คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ลางร้ายของความสัมพันธ์(-_-)
"เสียงของเซเวอรัสเปลี่ยนไปนะ"
"อ๊ะ....ครับ"
เด็กสาวผมแดงนั่งเคียงข้างเด็กหนุ่มร่างผอมกะหร่องและซีดเผือดราวกับคนเป็นโรคโลหิตจาง เป็นภาพที่ทุกคนคุ้นเคยดี ดาวตาสีเขียวสดใสที่มองดูคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟน ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เธอรักเค้า.. และเค้าก็รักเธอ.. นั่นคือความจริงของความสัมพันธ์อันยาวนานนับตั้งแต่ปี 1 จนถึงปี 5 ของทั้งคู่ ทั้งๆ ที่ทุกคนต่างลงความเห็นว่าไม่เหมาะสม และไม่น่าจะคบกันได้แท้ๆ
"เสียงของเซเวอรัสเป็นเสียงของผู้ใหญ่นะสิ" ลิลี่ตอบ "แต่ก็นั่นสินะ 9 มกราคม ที่จะถึงนี้ อายุก็จะครบ 16 ปี แล้วนี่นะ..... เธออาจจะไม่รู้ตัว แต่ว่า เสียงของเธอเป็นเสียงที่ทุ้มต่ำ.... อ้า... รู้จักละครโอเปร่ามั้ย" เซเวอรัสพยักหน้าเป็นคำตอบ ลิลี่จึงพูดต่อ "ระดับเสียงของผู้ชายจะแบ่งเป็น 3 ระดับ ระดับสูงสุดจะได้เล่นเป็นพระเอก"
"ทราบเหมือนกันครับ..." เซเวอรัสยิ้มนิดๆ เค้ารู้จักเสียงสูงของผู้ชายดี เพราะมันเป็นโทนเสียงเดียวกับทอม มาโวโล่ ริดเดิ้ล "เสียงระดับถัดมาก็คือเทนเนอร์... ผู้ชายที่มีเสียงสายนี้เป็นได้อย่างมากสุดก็แค่พระรอง ระดับสุดท้ายคือโทนเสียงเบส เป็นโทนเสียงต่ำ คนที่มีเสียงแบบนี้มักได้เล่นเป็นพระราชา พ่อมดที่มีอำนาจมากๆ หรือไม่ก็จอมปีศาจ"
"แล้วเธอรู้มั้ยว่าเธอเป็นคนที่มีโทนเสียงเบส" ลิลี่ถาม แฟนหนุ่มหน้าแดงเถือก.. เค้าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน... ลิลี่จึงพูดต่อ "เป็นเสียงที่มีอำนาจด้วยนะ.... ถ้าลองไปตะคอกใส่ชาวบ้าน มีหวังคนกลัวกันทั่วหน้าเลยล่ะ"
เซเวอรัสได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เค้ารู้ดีว่าตะคอกไปก็เท่านั้น เพราะเค้าตัวเล็กเหลือเกิน ใครเค้าจะไปกลัว... แต่ลิลี่ก็ดูเหมือนจะรู้ทัน... เพราะเธอทักเค้าเรื่องความสูง
"แล้วก็........ หมู่นี้เธอโตเร็วนะรู้มั้ย แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ... พวกผู้ชายในช่วงนี้น่ะ แต่ละคนยังก่ะไปโดนคาถายืดตัวเลย........... ชั้นสาบานได้เลยว่าเธอน่าจะสูงเท่าชั้นภายในปีหน้านี่แหละ"
.............ปีหน้าที่ว่าเนี่ย....หมายถึงช่วงที่เรายังอยู่ปี 5 หรือว่าขึ้นปีการศึกษาใหม่กันนะ....... แต่ก็ไม่มีคำตอบสำหรับเด็กหนุ่ม เมื่อเค้าและเธอแยกจากกันไป เพื่อไปทำธุระส่วนตัว เซเวอรัสก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่สนามควิดดิช..............
เด็กหนุ่มผมดำยุ่งๆ อายุอ่อนกว่าเค้าราวๆ 5 ถึง 6 เดือน ทว่าตัวสูงกว่า......... ดูเหมือนผู้ใหญ่มากกว่า ร่างๆ นั้นผอมสูงตามแบบของเด็กหนุ่มที่ทะลึ่งโตพรวดในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็ดูสดใสและมีสุขภาพดี ผิดกับเซเวอรัส ดวงตาดำขลับราวกับรัตติกาลเฝ้ามองอีกฝ่ายด้วยความอิจฉา
เจมส์เป็นทุกอย่างที่เซเวอรัสต้องการจะเป็น เค้าหล่อ ป๊อบปูล่า สว่างไสวราวกับดวงอาทิตย์............ พอคิดถึงตรงนี้แล้วอดเจ็บแปล็บไม่ได้..............
....เพราะยิ่งแสงมากแค่ไหน....เงาก็จะยิ่งเข้มขึ้นด้วย............
...ยิ่งเจมส์ พอตเตอร์เจิดจ้า...ความพิกลพิการของเซเวอรัสก็ยิ่งเด่นชัด................
ร่างบางเดินจากไปด้วยความรู้สึกหดหู่....ไม่รู้เอาเสียเลยว่า เวลานั้นเค้าเองก็ถูกเจมส์จ้องจนตาไม่กระพริบ.....เพราะมีแสงสว่างมาก จึงไม่มีดาวดวงใดเทียบรัศมีได้ แต่การมีแสงมาก ก็ทำให้ดวงอาทิตย์เห็นสิ่งที่ดาวดวงอื่นมองไม่เห็นเสมอ............
............ท่ามกลางหมู่ดาว ไม่มีดาวดวงสะดุดตา แต่แล้วก็มีดาวดวงหนึ่งปรากฏขึ้นมาให้แปลกใจเล่น..... มีดวงจันทร์ดวงเดียวโคจรรอบตนเองไม่ใช่แปลก... แปลกแต่ที่มีสิ่งมีชีวิต... มีน้ำ... มีฤดูกาล................
.....ดาวเคราะห์ที่สวยงาม โดดเดี่ยว.......
...แต่แปลกแยกและอัปลักษณ์ ในสายตาของดาวดวงอื่น.............
**************************************
ลิลี่เดินตามชายร่างสันทัดที่มีผมสีแดงเพลิงต้อยๆ มือที่ดันรถเขนเริ่มประท้วงโดยการปล่อยรถเขนไว้ และขาก็ไม่ก้าวตามอีกต่อไป... ทำให้ชายตรงหน้าหันกลับมาในที่สุด
"เป็นอะไรไปลิลี่.. ทำไมหยุดซะล่ะ"
เจ้าของชื่อทำแก้มป่อง "พ่อง่ะ.... ตามหลักต้องให้ผู้ชายเป็นคนเขนรถตามผู้หญิงไม่ใช่เหรอ แล้วไหงให้หนูมาเขนล่ะ"
"เลิกพาเพ็ตทูเนียมาก็เพราะบ่นนี่ล่ะ" มัททิว เอฟเวนส์พูด ดวงตาสีฟ้าเหมือนลูกสาวคนโตเริ่มดุ "แล้วถ้าเรามาเลือกของแทนพ่อได้พ่อก็จะเขนอยู่หรอก"
แต่แล้วแทนที่เด็กสาวจะตอบอะไร เธอกลับยิ้มกว้าง วิ่งออกจากรถเขนสวนมิททิวไปจนเค้าต้องหันตามด้วยความกลุ้มใจ แล้วตอนนั้นเองที่มัททิว เอฟเวนส์ต้องเบิกตาค้าง
ลิลี่กำลังจับมือถือแขนเด็กที่น่าจะเป็นเด็กผู้หญิงด้วยอาการดีใจและสนิทสนม ลำพังรูปลักษณ์ที่เค้าค้นแสนคุ้นก็มากพอจะทำให้ตกใจแล้ว แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เค้าตกใจยิ่งกว่านั้น ตกใจจนพูดไม่ออก
ชายร่างผอมสูงคนหนึ่งกำลังมองมาทางเค้าด้วยสีหน้าตกใจ ดวงตาสีเขียวเบิกกว้าง ผมสีแดงและจมูกงุ้มแบบนั้น เค้าไม่มีวันลืม.... ไม่มีวัน.....
"โทไบอัส............?" มัททิวรู้สึกเหมือนจะเป็นลม
"ไว้ราวหน้าก็ชวนเค้ามาเล่นบ้านเราสิลิลี่" มัททิวพูดในเวลาต่อมา ลิลี่ยิ้ม
"หนูนึกว่าพ่อจะโกรธที่หนูเป็นแฟนกับลูกชายของคู่ขาเก่าซะอีก แล้วยิ่งเค้าเหมือนคนที่แย่งคู่ขาไปมากซะด้วย"
"ยัยนี่นิ...." มัททิวเอ็ดลูกสาว "พูดซะดัง"
แต่เรื่องนี้ไม่ใข่เรื่องดีสำหรับอีกครอบครัวแน่นอน เพราะถ้ามัททิวเฉลียวใจ คิดสักนิดก็จะพบว่า เด็กผู้ชายที่เป็นลูกของคนรักเก่านั้น ใส่เสื้อผ้าที่ไม่พอดีตัว และดูท่าทางไม่ใช่เด็กที่มาจากครอบครัวที่มีความสุขนัก
เซเวอรัสตัวสั่นราวกับลูกนก เงาดำที่ทอดเข้ามาของโทไบอัสทำให้เค้าถอยกรูดเข้าไปจนติดกำแพง การทำให้ความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายพยายามที่จะฝังลืมกลับมา ไม่เคยเป็นเรื่องดีสำหรับเด็กชายเลย
"แกคบกับเด็กผู้หญิงคนั้นอยู่รึ" โทไบอัสเสียงแผ่ว ก่อนจะกรีดเสียงอย่างกราดเกรี้ยว "ชั้นถามว่าแกคบลิลี่ เอฟเวนส์เป็นแฟนรึ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
"ผมรักเธอ..............พ่ออนุญาตเราด้วยนะครับ" เด็กหนุ่มกระซิบ
แต่สิ่งที่ได้มากลับการเป็นมือหนาๆ ที่คว้าแขนผอมๆ ขึ้นมา แล้วทุบตีอย่างรุนแรง ร่างผอมกะหร่องราวกับเด็กขาดอาหารล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง รู้สึกเหมือนกำลังจะอาเจียรออกมาก็ไม่ปาน ระหว่างนั้นเจ้าแฮร์รี่ที่ถูกขังในกรงร้องดังลั้น
"เลิกคบกับเธอซะ" โทไบอัสกระซิบ
"ทำไม........................ในเมื่อผมรักเธอ................เหมือนกับที่พ่อรักพ่อของเธอ"
รอยยิ้มน่าเกลียดปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ครั้งหนึ่งเคยหล่อเหลา รอยยิ้มที่เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าอนาคตข้างหน้า เค้าจะใช้มันกับเด็กชายที่เป็นลูกของคนที่เค้ารัก ยกเว้นความรุนแรงที่ทำอยู่ตรงนี้ โทไบอัสแตะเข้าที่หน้าท้องของลูกชายจนกระเด็น จากนั้นก็เริ่มเหวี่ยงขาแข็งไปตามส่วนต่างๆ ของร่างเล็กๆ โดยไม่สนใจเลยว่า ร่างอันบอบบางนั่นจะชอกช้ำซักเพียงไร จนในที่สุดเซเวอรัสก็คลานเข้าซอกตู้แล้วไอเบาๆ
ตอนนั้นเองที่โทไบอัส สเนปมีสีหน้าที่เจ็บปวดอย่างเหลือประมาณ เมื่อสิ่งที่ไหลออกจากปากของเด็กหนุ่มคือเลือดสดๆ ก่อนจะหัวเราะลั่น
ทะว่า.............เป็นเสียงหัวเราะที่ราวกับเสียงร้องไห้........................
"แค่ปกป้องตัวเองยังไม่ทำเลย................แกจะปกป้องเธอได้ยังไงกัน"
เธอ........ที่มีผมและดวงตาเหมือนชั้น.........................
เธอ...........ที่มัททิวเอามาเป็นตัวแทนชั้นโดยไม่รู้ตัว....................
*********************************
แสงที่ส่องมาในยามเช้าลอดผ่านม่านเข้ามาถูกร่างบางๆ ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเสื้อเชิ้ตเก่าๆ หลวมๆ แค่ตัวเดียว ท่อนล่างอันเปลือยเปล่าของร่างบนที่นอน มีรอยเขียวช้ำกระจายไปทั่วผิวขาวผ่อง แสงที่ส่องมาส่งผลให้ร่างนั้นตื่น แขนเล็กยันกายอย่างลำบากยากเย็น เซเวอรัส สเนปพบในไม่ช้าว่าตัวเองเดินไม่ไหว ลุกจากเตียงแทบไม่ได้ และ............................ที่สำคัญ
น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มเมื่อเห็นถ้วยข้าวโอ๊ดวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ข้าวของถูกเอามากองสุมไว้ และแผ่นกระดาษที่มีลายมือคุ้นตาเขียนไว้
................ไปซะ................... โทไบอัสเขียนแบบนั้น
สมัยเด็กๆ เวลาเค้าไม่สบายใจ ก็มักจะไปหาพ่อทูลหัว ไปสวดมนตร์ แต่ตอนนี้เค้าไกลโบสถ์ไปทุกขณะ เพราะว่ารู้................
รู้ว่าถ้าพ่อทูลหัวเห็นว่าเกิดอะไรกับเค้าบ้าง ก็คงไม่ยอมให้เค้าอยู่กับโทไบอัสอีกต่อไป...............
แม้จะเจ็บ.......แม้จะถูกดูถูก..........ถูกทุบตี..............
ถูกเหยียดหยาม ถูฏทรมาน................เซเวอรัสก็ยังอยากกลับบ้านมาหาพ่อ
เพราะอย่างน้อยๆ ที่นี่ก็ยังมีคนที่รักและต้องการเค้าอยู่...................
...................แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้วรึ...................?
....................พ่อไม่ต้องการเค้าอีกแล้วรึ...............
ร่างที่บาดเจ็บกอดตัวเองพลางสะอื้นไห้ แต่เค้าไม่รู้หรอกว่า ที่ชั้นล่าง.........ชายผมแดงอีกคนกำลังร้องไห้เหมือนกัน
ไปซะ................เพราะชั้นไม่คู่ควรให้แกมารัก.................
ไปซะ...........ถ้าอยากจะอยู่กับผู้หญิงคนนั้น..........
ไปซะ............ถ้าแกอยากเป็นเหมือนที่แม่แกกับครอบครัวของหล่อนเป็น............
ไม่ขอรับรู้อะไรอีกแล้ว...........ถ้าแกไม่อยากอยู่กับชั้น
********************************************
TBC.
ความคิดเห็น