ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO x SNSD] ...."Operation Evil Nightmare"....

    ลำดับตอนที่ #11 : C H A P T E R 9 : Lose Consciousness....(100 %)

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 55


     


     

    C H A P T E R  9 : Lose consciousness…

     

     

     

     

     

     

     

    “อะไรนะ??”ไกสท์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ

    “โอ๊ยยยย!!”ร่างสูงดิ้นไปมาอย่างทรมาณ รู้สึกเหมือนมีบางอย่างบีบรัดในท้องแน่นไปหมด ราวกับว่าตัวเขาจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ  โฟร์อายส์หยิบเข็มฉีดยาบรรจุสารสีฟ้าออกมาจะกระเป๋าหลัง นิ้วเรียวดีดที่หลอดยาสองสามทีก่อนจะฉีดเข้าไปที่บริเวณบาดแผลนั้น

    “ฉันทำได้เพียงฉีดยาระงับปรสิตไว้ได้ชั่วคราวเท่านั้น ทางเดียวคือเราต้องเอามันออกแล้วทำลายทิ้งซะ”เวกเตอร์หายใจถี่รัว ความเจ็บปวดเมื่อสักครู่นี้ค่อยๆเบาลง

    “งั้นเราต้องหาวิธีรักษา”ไกสท์ขมวดคิ้วด้วยความกังวลใจ ปกติเวกเตอร์ไม่เคยพลาดอะไรง่ายๆแบบนี้ หรือว่า...ในตอนนั้น?

     

     

     

     

    “เวกเตอร์! ได้คีย์การ์ดหรือยัง!

    “ได้แล้ว จะไปเดี๋ยวนี้แหละ! โอ๊ย! บ้าจริง!

     

    ปัง!!! ปัง!!

     

     

    เสียงปืนดังขึ้นสองสามนัดผ่านเครื่องมือสื่อสาร ไม่นานเวกเตอร์ก็วิ่งมาพร้อมกับคีย์การ์ดสีดำด้วยท่าทางแปลกๆแต่ไม่มีใครสังเกตุเพราะกำลังพยายามเข้าลิฟต์ไปนั่นเอง

     

     

     

     

     

     

    ติ้ง!

     

     

     

     

     

    “สเปคเตอร์ดูแลเวกเตอร์ เดี๋ยวฉันกับเบลท์เวย์จะไปดูทางข้างหน้าเอง”ไกสท์บรรจุกระสุนปืนอย่างรวดเร็วพร้อมกับเดินออกไปอย่างระมัดระวังโดยมีเบลท์เวย์เดินไปด้วย

     

     

     

     

     

    ตึก...ตึก...ตึก...

     

     

     

     

     

     

    บนพื้นเงามีรอยเลือดคล้ายถูกบางอย่างลากเป็นทางยาวจนไปถึงห้องแล็บห้องหนึ่ง ไกสท์และเบลท์เวย์หลบเข้าด้านข้างของประตูก่อนจะพยักหน้าให้สัญญาณเปิดประตูทันที

     

     

     

     

     

    ฟึบ!

     

     

     

     

    “แฮ่ห์!!!!!”ซอมบี้นักวิจัยจำนวน 3 ตัวพุ่งเข้าใส่ไกสท์อย่างรวดเร็ว มือบางหยิบมีดคู่ใจออกมาเฉือนเข้าที่บริเวณลำคอของมันรวดเดียวทั้ง 3 ตัว

    “แฮ่ห์......แฮ่ห์”พวกมันดิ้นไปมากับพื้นอย่างทรมาณ เลือดสีดำคล้ำจำนวนมากไหลบ่าออกมาจากลำคอพวกมัน เบลท์เวย์มองดูด้วยความสมเพชก่อนจะเหยียบหัวซอมบี้จนแหลกละเอียด

    “เคลียร์!

     

     

     

     

    สเปคเตอร์พยุงเวกเตอร์ขึ้นมาตามด้วยโฟร์อายส์และเบอร์ต้า เข้ามาให้ห้องแล็บอีกห้องหนึ่ง

    “เราน่าจะใช้เครื่องนี้ได้”ไกสท์มองไปยังแท่นทดลองที่มีเครื่องมือพิเศษมากมาย

    “ใช่ เราใช้มันได้ ฉันจะใช้มัน โฟร์อายส์พยุงฉันไปนั่งที”เบอร์ต้าลุกขึ้นยืนโดยมีโฟร์อายส์ช่วยพยุงอยู่ข้างๆ

    “เดี๋ยว แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าใช้เครื่องนี่ได้”เบลท์เวย์ถามขึ้น

    “ฉันรู้แล้วกันน่ะ”ร่างเล็กนอนลงบนแท่นทดลอง ขณะที่โฟร์อายส์ใช้สายรัดมัดข้อมือและข้อเท้าเบอร์ต้าเอาไว้ก่อนกดคีย์ข้อมูลลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์

    “พร้อมนะคะ”

    “พร้อมแล้ว”

     

     

     

     

     

    วึ้ดดดดดดด!!!

     

     

     

     

     

    “โอ๊ยยยยยย!!!”กระแสไฟฟ้ามากมายไหลเข้าสู่ร่างของเบอร์ต้า หญิงสาวกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวเพราะความทรมาณ เครื่องนั้นยังคงส่งกระแสไฟฟ้าลงมาไม่หยุดจนคนอื่นๆกลัวว่าเบอร์ต้าจะเป็นอะไรไปซะก่อน

     

     

     

     

    ปึบ!

     

     

     

     

     

    เครื่องส่งกระแสไฟฟ้าหยุดทำงานลง เบอร์ต้าหายใจหอบถี่ ร่างเล็กกระตุกสองสามครั้งก่อนจะนิ่งไป ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อมากมาย โฟร์อายส์เดินไปปลอดสายที่รัดข้อเท้าและข้อมือออก

    “เป็นยังบ้าง เบอร์ต้า”ไกสท์ที่ดูมีท่าเป็นห่วงไม่น้อยกว่าคนอื่นๆ เอ่ยถามคนที่บนแท่นทดลอง

    “สบายมากค่ะ”เบอร์ต้าคลี่ยิ้มออกท่ามกลางความฉงนใจของทุกคน

    “เครื่องดามขานี่ ก็คงไม่ต้องใช้แล้วล่ะ”มือบางปลดเครื่องดามขาออกและลงเดินทั้งสองขาสบายๆเหมือนอาการกระดูร้าวหายเป็นปลิดทิ้ง

    “ทำได้ยังไงน่ะ?”สเปคเตอร์เอ่ยถาม เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย

     

     

    “มันเป็นเครื่องเร่งกระบวนการรักษาตัวของร่างกาย กระดูกของเชื่อมกันภายในเวลาไม่กี่นาที สรุปง่ายๆมันเป็นเครื่องรักษา”เบอร์ต้าอธิบายถึงหน้าที่ของเครื่องทดลองนั้นที่เธอใช้

    “เดี๋ยวฉันจะรักษาเวกเตอร์ สเปคเตอร์พยุงเขามาบนแท่นทดลองหน่อยสิ”

    “โอ๊ยยยย!!”ร่างของเวกเตอร์กระตุกอย่างแรงอีกครั้งก่อนจะล้มลงไป ดวงตาสีนิลเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง

    “เร็วเข้า! สเปคเตอร์!”เบลท์เวย์เข้าไปช่วยสเปคเตอร์พยุงเวกเตอร์ขึ้นมาอย่างทุลักทุเล

     

     

     

     

     

    ผลั่ก!! ผั่วะ!!!

     

     

     

     

     

     

    สเปคเตอร์และเบลท์เวย์ลงไปนอนจุกกับพื้น ใบหน้าที่ไร้หน้ากากของเวกเตอร์คลี่ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

    “เวกเตอร์!! นายทำอะไร!”ไกสท์ยกปืนขึ้นจ่อลูกทีมที่ดูเหมือนจะถูกบางอย่างควบคุมจิตใจ

    “เธอไม่ยิงฉันหรอก”ฉับพลันเวกเตอร์เคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วจนไกสท์มองตามไม่ทัน ปืนในมือถูกเตะหลุดร่วงไปพร้อมกับความรู้สึกจุกจี้ดที่ท้องจนทรุดลง

     

     

     

     

     

    ปัง!! ปัง!! ปัง!!

     

     

     

     

    “โอ๊ยยยย!!”เบอร์ต้าและโฟร์อายส์เองก็ถูกจัดการภายในพริบตา เวกเตอร์เดินออกนอกห้องแล็บไป ไกสท์พยายามลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก มือบางหยิบปืนขึ้นมาแล้ววิ่งตามออกไป

     

     

    “เวกเตอร์!! นายอยู่ไหน!! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!!”เสียงหวานตะโกนลั่นก้องไปทั่ว สมองสับสนไปหมด นี่มันเรื่องอะไรกัน??

     

     

     

     

    แปะ...แปะ...แปะ

     

     

     

     

     

    “หึๆๆ ขอนับถือในความพยายามของเธอและทีมจริงๆ ที่อุตส่าห์ดั้นดนมาถึงที่นี่ได้”ร่างบางหันไปตามเสียงปรบมือที่ดังขึ้น ร่างเพรียวในชุดนักวิจัยเดินออกมาอย่างมาดมั่น ใบหน้าเรียวยิ้มเยาะเย้ยไกสท์ราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในกำมือเธอแล้ว

    “ควอน..ยูริ”

    “ใช่! ฉันเอง คนที่เธอได้รับคำสั่งมาให้มาขโมยผลงานฉันไง”ริมฝีปากบางที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงสดคลี่ยิ้มออก

    “เธอ...เธอทำอะไรกับพวกเรา”ไกสท์ยกปืนขึ้นจ่อนักวิทยาศาสตร์ตรงหน้า

    “หึ หึ เปล่านี่ เธอระแวงมากไปหรือเปล่า อิม ยุนอา...”ยูริพูดเสียงยียวนจนไกสท์ทนไม่ไหวพุ่งเข้าหมายจะต่อยคนตรงหน้าให้หุบปากซะที

     

     

     

     

    ผลั่ก! ตุ่บ!

     

     

     

     

     

    ใบหน้าหวานเหยเกด้วยความเจ็บปวด ร่างเล็กล้มลงไปกองกับพื้น มือบางกุมท้องเอาไว้ อยากจะลุกก็ลุกไม่ไหว ในเมื่อตอนนี้เธอไม่มีเรี่ยวแรงเลย

    “อ้ะๆอย่าคิดจะมาแตะต้องฉันเชียว เพราะฉันมีบอดี้การ์ดประจำตัวฉันอยู่นะ”ยูริคลี่ยิ้มอีกครั้ง มือเรียวลูบไล้ไปตามโครงหน้าคมของบุคคลข้างๆ

    “ซะ...เซฮุน”ยุนอาเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก ความเจ็บที่ท้องยังไม่หายไปไหน แต่ที่เจ็บยิ่งกว่าคือทำไมต้องเป็นคนตรงหน้าเธอด้วย

    “บอดี้การ์ดของฉันทำหน้าที่ได้ดีเลยใช่มั้ย? ยุนอา”

    “..........”

    “ทำไมไม่ตอบล่ะ ฉันคิดว่าเธอน่าจะชอบบอดี้การ์ดคนใหม่ของฉันซะอีก ว้า...แย่จัง”ยูริเลิกคิ้วออกน้อยๆก่อนจะเลื่อนมือไปกดสวิทช์ปิดประตูห้องแล็บที่มีเบอร์ต้า โฟร์อายส์ สเปคเตอร์และเบลท์เวย์อยู่

    “ฉันว่าจะไปทำงานต่อแล้วล่ะ มีงานอีกเยอะที่ฉันต้องทำ ไม่มีเวลามาเสวนากับเธอนานนักหรอกนะ”

    “เซฮุนนา ฉันคิดว่านายน่าจะอยู่เป็นเพื่อนผู้หญิงคนนี้นะ”เสียงหวานกระซิบเบาๆที่หูของร่างสูง ดวงตาเรียวโฉบเฉี่ยวมองไปยังหญิงสาวที่พื้นอย่างดูแคลน

    “ฉันจะไปทำงานล่ะ จัดการยัยนี่ให้เรียบร้อยด้วย”สิ้นเสียงนักวิทยาศาสตร์ยูริเดินกลับไปยังห้องแล็บชั้นล่างของตัวเองไป เหลือไว้เพียง บอดี้การ์ด คนใหม่และไกสท์

     

     

     

     

     

     

    “ไกสท์!!! ให้ตายสิ! เปิดประตูเร็วเข้า สเปคเตอร์!”เบลท์เวย์ทุบกระจกอย่างร้อนใจ พวกเขาถูกขังเอาไว้ในนี้ทั้งๆที่เกือบจะออกไปทันแล้วเชียว

    “กำลังพยายามอยู่!”สเปคเตอร์และคนอื่นเองก็ใจร้อนไม่แพ้กัน นิ้วเรียวกดรหัสข้อมูลมากมายลงไปอย่างรวดเร็วแต่ยังไม่มีท่าทีว่าประตูจะเปิด

    “เวกเตอร์โดนควบคุมโดยปรสิตในตัวเขา เราต้องทำลายมัน”เบอร์ต้าเตรียมบางอย่างกับเครื่องทดลองพร้อมกับพูดไปด้วย

     

     

     

     

    ตึก...ตึก...ตึก

     

     

     

     

     

    เซฮุนค่อยๆนั่งชันเข่าลงข้างๆหญิงสาว ดวงตาคมสีแดงว่างเปล่า ไร้ความรู้สึก

    “เซฮุน...นายเป็นอะไร”ยุนอาค่อยๆลุกขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับร่างสูง มือบางสัมผัสเบาๆที่ใบหน้าของชายหนุ่ม

    “นาย...จำพวกเรา..ไม่ได้เหรอ”

    “...........”เซฮุนไม่ได้ปริปากพูดอะไร แต่รั้งเอวบางเข้าใกล้มากขึ้นจนกระทั่ง....

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฉึก!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

    ดวงตากลมเบิกกว้าง พร้อมกับมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ ชายหนุ่มปล่อยมือออกพร้อมกับดึงมีดที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของยุนอาออกมาก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจ ราวกับว่าเธอไม่มีความสำคัญกับเขาเลยแม้แต่น้อย

    “ไกสท์!!! พระเจ้า!!”โฟร์อายส์ร้องด้วยความตกใจ ภาพหัวหน้าทีมตรงหน้าล้มลงไปนอนกับพื้น เลือดสีแดงสดจำนวนมากไหลออกมาจากบาดแผลที่ท้อง ไม่คิดเลยว่าเวกเตอร์จะทำแบบนี้....

     

     

     

     

     

    “ซะ...เซฮุน”น้ำตาเม็ดใสไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย มือบางยกขึ้นหวังว่าจะเรียกให้คนๆนั้นกลับมา เลือดมากมายไหลออกมาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด หัวสมองเริ่มมึนตีกันยุ่งไปหมด อุณหภูมิร่างกายเย็นลงเรื่อยๆจนในไม่ช้าเธออาจตายได้....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “อย่าทิ้ง...ฉันไป”

     

     

     

     

     

     

     

    ......................................................................(50 %)...............................................................

     

     

     

     

     

     

     

    กึง! ครืดดดดดด....

     

     

     

     

     

     

     

    “เปิดได้แล้ว!!”สเปคเตอร์ตะโกนออกมาสุดเสียงกว่าจะเปิดได้....กินเวลาไปนานอยู่เหมือนกัน

    “พี่ยุนอา!!!”เจสสิก้ารีบวิ่งถลาเข้าไปประคองหญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บทันที ยุนอาหน้าซีดจนน่ากลัว อุณหภูมิร่างกายก็ลดลงจนอันตราย

    “คริส อุ้มพี่ยุนอาไปวางไว้บนแท่นทดลอง”ร่างสูงของคริสรีบอุ้มร่างของหัวหน้าทีมขึ้นมาทันทีก่อนจะตรงไปยังแท่นทดลองภายในห้องแล็บโดยมีแทยอนรออยู่ก่อนแล้ว

    “ทำใจดีๆไว้นะคะ พี่ยุนอา ฉันกำลังจะช่วยพี่”หญิงสาวร่างเล็กกดข้อมูลบางอย่างในหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็วก่อนกดเปิดเครื่องทำงานทันที

     

     

     

     

     

     

    วึ้ดดดดดดดดดดดด!!!

     

     

     

     

     

     

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”ยุนอากรีดร้องอย่างเจ็บปวด เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นเต็มใบหน้าเรียว ร่างทั้งร่างกระตุกอย่างแรง บาดแผลที่บริเวณท้องค่อยๆสมานตัวจนหายเป็นปกติ

     

     

     

     

     

    ปึบ!

     

     

     

     

    “พี่ยุนอา รู้สึกยังไงบ้างคะ”เจสสิก้ารีบเดินเข้ามาดูอาการของยุนอาใกล้ๆอย่างร้อนใจ ที่พี่สาวตรงหน้าชักกระตุกอย่างแรงแล้วแน่นิ่งไปแต่อัตราของชีพจนยังคงเต้นเป็นปกติ

    “เฮือก.....”จู่ยุนอาก็ลืมตาขึ้นมากะทันหัน พร้อมกับหอบหายใจอย่างแรงๆ ขณะที่ร่างบางยังคงมีอาการสั่นน้อยๆ

    “ทุกคน....”ดวงตาหวานมองกวาดไปรอบๆ ทุกคนต่างดีใจที่หัวหน้าทีมฟื้นขึ้นมา

    “พี่หายแล้ว ลุกขึ้นเถอะค่ะ”เจสสิก้าปลดสายรัดข้อมือและข้อเท้าออกก่อนจะค่อยๆพยุงยุนอาขึ้นมา

    “ขอบใจทุกคนมากนะ เรา....ออกเดินทางกันต่อเถอะ”

    “พี่ไหวเหรอครับ?”แบคฮยอนถามขึ้น

    “ไหวสิ ไหวอยู่แล้ว ไปกันเถอะ”ทุกคนมองหน้ากันเหมือนเป็นการชั่งใจ และเดินตามไกสท์ออกไป

     

     

     

     

     

     

    ตึก! ตึก! ตึก!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ‘Lab 311  Dr.Kwon Yuri’

     

     

     

    เดลต้าทีมเดินทางมาจนถึงหน้าห้องวิจัยของดอกเตอร์ควอนยูริ ก่อนจะตั้งแถวเรียงขบวนเตรียมยิง ไกสท์ให้สัญญาณลูกทีมทั้งหมดพร้อมกับกดเปิดประตูแล็บขึ้น

     

     

     

     

    ฟึบ!

     

     

     

     

    ไกสท์ค่อยๆย่างเท้าเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวัง ภายในห้องแล็บดูว่างเปล่าไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใด มีเพียงหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดค้างเอาไว้และเอกสารกองใหญ่เท่านั้น

    “ข้อมูลพวกนี้เกี่ยวกับการทดลองตัดต่อทางพันธุกรรมกับสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ของดอกเตอร์ยูริ”เบอร์ต้าหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านรายละเอียดด้านในก่อนวางมันกลับที่เดิม

    “เธอไปแล้วล่ะ”ไกสท์ถอนหายใจเบาๆ

     

     

     

     

     

     

    “นั่น!....เธออยู่ข้างนอก”เรดาร์แสกนพื้นที่ของสเปคเตอร์ตรวจพบว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกนั่น ทุกคนไม่รีรอช้ารีบวิ่งไปตามพิกัดตำแหน่งทันที

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! ดอกเตอร์ยูริ!!!”ไกสท์ตะโกนเรียกนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังเดินขึ้นลิฟต์ไปพร้อมกับสมาชิกในทีมอีกคนของเธอ....เวกเตอร์

    “หึ สู้ให้สนุกนะจ้ะ!!!!”ใบหน้าเรียวหันกลับมายิ้ม หากแต่เป็นรอยยิ้มที่เคลือบไปด้วยทุกตารางนิ้ว ร่างเพรียวเดินเข้าไปพร้อมกับคนข้างๆ

    “บ้าจริง!!!”ทั้งๆที่เธอและทีมมาถึงหน้าลิฟต์แล้วเชียว ช้าไปแค่เพียงไม่กี่วินาที

     

     

    “เอ่อ....ไกสท์ เราคงต้องได้ยิงกันอีกแล้วล่ะ”

     

     

     

     

     

     

     

    แกร๊ก......แกร๊ก......แกร๊ก....

     

     

     

     

     

     

    ซอมบี้มากมายโผล่ออกมาจากตามจุดต่างๆ ซ้ำร้ายยังมีแมงมุมกลายพันธุ์ออกมาด้วย มันไต่ขึ้นไปบนของซอมบี้แล้วใช้ฟันคมนั่นฉีกหัวร่างนั้นจนขาดและมันกลายเป็นผู้ควบคุมร่างนั้นเสียเอง

    “ยิงที่หัวของมัน!!!

     

     

     

    ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!

     

     

     

     

    “สเปคเตอร์เปิดลิฟต์เร็วเข้า!”ไกสตะโกนขณะที่พวกมันมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆและกำลังจะต้อนพวกเธอให้จนมุม

     

     

     

     

    กริ๊ก....

     

     

    ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!

     

     

     

     

    เบลท์เวย์ปาระเบิดออกไปกลางฝูงของซอมบี้ แสงระเบิดสว่างโรจน์จนเดลต้าทีมต้องเอามือบังแสงนั่นไว้

    “โฟร์อายส์ 10 นาฬิกา!!”เบอร์ต้ากระชากโฟร์อายส์ออกมาให้พ้นรัศมีการโจมตีของซอมบี้ทีถูกควบคุมโดนแมงมุมกลายพันธุ์ตัวหนึ่ง ก่อนจะยิงเข้าที่แมงมุมนั่นอย่างแม่นยำ

     

     

     

     

     

     

    ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!!

     

     

     

     

     

    ติ้ง!!!

     

     

     

     

    “ลิฟต์เปิดแล้ว เข้าไปเร็ว!!”เดลต้าทีมไม่รอช้าต่างรีบวิ่งกันเข้าไปในลิฟต์ทันที ซอมบี้ที่มากมายต่างกรูกันตามเข้ามาเช่นกัน

     

     

     

     

     

    ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!

     

     

     

     

     

    ทุกคนสาดกระสุนใส่ไม่ยั้งจนพวกมันเซออกไปพอที่จะให้ลิฟต์ปิดได้ และมีบางตัวที่ถูกลิฟต์หนีบแขนจนขาดตกลงไปกองอยู่ที่พื้นขณะที่มือของมันยังกระตุกอยู่

    “ตอนนี้ดอกเตอร์ยูริอยู่ที่ไหน”ไกสท์เอ่ยถาม

    “ผมใช้การหาพิกัดเรดาร์จากเครื่องติดตามตัวของเวกเตอร์ ตอนนี้พวกเค้าอยู่ที่ชั้น12 ลึกลงไป”

    “อืม”

    “แล้ว.... เวกเตอร์ล่ะ”เบลท์เวย์ถามขณะที่กำลังบรรจุกระสุนปืนใหม่

    “เราจะช่วยเขา”หัวหน้าทีมเอ่ยเสียงเรียบ แต่ภายในดวงตานั้นมีประกายไหววูบอยู่ในที

    “ต้องใช้สารพิษตัวนี้ ฉันพึ่งไปเจอตอนอยู่ในห้องแล็บนั่น มันเป็นโบรเมียมไดออกไซด์ผสมกับพิษของวิสเทอเรีย(พิษของดอกไม้ที่มีพิษรุนแรงที่สุดในโลก ) มันจะทำให้สภาพร่างกายไม่เหมาะต่อการอยู่ปรสิต”เบอร์ต้ายื่นหลอดเข็มฉีดยาที่ถูกเก็บไว้ในกล่องอย่างดีให้กับหัวหน้าทีมตรงหน้า

    “แล้วผลค้างเคียงล่ะ”

    “อาจมีอาการหมดสติไปพักหนึ่ง แต่ก็ไม่รุนแรงเท่าไหร่ค่ะ”

    “โอเค แต่ก่อนอื่นเราต้องมาวางแผนกันใหม่ก่อน เวกเตอร์รู้แผนการของเรา เขาจะบอกยูริทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราต้องมีแผนใหม่และแผนสำรอง”

    “รับทราบ ว่ามาเลยไกสท์”ทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียงและรอฟังแผนการของไกสท์.....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “หึ! พวกมันคิดจะฆ่าฉันเหรอ? ไม่มีทาง!!”เสียงแหลมพูดอย่างไม่พอใจขณะที่กำลังเดินทางโดยมี เวกเตอร์ เดินตามอยู่ด้านหลัง

    “พวกเขาจะทำลายแผงควบคุมระบบไฟฟ้าแล้วจะลงไปดักรอคุณที่ชั้น 14”เวกเตอร์พูดถึงแผนการของเดลต้าทีมที่กำลังไล่ล่าตามมา

    “หึ น่าเสียดาย ที่ชั้น 14 ฉันปล่อยสัตว์เลี้ยงของฉันออกมาเต็มไปหมด พวกมันกำลังจะเดินเข้าหาความตาย ฮึ ฮึ”ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้าย ยูริเดินต่อด้วยความมั่นใจ ทุกอย่างเป็นเหมือนที่เธอวางแผนไว้

     

     

     

     

    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

     

     

     

     

     

    มือเรียวกดรหัสอย่างคล่องแคล่วพร้อมกับแสกนลายนิ้วมือด้วย ประตูหนาใหญ่เปิดขึ้นช้าๆ ก่อนร่างเพรียวจะเดินเข้าไปต่อ...

     

     

     

     

     

     

     

    ตึก ตึก ตึก

     

     

     

     

    “เริ่มปฏิบัติแผนการได้”ไกสท์ส่งสัญญามือให้ลูกทีมที่หลบอยู่ไม่ไกล

    “หยุดนะ!!! ดอกเตอร์ยูริ!!!!”เบอร์ต้าวิ่งออกไปเรียกดอกเตอร์ยูริพร้อมกับยกปืนขึ้นจ่อ

    “โอ๊ะ! นี่ตามกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? แหม ย่องเบาดีนะ แต่ขอโทษที ฉันไม่มีเวลาเล่นกับพวกสุนัขรับใช้อย่างพวกเธอหรอก อ้อ! ได้ข่าวว่าแม่หมาของพวกเธอตายแล้วนี่ ฮึ ฮึ”ยูริพูดเหยียดหยามอย่างดูแคลน ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

    “ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่มีหัวหน้า แต่ยังไงเราก็สามารถไปต่อได้ ไม่ใช่พวกที่เอาแต่ปากดีหลบอยู่หลังใครบางคน”

    “หนอย!! นี่แกอยากจะลองดีกับฉันใช่มั้ย? เซฮุนจัดการพวกมันให้หมด!”ร่างสูงรับคำสั่งก่อนจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงไปยังเบอร์ต้า

     

     

     

     

     

    ฟึบ!

     

     

     

     

     

    “อย่าคิดจะแตะต้องลูกทีมฉันเชียว”มือบางของไกสท์จับแขนของคนตรงหน้าไว้ก่อนที่มันจะถึงเบอร์ต้า น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นช่างดูมีอำนาจและน่ากลัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ดวงตากลมฉายแววความมุ่งมั่นออกมาอย่างชัดเจน

    “แก!! แกยังไม่ตายอีกเหรอเนี่ย!!! เซฮุนฆ่ามัน! ฆ่ามันเดี๋ยวนี้!”ยูริเบิกตากว้างด้วยตกใจ ท่าทางอันองอาจของไกสท์เมื่อกี๊ มันทำให้เธอเริ่มรู้สึกกลัว

     

     

     

     

     

     

    ปังๆๆๆๆๆ!!!

     

     

     

     

     

     

    ลูกทีมที่เหลือต่างสาดกระสุนในหญิงสาวในชุดกราวด์ไม่ยั้ง จนยูริต้องหนีเข้าไปในห้องและรีบปิดประตูด้วยความกลัว ก่อนจะทิ้งท้ายไว้อย่างเจ็บแสบ

    “ฉันจะกลับมาฆ่าแกแน่! ไอ้พวกเศษสวะ!!!

     

     

     

     

    ฟึบ!

     

     

     

     

     

    เวกเตอร์กระโดดออกมาตั้งหลัก ทิ้งระยะห่างกับคนตรงหน้าพอควร ใบหน้าคมไร้ความรู้สึกใดๆ รวมถึงดวงตาที่เคยเป็นสีนิลกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงนั้นดูว่างเปล่าจนน่าใจหาย

    “ดอกเตอร์ยูริหนีไปแล้ว”เบอร์ต้าเอ่ย ก่อนที่ไกสท์จะหันมาพยักหน้าให้ลูกทีม

    “รับทราบ”สเปคเตอร์พยักหน้ารับคำสั่งพร้อมกับเดินนำสมาชิกที่เหลือไปจนกระทั่งเหลือเพียงบุคคลสองคน

    “ฉันมีเรื่องต้องเคลียร์กับนาย เวกเตอร์”มือบางทิ้งปืนในมือลง พลางขยับถุงมือให้เข้าที่

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “เข้ามาเลย”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ........................................................................................................................................

    คุยกันซักติ๊ส!!!!!!!
    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
    !!! รู้สึกว่าตอนนี้จะยาวมากมาย แต่ก็เสร็จ! >< ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเมามันส์น่าดู รีดเดอร์ ได้ฟังซิงเกิ้ลใหม่ของสาวๆหรือยัง จ่าสิกกับเหม่งยุนน่ารักมากมายยยย  อ่า  อ่านแล้วก็คอมเม้นด้วยน้า  รักรีดเดอร์ทุกคน >3<

     

     

     

     

    The Room ! ,,MINUS

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×