ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Genesis Online :: แหล่งกำเนิดแห่งชะตากรรม

    ลำดับตอนที่ #10 : Ruby Of Fire :: Seventh Genesis : Start

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 52


    /> /> />

    Genesisภาค Ruby of Fire

                   
    Seventh Genesis : Start

                   

                    ชายหนุ่มหัวยุ่งราวกับไม่ได้หวีผมมาหลายอาทิตย์กำลังสาวเท้าก้าวเดินอยู่บนฟุตบาทเรียบๆริมถนน นี่ก็เป็นเช้าของวันธรรมดาอีกวันที่แม่ของเขาจะไม่อยู่บ้าน เขาจึงต้องเดินออกมาหาซื้ออะไรกินเองเพราะแพ้พนันจากการประกวดร้องเพลงในรายการทีวีที่พนันกันไว้กับน้องสาวว่าใครจะชนะ ผลสรุปก็คือไอ้คนที่ทั้งสองคนเชียร์นั่นแพ้ทั้งคู่เพียงแต่คนที่น้องสาวเชียร์นั้นได้ที่สอง ทำให้พีซต้องลากสังขารขี้เกียจแสนสาหัสกับหัวยุ่งๆไม่เคยดูแลออกมาจากบ้านได้แต่เช้า

                    กินอะไรดีนะ นี้ก็จะ9โมงอยู่แล้ว.......พีซคิดสายตาก็สอดส่องดูร้านแพงลอยข้างทางว่ามีอะไรบ้างที่พอจะซื้อกลับไปกินที่บ้านได้บ้าง

                    มีแมสเซจเข้ามาค่ะนายท่าน~’ เสียงเรียกจากโทรศัพท์ของพีซที่เขาตั้งไว้เมื่อมีแมสเซจส่งมาดังขึ้น พีซจึงหยิบมือถือออกมาเพื่อเช็คข้อความ

                    เรียนคุณ อัฎากรณ์ วิริยภาณุวงศ์ เจ้าของ ID Casket ผู้ชนะการแข่งขันสุดยอดเกมเมอร์ ของเกม Wikanelia Land คุณจะได้รับ ID ระดับ S Class พร้อมเงิน 10,000,000 Jell ของเกม Genesisโดยทางบริษัทจะจัดส่งให้เป็นเมมโมรี่สติกค์ และ USB ตัวเกมไปที่บ้านของคุณตามที่อยู่ที่คุณลงสมัครไว้ล่วงหน้านะคะ

                    สำหรับคุณ ผู้ซึ่งเป็นอันดับที่1แล้ว ทางบริษัทขอเชิญชวนให้คุณมาทำงานกับทางบริษัทโดยการเป็น Game Master หรือที่รู้จักกันในนาม GM ด้วย หากสนใจโปรดติดต่อกลับที่ เบอร์โทรศัพท์ 02-xxx-xxxx’

                    พีซอ่านข้อความในมือถือแล้วคิดขึ้นมาได้ถึงเรื่องที่แพรบอกมาว่าที่1ของการแข่งขันมีสิทธิจะได้เป็น GM ของเกม Genesis ที่กำลังจะเข้า

    คงจะจริงแฮะ......

                    โครม!!!!

                    ด้วยความที่เดินดูโทรศัพท์มือถือไม่ได้ดูทาง พีซเลยเดินชนเข้ากับบางสิ่งบางอย่างเต็มเปาจนร่างบางเซมาข้างหลัง เขาลดมือถือลงแล้วมองไปยังสิ่งที่เขาเดินไปชน ร่างเล็กๆของเด็กสาวคนหนึ่งกองอยู่กับพื้นข้างหน้าเขา ข้างกายมีมือถือเปิดหน้าแมสเสจตกอยู่ คาดว่าคงดูมือถืออยู่เหมือนกันถึงได้เดินมาชนแน่ๆ

                    “ขอโทษครับเป็นอะไรมากรึเปล่า” พีซยื่นมือให้เด็กสาวที่ล้มอยู่ตรงหน้าจับเพื่อให้อีกฝ่ายลุกขึ้นยืน แล้วกล่าวขอโทษตามภาษาสุภาพบุรุษทั่วไป

                    “ไม่เป็นไร ฉันเองก็ผิด” เด็กสาวจับมือที่พีซยื่นให้แล้วลุกขึ้นยืน ก่อนจะปัดกางเกงขาสั้นลายสก็อตที่เธอใส่อยู่เบาๆ แล้วก้มตัวลงไปหยิบมือถือที่ตกอยู่ขึ้นมา “ขอโทษด้วย”

                    “อืม ไม่เป็นไร” พีซมองเด็กสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอตัวเล็กกว่าที่คิดมาก สูงแค่ราวๆคางของพีซเท่านั้น เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองพีซ ก่อนที่ผมสีดำยาวถึงกลางหลังจะถูกสะบัดตามแรงเหวี่ยงในขณะที่เธอเดินเลี่ยงทางไป

                    แปลกจังนะ

                    อยู่ดีๆความคิดนี้ก็เข้ามาในหัวพีซ ทั้งที่เด็กผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นคนธรรมดาแท้ๆแต่ความรู้สึกที่ว่า แปลกกลับเข้ามาในหัวของพีซก่อน หรือบางทีปกติต้องโดนด่าแว๊ดๆก็ได้ถ้าไปชนเด็กผู้หญิงเข้า แต่นี่เธอไม่ได้ว่าอะไรแถมยังขอโทษก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกด้วย

                    แต่ก็นะ....

                    “ช่างเถอะ” พีซพึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วมองหาร้านที่จะซื้อของกินต่อ พลางเก็บมือถือเจ้ากรรมเข้ากระเป๋ากางเกงอย่างเดิม

    +---------------------------------------------------------------+

                    “พี่พีซไปนานจัง~

    แพรที่หิวท้องกริ่วรออยู่บ้านวิ่งร่อนออกมารับที่หน้าประตูรั่วเมื่อพี่ชายที่ไปซื้อของกลับมาถึงบ้านซักที

                    “ก็ปกติพี่เคยออกไปซื้อที่ไหนกันล่ะ” พีซบ่นกลับ เขาไม่ค่อยออกไปข้างนอกบ้านเท่าไหร่นักยกเว้นก็แต่ไปเรียนเพราะส่วนมากเขาจะเอาเวลามาอ่านหนังสือกับเล่นคอมเสียมากกว่า

                    “ซื้ออะไรมามั่ง” แพรไม่ฟังคำท้วงของพี่ชายแม้แต่น้อย เธอจัดแจงแย่งถุงในมือของพี่ชายออกมาเปิดดูด้านในแล้วเดินตรงไปยังห้องครัวโดยมีพีซเดินตามไปเหนื่อยๆ

                    “แพรได้แมสเสจบ้างรึเปล่า” พีซถามเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองได้รับแมสเสจบอกเกี่ยวกับที่ชนะมาเลยลองถามน้องสาวดู

                    “แมสเสจอะไรเหรอ” แพรถามกลับ เพราะถ้าเป็นแมสเสจจากนัทน่ะได้ทุกวันอยู่แล้วเลยต้องถามให้แน่ใจ พลางเอาจานในครัวออกมาใส่ปาท่องโก้กับซาลาเปา โดยมีพีซนั่งรอจะกินเต็มที่อยู่ที่โต๊ะกินข้าว

                    “แมสเจสจากเกมที่ชนะไง” พีซบอกในขณะที่แพรกำลังรินน้ำเต้าหู้ลงในแก้ว2ใบ

                    “อ๋อ.......ได้สิ แต่มันก็แค่บอกว่าจะส่งของมาเฉยๆนี่” แพรบอกแล้วเดินเอาจานสองใบกับแก้วน้ำเต้าหู้ใส่ถาดมาวางที่โต๊ะกินข้าว “มีอะไรเหรอ?”

                    “อืม....เปล่าหรอกแค่คิดว่าพวกก่อกวนน่ะ” พีซตอบไปปัดๆ อันที่จริงเขาอยากรู้ว่าพวกที่ได้รับตำแหน่งอื่นๆจะได้ข้อความท่อนที่สองที่เขาได้รับว่าชวนให้มาเป็น GM ไหมก็เท่านั้น

                    รู้สึกว่าจะมีแต่อันดับ1แฮะพีซคิดในใจแล้วหยิบปาท่องโก้ในจานออกมากินคู่กับน้ำเต้าหู้ของเขา แล้วที่ว่าจะได้เป็น GM จะเอาไงดีนะ.............

                    “แพรๆ” พีซเรียกน้องสาวขึ้นอีกครั้งในระหว่างที่คิดอะไรเพลินๆ

                    “อะไรเหรอ”

                    “ถ้ามีคนให้แพรเป็น GM ของ Genesis แพรจะเป็นไหม” พีซขอความเห็นจากน้องสาวเพื่อจะดูว่าตัวเองควรจะตกลงไปทำงานดีไหม หรือจะปฏิเสธไปดี

                    “ห๋า.......เป็นแพร แพรคงเป็นมั้ง” แพรตอบคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด “ตกลงอันดับ1ได้เป็นเหรอ”

                    “เปล่า ถามดูเฉยๆน่ะ เผื่อจะจริงขึ้นมา” พีซโกหกไปเพราะขี้เกียจฟังน้องสาวดีใจกระโดดโลดเต้นแทนเขา “แต่ถ้าอันดับหนึ่งได้เป็น GM จริงๆพี่คงไม่เป็น.........”

                    “ทำไมอะ” แพรเอียงคอถามอย่างสงสัย

                    “ขี้เกียจ” พีซตอบสั้นๆง่ายๆทำเอาแพรที่ตั้งใจฟังแทบหงายหลัง ก่อนที่เจ้าตัวจะซดน้ำเต้าหู้เอือกสุดท้าย โยนปาท่องโก้ท่อนที่เหลือเข้าปาก แล้วลุกเดินหนีไป

                    “ฝากล้างด้วยนะแพร”

                    “พี่บ้า!!!!!!!” เสียงของแพรตะโกนไล่หลังพีซมาติดๆ ทั้งที่เจ้าตัวขึ้นบันไดไปแล้ว

                    ติ๊งหน่อง!!!~

                    เสียงออดหน้าบ้าน วิริยภาณุวงศ์ดังขึ้น แต่ไม่มีทีท่าว่าคนข้างบนจะลงมาเปิดประตูแต่อย่างใด แพรเลยต้องเป็นคนเดินไปเปิดเองเพราะถึงยังไงตะโกนไปบอกก็คงไม่ลงมาเปิดประตูหน้าบ้านอยู่ดี ..........พี่ชายจอมขี้เกียจแบบนั้น

                    “ค่ะ มาแล้วค่ะ” แพรตะโกนบอกบุคคลที่กดออดหน้าบ้าน ขณะที่เธอกำลังเดินไปเพื่อเปิดประตู

                    “อ้าวพี่ศูนย์”

                    “ไงน้องแพร” ศูนย์ที่อยู่หน้าบ้านทักทายน้องสาวเพื่อนสนิทอย่างคุ้นเคย

                    “เข้ามาก่อนสิคะ” แพรจัดการเปิดประตูให้ศูนย์เข้าไปในบ้านพร้อมกับพูดเชิญเป็นมารยาท

                    “ขอบคุณคร้าบ” ศูนย์ว่าพลางเดินเข้ามาในบ้านของเพื่อนสนิท โดยมีแพรที่ปิดประตูรั่วบ้านแล้วเดินตามหลังเข้ามา

                    “เป็นไงบ้างคะ พี่ศูนย์การแข่ง” แพรถามเพื่อให้เนียนว่าไม่รู้เรื่องที่ศูนย์แข่งจากพี่ชายของตัวเองแล้ว “พี่พีซอยู่บนห้องแหนะค่ะ”

                    “อ๋อ แพ้เจ้าแคสเก็ตตามเคยน่ะสิ.......อ๊ะขอบใจจ๊ะ” ศูนย์ตอบเรียบๆแล้วเดินสาวเท้าขึ้นบันไดไปยังห้องของพีซ อย่างกับบ้านของตัวเอง

     

                    “ไงพีซ~~~

                    ศูนย์ร้องทักเปิดประตูเข้ามาในห้องของพีซโดยไม่คิดที่จะเคาะก่อนตามเคย เรียกเอาสายตาขวางๆจากเจ้าของห้องที่กำลังอ่านหนังสือนิยายเล่มโปรดอยู่ให้หันกลับมามองจิกกัดได้เป็นอย่างดีอีกเช่นกัน

                    “ไอ้ศูนย์.........”

                    “เออ ขอโทษๆ ตูรู้แล้วว่าจะพูดอะไร ไม่ต้องบ่น ขอโทษก่อนแล้วไง” ศูนย์พูดเป็นชุดขัดคำพูดของพีซก่อนจะยิ้มหน้าแป้นอย่างไม่เจียม

                    “อารมณ์ดีจังนะ ทำยังกับชนะมางั้นล่ะ” พีซแซวศูนย์ที่ดูจะอารมณ์ดีเกินหน้าเกินตา

                    “แพ้ว้อย แต่ก็ได้ ID A Class ภูมิใจล่ะฟร่ะ” ศูนย์พูดแล้วยิ้มกริ่ม “นายไม่เล่นเกมบ้างเหรอพีซ Ganasis มันน่าสนุกนะ เห็นเขาว่าเป็นเกมแนวใหม่เลยล่ะ แบบว่ารู้สึกเหมือนไปอยู่อีกโลกเลยนะจะบอกให้”

                    “จะอะไรก็ไม่น่าสนใจทั้งนั้นล่ะ” พีซยักไหล่ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับนิยายเล่มโปรดต่อ

                    “เฮ้ยมันดีจริงๆนะ ที่เขาเห่อกันขนาดนี้เนี่ยเพราะมันเหนือจินตนาการณ์สุดๆเลยล่ะ” ศูนย์ยังโฆษณาเกมที่มีชื่อว่า Genesis ราวกับตัวเองเป็นเซลล์แมนขายเกม เขาอยากลากไอ้เพื่อนรักตัวดีนี้ไปเล่นให้ได้อย่างน้อยๆก็เกมนี้

                    “ไม่เอาว้อย ว่าแต่แกเถอะมาที่นี่คงไม่ใช่เพราะแค่มาบอกว่าแพ้แล้วก็อยากให้ฉันเล่นหรอกนะ”

                    “เออจริงด้วย ฉันจะมาขอยืมการบ้านที่เรียนพิเศษ” ศูนย์ที่เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองมาทำอะไร เลยรีบบอกพีซก่อนจะลืมอีกรอบ

                    “อยู่ตรงกระเป๋านั่นแหละ” พีซตอบพลางส่ายหน้าเบาๆอย่างเหนื่อยๆ “นี่ล่ะหว้า....เอาแต่เล่นเกม”

                    “เอาน่าๆ ไม่ได้ขยันเหมือนแกนี่”

    +---------------------------------------------------------------+

                    เช้าวันที่ 24  วันแรกของการเปิดเซิร์ฟเวอร์เกม Genesis  พร้อมกันทั้ง 13 ประเทศ

                    ติ๊งหน่อง!!!~

                    “ใครมาน่ะแพรออกไปดูทีสิ” พีซที่กำลังกินข้าวผัด สั่งมาจากร้านอาหารตามสั่งแถวบ้าน บอกให้แพรไปเปิดประตูเมื่อมีเสียงกดออดดังขึ้นหน้าบ้าน

                    “พี่พีซก็ไปสิ” แพรเกี่ยง

                    “ถ้างั้นก็ช่างหัวคนกดมัน เบื่อก็คงกลับไปเอง” พีซพูดอย่างไม่คิดจะสนใจ แล้วลงมือกินข้าวผัดในจานต่อ

                    “โห......” แพรมองหน้าพี่ชายอย่างไม่เชื่อหู คนอะไรจะเห็นแก่ตัวปานนี้ แพรเลยต้องจำยอมไปเปิดประตูรั่วหน้าบ้านอีกเช่นเคย “ค่าๆ มาแล้วค่ะ”

                    “เออมีพัสดุมาส่งครับของคุณ อัฏากรณ์ วิริยภาณุวงศ์ กับคุณ การณี วิริยภาณุวงศ์ครับ” บุรุษไปรษณีย์พูดขึ้นพร้อมทั้งส่งกล่อง2กล่องให้แพรเซนรับพัสดุ

                    “อ๋อค่ะ” แพรเซนชื่อลงบนใบเสร็จสีขาวด้านบนกล่องทั้ง2ใบ ก่อนที่ บุรุษไปรษณีย์จะเก็บกระดาษทั้งสองใบนั้นไปแล้วส่งกล่องให้กับแพร

                    “พี่พีซ Genesis มาส่งแล้วล่ะ” แพรถือกล่องทั้ง2ใบที่ข้างหน้าเขียนว่า GENESIS ตัวเบ้อเริ่ม เขามายังห้องครัว

                    “ทีมงานสุดยอดแฮะ อีก 15นาที เซิร์ฟเปิด ของมาส่งพอดี” พีซประชด เขานึกว่าจะชวดของรางวัลซะแล้ว รอตั้งกี่วันไม่เห็นจะได้ ดันมาส่งเอาวันเปิดเซิร์ฟ

                    “อาจเป็นแผนการของบริษัทก็ได้นะ” แพรว่า

                    “มันอู้เพิ่งลงข้อมูลเสร็จมากกว่า” พีซแย้ง แต่ก็รับกล่องของตัวเองไปโดยดี “งั้นพี่ไปล่ะ”

                    “อ้าวเฮ้ยแล้วจาน........”

                    “ก็ล้างสิแพร” พีซตอบเรียบๆ ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปด้วยท่าทีเฉยเมย

                    “บ้าเอ๊ย ข้าวกลางวันไม่ต้องกินล่ะกัน” แพรตะโกนว่าพีซตามหลังขึ้นไป แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากพี่ชายตัวดีตามที่แพรก็รู้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×