ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #114 : Tokyo Godfathers เมตตาไม่มีวันตาย

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 54


     

    Tokyo Godfathers เป็นการ์ตูนอนิเมชั่นที่ผมอยากดูมานานแล้วครับ(ตั้งแต่ปี 2003 สมัยมัธยม ตอนดูทีวีแม็กกาซีน) สาเหตุก็คงจะเป็นเนื้อหาค่อนข้างจะแปลก เพราะว่าตัวเอกในอนิเมชั่นเรื่องนี้ดันเป็นคนไร้บ้าน บุคคลที่สังคมญี่ปุ่นรังเกียจ อีกทั้งเนื้อหาก็แปลกใหม่ และภาพสวยด้วย(สมัยก่อนนี้ถือว่าสุดยอดแล้วนะครับ) แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่ได้ดูอนิเมชั่นเรื่องนี้เสียที เคยได้ยินอยู่บ้างว่าช่อง 7 เคยเอาการ์ตูนเรื่องนี้มาออกโทรทัศน์บ้างแล้ว แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่ได้ดูอนิเมชั่นนี้ได้เสียที จนกระทั้งเวลาผ่านไป(ไวเหมือนโกหก) ปี 2011 ผมก็เจออนิเมชั่นเรื่องนี้อย่างง่ายที่กระบะซีดีราคาถูก(แค่ 15 บาท) ที่วางแผงในงานกาชาด ผมซื้อทันทีโดยไม่จำเป็นต้องตัดสินใจ และเมื่อดูอนิเมชั่นเรื่องนี้แล้ว ปรากฏว่ามันไม่ผิดหวังเลยสักนิดเดียว......

     

     

    Tokyo Godfathers

    โรแมนติก, ดราม่า

     

    เป็นอนิเมชั่นการ์ตูน(ปี 2003) กำกับโดย Satoshi Kon เจ้าของผลงานอนิเมชั่นเทพๆ อย่าง Perfect Blue (1997), Millennium Actress (2001)ความยาว 92 นาที ได้รับรางวัลชนะเลิศ Japan Media Arts Festival(2003) ส่วนในไทยลิขสิทธิ์โดย HAPPV ในชื่อ “โตเกียว ก๊อตฟาเธอร์  เมตตาไม่มีวันตาย”

    ปล. Perfect Blue (1997), Millennium Actress (2001)หาโหลดได้ตามเว็บทั่วไป(แต่ผมไม่ได้ดูสักเรื่อง) ขอบอกว่าทุกเรื่องระดับห้าดาว

    ในคืนวันคริสต์มาสอีฟคืนหนึ่ง สามคนไร้บ้านที่มีนิสัยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงไม่ว่านิสัยหรืออายุ โดยสามคนไร้บ้าน ประกอบด้วย จินชายจรจัดกลางคนหนวดรุงรังที่นิสัยหยาบคาย ขี้เมา, ฮานากระเทยเฒ่าและอดีตนางโชว์ที่มีนิสัยขี้สงสาร, มิยูกิเด็กสาวที่หนีออกจากบ้าน ได้เจอเด็กทารกน้อยร้องไห้จ้าคนหนึ่งที่ถูกทิ้งกองขยะ

    เมื่อสามไร้บ้านพบเด็กทารกครั้งแรก ทั้งสามก็มีความคิดเห็นต่างกัน จินบอกให้ส่งตำรวจเพราะคิดว่าเด็กทารกคงโดนแม่ใจยักษ์เอาไปทิ้งแน่ๆ ส่วนมิยูกิบอกว่าไม่ต้องสนใจ หากแต่ฮานากับมีความคิดเห็นแตกต่างจากสามคนดังกล่าว เพราะเธอใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากเป็นแม่คน พร้อมกับเชื่อว่าเด็กคนนี้ถูกส่งมาโดยพระผู้เป็นเจ้า เธอได้ตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า “คิโยโกะ(หมายถึงเด็กบริสุทธิ์)” พร้อมกันนั้นฮานาได้มีความคิดว่าจะพาเด็กทารกดังกล่าวตามหาแม่ โดยเบาะแสของเด็กนั้นมีเพียงนามบัตรบาร์แห่งหนึ่งและรูปถ่าย 2-3 ใบเท่านั้น และแล้วการตามหาเด็กน้อยของคนไร้บ้านสามคนก็กลายเป็นการผจญภัยครั้งใหญ่ และระหว่างการเดินทางนั้นทั้งสามก็ระลึกถึงความหลังก่อนมาเป็นคนไร้บ้าน พร้อมกับความมหัศจรรย์วันคริสต์มาสที่ไม่รู้ลืม


                พูดถึงวันคริสต์มาส ในตะวันตกการล้อมวงนั่งดูภาพยนตร์ช่วงเทศกาลคริสต์มาสถือเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมายาวนานแล้วนะครับ เมื่อถึงช่วงส่งท้ายปีเก่าของทุกๆ ปี บรรดาสมาชิกครอบครัวชาวตะวันตก โดยเฉพาะในประเทศอเมริกาและอังกฤษ จะใช้เวลาร่วมกัน ด้วยการล้อมวงนั่งชมภาพยนตร์เทศกาลคริสต์มาสคลาสสิกอยู่หน้าจอโทรทัศน์ ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆจะนำมาฉายเป็นประจำทุกปี พูดถึง โดยส่วนมากเนื้อหาภาพยนตร์จะเน้นความสุขและความปรารถนาในความสนหวังของตัวละครในเรื่องนั้นๆ ก่อนที่จะจบประทับใจทุกครั้ง ตัวอย่างก็เช่น ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ติดอันดับ ก็เช่น
    The Nightmare Before Christmas, Elf

    เสียดายครับที่ Tokyo Godfathers ไม่ได้ติดหนึ่งในนั้น แต่ผมเชื่อว่าหากคนทั่วโลกได้ดูอนิเมชั่นนี้นับลองว่ามันต้องติดอันดับภาพยนตร์วันคริสต์มาสอย่างแน่นอน เพราะไม่ใช่ว่าเป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความสุข หากแต่มันเต็มไปด้วยศิลปะและการนำเสนอ ชนิดที่เรียกว่าตลอดที่ภาพยนตร์อนิเมชั่นฉายนั้นคุณต้องนั่งติดเก้าอี้ไม่ไปไหนแน่นอน เพราะต้องลุ้นตลอดว่ามันจะเป็นยังไงต่อ ซึ่งมันไม่น่าเบื่อเลย

    Tokyo Godfathers เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่พัฒนาฝีมือของผู้กำกับอย่างแท้จริง(ปล. ผมพึ่งมารู้เรื่องชื่อกำกับตอนลงการ์ตูนเรื่องนี้ในเว็บเด็กดีนี้แหละ) นอกจากศิลปะของภาพที่ทำได้หวานเย็นแต่อบอุ่นแล้ว สิ่งที่สุดยอดคือการดำเนินเรื่องที่ไม่ธรรมดาเลย แม้เนื้อหาจะเป็นแค่ตามหาเด็ก แต่เส้นทางการเดินทางของคนไร้บ้านสามคนนั้นเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ ที่สะท้อนถึงมุมมืด ความเสื่อมโทรมของมหานครโตเกียวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเพศที่สาม(ญี่ปุ่นกีดกันเพศนี้มาก), คนลักลอบเข้าเมือง, หนุ่มสาวใจแตก, ปัญหาครอบครัว, การพนัน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอดด้วยภาพที่สดสวยภายใต้มุมมองของสามคนไร้บ้าน เหมือนประชดว่า “แม้โลกจะสกปรกอย่างสาหัสเพียงใด จิตใจมนุษย์เท่านั้นที่ยังมีความงามหลงเหลืออยู่”

    Tokyo Godfathers นั้นดัดแปลงมาจากภาพยนตร์คลาสสิคของจอห์น ฟอร์ด ในเรื่อง “3 Godfathers ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ โจรนอกกฎหมายพร้อมสมุนอีก 2 คนที่เผอิญไปพบกับศพหญิงผู้หนึ่งที่มีลูกน้อยนอนร้องไห้งอแงอยู่ข้างๆ หน้าที่การเลี้ยงดูเด็กจึงตกมาเป็นภาระของพวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่บทสรุปสามโจรได้กลับตัวกลับใจเป็นคนดีในสังคมในที่สุด

    Tokyo Godfathers นั้นได้ใช้ 3 ตัวเอกที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิตเท่าที่ดูอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน กล่าวคือส่วนใหญ่อนิเมชั่นมักสร้างนางเอกน่ารัก สวยเก่ง พระเอกแมน เท่ (ค่ายจิบิหรือค่ายอื่นๆ ยกเว้นการ์ตูนอนิเมชั่นจอเงินแล้วทำเป็นตอนพิเศษภาคจอเงิน) หากแต่ Tokyo Godfathers กลับใช้คนไร้บ้านมาเป็นตัวเอก เพราะคนไร้บ้านในประเทศญี่ปุ่นนั้นถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่น่าสงสาร และอ่อนแอมาก(กรุณาอย่าเปรียบเทียบคนไร้บ้านในประเทศไทย) ไม่มีที่อยู่ ไร้ความหวัง  ส่วนใหญ่มักเป็นคนแก่ไม่มีทางสู้ กลุ่มคนเหล่านี้สังคมรังเกียจ และมักตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงกับวัยรุ่นญี่ปุ่น

    ปกติแล้วคนไร้บ้านของญี่ปุ่นมาจากวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลกระทบให้ผู้สูงอายุแบกภาระค่าครองชีพไม่ไหว ทำให้กลายเป็นคนไร้บ้านในที่สุด แต่ที่น่าแปลกคือสามคนไร้บ้านใน Tokyo Godfathers นั้นมีเหตุผลที่ไร้บ้านแตกต่างกันไปโดยไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจเลยสักนิด

     

    การดำเนินเรื่องในการ์ตูนจะเป็นแบบเดินทางไปเรื่อยๆ ระหว่างทางได้เจอผู้คน และเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย และหลายเหตุการณ์มีทั้งน่ากลัว ตลกชวนหัว และน่าพิศวง ก่อนเหตุการณ์ต่างๆ นำไปสู่ปลายทางของมัน เหมือนปาฏิหาริย์เล็กๆ ที่ดูแล้วยิ่งใหญ่ลงตัว

    นอกเหนือจากดำเนินเรื่องการ์ตูนไปเรื่อยๆ แล้ว ยังมีฉากย้อนอดีตของคนไร้บ้านทั้งสามคนว่าเพราะเหตุใดสามคนถึงกลายเป็นคนไร้บ้าน โดยแต่ละคนนั้นมีอดีตแตกต่างกันออกไป สาเหตุที่จากบ้านจากครอบครัวไม่ใช่เพราะปัญหาเศรษฐกิจ แต่เป็นเพราะความอ่อนแอของจิตใจของสามคนที่ไม่สามารถกลับไปสู้หน้าคนครอบครัวด้วยเหตุผลเพราะพวกเขาทำเรื่องร้ายกาจลงไปกลัวจะไม่ได้รับการให้อภัย

    แต่แล้วระหว่างที่สามคนเดินทางเพื่อตามหาแม่เด็กนั้น ด้วยเนื้อเรื่องนำพาและปาฏิหาริย์เล็กๆคนทั้งสามก็ได้พบคนในครอบครัวของแต่ละคน ในระหว่างทางพร้อมกับเหตุผลที่ทุกคนต้องกลับไป

      

    จินชายจรจัดที่ตอนแรกเป็นคนอารมณ์ร้ายๆ ขี้เมา ที่ตอนแรกเมื่อเห็นเด็กทารกก็เริ่มเล่าอดีตกับฮานาว่าเขาเคยมีภรรยาและลูกสาวก่อนที่จะกลายเป็นคนติดเหล้า เขาเคยมีอาชีพเป็นนักแข่งจักรยานหากแต่ลูกสาวป่วยเลยเลิก ก่อนที่กิจการจะล้มเหลวและภรรยาและลูกสาวเสียชีวิต  (นอกจากนี้เขามองมิยูกิเหมือนลูกสาวของเขา) หากแต่เมื่อผ่านเหตุการณ์ต่างๆ นาๆ จินก็เริ่มเปิดใจว่าสิ่งที่เขาเล่านั่นเป็นเรื่องโกหก ความจริงเขาเป็นเพียงเจ้าของร้านจักรยานแต่ต้องทิ้งภรรยาและลูกเมีย(ซึ่งเขามักพูดตลอดว่าลูกเมียตายไม่ก็เกลียดเขา)เพราะหนี้การพนัน แต่กลายเป็นว่าจินกลับพบลูกสาวโดยบังเอิญที่โรงพยาบาล ก่อนที่รู้ว่าเธอไม่ได้เกลียดเขา ซ้ำยังรอการกลับมาของพ่ออยู่ทุกวัน(นอกจากนี้จินยังพบเจ้าหนี้ระหว่างทางอีก)

      

    ฮานาสาวประเภทสองที่เชื่อเรื่องในพระเจ้า และมีนิสัยแสดงออกชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นหัวเราะเสียดังลั่น ร้องไห้ฟูมฟายเมื่อได้ยินเรื่องเศร้า แม้ร่างกายจะอัปลักษณ์แต่ภายนอกจิตใจงดงาม หลังจากเธอทำร้ายแขกในร้านเพราะพูดจาหยาบคายจนไม่มีหน้าจะกลับไปหาแม่ของเธอ(แม่ในที่นี้หมายถึงควีนที่ฮานานับถือเหมือนผู้มีพระคุณ) แต่ด้วยเหตุการณ์พาไปฮานาจึงจำเป็นต้องกลับไปหา “แม่” อีกครั้ง ตอนแรกเธอคิดว่า “แม่” คงเย็นชาใส่เธอแต่กลับตรงกันข้าม เพราะ “แม่” ให้อภัยฮานาทุกอย่าง ซ้ำยังรอเธอกลับมาอยู่เมื่อทุกวัน

      

    มิยูกิ(พูดตรงๆ ว่าตัวละครตัวนี้เหมือนน้องสาวผมมาก) เด็กสาวนักเรียนมัธยมปลายที่ไม่อยากเอยเรื่องอดีตของเธอมากนัก(แถมนิสัยยังซึนอีก) จนกระทั้งพบเด็กทารก พร้อมกับการได้ยินเรื่องพ่อแม่ระหว่างทาง จนฮานาเปิดใจว่าเธอเป็นเด็กอดีตที่เติบโตมาในครอบครัวที่ แม่เป็นคนเคร่งศาสนาและเธอต้องหนีออกจากบ้านเพราะแทงพ่อด้วยสาเหตุเพียงแค่แมวหายไป หากแต่ระหว่างทางมิยูกิก็เริ่มรู้ว่าพ่อของเธอเป็นห่วงมาตลอด(เธอพบโฆษณาในหนังสือพิมพ์ตามหาแมวจองเธอและดูเหมือนแมวดังกล่าวได้กลับไปบ้านของเธอแล้ว) แต่กระนั้นเธอก็ไม่มีหน้าจะกลับไปหาพ่อ จนกระทั้งตอนท้ายเรื่อง..............

     

    หลังจากที่ผมดูเรื่องการ์ตูนนี้จบ ผมมีความรู้สึกว่ามีความสุข และเชื่อว่านี้เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ดีที่เหมาะแก่การนำมาดูพร้อมกับครอบครัวในวันคริสต์มาส แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นไม่ได้นับถือคริสต์ แต่กระนั้นสิ่งที่การ์ตูนเรื่องต้องการนำเสนอก็ใช้หลักศาสนาคริสต์ครบถ้วน ไม่ว่าจะรักเพื่อนมนุษย์ รักครอบครัว รักผู้มีบุญคุณ  รักคนใกล้ตัว ศาสนาคริสต์ถือว่าความรักคือสิ่งสูงสุด คือทุกสิ่ง แม้ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ภาษาผิดเพี้ยนยังไง ความรักก็ไม่เสื่อมคลาย อีกทั้งความรักนั้นยังช่วยเตือนสติผู้ที่กระทำความผิดกลับเนื้อกลับใจเป็นคนดีเสียใหม่

    สิ่งที่การ์ตูนเรื่องต้องการนำเสนออีกอย่างคือ การสู้ชีวิต แม้ว่าคนไร้บ้านจะเป็นคนไร้ค่าในสังคมญี่ปุ่น แต่พวกเขาก็ไม่ได้สิ้นหวังในชีวิต ไม่ได้คิดฆ่าตัวตาย พวกเขามีสิทธิที่จะมีความนึกคิดเหมือนกัน พวกต้องการความรัก ความสุขเหมือนคนอื่นๆ แม้โลกจะโสมมเพียงใด ก็ยังคงมีความงามหลงเหลืออยู่บนโลกบิดเบี้ยวใบนี้ นอกจากนี้การ์ตูนเรื่องนี้ต้องดูมากกว่าหนึ่งรอบ  เพื่อเก็บรายละเอียดปลีกย่อย ซ่อนอยู่มากมาย ชนิดเรียกว่าต้องสังเกตและประมวลผลว่ามันต้องการสื่ออะไร

                   Tokyo Godfathers เป็นการ์ตูนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว ที่บางครั้งเราอาจมีเรื่องทะเลาะหรือทำผิดร้ายแรง จนเราคิดว่าคนครอบครัวเกลียดเราและไม่ให้อภัยเรา รังเกียจเรา แต่ความจริงแล้วกลับตรงกันข้าม เมื่อคนที่เราคิดว่าเกลียด กลับกลายเป็นคนที่รักเรามากที่สุด และรอเวลาการกลับมาของเรา ดังนั้นหากเราทำให้คนอื่นเสียใจ ทำเรื่องเลวร้ายอะไรลงไป ก็ลองกลับไปดูใจสักนิด เรื่องอาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้ เพราะครอบครัวพร้อมที่อภัยแก่เราเสมอ           ส่วนเรื่องเสียงพากย์ไทยนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เพราะว่าเท่าที่ผมได้ฟัง ได้ยินเสียงของแต่ละตัวละครเข้ากับคนพากย์มาก พูดตรงกับปาก พูดไม่มีสะดุด คนพากย์มืออาชีพไม่ใช่เอาดารามาพากย์ ผมชอบเสียงสิบตรีคิโรโระในบทของจินเหลือเกิน ที่ทั้งฮ่าและเข้ากับบุคคลเหลือเกิน

                   

                    พูดถึงผู้กำกับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้ คือ ซาโตชิ คอน ผมก็พึ่งรู้ว่าเขาพึ่งเสียชีวิตไปเร็วๆ นี้(24 สิงหาคม 2010) ทั้งๆ ที่อยู่ในจุดสุดยอด แม้ว่าผลงานจะเว้นช่วงค่อนข้างมากและผลงานน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับค่ายจิบลิหรือวอลดีสนีย์ แต่ผลงานหลายเรื่องของเขาล้วนห้าดาว และทุกเรื่องล้วนแต่ดำเนินเรื่องเต็มไปด้วยกลอุบายและชั้นเชิง จิตวิทยา ความซับซ้อนในจิตใจ มีหลายเรื่องที่ผมยังไม่มีโอกาสได้ดู และอยากดู คือเรื่อง Paranoid Agent ที่หลายคนยกย่องว่าวางกลอุบายได้อย่างหักมุมที่สุด

    ผลงานแรกของ ซาโตชิ คอน ที่เปิดตัวคือ Perfect Blue ที่เล่าเรื่องแนวสะเทือนขวัญจิตวิทยาอันซับซ้อน เกี่ยวกับนักร้องสาวผู้ผันตัวเป็นดารา และถูกสะกดรอยตามปองร้ายจากแฟนคลับโรคจิต แม้เนื้อหามีชั้นมีเชิงหักมุม แต่ไม่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นเท่าใดนัก หากแต่กลับในต่างประเทศมันได้รับความนิยมอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นฝั่งอเมริกาและยุโรป ดังจะเห็นได้จากการที่สปีลเบิร์กขอเป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายให้กับ Millennium Actress และ Tokyo Godfathers ในอเมริกา และหลังจากนั้นงานของเขาก็ได้รับความสนใจ และออกฉายทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ Millennium Actress (2001), Tokyo Godfathers (2003), Paranoia Agent (2004) และ Paprika (2006) หนังไซไฟระทึกขวัญที่ว่าด้วยอุปกรณ์พิเศษ ที่สามารถทำให้คนล่วงล้ำเข้าไปในความฝันของผู้อื่นได้(สำหรับเรื่อง Paprika (2006)มีลิขสิทธิ์ในไทย) และผลงานสุดท้ายก่อนที่เขาจะเสียชีวิตคือเรื่อง Yumemiru Kikai ที่จะฉายในปี 2011 เร็วๆ นี้

                    ด้วยเหตุผลทั้งหมดดังกล่าว การ์ตูนอนิเมชั่น  Tokyo Godfathers จึงถือได้ว่าเป็นการเปิดตัวผู้กำกับซาโตชิ คอนอย่างแท้จริง ใครอยากรู้แนวคิดของผุ้กำกับเป็นยังไงก็สามารถหาดูได้เลย หาไม่ยากหรอก

    + +

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×