ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (fic HP)The World's Severus(Severus/Lily)

    ลำดับตอนที่ #11 : สิ่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเซเวอรัส(-_-)

    • อัปเดตล่าสุด 17 มิ.ย. 51


    โทไบอัสเปิดประตูเข้ามาเพียงเพื่อจะพบว่า  เกือบสองวันที่เค้าไม่เห็นเซเวอรัสนั้น  เพราะเด็กหนุ่มไม่ยอมก้าวออกจากห้องเลยแม้แต่ก้าวเดียว  ไม่กินข้าว  ไม่อาบน้ำ  ไม่ทำอะไรทั้งนั้น........................ไม่มีอะไรมาอธิบายความรู้สึกในใจของสองพ่อลูกได้   นอกจากคำว่า เจ็บปวด 

     
    "ทำไมแกยังไม่ไปอีก" เสียงของโทไบอัสแตกพร่า "อยากอยู่กับพ่อแบบนี้มากเหรอ  แกเป็นพวกมาโซรึไง"

    เซเวอรัสหันไปหาคนใจร้ายที่เค้าเรียกว่าพ่อด้วยแววตาหวาดหวั่น  โทไบอัสยกมือขึ้นลูบหน้าผากอย่างอ่อนเพลีย  ดวงตาสีเขียวฉายแววเศร้าสร้อยอย่างที่เด็กหนุ่มไม่เคยเห็น  แล้วคำพูด่อมาก็ทำให้หน้าซีดๆ สดใสราวกับหญ้าที่เหี่ยวเฉาได้น้ำ

      "ไปอาบน้ำแล้วลงไปกินข้าวซะ................แล้วอย่าลืมถ้วยเก็บข้าวโอ๊ดบูดนั้นไปล้างด้วยล่ะ  ไอ้ลูกแม่มด"

    ......................................................................................................

    ...............................................................................

    .......................................................

      "โรงเรียนเปิดพรุ่งนี้นี่.... ใช่มั้ย" โทไบอัสถามหลังจากที่กินอาหารเย็นเสร็จ  เซเวอรัสพยักหน้ารับ

      "เดี๋ยวชั้นจะไปส่ง................อย่าทำหน้าแบบนั้น  แกอยากกลับบ้านตอนไหนมันก็เรื่องของแก"
    ***************************

    โทไบอัสไปส่งลูกชายที่สถานีรถไฟเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา  แม้คำพูดแต่ละคำจะไม่ค่อยลื่นรูหูนัก  แต่ก็ทำให้เซเวอรัสมีความสุขมาก  เค้ามองพ่อตั้งแต่รถออก จนกระทั้งไม่เห็นสถานีอีก

      "อยู่นี่เอง................." ลิลี่ว่า  เธอนั่งลงข้างๆ เซเวอรัส "ชั้นตามหาจนทั่ว"

    เซเวอรัสยิ้มให้แฟนสาว  เธอพูดต่อไป "นี่............. พ่อชั้นบอกให้พอเธอไปเล่นที่บ้านในช่วงปิดเทอมล่ะ   ชั้นว่าเค้าอาจจะชอบเธอ......... แล้วเธอตกลงมั้ย  หมายถึง  ถ้ามีโอกาส"

      "ถ้าพ่ออนุญาต....................ผมจะไปแน่ครับ.........สัญญา"

      "เซเวอรัส" ลิลี่กระซิบ "แขนเธอไปโดนอะไรมาน่ะ"

    เด็กหนุ่มเบือนหน้าจากสีหน้าที่ตื่นตระหนกของแฟนสาว  มือเล็กๆ ดึงแขนเสื้อลงมาปิดรอยช้ำ  ริมฝีปากบางกระซิบตอบเบาๆ "ล้มน่ะครับ"

    แต่ลิลี่ยังจ้องเขม่น  ไม่ปักใจเชื่อเท่าใดนั้น.............. เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือของโทไบอัส  สเนปเท่านั้นเอง  แต่อย่างไรก็ดีการที่มีลิลี่อยู่ใกล้ๆ ก็ทำให้เซเวอรัสไม่ถูกใครรังแกอีก..........แม้ว่า...........การถูกแฟนสาวปกป้องจะไม่ใช่สิ่งที่เซเวอรัสต้องการก็ตาม

    เย็นวันนั้นเอง..........เซเวอรัสลอบขโมยสมุนไพรจากเรือนกระจก  เค้าบดว่านดำแล้วทารอยช้ำ  เซเวอรัสไม่เคยไปห้องพยาบาลนับตั้งแต่เริ่มถูกพ่อซ่อม  เพราะเค้ารู้ดีว่า  ถ้ามีใครได้เห็นร่างกายหลังจากกลับจากบ้าน  เค้าอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่กับโทไบอัสอีก

      "แกหายหัวไปไหนมา..............ไอ้คนเลือดผสมโสมม"

    เสียงของแมคเน่ร์ดังขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อคนที่โดดประชุมกลับมากลางดึก  เซเวอรัสก้มหน้าลง  และตอบเบาๆ จนแทบไม่ได้ยินเสียง 

      "อาบน้ำ"

      "แล้วทำไมพึ่งอาบเอาป่านนี้  นี่มันเกือบเที่ยงคืนแล้วนะมาตอบว่าไปอาบน้ำมาได้ยังไงอธิบายมาซิ" นาซิสซาพูดอย่างไม่ชอบใจ "มีเวลามากมายที่จะอาบน้ำ  แล้วทำไมไม่อาบ"

    เซเวอรัสก้มหน้า  เค้าไปอาบน้ำมาจริงๆ  แต่เค้าแค่ไปอาบหลังคนอื่นๆ เท่านั้น เค้าไม่อยากให้ใครเห็นสารรูปที่ดูไม่ได้ของตัวเองนี่นา  แต่แล้วก็ต้องหน้าซีดเมื่อเห็นรอยยิ้มที่อันตรายของเพื่อนร่วมบ้าน  เอวาน  โรเซียพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ร้ายกาจ

      "นี่.........ชั้นเห็นเจ้าหมอนั่นแอบขโมยว่านดำออกจากเรือนกระจกด้วยนะ"

      "ต๊าย......." เด็กผู้หญิงอีกคนพูดขึ้น "เป็นเด็กเลวชัดๆ เล่นขโมยของเลยนะ"

    เซเวอรัส  สเนปถอยหลังโดยไม่รู้ตัว  ทุกคนในบ้านสลิธีรีนมองเค้าราวกับหมาป่ามองกระต่าย  รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏที่ใบหน้าของหลายๆคน  พวกเค้าเขม่นเด็กหนุ่มมาตั้งแต่วันแรกที่เค้าตกลงเป็นแฟนกับลิลี่  เอฟเวนส์แล้ว  แล้วในที่สุด 1 ในคนพวกนั้นก็พูดด้วยเสียงที่หวานเลี่ยนจนน่าสะอิดสะเอียน

      "ชั้นว่า............เจ้าก้อนเมือกนี่ต้องซ่อนอะไรไว้แน่ๆ จับแก้ผ้าเลยดีมั้ย"

    สิ้นคำๆ นั้น เซเวอรัสก็วิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิตโดยมีเด็กๆ บ้านสลิธีรีนวิ่งตามจับอย่างสนุกสนาน  ไม่ว่าพวกนั้นจะสนสิ่งที่เซเวอรัสซ่อนไว้หรือไม่  เด็กหนุ่มก็ไม่อยากเปลือยร่างต่อหน้าพวกเด็กผู้หญิงอยู่ดี  เซเวอรัสวิ่งหนีอย่างสุดกำลังพร้อมกับสวดภาวนาของให้พระเจ้า........ให้พระเยซูคริสต์ช่วยเค้า

    แต่เพราะพระเจ้าไม่อยากให้เค้าต้องทนกับสภาพนี้อีกต่อไป  หรือไม่อยากสนใจคนที่ฝักใฝเวทมนตร์และศาสตร์มืดอย่างเค้าก็สุดจะรู้  เซเวอรัสถูกจับตัวได้ท่ามกลางความมืด  พวกเด็กร่วมบ้านร่วมกันจับเค้าเปลื้องผ้าอย่างสนุกสนาน ไม่มีใครสนใจเสียร้องไห้ขอความเมตตาของเซเวอรัสสักคน  จนในที่สุดนาซิสซาก็ใช้ไม้กายสิทธิ์ร่ายคาถาลูมอส

    ตอนนั้นเองที่ทุกคนกล้ำกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก  เมื่อได้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่
    *******************************

      "หนูพอจะรู้มาบ้างว่าสเนปตีลูกตัวเอง  แต่ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้" ลิลี่พูด

      "ขอพูดตรงๆ นะแม่หนู" นั่นเสียงสลักฮอร์นสินะ "นี่มันไม่ใช่ตี  มันเป็นการพยายามฆาตกรรมชัดๆ  แน่ใจเหรอว่าเป็นฝีมือของสเนป  พ่อที่ไหนจะตีลูกขนาดนี้"

      "ก็เซเวอรัสไม่เคยมาให้ดูแผลนี่นา ถ้าเป็นฝีมือคนอื่นทำไมต้องกลัวที่จะให้ใครเห็นด้วยล่ะ  เพราะถ้าทุกคนรู้ว่าเป็นฝีมือของสเนปคนพ่อ  คิดเหรอว่าจะมีใครยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดกับเค้าอีก"

    เซเวอรัสหลับตา  เค้าได้ยินเสียงของดัมเบิลดอร์ด้วย "แต่เซเวอรัสบอกว่าไม่ใช่การกระทำของพ่อ  เราต้องถือว่าโทไบอัสบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าผิดจริง"

    ลิลี่เดินกระแทกเท้าปึงปังมาทางเตียงที่แฟนหนุ่มของเธอกำลังนอนอยู่  มือที่บอบบางลูบหน้าผากของเซเวอรัสอย่างอ่อนโยน  เป็นครั้งแรกที่เธอตระหนักได้ว่า เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเค้าเลยซักอย่าง

    เซเวอรัสไม่เคยเขียนความเจ็บปวดของตัวเองลงในสมุดบันทึกของเราเลย.........ไม่เคยมาห้องพยาบาลทั้งๆ ที่ขี้โรคซะจนคนทั้งโรงเรียนพร้อมในกันเรียกว่า เจ้าขี้มูกโป่ง(สนิฟเวลลัส).............ไม่เคยเรียกร้องของขวัญวันเกิดทั้งที่วันเกิดฝ่านมาแล้วก็ผ่านไป.......ไม่เคยอยากได้เสื้อกันหนาวตัวใหม่ๆ แม้ว่าอุณหภูมิจะติดลบกี่องศา

    .............เธอปิดบังชั้นมากเหลือเกิน เซเวอรัส..............

    หลังจากนั้นไม่นานมาดามพรอมฟรีย์ก็อนุญาติให้เซเวอรัส  สเนปกับไปที่หอได้  และสิ่งที่เด็กหนุ่มต้องเผชิญก็คือสายตาสมเพชของเพื่อนๆ ร่วมหอพัก  เด็กหนุ่มไม่อาจทนได้  ก็ตัดสินใจขึ้นไปนอนเสีย  แต่ก็ก้าวขึ้นบันไดได้เพียง 6 ขั้นเท่านั้น  มือของโรเซียก็คว้าแขนเล็กๆ ไว้

      "ปล่อยผมเถอะ" เซเวอรัสกระซิบ "ผมขอร้อง.......อย่ายุ่งกับผมอีกเลย"

      "ไม่อยากมีเพื่อนบ้างรึไง" นาซิสซาว่า แต่เซเวอรัสก็ยังคิดจะเดินหนีอยู่ดี  แมคเน่ร์จึงร้องขึ้นมา  และประโยคนี้ก็ทำให้เซเวอรัสหยุดกึก

      "เราตกลงกันว่าจะรับนายเข้ากลุ่มกับเรา  ลูเซียสส่งจดหมายมาเองเลยนะ"

    เรกูรัสพูดเสริมขึ้นมาเมื่อเห็นว่าร่างบางให้ความสนใจแล้ว "รุ่นพี่ลูเซียสบอกว่าคุณเป็นที่สนใจของท่านลอร์ด โวลเดอร์มอร์มาก  และอยากให้พวกเราจับตาดูคุณด้วย"

      "พวกคุณไม่ต้องการทำแบบนั้นหรอก" เซเวอรัสพูดช้าๆ

      "แต่ถ้าคุณจะเรียกเอฟเวนส์ว่าเป็นพวกเลือดสีโคลน  เราจะคุ้มครองคุณ" เรกูรัสตอบ

    แต่ไม่มีคำตอบจากเด็กหนุ่มที่มีตาสีดำ  วันเวลาผ่านไปท่ามกลางความกดดัน  กดดันมากจนเซเวอรัสกลั้นน้ำตาแทบไม่ได้  ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่  เซเวอรัส  สเนปศึกษาหลายสิ่งหลายอย่างด้วยตนเอง  แม้แต่วิชาพินิจใจที่ไม่ได้มีสอนในระดับสามัญเด็กหนุ่มก็สามารถจะศึกษาเอาเองได้จนแตกฉาน  แต่แม้จะสามารถพินิจใจได้  หากไม่อาจสกัดใจได้ก็เป็นอันจบ

    ตลอดภาคเรียนที่ 2 ท่ามกลางความโดดเดี่ยว.......... เซเวอรัสกลายเป็นนักสกัดใจที่เก่งกาจทั้งๆ ที่ยังไม่จบปี 5 ด้วยซ้ำ  แต่ความโดดเดี่ยวและความโชคร้ายก็กระหน่ำโถมเข้าหาเค้าเป็นชุดๆ เช่นกัน......จนในที่สุด

      "ชั้นไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคนเลือดสีโคลนสกปรกอย่างยัยนั่นหรอก"

    คำพูดที่ตั้งใจจะไม่พูดหลุดออกมาจนได้  ลิลี่ไม่มีท่าทางโกรธ  แต่เธอก็เย็นชาอย่างสิ้นเชิง............ช่วงเวลานั้นเอง ช่วงเวลาที่เด็กหนุ่มจมอยู่กับคำพูดที่พูดออกไป  ไม่สนใจอีกแล้ว  ว่าเจมส์  พอตเตอร์จะทำอะไรกับเค้าบ้าง

    ............สิ่งที่เลวร้ายที่สุด  ความทรงจำที่เลวร้ายที่สุด..................

    ...............นี่ความสัมพันธ์ตลอด 5 ปีของเค้ากับลิลี่จะต้องยุติจริงๆ หรือ...........

    .............ยุติลงแบบนี้..........แค่เพราะประโยคที่ออกจากปากบ้าๆ........

    ..........ยุติความสัมพันธ์ เพื่อแลกกับมิตรภาพจอมปลอม.........

    ช่วงเวลานั้นผ่านไปแล้ว 48 ชั่วโมง.........แต่สำหรับเซเวอรัส..........เหมือนมันเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เอง....... เด็กหนุ่มไม่ได้ทำอะไรอีกเลย  นอกจากจนอยู่กับความเศร้า  ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาเรื่อยๆ เหมือนเขื่อนที่พังทลายจนน้ำไหลทะลัก
    *************************
    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×