คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 9 : คำ .รัก
บทที่ 9 : คำ
.รัก
Cin-Taem
“ คุณฮะ คุณรักเขาใช่มั้ยฮะ ”
“ ไม่นะแทมิน ฉันรักนายแค่คนเดียวเท่านั้น ”
“ ถ้าอย่างนั้น เด็กคนนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรกับคุณใช่มั้ยฮะ ”
“ เอ่อ
. ”
“ ว่าไงฮะ คุณเคยบอกไม่ใช่หรือว่าจะรักผมคนเดียวไปจนชั่วชีวิต คุณจะผิดสัญญาหรือฮะ ”
“ ไม่ใช่อย่างนั้น
.. ”
“ ถ้าไม่ใช่ ผมจะพาคนๆนี้ไปอยู่กับผมนะฮะ ” ไม่รอช้าที่เด็กชายเดินจูงมือกับเด็กชายอีกคนเดินจากไป
“ แทมิน!!!!!!!
. ” ชายหนุ่มร้องเรียก แต่ยิ่งตะโกนเท่าไรเสียงเขาก็หายไปมากเท่านั้น ยิ่งร้องเรียกเท่าใด เด็กชายทั้งสองก็ห่างไปไกลมากขึ้นๆทุกที
“ แทมิน ให้โอกาสฉัน ได้โปรด ขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น
.. ” ฮีชอลทรุดลงกับพื้นเมื่อเห็นว่าคนที่ตนรักกำลังจะพาเด็กชายอีกคนที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกันเดินหายลับไป
“ คุณฮะ ” เด็กชายสัมผัสลงบนไหล่หนาเบาๆ
“ แทมิน
”
“ ครั้งนี้ครั้งเดียวนะฮะ ใช้โอกาสครั้งสุดท้ายของคุณ อย่าทำให้ใจของคุณเจ็บปวด ดูแลเขาให้ดีๆ เหมือนกับที่คุณดูแลผม รักเขาให้มากๆให้เท่ากับที่คุณเคยมอบความรักให้กับผม ให้ความสุขกับเขานะฮะ ถ้าเขาเจ็บผมก็จะเจ็บด้วยแต่เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าคุณเจ็บผมเจ็บกว่าคุณร้อยเท่า อย่าลืมสิฮะว่าอย่าทำให้ผมที่อยู่ในใจคุณเจ็บปวด ”
“ แทมิน ฉัน
.. ”
“ อย่าห่วงเลยฮะ คุณไม่ได้ทอดทิ้งผม คุณไม่ได้ผิดคำสัญญาแต่คุณกำลังทำให้ผมได้เจอกับความสุขที่แท้จริง สัญญานะฮะ ว่าจะดูแลคนๆนี้ให้ดีๆ ”
“ สัญญา ฉันให้สัญญา
แทมิน ฉันรักนาย ”
“ อาจารย์คิมครับ อาจารย์ครับ ” ฮยอกแจเขย่าไหล่อาจารย์หน้าหวานที่กำลังนอนละเมออยู่ในห้องพยาบาลหลังจากที่คงเผลอหลับไปในระหว่างนอนเฝ้าน้องชายของตน
“หืม นี่ฉันฝันไปหรือเนี่ย”
“ อาจารย์คิม ทำไมยังไม่กลับไปอีก
.”
.
.
.
“ ผมจะให้โอกาสกับอาจารย์ แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะครับ ต่อไปคงไม่มีแทมินให้อาจารย์ทำร้ายได้อีกต่อไปแล้ว นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของอาจารย์ ถ้าแทมินยังคงร้องไห้อีก แม้จะต้องไปสุดขอบโลก ผมก็จะพาแทมินไป ”
“ พี่ชาย
. ” เสียงแหบพร่าดังขึ้นมาอีกครั้งหลังจากไม่ได้สตินานถึงสามวันเต็มๆ
“ ฟื้นแล้วเหรอ? ” ชายหนุ่มถามหลังจากกดสัญญาณเรียกหาพยาบาล
“ คุณ
. ”
“ ฉันดีใจนะที่นายยังจำฉันได้
..ดื่มน้ำสักหน่อยนะ ” ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆพยุงตัวเด็กชายให้ลุกขึ้นมา
“ ผมอยู่ที่ไหนฮะ ” เด็กชายถามหลังดื่มน้ำไปได้นิดหน่อย
“ นี่จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ ”
“ ผมจำได้แค่ว่ากำลังวิ่งข้ามถนน ”
“ คราวหน้าคราวหลังเวลาจะข้ามถนนก็มองซ้ายมองขวาก่อนสิ ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าวิ่งข้ามมา ”
“ ผมดูแล้วนะ แต่ตอนนั้นมันไม่มีนี่ ”
“ ไม่มีแล้วนายจะมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง ”
“ ใครจะไปรู้ล่ะฮะ ”
“ เอาเหอะ ดีแล้วล่ะที่ไม่เป็นอะไรมาก ฟื้นมาก็เถียงฉันคำไม่ตกฟากได้ก็แสดงว่าหายดีแล้วล่ะ ”
“ พี่ชายล่ะฮะ ”
“ ออกไปเมื่อกี๊ ”
“ เหรอฮะ
. ” เด็กชายเสียงเบาลง
“ ไม่ต้องน้อยใจไปหรอก หมอนั่นมานั่งเฝ้านายตลอดอีกอย่างเขาก็ฝากให้ฉันดูแลนายแล้วด้วย ” ฮีชอลบอกเมื่อเห็นว่าเด็กชายคงไม่สบายใจที่พี่ชายของตนไม่อยู่เฝ้า
“ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ฮะ
..ว่าแต่คุณมาที่นี่ทำไมเหรอ ”
“ ย๊า!!!! ทำไมนายถามอะไรแปลกประหลาดอย่างนี้ ฉันก็มาเฝ้านายน่ะสิ ตั้งแต่วันนั้นฉันก็อยู่นี่ตลอด สามวันแล้วที่ฉันไม่ได้กินอะไรเลย ”
“ สามวันหรือฮะ ” คนตัวเล็กทำตาโต
“ ก็ใช่น่ะสิ นายต้องตอบแทนบุญคุณของฉันแล้วนะงานนี้ ”
“ ผมไม่ได้ใช้ให้คุณมาสักหน่อย ” แทมินคิดก่อนนอนเอนกายลงบนเตียงอีกครั้ง มือเล็กดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดจนถึงจมูก
“ หนาวเหรอ? ”
“ เปล่าฮะ ”
“ หิวมั้ย? ”
“ ไม่ฮะ ”
“ ปวดหัวอีกรึเปล่า ”
“
. ” แทมินไม่ได้ตอบอะไรออกไปเพียงแค่ส่ายหน้าช้าๆ
“ มีอะไรจะถามฉันอย่างนั้นหรือ ” ฮีชอลถาม
“ เปล่าฮะ ”
“ แต่สายตานายมันฟ้องว่า นายกำลังอยากจะถามอะไรฉันไม่ใช่เหรอ ”
“ คุณฮะ???? ”
“ หืม ว่าไง ”
“ ขอบคุณนะฮะที่มาเฝ้าผม ”
“ เรื่องแค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอก ” มือเรียวเอื้อมไปลูบศีรษะคนตัวเล็กเบาๆ
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับที่แพทย์หนุ่มกำลังเดินเข้ามาและนั่นก็สร้างความขุ่นเคืองใจให้กับฮีชอลเป็นอย่างยิ่ง
“ ไม่เจอกันนานนะครับคุณฮีชอล ”
“ เช่นกันครับ คุณหมอปาร์คจองมิน ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณอีก ไม่ทราบว่าคุณหมอปาร์คมินซูล่ะครับ ”
“ พอดีว่าคุณหมอปาร์คติดเคสฉุกเฉินครับ ผมเลยมาแทน ”
“ อ่อ อย่างนี้หรอกหรือครับ ” ฮีชอลเอ่ยทั้งๆที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไร
“ เป็นไงแทมิน สบายดีมั้ย ไม่เจอกันนานนะแล้วก็ไม่คิดว่าจะเจอในสภาพนี้ คุณฮีชอลเขาดูแลไม่ดีรึไง ”
“ เอ่อ
..คือว่า ผมไม่ใช่
”
“ คนที่เขาสบายดีจะมานอนอยู่ที่โรงพยาบาลทำไมล่ะ ผมว่าคุณรีบเช็คร่างกายหมอนี่ก่อนเถอะ อย่าเพิ่งซักประวัติอะไรมากมายตอนนี้เลย ” ฮีชอลตัดบท
.
.
.
“ คุณรู้จักคุณหมอจองมินหรือฮะ ” เด็กชายถามหลังจากหมอหนุ่มเดินออกไป
“ อืม ”
“ ทำไมไม่บอกไปล่ะครับว่าผมไม่ใช่แทมินของคุณ ”
“ ฉันไม่จำเป็นต้องบอกหมอนั่น ”
“
. ”
“ พักผ่อนนะ ฉันขอตัวกลับก่อน ” ชายหนุ่มขยับผ้าห่มขึ้นให้แทมิน
“ ขอบคุณฮะ กลับไปอย่าลืมทานข้าวนะฮะ ”
“ อืม ”
“ คุณฮะ!!! ” ร่างบางตะโกนเรียกคนที่กำลังเดินออกไป
“ หืม ว่าไง ”
“ เอ่อ พรุ่งนี้คุณ
. ”
“ ฉันจะมา ” ฮีชอลตอบก่อนที่เด็กชายจะถามคำถามจบ ชายหนุ่มมองหน้าคนตัวเล็กบนเตียงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าแทมินไม่ได้ถามอะไรอีกเขาจึงเดินออกไป
“ ไหนคุณว่าจะไม่มาเจอหน้าผมอีก แล้วทำไม ทำไมคุณถึงมาเฝ้าผม ไหนคุณบอกว่าไม่รู้สึกอะไรกับผม แต่ที่คุณทำแบบนี้จะไม่ให้ผมรู้สึกอะไรกับคุณได้ยังไง ”
“ คุณฮะ ขอบคุณนะฮะ ขอบคุณที่ห่วงใยผมถึงคุณจะไม่รักผมก็ไม่เป็นไร ขอแค่คุณอ่อนโยนกับผมเหมือนวันนี้ ผมก็พอใจแล้วฮะ ”
“ ถ้าผมสามารถทำให้ใจของคุณหายเจ็บได้ จะให้ผมเป็นตัวแทนเขา ผมก็ยอม ”
.
.
.
“ เด็กคนนี้เป็นใคร ” แพทย์หนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประชาสัมพันธ์ถามชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกมา
“ นายหมายถึงอะไร ”
“ เด็กคนนี้ไม่ใช่อีแทมิน ”
“ จะใช่หรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับนาย ” ฮีชอลถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ อีแทมินอยู่ที่ไหน ”
“ ก็นอนอยู่ในห้องนั่นไง ”
“ คิมฮีชอล นายคิดว่าฉันโง่รึไง เด็กนั่นชื่อปาร์คแทมิน อีแทมินกรุ๊ปเลือดB แต่เด็กนี่กรุ๊ปA ”
“ นายก็สืบมาหมดแล้วนี่ ฉันคงไม่ต้องบอกอะไรนายอีก ” ร่างสูงเดินจากไปโดยไม่สนใจ จนกระทั่งปาร์คจองมินตะโกนออกมาเสียงดัง
“ ฉันไม่ได้อยากจะถามอะไรนาย เพียงแค่สงสัยว่านายเจอแฝดนั่นได้ยังไง ”
“ แฝด????? ” ฮีชอลหันหลังกลับมาพร้อมกับคำถามมากมายที่เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วินาที
“ ถ้าแทมินกับเด็กคนนี้เป็นแฝดกัน นั่นหมายความว่า ฉันกับเด็กนั่นเป็น
”
LAST รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา
Won-Kyu
“ กินให้หมด อย่าให้เหลือ เข้าใจมั้ย ” คยูฮยอนเสียงเข้ม
“ ถ้ากินหมด ฉันไม่ท้องแตกตายก่อนรึไงเนี่ย ” ซีวอนเอ่ยเมื่อมองเห็นอาหารที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ
“ อย่าบ่นน่า ฉันอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาทำให้นายกิน หน้าที่นายก็คือรีบๆกินเข้าไปซะ ”
“ แน่ใจนะว่ากินได้ ” ซีวอนเหล่ตามอง
“ ทำไมจะไม่ได้ อร่อยออกจะตาย ”
“ นั่นไง มันคงอร่อยจนทำให้ฉันต้องตายแน่ๆ ”
“ งั้นก็เชิญไปกินกับคนที่ทำมาให้นายวันก่อนเถอะ ส่วนนี่ก็ทิ้งให้หมามันกินก็แล้วกัน” ร่างบางตัดพ้อเสียงเบาก่อนจะรีบยกอาหารที่วางบนโต๊ะขึ้นมาหวังจะเอาไปทิ้ง
“ งอนอีกแล้ว ” มือหนาคว้าเอวบางให้นั่งลงบนตักของตนพร้อมหยิบจานอาหารในมือของคยูฮยอนวางไว้บนโต๊ะเช่นเดิม
“ ก็นายชอบว่าฉันอยู่เรื่อย ”
“ แค่แซวเล่นเท่านั้นเอง ”
“ แซวบ้าอะไรล่ะ เห็นว่านายไม่ค่อยสบายฉันก็ลุกมาเตรียมอาหารให้แต่เช้า นอกจากไม่กินแล้วยังจะบ่นอีก ” ร่างบางหน้าบึ้ง
“ ใครบอกว่าจะไม่กินล่ะ ฝีมือภรรยาทั้งคน ” ซีวอนกระชอบอ้อมกอดมากขึ้นอีก
“ อย่ามาพูดดีเลย ”
“ ทำยังไงเด็กดื้อจะหายงอนกันนะ ทำแบบนี้จะหายหรือเปล่า ”
จุ๊บ ~ เป็นไปอย่างรวดเร็วเมื่อชายหนุ่มส่งริมฝีปากหนาไปยังพวงแก้มนวลโดยที่คนตัวเล็กยังไม่ทันตั้งตัว
“ คนผีทะเล ทำอะไรเค้าน่ะ ” คนตัวเล็กรีบลุกหนีพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบแก้มของตนทันที ดวงตารีจ้องมองหน้าผู้เป็นสามีเขม็งด้วยใบหน้าที่ขึ้นสี
“ อาการแบบนี้โกรธ
หรือว่าอายครับ ” ซีวอนลุกขึ้นตาม
“ ไม่พูดด้วยแล้ว ”
“ มากินด้วยกันนะ ” ชายหนุ่มคว้าแขนเรียวไว้
“ ไม่กิน กลัวตาย ” คยูฮยอนตอบหน้ายู่
“ ฉันไม่มีแรงเลย อยากได้กำลังใจ มานั่งเป็นเพื่อนหน่อยนะ ”
“ ไปหาเอาที่อื่นสิ แถวนี้มันไม่มีหรอกไอ้กำลังใจที่นายอยากได้น่ะ ” เด็กหนุ่มพยายามแกะแขนของสามีออกไป
“ ถ้าตรงนี้ไม่มีให้แล้วจะไปหาที่ไหนได้อีกล่ะ ฮื้ม? ”
“ ไปหาเอาที่โซลสิ มีออกเยอะแยะ ”
“ ทำไมหายงอนยากจังน้า~
. ”
“ ไม่ได้งอนสักหน่อย นายรีบปล่อยฉันสักทีเถอะ รำคาญจะแย่อยู่แล้ว”
“ อืม ขอโทษนะ ” ซีวอนเอ่ยเสียงเบาพร้อมปล่อยแขนออกจากการเกาะกุมก่อนจะหันหลังเดินไปยังโต๊ะอาหารโดยมีคนตัวเล็กมองตามด้วยใบหน้าเศร้า
“ คยูฮยอนนะคยูฮยอน นายจะบ้าเหรอ ทำไมทำตัวงี่เง่าอย่างนี้นะ รีบตามเขาไปสิไอ้บ้า!!!! หมอนั่นกำลังไม่สบายอยู่นะ นายยังทำตัวแย่อย่างนี้อยู่อีก ” ร่างบางต่อว่าตัวเองในใจแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ก้าวตามผู้เป็นสามีไป จนกระทั่งร่างสูงเซถลาไปเล็กน้อย
“ ซีวอน!!!!!!!! ” คยูฮยอนรีบเข้ามาพยุงร่างสูงให้นั่งลงบนโซฟาหนา ใบหน้าหวานซีดเผือดด้วยความกังวลเพราะคิดว่าตนเป็นเหตุให้ชายหนุ่มมีอาการเช่นนี้
“ ไปหาหมอเถอะนะ ” ร่างบางบอกกับสามี
“ ไปทำไม ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ”
“ ทำไมจะไม่เป็น ดูนายตอนนี้สิ คนแข็งแรงอย่างนายทำไมเดินเซบ่อยอย่างนี้ล่ะ เมื่อไรนายจะบอกความจริงกับฉัน โรคนายกำเริบใช่มั้ย ” มือเรียวกุมมือหนาไว้แน่น
“ โรคอะไร? ”
“ ฮึก ฮึก ถึงนายไม่เคยบอก แต่ฉันก็รู้ว่านายเคยผ่าตัดมะเร็ง แล้วตอนนี้อาการนายกำเริบใช่มั้ย ” คยูฮยอนสะอื้นไห้
“ อย่าห่วงฉันเลยนะ ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ”
“ อย่าห่วงเหรอ นายพูดแบบนั้นได้ไง นายเป็นสามีฉันนะ ถ้าไม่ห่วงนายจะให้ฉันไปห่วงใครล่ะ ”
“ นั่นสินะ มันคงเหมือนหน้าที่ ที่นายต้องคอยเป็นห่วงฉัน แต่ถึงฉันตายไปนายคงไม่รู้สึกอะไรใช่มั้ยล่ะ ”
“ ชเวซีวอน!!!!! ” ร่างบางตะคอกพร้อมลุกขึ้นยืน
“
.. ”
“ ใช่สิ หน้าที่แถมมันยังเป็นภาระกับฉันด้วย ฮึก ฮึก ทุกวันนี้ฉันคิดอยู่เสมอว่าทำไมต้องแต่งงานกับนาย ทำไมต้องมาคอยให้นายห้ามนั่น สั่งนี่อยู่ทุกวัน ฮึก ฮึก ทำไมต้องทนอยู่กับคนที่เขาไม่มีใจให้เรา ฮึก ทำไม ทำไม ฮึก ฮึก ทำไม นายต้องรับผิดชอบกับเรื่องในคืนนั้น ฮึก ทำไมไม่ปล่อยให้มันผ่านไป ทำไมต้องให้ฉันมาเป็นตัวถ่วงนาย ฮึก แล้วทำไม ทำไม ฉันต้องไปรักคนอย่างนายด้วย ถ้าอยากตายนักก็เชิญเลย ฮือออออออออออออออ ” คนตัวเล็กก้มหน้าร้องไห้อย่างหนัก
“ คยูฮยอน
..ฉันขอโทษ ” ซีวอนลุกขึ้นมากอดภรรยาของตนเบาๆเขาไม่คิดว่าจะทำให้คนตรงหน้าต้องเสียใจขนาดนี้แต่ใบหน้าคมก็อดที่จะอมยิ้มเล็กน้อยออกมาไม่ได้ด้วยพอใจในคำตอบที่คิดว่าร่างบางคงหลุดพูดออกมา
“ ฮือออออออ นายอย่าพูดว่านายจะตายสิ ”
“ ฉันไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น ”
“ ห้ามพูดนะ ห้ามพูดว่านายจะเป็นอะไร นายต้องอยู่กับฉันไปนานๆ ” เด็กหนุ่มกอดผู้เป็นสามีเอาไว้แน่น
“ อืม ฉันจะอยู่กับนายไปจนกว่านายจะเบื่อเลย ”
“ ฮึก ฮึก ฉันไม่เบื่อหรอก นายสิจะเบื่อเด็กเอาแต่ใจอย่างฉัน ”
“ ฉันจะเบื่อนายได้ยังไง นายเป็นภรรยาฉันนะ ”
“ ก็เหมือนที่นายพูด มันเป็นหน้าที่ใช่มั้ยล่ะ ” ใบหน้าหวานซุกลงบนอกแกร่งของคนตัวโตแน่น
“ ใช่ มันเป็นหน้าที่ แต่เป็นหน้าที่ที่ฉันเต็มใจทำและพร้อมจะทำมันไปตลอดชีวิตของฉัน ” มือหนาจับคนตัวเล็กออกจากอ้อมกอดแล้วเช็ดน้ำใสๆที่ดวงตารีเบาๆ คยูฮยอนมองหน้าชายหนุ่มก่อนจะหลบสายตาเมื่อผู้เป็นสามีกำลังจะโน้มตัวลงมา
“ มะ ไม่ได้นะ ไม่ให้จูบ ไม่ให้ทำอะไรทั้งนั้น ” ร่างบางหันหน้าหนี
“ หืม ทำไมล่ะครับ ”
“ ไปหาหมอก่อนนะ ”
“ จะให้ไปยังไงล่ะ ฉันไม่มีแรงขับรถหรอก ”
“ ให้คุณพ่อพาไปไง ”
“ ไปถึงนั่น ฉันก็ต้องการกำลังใจนี่ ” อีกครั้งที่ซีวอนโอบกอดผู้เป็นภรรยา
“ ฉะ ฉันจะไปกับนายด้วย ”
“ แต่นายกลัวการขึ้นรถไม่ใช่หรือ ”
“ มันก็จริง แต่ฉัน ฉันจะไปกับนาย ”
“ ฉันไม่อยากให้นายเป็นลมตอนนั่งรถไปนะ ”
“ ไม่เป็นไร ให้เป็นลมสิบครั้งฉันก็จะไป ”
“ อ่า ~ ขอบใจนะ แค่ฉันรู้ว่านายรักฉันมากขนาดนี้ ชีวิตฉันก็ยาวไปอีกเป็นร้อยปีแล้วล่ะ ”
“ บะ บ้าเหรอ ใครรักนายกัน ” คยูฮยอนเบือนหน้าหนี
“ อ้าว แล้วใครนะที่บอกว่า ทำไมต้องไปรักคนอย่างนายกัน น่ะ ”
“ คะ ใครพูด เค้าไม่ได้พูดสักหน่อย ”
“ นี่ คยูฮยอน ” ชายหนุ่มกระชับอ้อมกอดให้แน่นมากขึ้นก่อนจะตั้งใจบอกความจริงเรื่องที่เขาไม่เป็นอะไรให้แก่ภรรยาของตนฟัง
“ หืม
.. ”
“ ฉันมีเรื่องจะสารภาพ ถ้าฉันบอกไปนายอาจจะงอนฉัน แต่ที่ทำแบบนี้ฉันมีเหตุผลนะ ”
“ เรื่องอะไรเหรอ? ”
“ ความจริงแล้วฉัน
.. ”
ติ๊ง ต่อง ~ ติ๊ง ต่อง ~ ติ๊ง ต่อง ~ (กริ่งเสียงโบราณมาก = = )
“ อ๊ะ!!!! ใครมาน่ะ ” คนตัวเล็กรีบดันตัวเองออกมาจากอ้อมกอดเพราะเกรงว่าจะมีคนมาเห็นเข้า
“ นั่นสินะ เดี๋ยวฉันไปดูก่อน ”
“ มะ ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันออกดูเอง นายไปนั่งพักผ่อนก่อนนะ ”
“ สวัสดีจ้ะ ” หญิงสาวแสนสวยคนเดิมที่เคยมาแล้วเอ่ยทักทายเมื่อเห็นคนที่ตนคิดว่าเป็นหลานชายของซีวอน
“ สวัสดีครับ เอ่อ มาหาซี
เอ่อ มาหา
.. ”
“ ใช่จ้ะ ฉันมาหาซีวอน ”
“ งั้นเชิญเข้ามาก่อนครับ ” เด็กหนุ่มเดินนำหน้าหญิงสาวเพื่อไปพบชายหนุ่มที่นั่งรออยู่ในห้องรับรอง
“ ซีวอนคะ
.. ”
“ กาฮี !!!!!” เจ้าของบ้านตกใจไม่ใช่น้อยที่อยู่ๆหญิงสาวที่ทำงานอยู่ในบริษัทคู่ค้าของตนเดินเข้ามาหา
“ แหม ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ กาฮีเอาใบนัดตรวจสุขภาพประจำปีของคุณมาให้น่ะค่ะ คุณแม่ของคุณท่านเตือนมาด้วยว่า ให้พาคุณไปพบหมอด้วย เลื่อนนัดมาหลายครั้งแล้ว ”
“ ตรวจสุขภาพประจำปี? ”คยูฮยอนแทรกขึ้นมา
“ จ้ะ ”
“ ไม่ใช่ว่าโรคกำเริบเหรอ ”
“ หืม โรคอะไรจ๊ะเด็กน้อย ” หญิงสาวทำหน้าสงสัย
“ เอ่อ คยูฮยอน!!!!! ” ซีวอนเดินไปหาเด็กหนุ่มที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะรู้ความจริงเข้าให้แล้ว ทั้งๆที่เขาคิดว่าถ้ารู้จากปากเขาเองคนตัวเล็กอาจจะแค่งอนเล็กน้อย แต่นี่ความจริงต้องมาเปิดเผยเพราะคนอื่น เจ้าตัวเล็กของตนคงงอนให้ง้อหลายวันหรือไม่ก็อาจจะโกรธตนไปเลยเป็นแน่
“ แล้วทำไมใบนัดของหมอนี่ถึงได้อยู่กับคุณ ” ร่างบางยังยิงคำถามต่อไปไม่หยุด
“ คืนก่อนหน้านี้ ซีวอนเขาลืมทิ้งไว้ที่บ้านฉันน่ะสิ ”
“ บ้านอย่างนั้นเหรอ???? ”
LAST รักสุดท้ายที่ใจปรารถนา
Hyun-Hyuk
“ แต่ฮยอกแจ
.. ”
“ หืม???? ”
“ ฉันเคยแกล้งเดินไปซื้อไอติมเพราะคนคนหนึ่ง หลอกล่อเด็กคนนึงให้อ้อนพี่ชายซื้อไอติมให้ แล้วก็แกล้งทำเป็นลืมหมวกไว้กับรถขายไอติม เพื่อที่คนที่อยู่ข้างหลังฉันเขาเรียกฉันให้หันกลับไปเอาหมวก ทั้งๆที่คิดแผนเอาไว้อย่างดี พอหันกลับไปเขาคนนั้นก็หายไปซะแล้ว ”
“ ฮยอนจุง
.. ”
แปดเดือนก่อนหน้านี้
“ เฮ้ย!!!! ทำไมต้องมาเสียตอนนี้ด้วยวะ ” ชายหนุ่มสบถ หลังจากเพิ่งกลับจากเมืองนอกแล้วมาขับรถเล่นกับเพื่อนหญิงแต่อยู่ดีๆรถเจ้ากรรมดันขับต่อไม่ได้ขึ้นมากระทันหันเล่นเอาชายหนุ่มหัวเสียไม่น้อย
“ อย่าหงุดหงิดเลยคะฮยอนจุง เอางี้ฉันว่าเราไปเดินเล่นฆ่าเวลาระหว่างรอคนมาเอารถไปซ่อมดีกว่ามั้ย ” หญิงสาวเอื้อมมือไปสัมผัสชายหนุ่มเบาๆก่อนที่ร่างสูงจะหันมาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินไปยังสวนสาธารณะใกล้ๆ
“ คนเยอะเหมือนกันนะ ”
“ อาจเพราะว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ด้วยมั้งคะ ”
“ อากาศก็เริ่มเย็นแล้วสิ ” ฮยอนจุงแหงนมองท้องฟ้า ขยับหมวกใบโปรดของตนเล็กน้อยก่อนจะเดินนำหญิงสาวไปนั่งยังชิงช้าแถวนั้น
“ เด็กคนนั้นน่ารักดีนะคะ ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นหลังจากมองไปรอบบริเวณพร้อมกับชี้มือไปยังเด็กชายตัวเล็กๆ ที่กำลังเล่นอยู่กับพี่ชาย ที่ทำให้เธอยิ้มคือ เด็กคนนั้นตัวอ้วนๆกลมๆผิดกับพี่ชายที่ตัวผอมเอามากๆ
“ หืม คนไหนเหรอ? ”
“ ที่นั่งกินขนมอยู่ตรงนั้นไงคะ เด็กที่ใส่เสื้อสีชมพูผ้าพันคอสีเขียวน่ะค่ะ ” อีกครั้งที่ร่างบางชี้นิ้วไปยังเด็กชายตัวน้อยกับผู้ที่เธอคาดว่าน่าจะเป็นพี่ชาย
“ แบบนั้นเหรอที่เขาเรียกว่าน่ารัก ตัวออกจะผอมขนาดนั้น ”
“ ไม่ใช่คนนั้นสิคะ อีกคนสิ นั่นน่ะใส่เสื้อสีชมพูที่ไหนกัน ”
“ เด็กอ้วนน่ะเหรอ ตอนเด็กๆก็น่ารักนะ แต่ถ้าโตขึ้นไปแล้วยังกลมอยู่แบบนี้ล่ะก็ เบาหวานกินตาย ”
“ ฮยอนจุง!!!! คุณนี่นะ ไปแช่งเด็กทำไมกัน ” หญิงสาวตีมือลงบนไหล่หนาอย่างรวดเร็ว
“ โอ๊ย!!! โซมิน เธอมาตีฉันทำไมเนี่ย???” ร่างสูงลูบแขนที่ถูกตีเพื่อลดอาการแสบจากการถูกตี
“ ก็ฟังคุณพูดสิ ”
“ ฉันพูดอะไรผิดล่ะ มันจริงมั้ย ถ้าเด็กไม่รักษาสุขภาพมัวแต่กินแบบนั้นมีหวังได้เป็นสารพัดโรค ”
“ แกยังเด็กอยู่นี่คะ ดูอย่างพี่ชายแกสิยังผอมแบบนั้น เด็กคนนั้นโตมาอาจจะผอมเพรียวเลยก็ได้ ”
“ เอาเหอะๆจะอ้วนจะผอมยังไงก็ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อย ทำไมฉันต้องมาเจ็บตัวเพราะอ้วนกลมนั่นด้วย ”
“ เจ็บมากมั้ย ฉันตีไปเบาๆเองนะ ”
“ เจ็บดิถามมาได้ ”
“ ช่วยไม่ได้อยากปากเสียเอง ”
“ โซมินฉันว่านะถ้าคนอื่นมองเขาต้องคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อยแน่ๆ หน้าก็หวาน พูดจาก็สุภาพ ขนาดเป็นเพื่อนกับฉันมานานเธอจะไม่พูดเป็นกันเองสักทีแต่จะมีสักกี่คนนะที่รู้ว่าเธอน่ะมันโหดโคตรๆ ”
“ นี่อย่ามาว่าแต่ฉันเลย คุณต่างหากที่นิสัยผิดกับหน้าตาลิบลับน่ะ ”
“ เธอน่ะสิ ”
“ คุณต่างหาก ”
“ เธอ เธอ เธอ ”
“ เอาล่ะ ฉันยอมแพ้ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเด็ก ขอตัวไปเข้าล้างมือก่อนนะ คุณนั่งรออยู่ตรงนี้ล่ะอย่าไปเล่นซนที่ไหน เดี๋ยวหลงทาง ”
“ ย๊า!!!! ยัยตัวแสบ ” ฮยอนจุงโวยแต่ไม่ทันที่หญิงสาวเดินออกไปพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆนั่นแล้ว
“ ที่เกาหลีนี่น่าเบื่อจริงแฮะ รู้งี้ไม่กลับมาหรอก ” ชายหนุ่มบ่นงึมงำก่อนจะส่งสายตาไปยังชายอีกคนที่น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับตน เด็กหนุ่มที่กำลังป้อนคิมปับให้แก่เด็กชายตัวอ้วน ใบหน้าเศร้าๆของอีกฝ่ายทำเอาฮยอนจุงรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก
“ ทำไม นายถึงหน้าอมทุกข์อย่างนั้นนะ ” สายตาคมมองอีกคนตาไม่กระพริบ สายตาที่เหม่อลอยของร่างบางที่มองมายังชิงช้าตัวข้างๆเขา ก็ทำให้ตนเองอดคิดไปไม่ได้ว่าครั้งหนึ่งหมอนั่นคงถูกคนรักหักอกลงตรงนี้เป็นแน่
“ เฮ้อ!!! อย่าไปยุ่งกับคนอื่นดีกว่า ตัวฉันเองก็กลุ้มใจพอแล้ว ”
“ ถ้าฉันเดินไปตรงนั้น เดี๋ยวหาว่าฉันเข้าไปจีบล่ะสิ ทำไมฉันต้องถูกมองอย่างนั้นด้วยล่ะ ”
“ เฮ้ อ้วนกลม จงหันมา หันมา หันมา ”
“ โถ่โว๊ย!!!!!!! หันมาสักทีสิวะ มัวแต่เล่นบอลอยู่นั่นแหละ ”
“ อ๊า!!!! อย่างนั้นแหละ อ้วนกลม อยากกินไปติมมั้ย ไอติมน่ะ ให้พี่ไปซื้อให้กินดิ ” ชายหนุ่มชี้ไม้ชี้มือไปยังรถขายไอศกรีมที่อยู่ห่างออกไปจากนี่ไม่ไกลนักให้แก่เด็กชายที่กำลังหันมาสนใจตนเอง
“ ไอติม ไอติม ให้พี่ชายไปซื้อดิ อร่อยนะ ” ฮยอนจุงทำปากมุบมิบเมื่อเห็นว่าเด็กชายเริ่มสนใจไอศกรีมนั่นเข้าให้แล้ว
“ ทำอะไรอยู่คะ ” หญิงสาวถามเมื่อเดินกลับมาแล้วเห็นชายหนุ่มทำท่าทางผิดสังเกต
“ เปล่านี่ อยู่ๆก็อยากกินไอติม ไปกินกันมั้ย ”
“ หา!!!! คุณเนี่ยนะกินไอติม ไหนว่าไม่ชอบของหวานไงล่ะ ”
“ เอาเหอะน่า รีบไปเร็วฉันเลี้ยงเอง ” พูดจบก็วิ่งจูงมือหญิงสาวไปทันที
“ ด่าหิมะคงใกล้ตกใหญ่แล้วล่ะคนอย่างคิมฮยอนจุงชวนฉันมากินไอติม ”
“ เฉยๆเถอะน่า เธอเองก็ชอบไม่ใช่เหรอ บ่นเป็นคนแก่ไปได้ ”
“ จ้า พ่อเด็กน้อย ”
“ เฮ้อ ร้อนนะ ” ชายหนุ่มถอดหมวกออกมาพัดใบหน้าของตน เมื่อรู้ว่าชายอีกคนเดินมาต่อท้ายแถวตน ทั้งๆที่อยากจะหันไปมองหน้าให้ชัดๆแต่ก็ไม่กล้าขึ้นมาเอาซะดื้อๆ
“ ร้อนที่ไหน อากาศออกจะเย็น”
“ เธอจะกินรสอะไร สั่งไปสิ ”
“ อะไรก็ได้ ตามใจคนเลี้ยง ”
“ รสอะไรก็ได้มันไม่มีหรอกนะ เลือกมาสักรส เวลาไม่อร่อยจะได้ไม่โทษคนอื่น ”
“ สตรอเบอร์รี่ก็แล้วกัน ”
“ งั้นขอสตรอเบอร์รี่สองแท่งครับ ” ชายหนุ่มบอกกับคนขายพร้อมรับไอศกรีมมาแต่ก็ไม่ลืมที่จะเอาหมวกวางทิ้งไว้บนรถขายไอศกรีมนั่น
“ คุณลืมหมวกหรือเปล่าคะ ”
“ อะ เอ่อ จริงด้วยสิ ”
“ คงจะลืมไว้ที่รถขายไอติม เดี๋ยวฉันไปดูให้นะ ”
“ มะ ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันไปเอง ” ไม่ทันจบคำเพื่อนของตนก็วิ่งกลับไปยังที่ๆเขาแกล้งลืมหมวกทิ้งไว้
“ ยัยแสบเอ๊ย!!!! จะวิ่งกลับไปทำไมเนี่ย” ร่างสูงได้แต่บ่นในใจ เมื่อแผนมันผิดไปจากที่คิด ความจริงแล้วที่เขาคาดหวังเอาไว้คือ ชายร่างบางคนนั้นจะต้องตะโกนเรียกให้เขากลับไปเอาหมวกแล้วบทสนทนาทั้งหมดที่เขาคิดไว้ก็น่าจะเกิดขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนตัวแสบของตนวิ่งไปอย่างรวดเร็วขนาดนั้น
“ หมวกของคุณอยู่นี่ไงคะฮยอนจุง ”
“ อยู่นี่จริงๆสินะ หาอยู่ตั้งนานคิดว่าหายไปไหนซะอีก ไม่รู้รึไงว่าฉันคิดถึงนายมากนะ นายล่ะคิดถึงฉันมั้ย ” ร่างสูงกำหมวกของตนไว้แน่นก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
“ เฮ้อ แล้วทำไมฉันต้องพูดอะไรทุเรศๆออกไปแบบนั้นนะ ” ฮยอนจุงทำหน้าเหนื่อยใจที่ตัวเองได้เผลอพูดอะไรแปลกๆออกไปและเมื่อคิดได้ชายหนุ่มก็หันไปหาผู้ชายรูปร่างผอมคนนั้น แต่ช้าไปเสียแล้วเมื่ออีกฝ่ายเดินกึ่งวิ่งไปหาเด็กชายอีกคน สองขาตั้งท่าจะวิ่งตาม แต่หญิงสาวก็เอ่ยรั้งไว้ซะก่อน
“ ฮยอนจุงคะ รถมารับเราแล้ว รีบไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณลุงจะรอนาน ”
“ ตะ แต่ว่า ”
“ มีอะไรหรือเปล่าคะ ”
“ ปะ เปล่า ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ ”
.
.
.
ปัจจุบัน
“ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าจะได้เจอนายในอีกกี่วัน หรืออีกกี่เดือน แต่ฉันก็มีความรู้สึกว่าจะได้เจอกับนายอีกครั้งแน่ๆและในวันนั้นที่ฉันได้เจอกับนายที่มหา’ลัย ฉันก็รู้ได้เลยว่านายนี่แหละที่ฉันอยากจะอยู่ด้วย น่าแปลกนะทั้งๆที่ฉันเคยเห็นหน้านายแค่ครั้งเดียวจากที่ไกลๆ แค่นั้นก็ทำให้ฉันหลงรักนายได้ และฉันได้สาบานเอาไว้แล้วว่าไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม ฉันจะทำให้นายเป็นของฉันให้ได้ ”
“ ฮยอนจุง นาย
..”
“ อะไรกัน ปฏิกิริยานี่มันค่อนข้างเบาเล็กน้อยกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะ ฉันคิดว่านายจะซึ้งมากกว่านี้ซะอีก ”
“ นายจะให้ฉันซาบซึ้งอะไรมิทราบ เจอกันครั้งแรกนายก็รีดไถฉันขนาดนั้น แถมยังขโมยจูบฉันไปอีก ” ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆจ้องตาเขม็ง
“ ก็ฉันคิดได้แค่วิธีนั้นนี่ ถ้าไม่ทำแบบนั้นฉันจะได้เจอนายมั้ยล่ะ ”
“ แต่ก็ไม่เห็นต้องทำแบบนั้นนี่ ”
“ ไม่ทำแบบนั้นจะให้ฉันทำแบบไหนล่ะ ”
“ เข้ามาพูดดีๆฉันก็คุยด้วยแล้ว ไม่ต้องมาทำเป็นนักเลงใส่หรอกน่า ”
“ งั้นต่อไปนี้ฉันจะพูดดีๆกับนายนะ ”
“ ให้มันจริงเหอะ ”
“ จริงสิ เพราะนายเป็นแฟนฉัน ฉันจะพูดจาดีๆกับนาย ”
“ ฉันไปเป็นแฟนนายตั้งแต่เมื่อไร พูดจาแปลกประหลาดอีกแล้วนะ ”
“ ก็บอกแล้วไงว่านับแต่วันนี้เป็นต้นไป ”
“ ฉันยังไม่ได้รับคำนายเลย ”
“ พูดมากน่าฮยอกแจ รีบไปซื้อขนมง้ออ้วนกลมกันเถอะ ป่านนี้คงโกรธนายเป็นร้อยๆปีแล้วล่ะ ”
“ อ๊า!!! จริงด้วยสิ ซองมินคงงอนมากแล้วแน่ๆ ถ้าฉันง้อไม่ได้ฉันจะโทษนายคอยดูนะ ”
“ อื้ม ฉันจะคอยดูอยู่ใกล้ๆนายนี่แหละ ”
“ บ้าไปแล้วนาย ”
“ โถ่ ทำเป็นโกรธกลบเกลื่อน จริงๆแล้วเขินล่ะสิ ดูดิหน้าแดงเลย ”
“ ไม่ได้เขิน ”
“ เขินแน่ๆ ” ฮยอนจุงยิ้ม
“ อย่าพูดมากน่า รีบไปซื้อขนมกันเถอะ ”
“ ก็ได้ๆ เร่งจริง อ๊ะ!!!!!!!!!!!!! ”
“ นะ นายเป็นอะไรไป ” ฮยอกแจตกใจเมื่ออยู่ๆชายหนุ่มก็เบรครถกระทันหัน พร้อมกับยกมือกุมศีรษะตนเองด้วยใบหน้าเหยเก
“ ฉะ ฉันปวดหัว!!!!! ”
“ ฮยอนจุง ยะ อย่ามาล้อเล่นอีกนะ!!!!!!!!!!!!!!!! ”
“ ปวด
..ฮยอกแจ ฉะ ฉันปวด ”
โปรดติดตามตอนต่อไป
แม่ยกฮยอกชวนคุย
มาแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
รอกันนานมั้ย คิดถึงจังเลย T^T
กลับมาแล้วและจะไม่หายไปนานๆแบบนี้
กลับมาแล้วพร้อมกับเนื้อเรื่องที่ตอนแรกเหมือนจะแฮปปี้ทุกคู่
ไม่ต้องห่วงค่ะ ยี่ห้อคนเขียนคนนี้แล้ว รับรองไม่ดราม่าแน่นอน จริงๆนะ ^^
มาครั้งนี้จะไม่ทิ้งขว้างฟิค ใครที่งอนอยู่ หายงอนเค้าเถอะนะๆ *o*
ตอนนี้ใครมีอะไรเชิญระบายได้จ้า ตอนหน้าจะตอบเม้นให้หายคิดถึงนะจ๊ะ
เจอกันใหม่ตอนหน้ารับรองไม่ดราม่าแน่นอน อะคึ อะคึ
ความคิดเห็น