คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : พร้อมหน้า III [ edit ]
Year Part
“ไม่นะ!! ฉันไม่ยกเดย์ให้หรอก!!”
ห๊ะ!!
“เซน ฉันไม่ยกเดย์ให้หลานนายง่ายๆหรอกรู้ไว้ซะ!!”
ไหงงั้น คุณพ่อ(ถือวิสาสะเรียก)ที่เคารพครับ คุณจะขัดขวางความรักของเราเหรอครับ!! ผมอ้าปากกำลังจะแย้งแต่สายตาที่หันควับมาตาเหลือกใส่ทำเอาผมหุบปากแทบไม่ทัน
พูดไม่ได้ คุณพ่อตาไม่อนุญาต ผมได้แต่มองหน้าน้าเซนญาติฝั่งคุณแม่แล้วได้แต่หวังว่าคุณพี่ท่านจะช่วยผมนะครับ แต่คำพูดพี่ท่านกลับเป็น
“อื้อ ไม่ยกง่ายๆก็ไม่ยกง่ายๆครับ” แถมท้ายด้วยรอยยิ้มเคลิ้บเคลิ้ม อะไรกัน!! นี่ญาติผมแน่เรอะ!!
ผมถอนหายใจ แล้วอ้าปากจะพูดอีกรอบ
“เงียบนะ!!” คะ ครับ เงียบก็เงียบ
“ฉันมีข้อตกลง ถ้านายยอมรับนายมีโอกาสได้เดย์ไป”
“ตะ ”
“ใครบอกให้พูด!! พยักหน้าอย่างเดียวพอ”
ฮือ ท่านผู้อ่านครับ ทำไมพ่อตาผมดุจังล่ะครับ
Day Part
“อือ” แสงไฟจากเพดานส่องลงมากระทบตาผมที่กระพริบปริบๆ นอนอยู่ท่านั้นราว 5 นาที อะไรๆเริ่มชัดเจน เหมือนผมจะหลับไปแหะ แล้วพี่เยียร์ล่ะ
ผมพลิกซ้ายพลิกขวาดูแต่ไร้วี่แววของร่างที่บอกรักผมก่อนผมหลับไป
คิดๆดูแล้ว มันน่าอายจังแฮะ กอดกันแล้วผมดันหลับเนี่ย แฮะๆ
ตึง!!
“ไม่ใช่แบบนั้น นายต้องหั่นแบบนี้!!”
“ครับ!!”
“ใครบอกให้พูด!!”
หืม
เพล้ง!!
“ล้างจานบ้าบออะไร มันแตกแล้วเห็นไหม ไปเอาไม้กวาดมากวาดออก!!”
อา
ตู้ม!!
“อ๊ากกก!! ไอ้บ้า ใครบอกให้เอาน้ำยาล้างจานใส่หม้อต้ม!! ปิดฟ๊ายยยย!!!”
เอ่อ เสียงอะไรน่ะ
ปัง
“เดย์ ตื่นแล้วใช่ไหม” ผมหันควับตามเสียงเรียกจากหน้าประตู เจอคุณ(พ่อ)เซนยืนยิ้มแหยอยู่หน้าประตู
“คุณเซน คือมัน ”
“ลงไปข้างล่างก่อนเถอะ” หลังจากพูดจบประโยค ผมรู้สึกว่าหน้าคุณเขาจะแก่ลงหลายปี เป็นอะไรไปครับเกี่ยวกับเสียงดังตึงๆข้างล่างนั่นรึเปล่า ผมเก็บความสงสัยไว้แล้วเดินตามลงไปข้างล่าง
และผมก็ได้รับคำตอบ
ผมมองไปข้างๆคราบสีน้ำตาลโคลนเปรอะตามผนังสีสดใสราวประติมากรรมชั้นเอก พอมองลงพื้นตามพื้นที่ยาวจากหน้าบันไดจรดห้องครัวจากเดิมที่เป็นพื้นกระเบื้องสีขาว กลับกลายเป็นสีเทาขุ่นน้ำนองพื้นเหมือนเหตุการณ์น้องน้ำมาเยือนเมื่อปีที่แล้ว พอเงยหน้าขึ้นเจอกับประตูห้องครัวที่เปื้อนคราบซอสสีแดงแปร๊ด จากกลิ่นที่ได้รับคาดว่าน่าจะเป็นซอสมะเขือเทศที่พ่อวิกส์ซื้อมาทำอาหารอิตาลี
ผมมองหน้าคุณ(พ่อ)เซนที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“เอ่อ ก็นะ” ยกมือเกาหัวแก้เก้อ ผมที่ตาดไว้แล้วว่าน่าจะไม่ได้รับคำตอบตัดสินใจหาคำตอบเองโดยการผลักประตูบานกว้างเข้าไป
โผล๊ะ!!
“ถุงแป้งแตกอีกแล้ว!! ใครใช้ให้แกเอามันลงหม้อ นี่ครั้งเดียวไม่จำใช่ไหม!!”
“ขอโทษครับ”
“ใครบอกให้เอ่ยปาก!!”
“ ”
เหตุการณ์ตรงหน้าผมนั้น มันสุดๆยิ่งกว่าสงครามโลกอีกละมั้งนั่น ผมมองห้องครับที่ “เคย” สะอาดไปรอบๆแล้วมองต้นตอของความเสียหายทั้งสองที่ยืนอยู่หน้าเตา
“เอ่อ พ่อฮะ”
“ครับเดย์” หันควับมาตามเสียงเรียกแถมปรับเสียงแบบทันทีเลยด้วย เมื่อกี้พ่อวิกส์เขาตะโกนใช่ไหมครับแต่ผมว่ามันคนละคนกันมากกว่า
ละมั้งครับ
“คือ พ่อทำอะไรเหรอ” ผมถามเสียงอ่อย มองสภาพห้องครัวที่แตกต่างจากตอนกลางวันสุดๆ คราบดำเป็นแถบๆนั่นคงมาจากแรกระเบิดเมื่อกี้ละนะครับ
พ่อวิกส์ยิ้มหวาน เดินเข้ามาลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน แต่แวบเดียวที่พ่อเขาหันไปมองพี่เยียร์ที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยเศษอะไรต่อมิอะไรมากมายด้วยแววตาโหดร้าย
ทำไมถึงรู้ทั้งๆที่พ่อวิกส์เขาหันหลังไปน่ะเหรอครับ
เดาจากหน้าตาซีดๆที่ซีดเข้าไปอีกของพี่เยียร์ก็เดาได้แล้วครับ
“ไม่มีอะไรครับเดย์ ลูกไปรอที่ห้องรับแขกนะ” หันกลับมาพูดเสียงหวานด้วยรอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนแต่กลับจิกตาสั่งคนที่ยืนอยู่ข้างๆผม
คุณ(พ่อ)เซนสะดุ้งเฮือกแล้วรีบลากผมออกไปจากห้องครัวตามด้วยเสียงปิดประตูดังปังของพ่อวิกส์ ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนประตูจะถูกปิดนั่นก็คือ
ใบหน้าราวกับจะร้องไห้ของพี่เยียร์!!
ทำอะไรแฟน(ช่วงทดลอง)ของผมเนี่ยยยย!!! ผมตั้งท่าจะกระโดดเข้าไปอีกรอบ
“เดย์ ฉันขอนะ ไม่ต้องเข้าไปหรอก” แขนผมถูกรั้งไว้ ตามด้วยเสียงอ้อนวอนของคุณ(พ่อ)เซนที่ดูจนใจสุดๆ
ผมลังเลแล้วสิ ทางนั้นก็แฟน(ช่วงทดลอง) ส่วนทางนี้ถ้าเดาไม่ผิดก็น่าจะเป็นญาติของพี่เยียร์เขา
แต่ผมอยากช่วยพี่เยียร์นะ!!
ปัง ปัง
“เดย์ เปิดประตูหน่อยเซซซซ่” เสียงเคาะ(ทุบ)ประตูแบบไร้มารยาทตามด้วยเสียงร้องโหยหวนไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องเขาดังมาจากหน้าประตู
ผมรู้แล้วว่าใครมา ไร้มารยาทแบบนี้มีคนเดียว!!
ผมเปลี่ยนทิศทางวิ่งหันหลังไปหน้าประตูเปิดประตูออกแล้วชี้หน้าตะโกนคนที่ผมก็รู้ว่าใคร
“ไอ้ปลายยยยย!! เคาะหาอาไร!!” คนหน้าประตูดูเหวอหน่อยๆที่อยู่ผมก็โผล่พรวดมาด่าหน้ามันถึงทันที คงตกใจผมมั้งครับ ฮ่าๆๆ เอ่อ แต่อารมณ์แบบนี้เนี่ยนะหัวเราะ
“มาทำไม” ผมกอดอกปรับอารมณ์ให้ขรึม
“มาหามึง” ไอ้ปลายยักคิ้วเหล่ตาให้แล้วเดินเข้าบ้านผมโดยไม่ขออนุญาต
ตกลงนี่มันบ้านใครวะ
“พ่อวิกส์คร้าบบบบ ปลายมาเยี่ยมคร้าบบบบ เฮ้ย ไอ้เดย์พ่อมึงอยู่บ้านปล่าววะ”
มึงควรจะถามก่อนตะโกนนะกูว่า
ถึงผมไม่ได้ตอบคำถามแต่ไอ้ปลายก็ยังเดินเริงร่าเข้าไปในตัวบ้านอยู่ดี แล้วมันจะถามทำไมผมอยากรู้
ผมเกาหัวเตรียมตัวจะปิดประตูแต่แรงดันจากด้านหลังหยุดผมไว้ก่อนพอหันไปมองก็เจอน้องหนู(เพื่อนๆ)ทั้งสามตัวยืนกันอยู่หน้าสะล่อน
“อ้าว!? พวกมึงมาด้วยเหรอ” ทำไมเมื่อกี้ไม่เห็น
“เพิ่งเดินเข้ามา” อ้อ
แล้วเพื่อนทั้งหลายก็เดินเข้าบ้านผมแบบไม่ขออนุญาตอะไรทั้งนั้น รู้อยูว่าเป็นเพื่อนสนิทกันแต่ควรจะเกรงใจเจ้าบ้านที่ยืนหัวเด่อยู่คนนะ
“ขอเข้านะ” เสียงสุดท้ายจากเพื่อนแบล็คที่ยังไม่เงยหน้าจากหนังสือที่อยู่ในมือ
แล้วแบบนี้จะเรียกว่ามีมารยาทหรือไม่มีมารยาทดีวะ!?
ผมที่มีฐานะเป็นเจ้าบ้านปิดประตูเดินเข้าบ้านด้วยความงุนงง
ก๊อก ก๊อก
หือ ใครมาอีกอ่ะ
ผมเปิดประตูอีกรอบแล้วเจอเข้ากับเหล่าชายๆหน้าตาดีสองคนที่หน้าเหมือนกันราวฝาแฝดตีหน้านิ่งเหมือนผลงานประติมากรรมชิ้นเอก
ใครวะ!?
“ปก ปัก เข้ามาก่อนสิ” เสียงเรียกดังมาจากในตัวบ้าน เจ้าสองตัวที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่พอมองเห็นว่าใครพูดก็ยิ้มแป้นเหมือนเด็กวิ่งเข้าไปในบ้านตะโกนเสียงดัง
“ปิ่น คิดถึงนายจัง!!” ผมชะงักทำหน้างงอยู่หน้าประตูชั่วครู่แต่ภายในสมองกลับมีเสียงดังก้องสะท้อนไปมา
ตกลงนี่บ้านใครวะ!!!
ผมถอนหายใจเฮือก ปิดประตูแล้วเดินเข้าบ้านอีกรอบ
ก๊อก ก๊อก
เฮ้ย!? ใครมาอีกวะ มากวนอีกพ่อตบกระจุยจริงนะเอ้อ
ผมเปิดประตูที่ดูเหมือนว่าวันนี้มันจะได้ทำงานบ่อยกว่าปกติ
เฮือก!!
คะ ใครอีกวะ!?
พี่ชายหน้าหล่อที่ยืนคิ้วขมวดประหนึ่งว่าหัวสมองท่านตอนนี้กำลังยุ่งเหมือนยุงตีกัน ใบหน้าคมเข้มนั่นเหมือนมีเรื่องให้คิดอยู่ตลอดแต่มันก็ไม่ได้ลดความหล่อของพี่เขาลงเลยสักนิด ถือว่าเป็นคนที่หล่อมากๆคนหนึ่งเลยแฮะหล่อกว่าแฝดตะกี้อีกอ่ะ
อะแฮ่ม ไม่สิ ผมหล่อกว่า (แน่ใจ >> ขอแทรกจากเร)
“รบกวนหน่อยนะ” เสียงยังหล่อเลยอ่ะครับ แต่พี่เยียร์หล่อกว่าอยู่ดี แต่หล่อแบบสุภาพขี้เล่นนะ
พี่เข้าเดินเข้าบ้านทันทีที่พูดจบ
..
.
ผมยืนงงอยู่หน้าประตูอีกรอบมองหน้าบ้านแบบว่าถ้ามาอีกคนผมกะจะเปิดค้างไว้นี่เลย คนมาเยอะดีนัก
โอเค ไม่มีคนแล้วนะ
ผมมองหน้าบ้านอยู่สามสี่นาทีแล้วตัดสินใจปิดประตูเดินเข้าไปข้างในเผื่อว่าพี่เยียร์จะถูกพ่อทารุณกลายเป็นศพไปแล้ว !?!
ก๊อก ก๊อก
“ “
โอเค นับต่อแต่วันนี้ผมจะเปิดประตูทิ้งไว้ซะ!!!
______________________________
* สีน้ำตาล จะมีการแก้ไขค่ะ
ความคิดเห็น