ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : OS - Closer (Markten)
Markten } Closer
“พี่เตนล์...”
เตนล์เอี้ยวตัวกลับไปมองตามเสียงเรียก ดวงตาเรียวเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นร่างของคนที่เขาจำได้ดี
มาร์ค...
“มะ...มาร์ค” เตนล์พูดตะกุกตะกัก ดวงตายังคงเบิกค้าง มาร์คคลี่ยิ้มบางๆเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตกใจ ขณะที่ขยับตัวเข้ามาใกล้เร่อยๆ
“พี่เตนล์...มัวทำอะไรอยู่? สายแล้วนะ” แจฮยอน เอื้อมมือมาบีบไหล่บางเบาๆ
“อืม..” ตาคมเหลือบมองคนที่ชะงักแล้วยืนนิ่งอยู่ข้างหลังเล็กน้อย
“...ใครอะ?”
“ไม่มีอะไรสำคัญหรอก...ไปเถอะ” เตนล์รีบเดินออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ดวงหน้าหวานร้อนขึ้นเล็กน้อย มือเรียวยกขึ้นกุมพวงแก้มแดงระเรื่อเบาๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่าพี่?” แจฮยอนถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เขาเห็นเตนล์ชอบอังแก้ม อังหน้าผากตัวเองบ่อยๆ “ไม่สบายเหรอ?”
“หะ หืม? พี่ไม่เป็นไร...ไม่ต้องห่วงหรอก”
“ไม่ให้ห่วงได้ไงอะ พี่เป็นพี่ชายของเพื่อนผมนะ มันบอกให้ดูแลดีๆด้วย...” แจฮยอนพูดเสียงเบาเมื่อประโยคสุดท้าย
“ฮ่าๆ พี่ไม่เป็นไรจริงๆ”
“แน่ใจนะ?”
“พี่แน่ใจ :)”
มือเรียวเอื้อมไปกดออดหน้าห้องของเตนล์ ฝ่ามืออีกข้างยกขึ้นปิดตาแมว เพราะถ้าเตนล์เห็นเขา คงไม่เปิดประตูให้แน่ๆ
...เขายังจำได้ดีว่าเตนล์พักอยู่ที่ไหน จำได้...ทุกรายละเอียดเกี่ยวกับเตนล์
“ใครครับ...” เสียงเล็กเอ่ยขึ้น เตนล์ไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆกลับมา เขาบิดประตูแล้วเปิดออกช้าๆอย่างใจเย็น
แต่เหมือนคนข้างนอกจะไม่เย็นด้วย
“พี่เตนล์” มาร์คกดเสียงต่ำเมื่อคนข้างในพยายามงับประตูปิด “หลบหน้าผมทำไม?”
“นะ...นายมาทำไม” ใบหน้าขาวซีดขึ้นสีชมพูเข้ม ริมฝีปากและร่างกายสั่นไปเสียหมด จู่ๆมือทั้งสองก็หมดแรงเอาเสียดื้อๆเมื่อเห็นดวงตาสีเข้มที่มองมา ประตูถูกเปิดอ้าออก
มือหนาของมาร์คผลักร่างเล็กให้เข้าไปในห้อง เขาขนสัมพาระมาไว้ในห้องของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น
แฟนเก่า ของเขา
“ผมขอพักด้วยนะ” มาร์คพูดด้วยหน้าตานิ่งเฉยและน้ำเสียงราบเรียบ
“ไม่...” เตนล์พยายามปฏิเสธ มาร์คสร้างกรงด้วยแขนทั้งสองของตัวเองแล้วขังเตนล์ไว้ในนั้น เขาโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้คนในอ้อมแขน
“พี่ไม่คิดถึงผมเหรอ...” มาร์คกระซิบถาม สายตาที่มองมายังเตนล์ดูเหมือนเขากำลังตัดพ้ออยู่ เตนล์แอบอมยิ้มเล็กๆอย่างเอ็นดู “ผมเพิ่งกลับมาจากแคนาดานะ...ไม่คิดถึงกันจริงๆเหรอ...?”
มาร์คกระซิบถามเตนล์อีกครั้ง ใบหน้าของทั้งสองใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากบางของมาร์คที่ขยับเข้ามาทำให้หัวใจของเตนล์เต้นระส่ำ
มาร์คเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาหัวใจเต้นได้...และจะเป็นคนเดียวตลอดไป
“มาร์ค...นาย...รู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่...จำได้ด้วยเหรอ?” เตนล์ยกมือขึ้นดันอกของคนตรงหน้าเบาๆ มาร์คเลียปากอย่างเสียดายก่อนจะค่อยๆผละออกไปอย่างอ้อยอิ่ง
“จำได้สิ...ผมไม่เคยลืมเรื่องราวเกี่ยวกับพี่...ไม่เคยเลย” มาร์คยกยิ้มบางๆ เตนล์ที่กำลังหอบหายใจเข้าปอดเกิดหายใจติดขัดอีกครั้งเมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น
“อือ...” เตนล์ตอบรับเบาๆ “แล้วจะอยู่กี่วันล่ะ?”
“ไม่รู้สิฮะ...อาจจะสองสามวัน หรืออาจจะเก็บของแล้วไปมะรืน...” เสียงเข้มหยุดพูดไปสักพัก ตากลมเหลือบมองเตนล์เล็กน้อย “หรืออาจจะพรุ่งนี้...”
เตนล์รู้สึกใจหายเมื่อได้ยินว่าเขาอาจจะไปพรุ่งนี้...
“เหรอ...อืม” เตนล์พยักหน้าให้กับคำตอบของมาร์ค ดวงตาเหม่อลอยกลอกมองไปทั่วห้อง
“หาจิ้งจกเหรอ” มือเรียวยื่นไปจี้เอวคนแก่กว่า เตนล์หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!! พะ...พอ...พอได้แล้ว” เตนล์หอบ มือเล็กปัดป่ายให้อีกฝ่ายหยุด เสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังไปทั่วห้อง ร่างเล็กทั้งสองเอนกายพิงพนักพิงโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน
“ฮ่า...ผมไปอาบน้ำก่อนนะ” มาร์คลุกขึ้นแล้วเดินไปเตรียมผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าไว้
“อืม...”
“พี่จะไปอาบด้วยกันมั้ย?”
“บ้า! พูดอย่างกับเคยอาบด้วยกันบ่อยๆ” เตนล์หยิบหมอนอิงเล็กๆใกล้ๆมาปาใส่มาร์ค เขาหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ
“ฮ่าๆ ไม่บ่อยหรอก แต่ก็เคยละกัน” มาร์คพูดจบก่อนจะปิดประตูห้องน้ำไป
...ทิ้งให้เตนล์นั่งหน้าแดงอยู่บนโซฟาคนเดียว
“พี่เตนล์...” มาร์คเขย่าไหล่เตนล์ที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟาเบาๆ “พี่เตนล์ๆๆ”
“หะ หืม...?”
“ผมอาบเสร็จแล้ว...พี่รีบอาบต่อเถอะ จะได้ไปนอน”
“อืม...” เตนล์ขยี้ตาเบาๆเหมือนเด็กน้อย ร่างบางเดินตรงไปคว้าผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องน้ำไป
“...” มาร์คกลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนจะนึกได้ว่าเตนล์ลืมอะไร...
เสื้อผ้า...
ถ้าไม่ให้เขาเอาไปให้ก็คงต้องออกมาด้วยสภาพหน้าอายท่ามกลางสายตาของเขา...
“ว้า~ชีวิตดีเกินไป แย่จัง :\ ”
“นายพูดอะไรหรือเปล่า มาร์ค?” เตนล์ตะโกนถามจากข้างในห้องน้ำ
“ไม่มีอะไรหรอกครับ” มาร์คตอบกลับอย่างเริงร่า
หึ :)
“เวร” เตนล์สบถพลางทึ้งหัวตัวเองอย่างหัวเสีย เขาเรียกคนข้างนอกด้วยเสียงตะกุกตะกัก “มะ...มาร์ค”
“ครับผม”
“คือ...อะเอา...”
“หืม? :)”
“เอาเสื้อผ้ามาให้หน่อยสิ หยิบๆมาเลย ตัวไหนก็ได้” เตนล์พูดรัวเร็ว มาร์คยิ้มแป้นก่อนจะคว้าเสื้อผ้าที่พาดไว้ข้างๆ
เขาเตรียมไว้ตั้งแต่นึกได้ว่าเตนล์ลืมแล้ว...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เตนล์หน้าร้อนเห่อขึ้นแม้จะอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยละอองน้ำเย็นชื้น
“อะ อืม...” มือเรียวค่อยๆแง้มประตูออกเล็กน้อย
“เปิดให้กว้างกว่านี้สิครับ ผมยื่นเสื้อผ้าให้ไม่ถนัดเลย” มาร์คแย้งการกระทำเขินอายของเตนล์ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
เตนล์เปิดประตูกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย มาร์คหัวเราะในลำคอก่อนจะยื่นเสื้อผ้าให้คนข้างในที่กำลังหน้าแดงเป็นมะเขือเทศสุก
ปัง!
มือเล็กปิดประตูอย่างรวดเร็วด้วยความอาย หัวใจเต้นเป็นบ้าเป็นหลังเมื่อนึกถึงรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของคนข้างนอก
ฟุ่บ
เตนล์เมินมาร์คที่นอนดูทีวีอยู่บนโซฟาแล้วตรงไปที่เตียงทันที ร่างเล็กเอนกายลงนอนแล้วดึงผ้าห่มมาคลุม เหลือไว้เพียงตาเฉี่ยวคมที่กลอกไปมา
มาร์คปิดทีวีก่อนจะเดินไปนอนลงบนเตียงข้างๆเตนล์ ร่างบางของเตนล์เมื่อเห็นว่ามาร์คมานอนก็พลิกกายหันนอนตะแคงอีกข้างแทน
มาร์คยิ้มมุมปากแล้วจับบ่าเตนล์เบาๆราวกับกำลังจับต้องสิ่งของล้ำค่ามีมูลค่ามหาศาล...
แต่สำหรับมาร์ค เตนล์มีค่ามากกว่าที่คำว่ามหาศาลจะจำกัดได้
“พี่เตนล์..”
“อื้อ...” เสียงหวานตอบเบาๆ
“เซ็กซี่จังครับ...” มือหนาลูบสะโพกเบาๆอย่างเย้ายวน ร่างกายของเตนล์สั่นสะท้านน้อยๆ มาร์คยกยิ้มมุมปากบางๆ
ตอนนี้เตนล์กำลังใส่ชุดที่มาร์คหยิบให้ เสื้อแขนกุดบางๆกับบ็อกเซอร์ลายทางสีน้ำเงิน
นอกจากนั้น...บนตัวของร่างเล็กก็ไม่มีอะไรปกปิดอีกเลย
“อ๊ะ” เตนล์ร้องเบาๆ ใบหน้าเห่อแดงกับการกระทำของมาร์ค ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้คนที่กำลังนอนเกร็งอยู่
“พี่ไม่คิดถึงผมบ้างเลยเหรอ...”
“เอาความจริงมั้ย?” เตนล์พลิกตัวนอนหงายแล้วสบตากับคนที่นอนเท้าข้อศอกอยู่ ดวงตาสั่นไหวเมื่อพูดประโยคหลังออกมา “คิดถึงสิ...คิดถึงมากๆด้วย”
“งั้น...” มาร์คขยับตัวเข้าไปใกล้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายแดงก่ำอย่างเขินอาย นัยน์ตาสีดำหวานเยิ้มที่มองมาทำให้มาร์คอดไม่อยู่ที่จะตวัดแขนโอบรอบกายคนข้างล่าง “ถ้าพี่คิดถึงกัน...ก็กอดผมแน่นๆสิครับ”
เขายิ้มอ่อนโยน
“กอด...ให้เหมือนกับว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้กอดผมอีก” แขนเล็กที่ถูกมาร์คหยิบมาพาดไว้กับตัวรัดแน่นรอบกายของมาร์ค เขายิ้มกว้างกว่าเดิม “กอดผมให้แน่นกว่านั้นสิ”
“อือ...” เตนล์ครางเบาๆตอนกลับมา ใบหน้าซุกกับอกของมาร์ค แขนทั้งสองกอดคนตรงหน้าแน่น
“กอด...เหมือนที่พี่กอดตุ๊กตาหมีตัวโปรด”
“มาร์ค...”
“ผมเป็นตุ๊กตาหมีของพี่คนเดียว...คนเดียวนับจากนี้ และตลอดไป :)”
“ฮื่อ..” เสียงหวานครางตอบเบาๆ
“พี่เตนล์...”
“อะไรอีกล่ะ” เตนล์ตอบพลางหัวเราะ “เรียกบ่อยเหลือเกินนะ...”
“คนนั้นคือใครเหรอ?”
“...คนไหน?” เปลือกตาปิดลงช้าๆ ปากขยับถามเบาๆ
“คนนั้น...คนที่เดินมาบีบไหล่พี่”
“อ๋อ...แจฮยอนน่ะ เป็นเพื่อนของวินวิน...วินวินเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่ จำได้ใช่มั้ย?”
“ฮะ...แล้ว”
“หืม?” คนในอ้อมกอดพึมพำตอบเบาๆ
“ที่พี่บอกว่าไม่ได้สำคัญอะไร...พี่พูดจริงหรือเปล่า?” มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงระคนน้อยใจ ดวงตาวูบไหวนั้นจ้องมองมายังเตนล์อย่างต้องการคำตอบ “ผม...ไม่ได้สำคัญกับพี่จริงๆเหรอครับ?”
“มาร์ค...” เตนล์ถอนหายใจเบาๆ “นายรู้ใช่มั้ยเราอยู่ในฐานะอะไร?”
“ครับ” มาร์คกระซิบตอบ “แต่แล้วยังไงล่ะ? รีเทิร์นได้นี่”
“ไม่...จริงๆเราไม่ควรจะอยู่ในสภาพแบบนี้ นายไม่ควรเข้ามาในห้องฉันด้วยซ้ำ...” เตนล์ถอนหายใจยาวอีกครั้งหลังพูดจบ “ฉันมันใจอ่อนเองแหละ...”
“ไม่เอาน่า..พี่อย่าพาดราม่าสิ” มาร์คทาบริมฝีปากอุ่นลงบนหน้าผากใสเบาๆ ปอยผมเล็กๆสัมผัสเข้าเบาๆกับปลายจมูก “กอดผมสิ...แล้วลืมเรื่องอื่นไปให้หมด”
“อื้อ”
“ขอโทษที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมานะครับ...” ปากเรียวกดหนักๆที่หน้าผากสีน้ำนมอีกครั้ง
“อ..อื้อ..” เตนล์พูดเสียงติดขัดเมื่อมืออุ่นเริ่มไล้ไปตามเอวและสะโพก หัวใจสั่นไหวเหมือนกำลังจะระเบิดออกจากอก “มาร์ค...อย่า”
“...” มาร์คไม่ตอบอะไร เขาหยุดการกระทำไว้เพียงเท่านั้น เตนล์เลื่อนมือหนาให้มาโอบรอบเอวเล็กนิ่งๆเช่นเดิม
“ถึงตอนนี้เราจะไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว...” เตนล์พูด
“...”
“แต่ก็ยังรักอยู่นะ”
thank : bearbie item
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น