ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF. SJ] รวมสารพัดรื่องสั้น WonHyuk SJ และคู่อื่นๆ

    ลำดับตอนที่ #10 : [SF] Wanted Santa

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 54


    Title : Wanted Santa

    Author : Grazia

    Pairing : Siwon x Hyukjae

    Rate : G

    Author’s note : ขอบคุณคุณเพื่อนที่ให้ไอเดียว่าเขียนฟิคซานตาครอสกับเด็กสิ O_O

    __________________________________________________________________________________



    24 ธันวาคม

     

    Jingle bells

    Jingle bells

    Jingle all the ways

     

               

    ท่ามกลางบรรยากาศแสนสุขของเทศกาลคริสตมาส เทศกาลแห่งความอบอุ่นและการเฉลิมฉลอง มีใครบ้างนะ ที่ไม่ได้สนุกสนานไปกับเสียงจิงเกิลเบลล์...


               เด็กชายตัวน้อยวัยหกขวบเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่กำลังมองเขาอย่างดูถูก อี ฮยอกแจ’ เชื่อว่าเรื่องเล่าวันคริสตมาสที่แม่ของเขาเคยเล่าให้ฟังตอนเด็กๆ เป็นเรื่องจริง แม้ว่าญาติของเขาจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

     “ผมเชื่อว่าซานตาครอสมีจริง”

     “แค่เรื่องหลอกเด็ก ยังจะเชื่อเป็นตุเป็นตะอีก งี่เง่า”

               “ซานตาครอสจะปีนปล่องไฟลงมา และจะให้ของขวัญคนที่เป็นเด็กดี” ขอบตาโค้งเรียวร้อนด้วยน้ำใสๆ ซานตาครอสมีจริง ทำไม่ผู้ใหญ่ถึงไม่ยอมเชื่อ ทำไมต้องดูถูกความเชื่อของเขา ถึงเขาเองไม่เคยเจอซานตาครอสก็จริงแต่ก็ยังเชื่อว่าหากเขาเป็นเด็กดีต่อไปเรื่อยๆ สักวันซานตาครอสใจดีจะมาหา ฮยอกแจจึงทำตัวเป็นเด็กดีเสมอมา

                ผนังในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์หรูมีกระดาษแผ่นเล็กแผ่นน้อยแปะทับวอลเปเปอร์จนเกลื่อน กระดาษแต่ละใบมีรูปซานตาครอส มนุษย์หิมะ กวางเรนเดียร์ ระฆัง และต้นคริสมาสต์ ระบายด้วยสีเทียนฝีมือเด็กๆ ดูเหมือนนี่จะเป็นเครื่องประดับเพียงอย่างเดียวที่ทำให้บ้านหลังนี้มีกลิ่นไอรับกับเทศกาล เมื่อไม่มีต้นคริสตมาสสีเขียว สายรุ้ง หรือไฟกระพริบวิบๆ แบบที่บ้านหลังอื่นมี

               ฮยอกแจกำลังจะลุกขึ้นเอากวางสีส้มอีกอันที่เพิ่งทำเสร็จไปติดบนผนัง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อรูปซานตาครอสที่เคยแปะไว้ร่วงแหมะลงมากองกับพื้นเสียก่อน ตามด้วยรูปดาว กระดิ่ง และอีกมากมาย

               “เห็นแล้วหงุดหงิดจริงๆ เลิกแปะสักที เกะกะลูกตา” เมื่อมองขึ้นไปฮยอกแจก็เห็นคุณน้าดึงสวบๆ เอากระดาษที่ตัวเองแปะไว้ออก ราวกับของพวกนั้นเป็นหยากไย่บนผนัง หัวใจดวงน้อยเต้นหน่วง น้ำตารื้นขึ้นเต็มขอบตา

    “ใจร้าย คุณน้าใจร้าย คุณน้าดึงออกทำไม” อุตส่าห์ทำมาตั้งหลายวัน

    “รก ดูซิ กาวติดผนังเป็นด่างเลย”

                เด็กน้อยที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางทัดทานความคิดของผู้ใหญ่ ได้แต่ยืนมองอย่างปวดใจ มือเล็กหยิบรูปลุงหนวดใส่ชุดสีแดงที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปในห้องตัวเอง ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม กำแผ่นกระดาษที่ยับย่นจนมันยิ่งยับย่นขึ้นไปอีก ได้ยินเสียงแว่วๆ ของคุณน้า(ใจร้าย)ดังมาจากข้างนอก

    “ยังไงซานตาครอสก็ไม่มาหรอก”

    ไม่จริง !

    ยังไงซานตาครอสก็ต้องมา

     

     

    ชายหนุ่มวัยยี่สิบสี่ปีเหยียบอยู่บนกระเบื้องมุงหลังคา ก้มหน้าลงมองกรอบสี่เหลี่ยมขนาดพอดีให้ลอดตัวลงไปได้ แสงไฟที่ดับสนิทบริเวณรอบๆ บ้านบอกให้รู้ว่าเจ้าของบ้านหลังนี้น่าจะไปฉลองคริสตมาสที่ไหนสักแห่ง รูปทรงบ้านที่ดูหรูหราก็บ่งบอกอีกว่าภายในคงจะมีของล้ำค่าให้เอาไปขายในตลาดมืดไม่น้อย

    บ้านคนรวยย่อมมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดี นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาไม่ลักลอบเข้าทางประตูหรือหน้าต่าง มือเรียวล้วงเข้าไปในถุงสะพายด้านหลังหยิบแท่งไฟแบล็กไลท์ที่ด้านข้างเขียนว่า ซูเปอร์จูเนียร์ ซูเปอร์โชว์ 3’ ออกมา ก่อนจะโยนลงไปในปล่องไฟเป็นอุปกรณ์นำร่องเพื่อให้แน่ใจว่าเขาสามารถใช้เส้นทางนี้เข้าไปสู่ตัวบ้านได้อย่างปลอดภัย อย่าถามว่าทำไมไม่ใช่เลเซอร์หรืออะไรที่ไฮเทค เขาไม่ใช่หน่วย SWAT ที่รัฐบาลจะออกทุนค่าอุปกรณ์ให้ ไม่ใช่ลิ่วล้อที่มีมาเฟียอยู่เบื้องหลัง เขาเป็นเพียงนักย่องเบาที่ต้องยืนด้วยขาของตัวเอง (พูดแล้วอยากร้องไห้กระซิกๆ นี่ถ้าไม่ติดว่าแม่ป่วยหนักล่ะก็คนหน้าตาดีๆ อย่างเขาจะไม่มีวันเดินเข้าไปเก็บแท่งไฟหักๆ แล้วมาทำอะไรอย่างนี้หรอก)

    แสงไฟจากแท่งแบล็กไลท์เรื่อเรืองอยู่ข้างล่าง เห็นควันฟุ้งอยู่รอบๆ สันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นขี้เถ้า อย่างนั้นก็แปลว่าช่องทางสะดวก สามารถโดยสารปล่องไฟถึงพื้นได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง โชคดีที่เขาเปลี่ยนถ่านใหม่ทำให้กำลังไฟเข้มขึ้นจนเป็นสีน้ำเงินไพลิน อันที่จริงเขาชักเอะใจแล้วว่ามันใช่แบล็กไลท์อย่างที่เข้าใจหรือไม่ เพราะตอนเอาไปส่องธนบัตรปลอมก็ไม่เห็นความแตกต่างเลย

    จากหลังคาถึงพื้นกะระยะด้วยวิธีปีธาโกรัสได้ความสูงประมาณตึกสามชั้น ตรงกับที่มองเห็นจากภายนอก ถ้าโดดลงไปคงจะดูโง่ๆ และถ้ายิ่งใช้เชือกโรยจะยิ่งโง่ใหญ่เพราะต้องเสียเวลาเก็บหลักฐานว จากมันสมองอันหล่อได้รูปทำให้เขาคิดค้นวิธีใหม่ หนุ่มร่างสูงค่อยๆ หย่อนตัวลงระหว่างปล่องไฟ ทาบแขนและขาให้สัมผัสกับผนังปล่อง ปลอกแขนและปลอกขาที่ทำจากผ้าชนิดพิเศษประกอบกับลีลาส่วนตัวทำให้เขาค่อยๆ ไสลด์ผนังลงมาอย่างสวยงามราวกับซาลาแมนเดอร์!

    แม้จะไม่ใช่หน่วย SWAT แม้จะไม่ใช่หัวขโมยมือพระกาฬ แต่ ชเว ซีวอนก็ได้รับสมญาว่า

    สุภาพบุรุษนักย่องเบา

    ด้วยลีลาการย่องที่เงียบที่สุด สุภาพที่สุด และไร้ร่องรอยที่สุด (คิดเองก็เขินเอง)

    ท่ามกลางความสุขสันต์ ท่ามกลางเสียงจิงเกิลเบล เด็กน้อยกับหนึ่งความหวัง โจรหนุ่มกับหนึ่งมิจฉาภารกิจ คริสตมาสต์ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความอบอุ่น และมีความอบอุ่นรอเราอยู่เสมอ

     

    โดยรอบบ้านหลังใหญ่มืดสลัวผิดกับบ้านหลังอื่น บ้านของฮยอกแจไม่มีพุ่มไม้ประดับไฟ ไม่มีงานเลี้ยงฉลอง มีแต่...ความมืด คุณน้าของเขาคงเข้านอนไปแล้ว ฮยอกแจไม่ได้เจอหน้าเธออีกตั้งแต่เย็น มีแต่อาหารที่วางไว้หน้าห้องให้ดูต่างหน้า เขาไม่อยากออกไปข้างนอกเพื่อเจอกับรูปวาดอยู่ในถังขยะ ไม่อยากเห็นความว่างเปล่าในวันคริสตมาสอีฟ แต่ท้องที่ร้องประท้วงบอกเขาเป็นอย่างดีว่าไข่ดาวและแฮมทอดที่กินไปเมื่อเย็นคงย่อยหมดแล้ว 

    มือเล็กๆ หยิบคุกกี้จากกระเป๋าเป้ที่เหลือกลับมาจากโรงเรียนขึ้นมากิน มือหนึ่งก็คลี่กระดาษรูปลุงซานตาที่ตัวเองเป็นคนวาด แม่เคยบอกว่าซานตาครอสชอบกินขนมหวาน ถ้าวางคุกกี้ซานต้าเอาไว้ตรงปล่องไฟลุงซานตาก็จะมา

    คุกกี้ซานตา! แต่เขาไม่มีคุกกี้ซานตานี่นา แย่จัง

    คิดได้ดังว่าจึงแอบเปิดโคมไฟแล้วหรี่แสงลงน้อยๆ ไม่ให้คุณน้าเห็นว่ายังไม่เข้านอน เดี๋ยวจะถูกดุ หยิบสีโปสเตอร์ขึ้นมาทาลงไปบนคุกกี้ เน้นสีแดงกับสีเขียวเป็นพิเศษ ทาอ่อนๆ ให้น่ารับประทานเหมือนคุกกี้ใบเตยกับสตรอวเบอร์รี่ พอแห้งแล้วก็เอากาวทาทับให้ดูเงางามเหมือนเคลือบกลอส ใช้น้ำยาลบคำผิดวาดหนวดซานตา บีบทับด้วยยาสีฟันกลิ่นสตรอวเบอรี่ โอ้โห น่ากิน!

     น่ากินขนาดนี้ใครจะกินเอง ต้องให้ซานตาครอสกินเท่านั้น!

    แล้วฮยอกแจก็เอาคุกกี้สามสี่ชิ้นวางไว้บนโต๊ะริมหน้าต่าง หรี่โคมไฟน้อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับดับสนิท จงใจให้เห็นคุกกี้หน้าตารับประทาน ร่างเล็กตัวสอดเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่ม น้ำตาที่เสียไปหลายกระติกทำให้ขอบตาบวมเป่งจนใกล้จะปิด

    “ซานตาครอส ฮยอกแจเป็นเด็กดี” บ่นพึมพำกับตัวเอง ดวงตาสีน้ำตาลมองไปที่คุกกี้อย่างมีความสุขก่อนจะปรือปิดลง

    มานะ

    รีบมาเร็วๆ นะ คุกกี้รออยู่!


                                    


               
                การสไลด์ตามผนังปล่องไฟทำ ให้เกิดแรงเสียดทาน ผ้าชนิดพิเศษขาดวิ่นๆ ระคายเคืองไปถึงผิวบอบบางของคนที่น่าจะไปเป็นนายแบบมากกว่าโจร สไลด์ไปก็ร้องซี้ดๆ ไป แต่แสงแบล็คไลท์ในความมืดที่ใกล้เข้ามาบอกให้ซีวอนรู้ว่าอีกอึดใจเท่านั้น เขาก็จะถึงพื้น

    ความแสบร้อนจากด้านข้างค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความอบอุ่นพวยพุ่งขึ้นมา อุ่นสบายระคนร้อน และยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ ซีวอนได้ยินเสียงอะไรแตกดังเปรี๊ยะๆ มาจากข้างล่าง ก้มลงไปดูก็โล่งใจที่ไม่ใช่ซิปกางเกง ทว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างหายไป แบล็คไลท์สีน้ำเงินไพลินหายไป กลับกลายเป็นบุษราคัมสีเหลืองอันโชติช่วง...

    ไฟลุก!

    เชื่อหรือยังว่าคริสตมาสคือช่วงเวลาแห่งความ อบ อุ่น

    ใครมาจุดเตาผิงในบ้านมืดๆ อันนี้ไม่รู้ รู้แต่ว่าชุดพรางตัวสีดำที่สวมใส่ยิ่งนานก็ยิ่งดูดความร้อน ท่ากายกรรมฉีกขายิ่งทำให้น่าเป็นห่วง หนุ่มหล่อเบิกตากว้าง ชเว ซีวอนคงต้องทำอะไรสักอย่างก่อนจะสูญพันธ์ตามไทรันนอซอรัส

    ด้วยมันสมองอันหล่อได้รูป ชายหนุ่มหยิบกระติกน้ำพกขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว พรมน้ำให้ทั่วเท่าที่พรมได้ ตรงไหนเสี่ยงมากก็พรมมาก ไม่ลืมหยิบมอยเจอร์ไรเซอร์ขึ้นมาชโลมหน้าเป็นอย่างสุดท้าย

    มือเรียวหยิบร่มพกขึ้นมา อย่าถามว่าเอาน้ำพรมร่มไหม โน! ร่มที่ไหนจะเปียกน้ำ ใช้มือข้างหนึ่งเล็งร่มไปที่เปลวไฟ ก่อนจะหุบแขนขาแล้วปล่อยให้ร่างไหลตามแรงโน้มถ่วง

    พรึ่บ! ร่มกางออกพอดีเท่าที่กางได้ กันไม่ให้ร่างกายสัมผัสเปลวไฟ ร่างกายที่ตกลงมาทันทีทำให้ไฟดับไปชั่วครู่เหลืออยู่แต่ความร้อน ซีวอนม้วนหน้าออกมาจากเตาผิง ของในถุงสะพายกระทบกันดังกรุ๋งกริ๋ง ทุกอย่างปลอดภัย อวัยวะยังอยู่ครบถ้วนแม้แต่ความหล่อ

    ร่างสูงค่อยๆ ยืนขึ้นเต็มความสูง  เป่าเขม่าควันออกจากปลายร่ม โอ้โห เท่ยิ่งกว่า 007

      “โอ้โห”

     " (((( โอ้โห! )))) "

    แอ็คโค่มาจากไหน?

                แสงไฟจากเตาผิงสะท้อนอยู่ในประกายตาใสแจ๋วแหววของอะไรบางอย่างที่กำลังแหงนหน้าดูเขาคอตั้งบ่า แล้วเสียงแหลมเล็กก็กรีดร้องฝ่าความมืด

               “ซานตาครอสสสสสส! ซานตา...”  มือเรียวรีบอุดปากเจ้าสิ่งนั้นทันที ชเว ซีวอนเพิ่งรู้ว่าบ้านหลังนี้มีคนอยู่ เหลียวซ้ายแลขวาก็เห็นเพียงเด็กตัวกระเปี๊ยกคนเดียว ถ้าเป็นเด็กตัวแค่นี้เขาก็พอรับมือได้ แต่หากมีผู้ใหญ่คนอื่นเห็นเข้า สุภาพบุรุษย่องเบาอาจต้องสิ้นลาย
    ตวาดเสียงเข้มด้วยน้ำหนักที่ดังพอให้ได้ยินกันสองคน มือเรียวบีบใบหน้าเล็กจนแน่น สุภาพบุรุษไม่ใช่นางสาวไทยจึงไม่จำเป็นต้องรักเด็ก

                “หุบปาก!

                ตวาดเสียงเข้มด้วยน้ำหนักที่ดังพอให้ได้ยินกันสองคน มือเรียวบีบใบหน้าเล็กจนแน่น สุภาพบุรุษไม่ใช่นางสาวไทยจึงไม่จำเป็นต้องรักเด็ก

               “อยู่นิ่งๆ ห้ามส่งเสี...” กำลังจะพูดต่ออะไรบางอย่างก็ถูกโยนเข้ามาในปาก รสชาติไม่เหมือนอาหาร ไม่เหมือนอะไรที่เคยกินในโลกนี้ เหมือนยาสีฟันคลุกดินน้ำมันผสมสี

               "คุกกี้ซานตา!" เสียงใสแจ๋วแหววบอกผ่านมือเรียวที่กำลังสั่นเทิ้ม ดวงตาสีน้ำตาลยิ้มหวานทอประกาย

               
                คุกกี้ซานตา?

               “อร่อยไหม” รอยยิ้มเล็กๆ ส่งมาให้ซีวอนอย่างภูมิอกภูมิใจ ฝ้าสีขาวลอยวนอยู่ในหัวของชายหนุ่ม เป็นครั่งแรกที่ซีวอนไม่แน่ใจว่ามันสมองอันหยักได้รูปจะยังทำงานได้หรือเปล่าเมื่อต้องมาเจอกับคุกกี้ซานตา

     

                                    

    หลังจากเข้านอนฮยอกแจก็ดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนเตียงสักพัก ทนความหิวไม่ไหวจึงต้องลุกขึ้นมาเปิดตู้เย็น ระหว่างเดินกลับผ่านห้องนั่งเล่นก็เหลียวมามองเตาผิงอย่างอาลัย กลัวว่าซานตาครอสจะไม่มา เลยจุดไฟใช้สัญญาณควันเรียกซะเลย จนได้มาเจอกับลุงซานตาในชุดสีดำรัดเปรี๊ยะแทนที่จะเป็นสีแดงกำมะหยี่

    โอ้โห ล้ำสมัยจริงๆ

                ชเว ซีวอนมองเด็กหกขวบอย่างละล้าละลัง ใจหนึ่งคิดว่าจะปีนปล่องไฟไปให้พ้นๆ ก่อนจะโดนจับได้ แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากจะมาเสียเที่ยว อุตส่าห์ลงทุนจนผิวบอบบางเป็นรอยแล้วได้อะไรติดมือไปสักหน่อยก็น่าจะดี

                มือเรียวหยิบแบตตาเลี่ยนออกมาจากถุงสะพาย จ่อไปที่เป้าหมาย ขู่ว่าถ้าส่งเสียงดังจะใช้แบตตาเลี่ยนปาดคอทันที พอกำลังจะมัดร่างเล็กไว้กับขาโต๊ะเด็กนี่ก็ดิ้นดุกดิกๆ บอกว่าจั๊กจี้ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนในที่สุดต้องแก้มัดให้ก่อนจะเสียงดังจนปลุกคนอื่นให้ตื่นขึ้นมา

               
                พอจะเอาเทปปิดปาก เด็กก็ดิ้นคลุกขลักบอกว่าปิดปากไม่ได้ กินน้ำอัดลมเข้าไปเยอะถ้าไม่มีทางออกจะระบายออกมาทางก้นแทน เด็กน้อยตีหน้าเขินแต่ชายหนุ่มตีหน้าโมโห สักพักพอเสียงลมลอดออกมาแผ่วๆ ซีวอนก็ยอมเก็บเทปปิดปากลงถุง ถ้าต้องทำงานไปฟังเสียงปุ๋งปั๋งไปก็คงจะทรมานหู


                “รู้ไหมฉันเป็นใคร” ซีวอนถลึงตาโต ปั้นหน้าดุใส่ เด็กแสบแถวบ้านเห็นเขาทำหน้าแบบนี้เป็นต้องร้องไห้หาแม่ทุกราย แล้วเด็กคุณหนูตัวเท่าเมี่ยงนี่จะไม่กลัวได้ยังไง

                “ซานตาครอส” เสียงหวานจ๋อยตอบรับทันควันก่อนจะวิ่งเข้ามากอด มองพุงเขาอย่างสนใจแล้วใช้มือจับเบาๆ

      “พุงแข็งจัง”

      “ทำไมไม่กลัว”

      “ซานตาครอสใจดี” รอยยิ้มที่ได้รับกลับยิ่งหวาน ยิ้มกริ่มไปถึงดวงตาเล็กๆ ของเจ้าเมี่ยงคำ

    อนิจจา นี่คือเด็กที่ไร้เดียงสาหรือน่าสงสารกันแน่!

    เมื่อเห็นว่าทำยังไงเด็กก็ไม่ยอมอยู่นิ่งๆ เลยปล่อยให้วิ่งเล่นข้างๆ เป็นกุมารซะเลย แล้วซีวอนก็พบว่าวิธีนี้ก็ดีไปอีกอย่างเพราะเด็กคนนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรกระโตกกระตาก นับว่าเป็นทางออกที่ดี มีความสุขทั้งเด็กทั้งโจร

                “ทำอะไร” ตาแป๋วมองพลอยที่ถูกแงะจากแจกันใบใหญ่อย่างสนใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเห็นเป็นของเล็กน้อย

      “ทำงาน” เสียงทุ้มบอกห้วนๆ ก่อนจะตวัดสายตาดุใส่

                “ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่ขอเดินตามเฉยๆ” เด็กน้อยก้มหน้าเมื่อเห็นสายตาตำหนิ อี ฮยอกแจเป็นเด็กดีนะ ไม่ทำตัววุ่นวายหรอก “ซานตาครอสอยากทำอะไรก็ทำสิ”

                ดวงตาคมจ้องเด็กน้อยอย่างพินิจ ไม่ว่าเขาจะไปไหนทำอะไรเด็กคนนี้ก็เดินตามต้อยๆ ไม่วุ่นวาย ไม่เสียงดัง เชื่องอย่างนี้เดี๋ยวก็อัพเกรดสถานะจากโจรย่องเบาเป็นโจรเรียกค่าไถ่ซะเลย

                “พ่อแม่เลี้ยงยังไงถึงได้เป็นคนอย่างนี้” พูดเพราะอยากรู้จริงๆ นี่ถ้าเป็นลูกเขาคงจะกลั้นใจตายวันละหลายๆ รอบ เป็นห่วงอนาคตของชาติเหลือเกิน

     “พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยง พ่อแม่อยู่บนสวรรค์” บอกเสียงอ่อย

               “แล้วใครเลี้ยง” ถามอย่างสนใจ ซีวอนก็ไม่รู้ว่าใครบ้ากันแน่ เด็กกับโจรคุยกันหงุงหงิงสองคนอยู่ในความมืด แต่พอถามเท่านั้นแหละ ใบหน้าแจ๋วแหววก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว ตาดวงเล็กเริ่มปริ่มน้ำ ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีเลยรีบยกมือขึ้นอุดปากเล็กๆ ทันที

               “คะ คุณ น้าไม่รัก ฮะ ฮยอกแจ ไม่พาไปเที่ยววันคริสตะมาส แล้วก็บอกว่าซานตาครอสไม่มีจริง” ปากอิ่มเล็กเชิดขึ้นจนเกือบแตะจมูก ซีวอนเข้าใจว่ามันคือท่าเบะปากร้องไห้ของเจ้าตัวเล็ก

     “ฮะ ฮยอกแจ อยากให้คุณเป็นซานตาครอส ถึงคุณจะ มะ ไม่เหมือน ฮือ อยากเจอซานตาครอส”

               เมี่ยงคำพ่นน้ำผล็อยๆ ออกมาจากลูกตา ซีวอนลังเลนิดหน่อยแต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษจึงค่อยๆ ยกเจ้าตัวเล็กขึ้นพาดบ่า จับเขย่าไปมาอย่างเก้ๆ กังๆ โยนไปโยนมาก็เกือบจะทำหลุดมือ ดีที่เด็กคนนี้เกาะเขาหนึบเป็นปลาหมึกดูดตู้ อ่า...เสียใจเรื่องคุณน้า เหตุผลอย่างนี้เขาก็พอเข้าใจ ตอนเขาเป็นเด็กกว่าจะทำใจได้ว่าไม่มีซานตาครอส มีแต่พ่อแม่ที่แอบเอาของขวัญมาวางไว้ให้ก็ใช้เวลาอยู่นาน

               “คุณช่วยไปบอกคุณน้าได้ไหมว่าคุณเป็นซานตาครอส คุณน้าจะได้ไม่ว่าฮยอกแจอีก”  ชายหนุ่มมองเด็กน้อยอย่างเห็นใจ หวา...น้าไม่รักแบบนี้ถ้าจับตัวไปแล้วใครจะมาไถ่ แผนเรียกค่าไถ่เป็นอันต้องล้มเลิกทันควัน

               “แล้วจะให้พี่ทำยังไงล่ะ”  น้ำตาอุ่นๆ บนบ่าทำให้รู้ว่าเด็กคนนี้เสียใจจริงๆ อ่า...มีมนุษยธรรมอย่างเขาน่าจะไปเป็นพ่อพระนะ ไม่น่ามาเป็นโจรเลย ดูซิเห็นน้ำตาแล้วหัวใจอ่อนไหว โอ๋ๆ คิดพลางก็เขย่าพลางให้เจ้าตัวเล็กเงียบ ซีวอนลืมไปซะแล้วว่าตัวเองเป็นใคร มาทำอะไรอยู่ที่นี่

               “ใส่ชุด สะ สีแดง แล้วก็ติดหนวดสีขาว แล้วก็...มีกวางบินได้” พูดไปฮยอกแจก็สูดน้ำมูกฟิดๆ ไป มือเล็กยกขึ้นมากวักข้างตัวทำท่าประกอบคำว่า 'บินได้' ชายหนุ่มเห็นแล้วก็หัวเราะต่ำๆ ในลำคอ เด็กหนอช่างไม่แยกความเป็นจริงออกจากความฝันเอาซะเลย

               “หุ่นพี่ดีขนาดนี้จะไปแต่งชุดซานตาครอสให้คนเชื่อได้ยังไงเล่า...พี่ทำให้คุณน้าเชื่อไม่ได้หรอก ทำให้ฮยอกแจเชื่อได้คนเดียว” เสียงนุ่มกระซิบข้างหูเล็กๆ เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมามองคนพูดอย่างไม่เชื่อหู พูดอย่างนี้ก็แสดงว่าชายชุดดำเป็นซานตาครอสจริงๆ น่ะสิ อี ฮยอกแจไม่ได้คิดไปเองนะ

              “แต่พี่ไม่มีกวางบินได้หรอกนะ แล้วก็ไม่ชอบชุดสีแดงด้วย”  ซีวอนยิ้มกริ่ม ขึงตาโตให้ดูน่าสนใจ ซึ่งก็ได้ผล ฮยอกแจจ้องกลับด้วยแววตาที่มีความหวัง

              “เช็ดน้ำตาซะ ร้องไห้แล้วดูไม่ได้เลย ไม่น่ารัก” เสียงทุ้มสั่งข้างๆ หู ฮยอกแจจึงเอามือเช็ดน้ำมูกน้ำตาออก เช็ดยังไงก็เช็ดไม่หมดจึงได้มือที่ใหญ่กว่ามาช่วยปาดออกให้ ดวงตาแป๋วแหววกลับมาดังเดิม แต่สายตาคมที่เคยมองเด็กน้อยด้วยความรำคาญนั้นเปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นดวงตาที่มีรอยยิ้มซ่อนอยู่ข้างใน

              "ทีหลังก็อย่าร้องไห้อีกล่ะ จมูกเราก็อยู่ติดกับปาก พี่เห็นน้ำมูกแล้วเค็มแทน"

               ชเว ซีวอนเองก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าทำอะไรลงไป...รู้แต่ว่ามันเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษเท่านั้นเอง


                 เสียงเพลงคริสตมาสดังมาจากหลังคาโบสถ์ใกล้ๆ แสงไฟวิบวับสวยงามประดับไปทั่วทุกที่ไม่เว้นแม้แต่กิ่งวิลโลที่ฮยอกแจนั่งอยู่ ใบที่ดกครึ้มอำพรางกายเล็กๆ เอาไว้ไม่ให้คนภายนอกเห็น ตาสีน้ำตาลตวัดมองไปทางโน้นที ทางนี้ที พร้อมกับเสียง อู้ฮู้ แสดงความประหลาดใจเปรยออกมาเป็นระยะ

                 “นั่งนิ่งๆ สิ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก” ร้อนถึงคนพามาต้องช้อนเจ้าตัวน้อยขึ้นมาวางไว้บนตัก "เป็นไงล่ะ เด็กคนอื่นได้แต่เดินอยู่บนพื้น มากับพี่ได้นั่งดูบนต้นไม้ด้วย" 

                 “อู้ฮู้ มีต้นคริสตะมาสใหญ่กว่าข้างบ้านฮยอกแจอีก” ตาใสแจ๋วมองไปรอบตัวอย่างตื่นเต้น ไม่ได้ตอบคำถามของชายหนุ่ม ซีวอนเห็นแล้วก็ส่ายหน้าให้กับเมี่ยงคำที่ทำท่าอย่างกับไม่เคยออกจากบ้าน

                 "นี่ถ้าไม่ติดว่าหิมะหนาไปหน่อย พี่จะพาเราไปนั่งบนหลังคา" 

                 “อู้ฮู้ มีกวางด้วย กวางตัวเบ้อเริ่มเลย สีฟ้าด้วยแน่ะ เห็นไหม”  เสียงเล็กแบบเด็กๆ ร้องขึ้นขัด มือสีขาวชี้ให้เขาดูโน่นดูนี่ ก่อนจะหัวเราะคิกคักอยู่ข้างๆ 

                 "นี่เห็นว่าตัวเล็กหรอกนะ กลัวว่าจะไหลตกหลังคาลงมาก่อนเลยพามานี่แทน" 

                 “อึ๋ย ซานตาครอสคนนั้นไม่เห็นหล่อเหมือนลุงเลย ทำไมลุงหน้าเด็กจัง” บทสนทนาที่เหมือนจะเป็นคนละเรื่องเดียวกันยังคงดำเนินต่อไปโดยไม่มีอะไรขัดข้อง ฮยอกแจมองลงไปเห็นลุงซานตาตัวอ้วนพลี แล้วหันกลับมามองซีวอน คิ้วของเด็กน้อยขมวดนิดๆ ก่อนจะยื่นปากแล้วร้องอึ๋ยออกมาอีกรอบ

      "อึ๋ย หล่อสู้ซานตาครอสของฮยอกแจก็ไม่ได้!"

                ซีวอนได้แต่หัวเราะไปกับความน่าเอ็นดูนั้น ไม่รู้จะตอบว่าอะไร ปล่อยให้เด็กมีจินตนาการของเด็กต่อไป ตัวเขาเองใจหนึ่งก็คิดถึงแม่ที่กำลังป่วย เพราะไม่มีเงินรักษาจึงต้องหาเงินด้วยวิธีที่ผิด ดวงตาสีดำมองหลังคาโบสถ์ด้วยแววแห่งความหวัง วันนี้ใครบางคนทำให้เขาประทับใจความเชื่อที่บริสุทธิ์และมั่นคง แม้จะเชื่อแบบเด็กๆ ก็ตาม

                “คุณลุง อย่าเครียดเรื่องแม่เลย ยังไงคุณแม่ก็ต้องหายป่วย เชื่อสิ” มือเล็กสะกิดยิกๆ เมื่อเห็นเค้าหน้าไม่สบายใจของซานตาครอสหนุ่ม รอยยิ้มสดใสจากปากแดงอิ่มทำให้เขายิ้มออกมาได้บ้าง เด็กใสซื่อและจะแสดงความรู้สึกออกมาอย่างเปิดเผย ซึ่งมันก็ทำให้เขามีความสุขระคนขวยเขิน มือเล็กโอบรอบคอเขาเอาไว้ขณะนั่งบนตัก ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของคนที่ไม่เคยรู้จักกลับทำให้ทั้งสองคนรู้สึกดีอย่างประหลาด

               “ฮยอกแจ หน้าพี่เด็กขนาดนี้ยังกล้าเรียกลุงอีกเหรอ เดี๋ยวก็พากลับซะเลย”

               “ก็คุณเป็นลุงซานตาครอสนี่” ตาแจ๋วแหววมองกลับมา ซีวอนรู้สึกว่ามันทำให้เขา...รู้สึกดีแปลกๆ กับการได้กลายเป็นฮีโร่ของใครบางคน แม้ว่าจะไม่ใช่ในโลกของใครอีกหลาย
    คนก็ตาม

               “นี่ยังเชื่ออีกเหรอ ว่าพี่เป็นซานตาครอส”

               ฮยอกแจพยักหน้าหงึกหงัก “ก็คุณเก่ง แล้วก็...เท่ แล้วก็ มาตามที่ฮยอกแจเรียกหา” เจ้าตัวเล็กจีบปาก เอียงคอบอกอย่างเป็นธรรมชาติ ดูเหมือนชเว ซีวอนจะมีแฟนคลับซะแล้วสิ

               “เข้าใจพูดจังนะ”

    ฮยอกแจดึงอะไรบางอย่างออกมาจากเสื้อโค้ทเด็กก่อนจะวางมันลงไปที่มือของซีวอน แต่พอชายหนุ่มเห็นสิ่งนั้นเข้าอีกครั้ง รสชาติพิลักพิลั่นชวนขนลุกก็วิ่งขึ้นมาจุกคอทันที...คุกกี้ซานตา

                “ของขวัญวันคริสตะมาส ทำให้ซานตาครอส” ดวงตาใสยิ้มหวานจนยิบหยี และด้วยความจริงใจนั้น ชเว ซีวอนจึงจำใจรับมาก่อนจะเก็บไว้อย่างดีในกระเป๋าเสื้อโค้ทของตัวเอง

                “ปีหน้าจะมาอีกไหมคุณลุง” เด็กน้อยปรือตาถามขณะที่ซานตาครอสหนุ่มอุ้มเขาลอดผ่านช่องหน้าต่างของบ้านหลังใหญ่ ลมพัดวืดขึ้นมาบอกให้รู้ว่าคุณลุงสุดเท่กระโดดจากขอบหน้าต่างลงมาแตะพื้นแล้ว ทั้งที่ง่วงเต็มที่ฮยอกแจก็ยังขืนตามองใบหน้าคมเข้มทุกขณะ

                “ถ้าฮยอกแจเชื่อ ซานตาครอสก็จะมาหา ไม่ใช่แค่พี่ และไม่ใช่แค่วันคริสตมาส” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับรอยยิ้มแสนสุภาพ...โอ้โห มันสมองอันหล่อได้รูปของชเว ซีวอนก็คิดได้ เฉียบคมสมกับความหล่อจริงๆ ดวงตาคมก้มลงมองเจ้าตัวเล็กอย่างเอ็นดู เด็กนี่เหมือนจะได้ใจเขาไปซะแล้วสิ ไม่อย่างคงไม่ทำเขายิ้มไม่หุบอย่างนี้

    เสียงอะไรกรุ๋งกริ๋งดังอยู่ในอากาศ ฮยอกแจยิ้มชอบใจทั่งที่ตายังปริบปรือ แต่เหมือนมือที่ใหญ่กว่าจะรู้ใจจึงวางมันลงบนมือน้อย เมื่อของชิ้นเล็กวางลงมา ฮยอกแจก็เขย่ามันเบาๆ ข้างหูจนได้ยินเสียงกรุ๋งกริ๋ง

                “ของขวัญวันคริสตมาส ทำให้เด็กดี” เสียงทุ้มของซานตาครอสดังอยู่เหนือก้อนผ้าห่มที่กำลังซุกตัวเข้าหาฝาหนัง

                “คุณซานตาครอสชื่ออะไรหรอ” เสียงพึมพำเบาๆ ดังออกมาจากก้อนผ้าห่ม คล้ายเสียงละเมอ เรียกรอยยิ้มกริ่มจากมุมปากของชเว ซีวอน

                นั่นสิ จะให้เขาแทนตัวเองว่าอะไร ในเมื่อไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงได้

     

    25 ธันวาคม

    00:00:00 น.

               

     ซานตาครอสที่ปรากฏตัวเข้ามาทางปล่องไฟ ได้มอบของขวัญให้เด็กดีและหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย ทุกอย่างกลับเป็นดังเดิมเหมือนวันก่อน เด็กน้อยเข้านอนบนเตียงของเขา ข้าวของในบ้าน...ก็ เอ่อ หากไม่สังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนที่สุดคือกิ่งวิลโลว์แกะสลักเป็นรูปกวางอย่างง่ายๆ ห้อยกระดิ่งกรุ๋งกริ๋ง ทำให้ฮยอกแจรู้ว่าซานตาครอสของเขามีตัวตนอยู่จริงและไม่เหมือนใคร


               "พี่คือ Wanted Santa เป็นคนที่ถูกตามล่าและเป็นซานตาครอสส่วนตัวของฮยอกแจ"

    ฟังดูพิลึกแต่มันก็น่ารักนะ!

     Merry Christmas

     

    END.

     
    ย้ ในที่สุดฟิคก็ออกมาอีกหนึ่งเรื่อง
    สั้นๆ สาระน้อยๆ อิอิ คือคิดไว้นานแล้วว่าอยากให้ชเวลองเป็นโจรดู
    โจรกระจอกนะไม่ใช่มาเฟีย สมใจอยากแล้วเรื่องนี้
    สุขสันต์วันคริสตมาสนะคะ





    ฮยอก Add favวอน Vote


    ขอบคุณธีมสวยๆ จาก


    Qreaz. 10


    freetheme. สิบเต็มสิบ !

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×