัว

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    น้ำ

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ลม

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    ควบคุมสิ่งที่มีธาตุน้ำ สร้างน้ำ สามารถควบคุมอุณภูมิจนติดลบมากขึ้นเรื่อยๆ ได้
    จะมากแค่ไหนอยู่ที่ฝีมือการใช้และพลังเวท,เข้าไปในเงาของสิ่งที่มีธาตุน้ำและโผล่ออกมาจากสิ่งที่มีธาตุน้ำอื่นได้ราวเดินผ่านประตู
    ,ใช้เวทเกี่ยวกับน้ำและน้ำแข็งได้ว่องไวและคล่องแคล่วกว่าเผ่าพันธุ์อื่นราวกับว่าเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    ที่มาของเผ่าพันธุ์ไม่ปรากฏแน่ชัด แต่ทุกคนมีสายเลือดของผู้ที่ภูติน้ำแข็งนับถือเป็นเทพอยู่
    และเป็นสาเหตุที่เผ่าพันธุ์นี้สามารถใช้้น้ำได้ยอดเยี่ยมอลังการ มีเทพที่นับถือเป็นนักรบแห่งวารี สตรีผู้กอบกู้อิสระภาพ

    มหาสรรพวุธของเผ่าพันธุ์
    น้ำตาสีครามของเทพวารี
    ______________________________________________

    Human
    มนุษย์

    เผ่าพันธุ์ที่ไม่มีทักษะหรืออวัยวะพิเศษอะไรเด่นชัด

    ความสามารถ เวทมนร์ และปัญญาจัดว่าอยู่ในระดับธรรมดาสามัญ
    ทว่าความสามารถในการปรับตัวและพัฒนาตนเองกลับสูงกว่าเผ่าพันธุ์อื่นใดมากกว่าที่คิด

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    แล้วแต่ความสามารถของมนุษย์แต่ละคน


    ธาตุที่แพ้ทาง
    แล้วแต่ความสามารถของมนุษย์แต่ละคน

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    ไม่มีอะไรพิเศษ เพราะความสามารถจะเด่นทางใด
    ขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์แต่ละคนจะเลือกพัฒนาทักษะใดเท่านั้น


    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ในเอเลเซียนั้นเริ่มมาตั้งแต่เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน
    ตั้งแต่มนุษย์อพยพจากอนุทวีปทางตะวันออกมายังดินแดนแถบเอเลเซียในปัจจุบัน
    ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ยังค้นพบว่ามนุษย์เองก็มีส่วนร่วมในการก่อสร้างแคว้นอีกด้วย
    ส่วนมนุษย์จากโลกภายนอกที่เข้ามาภายหลังนั้นล้วนไม่มีประวัติศาสตร์ร่วมกับชาวเอเลย์โดยสิ้นเชิง

    มหาสรรพาวุธแห่งเผ่าพันธุ์
    เอกซ์คาวอยซ์ โซลแตร์ ดาบแห่งสายสัมพันธ์มหาปัญญา
    (ในอดีต : มหาธนูดับอาทิตย์สิบดวง �[ไพชยันตร์สุริยนต์ ] ซึ่งปัจจุบันหายสาปสูญ)


    _______________________________________

    Inferno Dragon
    มังกรเพลิง

    มังกรในธาตุไฟ ลำตัวเป็นสีแดงล้วน ลำตัวแห้งและร้อน เป็นตระกูลของมังกรไฟและมังกรภูเขาไฟ
    มีความเกี่ยวข้องกับทะเลทรายและแผ่นดินที่แห้งแล้ง ซึ่งมังกรไฟจะมีลักษณะเป็นสีแดง ส้ม และเหลืองเข้ม
    ตัวหนาและใหญ่ ลำตัว คอ และหางยาวเหมือนงู มังกรไฟบางชนิดจะชอบนอนจำศีลอยู่ในปล่องภูเขาไฟ
    มีอาวุธประจำตัวคือลูกไฟที่มันจะพ่นออกมาเพื่อป้องกันตัวนั่นเอง มังกรไฟจัดเป็นประเภทขี้หงุดหงิด ขี้โมโหและเอาใจยาก
    มันสามารถทำให้ผู้คนตกอยู่ในความหวาดกลัว สามารถทำลายเมืองเล็กๆ ได้ในพริบตาด้วยเปลวไฟของมัน
    เรียกเอาเลือดเนื้อและความเกลียดชังจากผู้คนได้ เป็นมังกรอารมณ์รุนแรงโดยเฉพาะเมื่อเปลี่ยนช่วงในการเติบโต
    ในช่วงนั้นจะไม่ค่อยสามารถควบคุมพลังตนเองได้และเป็นอันตราย อนึ่ง ไม่ชอบน้ำแต่ทนได้

    ธาตุที่เหมาะสมกับเผ่าพันธุ์
    ธาตุไฟ

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ธาตุน้ำ

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    พ่นไฟด้วยความร้อนที่พอๆกับดวงอาทิตย์ มอดไหม้ในพริบตา ทนความร้อนได้
    แผ่ความร้อนได้ตลอดเวลา หนังหนาป้องกันการโจ้มตี ประสาทสัมผัสไวต่อการรับรู้

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์�
    มังกรส่วนใหญ่จะถูกไวกิ้งล่า และล้มตาย มีสงคราม สู้แย่งชิง ก่อสงครามกันเอง

    มหาสรรพาวุธของเผ่าพันธุ์�
    ลูกแก้วอมตะทีฝังอยู่ในหัวใจ
    ______________________________________________

    Karasutengu
    ภูตอีกา


    ภูติชนิดหนึ่งหรือจะว่าเป็นปีศาจก็ได้ มีปีกสีดำกลางหลัง พลังเวทสูงและมีพละกำลังมาก
    ปกติจะมีรูปร่างเป็นมนุษย์ธรรมดา สีผมเป็นสีปกติตามภูมิประเทศที่เกิดไม่ได้สีดำทุกตนเหมือนตอนแปลงกายเป็นอีกา
    เท็งกุซ่อนปีกของตนได้เพื่อไม่ให้เกะกะโดยใช้มนต์บัง เมื่อแปลงเป็นอีกาสีขนจะมีสำดำผสมสีผมปกติ
    เช่นมีผมสีม่วงก็จะเป็นดำเหลือบม่วง นอกจากนี้ยังมีนิสัยบางอย่างคล้ายอีกาเช่นชอบสิ่งแวววาวและชอบขโมยของ
    พวกเขาสามารถเดินทางผ่านเงาได้ในระยะทางไกลๆ หรือวาปนั่นเอง

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ธาตุลมและธาตุสายฟ้า
    ธาตุที่แพ้ทาง�
    แพ้ทางธาตุน้ำและธาตุไฟรวมถึงธาตุแสงสว่าง

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    เท็งกุรวดเร็วดั่งสายลมและแปลงร่างเป็นอีกาได้ โดยขนาดตัวนั้นขึ้นอยู่กับอายุแต่ถึงแม้จะอายุมากจนตัวใหญ่เท่า
    ยอดปราสาทแล้วก็ตามก็สามารถลดขนาดร่างกายตนเองได้ เชี่ยวชาญมนต์มายา การแปลงกายหรือปลอมตัว
    พวกเขาสามารถเคลื่อนที่ได้ในพริบตาในระยะทางสั้นๆ และสร้างและเรียกพายุรุนแรงได้เพียงแค่กระพือปีก
    พายุที่พวกเขาสร้างจะมีความรุนแรงมากแต่ชั่วครู่ก็สลายไปแต่การเรียกพายุนั้นจะเป็นการวอนขอธรรมชาติ
    ดังนั้นพายุที่เรียกมาจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศบริเวณนั้น หากแดดแรงพายุก็จะอ่อนกำลังกว่าพายุที่เรียกมาในบริเวณที่ชื้น
    เท็งกุมีพละกำลังมหาศาลและอึดถึกอย่างมาก การบินฝ่าพายุจึงเป็นเรื่องง่ายมาก พลังเวทสูงส่งและทนทานต่อการโจมตี

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    พวกเขาเป็นปีศาจชนิดหนึ่งที่ถือกำเนิดมาจากอีกาทีมีอายุเกินร้อยปี
    หรือเปลี่ยนสภาพมาจากวิญญาณมนุษย์ที่มีจิตวิญญาณแรงกล้าและตายตาไม่หลับ
    เท็งกุส่วนมากจะอาศัยอยู่ตามหุบเหวและป่าเขาลึก เผ่าพันธุ์นี้เป็นนักรบโดยกำเนิดแม้ว่าตอนก่อนจะตายลงจะไม่ใช่นักรบก็ตามที
    และยังมีเท็งกุบางพวกที่อาศัยในโลกมนุษย์ตามยุคสมัยต่างๆ พวกเขาถูกนับถือเป็นเทพเจ้าป่าเจ้าเขาและคอยปกปักธรรมชาติ

    มหาสรรพาวุธของเผ่าพันธุ์
    พัดเท็งกุ
    มหาสรรพาวุธแห่งขุนเขา ว่ากันว่าเพียงโบกพัดนี้เพียงครั้งก็ถล่มเมืองใหญ่ให้ราบเป็นหน้ากลองได้เพียงเสี้ยววิ
    และบังคับทิศทางใหสายลมพัดพาสิ่งที่ต้องการไปยังที่หมายได้แม้จะไกลแค่ไหนก็ตาม
    พัดเท็งกุมีอำนาจวิเศษบงการวิญญาณอาฆาตให้มาเป็นทาสและสรรค์สร้างสิ่งของจากความว่างเปล่่า
    --ปัจจุบันพัดนี้แตกกระจายเป็นหลายชิ้น--
    ______________________________________________

    Key Master
    คีย์มาสเตอร์


    เผ่าพันธุ์ที่กำเนิดมาจากมนุษย์ แต่เพราะว่าได้รับพลังโบราณจากกุญแจที่พวกเขาพบ
    ทำให้พวกเขาแตกต่างจากมนุษย์ทั่วๆไป ภายหลังจึงขนานนามตนเองว่าคีย์มาสเตอร์นับแต่นั้นมา

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ธาตุมืด และนอกนั้นรองลงมา

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ไม่มีธาตุที่แพ้ทาง เพราะเป็นเผ่าพันธุ์ที่ใช้มนตราเป็นอาวุธ

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    สามารถใช้มนตราผ่านกุญแจได้ ไม่ว่ากุญแจนั้นจะเป็นกุญแจอะไร หรือของใคร
    มีดีกว่ามนตราจากไม้เท้าคือมีความสามารถในการพลิกแพลงสูงกว่ามากๆ
    นอกจากนั้นยังสามารถบรรจุมนตราลงในกุญแจเพื่อการเรียกใช้งานที่รวดเร็วได้อีกด้วย
    นี้ถือเป็นการหน่วงมนตราที่ร้ายแรงที่สุด เพราะไม่เสียพลังเวทย์ใดๆในขณะหน่วง
    มนตราไว้ในกุญแจเลย นอกเสียจากจะเสียกุญแจที่หน่วงไว้เพราะพวกมัน
    ไม่สามารถทนพลังงานของมนตราที่หน่วงลงไปไว้ได้ และพวกเขายังสามารถ
    เข้ากับพลังมนตราได้กับทุกๆธาตุ แต่ว่าแต่ละคนจะมีธาตุที่ตนเองแตกต่างกันไป
    นอกจากนั้นเมื่อพวกเขาต้องแสงจันทร์ สีผมของพวกเขาจะเปลี่ยนไปเป็นสีนํ้าเงินเข้ม
    และดวงตาสีแดงดุจโลหิต อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเผ่านี้

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    จุดเริ่มต้นนั้นไม่สามารถหาหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรได้ แต่เชื่อว่า
    เผ่าพันธุ์นี้ถือกำเนิดขึ้นมาโดย"ผู้เริ่มต้น"เป็นชายหญิงสองคน โดยที่เผ่านี้ไม่จำเป็นต้อง
    การทายาตเพื่อสืบสกุล เพียงแต่จำเป็นต้องได้รับการผ่านพิธีที่ทางเผ่าเรียกว่า
    "โคโรน่า" เป็นคล้ายๆการทดลองว่า มนุษย์ผู้นั้นสามารถตอบสนองได้ถึงกุญแจที่เป็น"พาส"
    ของตนได้ไหม�หากสามารถสัมผัสถึงพาสได้ ก็จะมีความสามารถที่จะเป็นคีย์มาสเตอร์ได้ แต่เผ่าพันธุ์นี้มีจำนวนที่น้อย
    เพราะว่ามีจำนวนไม่มาก ที่จะสามารถสัมผัสถึง"พาส"ของตนเองได้ อีกทั้งยังต้องผ่านการ
    ประเมิณด้านสติปัญญาและนิสัยต่างๆจากคนของเผ่าอีก โดยในปัจจุบันนี้เผ่านี้เหลือ
    อยู่น้อยมากๆ เพราะไม่มีการสืบทอดนั้นเอง
    (พาส = กุญแจต้นกำเนิด เป็นกุญแจหลักที่่คีย์มาสเตอร์ใช้ โดยพาสนั้นสามารถจูน
    พลังของผู้ใช้ให้ออกมาเป็นพลังมนตราได้รุนแรงที่สุดในบรรดากุญแจทั้งหมด แต่มีข้อเสีย
    คือหากพาส"พัง หรือ แตกสลาย" ด้วยอะไรหรือสิ่งใด คีย์มาสเตอร์ผู้นั้นจะไม่มีวันปล่อยพลังอันแท้จริง
    ของตนเองออกมาได้อีก เพราะว่าไม่มีกุญแจดอกไหนที่สามารถตอบสนองพลังได้ดีเท่าพาสอีก)


    มหาสรรพาวุธแห่งเผ่าพันธุ์
    พาสของชายผู้เริ่มต้น "ริน"
    _______________________________________

    Nuclear
    นิวเคลียร์

    เผ่าพันธุ์ที่ไม่เชิงว่าเป็นเผ่าพันธุ์โดยตรงเสียทีเดียว
    เกิดจากปฏิกิริยาการเคลื่อนที่ของอนุภาค จนทำให้เกิดการชนหรือการรวมตัวอย่างใหญ่หลวงขึ้น
    บางทีอาจทำให้เกิดการระเบิดอย่างมหาศาลได้

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ธาตุกัมมันตภาพรังสี
    (ยูเรเนียม พอลโลเนียม เรเดียม พลูโตเนียม ซีเซียม โคบอลต์ ฯลฯ)

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ไอโอดีน

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    มีอนุภาพในการทำลายล้างสูง เเละสามารถคงสภาพในรูปของสารปนเปื้อนที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเซลล์สำหรับสิ่งมีชีวิตได้�
    มีอำนาจการทะลุทะลวงสูงและสามารถทำลายเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตได้ หากสัมผัสและได้รับอำนาจของนิวเคลียร์
    ในปริมาณมาก อาจทำให้อวัยวะกลายสภาพ ร่างกายบิดเบี้ยว หรือเสียชีวิตลงในที่สุด

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    ไม่มีประวัติศาสตร์ลึกนัก ปรากฏเพียงแต่ว่านิวเคลียร์เคยทำลายล้างเมืองในประเทศบางประเทศจนราบคาบไปบ้างก็มี

    มหาสรรพาวุธของเผ่าพันธุ์
    ไม่มี
    _______________________________________

    Phantom Dragon
    มังกรแฟนธ่อม

    เหมือนมนุษย์ธรรมดาทั่วไปแต่เคลื่อนไหวได้เร็วและเงียบกว่านิดหน่อย
    สามารถแปลงเป็นครึ่งมังกรได้ สามารถแปลงเฉพาะส่วน�เช่นเฉพาะปีก หรือมือ
    ร่างแปลงเต็มที่จะมีปีก หาง ผิวหนังจะเห็นเป็นเกล็ดมังกร มือและเท้ากลายเป็นกรงเล็บ
    ดวงตาเรียว เขี้ยวแหลมยาว บางตัวอาจมีเขาด้วย

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์�
    ไร้ธาตุ

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ไร้ธาตุ

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    แปลงเป็นร่างครึ่งมังกรเพิ่มความสามารถพื้นฐานทุกด้าน
    เคลื่อนไหวได้ว่องไว รวดเร็วและไร้ร่องรอย(ขึ้นอยู่กับการฝึกด้วย)
    กรีดร้องเป็นคลื่นเสียงได้ทุกความถี่(เป็นช่วงนะ ไม่ใช่ร้องทีนึงครอบคลุมหมด)
    ดีดตัวพุ่งออกไปในระยะสั้นๆด้วยความเร็วเหนือเสียง เกิดเป็นกำแพงเสียง

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    มังกรเผ่าเล็กๆที่รักในความเร็ว แยกตัวออกมาจากเผ่าใหญ่เมื่อไรไม่มีใครทราบแน่ชัด
    ส่วนสาเหตุที่แยกตัวเพราะพวกเขารักอิสระเกินไปจนไม่อาจอยู่รวมกับมังกรหมู่มากขนาดนั้นได้
    มีลักษณะเด่นคือความปราดเปรียว ว่องไว คล่องแคล่ว และไม่มีร่างมังกรเต็มตัว
    หลายคนคาดว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะร่างครึ่งมังกรสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกกว่า
    จึงถูกคัดเลือกมาจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าไป

    มหาสรรพาวุธของเผ่าพันธุ์
    Void(วอยด์) เป็นคำที่ใช้เรียกพลังที่ไม่มีใครสามารถระบุหน้าตาแน่ชัดได้
    แต่ทุกคนล้วนรู้ว่าผู้ครอบครองวอยด์จะกลายเป็นมังกรที่เร็วที่สุด เร็วยิ่งกว่าเสียง เร็วเกินกว่าใครจะมองได้ทัน
    ไม่มีผู้ใดอาจตามทันหรือรับรู้ถึงตัวตนได้ จนราวกับว่าเป็นความว่างเปล่า
    _______________________________________

    Storm Guardian
    ผู้พิทักษ์แห่งสายลม


    เป็นเผ่าพันธุ์ที่เกิดจาก มนุษย์ที่มาพร้อมกับพลังเวทย์แห่ง ลม และต่างจากมุษย์ปกติทั่วไป

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ลม และความมืด
    นอกจากนั้นก็รองลงมา แต่ไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ประเภทไฟได้

    ธาตุที่แพ้ทาง
    แพ้ประเภทไฟ อย่างยิ่งยวด

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    การพลิกแพลกใช้ "ลม" ตามสถานการณ์ และสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์
    กลับเป็นแบบที่เคยมีมาในอดีตและการเคลื่อนไหวที่ เร็วดั่งพายุ

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    ประวัติตามที่สืบทอดกันมารุ่มต่อรุ่น และไม่สามารถหาที่มาได้อย่างชัดเจนแน่นอน แต่ที่สำคัญคือ
    บรรพบุรุษของเขาเคยเป็นมนุษย์ที่บูชาเทพเจ้าแห่งสายลม และด้วยความปราณีของเทพองค์นั้น
    จึงได้มอบพลังที่สามารถควบคุม ความเป็นไปของลมได้ และเริ่มสอนวิธีการใช้ลมในแบบต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป
    ก็เกิดสงครามในเผ่า ทำให้มีคนล้มตายกันเป็นจำนวนมาก และส่วนหนึ่งได้หนีออกมาเป็นแค่หมู่บ้านเล็กๆ หลายแห่ง
    แต่มีหนึ่งหมู่บ้าน ซึ่งสืบประเพณีต่างๆ และยังได้รับความเมตตาจากเทพเจ้าอีกครั้ง ให้มีการแปรเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เป็นดั่งเทพเจ้า
    แต่ยังไม่เหมือนซักทีเดียว และยังได้บอกให้รวมที่ชนเผ่าที่สามารถใช้ลมมาอยู่รวมกัน
    จึงทำให้มีความหลากหลาย ไม่เว้นแม้แต่ปีศาจ เอลฟ์ ดาร์คเอลฟ์ มนุษย์ ออร์ค คนแคระ ฯลฯ
    และสอนวิธีการแปรเปลี่ยนรูป ร่าง สืบมา

    มหาสรรพาวุธของเผ่าพันธุ์
    มหาเวทย์ว่าด้วยการควบคุมลมและพายุ
    _______________________________________

    Warlock
    แม่มดไสยดำ

    ผู้มีลักษณะดังเช่นมนุษย์ปกติ แต่มีผิวสีขาวซีด ดวงตาสีอ่อนจนแทบไม่เห็นแววตา เลือดเป็นพิษสูงมาก
    ร่างกายผอมบาง แขนและขาเรียงเล็ก เล็บมีสีชมพูคล้ำ ร่างกายอ่อนแอกว่าแม่มดปกติมาก
    แต่เมื่อใช้พลังมากไป ร่างกายจะมีละอองสีดำขึ้นมาปกคลุมทั้งตัว เผ่าแม่มดสีดำจะมีเพียงผู้หญิงเท่านั้น พอเติบโตได้ระยะหนึ่ง
    ร่างกายจะคงสภาพตอนนั้นไว้จนกว่าจะตาย อายุขัยของแม่มดสีดำจะสั้นกว่าแม่มดธรรมดา
    แต่ถ้ากินพิษและความมืดเข้าไปมากๆก็จะสามารถดำรงชีวิตได้ต่อไปเรื่อยๆจนกำลังผลึกจะหมดพลังลง

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ความมืดและพิษ เพราะพวกเธอสามารถใช้พลังของความมืดได้อย่างเชี่ยวชาญและใช้พิษในการสังหาร

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ไม่มี ทว่าแพ้ยาที่มีฤทธิ์รักษาสูงเป็นอย่างมาก

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    สามารถให้ธาตุความมืดได้อย่างเชี่ยวชาญ และสามารถใช้พิษที่อยู่ในเลือดของตนได้
    โดยละอองที่แม่มดสีดำสร้างจะขึ้นอยู่กับเจตนาว่าต้องการใช้ทำอะไร
    พวกเธอทำพันธะสัญญากับภูตได้ โดยจะทำดวงจิตของภูตมาไว้ในร่างของตน
    ทำให้มีดวงจิตสองดวงและสามารถอัญเชิญภูตออกมาได้
    แต่ต้องแลกด้วยพลังงานความมืดที่มีอยู่ ถ้าพลังงานหมดร่างกายก็หมดแรงและหมดสติลง
    ร่างภูตก็จะสงบลงและกลับเข้าร่างผู้เป็นนายเหมือนเดิม
    แม่มดสีดำนั้นไม่จำเป็นต้องมีอาวุธ เพราะถึงจะร่างกายอ่อนแอ
    แต่การต่อสู้ทางกายภาพก็ยังพอมี และไม่จำเป็นต้องใช้อะไรเพื่อช่วยในการร่ายเวทย์
    แต่จะใช้เพียงเพื่อควบคุมพลังเท่านั้น แม่มดสีดำนั้นมีพลังเวทย์ที่เกินจะคาดได้
    แต่นั่นก็ควบคุมยากมากที่จะไม่ให้พลังเวทย์ทะลักออกมาเกินจำเป็น

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    เผ่าพันธุ์ของแม่มดที่มีเหลือเพียงไม่กี่คน เพราะแม่มดทุกเผ่าเห็นว่าแม่มดเผ่านี้เป็นเผ่านอกรีตจะถูกขับไล่
    แม่มดสีดำเกิดจากเผ่าแม่มดชั้นสูงที่ทำพันธสัญญากับภูตโดยไม่ผ่านพิธีกรรม
    ทำให้พันธะของแม่มดหมดลงและดวงจิตของภูตได้รวมอยู่ในตัวของแม่มด
    จึงทำให้มีความสามารถมากกว่าแม่มดเผ่าอื่นมากเพราะมีดวงจิตถึงสองดวง
    จึงได้ย้ายถิ่นฐานมาตั้งในหุบเขาและสร้างพลังเวทย์ขึ้นมาป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาได้
    และได้สร้างผนึกควบคุมพลังของเผ่าพันธุ์เอาไว้ และได้สร้างดวงจิตเป็นร่างของแม่มดสีดำทุกคน
    ซึ่งสามารถสร้างดวงจิตได้เพียงแค่ปีละสองดวงเท่านั้น จึงทำให้แม่มดสีดำมีจำนวนน้อยมาก และผู้ที่จะสร้างได้
    ต้องมีพลังของผนึกมากพอตัว ไม่มีอะไรบอกถึงวัฒนธรรมของแม่มดสีดำได้อย่างแน่ชัด
    แต่มีเพียงแท่นบูชาเก่าๆที่จารึกเรื่องราวของผู้ก่อกำเนิดเท่านั้น ที่ยังเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าเผ่านี้ยังคงมีตัวตนอยู่

    มหาสรรพาวุธของเผ่าพันธุ์
    ผลึกแห่งอาเนียสที่ฝังในดวงตาทั้งสองข้างที่ถูกผนึกด้วยคาถาชั้นสูงของผู้สร้างดวงจิตของแม่มดสีดำทุกตน
    (*อาเนียส = ชื่อของผู้ก่อกำเนิดเผ่าพันธุ์)
    _______________________________________

    Yaksha / Giant
    ยักษา

    มวลชนแห่งยักษา หรือเผ่ายักษ์
    เผ่าพันธุ์ดึกดำบรรพ์ที่เกิดจากสสารมืดในจักรวาล จึงทำให้ยักษ์มีกำลังมหาศาล
    หากเพราะเกิดมาในยุคที่จักรวาลยังอ่อนเยาว์นัก ทำให้ยักษ์มีฐานะเป็นเผ่าพันธุ์ที่เก่าแก่
    และมีอารยธรรมเทียบเท่ากับปีศาจและเทพเลยทีเดียว
    โดยทั่วไปแล้ว ยักษ์มักมีรูปร่างที่สูงใหญ่ บึกบึน ดูเข้ากับพละกำลังที่ยักษ์ได้ครอบครอง
    แต่จำพวกที่รูปร่างเหมือนมนุษย์ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลยเช่นกัน ซึ่งส่วนมากแล้วมักเป็นยักษิณี
    ยักษ์เป็นเผ่าพันธุ์ทีถือว่ามีอารยธรรมก้าวหน้าและสูงส่งมาก ไม่เพียงแค่กำลัง แต่เวทย์หลายแขนงยักษ์ก็คิดค้นขึ้นมาใช้เอง
    แต่ด้วยจุดแข็งของยักษ์ด้านนี้ก็ทำให้วงวานยักษากลายเป็นศัตรูกับปีศาจเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    Instant Magic หรือ ร่ายมนตร์ในอึดใจเดียว
    ซึ่งเป็นภูมิปัญญาทางเวทย์มนตร์อันสูงส่งที่ยักษาคิดค้นขึ้น
    ไม่ว่ามนตร์จะยืดยาวเพียงไร หรือมีเงื่อนไขมากแค่ไหน
    หากทำตามเงื่อนไขของ Instant Magic หรือร่ายเวทย์ไว้ล่วงหน้าแล้ว
    พวกยักษ์ก็จะสามารถดึงมาใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านการร่ายบทหรือทำพิธีกรรมก่อน
    จึงทำให้ยักษ์มีพลังเวทย์และทักษะทางเวทมนตร์ที่สูงเทียบเท่ากับปีศาจและเทพเลยทีเดียว

    ประวัติศาสตร์เผ่าพันธุ์
    เดิมทีเผ่ายักษ์มีอารยธรรมดึกดำบรรพ์อยู่บนสวรรค์ชั้นปรนิมมิตสวัสวดี อันเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด
    พวกยักษาถือเป็นเผ่าแรกที่มีการคิดค้นเวทมนตร์ขึ้นโดยใช้ขุมพลังในธรรมชาติมาเป็นอำนาจของเวทมนตร์
    แทนที่จะใช้พลังของตนเอง เหล่ายักษากลับดึงอำนาจที่แข็งแกร่งกว่าจากต้นปาริชาตในสวรรค์มาใช้
    ทำให้เวทมนตร์แขนงต่างๆ รวมถึง Instant Magic ถือกำเนิดในเวลาต่อมา
    การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของอารยธรรมยักษาในขณะนั้น ทำให้ปีศาจเกรงว่าจะเป็นภัยคุกคามต่อตน
    จึงเกิดมหาสงครามอสุรา-ยักษาขึ้นในเวลาต่อมา และจบลงด้วยการถูกขับไล่ออกจากสวรรค์
    ทำให้วงศ์วานยักษาต้องอพยพลงไปสร้างอาณาจักรใหม่ขึ้นในพิภพบาดาล
    และตั้งถิ่นฐานในดินแดนนรกที่ไร้ไฟซึ่งเป็นที่อยู่เดิมของเหล่าคนแคระ
    ต่อมาจึงเรียกนรกส่วนที่ยักษ์ปกครองว่า นรกโบราณ�และใช้ขุมพลังจากมหาพฤกษาจิตตปาลิ
    เป็นอำนาจเวทย์คอยเกื้อหนุนเหล่ายักษาแทนต้นปาริชาตเนื่องจากถูกปีศาจแย่งชิงไป
    จึงทำให้ยักษาผูกจิตอาฆาตเป็นศัตรูกับปีศาจมาจนถึงปัจจุบัน

    มหาสรรพาวุธแห่งเผ่าพันธุ์
    ค้อนราชพลี [ พสุธามหาสันฑ์ ]
    *(ในอดีต : กระบองแห่งจิตตปาลิ [ โมวิมัส ] ปัจจุบันหายสาปสูญ)
    _______________________________________

    Zero
    เซโร่

    เซโร่เป็นเผ่าพันธ์ที่ไม่มีระบุในประวัติศาสตร์โลกทั่วไป เซโร่เป็นเผ่าพันธ์ที่มีได้เพียงคนเดียวส่งผ่านรุ่นต่อรุ่น�
    ถ้าคนนึงตายโดยไม่ได้สืบเผ่าพันธ์ DNAจะรวมตัวกลายเป็นแสง ล่องลอยหาผู้ที่เหมาะสมคนต่อไป
    ลักษณะของเผ่านี้จะเปลี่ยนไปตามผู้ที่ถูกเลือกหรือลูกของรุ่นก่อน

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ความว่างเปล่า
    หากเพราะวิถีธาตุของเผ่ามีเพียงการดูดพลังผู้อื่น

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ไม่มีธาตุที่แพ้�

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    มีความสามารถในการ ดูดเวทย์ที่อยู่รอบตัว มาไว้เป็นบอลพลัง
    โดยคุณสมบัติจะขึ้นอยู่กับเวทย์ที่ดูดมาได้ โดยขอบเขตพลังจะขึ้นอยู่กับ ความสามารถของผู้ใช้เอง
    ซึ่งถ้าเมื่อใช้จนชำนาญจะสามารถเปลี่ยนเวทย์ที่ดูดมาเป็นพลังในการรักษาได้ แต่รักษาตัวเองไม่ได้เท่านั้น

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    เดิมที่เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนหน้านี้เผ่าเซโร่มีประชากร อยู่จำนวนมาก และเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าสัตว์ประเสริฐ
    มีรูปร่างหน้าตา เหมือนมนุษย์ แต่จะมีอายุที่สั้นมากๆ ทว่าแลกมากับสมองอันชาญฉลาด
    วันหนึ่งมีนักประดิษฐ์ได้สร้างเครื่องที่จะทำให้อายุของประชากรยืนยาวขึ้น แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
    เครื่องนั่นกลับดูดพลังชีวิตของเผ่าเซโร่ในทุกหนทุกแห่ง มารวมอยู่กับทารกน้อยซึ่งเป็นบุตรของนักประดิษฐ์ผู้นั้น
    ซึ่งตอนแรกแล้วเป็นหนูทดลอง แต่กลับเป็นว่าเขาสร้างคนที่มีพลังของคนทั้งเผ่าขึ้นมาโดยแลกกับการล่มสลายของเผ่าพันธุ์�
    หลังจากนั้นเด็กน้อยก็โตขึ้นด้วยพลังของเผ่าเซโร่ เขาเป็นผู้ที่ใช้พลังได้แข็งแกร่งที่สุด
    เขาเป็นเหมือนหลุมดำแห่งเวทย์ที่จะดูดเวทย์อะไรและขนาดไหนมาใช้ก็ได้
    แต่ด้วยนิสัยที่เป็นคนรักสงบ ทำให้เรื่องราวของเขาแทบไม่มีในประวัติศาสตร์
    จนวันนึง ที่เขาต้องมอบ DNA ของเผ่าเซโร่ เพื่อชุบชีวิตหญิงที่ตนรักจากความตาย
    แต่ก็แลกมาด้วยชีวิตของเขาเช่นกันเรื่องราวถูกส่งผ่านรุ่นต่อรุ่นจนเกิดเป็นตำนานที่รู้กันเพียงน้อยนิด
    ขณะนี้เผ่าเซโร่ที่มีชีวิตอยู่คือเซโร่

    มหาสรรพาวุธของเผ่าพันธุ์
    พลังที่แฝงอยู่ใน DNA เผ่าพันธุ์ หรือก็คือ พลังในแบบที่ เซโร่รุ่นแรกใช้
    ______________________________________________

    Zombie
    ซอมบี้

    ซอมบี้นั้นเกิดจากคนธรรมดาที่สิ้่นอายุไขหรือไร้ชีวิตมิอาจตื่นได้
    จนได้รับพรจากเทพธิดาทำให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งโดยมีพลังเวทย์แห่งแสงตกค้างอยู่ภายในร่างกายเพียงเบาบาง
    เช่นเดียวกับชุบชีวิตด้วยพ่อมดฝ่ายมืดที่ได้รับพลังจากฮาเดส แต่จะมีเวทย์มนต์สายความมืดแทนที่ตกค้าง
    และเมื่อชุบชีวิตมาจะจำเรื่องราวก่อนเสียชีวิตไม่ได้ซึ่งเหมือนกับการเกิดใหม่นั่นเอง
    และยังสูญเสียพลังต่างๆตอนมีชีวิต�มีเพียงร่างกายเท่านั้นที่ได้กลับมา
    หัวใจนั้นไม่สามารถเต้นได้อีกครั้งเป็นหลักฐานที่ทำให้รู้ว่าปัจจุบันร่างนี้ได้ตายลงไปแล้ว
    ซึ่งซอมบี้เกือบทุกตนนั้นไม่เคยรู้ว่าตัวเองนั้นเกิดด้วยเวทย์มนต์ของฝ่ายใด
    จึงไม่ทราบเรื่องพลังแม้แต่น้อย�แต่ซอมบี้นั้นสามารถมีความนึกคิดเป็นของตัวเองได้
    ซึ่งต่างจากเวทย์มนต์ของพ่อมดวูดูที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับฮาเดสเพราะจะเรียกได้เพียงซอมบี้ที่ไม่มีแม้แต่ความคิด
    ได้เพียงรับใช้ผู้ที่เรียกอย่างไม่อาจขัดขืน เนื่องจากสิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนร่างกายไม่ใช่ 'ชีวิต'
    แต่กลับเป็นเพียงเวทย์มนต์เท่านั้น

    ธาตุที่เหมาะกับเผ่าพันธุ์
    ธาตุที่ซอมบี้ใช้ดีที่สุดนั้นไม่มีอยู่เพราะซอมบี้นั้นเมื่อกำเนิดมาจะไม่มี 'คอร์'
    ที่เป็นตัวเรียกเวทย์มนต์ หรืออาจจะมีอยู่แต่เบาบางมาก
    ซึ่งก็ไม่ได้หมายถึงว่าซอมบี้นั้นไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้
    แต่เป็นร่างกายที่เกิดจากสภาวะภาชนะที่ว่างเปล่า
    ซึ่งหากได้ฝึกฝนพลังทางเวทย์มนต์นั้นจะตอบสนองได้ดี
    โดยเฉพาะธาตุมืดและแสงสว่างเพราะเป็นรูปร่างใกล้เคียงกับความตายมากที่สุด
    ส่วนแสงสว่างเกิดจากพรที่เหล่าเทพธิดาช่วยอวยพรให้ชุบชีวิตขึ้น
    (ขึ้นอยู่กับว่าถูกปลุกด้วยวิธีของพ่อมดฝ่ายมืดหรือเทพธิดา)
    เมื่อฝึกฝนจนได้ทราบถึงแหล่งกำเนิดของตัวเองไม่ว่าจะเป็นธาตุแสงหรือธาตุมืด
    พลังที่ตกค้างนั้นจะแปรผันเป็นคอร์ที่ทรงอนุภาพเป็นแหล่งกำเนิดพลังหลักทันที
    *คอร์ = แหล่งกำเนิดพลัง

    ธาตุที่แพ้ทาง
    ไฟและน้ำแข็ง
    ซึ่งเป็นตัวแทนแห่งอุณหภูมิเพราะร่างกายไม่สามารถทนสภาพกับพวกความร้่อนหรือไอเย็นสูง
    และร่างกายที่เกิดจากการฟื้นนั้นเป็นสภาพที่เกิดจากก่อนตายนั่นเอง
    หากหนาวมากเกินไปเลือดอาจจะแข็งตัวและกลับสู่นิทราในที่สุด

    ความสามารถของเผ่าพันธุ์
    ความสามารถของเผ่าซอมบี้นั้นถ้าโดยปรกตินั้นซอมบี้จะซอมบี้จะมีความสามารถเฉพาะตัวเลยอย่างชีวิตที่อึดถึกเรียกได้ว่าอมตะเลยทีเดียว
    ไม่ว่าจะตัดหัว ตัดขา ตัดแขน จะไม่อาจพรากชีวิตได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้หมดสภาพไม่ได้
    เพราะซอมบี้นั้นยังมีความเจ็บปวดอยู่ หากได้รับความเจ็บปวดที่เลยกว่าที่ร่างกายจะได้รับ
    ร่างกายจะเข้าสู่สภาวะหลับไหลทันที ซอมบี้นั้นยังมีพลังเวทย์จากตอนฟื้นมาเป็นเป็นแหล่งกำเนิดพลัง (แม้จะเบาบาง)
    ซึ่งไม่อาจเรียกว่า'คอร์'ได้ตั้งแต่เกิด หากไม่ได้ฝึกฝนและหาแหล่งกำเนิดพลังตัวเอง(ที่ได้รับตอนมีชีวิตอีกครั้ง)
    ความสามารถทางกายภาพนั้นจะเหมือนกับมนุษย์ทุกประการไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเพียงใด
    ซึ่งอาจจะด้อยกว่ามนุษย์เลยเพราะไม่อาจใช้ได้แม้แต่เวทย์มนต์พื้นฐาน แต่สิ่งที่พิเศษกว่านั้นคือภาชนะที่ว่างเปล่า
    ทำให้สามารถรับความสามารถที่หลากหลายได้ เพียงแต่ไม่มีความทรงจำตอนมีชีวิตเพียงนั้น
    ความรู้ ความสามารถ ความทรงจำ ครอบครัว หรือแม้แต่คนที่รักนั้นสูญหาย เนื่องจากเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

    ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์
    �ประวัติของซอมบี้นั้นมีมาเนินนานแล้วแต่ไม่สามารถพบได้บ่อยเพราะเหตุผลการเกิดนั้นยากนักที่จะทำนัก
    โดยมีผู้ทิ้งหลักฐานต่างๆมากมาย แต่ที่พอจะเป็นแหล่งข่าวได้คือซอมบี้ที่เกิดจากความมืด
    อันเกิดจากจอมเวทย์ที่ได้รับมนตราของฮาเดสเป็นสายพลัง ส่วนซอมบี้ที่เกิดจากแสงสว่างนั้น
    เกิดจากพรแห่งสรวงสวรรค์ของเทพธิดาแห่งการกำเนิด�
    โดยซอมบี้นั้นมีโอกาสที่ค้นพบต่ำมากเพราะผู้ที่สามารถปลุกชีพได้นั้นมีน้อยถึงน้อยที่สุด

    มหาสรรพาวุธแห่งเผ่าพันธุ์
    เวทย์มนต์ที่ตกค้างกลายเป็นคอร์
    ซึ่งจะเป็นแหล่งกำเนิดพลังโดยอันเกิดจากเทพธิดาและฮาเดส


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×