คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Episode9: coincidental
Esprit ... ความทรงจำของนางฟ้า
Episode9: coincidental
หมอกควันสีเทาเริ่มจางหายไปช้าๆ พร้อมๆกับการปรากฏตัวของห้องรับทานอาหารห้องเดิมในบ้านของนัท ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ เพราะทั้งซินและนัทต่างก็กำลังประหลาดใจกับสิ่งที่พวกเขาได้รับรู้เมื่อครู่เกินกว่าที่จะมีใครเปิดประเด็นสนทนาอะไรออกมา นัทลากเก้าอี้โต๊ะกินข้าวออกมาก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเงียบๆ จนกระทั่งวิญญาณหน้าหวานทนไม่ไหว เป็นฝ่ายเอ่ยถามทำลายความเงียบขึ้นมาแทน
“นัทรู้จักเรามาตั้งนานแล้ว แต่ทำไมนัททำเหมือนไม่เคยรู้จักเรามาก่อน?”
“…”
คำตอบที่ได้รับยังมีเพียงความเงียบ ชายร่างสูงกลับเหม่อมองไปที่รูปภาพโดยไม่สนใจแม้แต่จะตอบคำถามของซินเลยแม้แต่น้อย
“นัท ฟังซินอยู่รึเปล่า?”
“ฟังอยู่ซิน...แต่นัทไม่รู้” ร่างสูงตอบพร้อมกับยกมือมานวดที่ขมับช้าๆ ...ไม่อยากจะบอกร่างบางว่าก็รู้อะไรพอๆกับซินนั่นแหละ
“ไม่รู้ ? นัทไม่รู้อะไร”
“…” นัทเม้มปากแน่นจนเกือบเป็นเส้นตรง ...สุดท้ายก็เลี่ยงที่จะบอกไม่ได้จริงๆสินะ ?
“นัท!”
“โอเค ...คือว่านัทก็ไม่รู้ว่าแปดปีก่อนนัทรู้จักกับซินไหม เพราะว่า...เพราะว่านัทก็สูญเสียความทรงจำเหมือนกับซินนั่นแหละ”
คนหน้าหวานเบิกตากว้างอย่างใจ ก่อนจะมองเขาด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ...นั่นน่ะสินะ ขนาดเขายังแทบไม่เชื่อตัวเองเลยเหมือนกัน อะไรมันจะบังเอิญเหมาะเจาะขนาดนี้ ...ทั้งเรื่องที่เขาบังเอิญเจอซิน เรื่องที่พวกเขาดันสูญเสียความทรงจำไปทั้งคู่ แล้วแถมยังมาบังเอิญเคยรู้จักกันมาอีกด้วย
“เมื่อไหร่? นัทเสียความทรงจำไปเมื่อไหร? แล้วเพราะอะไร ?” ร่างบางปรี่เข้ามานั่งเก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงข้าม ก่อนจะชะโงกหน้าเข้ามาถามใกล้ๆอย่างอยากรู้
“อุบัติเหตุน่ะ ผมโดนรถชนเมื่อแปดปีก่อน ...แม่ผมบอกว่าหัวกระแทกเกือบไม่รอดแล้ว รักษาที่ไทยได้สักพักก็ย้ายไปเมกา ”
“นัทหัวกระแทกจนความจำเสื่อมอ่ะเหรอ?”
“ไม่เชิงนะ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่หมอประจำตัวผมที่เมกาบอกว่าเส้นประสาทในสมองปกติทุกอย่าง ...เห็นได้จากการที่ผมสูญเสียความทรงจำไปแค่บางช่วง หมอบอกว่าบางทีอาการผิดปกติของผมอาจไม่ได้เกิดจากสมอง แต่เกิดจากจิตใจ”
“จิตใจ...?”
“ใช่ ...ประมาณว่าจิตใจสั่งให้สมองลืมความทรงจำช่วงนั้นไปซะ ประมาณนี้แหละมั้ง แต่น่าแปลกนะ ที่มันตรงกับช่วงที่ผมรู้จักคุณพอดีเลย”
“แถมเกลียดกันตั้งแต่วันแรกที่รู้จักซะด้วย” ร่างบางเป้ปากพูด ก่อนจะย่นจมูกใส่นัทอย่างมั่นใส้
“แล้วคุณว่าต่อไปเราจะเป็นยังไงกันต่อนะ จะเกลียดกันต่อไปเรื่อยๆไหม? ” ร่างสูงคิดตอนต่อไปอย่างขำๆ
“อันนี้ซินก็ไม่รู้เหมือนกัน คงต้องรอติดตามตอนต่อไป นัทพอจะรู้ไหมว่าตอนนี้พี่แสตมป์อยู่ไหน ญาตินายไม่ใช่เหรอ? ”
“เออ นั่นน่ะสิ ผมไม่ได้ข่าวพี่แตมป์เลยตั้งแต่กลับมาไทย...แป๊บนะ เดี๋ยวผมโทรถามแม่ให้แล้วกัน ” ร่างสูงผละออกมาจากโต๊ะกินข้าว พลางวิ่งไปหยิบโทรศัพท์ที่ห้องนอนชั้นสอง ร่างสูงหยิบไอโฟนสีดำคู่ใจก่อนจะกดเบอร์โทรศัพท์มารดา ชายหนุ่มถือสายรอสักพัก ไม่นานเสียงที่คุ้นเคยที่ทักทายเข้ามาจากปลายสาย
“ว่าไงนัท? มีอะไรด่วนรึเปล่าลูก” เสียงปลายสายกล่าวทักทายเป็นประโยคแรก ซึ่งถือว่าไม่แปลกสำหรับนัทเพราะปกติถ้าไม่มีธุระด่วนเขาก็ไม่ได้โทรไปหามารดาที่อเมริกาบ่อยเท่าไหร่ ...เหตุผลก็เพราะค่าโทรทางไกลมันแพงนั่นเอง
“เอ่อ นิดหน่อยครับแม่ ว่าแต่แม่สบายดีนะครับ?”
“ก็เรื่อยๆแหละจ้ะ ว่าแต่เราเถอะ สบายดีไหม ? ยิ่งทำงานกลางคืนยิ่งต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษนะลูก เหล้าเบียร์ก็เพลาๆบ้าง ...แม่รู้ว่าทำงานในผับ แต่ก็ไม่ต้องกินมันทุกคืนหรอก”
“ครับผม ...แม่ครับ นัทอยากโทรมาถามเรื่องลูกพี่ลูกน้องนัทที่ชื่อพี่แสตมป์ แม่จำได้ใช่ไหมครับ?” ร่างสูงวกเข้าประเด็นที่อย่างรู้ จู่ๆหัวใจก็เต้นรัวอย่างไม่มีสาเหตุ
“จำได้สิ...ทำไมจู่ๆถึงอยากรู้ขึ้นมาล่ะลูก”
“อยู่ๆก็เกิดคิดถึงขึ้นมาน่ะครับ ...ถ้านัทจำไม่ผิดพี่เค้าอยู่ไทยด้วยนี่ครับ นี่นัทกลับมาอยู่ไทยคนเดียวตั้งนานยังไม่เคยไปหาพี่เค้าเลย”
“นัท ...แม่ว่านัทคงไปหาพี่เค้าไม่ได้แล้วล่ะลูก”
……………………
ซินนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่คนเดียวระหว่างที่รอนัทไปคุยโทรศัพท์บนบ้าน ร่างบางประติดประต่อเรื่องราวในอดีตที่ไปเห็นมาให้เป็นเรื่องเดียวกันอีกครั้ง ตกลงว่าตอนนั้นเขามีแฟนชื่อแสตมป์ ส่วนนัทซึ่งเป็นญาติพี่แสตมป์เพิ่งย้ายจากอเมริกามาอยู่ที่ไทย วันแรกที่เขากับนัทเจอกันเขาโมโหนัทจนกระทั่งประกาศไปว่าเขาเกลียดอีกฝ่ายมาก...แล้วต่อจากนั้นเป็นยังไงนะ ....?
พรึ่บ !!
อยู่ๆก็มีแรงจับที่ไหล่พาลให้ซินสะดุ้ง หัวใจหล่นวาบไปที่ตาตุ่มด้วยนึกว่าเป็นพวกวิญญาณร้ายที่คอยจ้องทำลายวิญญาณของเขา แต่พอหันไปมองก็กลับกลายเป็นคนที่อยากเจอที่สุดในตอนนี้ยืนส่งยิ้มทะเล้นมาให้แทน
“พี่แตมป์ ซินตกใจหมด” ปากต่อว่า แต่กลับยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า
“ขอโทษครับ ใครจะนึกว่าเราจะขวัญอ่อนขนาดนี้ล่ะ... เป็นไงบ้าง ไปทัวร์อดีตมาอีกรอบแล้วสินะ? ”
“ครับ รอบนี้เล่นเอาเซอร์ไพร์สสุดเลยๆ ทำไมพี่แตมป์ไม่บอกซินตั้งแต่แรกว่าซินกับนัทรู้จักกันล่ะ?” ซินถามอย่างข้องใจ อีกฝ่ายก็ส่ายหัวบอกกลับมา ก่อนจะอธิบาย
“พี่พูดไม่ได้ ...พี่บอกซินแล้วไง บางอย่างซินก็ต้องเป็นคนรู้ด้วยคนเอง ”
“แล้วซินจะไปตามหาความทรงจำชิ้นต่อไปได้ที่ไหนครับ?”
“ต่อไปจะเป็นเรื่องยาวเลยล่ะซิน ถ้าอยากรู้ก็ลองกลับไปที่โรงเรียนเก่าดู ...ความทรงจำของซินเกือบครึ่งถูกทิ้งไว้ที่นั่น แต่พี่ขอเตือนไว้ว่า อย่าพานัทไปด้วย”
“ทำไมล่ะครับ ?”
“ถ้าเป็นไม่ได้ พี่ไม่อยากให้เราสองคนมารับรู้เรื่องในอดีตหรอก...ทั้งนัท แล้วก็ซิน แต่ในเมื่อกรณีของซินมันเลี่ยงไม่ได้ เพราะซินต้องตามความทรงจำให้ครบถึงจะกลับร่างได้ พี่ถึงจำเป็นต้องให้ซินรับรู้...แต่กับนัท ในเมื่อมันเลือกที่ลืมไปแล้ว พี่ก็ไม่อยากให้มันต้องมารับรู้อีก” ชายร่างสูงอธิบาย แววตาหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด
“อดีตเมื่อแปดปีที่แล้วมันไม่น่าจดจำขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
“แล้วซินก็จะรู้เอง ...พี่ต้องไปแล้วล่ะ ซิน ...พี่รักซินนะคนดี” ชายหนุ่มทำท่าจะหายตัวไป ก่อนจะนึกขึ้นไปเดินเข้ามาลูบหัวร่างบางอย่างรักใคร่
“ถึงซินจะยังจำพี่ไม่ค่อยได้ ... แต่ซินก็รักพี่เหมือนกันครับ แล้วเจอกันฮะ” ซินยิ้มกว้างไปให้อีกฝ่าย ก่อนจะโบกมือลา เมื่อร่างสูงหายตัวไป น้ำตาหยดหนึ่งก็ไหลออกมาจากตาคู่สวยของซินทันที คนหน้าหวานปาดน้ำตาอย่างไม่เข้าใจตัวเอง...รู้แต่ว่าในใจมันรู้สึกโหวงๆแปลกๆ…
“ซิน...” นัทวิ่งกระหืดกระหอบลงมาจากข้างบน ในมือกำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น “นัทถามแม่ให้แล้วนะ เรื่องที่แสตมป์”
“เอ้อ ...ตกลงพี่เค้าอยู่ที่ไหนอ่ะ? พี่แสตมป์เป็นพวกผู้มีพลังวิเศษ หรือถอดจิตได้อะไรอย่างนี้รึเปล่า? เมื่อกี้พี่เค้าก็ถอดจิตมาหาซินนะ เพิ่งกลับไปก่อนหน้านัทจะลงมาแป๊บเดียวเอง”
“ไม่ใช่หรอกซิน”
“อ้าว...แล้วถ้าพี่เค้าไม่เป็นพวกผู้มีพลังวิเศษ หรือถอดจิต แล้วตกลงพี่แสตมป์เป็นอะไรกันแน่ล่ะ?”
“เป็นอะไรนัทก็ไม่รู้เหมือนกัน ....แต่ที่รู้ก็คือ แม่นัทพึ่งบอกว่าพี่แสตมป์เสียไปนานแล้ว...ประมาณเมื่อ8 ปีก่อน”
“….”
“พร้อมกับที่นัทประสบอุบัติเหตุ ...ส่วนซินก็วิญญาณออกจากร่าง ”
ซินได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงกับพูดไม่ออก ขนลุกกับความบังเอิญเมื่อแปดปีก่อนที่ดูจะมีอิทธิพลเปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเขามากมายเหลือเกิน แต่ทางเดียวที่จะรู้ความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็มีแต่ต้องรีบตามหาความทรงจำให้ครบเท่านั้น
และนี่เป็นอีกครั้งที่ซินและนัทไม่ได้สังเกตุเงาสีดำสนิทที่ค่อยๆก่อตัวเป็นรูปร่างคล้ายคนอยู่ข้างหลังซิน เงาสีดำนั้นกระซิบเสียงแผ่วจนทั้งสองร่างในห้องไม่ได้ยินว่า…
“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
ก่อนเงานั้นจะค่อยๆสลายหายไป ราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่...
TBC
talk : ศลป.ไปฮันนีมูนที่ทะเลกันน่ารักกก#ผิด
ไรท์เตอร์จะพยายามมาอัพให้ได้อาทิตย์ละสองตอนนะคะ แต่ถ้าอาทิตย์ไหนงานเยอะจริงๆอาจจะลดเหลือตอนเดียว
งานเยอะมากกกกกก ความจริงพรุ่งนี้สอบด้วยแต่ไม่แคร์(?)5555 เราอินดี้
ขอบคุณทุกคนที่ยังตามอ่านกันเช่นเคยค่ะ^________^
ความคิดเห็น