คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : สิ่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเซเวอรัส(-_-)
โทไบอัสเปิดประตูเข้ามาเพียงเพื่อจะพบว่า เกือบสองวันที่เค้าไม่เห็นเซเวอรัสนั้น เพราะเด็กหนุ่มไม่ยอมก้าวออกจากห้องเลยแม้แต่ก้าวเดียว ไม่กินข้าว ไม่อาบน้ำ ไม่ทำอะไรทั้งนั้น........................ไม่มีอะไรมาอธิบายความรู้สึกในใจของสองพ่อลูกได้ นอกจากคำว่า เจ็บปวด
"ทำไมแกยังไม่ไปอีก" เสียงของโทไบอัสแตกพร่า "อยากอยู่กับพ่อแบบนี้มากเหรอ แกเป็นพวกมาโซรึไง"
เซเวอรัสหันไปหาคนใจร้ายที่เค้าเรียกว่าพ่อด้วยแววตาหวาดหวั่น โทไบอัสยกมือขึ้นลูบหน้าผากอย่างอ่อนเพลีย ดวงตาสีเขียวฉายแววเศร้าสร้อยอย่างที่เด็กหนุ่มไม่เคยเห็น แล้วคำพูด่อมาก็ทำให้หน้าซีดๆ สดใสราวกับหญ้าที่เหี่ยวเฉาได้น้ำ
"ไปอาบน้ำแล้วลงไปกินข้าวซะ................แล้วอย่าลืมถ้วยเก็บข้าวโอ๊ดบูดนั้นไปล้างด้วยล่ะ ไอ้ลูกแม่มด"
......................................................................................................
...............................................................................
.......................................................
"โรงเรียนเปิดพรุ่งนี้นี่.... ใช่มั้ย" โทไบอัสถามหลังจากที่กินอาหารเย็นเสร็จ เซเวอรัสพยักหน้ารับ
"เดี๋ยวชั้นจะไปส่ง................อย่าทำหน้าแบบนั้น แกอยากกลับบ้านตอนไหนมันก็เรื่องของแก"
***************************
โทไบอัสไปส่งลูกชายที่สถานีรถไฟเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา แม้คำพูดแต่ละคำจะไม่ค่อยลื่นรูหูนัก แต่ก็ทำให้เซเวอรัสมีความสุขมาก เค้ามองพ่อตั้งแต่รถออก จนกระทั้งไม่เห็นสถานีอีก
"อยู่นี่เอง................." ลิลี่ว่า เธอนั่งลงข้างๆ เซเวอรัส "ชั้นตามหาจนทั่ว"
เซเวอรัสยิ้มให้แฟนสาว เธอพูดต่อไป "นี่............. พ่อชั้นบอกให้พอเธอไปเล่นที่บ้านในช่วงปิดเทอมล่ะ ชั้นว่าเค้าอาจจะชอบเธอ......... แล้วเธอตกลงมั้ย หมายถึง ถ้ามีโอกาส"
"ถ้าพ่ออนุญาต....................ผมจะไปแน่ครับ.........สัญญา"
"เซเวอรัส" ลิลี่กระซิบ "แขนเธอไปโดนอะไรมาน่ะ"
เด็กหนุ่มเบือนหน้าจากสีหน้าที่ตื่นตระหนกของแฟนสาว มือเล็กๆ ดึงแขนเสื้อลงมาปิดรอยช้ำ ริมฝีปากบางกระซิบตอบเบาๆ "ล้มน่ะครับ"
แต่ลิลี่ยังจ้องเขม่น ไม่ปักใจเชื่อเท่าใดนั้น.............. เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือของโทไบอัส สเนปเท่านั้นเอง แต่อย่างไรก็ดีการที่มีลิลี่อยู่ใกล้ๆ ก็ทำให้เซเวอรัสไม่ถูกใครรังแกอีก..........แม้ว่า...........การถูกแฟนสาวปกป้องจะไม่ใช่สิ่งที่เซเวอรัสต้องการก็ตาม
เย็นวันนั้นเอง..........เซเวอรัสลอบขโมยสมุนไพรจากเรือนกระจก เค้าบดว่านดำแล้วทารอยช้ำ เซเวอรัสไม่เคยไปห้องพยาบาลนับตั้งแต่เริ่มถูกพ่อซ่อม เพราะเค้ารู้ดีว่า ถ้ามีใครได้เห็นร่างกายหลังจากกลับจากบ้าน เค้าอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่กับโทไบอัสอีก
"แกหายหัวไปไหนมา..............ไอ้คนเลือดผสมโสมม"
เสียงของแมคเน่ร์ดังขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่อคนที่โดดประชุมกลับมากลางดึก เซเวอรัสก้มหน้าลง และตอบเบาๆ จนแทบไม่ได้ยินเสียง
"อาบน้ำ"
"แล้วทำไมพึ่งอาบเอาป่านนี้ นี่มันเกือบเที่ยงคืนแล้วนะมาตอบว่าไปอาบน้ำมาได้ยังไงอธิบายมาซิ" นาซิสซาพูดอย่างไม่ชอบใจ "มีเวลามากมายที่จะอาบน้ำ แล้วทำไมไม่อาบ"
เซเวอรัสก้มหน้า เค้าไปอาบน้ำมาจริงๆ แต่เค้าแค่ไปอาบหลังคนอื่นๆ เท่านั้น เค้าไม่อยากให้ใครเห็นสารรูปที่ดูไม่ได้ของตัวเองนี่นา แต่แล้วก็ต้องหน้าซีดเมื่อเห็นรอยยิ้มที่อันตรายของเพื่อนร่วมบ้าน เอวาน โรเซียพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ร้ายกาจ
"นี่.........ชั้นเห็นเจ้าหมอนั่นแอบขโมยว่านดำออกจากเรือนกระจกด้วยนะ"
"ต๊าย......." เด็กผู้หญิงอีกคนพูดขึ้น "เป็นเด็กเลวชัดๆ เล่นขโมยของเลยนะ"
เซเวอรัส สเนปถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ทุกคนในบ้านสลิธีรีนมองเค้าราวกับหมาป่ามองกระต่าย รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏที่ใบหน้าของหลายๆคน พวกเค้าเขม่นเด็กหนุ่มมาตั้งแต่วันแรกที่เค้าตกลงเป็นแฟนกับลิลี่ เอฟเวนส์แล้ว แล้วในที่สุด 1 ในคนพวกนั้นก็พูดด้วยเสียงที่หวานเลี่ยนจนน่าสะอิดสะเอียน
"ชั้นว่า............เจ้าก้อนเมือกนี่ต้องซ่อนอะไรไว้แน่ๆ จับแก้ผ้าเลยดีมั้ย"
สิ้นคำๆ นั้น เซเวอรัสก็วิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิตโดยมีเด็กๆ บ้านสลิธีรีนวิ่งตามจับอย่างสนุกสนาน ไม่ว่าพวกนั้นจะสนสิ่งที่เซเวอรัสซ่อนไว้หรือไม่ เด็กหนุ่มก็ไม่อยากเปลือยร่างต่อหน้าพวกเด็กผู้หญิงอยู่ดี เซเวอรัสวิ่งหนีอย่างสุดกำลังพร้อมกับสวดภาวนาของให้พระเจ้า........ให้พระเยซูคริสต์ช่วยเค้า
แต่เพราะพระเจ้าไม่อยากให้เค้าต้องทนกับสภาพนี้อีกต่อไป หรือไม่อยากสนใจคนที่ฝักใฝเวทมนตร์และศาสตร์มืดอย่างเค้าก็สุดจะรู้ เซเวอรัสถูกจับตัวได้ท่ามกลางความมืด พวกเด็กร่วมบ้านร่วมกันจับเค้าเปลื้องผ้าอย่างสนุกสนาน ไม่มีใครสนใจเสียร้องไห้ขอความเมตตาของเซเวอรัสสักคน จนในที่สุดนาซิสซาก็ใช้ไม้กายสิทธิ์ร่ายคาถาลูมอส
ตอนนั้นเองที่ทุกคนกล้ำกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เมื่อได้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่
*******************************
"หนูพอจะรู้มาบ้างว่าสเนปตีลูกตัวเอง แต่ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้" ลิลี่พูด
"ขอพูดตรงๆ นะแม่หนู" นั่นเสียงสลักฮอร์นสินะ "นี่มันไม่ใช่ตี มันเป็นการพยายามฆาตกรรมชัดๆ แน่ใจเหรอว่าเป็นฝีมือของสเนป พ่อที่ไหนจะตีลูกขนาดนี้"
"ก็เซเวอรัสไม่เคยมาให้ดูแผลนี่นา ถ้าเป็นฝีมือคนอื่นทำไมต้องกลัวที่จะให้ใครเห็นด้วยล่ะ เพราะถ้าทุกคนรู้ว่าเป็นฝีมือของสเนปคนพ่อ คิดเหรอว่าจะมีใครยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดกับเค้าอีก"
เซเวอรัสหลับตา เค้าได้ยินเสียงของดัมเบิลดอร์ด้วย "แต่เซเวอรัสบอกว่าไม่ใช่การกระทำของพ่อ เราต้องถือว่าโทไบอัสบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าผิดจริง"
ลิลี่เดินกระแทกเท้าปึงปังมาทางเตียงที่แฟนหนุ่มของเธอกำลังนอนอยู่ มือที่บอบบางลูบหน้าผากของเซเวอรัสอย่างอ่อนโยน เป็นครั้งแรกที่เธอตระหนักได้ว่า เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเค้าเลยซักอย่าง
เซเวอรัสไม่เคยเขียนความเจ็บปวดของตัวเองลงในสมุดบันทึกของเราเลย.........ไม่เคยมาห้องพยาบาลทั้งๆ ที่ขี้โรคซะจนคนทั้งโรงเรียนพร้อมในกันเรียกว่า เจ้าขี้มูกโป่ง(สนิฟเวลลัส).............ไม่เคยเรียกร้องของขวัญวันเกิดทั้งที่วันเกิดฝ่านมาแล้วก็ผ่านไป.......ไม่เคยอยากได้เสื้อกันหนาวตัวใหม่ๆ แม้ว่าอุณหภูมิจะติดลบกี่องศา
.............เธอปิดบังชั้นมากเหลือเกิน เซเวอรัส..............
หลังจากนั้นไม่นานมาดามพรอมฟรีย์ก็อนุญาติให้เซเวอรัส สเนปกับไปที่หอได้ และสิ่งที่เด็กหนุ่มต้องเผชิญก็คือสายตาสมเพชของเพื่อนๆ ร่วมหอพัก เด็กหนุ่มไม่อาจทนได้ ก็ตัดสินใจขึ้นไปนอนเสีย แต่ก็ก้าวขึ้นบันไดได้เพียง 6 ขั้นเท่านั้น มือของโรเซียก็คว้าแขนเล็กๆ ไว้
"ปล่อยผมเถอะ" เซเวอรัสกระซิบ "ผมขอร้อง.......อย่ายุ่งกับผมอีกเลย"
"ไม่อยากมีเพื่อนบ้างรึไง" นาซิสซาว่า แต่เซเวอรัสก็ยังคิดจะเดินหนีอยู่ดี แมคเน่ร์จึงร้องขึ้นมา และประโยคนี้ก็ทำให้เซเวอรัสหยุดกึก
"เราตกลงกันว่าจะรับนายเข้ากลุ่มกับเรา ลูเซียสส่งจดหมายมาเองเลยนะ"
เรกูรัสพูดเสริมขึ้นมาเมื่อเห็นว่าร่างบางให้ความสนใจแล้ว "รุ่นพี่ลูเซียสบอกว่าคุณเป็นที่สนใจของท่านลอร์ด โวลเดอร์มอร์มาก และอยากให้พวกเราจับตาดูคุณด้วย"
"พวกคุณไม่ต้องการทำแบบนั้นหรอก" เซเวอรัสพูดช้าๆ
"แต่ถ้าคุณจะเรียกเอฟเวนส์ว่าเป็นพวกเลือดสีโคลน เราจะคุ้มครองคุณ" เรกูรัสตอบ
แต่ไม่มีคำตอบจากเด็กหนุ่มที่มีตาสีดำ วันเวลาผ่านไปท่ามกลางความกดดัน กดดันมากจนเซเวอรัสกลั้นน้ำตาแทบไม่ได้ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ เซเวอรัส สเนปศึกษาหลายสิ่งหลายอย่างด้วยตนเอง แม้แต่วิชาพินิจใจที่ไม่ได้มีสอนในระดับสามัญเด็กหนุ่มก็สามารถจะศึกษาเอาเองได้จนแตกฉาน แต่แม้จะสามารถพินิจใจได้ หากไม่อาจสกัดใจได้ก็เป็นอันจบ
ตลอดภาคเรียนที่ 2 ท่ามกลางความโดดเดี่ยว.......... เซเวอรัสกลายเป็นนักสกัดใจที่เก่งกาจทั้งๆ ที่ยังไม่จบปี 5 ด้วยซ้ำ แต่ความโดดเดี่ยวและความโชคร้ายก็กระหน่ำโถมเข้าหาเค้าเป็นชุดๆ เช่นกัน......จนในที่สุด
"ชั้นไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคนเลือดสีโคลนสกปรกอย่างยัยนั่นหรอก"
คำพูดที่ตั้งใจจะไม่พูดหลุดออกมาจนได้ ลิลี่ไม่มีท่าทางโกรธ แต่เธอก็เย็นชาอย่างสิ้นเชิง............ช่วงเวลานั้นเอง ช่วงเวลาที่เด็กหนุ่มจมอยู่กับคำพูดที่พูดออกไป ไม่สนใจอีกแล้ว ว่าเจมส์ พอตเตอร์จะทำอะไรกับเค้าบ้าง
............สิ่งที่เลวร้ายที่สุด ความทรงจำที่เลวร้ายที่สุด..................
...............นี่ความสัมพันธ์ตลอด 5 ปีของเค้ากับลิลี่จะต้องยุติจริงๆ หรือ...........
.............ยุติลงแบบนี้..........แค่เพราะประโยคที่ออกจากปากบ้าๆ........
..........ยุติความสัมพันธ์ เพื่อแลกกับมิตรภาพจอมปลอม.........
ช่วงเวลานั้นผ่านไปแล้ว 48 ชั่วโมง.........แต่สำหรับเซเวอรัส..........เหมือนมันเกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เอง....... เด็กหนุ่มไม่ได้ทำอะไรอีกเลย นอกจากจนอยู่กับความเศร้า ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาเรื่อยๆ เหมือนเขื่อนที่พังทลายจนน้ำไหลทะลัก
*************************
TBC.
ความคิดเห็น