คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : CHAPTER 10 INNOCENT II 100%
CHAPTER 10 INNOCENT II
สองสัปดาห์ที่ฉันตัดสินใจมาอยู่ที่นี่ วันของการเริ่มงานที่ฉันคิดว่านี่มันไม่ใช่
เรื่องดีสักเท่าไหร่ ตำแหน่งนั้นฉันรู้สึกกังวลใจเพราะเลขาของฉันคงจะหนีไม่
พ้นใครคนนี้ได้ถ้าไม่ใช่….ลีจองชิน
“ อย่ามองฉันแบบนั้นสิค่ะ”
“ มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ”
“ ทำไงได้… ฉันรู้ว่าพี่คงไม่เชื่อที่เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างฉันจะมาเป็น
เจ้านายของพี่ แต่ไม่ว่ายังไงพี่ต้องแนะนำฉันนะ แล้วฉันจะแนะนำผู้ชายสัก
คนให้พี่ อ๊ะ!!! ” ฉันรีบก้มหน้างุดๆ เมื่อเอกสารเล่มหนาดันฟาดลงบนหน้า
ผากฉัน ดูท่าจะโมโหน่าดูแฮะ…
“ ฉันนึกว่าพี่ชอบผู้ชายซะอีก ”
“ เห็นฉันเป็นอย่างงั้นเหรอนังเด็กบ้า!!!”
“ ขอโทษค่ะ ”
“ บ่ายวันนี้เรามีประชุม เอกสารที่ฉันเอามาให้หวังว่ามันจะมีสาระกับเธอ
บ้าง เลิกเที่ยวคิดนั่นคิดนี้แล้วหันมาสนใจงานของซะ ”
“.. เอกสารนี่ฉันต้องอ่านมันทั้งหมดจริงๆน่ะเหรอ เยอะจังเลย แล้วฉันจะ
อ่านมันหมดนี่ได้ยังไงเนี่ย คงต้องใช้เวลาศึกษากันหน่อย”
“ …แล้วเธอกับผอ.…. ”
“ …อย่างที่เข้าใจนั่นแหละค่ะ ”
“ มันก็น่าอยู่หรอกนะ เฮ่อะ~” พี่จองชินคงจะรู้สึกสงสารเห็นใจฉัน ถึงได้
ทำหน้าเหนื่อยหน่ายใจพร้อมกับลุกออกไปจากห้องทำงานใหม่ของฉัน
ฉันนั่งถอนหายใจด้วยความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย พ่อ แม่ คุณตา พี่ชาย ไม่มี
ใครช่วยฉันได้นอกจากตัวฉันเอง และฉันก็นึกโมโหตัวเองที่ยังอุตสาห์เก็บแหวน
แต่งงานที่เขาขว้างทิ้งไปกลับมา ฉันพยายามจะเข้าใจเขาให้มากแต่รู้สึกว่าจุด
ยืนของเขาทำไมมันถึงได้ห่างไกลกันถึงเพียงนี้
F5421 Room
“ ซองวอนมีการขยายกิจการไปอย่างรวดเร็ว แต่ยอดขายของปีนี้ไม่ค่อย
ดีเท่าที่ควร ดิฉันคิดว่าทางบริษัทเราน่าจะมีการส่งเสริมยอดขายหรือไม่ก็ทำ
การคืนกำไรให้กับลูกค้าตามโครงการที่ท่านผ.อ คิม ที่ท่านเคยได้ร่างไว้ในที่
ประชุมเมื่อสี่ปีที่แล้วดิฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับซองวอนนะคะ
ท่านประธาน ”
“ แต่นั่นมันยังไม่ใช่ทางออกที่ดีหรอกนะผ.อ ยุน ผมยังไม่มีความเห็นใดแล้ว
เราจะต้องเสียอีกสักเท่าไหร่ มันไม่คุ้มหรอกนะครับที่จะเอาสินค้าตรงนี้ไปทุ่ม
กับอะไรที่มันไร้ประโยชน์แบบนั้น ”
“ ไม่เสมอไปหรอกค่ะ การส่งเสริมยอดขาย บางทีนั่นอาจจะเป็นทางออกที่ดี
ที่สุด ในฐานะที่ฉันเป็นผู้ดื่มไวน์ข้าวของซอนวอน ฉันว่าทางบริษัทน่าจะมี
การลดแลกแจกแถมสักหน่อย ฉันจึงอยากจะให้มีกิจกรรมดีๆแบบนั้นเกิด
ขึ้น ลูกค้าจะได้หันมาซื้อไวน์ข้าวราคาถูกๆและอร่อย และที่สำคัญดิฉันรู้สึก
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่ท่านผอ.ยุนแชวอนได้กล่าวมาทั้งหมดค่ะ ”
“ นี่..คิมคีซุน!!! ”
“ ขอบคุณครับ สำหรับความเห็นของทุกๆท่าน ผมจะกลับไปคิดดูอีกที ผม
ยอมรับนะครับว่าความเห็นของทุกท่านดีหมด ยังไงผมก็คงต้องขอกลับไปคิด
ดูแล้วการประชุมครั้งหน้าผมจะชี้แจงรายละเอียดให้ทุกท่านได้ทราบ ยินดีที่ได้
ร่วมงานกันนะคิมคีซุน ผมหวังว่าผู้บริหารทุกท่านจะให้คำปรึกษากับเธอได้ดี
นะครับ ” ฉันเพียงแต่ยิ้มให้ท่านประธาน เมื่อรู้สึกว่ามีผู้บริหารจำนวนหนึ่งไม่
ค่อยจะพอใจกับความเห็นของฉันสักเท่าไหร่ ตราบใดที่ยังเป็นสมุนรับใช้
ลีโบยอง
“ ถ้าไม่รังเกียจสิ้นเดือนนี้ผมอยากจะเชิญทุกท่านมาร่วมงานเลี้ยงของพวกเขา
และถือเป็นการแถลงการณ์กับนักข่าวเพื่อไขข้อสงสัยให้ทุกท่านได้ทราบ สำหรับ
การประชุมของวันนี้ ผมขอจบการประชุมเพียงเท่านี้ขอบคุณครับ ”
คุณเชวมินโฮนั่งอยู่ข้างๆฉันตลอดทั้งการประชุม ผู้บริหารคนอื่นๆน่าจะเดิน
ออกกันไปเกือบหมด เรานั่งอยู่ตรงนั่นเกือบสามนาทีแล้วมือของเขาก็สะกิด
ชายกระโปรงฉัน พร้อมทั้งยื่นกระดาษแผ่นเปล่าเขียนข้อความสั้นๆในหน้ากระดาษ
‘ เยี่ยมไปเลย ‘
การประชุมในครั้งนี้มีผู้บริหารคนสำคัญหลายคน ที่ฉันเคยเห็นหน้าเขาจาก
หนังสือพิมพ์แวดวงธุรกิจอะไรทำนองนั้น ส่วนตัวฉันไม่ค่อยจะมีประสบการณ์
ด้านนี้สักเท่าไหร่ แต่ก็พอเรียนรู้อะไรมานิดๆหน่อย ที่สำคัญฉันไม่เชื่อว่าตัวฉัน
เองจะพูดอะไรแบบนี้ได้ ฉันจึงยิ้มน้อยๆให้เขา และในระหว่างที่ฉันลุกออกจากที่นั่ง
ไม่ทันไร เจ้าของมือขาวๆก็ยื่นมาข้างหน้า
“ เธอคือคิมคีซุนใช่มั้ยจ๊ะ ความเห็นเธอน่าสนใจดี ฉันคงไม่จำเป็นต้อง
บอกชื่อฉันกับเธอหรอกนะ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ฉันคงได้เจอเธออีก ”
“ เช่นกันค่ะ ”
“ ข่าวลือนั่นทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้จริงๆ ” เหงื่อฉันไหลออกมาไม่หยุด ขณะที่
ริมฝีปากฉันยังคงยิ้มค้างไว้เช่นนั้น ไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไรดี เมื่อพี่แชวอนอายุ
น่าจะมากกว่าฉันถึงหกปี พูดถึงเหตุการณ์เมื่อสี่ปีก่อน และผู้บริหารบางคนต่างก็
ยืนอยู่ในห้องขณะปรึกษาหารือกัน
“ เธอไม่ได้แต่งงานกับผอ.คิมไปแล้วหรอกหรือ ”
“ ไม่ใช่หรอกครับ คีซุนเป็นภรรยาของผม ขอโทษนะครับที่ทำให้พวกคุณต้องเข้าใจ
ผิด” ฉันเงยหน้ามองเขานิ่งนาน หลังจากนั้นพี่แชวอนถึงกับพูดอะไรไม่ออก
เขาจับมือฉันเดินตามหลังออกไปนอกห้องประชุม
… ภายใต้รอยยิ้มลับลมคมในอย่างงั้น คำตอบที่ไม่ให้ฉันได้ตอบอะไรออกไป
ซักคำเดียว…
>>>>>> ต่อ <<<<<<
“ ทำไมคุณถึงไม่บอกความจริงเขาไปล่ะคะ ” เขาเพียงแต่หันมายิ้ม พร้อมทั้ง
ปล่อยมือฉันลงทันทีที่เราต่างก็เดินเข้ามาข้างในลิฟต์ตัวแรก
“ เรา…จะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆงั้นเหรอ ” ฉันเอ่ยเพราะรู้สึกกังวลกับ
เรื่องนี้เป็นพิเศษ และก่อนที่ความกังวลใจของฉันจะเหือดหายพร้อมถ้อยคำ
หนึ่ง ทันใดนั้นมือของเขาจึงเอื้อมมากอบกุมมือฉัน
“ ตราบใดที่ฉันยังอยู่ข้างๆ ฉันก็ไม่ปล่อยให้เธอต้องเจอปัญหาอยู่คนเดียวแน่ๆ ”
“ ขอบคุณนะคะ ยังไงคุณก็ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“ ทำไม หรือว่าเธอไม่พอใจฉันสินะ ”
“ ….”
“ …เรื่องที่เธอไม่สามารถรับความรู้สึกของฉันได้ฉันรู้ดี แต่ขอให้ฉันได้ปกป้อง
ดูแลเธอจนกว่าสามีของเธอจะกลับมาได้หรือเปล่า แล้วเธอก็ไม่จำเป็นต้องกังวล
อะไรนักหรอก แค่เชื่อฉันก็พอนะคีซุน ” เขาปล่อยมือฉันลงทันทีที่ลิฟต์ลงมา
ยังชั้นหนึ่ง แล้วในเที่ยงวันฉันและคุณมินโฮเราต่างก็แยกย้ายกันเสียตรงนั้น
สามชั่วโมงที่คิมมินฮวานนั่งอ่านหนังสือนิทานด้านข้างโต๊ะทำงาน ส่วนเจ้า
ของห้องก็ยังคงวุ่นวายกับเอกสารที่ยังเคลียร์ไม่เสร็จ
เด็กน้อยเลือกเปิดหนังสือนิทานอ่านอยู่หลายเล่ม พยายามแล้วพยายามอีกที่
ขอให้ท่านอ่านให้ฟัง แต่ก็ไม่เป็นผลว่าพ่อจะหันมาสนใจเขา ดูเหมือนว่าหลาย
วันมานี้เพียงแค่เขาขี่จักรยานล้มนิดหน่อยพ่อก็โวยวายใส่เขาเสียยกใหญ่ หลังจาก
วันนั้นมาคิมมินฮวานก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้พ่อของเขาไปมากกว่านั้น และตอนนี้
เด็กน้อยก็รู้สึกคิดถึงแม่ของเขามากเหลือเกิน
“ แม่ไม่ทางทิ้งพวกเราไปหรอกใช่มั้ยฮะ พ่อจะพาแม่กลับมาได้มั้ย พาแม่กลับมา
นะฮะพ่อ” คิมมินฮวานทิ้งตัวลงนอนบนผืนพรมหันไปคว้าตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลซับ
คราบน้ำตาบนใบหน้าอย่างลวกๆ คิมจงฮยอนได้ยินเสียงเด็กน้อยส่งเสียงกระซิก
เป็นระยะ เขาเริ่มไม่มีสมาธิเมื่อเสียงมินฮวานแทบจะดังขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มจึง
ตัดสินใจวางปากกาในมือลงพับเก็บแฟ้มให้เข้าที่ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ
“ ถ้าลูกมัวแต่ร้องไห้พ่อก็ไม่มีสมาธิทำงานแล้วนะ หยุดร้องไห้ได้แล้วเจ้าตัวแสบ
อยากให้พ่ออ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนมั้ย อืมมเรื่องอะไรดี นี่ลูกอ่านถึงหน้าไหนแล้ว
น่ะ …พ่อไม่อ่านมันได้มั้ย ”
“ทำไมหรือฮะผมว่ามันก็สนุกดีออก ว่าแต่พ่อไม่โกรธผมแล้วใช่มั้ยฮะ”
“ พ่อจะโกรธลูกไปทำไมกันล่ะ ”
“ พาแม่กลับมานะฮะ ยังไงก็ต้อง….พาแม่กลับมาให้ได้นะ ” ไม่นานนัก
เจ้าตัวน้อยก็ผล่อยหลับไปในที่สุด คิมจงฮยอนนั่งเงียบอยู่นานพอสมควร
ไม่มีวันไหนที่คิมมินฮวานจะไม่ถามถึง
ความโกรธเกลียดที่เขารู้สึกอยากจะฆ่าผู้หญิงคนนั้นเขาก็ไม่สามารถจะทำได้
เพราะมินฮวานรักผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของเขายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด มันจึง
เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมทำอะไรเลยทั้งๆที่ควรจะทำตั้งแต่ต้น
เสียงลมหายใจดังแผ่วเบาในความมืด เชวมินโฮหยุดยืนอีกห้องถัดมา
ก่อนที่สายตาของเขาจะเหลือบเห็นเงารางเลือนซึ่งพิงเข้ากับประตูหน้าห้อง
ไม่ไหวติง
สำหรับเขา เธอคือผู้หญิงต้องห้าม ต่อให้เขาได้ดูแลเธอเพียงเล็กน้อย
และได้อยู่เคียงข้างเธอเช่นนี้ ความเจ็บปวดเหล่านั้นจึงถูกกลบเกลื่อน
ด้วยรอยยิ้มที่มอบให้เธอเสมอ
คิมคีซุนเอนตัวพิงกับผนัง แพรขนตายาวปิดพับเข้าหากัน เธอคงจะผล่อย
หลับไปสักพักหนึ่ง โดยที่แฟ้มเล่มหนาตกลงข้างลำตัว
“ คงคิดถึงเขามากงั้นสินะ ถึงได้มานอนตรงนี้นะ” เสียงทุ้มต่ำของเขา
ทำให้เธอรู้สึกตัวลุกขึ้นยืนทันทีที่เห็นเขายืนค้ำร่างเธออยู่
หากไม่ใช่เพราะดวงตาที่แสนจะเลื่อนลอยของเธอในระยะหลังมานี้ แม้
เธอจะไม่พูด เขาก็รู้คำตอบนั่นอยู่แล้ว
“ คุณตื่นแล้วหรือค่ะ นี่ก็ยังไม่สว่างเลย…กลับไปนอนต่อเถอะค่ะ” กว่าเขา
จะเอ่ยปากถามเธออีกครั้ง คิมคีซุนก็เดินหายลงไปเสียก่อนแล้ว
ความคิดเห็น