คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Dream Girl : Chapter 9
Chapter 9
“ฉันจะต้องไปพบพ่อที่คฤหาสน์ เราทั้งคู่จะต้องหายตัวเข้าไปในป่า เพื่อร่วมพิธีรับตรามารที่ฉันจะต้องรับมัน” เดรโกเงียบอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่คะยั้นคะยอให้เขาพูดต่อ และเขาก็เริ่มพูด
“มู้ดดี้เป็นสายของฉันกับภาคี ฉันต้องบอกให้เขารู้ เมื่อฉันต้องไปรับตรามาร และทำให้พวกเขารู้ว่าโวลเดอมอร์และพวกผู้เสพความตายอยู่ที่ไหน แผนการคือ พวกเขาจะซุ่มโจมตีโวลเดอมอร์ก่อนที่เขาจะมอบตราให้แก่ฉัน ภาคีกลัวว่าทันทีที่ฉันได้ตรา โวลเดอมอร์จะสามารถอ่านความคิดของฉันได้ เพราะฉันไม่เชี่ยวชาญการสกัดใจเท่าสเนป”
เขาหยุดพูด เงยหน้ามองท้องฟ้าอันสดใส
“การพบกันของเราทั้งคู่ยาวนานทีเดียว มู้ดดี้อยากจะแน่ใจว่าเขาได้ข้อมูลที่ถูกต้องทุกอย่างแล้ว”
เดรโกหยุดพูดอีกครั้งและครั้งนี้เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเขากำลังต่อสู้กับการควบคุมความรู้สึกของตัวเอง เมื่อเขาพูด น้ำเสียงของเขาพร่ามัวเต็มไปด้วยอารมณ์
“เมื่อฉันกลับไปถึงบ้าน ชังกี้ก็วิ่งมาหาฉัน และพูดบางอย่างที่น่ากลัว มันเกิดขึ้นกับแม่ เมื่อชังกี้นำฉันไปที่ห้องรับแขก แม่อยู่ที่นั่นบนพื้น มีบาดแผลและเลือดไหล เขาทำร้ายเธอและสาปเธอจนเกือบตาย เธอขอร้องฉันด้วยลมหายใจสุดท้ายไม่ให้ฉันรับตรา เธอพูดว่าเธออยากช่วยฉันให้พ้นจากชีวิตที่ถูกสาปของผู้เสพความตาย อยากให้ฉันเป็นอะไรที่ดีกว่า เป็นอะไรที่ขาวสะอาดและดี
ฉ-ฉันบอกกับแม่ว่า ฉันเป็นสมาชิกภาคี ฉันบอกเธอว่า...ฉันเริ่มอยู่กับภาคีตั้งแต่สงครามเริ่มต้น ฉันให้สัญญากับแม่ว่า ฉันจะไม่รับตรามาร และไม่เป็นผู้เสพความตาย ไม่เป็นเหมือนอย่างพ่อ จากนั้นฉันกอดแม่ไว้แน่นในอ้อมแขน ขณะที่เธอตายจากไป ฉันฝังแม่ไว้ที่นี่ในสวนที่เธอรักมาก
ชังกี้ บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้าที่ฉันจะมาเจอแม่ในสภาพแบบนั้น พ่อโกรธเมื่อฉันมาช้า แม่พูดเสียดสีเขา บอกเขาว่า ฉันหนีไปแล้ว แม่บอกเขาว่าฉันปฏิเสธไม่รับตรามาร และเธอส่งเสริมการตัดสินใจของฉัน ฉันคิดว่าแม่ถูกทรมาน และถูกขู่ให้ฉันรับตราในวันก่อนหน้านั้น เธอเหน็ดเหนื่อยต่อการถูกข่มเหง การสอดแนมตลอดทั้งชีวิตที่เป็นภรรยาของผู้เสพความตาย
แม่ไม่อาจสงบจิตใจได้ ที่คิดว่าฉันจะรับตรามาร ฉันคิดว่าแม่เต็มใจที่จะตายมากกว่าทนดูเห็นฉันเป็นผู้เสพความตายต่อจากพ่อ แม่คงคิดว่าการที่จะให้พ่อทำร้ายแม่ มันจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะทำให้ฉันขัดขืนไม่เข้ารับตรามาร และปฏิเสธมัน” เดรโกก้มหน้าลง มือกุมศีรษะด้วยความเสียใจเงียบๆ
เฮอร์ไมโอนี่ยืนขึ้นตรงหน้าเขา แขนทั้งสองข้างของเธอโอบล้อมตัวเขาไว้ ประคองศีรษะของเขาโน้มเอนมาไว้ที่อกเพื่อปลอบใจ ในขณะที่น้ำตาของเขาไหลรินออกมาเงียบๆ เขากอดเธอไว้ รัดตัวเธอแน่นมาก
“เมื่อฉันหายตัวไปในป่า โวลเดอมอร์ยังไม่ได้อยู่ที่นั่น” เขาพูดต่อใน 2-3 นาทีต่อมา
“ลูเซียส ตรงมาหาฉันด้วยความโกรธ เขาคิดว่าฉันหนีไปแล้ว เขาพูดว่า ถ้าเขาบอกโวลเดอมอร์ว่า ฉันหนีไป และไม่ยอมรับตรา ชีวิตครอบครัวเราจะหมดสิ้น” เดรโกพูดอย่างเยาะเย้ยถากถาง
“เขาไม่รู้เลยว่าแม่ตายแล้ว ไม่รู้ว่าเธอตายเพราะความเจ็บปวดที่เขาฝากไว้ให้เธอ ฉันไม่ยอมให้เขาสมน้ำหน้าหรือสะใจไปมากกว่านี้ที่ได้รู้
“ถึงแม้ว่ามือขวาของฉันจะเรียกร้องที่จะบีบคอเขาให้ตายในตอนนั้น แต่ฉันรู้ว่าภาคีวางแผนซุ่มโจมตี ฉันยังไม่อาจจะทำอะไรเขาได้ การที่ไม่ฆ่าเขาเลยในตอนนั้น มันเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่ฉันเคยทำในชีวิต หลังจากที่ฉันเพิ่งฝังศพแม่ ที่ตายด้วยน้ำมือของเขา
การมองดูวายร้ายที่เป็นฆาตกร และต้องขอโทษที่มาช้า ในขณะที่ร่างของแม่เพิ่งถูกฝัง นอนอยู่ในหลุมศพ มันเกือบจะฆ่าฉันได้เลย ฉันหาข้ออ้างที่ทำให้เขาสงบลง และรอการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น”
เฮอร์ไมโอนี่จูบลงบนศีรษะของเขา รู้สึกถึงความเจ็บปวด ความโกรธ ที่ออกมาจากตัวเขา ราวกับว่าเหตุการณ์เหล่านี้เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวาน
เธอกอดเขาอีกครั้ง และปล่อยให้เขานั่งลงข้างๆเธอ เป็นอีกครั้งที่เธอจับมือเขาประสานไว้ด้วยมือทั้งสองข้างและวางลงบนตักของเธอ เขาบีบมือเธอแน่นในขณะที่พูดต่อ
“โวลเดอมอร์มาถึงก่อนที่พ่อจะทันได้ลงโทษฉันที่มาช้า พิธีเริ่มต้นขึ้น แต่บางสิ่งผิดปกติ ภาคีน่าจะโจมตีก่อนที่โวลเดอมอร์จะมอบตรามารแก่ฉัน ฉันรอคอยการโจมตีที่จะเริ่มขึ้น แต่เมื่อนิ้วมือของโวลเดอมอร์แตะลงที่แขนของฉัน ฉันรู้ได้ทันทีว่ามันสายไปแล้ว และบางอย่างต้องผิดพลาด
ทั้งหมดที่ฉันคิดถึงคือแม่ เธอขอร้องไม่ให้ฉันรับตรามารและไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า ฉันให้สัญญาก่อนที่แม่จะตายว่าฉันจะไม่รับมัน ฉันบอกแม่ไปว่าฉันจะไม่เป็นผู้เสพความตายแบบพ่อ เป็นฆาตกรที่ฆ่าแม่”
โดยไม่รู้ตัว ปลายนิ้วมือของเธอลูบไปบนแขนของเขาที่ซึ่งในตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็นถึงร่องรอยจางๆที่เคยมีตรามารอยู่ ในฉับพลันมือของเขาเคลื่อนที่ไปปกปิดท่อนแขน พยายามป้องกันการสัมผัสของเธอ
“ไม่นะ” เธอพูดเงียบๆ อย่าซ่อนมันเลย ให้ฉันดูได้ไหม” ดวงตาของเธอเบิกกว้างและดวงตาสีช็อกโกแลตของเธอจับจ้องอยู่ที่เขา สีหน้าของเธอร้องขอให้เขาไว้ใจ เขามองเธออย่างลังเล จากนั้นถอนหายใจและผ่อนแขนลงบนตักของเธอ หงายฝ่ามือขึ้น
เธอเอียงหัวไปที่แขนของเขา เพื่อพินิจพิเคราะห์ดูสิ่งที่โวลเดอมอร์ทิ้งไว้บนผิวที่ราบเรียบของเดรโก
แขนของเขายังคงมีร่องรอยชัดเจน เนื้อเป็นรอยย่น และรอยนูน รอยแผลเป็นที่ไร้สีสันคล้ายการสักแบบไร้น้ำหมึก แต่ไม่เหมือนกับรอยสักของผู้เสพความตายคนอื่นๆ มันไม่อาจขยับหรือเคลื่อนที่ได้ ร่องรอยของรูปงูไม่เลื้อยหรือออกมาจากปากของหัวกระโหลกที่ไร้น้ำหมึกอีกต่อไป เขาถอยหนีเล็กน้อยเมื่อเธอแตะมันด้วยปลายนิ้วมือ
“เกิดอะไรขึ้นกับมัน?” เขาไม่ต้องการอธิบายในสิ่งที่เธอถาม
“เมื่อ พอตเตอร์ ฆ่า โวลเดอมอร์ มัน...เผาไหม้ แย่กว่าตอนที่เขาให้มันกับฉันเสียอีก ฉันขยับตัวไม่ได้ ไม่อาจจดจ่อกับอะไร มีแต่ความเจ็บปวด เมื่อฉันยกแขนเสื้อขึ้นดู ฉันคิดว่าแขนของตัวเองจะติดไฟหรือเนื้อถูกฉีกออก มันเจ็บปวดมาก แต่กลับกลายเป็นว่าน้ำหมึกไหลขึ้นไปด้านบนสุดของผิวหนัง หยดออกจากตาคล้ายเหงื่อสีดำและสีเขียว มันไหลออกมาจนหมด ไม่หลงเหลืออะไรอีก และกลายเป็นเพียงแค่รอยแผลเป็นเท่านั้น
ไม่มีเวทมนตร์หรือคาถาใดที่จะรักษามันหรือเอามันออกไปได้ มันเป็นรอยแผลเป็นต้องคำสาป ฉันคิดว่าในที่สุดพอตเตอร์ และฉันต่างก็มีอะไรเหมือนกัน” เขาพูดด้วยเสียงหัวเราะแบบถากถาง
โดยไม่คาดคิด เฮอร์ไมโอนี่ยกแขนของเขามาไว้ที่ปากของเธอ และจูบรอยแผลเป็นอย่างอ่อนโยน เดรโก กระตุกแขนออกจากปากของเธอ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอด้วยความตกใจกลัว
“อย่า เฮอร์ไมโอนี่ มันเป็นเครื่องเตือนให้นึกถึงเขา ฉันแทบจะทนดูมันไม่ได้ ปล่อยมันไว้อย่างนั้นเถอะ”
“เดรโก ฉันรู้ว่านายคิดว่า รอยแผลเป็นนี้แสดงถึงทุกสิ่งที่นายเกลียด โวลเดอมอร์ ลูเซียส และวันที่แม่นายตาย และดูเหมือนนายจะคิดว่ามันหมายความว่านายเป็นผู้เสพความตาย นายไม่เข้าใจเหรอ? มันแสดงถึงความเข้มแข็งของนายด้วย
นายมีชีวิตอยู่รอดจากเหตุการณ์ทั้งหมด นายแก้แค้นให้กับการตายของแม่โดยให้คนพวกนั้นชดใช้ พวกนั้นตายในคืนเดียวกัน นายต่อสู้กับพวกเขา และนายยังคงมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ นายเอาชนะพวกเขาได้ เดรโก รอยแผลนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ ตรานี้ไม่ได้ทำให้นายเป็นผู้เสพความตาย เพราะ นายไม่ต้องการที่จะเป็น นายต่อสู้ไม่ยอมรับมัน และการกระทำเช่นนั้นหมายถึงการทำลายโวลเดอมอร์
มันเป็นเรื่องที่ว่านายคือใครในตอนนี้และตลอดไป อย่าเกลียดมันเลย เดรโก มันเป็นเครื่องเตือนให้นายนึกถึงสิ่งที่นายยืนหยัด ถึงเวลาแล้วที่นายสมควรได้สิ่งที่นายควรได้รับ นายควรมีความสุข นายควรอยู่อย่างสงบเสียที”
เดรโก มองเธอ และเฮอร์ไมโอนี่คิดว่า เธอเห็นได้ถึงความเข้าใจที่ฉายแสงในดวงตาของเขา เขามองไปยังรอยแผลเป็นจางๆ ที่เป็นรอยอยู่บนท่อนแขน และพินิจดูมันชั่วครู่ราวกับว่าเพิ่งมองเห็นและรู้สึกถึงมันเป็นครั้งแรก เขายิ้มให้เธอและเอนตัวจูบที่หน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณ” เขากระซิบ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ฉันหมายถึง...หลังจากที่นายได้ตรา- ทำไมโวลเดอมอร์ ถึงโกรธเกี้ยวแทบจะในทันที” เฮอร์ไมโอนี่ถาม
“เอาล่ะ เธอก็รู้ว่า การสกัดใจ และการที่เราแบ่งความทรงจำเพื่อป้องกันการพินิจใจ ฉันได้เรียนกับ สเนปตั้งแต่ที่ฉันออกมาจากฮอกวอตส์ ฉันทำมันได้ แต่มันไม่เพียงพอที่จะปิดกั้นโวลเดอมอร์ หลังจากที่ฉันได้รับตราแล้ว
“เซเวอร์รัสเคยบอกฉันว่า ตรามารทำให้โวลเดอมอร์ใช้ การพินิจใจกับเหล่าผู้เสพความตายของเขาได้ง่ายขึ้น เขาอธิบายว่า การป้องกันเพียงอย่างเดียวของเขาคือ เขาใช้การสกัดใจตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลาหลับ ความคิดของเขาถูกแบ่งและถูกควบคุมอยู่ตลอด
ฉันนึกไม่ถึงจริงๆว่าจะได้รับตรา สายไปแล้ว ฉันรู้ว่าฉันต้องสงบตัวเอง เพื่อใช้การสกัดใจ ซ่อนความโกรธและความสับสนวุ่นวายในจิตใจ ไม่อย่างนั้นโวลเดอมอร์จะเห็นทุกอย่าง”
ฉันพยายามทนต่อความเจ็บปวดที่เขาสร้างให้แก่ฉัน สิ่งสำคัญมากที่สุดสำหรับฉันในตอนนั้น คือจะต้องควบคุมความคิด เรื่องการที่ภาคีจะซุ่มโจมตีในงานพิธี เผื่อในกรณีที่พวกเขายังไม่มาและล่าช้า ในการโจมตีมันสำคัญที่จะซ่อนข้อมูลนั้นจากโวลเดอมอร์
“ในไม่ช้า ฉันพยายามเก็บข้อมูลนั้น โวลเดอมอร์ก็มอบตรามารให้ฉันเสร็จสิ้นพอดี เขาใช้การพินิจใจเพื่อดูความคิดของฉันโดยเร็ว ทั้งหมดที่ฉันทำได้คือ การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการซุ่มโจมตีไว้ เขาเห็นทุกสิ่ง และรู้ในทันทีว่า เซเวอร์รัสและฉันทำงานให้กับภาคี” เดรโกจับหัวของเขา ปั่นป่วนกับความทรงจำ
“โวลเดอมอร์อยากให้ฉันละทิ้งพ่อทูนหัว และ ฆ่าสเนปซะ จากนั้นเขาจะฆ่าฉัน ฉันเกลียดเขาเกือบจะเท่าที่ฉันเกลียดพ่อ บางทีอาจจะมากกว่า โวลเดอมอร์แค่ต้องชดใช้ต่อความทนทรมานและความตายของแม่ เช่นเดียวกับพ่อ
“ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าเขา แต่ฉันหวังว่าภาคี และแฮร์รี่จะทำ ทันทีที่ฉันคิดว่า เขาจะฆ่าฉัน การต่อสู้ก็เริ่มขึ้น ฉันลืมความเกลียดชังในตัวพ่อ ทั้งหมดที่ฉันคิดได้ คือการพาเซเวอร์รัสหลบออกจาการต่อสู้ก่อนเพื่อให้เราทั้งสองฟื้นตัวจากความเจ็บปวดทรมาน หลังจากนั้นไม่นานพวกเราก็กลับมาเข้าร่วมการต่อสู่กับเหล่าภาคี
“ในเวลาอันสั้น ผู้เสพความตายเหลืออยู่ไม่มาก ฉันยอมรับว่า ฉันตกตะลึงไปชั่วขณะที่ได้เห็นพอตเตอร์สู้กับโวลเดอมอร์ เขาน่าทึ่งจริงๆ และฉันก็หวังว่าจะได้เห็น พอตเตอร์ ฆ่าโวลเดอมอร์จริงๆ
เมื่อพ่อวิ่งเต็มฝีเท้า จากที่ไหนซักแห่ง และชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่ด้านหลังของพอตเตอร์ ฉันตอบโต้โดยสัณชาติญาณ ช่างเป็นพ่อของฉันจริงๆที่พยายามโจมตีคนจากทางด้านหลัง ฉันไม่อาจปล่อยให้เขาฆ่าพอตเตอร์ได้ ฉันกระโดดขั้นกลางระหว่างพ่อกับพอตเตอร์โดยไม่ได้คิด สายตาที่ตกตะลึงบนใบหน้าของพ่อคือสิ่งสุดท้ายที่ทำให้ฉันตกใจ ในขณะที่ฉันเสกคำสาปแช่งใส่เขา
ฉันไม่มีแม้แต่ความเสียใจ หรือการลังเลแม้แต่ครั้งเดียว ฉันไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ฉันทำ หรือเสียใจกับการตายของเขาจนถึงวันนี้ ฉันแค่ไม่อยากจะทนเห็นมันทุกๆคืนอีกต่อไป ฉันต้องก้าวเดินต่อไป มองเห็นแม่ตายทุกๆคืนในความฝัน มันกำลังฉีกฉันออกเป็นชิ้นๆ คล้ายกำลังสูญเสียเธอไปครั้งแล้วครั้งเล่า ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในความฝันของฉันราวกับว่าฉันอยู่ในเหตุการณ์นั้นทุกคืน
“ฉันขอโทษ เฮอร์ไมโอนี่ ขอโทษที่ฉันปฏิเสธความทรงจำที่เธอค้นหา ขอโทษที่ฉันติดหนี้ พอตเตอร์ทั้งเวลา และความเจ็บปวด เหนือสิ่งอื่นใด ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกให้เธอรู้เกี่ยวกับความทรงจำให้เร็วกว่านี้”
“เดรโก ขอบคุณนะ ฉันเข้าใจในสิ่งที่นายทำ และฉันเข้าใจดีว่าทำไมแฮร์รี่ปลอดภัย พอๆกับที่ฉันเสียใจที่นายต้องเปิดขวดแก้วความทรงจำเหล่านั้นซ้ำอีก”เขาส่วยหัว
“ไม่ เฮอร์ไมโอนี่ มันดีแล้ว ฉันไม่อาจหนีอดีตของฉันได้ ฉันแค่ต้องเผชิญกับมันและผ่านมันไป เหมือนกับคนอื่นๆ ไม่มีการซ่อน ไม่มีอีกต่อไปแล้ว”
เวลานี้ เดรโกยืนขึ้น ยื่นมือให้เธอ เขานำเธอออกไปจากสวนอย่างเงียบๆและเข้าสู่ตัวบ้าน เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องรับแขก เดรโกยืนด้วยความเหน็ดเหนื่อยตรงหน้าเตาผิง ใช้นิ้วลูบไล้ไปตามใต้ชั้นของเตาผิง
“เฮอร์ไมโอนี่” เดรโกพูด มองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
“ฉันดีใจที่เธอรู้ทุกอย่าง ฉันอยากให้เธอเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ในป่าคืนนั้น นั่นคือเหตุผลว่าทำไมฉันจึงไม่ไปกระทรวงเพื่อร้องหาตำแหน่งฮีโร่ การจะถูกเรียกว่าเป็นฮีโร่ไม่ใช่เหตุผลจากสิ่งที่ฉันทำ
“ฉันเพียงแค่ทำในสิ่งที่อาจจะชดเชยได้ สำหรับสิ่งผิดพลาดที่ฉันเคยทำในชีวิต เธอก็รู้สิ่งที่ฉันทำ...แบบที่ฮอกวอตส์ ฉันไม่ใช่ฮีโร่ และฉันไม่มีทางที่จะสมบูรณ์แบบ”
เขาถอนหายใจในขณะที่เขาจ้องเธอ ดวงตาสีเทาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนแอประกอบกับความแน่วแน่ มันทำให้เธอตกใจที่เห็นสายตาเช่นนั้นปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา
“3 วันที่ผ่านมานี้ เมื่อเธอจากไปมันทำให้ฉันทรมานใจมาก” เขาส่งรอยยิ้มแบบไม่สมดุลนักให้เธอ ซึ่งทำให้หัวใจของเธอปวดร้าว
“ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับตัวเอง ฉันกินไม่ได้ ฉันไม่มีสมาธิที่จะทำงาน เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะหยุดฉันตอนไหนก็ได้ถ้าเธอไม่ต้องการให้ฉันพูดในสิ่งที่ฉันอยากพูด”
เขาเดินออกห่างจากเตาผิง เข้ามาใกล้จนกระทั่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เขาวางนิ้วมือเรียวยาวใต้คางของเธอเพื่อเชยคางของเธอขึ้น ทำให้แน่ใจว่าเธอมองเขาอยู่
“สิ่งที่ฉันจะพูดคือ ...ฉันต้องการเธอ”
เขาจูบเธอหลังจากนั้น จูบเนิ่นนานซึ่งยั่วเย้า และทำให้ภายในตัวเธอรู้สึกเร่าร้อนไปหมด แขนทั้งสองข้างของเขาโอบล้อมเอวของเธอ ดึงเธอเข้าไปที่ตัวเขา
“ฉันต้องการเธอ ให้เธอร่วมชีวิตกับฉัน เฮอร์ไมโอนี่ ฉันต้องการโอกาสระหว่างเรา อยากจะทำให้มันดีขึ้น แข็งแกร่งขึ้น บางทีอาจจะทำให้มันยาวนานไปตลอดกาล” เขาเม้มริมฝีปากโดยไม่รู้ตัวและรอคอยคำตอบจากเธอ
หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่เต้นตุบๆในอก ดวงตาค้นหาความลึกซึ้งในดวงตาสีเทาชัดเจนของเขา เธอไม่เห็นสิ่งใดขวางกั้น ไม่เห็นความเย็นชา ไม่เห็นความหยอกล้อ เธอเห็นเขาในสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ เห็นผู้ชายคนหนึ่ง เห็นความแข็งแรงที่มีรอยร้าว เห็นมนุษย์คนหนึ่งที่เปราะบางแต่งดงามในเวลาเดียวกัน เธอวางมือไว้ที่แก้มของเขา รู้สึกได้ถึงความหยาบของหนวดเคราที่ยาวขึ้นใหม่ เธอไม่อาจเชื่อว่าชายคนนี้จะเปิดเผยและซื่อตรง เขาช่างเหลือเชื่อ ชายคนที่เป็นเหมือนเจ้าชาย ที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ ชายคนที่ทำเพื่อเธอ....
เขาพูดต่ออย่างตลกขบขัน ราวกับอ่านความคิดเธอออก
“ใช่แล้ว ฉันอาจจะใจเย็น และไม่ได้บอกทั้งหมดกับเธอมาก่อน แต่เธออ่านความคิดฉันได้นิ ดังนั้นมันจึงดูโง่ที่จะทำให้ตัวเองยุ่งยากกับทั้งหมดนั่น” เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะคิกคัก และเอนตัวหาเขา เหวี่ยงแขนล้อมรอบคอของเขาเพื่อกอดเขาแน่น
“เดรโก ฉันไม่เคยพบใครแบบนายมาก่อนเลยในชีวิต นายพูดว่านายไม่ใช่ฮีโร่ แต่นายกล้าหาญเท่าๆกับฮีโร่ที่ฉันรู้จัก นายผ่านพ้นอะไรมามาก และยิ่งไปกว่านั้น นายผ่านมันมาตามลำพัง ฉันเห็นในสิ่งที่นายต้องฝ่าฟันในความทรงจำของนาย และฉันนับถือความแข็งแกร่งนั้น ฉันต้องการจะอยู่กับนายเช่นกัน ต้องการจะเห็นการลงเอยของเรา” เธอสัมผัสแก้มของเขาอีกครั้งอย่างรักใคร่ และดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นหลอมละลายด้วยความต้องการ
เธอเอื้อมขึ้นไปจูบเขาอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากของเธอหล่อหลอมเข้ากับริมฝีปากของเขา สิ่งที่เธอเริ่มขึ้นอย่างอ่อนโยน เมื่อเวลาผ่านไปจูบของเขากลับกลายเป็นความเร่าร้อน และความต้องการที่มีมากขึ้น นิ้วมือของเขาชอนไชเข้าไปในเส้นผมดุจใยไหมของเธอ ปากของเขาลิ้มรส ทุกๆส่วนของเธออย่างกระหาย
นิ้วมือของเธอเกี่ยวพันผมของเขา และเธอร้องครางในขณะที่มือทั้งสองของเขาวนเวียนอยู่ด้านหน้าเสื้อของเธอ หลังของเธอแอ่นขึ้นอย่างตอบสนอง และสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
เดรโกผละออกจากปากของเธอ หายใจแรง และเริ่มฝังร่องจูบอันเร่าร้อนลงบนลำคอขาวนวลเนียนของเธอ ลิ้นของเขาชอนไช และลิ้มรสผิวที่นุ่มนวลบริเวณคอของเธอ ชีพจรของเธอเต้นรุนแรงขึ้น เธอถูแก้มไปมากับเส้นผมนุ่มราวเส้นไหมของเขา ในขณะที่เขาสำรวจผิวบริเวณคอของเธอ มือของเขาอยู่ตรงหน้าอกของเธอ ยั่วเย้าอารมณ์ท่ามกลางเนื้อผ้า และชุดชั้นในของเธอ เวลานั้นเองที่เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเธอคงจะบ้าไปแล้ว เดรโกเลื่อนมือไปที่เอวของเธอ ผละตัวออกห่าง หน้าผากของเขาและเธอแนบชิดกัน เขาปิดตาลงและหายใจอย่างไม่สม่ำเสมอ เขาพูดว่า
“เฮอร์ไมโอนี่ เราต้องหยุด เมอร์ลิน ฉันไม่เคยเสียใจที่ได้รับเกียรตินี้ในชีวิตของฉัน แต่เราต้องหยุด”
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มและเปลี่ยนตำแหน่งในขณะที่เธอโน้มตัวไปข้างหน้า จูบที่คอของเขาอย่างเย้ายวนใจ ความตื่นเต้นเล็กๆแล่นผ่านตัวเธอ เมื่อเธอได้ยินเสียงเสียงสูดลมหายใจที่รุนแรงของเขา
“เฮอร์ไมโอนี่ เธอพยายามจะฆ่าฉันใช่ไหม?” เขาพูดพ่นลมหายใจออกเสียงดัง แต่มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนขึ้นไปด้านหลังคอของเธอ เพื่อไม่ให้เธอขยับเขยื้อน ครู่หนึ่งก่อนที่มือทั้งสองข้างจะตกลงมาอยู่ข้างลำตัวของเขา
“เธอบอกว่า เธอต้องการรอจนกว่าเราจะแต่งงานกัน ฉันรอได้ แต่เธอต้องหยุดทำแบบนี้!”
เฮอร์ไมโอนี่ปล่อยให้มือทั้งสองข้างของเธอเลื่อนต่ำลงไปจากรอบคอของเขา ลูบไล้พื้นผิวจากหัวไหล่ทั้งสองข้างและเลื่อนมือไปสู่แผ่นอก ในขณะที่เธอทำเช่นนั้น สะโพกของเดรโกเกร็งไปด้านหน้าอย่างตอบสนอง การสัมผัสของเธอและเธอรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่แสดงถึงหลักฐานจากความปรารถนาของเขา ที่มีอย่างหนักหน่วงต่อหน้าท้องของเธอ
“ฉันไม่เคยพูดว่า ฉันอยากจะรอจนกว่าจะแต่งงาน เดรโก” เธอกระซิบข้างหูของเขา อย่างเร้าอารมณ์ ในขณะที่เขารู้สึกอึดอัด และกำลังเพลิดเพลินอยู่กับความรู้สึกที่เธอทำให้มันเกิดขึ้น ฉันบอกว่าฉันอยากจะรอแต่ฉันยังพูดไม่จบ ฉันหมายถึงว่าฉันอยากจะรอจนกว่า ฉันจะมีความสัมพันธ์ที่ผูกพันอย่างแท้จริง” เธอจุมพิตไปที่บริเวณหลังหูของเขา และเม้มติ่งหูของเขาไว้ในปาก
“และฉันจริงจัง จริงจังมากๆในตอนนี้ เดรโก เมื่อฉันพูดว่าฉันอยากให้นายร่วมรักกับฉัน” เดรโกส่งเสียงคำรามลึกเข้าไปในอกของเขา
“อืม...”
มือที่เคยกำหมัดแน่นข้างกายในตอนนี้เลื่อนขึ้นไปที่หลัง และ จับใบหน้าของเธอไว้ในอุ้มมือ เขาจ้องมองเธอ ค้นหาความจริงในดวงตาของเธอเพื่อทำความเข้าใจ
“เฮอร์ไมโอนี่ ฉันไม่อยากให้เธอต้องเสียใจ ถ้าฉันมีอะไรกับเธอ เธอต้องแน่ใจว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการ ฉันไม่อยากให้เธอรู้สึกคล้ายกับการทำอะไรที่เร่งรีบ” เฮอร์ไมโอนี่โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อจูบเขา เวลาเดียวกับที่เธอเอื้อมมือไปสัมผัสบริเวณจุดที่ตั้งชันและไวต่อความรู้สึกของเขามากที่สุด
“ได้โปรด เดรโก” เธอกระซิบ
“ร่วมรักกับฉัน” สมองของเขาว่างเปล่าแล้วในตอนนี้
เขาจูบเธอออย่างชำนาญทำให้เธอตื่นเต้นมากขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงการสัมผัส การโอบกอดและสิ่งต่อไปที่เธอรู้คือ เธอพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงนอนไม้แกะสลักขนาดใหญ่ของเดรโกที่เขาหายตัวไปจากโซฟาในห้องรับแขก
เดรโกเป็นคู่รักที่เชี่ยวชาญและเขาค่อยๆร่วมรักกับเธออย่างลึกซึ้ง เขารอคอยความปรารถนาของตัวเองเพื่อเพิ่มความปรารถนาให้แก่เธอ เฮอร์ไมโอนี่ตกตะลึงกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น เธอไม่เคยรู้สึกเร่าร้อน ต้องการและมีพลังในเวลาเดียวกัน ชั่วขณะอันยาวนานหลังจากความปรารถนาของพวกเขา มาถึงจุดสูงสุดเป็นครั้งที่สาม พวกเขานอนลงหนุนแขนของกันและกัน แขนขาประสานกันอย่างลึกซึ้ง ทุกอณูของร่างกายแนบชิดติดกัน และร่างกายของทั้งสองแน่นิ่ง
“นายรู้ไหม ทุกคนจะต้องคลั่ง ถ้าได้ยินเรื่องที่เราอยู่ด้วยกัน นายคิดอย่างงั้นไหม?” เฮอร์ไมโอนี่คิดทบทวน
“ฉันไม่สนว่าใครจะคิดยังไง” เดรโกพูด กำลังเล่นผมเปียของเธอที่วางพาดอยู่บนอกของเขา
“ตอบได้เยี่ยม” เธอพูด ยิ้มให้อย่างเห็นด้วยและจูบตรงกลางอกที่เปลือยเปล่าของเขา
เวลายาวนานผ่านไปและเดรโกคิดว่าเธออาจจะล่องลอยไปสู่การนอนหลับเมื่อเสียงของเธอ แสดงถึงความง่วง และเธอเรียกเขาอย่างลังเลใจเล็กน้อย
“เดรโก”
“ฮืม”
“นายหมายถึงอะไร ตอนที่พูดว่า นายรอได้จนกว่าเราจะแต่งงานกัน”
เดรโกหยุดชั่วขณะและย้อนคิด เขาพูดอย่างั้นเหรอ...
“เอาล่ะ” เขาตอบ ดึงเธอขึ้น ให้ศีรษะของเธอวางอยู่บนไหล่ของเขา เพราะเขาจะได้มองเห็นดวงตาของเธออย่างชัดเจน
“ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดแบบนั้นหรอก” เฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจซ่อนความผิดหวังในดวงตาของเธอได้
“แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันกำลังคิด ฉันยอมรับกับตัวเองว่า ฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน ในช่วงที่เธอไม่อยู่ ฉันรู้สึกถึงการขาดหาย โดดเดี่ยว ไม่ใช่เป็นเพราะเพื่อน แต่เพราะ...เธอ
“เธอทำให้ชีวิตของฉันแตกต่าง ฉันไม่เคยอยากกลับไปใช้ชีวิตโดยไม่มีเธอ ฉันต้องการให้เธออยู่กับฉัน...ตลอดไป ฉันคาดว่ายังไม่นานพอสำหรับเราที่จะพูดเรื่องแต่งงานจนถึงบัดนี้ ฉันไม่ต้องการให้เธอกลัว แต่เท่าที่ฉันทำได้ และทั้งหมดที่ฉันต้องการ คือเวลาที่จะทำให้เธอมั่นใจว่าเราเป็นของกันและกันจริง”
“เดรโก ฉ-ฉันไม่รู้จะพูดยังไง” เธอพูด ดวงตาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา
“นั่นก็เพราะความรัก” เดรโกพูดเนิบๆในขณะที่เขาจูบปลายจมูกของเธอ และเปลี่ยนท่าเพื่อมองลงไปที่เธออีกครั้ง
“และ เธอจำเป็นต้องมีความมั่นใจในความสัมพันธ์ของเรามากกว่านี้อีกหน่อย ซึ่งฉันเตรียมพร้อมที่จะสานต่อตราบนานเท่าที่เป็นไปได้” เขาจูบริมฝีปากของเธอด้วยความหลงใหล ซึ่งกระตุ้นความรู้สึกของเธออีกครั้ง
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ ในขณะที่เขาจูบลำคอของเธอ และเธอสงสัยว่า...เธอควรจะต้องตกลงแต่งงานกับเขาแล้วในตอนนี้ ที่สุดแล้วเธอและเขารู้ดีว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาเท่านั้นที่จะสร้างความรักของกันและกัน
.END
..
ความคิดเห็น