ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    3 | THE GUARD ღ หัวใจเสี่ยงรัก ϟ

    ลำดับตอนที่ #11 : EP [10] ความเปลี่ยนแปลง ✓

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 64


     
     
       

    คิวไอวี่
    .
    .
    .
    .
    ::::::::╙ ( ⊙﹏⊙  ) :::::::




    EP [10]  ความเปลี่ยนแปลง


     

    EP [10] ความเปลี่ยนแปลง ✓



    ภายในร้านอาหารกึ่งบาร์บริเวณหน้ามหาลัยวินเซ็นต์ถูกเช่าเหมาร้านโดยโซนทางซ้ายเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้เข้ามาใช้บริการตามปรกติ แต่ทางโซนด้านขวาถูกเหมาโดยกลุ่มนักศึกษาคณะวิศวกรรมกลุ่มหนึ่ง จุดประสงค์เพื่อเลี้ยงสายรหัสเทพทั้ง 5 สายโดยเฉพาะ

    ดีเจเปิดเพลงครื้นเครงสนุกสนาน มีบริกรคอยดูแลเรื่องอาหารหวานคาวพร้อมทั้งมีบาร์เทนเดอร์ตรงเค้าท์เตอร์เล็กบริการชงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย และที่ทุกอย่างเตรียมพร้อมและสะดวกสบายก็เป็นเพราะรุ่นพี่สายรหัส 5 เทพได้จัดเตรียมเอาไว้ให้เหล่าสายรหัสได้กินดื่มกันให้สนุกสนาน ทว่าถึงทุกคนจะหัวเราะครื้นเครงกันเพียงใดแต่ก็ไม่ใช่กับหญิงสาวสายรหัสเดือนทมิฬอย่างไอวี่

    ไอวี่กำลังรู้สึกไม่พอใจ ไม่ใช่รำคาญสาลี่เพื่อนสาวสองที่เอาแต่เวิ่นเว้อเรื่องผู้ชายในร้านไม่หยุด แต่สาเหตุก็เพราะผู้ชายที่มักจะเข้าถึงได้ยากตอนอยู่กับเธอแต่พออยู่กับเพื่อนๆ และกลุ่มสายรหัสก็ดูเข้าถึงง่ายเหมือนไม่ใช่คนๆ เดียวกัน อีกทั้งชอบทำหน้าน่ารำคาญใส่เธอตอนอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลาแต่ตอนนี้กลับพูดคุยกับรุ่นน้องไม่หยุด

    มองจากดาวพลูโตใครๆ ก็รู้ว่าไอวี่กำลังไม่พอใจพี่ระเบียบของชาววิศวะอยู่! และไม่ใช่แค่นั้นที่ไอวี่นึกโกรธ เพราะก่อนหน้านี้ที่ไอวี่กลับบ้านไปเปลี่ยนชุดและคิดว่าจะรอที่จะมาพร้อมกับคิว แต่ทว่าเธอก็ต้องผิดหวังเพราะคิวนั้นออกไปก่อนแล้วและให้ทิมรอไปส่งเธอแทนอีกทั้งยังฝากทิมมาบอกเธอว่าเขาติดธุระ เหอะ! ติดธุระบ้าอะไรถึงดินเข้างานมากับสายรหัสทั้งกลุ่มแบบนั้น!

    ไอวี่นั่งมองกลุ่มสายรหัสพี่ระเบียบที่นั่งห่างออกไปสองโต๊ะด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด เธอรู้ว่าตนเองเป็นพวกอารมณ์ร้อนและควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้จึงเอาแต่ทำหน้าบึ้งตึงอยู่ที่โต๊ะ ยิ่งเห็นคนที่ตัวเองชอบให้  ความสำคัญกับคนอื่นเทียบเท่าเกือบตัวเองก็อยากจะอาละวาดเต็มที แต่ต้องมานั่งข่มอารมณ์เพราะไม่อยากจะดูไม่ดีต่อหน้าคิว

    “ใจเย็นๆ นะไอมันก็แค่สายรหัส” เยลโล่พูดปลอบ

    “โถ่อีคุณหนูของกูผู้ชายทิ้งให้มางานเองก็เลยหงอยเลยมึง” สาลี่

    “อย่าพูดซ้ำเติมเพื่อนดิวะสาลี่..คิดแง่ดีไว้นะไอ พี่คิวคงปฏิเสธน้องๆ ไม่ได้ก็เลยต้องไปรับมางาน ไม่ก็มีเหตุสสุดวิสัยเกิดขึ้นก็ได้”

    มิ้นท์ตีแขนสาลี่ไปหนึ่งทีก่อนจะหันมาลูบไหล่ไอวี่อย่างเป็นห่วง

    “หึ ผู้หญิงสามคนเกิดเหตุสุดวิสัยพร้อมกันน่ะเหรอ ตลกเป็นบ้า”

    ไอวี่พูดแขวะก่อนจะโบกมือโบกไม้บอกเพื่อนๆ ว่าไม่เป็นไร แต่ความจริงก็น้อยใจขึ้นมาอีกแล้ว ทว่าก่อนที่มิ้นท์กับดาวจะพูดปลอบบ้างพวกรุ่นพี่ก็เข้าร้านมาเพิ่มดังนั้นเพื่อนๆ ของไอวี่จึงต้องเริ่มแยกย้ายกันไปนั่งตามโต๊ะสายรหัสกันแทนที่จะมารวมตัวอยู่ที่โต๊ะของไอวี่

    ไอวี่มองสายรหัสเดือนทมิฬที่เดินเข้ามาพร้อมๆ กัน โดยมีพี่คินทร์ที่เดินมาพร้อมกับแคลร์และมีพี่น้ำนิ่งกับพี่เพียงฟ้าเดินตามมาด้วย พอเห็นแบบนั้นไอวี่ก็เพิ่งนึกได้ว่าเมื่อเย็นพี่น้ำนิ่งก็โทรมาเธอถามว่าจะมาที่ร้านยังไงหากไม่มีรถจะได้ไปรับทว่าไอวี่คิดว่าจะมาพร้อมคิวก็เลยปฏิเสธไป

    ไอวี่มองพี่คินทร์กับแคลร์ที่เดินเกาะแขนกันมา ด้วยความที่โต๊ะของร้านนี้เป็นแบบโต๊ะยาวมีเก้าอี้ฝั่งละสามตัวพี่คินทร์ก็เลยดันไหล่แคลร์ให้เข้ามานั่งข้างๆ เธอส่วนตัวเองก็นั่งปิดด้านนอก ทางด้านตรงข้ามก็มีพี่น้ำนิ่งกับพี่เพียงฟ้านั่งแทน

    “น้องแคลร์มานานรึยังคะ”

    พี่น้ำนิ่งเป็นคนเอ่ยทักก่อนเป็นอันดับแรก ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะอ้าปากตอบก็รู้สึกถึงสายตาคมของใครบางคน เธอมองพี่คินทร์ที่มองเธอด้วยสายตาดุๆ เธอขมวดคิ้วฉงนเพราะไม่รู้ว่าทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจ

    “พี่คินทร์เขารอน้องไอวี่ทักทายน่ะ”

    เป็นแคลร์ที่กระซิบบอกเธอ และพอมองไปรอบๆ โต๊ะทุกคนก็ยิ้มมาให้ แค่ไม่ทักทายรุ่นพี่ถึงกับต้องมองเธอตาดุขนาดนั้นเลยเหรอ?

    “สวัสดีค่ะพี่คินทร์ พี่น้ำนิ่ง พี่เพียงฟ้า” อย่างไรเสียเธอก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สถานการณ์ยอมทักทายรุ่นพี่ในสาย แต่ทว่าสายตาดุดันนั้นยังไม่ลดละเธอจึงมองตอบอย่างฉงน พอเห็นอีกฝ่ายถอนหายใจมาหนึ่งเฮือกทุกคนที่นั่งอยู่ก็พลันทำหน้าลำบากใจ

    “อะไรคะ” ไอวี่ถาม

    “พี่คินทร์คงจะหิวแล้วละมั้ง” แคลร์เผยรอยยิ้มก่อนจะลูบมือแกร่งข้างกายให้ใจเย็นลง “น้องไอวี่ยังไม่สั่งอะไรมากินอีกเหรอจ้ะ”

    “หืม? ได้ยินมาว่าที่นี่อาหารอร่อยจริงหรือเปล่าคะ น้ำไม่เคยมาร้านกึ่งบาร์แบบนี้ก็เลยตื่นเต้นนิดๆ นะเนี่ย” พี่น้ำนิ่งพูดเสริม

    “ก็คราวที่แล้วเราเลี้ยงสายกันที่ร้านเบเกอรี่นี่ แล้วอีกอย่างสายรหัสเราก็ไม่ถูกกับที่แบบนี้ด้วย แต่ยกเว้นพี่คินทร์เอาไว้คนนึงนะคะ”

    “ฟ้าพูดถูก” แคลร์พูดปิดก่อนที่สามสาวจะหัวเราะกันออกมา

    เดี๋ยวนะ ประทานโทษนะคะ ได้ข่าวว่าเธอไม่ได้อยู่ในสายรหัสจะมากับเขาเพื่อ? หรือว่ามาคุมพี่คินทร์?

    “อยากกินอะไรก็สั่ง” ในที่สุดพี่คินทร์ก็ยอมเปิดปากพูด

    “ถ้าอย่างนั้นเราไปดูอาหารกันดีกว่านะแคลร์” พี่เพียงฟ้าชวนแคลร์ออกไปดูอาหารมากิน พี่น้ำนิ่งก็วิ่งตามไปด้วยเหลือก็แต่ฉันที่นั่งดื่มแล้วมองไปทางโต๊ะของคิวเป็นระยะๆ โดยไม่สนใจพี่คินทร์มากนัก

    “เธอไร้มารยาทมาก”

    “?!” ไอวี่แทบสำลักน้ำดื่มที่ได้ยินเสียงเข้มพูดว่าเธอและเหมือน ว่าเขาจะคิดว่าเธอไม่ได้ยินจึงพูดอีกครั้ง

    “ได้ยินไม่ชัด? ฉันบอกว่าเธอไร้มารยาทมาก”

    “อยู่ดีๆ พี่จะมาด่าฉันทำไมคะ?”

    ไอวี่ไม่ใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆ ทว่าเธอก็แปลกใจเหมือนกันที่ตัวเองพูดกับพี่คินทร์ลงท้ายด้วยคำว่า คะเสมอ

    “เรื่องที่ฉันไม่ทักแฟนพี่เหรอคะ?”

    “ไม่ว่าใครก็ตามอายุมากกว่าก็ควรเคารพ”

    “..ที่ฉันยอมเคารพพวกพี่เพราะพวกพี่เป็นสายรหัสและต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน แต่ผู้หญิงคนนั้น ฉันหมายถึงแคลร์ไม่ได้เกี่ยวกันนี่คะ”

    “อายุเธอน้อยกว่าแคลร์ควรเรียกพี่”

    “ฉันก็บอกแล้วไงว่า..”

    “อย่าดื้อ” เพียงคำสั้นๆ ที่ตำหนิมาทำเอาไอวี่หุบปากฉับ ไม่รู้สิ เธอรู้สึกว่าพี่คินทร์มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอต้องยอมให้

    “ถ้าฉันเรียกแคลร์ว่าพี่ฉันจะได้อะไรล่ะคะ”

    “ความเอ็นดูมั้ง..” เสียงเข้มบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนก่อนจะยื่นบางอย่างให้กับไอวี่ “นี่คือของขวัญพิเศษสำหรับสายรหัสที่ฉันกับแคลร์ช่วยกันทำ..ถ้าเธอทิ้งมันรับรองฉันจะฆ่าเธอแน่”

    พูดจบพี่คินทร์ก็เดินไปหาแคลร์

    ไอวี่กระพริบตาปริบๆ พึงคิดย้อนไปเมื่อครู่ เธอจับต้นชนปลายไม่ถูก เพราะตอนแรกยังคุยกันเรื่องของแคลร์ ไปๆ มาๆ รุ่นพี่คนนี้ก็พูดอะไรแปลกๆ แล้วยังให้ของขวัญอะไรสักอย่างมาอีก และที่บอกว่าพี่คินทร์กับแคลร์ช่วยกันทำนี่มันอะไรกัน?

    ไอวี่ลองเปิดถุงกระดาษออกดูก็พบว่าเป็นกล่องใหญ่ขนาดสี่สิบเซ็นติเมตร พอลองสำรวจดูก็พบว่าเป็นหุ่นไม้ผู้หญิงผมยาวลักษณะคล้ายกับเธอไม่มีผิดเพี้ยน ชุดเสื้อผ้าที่ใส่ก็เป็นแนวสไตล์ที่เธอชอบ อีกทั้งอุปกรณ์และเครื่องประดับที่ใส่ไว้ในกล่องเองก็น่ารักอีก

    แบรนด์นี้เธอเคยเห็นมันเป็นแบรนด์หุ่นไม้ที่ดังมากอีกทั้งเธอยังเคยเห็นว่าในบ้านของคิวก็มีหุ่นพวกนี้ประดับเต็มไปหมด

    น่ารักจัง..ไอวี่ยอมรับว่าเธอชอบของขวัญชิ้นนี้ เธอจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เล่นตุ๊กตานั้นอายุเท่าไรแต่จำได้ว่าของพวกนั้นมันไม่มีอยู่ในบ้านของเธอแล้ว อาจจะเป็นตั้งแต่ที่พ่อกับแม่เสียไปเธอก็เอาของทุกอย่างที่มีความทรงจำร่วมกับพ่อกับแม่เก็บแล้วปิดเอาไว้

    “โหวว..ตุ๊กตาของน้องไอวี่น่ารักจัง ดูสิสวยกว่าของพวกเราอีกค่ะพี่ฟ้า” พี่น้ำนิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับพี่เพียงฟ้าในมือของทั้งสองคนถืออาหารมามากมายแล้ววางบนโต๊ะ

    “แอบน้อยใจนะเนี่ยที่พี่คินทร์เอามาให้น้องไอวี่ตั้งแต่เริ่มรับน้อง น้องไอวี่รู้รึเปล่ากว่าที่พวกพี่จะได้หุ่นนี้นะก็ตอนเลิกรับน้องโน่น ถ้าพี่แคลร์ไม่เตือนพี่คินทร์ก็คงจะลืมเอาไว้ที่ไหนสักที่”

    “อืมน่าน้อยใจนะเนี่ย เห็นไหมน้ำพี่บอกแล้วว่าพี่คินทร์น่ะเอ็นดูไอวี่เป็นพิเศษ”

    ไอวี่ได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้ว เอ็นดูเธอ? ไม่ใช่ว่าพี่คินทร์ไม่ชอบเธอเหรอเห็นชอบทำตาดุใส่อีกทั้งยังว่าเธออีกต่างหาก

    การพบปะกับสายรหัสไม่ได้มีอะไรที่พิธีรีตองนัก หลักๆ ก็จะมีแค่พูดคุยทำความคุ้นเคยกันให้มากขึ้นกว่าเดิม และไอวี่เริ่มที่จะคุ้นเคยกับสายรหัสของเธอขึ้นมาบ้างแล้วทำให้ตอนนี้เริ่มจะผ่อนคลายยิ้มแย้มเวลาที่พี่น้ำนิ่งกับพี่เพียงฟ้าเล่าเรื่องตลกๆ ให้ฟัง เธอผ่อนคลายจนลืมเรื่องที่ศัตรูหัวใจนั่งอยู่ข้างๆ และไม่รู้เลยว่าถูกเฝ้ามองอยู่ด้วย

    “พี่แคลร์คะ พี่คินทร์อยู่ที่บ้านโหดแบบนี้หรือเปล่าคะ”

    จากที่ไอวี่ได้ยินมา (จากสาลี่) พี่คินทร์นั้นเป็นคนโหดที่ชาววิศวะเกรงกลัว เป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ ไม่ค่อยพูดคล้ายกับคิวแต่ถ้าพบเจอว่าใครทำผิดจะทำโทษก่อนแล้วค่อยตักเตือน ต่างกับคิวที่หากเห็นใครทำผิดกฎระเบียบมักจะแผ่ความกดดันให้รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกและชอบใช้สายตาฆ่าคน

    ว่าแต่พูดถึงคิวเธอลืมเขาไปเสียสนิท สายตาของไอวี่หันไปมองทางโต๊ะของสายรหัสพี่ระเบียบทันที ทว่าดวงตาเธอก็กระตุกวูบไหวเพราะสายระเบียบทั้งสายหายไปกันหมดแล้ว!

    ไอวี่ลุกขึ้นยืนอย่างลืมตัว เผยดวงตาสั่นไหวและหวั่นใจจนทำให้สายรหัสทมิฬทุกคนที่พูดคุยกันอยู่หยุดพูดแล้วหันมาสนใจเธอแทน

    “น้องไอวี่เป็นอะไรคะ” พี่น้ำนิ่งถามก่อนคนแรก

    “นั่นสิไอวี่ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะ” พี่เพียงฟ้า

    “ไอ ไอขอตัวไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะคะ” ไอวี่พูดเสียงสั่น เธอไม่รู้หรอกว่าเป็นอะไรแต่หัวใจเธอสั่นมากและต้นเหตุมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้ไอวี่กระวนกระวายไม่เป็นตัวของตนเองถึงเพียงนี้

    คิวไม่เคยยุ่งกับคนในมหาลัย เลยสักครั้ง ยิ่งคนใกล้ตัวอย่างน้องรหัสไอวี่คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่ยุ่งด้วยในเชิงชู้สาวแน่ เพราะคิวเป็นพวกเคร่งกฎระเบียบ ถึงจะไม่มั่นใจว่าคิวคิดยังไงแต่เธอมั่นใจว่าน้องรหัสทั้งสามของคิวน่ะคิดแน่! ร้อยทั้งร้อยของเรื่องแบบนี้ถ้าไม่เกิดขึ้นในห้องน้ำก็คงจะเป็นหลังร้านไม่ก็ลานจอดรถ ไอวี่ฟันธงว่าคิวจะต้องอยู่ที่ไหนสักที่แน่นอน!

    ไอวี่เริ่มเข้าไปดูที่ห้องน้ำก่อนเลยเป็นอันดับแรกพอเห็นว่าไม่มีคนที่เธอตามหาก็ลองออกไปดูด้านหลังร้านแต่ก็ยังไม่มีอยู่ดีเธอจึงรีบเดินไปดูแถวลานจอดรถที่อยู่ข้างๆ กัน แต่ก็ไม่มีเช่นกัน ทันใดนั้นไอวี่ก็หันไปเห็นบางอย่างเข้า ถึงเธอจะมีโอกาสไม่มากที่จะได้นั่งรถคันนั้นแต่เธอก็จำได้ว่ามันเป็นรถของคิวไม่ผิดแน่

    ไอวี่หัวใจเต้นระทึกรีบเดินไปดูที่รถแต่ก็ไม่เห็นว่ามีใครอยู่เธอรู้สึกโล่งใจ ทว่าหากรถอยู่แล้วคนหายไปไหนกัน?

    “หาอะไรอยู่ครับ” เสียงปริศนาทำให้ไอวี่หันขวับทันที

    ไอวี่ถอยหลังสองก้าวเมื่อเห็นว่ามีชายสามคนยืนส่งยิ้มมาให้ เธอไม่ใช่คนไร้เดียงสาที่จะไม่รู้ว่านี่คืออะไร  ไม่ใช่ว่าจะกลัวพวกมันจะทำอะไรแต่ไอวี่ไม่อยากจะก่อเรื่อง เธอไม่ตอบก่อนจะเดินเลี่ยงผู้ชายทั้งสามทว่าพอเธอเดินไปทางไหนพวกเขาก็มาขวางจนเธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

    “หลีกทาง”

    “อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิครับพวกพี่แค่เห็นว่าน้องสีหน้าไม่ค่อยดีก็เลยตามมาดู ว่าแต่เป็นอะไรรึเปล่าทำไมดูร้อนรนแบบนั้นล่ะครับ”

    “ไม่เกี่ยวกับพวกนาย”

    ไอวี่เดินเลี่ยงทว่าหนึ่งในนั้นยกมือขวางเอาไว้เสียก่อน

    “นี่บอกเอาไว้ก่อนเลยนะว่าถ้าหากจะมาเตาะหรือดีลให้ไปต่อที่ไหนฉันก็ไม่สนใจ และถ้ายังไม่ฟังแล้วอยากเป็นหน้าตัวเมียรุมผู้หญิงคนเดียวล่ะก็ฉันไม่เกี่ยงหรอกนะ”

    “โห ก็นึกว่าสวยอย่างเดียวปากยังดีอีกด้วยว่ะ นี่ไม่รู้ว่าปากจะมีดีแค่เอาไว้ขู่อย่างเดียวหรือทำอย่างอื่นได้อีก” ชายหัวทองพูดยิ้มๆ

    “แบบนี้ก็ต้องลองพิสูจน์สิวะ” ชายผมดำพูดขึ้นก่อนจะหันไปสั่งคนผมสีน้ำตาล “เห้ยมึงดูต้นทางเอาไว้กูขอก่อนคนแรก”

    ไอวี่ก้าวถอยหลังเมื่อหนึ่งในนั้นตรงเข้ามาหาเธอ และพอมันตรงเข้ามาจับแขนไอวี่ก็ชักหลบก่อนจะจับมือมันหักไปด้านหลังแล้วใช้เท้าเตะไปที่ข้อพับขาให้มันล้มลง

    “โอ้ย!

    “จะมาเล่นกับคนอย่างไอวี่ก็ต้องเจอแบบนี้” ไอวี่ยิ้มเยาะก่อนจะรีบผลักผู้ชายผมดำให้ออกห่างเมื่อเห็นว่าคนผมทองเข้ามาประชิดตัวด้านหลัง ไอวี่เบี่ยงตัวหลบแล้วจับมืออีกฝ่ายม้วนแล้วล็อคคอของมันเอาไว้

    “เตือนแล้วนะว่าอย่ามายุ่ง” ไอวี่พูดทว่าในตอนที่เธอลดการป้องกันชายอีกสองคนก็เข้ามาล็อคเธอเอาไว้จนได้

    “ฤทธิ์เยอะนักใช่ไหม! ตอนแรกกูก็จะพาไปนอนโรงแรมดีๆ หรอกนะแต่ทำแสบขนาดนี้หลังร้านก็พอมั้ง”

    ไอวี่ขมวดคิ้วเครียด ถึงเธอจะพอเป็นวิชาต่อสู้ทว่าวันนี้เธอใส่ชุดเดรสและรองเท้าส้นสูงมาจึงไม่เหาะที่จะจัดการคนพวกนี้ และถึงเธอจะใส่เสื้อผ้าและรองเท้าที่เหมาะสมก็คงจะสู้แรงผู้ชายก็คงจะยาก

    ไอวี่คิดจะเรียกให้คนช่วยแต่ก็ทำไม่ได้เพราะว่าแถวลานจอดรถนี้ก็ค่อนข้างจะเงียบและไม่ค่อยมีคนเดินมาเท่าไรนัก จะมีก็แต่ตอนกลับบ้านเท่านั้นล่ะที่จะมีคนเดินเพ่นพ่านได้ และที่สำคัญพวกมันปิดปากเธอซะแน่นทำเอาร้องไม่ออกและเจ็บปากไปหมดแล้ว!

    ไอวี่ถูกพาอ้อมมาทางด้านหลังร้านที่เป็นลานจอดรถเก่า พอมาถึงตรงนี้เธอก็เริ่มที่จะกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว ด้วยความที่เธอมางานเลี้ยงสายรหัสจึงไม่ได้ให้บอดี้การ์ดอยู่เฝ้าเพราะมีคิวอยู่ด้วยและไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอเริ่มเข้าใจในทันทีว่าถึงเธอจะมีความสามารถในการป้องกันตัวเองได้แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่พลั้งพลาด!

    “หึ นึกกลัวขึ้นมาแล้วเหรอครับน้องคนสวย” ไอ้ผมทองมันพูด

    “ดูท่าว่าจะดิ้นจนเหนื่อยคงหมดฤทธิ์แล้วว่ะ” ไอ้ผมดำที่จับมือทั้งสองข้างของไอวี่ขึงไว้บนพื้นพูดเสริม

    “ขาสวยสุดยอดเลยว่ะ เนียนและนุ่มด้วย”

    ไอวี่รู้สึกขยะแขยงสัมผัสที่ลวนลามทั้งที่แขนและที่ขา เธออยากจะร้องให้คนช่วยก็ติดที่ปากของเธอถูกปิดด้วยเนคไทที่เต็มไปด้วยน้ำหอมฉุนจมูก ร่างกายเริ่มจะแสบและคันเพราะผิวของเธอครูดไปกับพื้นที่แข็งกระด้าง อีกทั้งมือและเท้าที่โดนพวกมันกดเอาไว้นั้นก็เริ่มปวดหนึบ น้ำตาเริ่มซึมขึ้นมาเพราะเจ็บและหวาดกลัว

    มันน่าแปลกที่เมื่อไรที่เธอตกอยู่ในอันตรายมักจะนึกถึงใครบางคนขึ้นมา คนที่ช่วยเธอได้ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหน คนที่ชอบทำเย็นชาและชอบทำสีหน้ารำคาญใส่ คนที่ทำให้เธอตกหลุมรัก

    คนๆ นั้นที่ชื่อคิวกรณ์..

    เธอหวังเอาไว้ว่าเขาจะมาช่วยเธอเหมือนกับทุกๆ ครั้ง ทว่าตอนนี้เขาอยู่ไหนเธอยังไม่รู้เลยจะหวังให้เขามาช่วยก็ดูจะมากเกินไป

    นาทีที่เธอกำลังจะโดนผู้ชายทั้งสามคนรุมโทรมคนที่ปรากฎตัวในสายตาเธอกลับเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คิว แต่คนที่เธอไม่คิดว่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้

    พี่คินทร์...

    ผั่วะ! ผลั่ก! ผั่วะ!

    ไอวี่นอนนิ่งมองดูท้องฟ้าอันแสนมืดมิด แม้แต่ดวงดาวก็ยังไม่โผล่ออกมาให้เห็น สติของเธอยังคงกลับมาไม่ครบแต่ถึงกระนั้นก็พอจะเห็นภาพพี่คินทร์จัดการชายทั้งสามคนจนพวกมันเจ็บหนักวิ่งหนีเตลิดกันไป พี่คินทร์ไม่ได้ตามพวกมันไปแต่กลับเดินมาใกล้ๆ เธอสบตาคมดุนั้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย

    พี่คินทร์จริงๆ ด้วย เป็นพี่คินทร์ไม่ใช่คิว..

    “ชอบนอนที่พื้นนักรึไง?”

    “...” เธอไม่ได้ตอบแต่กลับกระพริบตาสองถึงสามครั้ง ปรับสติและความรู้สึกที่อัดอั้นในใจให้มันสงบลง ทว่ามันทำยากมากจนร่างกายต้องกลั่นความเสียใจออกมาทางดวงตา ในหัวพลันเกิดคำถามต่างๆ นาๆ

    คิวไม่มา คิวไม่มาช่วยเธอ คิวหายไปไหน ไปกับใคร แล้วทำไมต้องทิ้งเธอให้เผชิญอันตรายอยู่คนเดียว ไหนใครบอกว่าถ้าหากมีเขาอยู่เธอจะไม่เป็นอะไรไง จะคอยปกป้องไง...

    “ไออยากกลับบ้านค่ะ”

    “เดี๋ยวไปส่ง” พี่คินทร์พูดออกมาในทันทีแต่เธอทำเพียงส่ายหน้าให้กับความหวังดีนั้น..เธอไม่อยากให้คนอื่นเห็นความอ่อนแอของเธออีก

    “เดี๋ยวไอโทรให้คนที่บ้านมารับค่ะ” ไอวี่ลุกขึ้นก่อนจะปัดเนื้อตัวที่มีแต่ฝุ่นดิน “ขอบคุณนะคะที่มาช่วยถ้าไม่ได้พี่คงแย่แน่เลย”

    ดูเหมือนพี่คินทร์จะเป็นคนเข้าใจสถานการณ์ได้ดี เขาไม่ตื้อจะไปส่งหรือพูดอะไรอีก เขายืนรอคนมารับเธอด้วยกันเงียบๆ จวบจนทิมขับรถมารับเธอด้วยสีหน้าตื่นๆ ที่เห็นว่าเนื้อตัวเธอสกปรกผมเผ้ายุ่งเหยิงแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร ไอวี่กล่าวลาพี่คินทร์อีกครั้งแล้วจึงขึ้นไปบนรถ พอทิมขึ้นรถมาก็สตาร์ทรถออกตัวทันที

    ไอวี่ก็เมินสายตาของทิมที่มองมาอย่างเป็นห่วงแล้วหลับหนีไปเสียเลย เธอแค่เหนื่อยและอยากจะอยู่เงียบๆ ยังไม่อยากจะตอบคำถามใคร เพราะขนาดเธอเองก็ยังตอบคำถามตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม..

    ทำไม..ในเวลานั้นยังเชื่อใจและคิดว่าคิวจะต้องมาช่วยเธอ

    ทำไม..ถึงเลิกคิดถึง เลิกรัก เลิกพึ่งพาคนใจร้ายคนนั้นไม่ได้เสียที

    ลับหลังรถเก๋งคันหรูร่างสูงที่แอบอยู่ก็ออกมาจากที่ซ่อนก่อนจะเดินมายืนข้างๆ กับคินทร์ที่กำลังยืนสูบบุหรี่พิงกำแพงอยู่

    คินทร์หันไปมองผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่ระเบียบที่ทุกคนต่างเกรงกลัว คนที่ใครหลายๆ คนคิดว่าไม่คิดกระทำผิดกฎหรือข้อปฏิบัติของตนเอง

    คินทร์หยิบบุหรี่ส่งให้อีกฝ่ายก็หยิบไปจุดสูบเช่นกัน

    ความจริงแล้วคินทร์ตามมาดูไอวี่แทนที่จะให้ผู้หญิงออกมาตามด้วยกันเองเพราะมันดูอันตราย แต่พอเห็นว่าไอวี่กำลังหาอะไรคินทร์ก็เข้าใจในที่สุด ทว่าระหว่างนั้นไอวี่ก็เกิดมีเรื่องขึ้นมา คินทร์เห็นไอวี่ป้องกันตัวได้และกำลังจะเข้าไปช่วยแต่มือของใครบางคนก็ขวางเอาไว้เสียก่อน

    เป็นมือของเพื่อนสนิทในกลุ่ม..ตอนนั้นคินทร์ไม่เข้าใจที่คิวยังคงยืนเฉยๆ อยู่แบบนั้น

    “นกน้อยของมึงกำลังแย่แน่ะ”

    “ปล่อยไปก่อน”

    คิวพูดขึ้นมาเรียบๆ สายตาจ้องมองไอวี่ใช้วิชาป้องกันตัวเอาตัวรอดจากสถานการณ์จริง ตามดูไอวี่จนอีกฝ่ายถูกลากไปยังลานจอดรถเก่าแล้วอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ คิวขมวดคิ้วขัดใจที่ไอวี่ไม่พยายามต่อสู้ดิ้นรนหนีอย่างที่คิด กลับกันอีกฝ่ายคล้ายกับกำลังรออะไรสักอย่าง ซึ่งอะไรสักอย่างนั้นคิวพอจะเดาได้

    คิวไม่ได้ออกไปช่วยไอวี่อย่างที่ไอวี่คิด แต่กลับส่งคินทร์เข้าไปช่วยแทนและเขาเองก็หาที่หลบเพื่อดูท่าทีของอีกฝ่าย

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคิวไม่ได้เป็นคนกระทำ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปช่วยเหมือนกับทุกๆ ครั้ง..

    “คิดว่าที่ทำอยู่นี่ถูกต้องเหรอ?” คินทร์ถามขึ้น

    “...” คิวไม่ตอบแต่กลับเงยหน้ามองดูท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยกลุ่มดาวที่เพิ่งจะโผล่ออกมาจากหมู่เมฆ ก่อนที่จะพ่นควันสีขาวกระจายไปทั่ว

    “ทำอะไรก็รับผิดชอบเอาเองอย่าลากกูไปเกี่ยวด้วย เพราะถ้าแคลร์รู้กูกับมึงได้ตายแน่”

    “หึ..กลัวขนาดนั้น?”

    “ผู้ชายกลัวเมียแล้วจะเจริญ ไม่เคยได้ยิน?”

    “ไม่รู้ไม่เคยมีเมีย..กลัวเมียแล้วกลัวพี่เมียด้วยรึเปล่า”

    “...” คินทร์ไม่ได้ตอบแต่หันไปมองคิวอย่างจริงจัง “อะไรก็แล้วแต่กูบอกเอาไว้เลยว่ากูไม่ได้ร่วมมือกับมึงแต่ก็จะไม่ขัดขวางอะไร”

    “แค่นั้นก็ดีแล้ว”

    “แต่กูขอบอกเอาไว้สองอย่าง” คินทร์ทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นก่อนจะใช้เท้าขยี้ให้ไฟมอด “ข้อหนึ่งทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่มึงเป็นคนคิดคนทำกูไม่เกี่ยวไม่รู้ไม่เห็นหากเรื่องแดงมึงต้องยืนยันความบริสุทธิ์ของกูให้แคลร์ฟังด้วย..ส่วนข้อที่สอง หากเห็นว่ามึงกระทำเกินไปกูก็จะยื่นตีนออกไปยุ่งแบบครั้งนี้..เพราะนั่นก็คือสายรหัสกูเหมือนกัน”

    “ไม่คิดว่ามึงจะสนใจผู้หญิงคนอื่นนอกจากแคลร์”

    “คนใกล้ตัวกูล้วนสำคัญหมดนั่นล่ะ” คินทร์ขยับกายยืนขึ้น

    “กูอยากจะขอเตือนมึงหน่อยนะคิว กูรู้สึกว่าแคลร์ชอบเด็กนั่นมาก มึงอย่าทำอะไรให้มากเกินไปล่ะ..”

    “..ปรกติมึงไม่ค่อยพูดนี่แล้วยิ่งมาเตือนกูแบบนี้อีก..ไม่ชินเลยว่ะ”

    “กูก็ไม่เคยชิน แต่ถ้ากูทำแล้วผลที่ได้แคลร์มีความสุขกูก็ยินดีทำ”


    Talk

    แจ้งเล็กน้อยนะคะ

    1. เนื้อเรื่องช่วงมหา'ลัยจะเร็วหน่อยนะคะ เราจะไม่เก็บมาก

    อย่างพวกเพื่อนๆ ก็จะมีโผล่บ้าง แต่ส่วนตัวจะดำเนินเหตุการณ์

    กับตัวเอก เพราะจากนี้มันยังต้องเขียนอีกเยอะ ตีเป็นเปอร์เซ็นต์

    ตอนนี้เขียนได้ 20 เต็ม 100 ค่ะ 


    2. พระเอกเรื่องนี้เป็นคนเลวค่ะ แต่เลวเพราะมีสาเหตุ

    นางเอกดูน่าสงสาร ใช่ค่ะจะน่าสงสารเกือบทั้งเรื่อง

    จวบจนใกล้จบโน่นล่ะที่เอาคืนพระเอกได้บ้าง


    3. เรื่องมันจะวนลูปความหึงหวง นางเอกงี่เง่า เอาแต่ใจ

    แต่ต่อไปนางจะไม่เป็นแบบนี้ค่ะ อย่าเพิ่งรำคาญนางนะ

     



    ※ โหวต เม้นท์ เฟบ ให้กำลังใจ 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×