ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` [exo] GIDDY CHANYEOL {chanbaek}

    ลำดับตอนที่ #11 : ช า น มึ น : ต อ น ที่ สิ บ

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 58




    © themy  butter


    ต อ น ที่ สิ บ







    ก็เออดิ นี่น้องไง จำไม่ได้หรอ

    เห้ยยยยยย แกมาไงเนี่ย

    แบคฮยอนโยนสายยางทิ้งลงบนพื้นก่อนจะกึ่งกระโดดกึ่งเดินไปหน้าบ้านที่มีแขกผู้มาเยือนที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ ร่างสูงที่คร่อมอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ตวัดขาลงมาจากพาหนะคู่ใจ แล้วรับแรงกอดจากพี่ชายตัวเล็กเข้าเต็มเปา

    หนักขึ้นป่าววะ ขึ้นมหาลัยแล้วกินเยอะใช่มั้ยเนี่ย

    มอไซค์ใครซื้อให้ แล้วมีใบขับขี่หรือยัง พ่อรู้รึเปล่า

    แม่ล่ะ?”

    ไม่มีใครคิดจะตอบเอาแต่สาดคำถามใส่กันจนคนที่ยืนอยู่ในรั้วบ้านทำหน้างง ปาร์คชานยอลก้มลงเก็บสายยางที่ถูกละเลย(เหมือนเขาไม่มีผิด)ถือรดน้ำแทนเจ้าของบ้านที่ไม่คิดจะสนใจอีกต่อไป ได้แต่ขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่ชอบใจที่เห็นเด็กข้างบ้านไปยืนกระโดดกอดอีกคนเหยงๆ

    ทีกับเขาละต่อยเอาต่อยเอาเวลาโดนกอด

     

    แล้วมนุษย์หน้าเขียวนี่ใคร เขาสู้มันไม่ได้เลยหรอ?

     

    จื่อเทา หรือหวังจื่อเทาน้องชายแท้ๆของแบคฮยอน ใช้นามสกุลของคุณปู่หรืออากงที่เป็นจีนแท้แต่มาตั้งรกรากอยู่เกาหลี เพราะพ่อกับแม่แยกทางกันจื่อเทาเลยเลือกที่จะไปอยู่กับพ่อเพราะรู้ว่าพี่ชายของตัวเองติดแม่มากขนาดไหน ต่างจากเขาที่ถูกส่งไปเรียนโรงเรียนประจำในตอนประถมจนถึงมอต้นเลยทำให้ยังไงก็ได้ พ่อก็ได้แม่ก็ดี

    คนเป็นน้องชายเหลือบมองร่างสูงอีกคนที่ยืนอยู่ในรั้วบ้านและตอนนี้กำลังจ้องมาทางเขาเขม็ง จื่อเทาเลยจัดการโอบบ่าพี่ชายตัวเล็กเอาไว้ ส่งสายตามองกลับไปบ้าง และตอนนี้เขาถึงได้มั่นใจว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่แขกธรรมดาที่มาเยือนบ้านแน่ๆ

    อะ...อ้อ นี่คนข้างบ้าน พี่..............ชานยอล ปาร์คชานยอล

    ก่อนที่จะลืมแบคฮยอนเลยรีบแนะนำคนที่ยังยืนรดน้ำต้นไม้ให้รู้จัก หวังจื่อเทายกยิ้มมุมปากพลางเอ่ยทักทาย หวัดดีครับ

    ส่วนนี่คือ..หวังจื่อเทา น้องชายผมเอง

    น้องชาย....แท้ๆ?”

    เปล่า น้องไม่แท้พ่อแม่รู้จักกันแค่นั้นเอง

    แก.....” จื่อเทาแอบหยิกสีข้างของพี่ชายตัวเองที่กำลังจะหันมาเอ็ดที่เขาพูดโกหก ผมควรจะเข้าไปสวัสดีคุณป้าใช่ไหม งั้นเราไปกันเถอะ

    ว่าจบก็จัดการกวาดเอาคนข้างกายให้ติดสอยห้อยเข้าบ้านไปด้วย แบคฮยอนเห็นว่าคนข้างบ้านกำลังมองมาทางนี้ด้วยสายตานิ่งๆ พอเขาจะขยับปากพูดอะไรซักหน่อยหวังจื่อเทาก็ปิดประตูบ้านเสียโครมใหญ่

    ถ้าเป็นแค่นั้นก็ไม่ควรจะโอบขนาดนั้นปะวะ

    ชานยอลบ่นพึมพำเบาๆก่อนจะทำหน้าหงุดหงิด เขาเดินไปปิดน้ำแล้วจัดการเก็บสายยางให้เรียบร้อย ร่างสูงเม้มปากแน่นและตอนนี้ชักจะลังเลใจว่าควรจะเข้าไปในบ้านของแบคฮยอนดีหรือไม่.....

    เอาวะ ถอยกลับไปตั้งหลักก่อนก็แล้วกัน

     

    ------ GIDDY CHANYEOL ------

     

    ว่าแล้ว ว่าแล้วเชียว

    อะไร อะไรของแก

    ไอ้บ้านั่นกำลังจีบเฮียอยู่จริงๆด้วย

     

    มันเลยคำนั้นมานานละโว้ย!

     

    อยากจะเขกหัวไอ้น้องชายตัวดีเสียหลายๆทีแต่แบคฮยอนก็ได้แต่ทำเพียงโบกมือปัดไปมา กับจื่อเทาเองเขาก็ไม่อยากจะบอกเหมือนกันว่าตอนนี้สถานะกับคนข้างบ้านมันไปไกลมากกว่าที่คิด

    แล้วเฮียก็ช่วยทำตัวให้ดีกว่านี้หน่อยได้ปะวะ ยอมให้มันจับอยู่ได้ อย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะเฮีย

    มาขึ้นกงขึ้นกู เดี๋ยวแม่มาได้ยินเข้าจะตบปากเอาสิ ไปๆไปหาแม่ แม่อยู่ในครัวโน่น

    จัดการดันหลังน้องชาย เปลี่ยนเรื่องด้วยการนิ่วหน้าเอาเรื่องคำพูดคำจามาอ้างทั้งที่จื่อเทาก็พูดกับเขาแบบนี้เป็นเรื่องปกติมาตั้งแต่ไหนแต่ไร น้องชายตัวสูงยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะเดินไปตามแรงผลัก แอบเดินเข้าไปในครัวก่อนจะทำเซอไพร์สคนที่กำลังทำกับข้าวด้วยการกอดรอบเอว

    “....ป้า!”

    ยะ...ย่าห์! แม่บอกแกแล้วใช่ไหมแบคฮยอนว่า....จื่อเทา!”

    เพราะโดนกอดแบบไม่ทันตั้งตัวเลยทำให้คนที่กำลังเข้าครัวตกใจจนตะหลิวแทบจะหลุดจากมือ แต่พอเห็นว่าคนที่เข้ามากอดไม่ใช่ลูกชายคนเดิมก็เบิกตากว้างออกมานิดหน่อยก่อนจะตะโกนเรียกเสียดังลั่น

    มาได้ยังไง!”

    ป้าเสียงดังจังเลยฮู้ยยย ขี้หูเต้นเลยหู้ยยยย

    แม่ดูเหมือนจะเก็บความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ แบคฮยอนเลยเดินเข้าไปแทรกก่อนจะดันให้สองแม่ลูกเดินออกไปให้ห่างจากครัว เขาจะเป็นคนทำกับข้าวเอง แน่นอนว่าทันทีที่จับตะหลิวโทรศัพท์ก็สั่นครืดคราด ร่างเล็กหยิบมันออกมาก่อนจะพบว่าเป็นสายเรียกเข้าจากคนข้างบ้านที่เพิ่งแยกกันไปเมื่อซักครู่

    ว่าๆ?”

    [หึง]

    ห้ะ?”

    [บอกว่าหึงไง]

    เฮ้ย หึงไรวะ

    [วิ่งเข้าไปกอดไอ้มนุษย์หน้าเขียวนั่นหน้าตาเฉย.....]

    เดี๋ยวๆ มนุษย์หน้าเขียวไหน

    รีบเบรคอีกคนก่อนที่จะพาออกนอกทะเลไปไกล มือหนึ่งจับตะหลิวอีกมือหนึ่งจับกระทะเอาไว้ไม่ให้มันหล่น ส่วนโทรศัพท์นั้นเหน็บเอาไว้ที่หู ปลายสายเงียบไปซักพักเหมือนกำลังนึกอะไรซักอย่างอยู่

    [เถาเทาอะไรนั้นไง]

    อ๋อ จื่อเทาน่ะหรอ....”

    เฮีย! คืนนี้ผมนอนด้วยนะเสียงของน้องชายตัวโตตะโกนมา แบคฮยอนตะโกนตอบรับกลับไป และเขาคิดว่ามันคงดังลอดเข้าไปในสายด้วยปาร์คชานยอลถึงได้สบถพึมพำออกมา น้ำเสียงของปลายเริ่มขุ่นมัว

    [ใครจะนอนด้วยนะ?]

    เทาไง

    [..........]

    พี่? หายไปไหนวะ?”

    [...นี่กำลังงอนอยู่ รีบมาง้อด้วย]

    ตู๊ดๆๆๆๆ

    อ้าวเฮ้ย! เล่นงี้เลยอ่อวะ!!

    คนข้างบ้านกดตัดสายทิ้งไป และนั่นทำให้แบคฮยอนรู้ว่าไอ้ที่ต้องไปง้อคือให้รีบไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ร่างบางทำหน้างงก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าแล้วจัดการกับอาหารที่ยังค้างอยู่ในกระทะให้เสร็จ

    ไอ้เทานะไอ้เทา โผล่มานี่ก็สร้างเรื่องทันทีเลยนะ

    ท่าทางคราวนี้จะหึงจริงเพราะก่อนจะเข้ามาในบ้านเขาเห็นความหงุดหงิดชัดเจนอยู่บนใบหน้ามึนๆนั่น ไอ้ที่เห็นว่าเอะอะหึงเขากับพี่คริสหรือใครคนอื่นนั่นแค่อยากหาเรื่องให้เขาง้อก็เท่านั้นแหละ

    ตอนแรกก็ว่าจะไปหาตอนที่กินข้าวเสร็จแล้ว แต่แม่หันมาทักว่าให้ไปเรียกคนข้างบ้านมากินข้าวด้วยกันตอนที่ไอ้เทาขึ้นไปสำรวจบ้าน แบคฮยอนเลยจำต้องเดินออกมา กดออดเรียกคนตัวสูง เขาเห็นว่าปาร์คชานยอลแอบมองเขาอยู่ในบ้านด้วยการแง้มผ้าม่านออกมา พอสบตากันเข้าก็ปิดผ้าม่านหนีเขาไปเลย

     

    เออ เอ้า คิดว่าน่ารักมากสินั่น

     

    สุดท้ายแล้วคนตัวเล็กเลยถือวิสาสะเปิดประตูเดินเข้าไป นี่ทำแบบนี้เพราะกลัวคนงอนจะอดข้าวตายหรอกนะ ถ้าไม่มีมื้อเช้ามาค้ำคออยู่แบคฮยอนไม่มีทางเปิดประตูเข้าไปแน่

    คราวนี้เลยจัดการเคาะประตูบ้านสองสามครั้ง เหลือบมองตรงผ้าม่านก็พบว่าอีกคนกำลังแอบมองเขาอีก ถ้าพี่ไม่เปิดประตู ผมจะกลับละนะ

    เพียงเท่านั้นประตูบ้านก็เปิดออก ร่างสูงทำหน้าง้ำก่อนจะรั้งเขาให้เข้าไปในตัวบ้านแล้วปิดประตูลง มือใหญ่ปล่อยออกจากเอวและยกขึ้นไปกอดอกแทน

    นี่คือวิธีง้อ?”

    ก็พี่เมินผมทำไมล่ะ

    ก็บอกไปแล้วว่าหึง

    แต่อย่างน้อยพี่ควรจะเปิดประตูให้ผมปะวะ

    มาเปิดให้แล้ว ว่าต่อ

     

    กวนตีนไหมล่ะปาร์คชานยอล

     

    ไม่ยอมมองหน้ากันเหมือนเคย เจ้าตัวเสมองไปทางอื่นแบคฮยอนแอบยิ้มนิดหน่อยจนเกือบจะหลุดขำออกมา ดีว่ายังกลั้นเอาไว้ได้ทันเลยไม่ได้พาลทำให้อีกคนหงุดหงิดไปมากกว่านี้

    ไปกินข้าวกัน

    “.......”

    ไม่หิวอ่อ แม่ทำกับข้าวเยอะเลยนะ

    นั่น มีการแอบหันมาเหล่อีก

    แบคฮยอนแตะมือลงบนไหล่อีกคน สะกิดเบาๆทำท่าง้อ เขาง้อคนไม่ค่อยเก่งจะให้ทำท่าปุอิ้งๆใส่มันก็ไม่ใช่เรื่อง เขาคิดว่าถ้าเป็นเด็กผู้หญิงมาเขย่าแขนแล้วบอกว่าพี่คะพี่ขาคืนดีกันเถอะน้าคงจะน่าดูกว่าเป็นไหนๆ

    น่านะ ไปกินข้าวกันยอมทำเสียงอ่อนลงมาอีกนิด ปาร์คชานยอลเหล่เขาด้วยสายตาอีกครั้งก่อนจะยอมลดมือที่กอดอกลงแล้วเปลี่ยนมาเป็นโอบรัดเอวเขาแทน

     

    ถ้าเป็นแบบนี้ก็งอนต่อก็ได้นะ......

     

    รับปากก่อนว่าคืนนี้จะไม่นอนกับไอ้เด็กหน้าเขียวนั่น

    เทาน่ะหรอ? ถ้ามันไม่นอนกับผมแล้วจะให้มันไปนอนกับแม่หรือไงพี่ ตลกตายชัก

    ให้กลับบ้านไป

    พี่...ผมไม่ได้เจอมันมานานมากแล้วนะ

    แต่ดูก็รู้ว่าไอ้เด็กนั่นมันคิดมากกว่าพี่น้อง

    เฮ้ย ไปกันใหญ่แล้ว....เทามัน...”

    ปังๆๆๆ!

    'เฮียแบค! แม่ให้มาตามกินข้าวแล้ว เฮีย!'

    ยังไม่ทันจะได้แก้ตัวก็ต้องสะดุ้งเพราะไอ้น้องชายตัวแสบมันช่างเคาะประตูได้ฮาร์ดคอสมกับหน้ามันเหลือเกิน แบคฮยอนรีบเปิดประตูออกก่อนที่จื่อเทาจะทำประตูบ้านของคนข้างบ้านพัง ปาร์คชานยอลทำหน้าหงิกกว่าเดิมเมื่อได้ยินประโยคที่ค่อนข้างจะมีความหมายผิดเพี้ยนจนเจ้าตัวเริ่มจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่

    พี่...เทาน่ะ....”

    คือน้องที่สนิทกันมากๆๆๆๆ! มากแบบที่ไม่ว่าใครก็ทำไม่ได้อีกแล้ว

    นั่น.....ปาร์คชานยอลลมออกหูแล้ว

     

    ------ GIDDY CHANYEOL ------

     

    ทำไมไม่บอกว่าเป็นน้องชายแท้ๆ

    หลังจากที่ทานข้าวเสร็จปาร์คชานยอลก็เอ่ยปากถามถึงเรื่องบนโต๊ะอาหารที่เพิ่งจะผ่านมาสดๆร้อนๆ แบคฮยอนที่กำลังล้างจานชะงักไปนิดหน่อยแล้วจึงย่นจมูกใส่

    ผมกำลังจะบอกพี่แล้ว

    แน่นอนว่าบนโต๊ะอาหารความเกือบแตกว่าเขากับปาร์คชานยอลกำลังคบกันอยู่เพราะไอ้จื่อเทาน้องชายตัวแสบไปยั่วอารมณ์คนข้างบ้านเสียจนเกือบทนไม่ได้ พอแม่เอ่ยปากเท่านั้นแหละอารมณ์โกรธของชานยอลที่เคยพุ่งขึ้นสูงสุดกลับดิ่งลงเหวแทบจะในทันที ส่วนจื่อเทาน่ะหรอ รายนั้นหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่พักใหญ่ที่ดันความแตกทั้งที่หลอกเขาได้ไม่ถึงวัน

     

    'แกพูดเหมือนกับว่าแบคฮยอนไม่ใช่พี่แท้ๆของแกอย่างนั้นแหละ'

    'โหป้า.....จบกัน จบเลย'

     

    ปาร์คชานยอลรู้สึกเหมือนตัวเองได้ขึ้นไปยืนยิ้มอยู่บนหน้าของไอ้เด็กหน้าเขียวที่ไม่ได้เขียวแค่หน้าแต่เขียวทั้งตัวนี่เลย

    ไอ้กำลังน่ะคือตอนไหน

    ปาร์คชานยอลสวมบทเป็นคนใจร้ายไม่ยอมช่วยร่างเล็กล้างจาน ยกมือขึ้นกอดอกก่อนจะเอาสะโพกพิงกับขอบอ่างตะแคงตัวมองแบคฮยอนที่กำลังล้างจานอย่างขะมักเขม้น

    ก็..ตอนเช้าเลยแต่เทามันขัด แล้วตอนที่ไปตามพี่กินข้าวด้วย เทาก็มาขัดอีก

    เรามันคนใจร้ายแบคฮยอน

    ผมทำอะไรไม่ถูกใจ พี่ก็ว่าผมใจร้ายตลอดล่ะ

    คนใจร้ายยักไหล่น้อยๆ ชินเสียแล้วกับการโดนปาร์คชานยอลว่าแบบนี้ แรกๆก็ทำหน้านิ่วทุกทีที่ได้ยิน แต่พอนานเข้าเขาคิดว่ามันเป็นการต่อว่าแบบไม่จริงจังเท่าไรนักของคนข้างบ้านที่ควบตำแหน่งแฟนไปด้วย

    มาให้ลงโทษ....ด้วยการจูบหนึ่งที

    ตื่นไหมล่ะ

     

    แบคฮยอนดับความฝันของเขาอีกแล้ว

     

    ถึงจะเห็นว่าปาร์คชานยอลเป็นพวกขยันชอบฉวยโอกาสก็เถอะ แต่เขาก็ไม่เคยทำอะไรไปมากกว่าการกอดหรือแอบหอมแก้ม หลังจากที่คบกันมาเขาไม่เคยได้จูบจากเด็กนี่อีกเลยไม่ว่าจะหยอดขนาดไหน ถ้าหากว่าจะเขินซักหน่อยเขาก็จะได้พอเนียนแอบจุ้บๆไปบ้าง แต่บยอนแบคฮยอนเป็นผู้มีภูมิต้านทานต่อการหยอดของเขาอย่างแข็งแกร่ง ที่จริงแล้วก็เขินแหละ แต่เป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆก่อนที่จะสร้างบาเรียป้องกันคำหยอดให้กระเด็นไหลออกไปก่อนจะเข้าถึงตัวทุกที

    เพราะงั้นทางเดียวที่จะทำลายบาเรียนั่นได้คือการแกล้งหึงบ่อยๆ

    เขาชอบเวลาที่เด็กข้างบ้านขยับเข้ามาใกล้ๆจนได้กลิ่นแป้งเด็กที่หลงเหลือติดอยู่ประปราย ชอบเวลาที่แบคฮยอนพยายามจะเรียกให้เขาหันไปสนใจด้วยการสะกิดหรือไม่ก็เอาไหล่ชนเบาๆ ความพยายามเหล่านั้นมันเป็นอะไรที่น่ารักเสมอ

    แล้วนี่เด็กนั่นจะอยู่นานแค่ไหน

    พรุ่งนี้ก็คงกลับแล้วล่ะมั้ง

    น่าหงุดหงิด

    เมนพี่มาหรอ

    ปากเก่งจังนะแบคฮยอนคนตัวสูงก้มหน้าลงไปใกล้ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งจิ้มลงบนแก้มขาวหลายๆที คนที่กำลังล้างจานถลึงตาใส่นิดหน่อยแล้วจึงใช้ขาดันอีกคนให้ถอยห่าง ถอยออกไปเลย

    ไม่ถอย

    หาเรื่องว่ะ....”

    ต้องจูบซักทีดีมั้ยจะได้ไม่เก่งใส่พี่

    แน่นอนว่าปาร์คชานยอลเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวชอบบ่นว่าไม่ชินปากเขาเลยบอกว่าแบบเดิมก็ได้เพราะแบคฮยอนเองไม่ได้ซีเรียสอะไร เหมือนกับเขาถ้าให้เปลี่ยนไปแทนตัวเองว่าแบคชาตินี้ก็คงไม่ต้องคุยกันอีก แต่ชานยอลยืนยันว่ายังไงก็จะทำให้ได้

    ถ้าถามกันตามตรงแบคฮยอนก็ชอบให้อีกคนแทนตัวเองว่าพี่ แล้วเรียกเขาว่าเราเหมือนกันนั่นแหละ

    ถอยออกไปห่างๆได้มั้ยล่ะ

    ถ้าไม่ติดว่าล้างจานอยู่ แบคฮยอนได้หันไปทึ้งหัวอีกคนแล้วแน่ๆ

    คืนนี้ไปนอนบ้านพี่แล้วกัน

    เรื่องไรเล่า บ้านผมก็มีให้นอนปะวะ

    ก็ไม่ชอบ....”

    ไอ้เทามันน้องผมนะ

    เออ ผมน้องเฮียนะ ใกล้กันขนาดนี้ไม่สิงกันเลยล่ะ

    แบคฮยอนสะดุ้งโหยงก่อนจะรีบหันหน้ากลับไปมองทางด้านหลัง หวังจื่อเทากำลังยืนกอดอกทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ตรงนั้น ปาร์คชานยอลเองก็คิ้วกระตุก เห็นคนที่หวงพี่ออกหน้าออกตาก็หมั่นไส้ขยับหน้าตัวเองเข้าไปใกล้แก้มใสๆนั่นให้มากขึ้นจนจมูกเฉียดไปเพียงนิด พอแบคฮยอนหันกลับมาจะล้างจานปลายจมูกก็ชนกันเขัาพอดี

    เฮ้ย! มากเกินไปแล้วนะเว้ย!”

    มากกว่านี้ก็ทำมาแล้ว

    มึง!”

    จากที่ตอนแรกก็ไม่เคารพอยู่แล้ว สรรพนามตอนนี้เลยเปลี่ยนเป็นดุเดือดขั้นสุด จื่อเทาก้าวเข้ามาในห้องครัวหมายจะชกหน้าคนข้างบ้านที่ทำหน้าตายียวนนี่ซักที แบคฮยอนรีบล้างมือให้สะอาดก่อนจะรีบเอาตัวไปขวางไว้ไม่ให้ระเบิดลงในห้องครัวนี่เสียก่อน

    แล้วแม่หายไปไหนเนี่ย แม่!

    เทา อย่าน่า...”

    ไม่ต้องมาห้ามเลยเฮีย แม่งกวนตีนมั้ยล่ะ

    แกไปโวยวายใส่เขาก่อน อีกอย่างเขาเป็นพี่นะ แก่กว่าแกก็หลายปี

    ทำตัวงี้จะให้เรียกพี่หรอ มันกำลังคิดไม่ดีกับเฮียนะเว้ย!”

    พี่....ผมขอคุยกับเทาแป๊บ

    รีบหันไปหาคนข้างบ้านก่อนจะส่งสัญญาณว่าให้ออกไปข้างนอก คราวแรกคนตัวสูงก็ทำดื้อแต่พอเห็นสีหน้าจริงจังของเขาเจ้าตัวเลยยอมเดินออกไปจากห้องครัว จื่อเทาทำท่าจะตามไปฟัดให้น่วมแต่โดนพี่ชายดึงเสื้อไว้ก่อน

    เฮียจะเล่าให้แกฟัง แต่ต้องทำข้อตกลงกันก่อน

    อะไร ข้อตกลงอะไร

    สัญญาก่อนว่าจะทำตาม

    เฮียแม่งทำเสียงแบบนั้นใส่อีกล้ะ เออๆว่ามาพอเห็นพี่ชายตัวเล็กทำท่าจริงจังเข้าหน่อยเลยยอมเลิกดื้อดึงรับปาก

    ห้ามบอกแม่

    เรื่อง?”

    ที่แกเห็นเมื่อกี้ แล้วก็เรื่องที่จะได้ยินต่อจากนี้

    “........”

    เฮียคบกับคนข้างบ้านอยู่

    ห๊ะ!?” รีบเอามืออุดปากน้องชายตัวเองแทบไม่ทัน จื่อเทาทำตาโตส่งเสียงอู้อี้เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถ้าปล่อยตอนนี้โวยวายแน่นอน เขาเลยทำท่าให้เงียบเสียงลง จื่อเทาโวยวายอยู่ซักพักก่อนจะสงบสติของตัวเองได้

     

    เกิดขึ้นได้ไงวะ มันข่มขืนเฮียใช่มั้ย!”

     

    แก....ข่มขืนไร ตบปากตัวเองสามทีเดี๋ยวนี้เลย!”

    ไม่งั้นเฮียจะคบกับมันได้ไงอะ!”

    แล้วแกจะตะโกนอีกทำไมเนี่ย อยากให้แม่รู้รึไง

    แม่รู้ก็ดีดิวะ เลิกกับมันไปเลย

    เกิดเป็นสงครามย่อยๆในห้องครัว คนพี่พยายามจะปิดปากน้องส่วนน้องก็พยายามปัดมือพี่ออก แบคฮยอนหยิกเข้าที่ต้นแขนของไอ้คนตัวแสบที่ไม่ยอมทำตามที่รับปาก โวยวายเสียงดังจนน่ากลัวว่าแม่จะวิ่งมาดูจนได้

    เทา...เฮียจะบอกแม่เอง

    บอกให้ไหมล่ะ

    ก็บอกว่าจะบอกแม่เอง ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง

    อะไร มีอะไรจะบอกแม่

    ชิบหายละ!

    แบคฮยอนหันไปมองต้นเสียงก่อนจะพบว่าแม่อยู่ตรงประตูตำแหน่งเดียวกับที่จื่อเทาเคยยืนอยู่เมื่อซักครู่โดยมีปาร์คชานยอลยืนอยู่ด้านหลัง อีกคนทำปากขมุบขมิบบอกว่าเพิ่งจะเดินมาเมื่อกี้นี้เอง

    เสียงดังเอะอะไปถึงข้างนอก ไม่ได้เจอกันนานเลยตีกันรึไง

    ก็นิดหน่อยอะป้า

    แม่! เฮียแม่ง....!”

    ไอ้เทา! เดี๋ยวพาไปดูห้องนอน แกเห็นห้องเฮียยังมานี่มา

    ก่อนที่หวังจื่อเทาจะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้นเขารีบพาให้เดินออกมาห่างๆก่อนจะลากขึ้นไปชั้นบนทิ้งให้ปาร์คชานยอลมองตามอย่างเคืองๆ

     

    ------ GIDDY CHANYEOL ------

     

    แบคฮยอน ไปเรียกพี่ชานยอลเขามากินข้าวเร็ว

    ผมไปเองป้า! ให้เฮียรดน้ำต้นไม้ไป

    แบคฮยอนเอาขนมไปให้พี่ชานยอลหน่อย

    ผมเองป้าผมเอง! เฮียไม่ต้องลุกมานะ!!”

    แบคฮยอน.....”

    ผมทำเอง! ผมทำเอง!!”

     

    แล้วหวังจื่อเทาก็วิ่งฉิวนำหน้าเขาไป ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงโอดครวญดังออกมาจากหน้าบ้านเพราะแม่ใช้ให้ยกกระถางต้นไม้ เปลี่ยนที่วางไปเรื่อย แบคฮยอนยักไหล่น้อยๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตามเดิม ไลน์ในโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมปรากฎชื่อของคนข้างบ้าน

     

    ชานยอลน่ะชานยอล

    ไม่สบายหรอ? 10:38

    ทำไมเจอแต่เด็กเขียว 10:38

    read 10:39 เปล่า

    read 10:39 ไอ้เทามันบอกว่าจะทำให้

    read 10:39 ไปตามพี่ให้ เอาของไปให้

     

    ชานยอลน่ะชานยอล

    มารผจญชัดๆ 10:39

    มาหาหน่อย 10:40

    ไม่ได้เจอหน้าแล้วคิดถึง 10:40

    read 10:40 หยอดอยู่นั่นแหละ

    read 10:40 เห็นผมเป็นเตาขนมครกรึไงวะ

    read 10:40 อยากเจอก็มาดิ

    read 10:41 ไอ้เทาถือจอบรออยู่หน้าบ้านอะ

     

    ปาร์คชานยอลส่งสติ๊กเก้อหน้าเบ้มา เขาหัวเราะออกมาเบาๆแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปบทสนทนาระหว่างเขากับคนข้างบ้านจบลงแค่นั้นก่อนที่เสียงของน้องชายตัวดีจะดังขึ้นอีกครา

    ทำไมป้าใช้งานผมหนักงี้วะ

    อยากออกมาทำแทนพี่เขาก็อย่าบ่นน่า! ทำไป

     

     ชานยอลน่ะชานยอล

    ถ้าเห็นไลน์นี้ 10:44

    รู้ไว้ด้วย 10:44

    มีคนคิดถึง 10:44

     

    นั่นไง.....ปาร์คชานยอลก็หยอดเขาอีกแล้ว

     

    ------ GIDDY CHANYEOL ------

    4 0 %


     

    หวังจื่อเทาไม่ยอมกลับ....

    มันบอกกับเขาว่าโรงเรียนหยุดหนึ่งอาทิตย์ เพราะอย่างนั้นเลยตัดสินใจมาหา จะได้อยู่อยู่ด้วยกันนานๆ

    ไอ้ตัวเขาน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่คนข้างบ้านนี่สิ....

    [ทำไมวันนี้ไม่ให้ไปส่ง]

    ไอ้เทามันบอกว่าจะไปส่งเองอะ

    [ขี่ไอ้สองล้อขับในเมืองเนี่ยนะ?]

    อย่าไปพูดแบบนี้ให้มันได้ยินเชียว

    [พี่ไปส่งเอง ไม่ยอมให้เรานั่งไอ้สองล้อโครงเหล็กนั่นไปเรียนแน่ๆ]

    เขาเชื่อว่าถ้าหวังจื่อเทามาได้ยิน คงไม่พ้นว่าต้องตีกันแหงๆ

    แบคฮยอนมองน้องชายที่กำลังเช็คสภาพรถก่อนจะเขย่งมองข้างบ้าน ปาร์คชานยอลมีโทรศัพท์เหน็บอยู่ที่หูก่อนจะส่งสายตาดุๆมาทางนี้เหมือนกับจะเป็นการบังคับว่าให้ล้มเลิกความคิดที่จะซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของจื่อเทาไปเรียนได้เลย

    เฮีย ไปยัง มาๆ

    พอเห็นปาร์คชานยอลเดินออกมาจากบ้านไอ้จื่อเทาก็ตะโกนเรียกเขาพลางตบเบาะปุๆเหมือนจะเป็นการเยาะเย้ย คนตัวสูงเปิดประตูบ้านเดอนผ่านมายังเขาโดยที่เทาก็ห้ามไม่ทัน

    เฮ้ยๆๆๆ ทำอะไรวะ! ปล่อยเฮียแบคเลยนะ! อย่ามาแตะต้องโดนตัวนะ!”

    ทันทีที่ชานยอลจับมือเขา มนุษย์หน้าเขียวก็พุ่งเข้ามาหมายจะตีมือคนที่จับพี่ชายตัวเองอยู่ให้ปล่อย ปาร์คชานยอลกลอกตาไปมาเบาๆแต่ก็ไม่ได้หวั่นกับแรงตีของอีกฝ่าย แล้วจัดการกระตุกมือของแบคฮยอนให้เดินตามมา

    วะ! ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง?”

    ฉันไม่ยอมให้แฟนตัวเองเอาชีวิตไปวางอยู่บนรถกระป๋องสองล้อนี่หรอกนะ

    อะ...อะไรนะ!? รถกระป๋องหรอ? โอ๊ยมึง!”

    จื่อเทา....” คนเป็นพี่รีบปรามออกมาเบาๆเมื่อน้องชายเริ่มหยาบคาย ในขณะที่ตัวเขาเองก็พยายามจะบิดมือของปาร์คชานยอลออกเพราะไม่อยากจะเข้าข้างใครให้มากเกินไปนัก

    เฮีย ขึ้นรถ!”

     

    แบคฮยอน....ขึ้นรถ

     

    ซ้ายก็แฟน ขวาก็น้อง....

    แบคฮยอนนี่ปวดกบาลสุดๆเลยครับ

    เขาขมวดคิ้วแน่นก่อนจะตัดสินใจสะบัดมือของทั้งสองคนทิ้งอย่างนุ่มนวล และก่อนที่จะเสียเวลาไปมากกว่านี้... “เดี๋ยวจะไปรถไฟฟ้าเอง โอเคนะ

    แล้วหลังจากนั้นแบคฮยอนก็รีบโกยแนบออกมาก่อนที่จื่อเทาและชานยอลจะได้พูดอะไร เขามองนาฬิกาก่อนจะพบว่ายังพอมีเวลาพอที่จะขึ้นรถไฟฟ้าไปเรียนแบบสบายๆได้ไม่สายเพราะตอนแรกตั้งใจจะไปกับจื่อเทากลัวมันจะหลงทางเลยเผื่อเวลาไว้

     แบคฮยอนค่อยๆเดินไปตามถนนหลังจากที่วิ่งออกมาได้ซักพัก สุดท้ายแล้ววันนี้เขาก็ต้องไปมหาลัยเอง ทั้งที่ถ้าออกไปพร้อมแม่ก็น่าจะหมดปัญหาแล้ว

    เขาเดินมาต่อแถว ได้กลับมาใช้ชีวิตแบบคนปกติก็รู้สึกแปลกๆนิดหน่อย อาจจะเพราะช่วงเดือนที่ผ่านมามีคนไปรับไปส่งแทบจะทุกวัน น้อยครั้งที่ปาร์คชานยอลจะปล่อยให้เขาไปเอง เหลือบมองจอมอนิเตอร์บนศีรษะก็พบว่าอีกหนึ่งนาทีรถไฟจะมาจอด ผู้คนในช่วงเก้าโมงเช้าก็ยังคงหนาแน่นไม่บางตา

    และทันทีที่ประตูเปิดคนก็กรูกันเข้าไป แบคฮยอนถูกเบียดมาจากทางด้านหลังก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อพบว่ามีใครบางคนกอดเอวเขาเอาไว้ ใช้ร่างกายสูงใหญ่นั่นดันเขาให้เข้าไปในตัวรถไฟ และสุดท้ายประตูก็ปิดลงเมื่อไม่สามารถจุคนได้อีกต่อไป ทันทีที่รถเริ่มเคลื่อนตัว เขาก็เห็นร่างสูงๆของน้องชายวิ่งเข้ามาที่สถานี สองพี่น้องสบตากันเพียงชั่วครู่ก่อนที่จื่อเทาจะทำหน้าเหวี่ยง

     

    'มึง! มึง!!'

     

    เขาอ่านปากได้เพียงเท่านั้น แบคฮยอนเลยแหงนหน้ามองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังก่อนจะพบว่าคนที่ลากเขาเข้ารถไฟฟ้าเป็นปาร์คชานยอลนั่นเอง

    ติดหนึบอย่างกับตุ๊กแก

    เออ มือพี่อะอย่างกับตุ๊กแก

    กัดฟันกรอดก่อนจะตีลงบนมือที่ติดอยู่ที่เอวของเขา ชานยอลกระตุกยิ้มออกมานิดหน่อยก่อนจะรั้งให้ขยับเข้าไปชิดยิ่งขึ้น ดีว่าเช้านี้คนเยอะเลยทำให้ไม่ผิดสังเกตมากนัก แต่ถ้าหากปาร์คชานยอลยังเล่นอยู่แบบนี้ จะต้องโดนมองแน่ๆ

    ปล่อยแบคฮยอนกระซิบเสียงเบา ในเมื่อตีไม่ได้ผลเลยหยิกเข้าที่หลังมือ ไม่มีการออมแรง แน่นอนว่าอีกคนยอมปล่อยมือออกพร้อมกับทำหน้าหงิก

    ทำไมต้องรุนแรงด้วย

    พูดดีๆทำไมไม่ฟัง

    เดี๋ยวนี้โหดเอาๆเลยนะ อยากเลื่อนขั้นเป็นเมียแล้วดิร่างน้อยหมุนตัวกลับในที่คับแคบก่อนจะเอื้อมมือไปตบปากอีกคนเบาๆสองสามที

    เดี๋ยวระวังจะไม่มีเลื่อนขั้น แล้วไอ้ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็จะถอยกลับไปเป็นแบบเดิมด้วย

    โหดจังวะ

    ปาร์คชานยอลบ่นหงิงก่อนจะยอมหุบปากฉับ แบคฮยอนเกาะชายเสื้ออีกคนเอาไว้เพราะตอนนี้ที่จับเต็มหมดทุกทิศทาง อีกประมาณห้าสถานีถึงจะถึงที่หมาย และอาจจะต้องยืนแบบนี้ไปตลอด พอคิดได้แบบนั้นอาการง่วงก็แล่นเข้ามาทันที

    ง่วงหรอ?”

    นิดหน่อยพี่

    นั่งรถดีๆไม่ชอบ

    ขี้เกียจเห็นคนตีกันอะ

    แบคฮยอนบ่นงิ้งๆก่อนจะกำชายเสื้อชอปอีกคนไว้แน่น ออกแรงดึงมันเบาๆเพราะรถไฟฟ้าเริ่มเบรค แม้มันจะไม่ถึงกับล้มแต่เขาก็ไม่อยากเอนไปทับคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเท่าไหร่นัก

    เป็นไง รู้สึกว่าพึ่งพาได้อะดิ

    ห้ะ?”

    จริงๆกอดเอวเลยก็ได้นะ ไม่ถือ

    ไม่ได้ว่าเปล่าๆ เจ้าตัวจับมือเขาให้กอดรอบเอว แบคฮยอนทำตาโตนิดหน่อยก่อนจะมองซ้ายขวา ไม่มีใครสนใจพวกเขาแล้วในนาทีนี้ ทุกคนต่างก็เล่นโทรศัพท์ตัวเองกันหมด เขาบ่นพึมพำเรื่องความมือไวของอีกคนแต่สุดท้ายแล้วก็ยอมกอดเอวของคนขี้ฉวยโอกาสต่อไป

     

    เพราะคนมันแน่นหรอกนะ....

     

    สุดท้ายแล้วก็ได้เวลาออกจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ใช้เวลาเดินจากตรงนี้ไปที่คณะวิทยาศาสตร์ที่เขาต้องไปเรียนก็ประมาณสิบห้านาที น่าแปลกใจที่คนข้างบ้านไม่ได้ดื้อดึงจะจับมือ ทำเพียงเดินอยู่ข้างๆก็เท่านั้น

    ไอ้เด็กหน้าเขียวจะกลับเมื่อไหร่

    ครับ?”

    จะอยู่อีกนานมั้ย

    น่าจะกลับวันเสาร์หน้านะ....”

    วันเสาร์? อะไร ไม่มีเรียนรึไง

    เขาเหลือบมองคนข้างตัวที่ทำเสียงสูงขึ้นนิดหน่อยพลางขมวดคิ้วแน่น แบคฮยอนหัวเราะออกมานิดหน่อยก่อนจะก้าวเท้าให้เร็วขึ้นเดินนำอีกคน ปาร์คชานยอลบ่นอุบไปตลอดทางที่เดินไปที่มหาลัยด้วยกัน

    อากาศไม่ได้ร้อนมากเหมือนเดือนที่ผ่านมา กำลังจะเข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้วจึงทำให้การเดินไปเรียนวันนี้ไม่ได้หงุดหงิดอย่างที่คิด แถมวันนี้ยังมีปาร์คชานยอลมาเดินอยู่ข้างๆอีกต่างหาก

    โอเค แบคฮยอนยอมรับเลยว่าที่จริงแล้วชอบไปเรียนแบบนี้มากกว่าอีก

    มันอาจจะลำบากนิดหน่อยแต่อย่างน้อยก็สามารถหันมองหน้ากันได้ อยากจะสบตาเมื่อไหร่ก็ทำได้ ไม่ต้องคอยพะวงว่าเมื่อไหร่จะไฟเขียวหรือจะต้องเบรคเมื่อไหร่ แต่ดูท่าทางแล้วคนที่รักสบายอย่างปาร์คชานยอลอาจจะไม่รู้สึกล่ะมั้ง

    วันนี้พี่เลิกช้าหน่อย อาจจะซักสี่โมง

    อ้อ...จะให้ผมกลับก่อนหรือเปล่า?”

    อะไร...เราต้องมารอสิ

    อ้อ....โอเคร่างสูงก้าวเท้ายาวๆมาหยุดอยู่หน้าเขา กระตุกยิ้มมุมปากหน่อยๆ เป็นยิ้มที่ดูแล้วชวนใจสั่นเสียเหลือเกิน

     

    จะชวนไปเดท...อย่าหนีกลับไปก่อนล่ะ” 

     

     

    ------ GIDDY CHANYEOL ------

     

    พอเลิกเรียนแบคฮยอนก็หอบหิ้วตัวเองมาอยู่ที่ใต้ตึกคณะของใครบางคนที่วันนี้เลิกเรียนเย็นโดยมีโอเซฮุนที่ตอนนี้กลายเป็นลูกสมุนของปาร์คชานยอลตามมาด้วย โดยให้เหตุผลที่ว่าตัวเองเคารพและนับถือรุ่นพี่ปาร์คอย่างจริงใจ

    โถ...จริงใจมาก เขาเอาเหล้ามาล่อเข้าหน่อยก็ไปหมด

    มึงจะกลับบ้านก็ได้นะ...”

    ไม่ได้ ถ้ากูกลับแล้วมึงโดนหนุ่มวิดวะคนอื่นเต๊าะจะทำยังไง มันจะเป็นการหยามศักดิ์ศรีพี่ชานยอลของกูมากนะ

    สติมึงสติ กูผู้ชายมั้ย

    ผู้ชายแล้วไง? กูยังอยากจีบเลย

    ก็เหี้ยแล้วไอ้สัดแบคฮยอนยกมือขึ้นโบกหัวไอ้คนตรงหน้าทันที โอเซฮุนร้องครวญออกมานิดหน่อยก่อนจะทำหน้าเบ้ ทำไม กูพูดอะไรผิด

    จะให้บอกกี่ครั้งว่ากูไม่ใช่ผู้หญิง มาจงมาจีบ เดี๋ยวๆ ยังไม่รู้ตัวเดี๋ยวโบกอีกรอบเลย

     

    ทำไม ทีพี่ชานยอลยังจีบมึงเลย พี่คริสก็ยังเต๊าะมึงด้วย ไหนจะพี่ลู่หานพี่รหัสมึงอีก แล้วทำไมกูถึงอยากจีบมึงมั่งไม่ได้วะ

     

    โอเซฮุน!”

    กูล้อเล่นมั้ยล่ะ โอ๊ย! ไอ้เตี้ยมึงจะมือหนักไปแล้วนะ

    เขาหันมองซ้ายขวากลัวว่าตัวจริงจะมาได้ยินเข้า พอเห็นว่าบริเวณนี้ไม่มีใครนอกจากพวกเขาก็โล่งใจนิดหน่อย จริงอยู่ที่ดูเหมือนว่าพี่คริสจะแอบเต๊าะเขามาเรื่อยๆ แต่แบคฮยอนเองก็ไม่ได้คิดอะไรพร้อมกับบอกพี่รหัสปีสามเสร็จสรรพว่าคบกับชานยอลอยู่ แต่กะบพี่ลู่หาน เขายังไม่แน่ใจอะไรเท่าไหร่นัก ทุกวันนี้คิดเพียงแค่ว่าความหวังดีที่อีกคนหยิบยื่นให้จะเป็นเพียงแค่เรื่องของพี่น้องสายรหัสก็เท่านั้น

    พี่ลู่หานก็ไม่เคยทำอะไรให้ถึงขั้นกระอั่กกระอ่วนใจ ความจริงแล้วแบคฮยอนแทบจะไม่คิดอะไรด้วยซ้ำ แต่ไอ้เซฮุนนั่นแหละตัวดีเอาแต่เป่าหูว่าพี่ลู่หานจะต้องคิดอะไรมากกว่านั้นแน่ๆเขาเลยต้องเว้นระยะห่างออกมาหน่อยนึง

    ผู้ชายทุกคนไม่ได้เป็นเหมือนปาร์คชานยอลป่าววะ ชีวิตแบคฮยอนนี่จะฟรุ้งฟริ้งมากเกินไปแล้วมีผู้ชายมากหน้าหลายตามาแอบชอบเนี่ย

     

    ดูหน้ากูนะครับ ฟรุ้งฟริ้งมาก!

     

    แต่เสียดายหน้าหวานๆนั่นจังน้า กูคิดว่าเขาน่าจะหาได้ดีกว่านี้ แต่ทำไมเขาถึงมาชอบมึงหว่า

    เขาไม่ได้คิดอะไรกับกู...ไม่มีใครเป็นบ้าเหมือนชานยอลอีกแล้ว โอเคไหม?”

    อะไร นินทาอะไรเพื่อนพี่ครับน้องแบคฮยอน

    คิมจงอินวางมือแหมะลงบนศีรษะเล็ก เพราะเรียนกันคนละเซคกับปาร์คชานยอลเลยทำให้เลิกก่อน และมาทันได้ยินที่ไอ้เด็กเตี้ยนี่ยัดเยียดข้อหาให้กับเพื่อนสนิทของตัวเอง

    ไม่ต้องมองหามันหรอก เซคมันยังไม่เลิก

    รีบเอ่ยดักทางแบคฮยอนที่ตอนนี้เริ่มสอดสายตามองหาร่างสูงหูกาง เห็นแบบนั้นเลยแอบพยักหน้าเบาๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด บอกแม่ว่าวันนี้จะกลับดึกเสียหน่อย

    ทว่า......

    จื่อเทา is calling

    [เฮียอยู่ไหน เมื่อไหร่จะกลับบ้าน]

    “.....ยังอยู่มหาลัย

    [กูไปรับปะ ไอ้หูกางไม่ได้เอารถไปนี่]

    แกมาถูกหรือไง อยู่บ้านไปนั่นแหละ แม่อาจจะกำลังกลับ แล้วนี่อยู่ไหน?”

    [อยู่บ้านดิวะ โห่]

    ถ้าเบื่อก็กลับบ้านไปสิ

    [กูกลับไปไอ้หูกางก็หวานหมูอะดิ คิดว่ากูจะปล่อยให้มันมีความสุขกับเฮียหรอ ฝันไปเถอะ!]

    เอาเลย.....เอาที่มันสบายใจเลย

    เทาบ่นอีกซักพักไปตามประสาก่อนจะกดวางสายเมื่อรู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำขึ้นมา ร่างเล็กเลยจัดการยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าโอเซฮุนกำลังจ้องเขาอยู่

    อะไร?”

    กูอยากเห็นเกียร์

    ห๊ะ?”

    เกียร์อะ

    เกียร์รถ? เกียร์กระปุก? เกียร์ไรวะกูไม่เข้าใจ

    เพื่อนหน้าขาวถึงกับกลอกตาไปมาด้วยความเหนื่อยใจ มันนั่งเท้าคางอยู่กับโต๊ะก่อนจะขยับให้หน้าเข้ามาใกล้ๆพลางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    สัญลักษณ์ของเด็กวิดวะก็คือเกียร์ ที่ได้มาจากการเข้าห้องเชียร์แล้วก็การทำกิจกรรมรับน้องสุดหิน

    อ๋อ....กูไม่ได้เรียนวิดวะ กูไม่ได้ซิ่วมาด้วย มีแต่เฉลวอะ

    เฉลวที่ว่าคือของที่เหมือนกับรูปดาวห้าแฉก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเด็กเภสัช จะว่าไปเขาก็พกเฉลวไปไหนมาไหนด้วยตลอด แล้วถ้าอย่างนั้นทำไมโอเซฮุนถึงขอดูเกียร์จากเขา?

    กูหมายถึง....เกียร์ของพี่ชานยอลอะ

    หือ?”

    มึง....เกียร์อะ ใครๆเขาก็ให้แฟนกันทั้งนั้น ถ้าไม่เชื่อถามพี่จงอินเลย

    บุ้ยปากไปทางด้านข้างบยอนแบคฮยอนที่กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด คิมจงอินที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์เลยละสายตามามอง

    ชานยอลยังไม่ได้ให้หรอ?”

    “.....ให้ไร?”

    เกียร์ไง

    ทำไมต้องให้?” ถึงตอนนี้แบคฮยอนก็ยังไม่เข้าใจ ทำไมเขาถึงต้องได้รับเกียร์จากชานยอลด้วย

    สงสัยจะยังไม่ได้ให้ ไม่ต้องไปเซ้าซี้เพื่อนแล้วไอ้ฮุน เดี๋ยวมันจะรู้สึกแย่

    โอเซฮุนทำหน้านิ่วนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ยอมหุบปากฉับไม่สาวเรื่องให้มันยาวมากไปกว่านี้ถึงแม้ว่าตอนนี้จะรู้สึกเคืองๆอยู่หน่อยๆ อย่างน้อยถ้าชานยอลคิดจะจริงจังก็ควรจะเอาเกียร์ให้กับแบคฮยอนได้แล้ว

     

    แล้วนี่อะไร เก็บไว้รอให้ราคาขึ้นก่อนแล้วค่อยปล่อยออกมาหรือไง?

     

    รออีกประมาณสิบกว่านาทีคนก็เริ่มทยอยเดินลงมา รวมถึงปาร์คชานยอลที่ในที่สุดก็เลิกเรียนแล้ว ร่างสูงเดินตรงมาที่โต๊ะม้านั่งที่แบคฮยอนกับโอเซฮุนมักจะมานั่งรอเป็นประจำ แต่วันนี้แปลกไปกว่าทุกทีเพราะมีคิมจงอินนั่งอยู่ด้วย แถมเซฮุนยังจ้องหน้าเขาแปลกๆอีก

    จ้องแบบนี้คือ?”

    เปล๊า....เอ้ยแบคฮยอน กูกลับก่อนละกัน

    อะ...อ้อ ขอบใจนะมึง

    บอกลาเพื่อนที่ไม่คิดจะอ้อนให้ปาร์คชานยอลเลี้ยงเหล้าเหมือนทุกที แบคฮยอนมองตามจนเพื่อนตัวผอมหายลับไปแล้วจึงเก็บของที่อยู่บนโต๊ะเข้ากระเป๋า มองชานยอลที่ตอนนี้ยังคงมองไปตามทางเดิมที่เซฮุนเดินออกไป

    คิดถึงมันอ่อ? ตามไปก็ได้นะพี่

    เดี๋ยวเหอะ พูดแบบนี้จะโดนไม่ใช่น้อย

    โอ๊ยย กูไปล่ะ เบื่อจริงๆไอ้พวกเห่อแฟนเนี่ย

    พอทำท่าจะลงโทษแฟนตัวเล็กที่ทำหน้ายับ คิมจงอินที่เขาลืมไปแล้วว่าก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้ก็ส่งเสียงขึ้นมาก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วเดินจากไปโดยทิ้งให้ชานยอลมองตามด้วยสายตางงๆอีกครั้ง

    วันนี้ทำไมมีแต่คนอารมณ์ไม่ดี

    เราก็ไปกันมั่งเหอะพี่

    แบคฮยอนหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะสะพายกระเป๋าตัวเองเข้าที่หลังแล้วออกแรงกระตุกชายเสื้ออีกคน เขาไม่กล้าสบตาตรงๆกับปาร์คชานยอลเท่าไรนัก รู้สึกแปลกๆทุกทีเวลาเห็นอีกคนใส่เสื้อชอป มันเหมือนกับเป็นเสน่ห์บางอย่างที่เขาอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

    อาจจะด้วยเพราะเวลามารับก็มักจะถอดออกแล้ววางทิ้งไว้บนรถ ไม่ค่อยได้เห็นคนข้างบ้านใส่มันเท่าที่ควร เพราะอย่างนั้นตอนนี้เลยรู้สึกประหลาดที่เห็นอีกคนสวมมันเอาไว้ แถมยังเดินข้างกันอีก

     

    เอาเลย ฆ่าแบคฮยอนตรงนี้เลยสิ

     

    จะไปไหนอะ?”

    เอ่ยปากถามด้วยความแปลกใจเพราะทางที่กำลังจะไปไม่เหมือนกับที่มาเมื่อเช้า ปาร์คชานยอลไม่ตอบอะไรนอกจากยิ้มน้อยๆแล้วออกแรงดึงแขนเบาๆเป็นเชิงให้เดินตามไปแบบเงียบๆ บอกเลยว่าเขาแพ้เวลาที่อีกคนยิ้มนี่แหละ ปาร์คชานยอลจะกวนตีนก็ได้ จะลวนลามก็ได้ หรืออะไรก็ได้ แบคฮยอนคิดว่าตัวเองสามารถรับมือได้ดีกว่าตอนที่คนตัวสูงยิ้มเสียอีก

    สุดท้ายแล้วพอโดนลากลงสถานีไหนเลยได้รู้ว่าปาร์คชานอลกำลังพามาที่ไหน

    สวนสาธารณะยออีโด

    คิดไรอยู่วะพี่?”

    ระหว่างโดนลากก็ถามไปด้วย ย้ำว่าลากไม่ใช่การจับมือแบบฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งอะไรขนาดนั้น อีกคนจับข้อมือเขาออกแรงดึงให้ก้าวเท้าตามไวๆก่อนที่สุดท้ายแล้วจะเดินมาหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะซึ่งในช่วงตอนเย็นจะมีลูกเล็กเด็กแดงเดินเล่นอยู่กันเต็มไปหมด

    ก็บอกว่าจะพามาเดทไง

    ที่นี่อะนะ?”

    เป็นอีกครั้งที่ปาร์คชานยอลไม่ยอมตอบ พาเขามาหยุดอยู่ที่ม้านั่งตัวหนึ่งก่อนจะบอกว่าให้รออยู่ตรงนี้แล้วเจ้าตัวก็หายวับไป

    ลมเย็นๆพัดโชยมาทำเอาร่างบางยิ้มออกมานิดหน่อย จัดการถอดกระเป๋าออกมาวางไว้ที่หน้าตักแล้วค่อยๆหลับตาลง ที่จริงเขาไม่ได้มาที่แบบนี้นานแลัว เวลาไปเที่ยวก็มักจะเอาแต่เดินห้างจนลืมไปว่าที่ดีๆแบบนี้ก็ยังมีอยู่

    ดวงตาคู่เล็กค่อยๆเปิดขึ้นอีกครั้งเพื่อชมทัศนียภาพด้าหน้า แต่ก็ต้องก้มมองลงต่ำไปหน่อยเมื่อพบว่ามีร่างเล็กๆของใครบางคนกำลังเดินมาทางนี้ก่อนจะล้มแหมะไปทันทีต่อหน้าต่อตา

    แอะ.....แง๊หันมองซ้ายขวาก็ไม่พบว่ามีใครเดินเข้ามาดูเลยรีบวิ่งไปจัดการอุ้มร่างน้อยนั่นขึ้นมา เป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มกำลังเบะปากออก ฝ่ามือเล็กนั่นถลอกนิดหน่อยเพราะเกิดจากการล้มเมื่อซักครู่

    ไม่ร้องนะ...อ่า...อย่าร้องนะ

    น่าจะอายุไม่เกินห้าขวบซึ่งถือว่าเด็กมากๆสำหรับการเดินอยู่คนเดียวแบบนี้ แบคฮยอนเริ่มมองซ้ายขวาอีกครั้งเพื่อหาผู้ปกครองแต่ก็ยังไรี้วี่แวว สุดท้ายเขาเลยตัดสินใจอุ้มคนที่กำลังร้องไห้ให้ไปนั่งบนม้านั่งด้วยกัน

    เจ็บ....ฮือออ เจ็บ.....”

    ไม่ว่าเปล่ายังชี้ไปที่เข่าที่เหมือนจะมีแผลถลอก คนถูกฟ้องเลยรีบควานหาทิชชู่ในกระเป๋าแล้วจัดการเอาออกมาเช็ดแผลให้ โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ ถ้าร้องไห้จะไม่สวยนะรู้มั้ย

    แต่มันเจ็บ แงงงงง

    พี่เลี้ยงจำเป็นทำหน้าตกใจเมื่อจู่ๆอีกคนก็ร้องเสียงดังขึ้น มือเล็กเริ่มขยี้หน้าตัวเองไปมาเพราะน้ำตาไหลเปรอะเปื้อน เขาจับมือเล็กๆนั่นเอาไว้ไม่ให้สัมผัสกับดวงตาก่อนจะหยิบทิชชู่อีกแผ่นมาเช็ดน้ำตาให้

    แกล้งเด็กเป็นงานอดิเรกหรือไง?”

    มาพอดีเลย น้องมาจากไหนไม่รู้อะพี่ แล้วอยู่ๆก็มาล้มตรงหน้าเลยได้แผลอย่างที่เห็นอะ

    รีบบอกเล่าสถานการณ์เผื่อว่าอีกคนจะช่วยได้ ปาร์คชานยอลมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่งของในมือที่เพิ่งไปซื้อมาให้กับอีกคนแล้วค่อยๆนั่งลงตรงหน้าเด็กหญิงตัวน้อยที่ยังคงร้องไห้อยู่

    คนเก่งต้องไม่ร้องไห้นะคะ

    หนูเจ็บ...ฮึก

    ไหน เจ็บตรงไหน

    ตรงนี้...” ชี้ไปที่หัวเข่าอีกรอบ ปาร์คชานยอลเลยเป่าแผลเบาๆก่อนจะส่งยิ้มให้กับคนที่กำลังร้องไห้ แน่นอนว่าแบคฮยอนเองก็เห็นว่าอีกคนกำลังส่งยิ้มแบบไหน

    ชิบหายล่ะสิ....ปาร์คชานยอลเวอร์ชั่นนี้หล่อขึ้นมาอีกคูณสิบเลย

    พี่เป่าให้แล้ว หายเจ็บหรือยังคะ?”

    อื้อน้ำตาเริ่มเหือดหายเหลือเพียงแต่แรงสะอื้นฮักๆ ชานยอลเอื้อมมือไปขยี้ศีรษะเล็กนั่นเบาๆแล้วยิ้มออกมาอีกที

    ทีนี้ถ้าหายเจ็บแล้ว จะบอกได้มั้ยว่าวันนี้มากับใคร

    คุณแม่....คุณแม่หายไปไหนไม่รู้...ฮึก

    เอ้าชิบหาย ทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว

    ท่าทางว่าแบคฮยอนจะเป็นคนที่ไม่ค่อยถูกกับเด็กซักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าเขาจะมีน้องชาย แต่หวังจื่อเทาก็โตมากพอที่จะไม่งอแงร้องไห้เพียงเพราะล้มแบบนี้ ดังนั้นเลยทำได้เพียงแค่มองปาร์คชานยอลที่ดูจะถนัดเหลือเกินกับการดูแลเด็กเล็กกำลังอุ้มร่างน้อยมานั่งบนตักก่อนจะชี้มาทางเขา

    เดี๋ยวคุณแม่ก็มาค่ะ อยากินสายไหมมั้ย? ขอพี่อ้วนคนนั้นสิ

    ย่าห์....” ชานยอลหัวเราะคิกคักถูกใจนักหนากับปฏิกิริยาต่อต้านแบบรุนแรงของเขา ตอนแรกก็ว่าจะตีอยู่หรอก แต่พอคนที่นั่งอยู่บนตักหัวเราะขึ้นมาด้วยแบคฮยอนเลยอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม ร่างบางก้มตัวให้อยู่ในระดับเดียวกับคนที่ถูกปฏิบัติราวกับเจ้าหญิงตัวน้อยแล้วส่งสายไหมในมือให้

    บอกแล้ว...ไม่ร้องไห้แล้วสวยขึ้นเยอะเลย

    อะไร จะจีบผู้หญิงอื่นต่อหน้าแฟนหรอ

    ชี่....อย่าพูดอะไรให้เด็กสับสนได้มั้ย

    แบคฮยอนปรามเสียงเบา ก่อนจะคาดโทษไปยังปาร์คชานยอลที่พูดจาฟังดูแล้วไม่เข้าเสียเลยสำหรับเด็กวัยห้าขวบ เขาไม่รู้ว่าเด็กวัยนี้เข้าใจอะไรมากน้อยขนาดไหน แต่อย่างน้อยให้เด็กได้เข้าใจอะไรได้ถูกต้องน่าจะดีกว่า

    พี่...พี่ชื่ออะไรคะ?”

    ระหว่างกำลังนั่งเล็มสายไหมไปพลางเด็กหญิงตัวเล็กก็เอ่ยปากถามชื่อเจ้าของตักที่ตัวเองนั่งอยู่ ใบหน้าจิ้มลิ้มเงยหน้าขึ้นถาม ปาร์คชานยอลก้มหน้าลงนิดหน่อยก่อนจะยิ้มอีกครั้ง

    และนี่ก็เป็นอีกรอบที่แบคฮยอนเหมือนถูกแอทแทคเข้าอย่างจัง

    รู้สึกว่าดีแล้วที่ชานยอลไม่ได้ยิ้มแบบนี้ให้เขา ไม่อย่างนั้นคงได้ตายวันละหลายร้อยหน

    พี่ชื่อชานยอลค่ะ ส่วนหมูอ้วนนี่ชื่อแบคฮยอน

    พี่อยากตายมากรึไง?”

    ทำไมพี่หมูอ้วนดุจัง...หนูกลัว

    แบคฮยอนถลึงตาใส่ร่างสูงที่ตอนนี้กำลังหัวเราะคิกเพราะเด็กน้อยทำท่าหวาดหวั่นกับคนที่จะแปลงร่างจากหมูกลายเป็นยักษ์ เขาเอื้อมมือไปทางด้านหลังออกแรงหยิกเข้าที่หัวไหลอีกคน ชานยอลทำท่าหลบไปมาก่อนที่สุดท้ายแล้วจะลงเอยด้วยการแอบฉวยโอกาสกับแก้มนิ่มๆของพี่หมูอ้วนเสียหนึ่งทีอย่างรวดเร็ว

    ปาร์คชานยอล!

     

    เรียกชื่อเต็มแบบนี้ อยากใช้นามสกุลพี่ก็บอก

     

    เอาจริงๆนะ โคตรน่าหมั่นไส้เลยให้ตายสิ เขาอยากลุกขึ้นเตะอีกคนเดี๋ยวนี้เลย

    และเสียงหัวเราะใสๆก็ดังขึ้นมา มือที่เคยยกค้างอยู่กลางอากาศเพื่อฟาดใครอีกคนเลยจำต้องเลื่อนไปลูบท้ายทอยตัวเองแทน แบคฮยอนเป็นพวกประเภทแพ้เสียงหัวเราะของเด็กๆตลอดไม่รู้ทำไม เขาไม่ชอบเด็กๆเวลาร้องไห้เพราะฉะนั้นแล้วเสียงหัวเราะคงจะน่าฟังกว่า

    นั่งเล็มสายไมไปได้ซักพักก็มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา ดวงตาทั้งสองข้างมีหยาดน้ำใสๆคลออยู่นิดหน่อยแต่สุดท้ายแล้วเธอก็ปาดมันออกไปก่อนจะวิ่งเข้ามาหา ถึงตอนนั้นปาร์คชานยอลจึงได้ยอมปล่อยร่างเล็กๆลงจากตักเพื่อให้ไปหาผู้ปกครองที่แท้จริง

    คุณแม่ของน้องขอบคุณเขาและชานยอลยกใหญ่ ให้เหตุผลว่าไปเข้าห้องน้ำเพียงแป๊บเดียว เด็กน้อยก็เดินโต๋เต๋มาหยุดถึงตรงนี้  ไม่นานนักสองร่างก็จูงมือกันออกไป แบคฮยอนเหลือบมองคนข้างๆที่ยังคงโบกมือลาเด็กหญิงคนนั้นอยู่

    ท่าทางจะชอบเด็กซะจริงๆล่ะมั้ง

    “พี่ชอบเด็กขนาดนั้นเลยอ่อ?”

    “อื้ม” อีกคนรับคำสั้นๆก่อนจะหันมามองหน้า แบคฮยอนเม้มปากนิดหน่อยเมื่อหวนคิดได้ว่า ไม่ว่าอย่างไรแล้วถ้าหากปาร์คชานยอลยังคบผู้ชายอยู่แบบนี้ อีกคนจะไม่มีทางมีลูกได้แน่นอน

     

    “รู้นะว่าคิดอะไรอยู่”

     

    มือใหญ่วางลงบนศีรษะเล็ก ออกแรงขยี้เบาๆเมื่อเห็นท่าทางของเด็กข้างบ้านที่กำลังเม้มปากแน่นแถมยังขมวดคิ้วพันกันยุ่งไปหมด เขาก้มหน้าลงนิดหน่อย “ชอบเด็ก....กับอยากมีเด็กเอง คนละความหมายกันนะ”

    “อะไร...ผมคิดอะไร พี่รู้ได้ไง”

    “เอ้า ก็แอบมองอยู่บ่อยๆจะไม่รู้ได้ไงว่าคิดอะไร”

    เรื่องแบบนี้ไม่ต้องบอกก็ได้!

    “ไอ้คนโรคจิต”

    “แอบมองแฟนตัวเองโรคจิตตรงไหน?”

    “ตรงที่พี่พูดออกมาตรงๆโดยที่ไม่อายนี่แหละ”

    ถ้าหากว่ามีเทอร์โมมิเตอร์มาวัดล่ะก็ ตอนนี้อุณหภูมิที่แก้มของแบคฮยอนคงทะลุร้อยองศาเซลเซียสไปแล้วแน่ๆ ทำยังไงเขาก็ไม่ชินกับการโดนอีกคนหยอดจริงๆ อยากจะบอกให้เพลาลงหน่อยเพราะแค่นี้เขาก็ตั้งรับไม่ไหวแล้ว

    ปาร์คชานยอลหัวเราะออกมาก่อนจะคว้าข้อมือเล็กให้เดินไปด้วยกัน ดูเผินๆก็เหมือนพี่น้องมาเดินเล่นด้วยกันธรรมดา แต่ว่าความจริงแล้วเป็นอย่างไรเจ้าตัวสองคนรู้ดีที่สุด แบคฮยอนพอใจที่จะอยู่แบบนี้ ไม่ต้องป่าวประกาศบอกใครว่ากำลังคบกัน เพียงแค่รู้สถานะกันและกันทุกวันนี้ก็พอแล้ว

    “อยากขี่จักรยานมั้ย?”

    “ไม่อะ”

    “งั้นพี่ปั่นแล้วให้เราซ้อน”

    “อืม.....ค่อยน่าสนใจ”

    แล้วสุดท้ายปาร์คชานยอลก็กลับมาพร้อมกับจักรยานหนึ่งคัน เจ้าตัวตบที่เบาะหลังเพื่อเรียกให้อีกคนขึ้นมาซ้อน แบคฮยอนก็แสนจะว่าง่าย ขึ้นไปนั่งบนจักรยานด้วยการเอาหลังชนกับอีกคน เจ้าของแผ่นหลังกว้างโวยออกมาเบาๆ

    “หันหน้ามาทางนี้ หันมากอดเอวดีๆ”

    “ไม่เอาอะ ถ้ากอดพี่ก็ได้ใจดิวะ”

    “จะเล่นงี้?”

    “เออ....เฮ้ย! อย่าออกตัวแรงดิวะพี่”

    เด็กข้างบ้านตัวแสบเกือบหน้าทิ่มเมื่อจู่ๆคนขับก็เกิดอยากจะออกตัวก็ออกเสียอย่างนั้นรีบเอามือจับเบาะจักรยานแทบจะไม่ทัน พอได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆเขาก็ทำหน้าเบ้นิดหน่อยก่อนจะค่อยๆเอนตัวพิงกับแผ่นหลังกว้างที่ดูใหญ่กว่าที่คิด

    แถมยังอุ่นอีกแน่ะ

     

    เออ เอ้า ไอ้คนโรคจิตมันแกแล้วบยอนแบคฮยอน

     

    “คิดไปคิดมา....” ระหว่างที่กำลังขับไปเรื่อยๆคนตัวสูงก็เอ่ยปากขึ้นมา แบคฮยอนครางตอบกลับไปเบาๆเป็นเชิงว่ารับฟังอยู่

    “เรามีลูกด้วยกันซักคนก็ดีนะ”

    “.....ตลกล่ะ”

     

    “ตลกไม่ตลก คืนนี้มาลองดูกันไหม?”

     

    “ไอ้ทะลึ่ง!!

     

     ------ GIDDY CHANYEOL ------

    1 0 0 %



    เขาเดทกันแกร
    เรื่องเกียร์....ทิ้งระเบิดไว้แล้วจากไป
    เซฮุนนางโกรธนะ
    แต่เอาตัวเราไปล่อเดี๋ยวนางก็หาย
    เจอกันตอนหน้านะวั้ย

    #ชานมึน

    ไฟนอลอีสคัมมิ่ง ซูน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×