คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : สโนว์ไวท์กับคนเเคระทั้งเจ็ด
***หมายเหตุ*** อ้างอิงบารามอสไกด์บุ๊ก (เล่มสีม่วงอ่อน)หน้า 140 ภาคหนึ่งร้อยคำถามกับท่านแรบบิทข้อ 21 ที่ว่าควีนปราสาทขุนนางที่เคยมีเรื่องกับเฟรินเมื่อครั้งการแข่งขันหมากกระดานเกียรติยศเมื่อตอนปี 1 ชื่อ คุราร่า สำหรับฟิคในตอนนี้คุราร่าของเราจะได้เข้าร่วมแสดงด้วย....
เหตุการณ์วกกลับมาที่เอดินเบิร์ก..จะว่าเป็นภาคต่อจากเจ้าหญิงนิทราหรือเป็นเรื่องลำนำบทใหม่ก็ได้ แค่ตอนนี้เฟรินเป็นผู้หญิงตลอดเวลาเท่านั้น
++**++**++**++**++**++**++**++**++
“ ฮ้า!!...แกถูกหวย!! “ เสียงอุทานจากครี๊ด นักรบจากไนล์ดังขึ้น
“ ให้ตายสิวะแก...ซีบิล งานนี้มันต้องฉลอง” อาชูร่าเอ่ยแนะนำ
“ ครับ..ผมก็เลยอยากจะพาทุกคนไปฉลองกันที่โรงอาหาร...” ซีบิลอมยิ้ม
ถูกต้องค่ะทุกคน...ซีบิลน้อยรูปหล่อของเราถูกหวยรางวัลที่สาม น่าแปลกไม่รู้ว่าซีบิลไปหาซื้อมาจากไหน และที่น่าสนใจกว่าว่าซีบิลชอบรวยทางลัดแบบนี้ด้วยหรือ?..แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลกลใดก็ตามไม่มีใครสนใจหรอก เพื่อนๆในป้อมก็สนใจแต่งานฉลองสังสรรค์หาความสนุกตามประสาชาวป้อมอัศวินผู้เฮฮาเท่านั้น ..ซึ่งซีบิลก็ประกาศมาแล้วว่าจะเลี้ยงข้าว....
“ เฮ้ยนานๆทีมีฉลอง..นี่ก็จะปีใหม่แล้วด้วย เปลี่ยนบรรยากาศมั่งดิว้า...” เสียงประท้วงที่ทุกคนต้องเห็นด้วยดังมาจากโคลว์
“ เอางี้ดิวะ ไหนๆก็มีกะตังแล้ว..เราเปลี่ยนโรงอาหารกันมั่ง อยู่กับโรงอาหารดราก้อนนี่มาหลายปีแล้ว...นอกจากเฟรินไม่เห็นมีใครจะเจริญอาหาร” คิลบ่นกลายๆ
“ งั้นเราไปปราสาทขุนนางกัน...ข่าวว่าโรงอาหารกริฟฟินรสชาติดี “ ห้องสมุดเคลื่อนที่เป็นผู้ตัดสินใจอย่างผู้มีประสบการณ์ ซึ่งเพื่อนๆก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ แต่พวกปราสาทขุนนางนี่...ยังมีเรื่องกับเราอยู่ไม่ใช่เหรอ “ เจคถาม
“ ห่วงอะไรกัน...เราไปแค่โรงอาหาร แถมมีเจ้ามือใหญ่จ่าย..ไม่เห็นต้องกลัว “ ครี๊ดพูดให้กำลังใจ “ ไหน...ใครจะไปมั่งวะ นับดูก่อนว่าไอ้ซีบิลมันเลี้ยงไหวหรือเปล่า...” ครี๊ดเย้าอย่างอารมณ์ดี
“ มีฉัน เจค ครี๊ด โร โคลว์ อาชูร่า ซีบิล อืม...เจ็ดคนพอดีว่ะ “ คิลนับเพื่อนๆในวงสนทนา
“ แล้วคนอื่นไปไหนกันหมดวะ...ไปตามมาดิ จะฉลองกันทั้งที...” อาชูร่าเอ่ยชวน
“ แองจี้ มาทิลด้า เรนอน คาโล...ติดประชุม “ โคลว์ทำสีหน้าครุ่นคิด
“ นิกส์ เดท ซอว์โรว์ ทิวดอร์ เอ็ดเวิร์ด กัส..พวกนั้นรักสันโดษ ชวนให้ตายคงไม่ไปกันหรอก...” เจคเอ่ยบอกพลางส่ายหัวเนือยๆกับความไม่ค่อยสังสรรค์ของเพื่อนก๊กนี้
“ เฟรินไง...เฟรินล่ะ” ครี๊ดเอ่ยเหมือนพึ่งนึกอะไรขึ้นได้ว่าขาดคู่หูที่ขาดไม่ได้ทุกครั้งที่ไปลองของ(สูงๆสาวๆขาวๆอวบๆ)ที่ปราสาทขุนนาง
“ เฮ้ย..อย่าแม้แต่จะคิดเคาะประตูห้อง แนะนำว่าไม่ได้ตายดี..” คิลร้องเสียงหลงเมื่อโรอาสาจะไปตามเฟรินที่ห้อง
“ ทำไมอีกวะ เรื่องเฉลิมฉลองแบบนี้ไม่ชวนเฟรินโกรธตายเลย” อาชุร่าทำสีหน้างงสุดขีด
“ เออน่า...ขอให้เชื่อกัน ก่อนออกจากห้องมาเฟรินมันยังสั่งเลยว่าถ้าไม่เย็นไม่ต้องให้ฉันกลับห้อง มันอยากอยุ่คนเดียว...” คิลบอกอย่างเหนื่อยใจ
“ ให้เดานะ..ทะเลาะกับคาโล ชัวร์” ครี๊ดเอ่ยอย่างผู้มีประสบการณ์ทางด้านนี้
“ อืม..เห็นเมื่อวานคาโลสัญญาว่าจะพาไปเดินตลาด แต่มันดันติดประชุมด่วน แกก็รู้ว่าจนวันนี้คาโลมันยังไม่ออกมาจากห้องประชุมเลย...แล้วไอ้การประชุมเนี่ยมันก็น่าจะยืดเยื้ออีกราวๆสองวัน ป่านนั้นก็หมดวันหยุดแล้ว...เฟรินมันรอคาโลจนทนไม่ไหวนั่นล่ะ...”
“ อ้าว..ทำไมหยั่งงั้นล่ะครับ เมื่อวานผมก็เห็นคุณแองเจลีน่า มาทิลด้า และก็เรนอนออกมากินข้าวได้เลย..” ซีบิลค้าน
“ ก็นั่นแหละ..เฟรินมันถึงไซด์จัดว่าทำไมคาโลไม่ออกมา ทั้งๆที่องค์ประชุมเค้าให้พัก...” คิลถอนหายใจเฮือกๆตลอกการเล่าเรื่อง
“ โถๆๆ เปลี่ยนแผนพาเฟรินไปเดินตลาดกันมั๊ย....ทดแทนแฟนหนุ่มที่ทอดทิ้ง”ครี๊ดเสนอข้อความที่เข้าท่า แต่ใบหน้าอั๊กลี่สุดๆ
“ ทำอะไม่มีหัวคิด ถ้าฉันอยากให้คาโลกับเฟรินคืนดีกันเร็วๆฉันจะปล่อยให้คาโลมันมาง้อของมันเอง...แกไปทำอย่างงั้นแล้วช่องว่างให้คาโลง้อเฟรินมันจะอยู่ตรงไหน...” โรถามทำให้ครี๊ดฉุกคิดเปลี่ยนความคิดทันใด
“ ผมว่าพวกเรารีบไปกินกันเถอะครับ..ผมหิวแล้ว” ซีบิลเอ่ยขัดบทสนทนาเรื่องสมานแผลใจให้เพื่อนรักแล้วลาก “คนฟาดเคราะห์ทั้งเจ็ด” ไปเลี้ยงฉลองกัน
++**++**++**++**++**++**++**++**++**++
“ โหย...อาหารห่วยกว่าป้อมเราหรือเปล่าวะเนี่ย “ กินไปไม่ทันไรครี๊ดก็บ่นคั่นกลางโต๊ะอาหารจนชาวปราสาทขุนนางหันมองกันเป็นแถบๆ
ทู่เรศ...บรรยากาศดี อะไรๆก็เยี่ยม
อาหารรสชาติสุนัขจะรับประทานยังต้องคิดแล้วคิดอีก
นี่ถ้าเขาเป็นหมาแล้วนี่คืออาหารจานสุดท้ายที่จะได้กินก่อนตาย..
..คิดดูก่อน..กินไม่กินอีกเรื่องนึง..
“ แล้วใครสั่งอาหาร...บอกว่ารอกันก่อนก็ไม่เชื่อ “ โรเอ่ยปากด่า นี่เขาแวบไปคืนหนังสือแป็บเดียว กลับมา...อาหารแต่ละอย่างที่มันสั่ง
สลัดรัก...ชื่อเพราะแต่มันคือการเอาหัวใจหมูสดๆมาทำสลัด สยองสิ้นดี - -
พล่าเนื้อเอาเกลือทา ...ปลาย่างรสห่วยแตก เค็มสะเดิด....
ต้มข่าหนังเหนียว ...ต้มยำหนังมังกรจันทรา ใครจะไปรู้วะ..เห็นสวยๆนึกว่าจะอร่อย -*-
และอีกนานาอาหารจิปาถะที่ไม่อยากพูดถึง(หัวสมองไม่ค่อยแล่น..ขอข้าม)
“ เฮ้ยแก..นั่นใช่แม่ควีนคนสวยที่เคยปะทะกับเฟรินเมื่อหมากกระดานเกียรติยศตอนปีหนึ่งหรือเปล่าวะ? “ เจคเอ่ยถามเมื่อเห็นสาวสวยคนหนึ่งที่กินอาหารอยู่กับเพื่อนๆอย่างเอร็ดอร่อย
“ เออใช่ๆ ข่าวว่าปีนี้ป้อมจะส่งแม่คุณลงสนามตำแหน่งเดิมแหละ...มาทิลด้าท่าจะเจองานหนักอีกรอบ...” อาชูร่าชี้แจงให้เพื่อนๆฟัง
“ กลัวอะไรวะ เฟรินเดินหมากซะอย่าง...แถมเบี้ยอย่างพวกเรายังไม่ตายง่ายๆซะด้วย สบายใจได้” คนเป็นเบี้ยตลอดกาลอย่างโคลว์เอ่ยความคิดเห็น
“ สวยๆคนนั้นอ่ะนะ เค้าชื่อคุราร่าเว้ย...ตำแหน่งหน้าที่การงานน่าจะสูสีกับมาทิลด้านั่นแหละ ...นี่เค้าออกมากินข้าวได้แปลว่าเค้าคงพักประชุมกันแล้วล่ะ” โร เซวาเรสผู้รอบรู้แจกแจง
“ ทำไม่แกมันรู้เยอะนักวะโร เคยจีบเค้าหรือไง...” ครี๊ดเอ่ยเย้า ซึ่งก็ได้แต่รอยยิ้มเลศนัยและนัยน์ตาสีเขียวสดใสส่งกลับมา
“ เราน่าจะไปหาคุณคาโลนะครับ..ดูหน่อยว่าเค้าได้กินข้าวกินน้ำหรือยัง..” ซีบิลเอ่ยเสนอความคิดด้วยความเป็นห่วงคาโล
“ เออ..ก็ดีเหมือนกัน ไม่รู้อาบน้ำอาบท่าบ้างหรือเปล่า ห้องหับก็ไม่กลับ...” คิลบ่นอย่างเป็นห่วงเจ้าชายน้ำแข็งอีกคน
“ แล้วไม่ไปตามเฟรินมันหน่อยเหรอ?” เจคเอ่ยขัด
“ ไม่ต้อง...พวกเราไปกันเจ็ดคนนี่แหละดีแล้ว จะได้ไปกระซิบบอกคาโลถนัดว่าเฟรินมันไซด์จัดขนาดไหน” ครี๊ดว่ายิ้มๆ
“ พวกแกรู้หรือไงว่าเค้าประชุมกันที่ไหน?” โร เซวาเรสเอ่ยขัดอีกคน
“ อ้าวโร...แกไม่รู้หรอกเหรอวะ เวรกรรม....”
“ จะไปรู้ได้ไง ตำแหน่งอะไรก็ไม่มี...ทางการประชุมไม่ได้เชิญฉัน “ โรจิบน้ำชาอย่างไม่คิดใส่ใจอะไรนัก ก่อนจะมีความคิดอุบาทว์ๆจากนักรบตาเดียวที่เหลือบตาไปเห็นแม่สาวน้อยคุราร่าเก็บจานพอดี
“ เราก็สะกดรอยตามแม่นั่นไปสิวะ...หล่อนต้องเข้าห้องประชุมต่อไม่ใช่เหรอ”
++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++
สปายความรักทั้งเจ็ดสะกดรอยตามคุราร่าคนสวยต่อมาเรื่อยๆจนกระทั่งเธอเลี้ยวเข้าห้องน้ำหญิงไป ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ...ทั้งนั่งรอด้วยความอดทน ก่อนจะได้ยินเสียง
“ นี่เธอ..แผนการรวบหัวรวบหางเจ้าชายหอคอยงาช้างสุดหล่อไปถึงไหนแล้วล่ะ? “ เสียงหญิงสาวในห้องน้ำดังขึ้น
“ เค้าก็ยังใจแข็งอยู่เหมือนเดิม..คุราร่ายังเข้าไม่ถึงเลย...” เพื่อนสาวคนหนึ่งที่ทั้งเจ็ดทำนายว่าน่าจะเป็นเพื่อนสนิทของคุราร่ารายงานผลให้ฟังทำเอาสี่ในเจ็ดหัวเราะกิ๊ก ..ก็เห็นๆอยู่ว่าคาโลเป็นคนยังไง...
“ จริงเหรอ?นี่แปลว่าเขามีเจ้าของแล้วหรือเปล่า...” เพื่อนสาวคนเดิมยังเอ่ยถาม
“ ก็แม่เจ้าหญิงเฟลิโอน่านั่นแหละ ท่านคาโลไม่ยอมออกมาจากห้องประชุมเลยเพราะจะเร่งงานให้เสร็จเร็วที่สุด ชิ..ไม่รู้จะคิดถึงอะไรกันนักหนา” เสียงส่อแววไม่พอใจของคุราร่าดังขึ้น แล้วทั้งเจ็ดก็ถึงบางอ้อโดยทันที
อ๋อ..งี้นี่เองที่ไม่ยอมออกมาจากห้องประชุม
..เฟรินรู้เข้าคงปลื้มตาย...
“ เจ้าหญิงเฟลิโอน่ารู้เข้าคงดีใจเนอะ” เสียงเพื่อนสาวเอ่ยชมเชยคาโลทำเอาทั้งเจ็ดสะดุ้งเฮือกเหมือนโดนขี้เถ้าสาด คิดในใจว่ามันรู้ความคิดเราได้ไงวะ?
“ แม่เจ้าหญิงนั่นไม่มีทางรู้หรอก....” น้ำเสียงเย้ยหยันจากคุราร่า
“ ทำไมเหรอ?”
“ การประชุมรอบสองจะเริ่มขึ้นในอีกชั่วโมงข้างหน้า ฉันอยากจะรู้นักว่าถ้าแม่เฟลิโอน่ากลายเป็นคนแคระหน้าตาอัปลักษณ์จะเป็นยังไง...” น้ำเสียงหญิงสาวที่มีนามว่าคุราร่าเหี้ยมเกรียม “ มนตราบทที่ฉันอุตส่าห์ไปดั้นด้นหามาจากสโนวแลนด์จะทำให้แม่นั่นกลายร่าง...แล้วท่านคาโลก็จะเป็นของฉัน”
++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++**++
“ เฟรินโว้ยยยยยยยย!!! งานเข้า!..........” เสียงตะโกนดังขึ้นจากด้านล่างของป้อมอัศวินก่อนจะมีเสียง โครม คราม เอ๋ง เคร้งๆๆตามมาติดๆก่อนเสียงนี้จะไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องหัวหน้าชั้นปีอันเป็นที่อยู่ของเฟริน
“ โว้ยยยยยย! พวกแกจะตะโกนหาเตี่ยใคร? ป่านนี้พ่อฉันอยู่ที่เมืองหลวงเดมอสคงจะสะดุ้งเพราะเสียงพวกนาย...” เฟรินเปิดประตูรับแขกด้วยคำด่าและใบหน้าบูดสนิท
“ อ่า..เอ่อ..เฟริน วันนี้ไม่ต้องไปกินข้าวที่โรงอาหารนะ จะกินกี่จานเดี๋ยวฉันยกมาให้” คิลพูดเสียงสั่นพลางหอบฮั่กด้วยความเหนื่อย
“ วันนี้นายอย่าออกไปไหนนะ คาโลกลับมาเมื่อไหร่นายค่อยออกมานะ..” อาชูร่าเตือนด้วยสีหน้ากังวล
“ ช่วงนี้อย่าเพิ่งพูดกับใครนอกจากพวกฉันและคนในชั้นปีเรา...โดยเฉพาะสาวสวยๆละเว้นไปเลยนะ...” โคลว์เขย่าไหล่เฟรินหวังให้คำพูดมันซึมเข้าไปในสมอง
“ รับปากพวกฉันสิเฟริน...รับปาก” ครี๊ดตรงเข้ามาเขย่าเฟรินร่วมด้วย
“ โรกับซีบิลจะไปห้องสมุด เผื่อนายเป็นอะไรไปจะได้หาทางแก้คำสาปได้ทันนะ...” เจคเข้ามาร่วมวงกับครี๊ดและโคลว์
“ พวกนายพูดเรื่องอะไรกัน ฉันไม่เข้าใจ?” เฟรินทำหน้าเหมือนมีง.งูเต็มกบาล
“ เอาเป็นว่าขอให้นายเชี่อพวกฉันนะ...กลับเข้าไปในห้อง พวกฉันจะจัดเวรยามดูแลนายเอง...” โคลว์พูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่นเหมือนในตัวเฟรินมีเพชรมูลค่าไม่ต่ำกว่าสี่สิบล้าน - -“ ซึ่งตอนแรกเฟรินก็เชื่อฟังโดยดี..ผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาทีดีเฟรินก็เริ่มไฟธาตุแตก....
“ โฮ่ยคิล..กี่โมงแล้วอ่ะ ฉันอยากไปเดินเล่น...” เฟรินเริ่มงอแง
“ ไม่ได้เว้ย...จนกว่าการประชุมจะเริ่มต้น นายอดทนหน่อยดิ..” คิลก็เริ่มงอแงเช่นกัน
“ทำไมต้องรออ่ะ...ขอฉันไปเดินเล่นเหอะ”
“ ไม่ได้เว้ย...บอกตรงๆว่าตอนนี้นายไม่ปลอดภัยมากๆ อยู่เฉยๆเหอะ..”
“ ใจคอพวกนายนี่มันร้ายเหมือนคาโลเลยอ่ะ กักขังฉันไม่ให้ออกนอกเอดินเบิร์ก...แถมตอนนี้ยังจะไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีก” เฟรินเริ่มเบ้หน้าใช้มารยาหญิงกับคิล ฟีสมัส - -“
“ ถ้างั้นเราออกไปเดินเล่นกันมั๊ยคะ? เฟลิโอน่า...” คุราร่าเปิดประตูเข้ามาถามเสียงหวานจุดประกายความหวังให้เฟริน พร้อมๆกับมีครี๊ดและโคลว์ส่งสัญญาณโบกไม้โบกมือเป็นละครใบ้ด้านหลัง คิลเดาว่ามันเป็นสัญญาณบอกถึงความมาเหนือเมฆของผู้หญิงคนนี้
คิลหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจอะไรเท่าไหร่ คุราร่าเหลือบตามองชั่ววูบก่อนเดินผละเข้าไปจับไม้จับมือเฟริน
“ คือว่าฉันอยู่ประชุมมาทั้งวัน พอได้โอกาสพักเลยมาหาคุณเฟรินน่ะค่ะ...” คุราร่ายิ้มหวาน แล้วง.งูก็เต็มกบาลเฟรินอีกครั้ง
“ มา..หา ผม...ทำไมฮะ?”
“ ก็ปีนี้ทางปราสาทขุนนางส่งฉันไปเป็นตัวเดินหมาก แล้วฉันก็เห็นว่าคุณเฟรินได้เดินหมากครั้งนี้เหมือนกัน...น่าจะพอให้คำปรึกษามือใหม่อย่างฉันได้..” คุราร่าตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเต็มที่
..ไหนอาชูร่ามันบอกว่าตำแหน่งเดิมไงวะ?...
โห...ตอแหลขั้นเทพเลยนะเนี่ย
“ นะคะ...แล้วเราออกไปติวกันข้างนอก ในนี้มันอึดอัดน่ะค่ะ...” คุราร่าว่าพร้อมคล้องแขนเฟลิโอน่าออกไป โดยมีครี๊ด โคลว์และคิล(คล้องจองกันดีเนอะ^ ^)เดินตามห่างๆอย่างไม่ไว้ใจ
“ แฟนคลับคุณเฟรินเหรอคะ?” คุราร่าเอ่ยถามเบาๆ แต่ก็ได้ยินมันทั้งสามคนนั่นล่ะ
“ เปล่าฮะ...พวกโรคจิตชอบกักขังหน่วงเหนี่ยวอิสระภาพคนอื่น “ เฟรินพูดลอยๆให้ทั้งสามได้ยิน เก็บเอาไปเข่นเขี้ยวในใจ
เวลาผ่านไปสักพัก ระหว่างที่เฟรินกับคุราร่ากำลังเดินหมากกันอยู่ ซีบิล โร เจคและอาชูร่าก็ตามมาสมทบ พลางนั่งมองวงหมากรุกอยู่ไม่ไกลนัก
“ เรามาซ้อมเวทย์กันหน่อยมั๊ยคะ? ข่าวมาว่าคุณเฟลิโอน่าเป็นผู้เชี่ยวชาญมนต์ของเดมอส “ คุราร่าเอ่ยคำพูดที่ทำให้เฟรินน้ำลายพลันเหนียวหนืด ถึงแม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มอวดสาวต่อ
คุราร่าคนสวยเรียกคทาอันละหลายกะตังเข้ามือ ส่วนทางด้านเฟรินก็ถือคทาพิชิตโลกันตร์อันเดิม พลางนึกทางหนีที่ไล่ว่าจะเสกอะไรดีที่ไม่ง่ายและไม่อายสาว
ผู้พิทักษ์ทั้งเจ็ดที่เฝ้ามองดูเหตุการณ์อยู่เริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ซีบิลและโรที่มีสติก่อนใครเรียกคทาเข้ามือมากำไว้ให้อุ่นใจแต่ยังไม่มีใครขยับตัว
คุราร่าเริ่มร่ายมนต์ด้วยมนต์บทที่ไม่คุ้นหู ไม่ใช่ภาษาเอเดนหรือเดมอส...มันเป็นภาษาสโนว์แลนด์....
ทางด้านเฟรินก็ยังยื้นบื้องี่เง่าอยู่อย่างงั้น ไม่รู้ว่ามันอึ้งหรือว่าไม่โง่จนไม่รู้อะไรเลย จะว่าเฟรินอย่างเดียวก็ไม่ได้..ก็ไอ้เจ็ดคนที่เป็นห่วงเฟรินนักหนา ไม่รู้มันเอาสมองที่ไหนคิดว่า “เผื่อเฟรินจะตอบโต้” ก็เลยไม่มีใครแสดงตัวออกไป ...อะไรๆก็ดูจะเข้าทางคุราร่าไปทั้งหมดสิท่า....
มนต์บทนี้ที่ยาวไม่ต่ำกว่าหนึ่งหน้ากระดาษ คุราร่าร่ายได้เรื่อยๆโดยไม่มีใครมาขัด ไอ้งี่เง่าทั้งเจ็ดใจเย็นหวังให้เฟรินตอบโต้จนคุราร่าร่ายมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย ..มันใจเย็นจนน่าไปเปิดโรงงานกิจการน้ำแข็งให้รู้แล้วรู้รอดไป -*-
แต่อย่างน้อยทั้งเจ็ดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจให้คุราร่าร่ายมนต์ใส่เฟรินเอาง่ายๆ ...ก่อนคุราร่าจะร่ายมนต์ได้จบ...ทั้งเจ็ดก็ตีลังกาม้วนตัวออกมาขวางลูกเตะเบคแฮมแทนเฟริน ภาพชายหนุ่มเจ็ดคนที่กระโจนออกมาจากพุ่มไม้ในเวลาพร้อมๆกันโดยไม่ได้นัดหมายเหมือนการแสดงกายกรรมกวางเจา รวดเร็วจนคุราร่าเองก็เบรกไว้ไม่ทัน...
โอ...มันช่างเป็นภาพที่สวยงาม
เฟรินและคุราร่าวิ่งปราดไปที่ทั้งเจ็ดในทันที ถึงจะดูคล้ายกายกรรมกวางเจาแต่หากเรานำเทปบันทึกภาพมาดูภาพสโลโมชั่นจะสังเกตเห็นได้ว่า ..ทั้งเจ็ดจบการปกป้องเจ้าหญิงสองดินแดนไม่ค่อยสวยนัก สภาพตอนนี้น่ะเหรอ....
ไม่นับอาการถลอกปอกเปิกจากการกระโจนเมื่อกี้ ตอนนี้กระดูกทุกชิ้นที่ตั้งฉากกับพื้นผิวโลกของคิล โร โคลว์ ครี๊ด ซีบิล อาชูร่าและเจคหดสั้นลงไปกว่าครึ่ง ในขณะที่กระดูกที่ขนานกับโลกก็ยังมีขนาดเท่าเดิม ...ตอนนี้ทั้งเจ็ดเป็นคนแคระที่มีสภาพหน้ามือเป็นหลังเท้าก็ว่าได้...
คุราร่าวิ่งไปประคองเจคด้วยสีหน้าตื่นตกใจประหนึ่งได้ตำแหน่งนางงาม ถึงจะพลาดเป้าแต่อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามนต์บทนี้ไม่ควรใช้ มีอย่างที่ไหน..ยิงปืนนัดเดียวได้คนแคระอุบาทว์ใช้การไม่ได้มาเจ็ดตัว...
ทางด้านเฟรินยังจับต้นชนปลายไม่ถูกก็เหวี่ยงคทาทิ้งแล้ววิ่งมาช่วยซีบิลที่มีใบหน้าเหยเกจากการกระโดดแสดงกายกรรมเมื่อกี้ แล้วเอ่ยถาม
“ พวกนายเล่นบ้าอะไรกันเนี่ย...โอ๊ยตายแล้ว ตายๆๆ “ เฟรินสถบออกมาไม่ขาดปากแล้วช่วยฉุดโรขึ้นมาอีกคน
“ เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังเหอะ...มีเรื่องอื่นต้องสะสาง “ โรบอกปัดแล้วยืนจังก้า ทั้งๆที่ตัวเองก็ยังสูงไม่ถึงเอวเฟรินดี...
“ เธอคิดจะทำอะไรน่ะ ใช้เวทมนต์อันตรายแบบนี้ต่อหน้าเจ้าหญิงแห่งบารามอสได้ยังไง!!! “ โรตวาดลั่น ทำเอาคุราร่ามือสั่นปากสั่นอย่างทำอะไรไม่ถูก ส่วนคนเป็นเจ้าหญิงก็รีบเอาตีนสะกินไอ้คนแคระตาเขียวยิกๆ
“ เฮ้ยแก...อุบัติเหตุต่างหาก อุบัติเหตุ...” เฟรินกระซิบให้โรใจเย็น
“ อ้อเหรอ? “ โรขึ้นเสียงสูงถาม พลางหันไปมองตาคนที่โดนลูกหลงอีกหกอย่างรู้กันดี
“ ฉันอยากจะบอกว่ายัยนี่น่ะ เฮ้ย!!0_0” ครี๊ดไม่สามารถต่อคำพูดจนจบประโยคได้เพราะ
..ยัยคุราร่านั่น บีบน้ำตาร้องไห้จนตัวโยน...
ซ้ำรายไปกว่านั้น...
ไอ้บ้าเฟรินสวมวิญญาณสุภาพบุรุษเดินเข้าไปปลอบหน้าตาเฉย...
“ ว้า อย่าร้องไห้สิครับ ไม่เอาๆๆ” เฟรินเดินเข้าไปปลอบคุราร่าอย่างไม่ถือโทษอะไรทั้งนั้น อยากให้คาโลมาเห็นภาพนี้ชะมัด -*-
“ ฉันขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฮึก...ฮือๆๆๆ” คุราร่าบีบน้ำตาเหมือนนางเอกรางวัลตุ๊กตาทอง
“ ไม่เป็นไรครับ...พวกผมก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย สบายมากครับ..” เฟรินยิ้มแย้มแจ่มใสขายขนมจีบให้สาวเจ้าได้เรื่อยๆ
ไอ้โรคจิต...ไม่มีใครเป็นอะไร
แกคนเดียวนั่นล่ะ ที่ไม่เป็นอะไร...ไอ้ขี้หลี
“เอ้า...ไม่เอาครับ ดูสิ..จะได้เวลาเข้าประชุมแล้ว รีบเช็ดน้ำตานะครับ เดี๋ยวเขาประชุมสาย....” เฟรินยกมือขึ้นเช็ดตาให้คุราร่าอย่างทะนุถนอม ภาพที่ทำให้คนแคระทั้งเจ็ดต้องหาที่อ้วกกันเป็นแถบๆ
“ ค่ะ..ฝากขอโทษพวกเขาด้วยนะคะ ขอบคุณคุณเฟรินมากค่ะ..” คุราร่าเห็นจังหวะหนีก็รีบลาทันที แล้วเธอก็จากไป...พร้อมๆกับ
“ ไอ้บ้าเฟริน!!..ไปเรียกยัยนั่นกลับมา แล้วพวกฉันจะคืนร่างเดิมยังไง ...ไอ้โง่!! “
++**++**++**++**++**++**++**++**++
“ ใครจะไปรู้ว่าพวกนายชอบสวมบทฮีโร่ต่อหน้าสาวงาม...” เฟรินบ่นพึมพำอย่างที่คนแครทั้งเจ็ดอยากโดดเตะก้านคอเป็นที่สุด นี่ตกลงทำคุณบูชาโทษเรอะ-*-
“ เอาน่าๆ เอาเป็นว่าฉันขอโทษที่ไม่เชื่อพวกนาย...อย่าโกรธฉันเลยนะ” เฟรินต้องคุกเข่าไปง้อเพื่อนๆทั้งเจ็ดเพราะมันสูงไม่ถึงเอวดี และตอนนี้มีใบหน้าที่บูดสนิท...
“ โธ่...พวกนายก็รู้ว่าห้ามฉันมันห้ามยาก ฉันขอโทษจริงๆ” เฟรินยินคงพร่ำพรรณนาคำขอโทษไม่ขาดปาก...บุญคุณครั้งนี้จะหาที่ไหนมาทดแทน แม่ควีนคนสวยนั่นจะออกมาจากห้องประชุมตอนไหนก็ไม่รู้ หนำซ้ำไอ้คนที่น่าจะพึ่งได้ยังติดอยู่ในห้องประชุมงี่เง่านั่นอีก...โธ่ว้อยยยยยย
“ นี่...ฉันยอมพวกนายทุกอย่างเลย หายโกรธฉันเถอะนะ” เฟรินมองเหล่าคนแคระผู้กล้าหาญทั้งเจ็ดอย่างซาบซึ้ง นี่ถ้าไม่ได้พวกมันเธอคงมีสภาพที่แย่กว่านี้...งานนี้คงต้องยอมถวายตัว
“ ก็ได้ครับ” ซีบิลหนุ่มน้อยผู้ใจดีเอ่ยขึ้นก่อน
“ จริงนะ 0_0 “ เฟรินตาโตทันที ซีบิลพยักหน้าให้ช้าๆก่อนจะโดนเฟรินคว้าไปกอดเพราะความน่ารักของขนาดตัว
“ เฮ้ย..ง่ายขนาดนั้นได้ไงวะ พวกฉันต้องทนอยู่ในสภาพนี้กี่วัน..ออกไปไหนก็ไม่ได้ด้วย...” อาชูร่าเอ่ยขัด
“ ของแบบนี้มันต้องแลกเปลี่ยน....” โคลว์ยิ้มย่องอย่างมั่นใจในแผนการสอง ที่จะทำให้พวกเขาสะใจ และเฟรินก็ออกไปซ่าที่ไหนไม่ได้จนกว่าคาโลจะออกมา...
++**++**++**++**++**++**++**++
แฮ่...ไอ้พวกคนแคระบ้า
ฉันออกไปได้เมื่อไหร่นะแก...ตายกันเป็นแถบๆแน่
“ อาราย...บ่นอะไรในใจน่ะเฟริน ถูต่อไป....” โร เซวาเรสส่งประกายตาเขียววิบวับอย่างรู้ทันแล้วสั่งให้เฟรินถูพื้นห้องต่อ
คำสั่งของคนแคระทั้งเจ็ดก็คือ สั่งให้เฟรินทำความสะอาดห้องและปรณิบัติพัดวีพวกเขาจนกว่าจะได้คืนร่างเดิม...ตอนนี้เฟรินจึงไม่มีเวลาว่างจะคิดทำอะไรทั้งนั้น
“ เสร็จแล้วมาตัดเล็บให้ฉันด้วยนะเว้ย” ครี๊ดตะโกนสั่ง
“ คุณเฟรินตัดเล็บเสร็จแล้วมาเช็ดดาบให้ผมหน่อยนะครับ “ ซีบิลก็เอากับเขา
“ เฮ้ยเฟริน...ฉันชักจะหิวน้ำ หยิบให้ทีดิวะ “ อาชูร่าสั่งต่ออย่างไม่คิดจะให้เฟรินหายใจกันเลยทีเดียว ซึ่งสโนว์ไวท์ผู้น่าสงสารของเราก็ต้องทำตามอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง....
“..เสร็จแล้วแกไปล้างส้วมต่อนะเว้ย พวกฉันจองคิวเรนอนให้สอนทำกับข้าวให้แล้ว ..เดี๋ยวนายไปเรียนกับเรนอนให้ได้ผลงาน กลับมาพวกฉันต้องมีกับข้าวกินนะเว้ย....” เจคสั่งเสร็จสรรพจนเฟรินตาเหลือก นี่ทำงานยังไม่พอ..ยังต้องไปเรียนทำอาหาร โอย...อยากตาย
“ แล้วพวกนายจะไปไหน? “ เฟรินเอ่ยถามคิลที่ดูอารมณ์เสียมากกว่าใคร
“ พวกฉันจะไปห้องสมุด..หาวิธีแก้คำสาปบ้าๆนี่นะสิโว้ย!!!”
++**++**++**++**++**++**++**++
“ กรี๊ดดดดด!!! คุณเฟริน อย่าใส่น้ำปลาลงในเค้ก!!! “
“ ว้าย!!! ซุปไหม้หมดแล้วค่ะคุณเฟริน “
และสารพัดเสียงโวยวายจากเรนอนจากคลาสทำอาหารในวันนี้...สำหรับเฟรินแล้ว ขั้นตอนการทำอาหารแต่ละอย่างมันช่างน่าปวดหัวไปซะหมด ไอ้นู่นไอ้นั่นไอ้นี่ผสมกันให้วุ่นวาย..น่าปวดหัวจริง
แต่คนที่ปวดหัวยิ่งกว่าคือเรนอนี่ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยสอนใครได้ยากเย็นเท่านี้...แล้วพวกคุณคิลจะได้กินอะไรบ้างเนี่ย - -“
ก๊อกๆๆ
“ ค่า..จะไปเปิดเดี๋ยวนี้ละ “ เรนอนตะโกนสวนเสียงเคาะประตูห้องโภชนาการออกไป บางทีนะบางที...พักซะบ้างอะไรๆอาจจะดีขึ้น
“ คุณเฟรินคะ..เพื่อไถ่โทษคราวที่แล้ว ฉันเอาแอปเปิ้ลมาฝากค่ะ” คุราร่าโผล่พรวดเข้ามาโดยไม่มีหมายเหตุแจ้งล่วงหน้าพร้อมยกตระกร้าของโปรดเฟรินขึ้นชูหรา..ในขณะที่เรนอนกำลังงงสุดขีด
แอปเปิ้ลจากที่ไหนกันนะถึงได้สวยขนาดนี้.....
ปลูกได้สวยขนาดนี้ต้องเป็นที่เวนอลหรือไม่ก็เดมอสนู่น
..แต่ช่วงนี้มันไม่ใช่ฤดูกาลแอปเปิ้ล...
“ อ่า...ที่จริงไม่น่าลำบากเลยนะครับ “ เฟรินเอ่ยอย่างมีมารยาทต่อหน้าสาวงามแม้นัยน์ตาจะลุวาวอย่างปิดไม่มิด
“ ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ..อุ๊ย ขอตัวนะคะ..ต้องรีบไปประชุมต่อ “ ว่าแล้วคุราร่าก็รีบพรวดพราดออกไป
เรนอนที่ยังสงสัยถึงที่มาที่ไปของผู้หญิงคนนี้อยู่ก็มีมารยาทมากพอที่จะไม่ซักถามอะไรเฟริน แต่พอจะหันไปเอาแอปเปิ้มาล้างให้มันถูกอนามัย.....เฟรินก็คว้าแอปเปิ้ลมาถูๆกับชายเสื้อแล้วกัดกร้วม
“ เอ้อ...อร่อยดีนะเรนอน ไม่เชื่อลอง...คร่อก....”
++**++**++**++**++**++**++**++**++
“ เรนอน โถ่ๆๆ ..เรนอนคนสวย.....” ครี๊ดเอ่ยปลอบเรนอนที่ยังนั่งน้ำตาซึมไม่แพ้ไอ้พวกที่นั่งอยู่รายล้อมร่างของเจ้าหญิงสองดินแดนคนนี้เลย
เฟรินกินแอปเปิ้ของคุราร่าเข้าไปแล้วสลบเหมือด ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น...
ลมหายใจก็ไม่มี ...ชีพจรแน่นิ่งไปแล้ว
คิลบอกว่าเฟรินไม่เป็นอะไร แม้เสียงจะสั่นแล้วน้ำตาเริ่มจะคลอแล้วก็เถอะ
...สิ่งเดียวที่ต้องรอก็คือปาฏิหาริย์...
รายงานจากห้องสมุดโร เซวาเรสบอกว่าไม่สามารถเอาผิดคุราร่าได้...เนื่องจากว่าที่เฟรินแน่นิ่งไปเพราะย่าฆ่าแมลงชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็นยาพิษหากล้างไม่สะอาด เท่ากับว่าเป็นความสะเพร่าของเฟรินเองที่กินไม่ดูตามาตาเรือเพราะว่าถ้าล้างแล้วจะไม่มีผลอะไรเลยกับร่างกาย
ผลัวะ!!!
เสียงเปิดประตูแล้วร่างที่มีหน้าตาสงบนิ่งก็เดินเข้ามา ใบหน้ารูปสลักดูก็รู้ว่าทำงานมาหนักเพราะว่ามีแววอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด...ทุกสรรพสิ่งนิ่งอึ้งเหมือนไม่รู้ว่าจะพูดอธิบายอะไรกับสภาพตรงหน้าดี....
“ คิล?” คำแรกที่เอ่ยออกมาจากปากคาโลเพราะตกใจกับสภาพของเพื่อนเจ็ดคนที่อยู่ในระยะไม่ปกติ คิลมองตาคาโลอย่างขอโทษนิดๆเพราะไม่สามารถทำตามคำสั่งคาโลที่บอกให้ดูแลเฟรินดีๆได้
คาโลเดินเข้าไปใกล้ๆร่างของเฟรินที่สลบไสลไม่ได้สติ ใกล้มาพอที่จะรู้ว่ามีบางสิ่งที่ผิดปกติเกินขึ้นกับเฟริน
“ ฉันกับนายมีเรื่องต้องสะสางกันยาวแน่...” คาโลพึมพำเบาๆก่อนจะประกบริมฝีปากเบาๆไปบนปากของคนที่สลบไสลไม่ได้สติ..ท่ามกลางการลุ้นของเพื่อนๆที่มองภาพตรงหน้าเหมือนเป็นความหวังสุดท้ายที่จะทำให้เฟรินฟื้น!!!
++**++**++**++**++**++**++**++**++
ครี๊ด คิล ซีบิล เจค อาชูร่า โร และโคลว์กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้วโดยอาศัยการแก้มนต์ของคาโลและแองเจลีน่า ก่อนจะโดนคาโลและมาทิลด้าร่วมกันสวดเทศนายาวถึงเรื่องทำอะไรไม่รู้จักคิดโดยมีเพื่อนอีกคนที่ได้เข้าร่วมการเทศนาในครั้งนี้ด้วย
...เฟริน เดอเบอโรว์..
“ ฮ่วย..ไอ้เฟรินบ้า แกเห็นมั๊ยว่าแกทำพวกฉันลำบาก...” ครี๊ดบ่นอุบ
“ เออน่า..ฉันก็โดนด้วย “ เฟรินรีบเถียง
“ ก็ใครจะไปรู้ว่าแกมันชอบบทสโนว์ไวท์รอรักแท้จากเจ้าชายวะ...” คิลแซว
“ หนวกหูน่า -///-คาโลมันก็แค่ป้อนยาถอนพิษเฉยๆ “
“ นั่นสิครับ...ที่จริงคุณคุราร่าเค้าก็ไม่ได้คิดเอาชีวิตของคุณเฟรินจริงๆหรอกฮะ ไม่งั้นเค้าคงไม่ฝากยาถอนพิษมากับคุณคาโล..” ซีบิลพูดให้ความเห็น
หึ..ตอนแรกก็คงกะจะเอาชีวิตเฟรินมันจริงๆแต่ทำไปทำมาก็คงจะนึกได้ว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร คาโลคงจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานในห้องประชุมมากๆคุราร่าถึงได้ฝากยาถอนพิษมาแทนคำขอโทษ
“ ยัยนั่นก็จริงเลยนะ...น่าจะฝากคาถาแก้คำสาปมาด้วยเนอะ..” โคลว์บ่นต่อก่อนจะโดนขัดด้วยคาโล
“ คุราร่าบอกวิธีแก้คำสาปมาแล้ว...”
“ อ้าว...ทำไมไม่ใช้ นายนี่ก็ปากหนักอย่างเฟรินมันว่าจริงๆ” อาชูร่าด่าด้วยความลืมตัว
“ นายไม่อยากให้ฉันทำหรอก...”
“ ทำไมวะ? ไหนนายลองบอกมาดิว่าทำไง...” เจคซัก
“วิธีเดียวกับที่ทำให้เฟรินฟื้นนั่นแหละ....”
“ เฮ้ย!!!”
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบสักที
(ทั้งเจ็ดเข่นเขี้ยวให้คุราร่าในใจ..ผู้หญิงอะไรคิดคำสาปได้อุบาวท์มาก - -")
ความคิดเห็น