คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 9 : วันสถาปนา II
======================================
- เฮเลนต้องขอโทษที่มาอัพช้ามาก พอดีไม่ว่างพิมพ์เลยนะคะเพิ่งมาได้พิมพ์เพิ่มในตอนปิดเทอมเนี่ยละคะ
งั้นเฮเลนก็ไม่รบกวนแล้วนะคะ มาอ่านต่อกันดีกว่านะคะ –
=====================================
Chapter 9 : วันสถาปนา II
- ห้องนักแสดง -
ลีโอและเฟมีลเดินเข้ามาในห้อง โดยที่มือหนาของลีโอเองก็ยังคงโอบอยู่ที่เอวของสาวน้อยนาม....เฟมีล
เมื่อเดินเข้ามาทั้งสองก็มานั่งที่ โซฟาสีน้ำตาลเข้ม ทำจากหนังสัตว์ชั้นดี ทั้งนุ่มและสบาย
เมื่อทั้งสองนั่งลงที่โซฟาและจัดระเบียบตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลีโอเหลือบไปมองนาฬิกาตรงมุมฝาผนังของห้องพัก....12.00 น.
‘ก่อนขึ้นแสดงเดี๋ยวมีคนมาเรียกสินะ......เหลือเวลาตั้ง 3 ชั่วโมงนี่’ ลีโอคิดก่อนจะยื่นมือไปข้างหน้าสาวเจ้า
เมื่อหญิงสาวเห็นตอนแรกก็งงอยู่ก่อนจะรู้ความใน วางมือบางลงกับฝ่ามือหนาแล้วล้มตัวลงนอนบนตักของชายหนุ่มทันที
ส่วนชายหนุ่มก็ได้ค่าปวดขาเป็น เส้นผมยาวสลวยสีดำ แสนนุ่มนั้นที่เขากำลังลูบเล่น อย่างเบามือ
**********
- จนกระทั่ง 3 ชั่วโมง ผ่านไป -
แกร๊ก! เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นพร้อมร่างของบุรุษคนหนึ่งที่สวมชุดสูทสีเทา และมีเนคไทย์ที่มีสีเดียวกับชุดแต่เข้มกว่าหน่อย
“อีก 10 นาที ให้พวกคุณไปที่ปล่องส่งตัวเลยนะครับ” ชายคนนั้นพูดก่อนที่เข้าจะออกไปและปิดประตูอย่างเรียบร้อย
เฟมีลและลีโอต่างสำรวจร่างกายตัวเองว่าอยู่ในชุดที่พร้อมแสดงรึยัง ก่อนที่ทั้งสองจะมองหน้าและพยักหน้าอย่างเข้าใจตรงกัน
ลีโอจึงทำหน้าที่สุภาพบุรุษ(เสมอ)ด้วยการยืนขึ้นค้อมตัวให้หญิงสาวแล้วผายมือมาด้านหน้า
เฟมีลที่พอจะรู้อะไรรางๆ ก็วางมือลงบนมือหนาและเดินออกจากห้องไปที่ปล่องส่งตัวด้วยกัน
**********
- ฝ่ายชาวอานาธีเซีย -
“นี่เราไปที่อัธจันทร์กันเถอะนะ” คาเรลชวนโดยมีสาวๆหนุนหลังหนุนไหล่กัน จนคาเรลล่าแทบหน้าคะมำ ด้วยแรงของสาวๆที่อยากไปดู พวกเฟมีลไวๆ
“แล้วพวกเธอจัดของเสร็จรึยังละ” มาเคซัสถาม
“เสร็จจนรอเป็นชาติชาติแล้ว” สาวๆตอบอย่างห้วนๆแต่ก็ยังอุตส่าใจตรงกัน ตอบขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
แต่ใช่ว่าหนุ่มๆของพวกเราจะเหมือนชายทั่วไปที่พอได้ยินคำพูดแบบนี้แล้วจะหน้าสลดลงเหลือ 2 นิ้ว
เพราะชายหนุ่มต่างก็แค่ทำหน้ารับทราบพร้อมการพยักหน้า แล้วไปเตรียมของต่อ เหมือนไม่สนใจใยดีพวกเธอเลย
เมื่อสาวสาวเห็นว่า ชายหนุ่มเริ่มไม่คิดที่จะสนใจพวกเธอเลย เห็นคำพูดเป็นเพลงที่ฟังแค่ผ่านๆ ฟังให้จบๆไป ชิ !!!
“มันน่าน้อยใจจริงๆ งอนแล้ว!!!!! จะไปไหนก็เชิญเลย ตามสบายเลยยะ”
เสียงๆหนึ่งดังขึ้นในความคิดของสาวๆ แล้วยังดังขึ้นมาในหัวอย่างพร้อมเพรียง และ ประจวบเหมาะกับสภาพอารมณ์จนไม่ทันได้คิด
สาวๆทั้งสี่จึงทำการสลับเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งในทันที และทำตามคำแนะนำเหมือนได้รับสั่งการ
เมื่อคิดได้เท้าก็ก้าวเดินไป โดยจุดหมายอยู่ที่ประตู ไม่คิดจะไปขอร้องหนุ่มๆอีกและกะจะไปชวนผู้ชายซักคนที่อาจจะเจอในงานไปนั่งด้วยกัน
แต่ทว่า.....
“ถ้าเธออยากไปละก็ เดี๋ยวเราไปด้วยกันเลยละกันนะ ดีไหม?” เรย์พูดขึ้น พร้อมเดินมาโอบไหล่เอาใจไส่คาเรลล่าอย่างมากมาย
“จริงๆนะหรอ” คาเรลถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจในคำพูดของคนตรงหน้า ด้วยความเขิน หน้าเริ่มขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ารัก
“จริงอยู่แล้วสิคาเรล เธออยากจะไปในตอนนี้เลยรึเปล่าละ ถ้าจะไปเราก็ไปด้วยกันนี้ละ หรือยังไงก็แล้วแต่เธอละกัน เพราะฉันยังไงก็ได้ทั้งนั้นละ”
เรย์กล่าวอย่างเอาใจและอ่อนโยนเหมือนดวงตาของเขาที่สื่อออกมาอย่างชัดเจนและออกแนวเริ่มหวานๆและมากขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะที่คารอส ทานชายคนรองแห่งธาทีเนียเอง ก็ปล่อยรังศีอำมหิตออกมาโจมตีใส่เจ้านายกึ่งเพื่อนไม่ขาดสาย
แต่.....พื้นที่อาณาเขตสีชมพูมีพลที่ะกำลังมากกว่าอย่างแน่นอนอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติที่ต่างก็รู้ๆกันดี
เนื่องจากมีผู้สร้างอาณาเขตสีชมพูที่ว่านั้นมีอยู่ด้วยกันถึง 2 ท่าน แต่ ผู้สร้างรังสีอำมหิตกลับมีเพียงแค่ 1 ท่านเท่านั้น
คารอสจึงหยุดปล่อยรังสีอำมหิต แต่ก็ไม่รู้จะสู้ยังไงจึงทำได้เพียงแค่...ปรายตามอง....เพียงเท่านั้นเอง
เพราะถ้าขืนเขาไปก่อกฏบเอาตอนนี้เขาคงเป็นฝ่ายไม่รอดเสียเองเป็นแน่และมันก็เสียแรงเปล่า ในเมื่อน้องสาวตัวดีของเขากลับไปสมรู้ร่วมคิดไปกับไอ้เจ้าชายนั้นอีก
“งั้นไปกันเถอะ” คาเรลบอกด้วยความยินดี ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้คารอสยืนเก็บกดตัวสั่นหยึกๆ
“เนี่ยดูซิเรย์เอาใจคาเรลขนาดนี้ พวกเรายังได้ไม่ถึงเสี้ยวเลย” อนาสตาเซียพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด
“ใช่ๆ ไปหาผู้ชายคนอื่นที่ดีกว่าให้ตัวเองดีกว่าเนอะ” นาตาชาก็เออออห่อหมกไปกะเขาด้วย
“งั้นฉันขอไม่เข้าร่วมละกันคะ” สเตฟานีเป็นคนเดียวที่ปฏิเสธ
คารอสวิ่งมากอดสเตฟานีด้วยความรักใคร่อย่างที่สุดก่อนจะหอมแก้มไปฟอดหนึ่งอย่างยินดี
“ขอบใจที่ไม่ทิ้งกันนะสเตฟานี”คารอสพูดด้วยความปิติยินดี
“คะ ก็ฉันรักคุณคารอสคนเดียวอยู่แล้วละคะ แต่คุณคารอสละคะ คุณจะนอกใจฉันรึเปล่า” สเตฟานีขานรับ
“ไม่มีทาง ฉันเองก็รักเธอคนเดียวเหมือนกันนะ คนของธาทีเนียไม่เคยโกหก แล้วเธออยากได้อะไรรึเปล่าละ ฉันให้หมดเลย” คารอสพูดอย่างเอาใจเต็มพิกัด
“’งั้นฉันอยากไปดูการแสดงแล้วละคะ” สเตฟานีบอก
“ได้สิ งั้นไปกันเถอะ” คารอสพูดและจูงมือสเตฟานีเดินออกไปจากห้อง
“งั้นเราไปกันบ้างเถอะ อนาสตาเซียครบคู่พอดี เธอไปกับฉันนี่หละ” นาตาชาบอกแล้วทำท่าจะออกไป
“เดี่ยวก่อนสิ พวกเธอจะไปดูการแสดงของพวกเฟมีลไม่ใช่หรอ” ชายหนุ่มที่เหลือถามหลังจากวิ่งมาง้อ
“ใช่ แล้วจะทำไม ถ้าพวกนายไม่ว่าง ฉันไม่ไปกับพวกนายก็ได้ พวกฉันเองมีมารยาทพอที่จะไม่รบกวนเวลางานของคนอื่น” อนาสตาเซียrพูดขึ้น
“ใช่” “ไม่เอาน่าไปกับฉันนะ นาตาชา/อนาสตาเซีย” มาเคซัสและโซราเวสพูดพร้อมกันก่อนที่พวกเขาจะจูงมือของที่รักตัวเองออกไปจากห้องไปที่อัธจัทร์ที่จัดการแสดง
**********
- กลับมาที่ปล่องส่งตัวนักแสดง -
“ครั้งนี้ไม่ตื่นเต้นรึไง” ลีโอถามอย่างกวนๆ
“ก็นายขึ้นแสดงด้วยนี่”เฟมีลพูดขึ้นทำเอาลีโอหันควับมาทันที
“นิๆ ฉันไม่ได้คิดพิสวาดคนอย่างนายหรอกนะ นายแมว” เฟมีลพูดขึ้นดักหน้า
ลีโอก็พยักหน้าก่อนจะปรากฏรอยยิ้มที่ใบหน้าหล่อเหลา เมื่อมองใบหน้าที่ออกจะชมพูนิดๆเมื่อยามถูกจับจ้อง
“นี่นายแมวเลิกมองฉันได้แล้ว ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นซะหน่อย” เฟมีลพูดแกมตะคอกด้วยความเขินระคนอาย
“ทำไมหรอมองคนสวยที่เป็นที่รักของตัวเองแล้วมันผิดตรงไหนกัน” ลีโอตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย
ทำไมเฟมีลมองหน้าอย่างตกใจปนสงสัยแต่ก็ไม่ถาม ทำให้ลีโอที่มองอยู่ก่อนแล้วเกิดความสงสัย
“มีอะไรหรอ” ลีโอถามขึ้น
“เอ่....ก็ไม่มีอะไรนิ” เฟมีลพูดขึ้น
“เฟมีล” ลีโอกดเสียงต่ำลง
“มีอะไรหรอนายแมว” เฟมีลถามลอยหน้าลอยตา
แต่รู้สึกว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดซะแล้ว เมื่อการที่เฟมีลได้พูดยั่วลีโอ ทำให้ลีโอขี้เกียจพูดซะแล้ว
ลีโอรวบร่างบางมาไว้เต็มอ้อมแขน เชยคางมนให้อยู่ในระดับเดียวกัน ก่อนที่ลีโอจะค่อยๆ โน้มหน้าลงมาเรื่อย
เฟมีลเห็นท่าไม่ดีเลยโพร่งไปว่า
“ก็ฉันแค่สงสัยว่า นายนะกินยาแล้วไม่เข่ายขวดรึเปล่า ถึงพูดเยอะกว่าปกติแค่นั้นเอง พอใจรึยังนายแมว” เฟมีลกล่าว ก่อนจะกระแทกเสียงปิดท้าย
“ก็แค่นั้น” ลีโอพูดแต่ใบหน้าของทั้งคู่ก็ยังคงห่างไม่ถึงคืบอยู่ดี
“นายแมว ปล่อยนะ” เฟมีลพูดเมื่อเห็นว่าใบหน้าคมคายเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“นายแมวฉันบอกว่า ให้ปล่อยไง ปล่อย แล้วเอาหน้าของนายออกไปด้วย” เฟมีลพูด
“ทำไมละเฟมีล เดี๋ยวนี้รังเกียจฉันขนาดนั้นแล้วหรอ” ลีโอพูดแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ปละ….เปล่าซักหน่อย” เฟมีลพูดหน้ายิ้มแดงเมื่อใบหน้าคมคายยังคงเคลื่อนมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
แต่เมื่อเธอเห็นสายตาของชายหนุ่มที่ส่งมาด้วยความเว้าวอน แล้วเธอจะทำอะไรได้ นอกจากอยู่นิ่งๆ
‘ชักจะเริ่มเคลิ้มแล้วสิ เราก็น้าไปตกหลุมตาแมวขี้เก็กทำไมก็ไม่รู้’ เฟมีลคิดในใจตั่มนสื่อออกมาทางสายตาด้วยแต่ลีโอก็ไม่ได้สนใจอะไร
ใบหน้าทั้งคู่เข้าใกล้กัน จนไม่เหลือที่ว่างเลยแม้แต่แสงก็ไม่สามารถเล็ลอดผ่านมาได้
รสจุมพิษที่อ่อนหวานและนุ่มนวลจนไม่อาจละจากริมฝีปากเรียวบางนั้นได้เลยแต่ว่า....
“อื้อ อื้อ....”
เฟมีลร้องในลำคอ เพื่อที่ว่าจะบอกชายหนุ่มว่า เธอหายใจไม่ออก และชายหนุ่มก็คงจะรู้จึงถอนจูบด้วยความเสียดาย
เมื่อเขาถอนจุมพิษอันแสนหอมแหวนแล้ว เฟมีลก็ได้แต่โกยอากาศเข้าปอด ด้วยความเหนื่อย
ไม่นานนัก.....
“เฟมีล”ชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายเรียก เมื่อเห็นว่าเธอทำท่าจะลงไปนอนต่อกลบเกลื่อน
เธอไม่พูดอะไรนอกจากพยักหน้ารับ และ เตรียมความพร้อมสำหรับการจะขึ้นเวที
“เธอเนี่ยน้า เด็กจริงๆ ยังต้องให้มีเพื่อนอยู่คอยเคียงข้างตลอดเวลาเนี่ย” ลีโอเอ่ยแซวนิดๆ
“ตาแมว มัวแต่พูดดูถูกคนอื่นอยู่นั้นแหละ ขนาดนายยังมีนายไมล์อยู่เคียงข้างยังไม่เห็นเป็นไรเลย ชิ” เฟมีลพูด
“ ก็...ดู ถูก ใช่ไหมละ” ลีโอพูดยิ้มๆ
“ถึงฉันจะมีไมล์อยู่ แต่ใช่ว่าฉันจะขอให้เขาช่วยซะทุกเรื่องซะหน่อยนิ” ลีโอพูดขึ้น
“แต่เท่าที่รู้เนี่ย ตั้งแต่เกิดมา แล้วมีไมค์เป็นเพื่อน ฉันก็ยังไม่ได้ขอความช่วยเหลืออะไรจากไมค์เลยนะ” ลีโอพูด
โดยที่ตัวเขาเองก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเรียก ‘ไมค์’ ว่าองครักษ์ เพราะ เขาอยากนับไมค์เป็นเพื่อนมากกว่าองครักษ์ที่ต้องทำตามคำสั่งของเจ้านาย
‘อีกอย่างคนที่ฉันอยากให้อยู่เคียงข้างฉันแต่ตอนนี้ก็อยู่ข้างฉันเสมอมาอยู่แล้วนั้นก็คือ ‘เธอ’ ต่างหาก....และต้องเป็นเธอเท่านั้น เฟมีลล่า ไดเอนแพนไทร์ ว่าที่มารดาแห่งรัฐดาโรก้า และว่าที่ภรรยาที่รักของฉัน’ ลีโอคิดในใจอย่างเป็นสุข
พร้อมเหลือบมองข้อมือบางของหญิงสาว ที่มีของขวัญที่เขาให้เป็นของขวัญวันเกิด ( + ของหมั้น) สวมอยู่ไม่เคยห่างกาย…สร้อยเพทาย
สร้อยเพทายที่อยู่ที่ข้อมือบางของหญิงสาว ของเพียงชิ้นเดียวที่หญิงสาวคนนี้ไม่เคยถอดให้ห่างกายตั้งแต่ได้รับมา
ถึงเจ้าตัวจะชอบพูดเสมอว่า “ถ้าไม่ใส่เดี๋ยวป้าเรลล่าจะเสียใจ” แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ เธอก็ยังไม่รู้อยู่ดีถึง.....เจ้าของสร้อยเพทายที่แท้จริง
“นายแมว นายแมว เมี้ยว เมี้ยว ~” เฟมีลเรียก ทำให้ลีโอหลุดจากภวังค์ แล้วหันมามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของหญิงสาวที่มองอยู่ก่อนแล้ว
“นายเป็นอะไรไปนะ เหม่ออยู่ได้” เธอพูด
“เปล่า...” ลีโอตอบ
“อะ! เขาประกาศเสร็จแล้ว......เอาสู้ๆเฟมีล” เฟมีลพูดแต่หลังค่อยๆเบาลง
“อึก..ฮึ ฮึ” เสียงหัวเราะในลำคอของลีโอดังขึ้น
“หัวเราะทำไมนายแมว” เฟมีลถามเสียงเขียว
“แค่หัวเราะเด็กน้อยบางคน” ลีโอพูดลอยๆ
“ชิ! ฉันไม่ใช่เด็กน้าจำเอาไว้ด้วย” เฟมีลสบดอย่างอารมณ์เสีย
ทั้งสองนำหน้ากากสำหรับการแสดง โดยของเฟมีลเป็นสีแดงสดขนนกขลิบทอง
และของลีโอ เป็นหน้ากากสีดำขลิบทองซึ่งก็เข้ากันกับชุดและการแสดงที่กำลังเริ่มขึ้นได้อย่างดีตามที่ต้องการแปะ
แล้วทั้งคู่ก็ขึ้นสู่เวทีโดยมีหมอกขาวใสมีประกายวิบวับเป็นที่อำพลางการมาของนักแสดงทั้ง 2
**********
Merry Christmas and Happy New Years
{100%}24 December 2012
Helena. comment please!!!!!
ความคิดเห็น