คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : รักไม่อาจห้ามใจ 3.2
“เราไปรู้เรื่องพวกนี้มาได้ยังไง”
ดวงตาคู่คมของเจตน์ฉายแววแปลกใจ
แต่เขาไม่ได้แปลกใจเรื่องธุรกิจผิดกฎหมายของเจ้าสัวธนัช
เพราะก็พอจะรู้จักเจ้าสัวมากเล่ห์คนนี้อยู่บ้าง แต่ที่เขาสงสัย คือผู้หญิงตัวเล็กๆ
ที่เพิ่งจะเป็นนักข่าวได้ยังไม่ถึงปีและยังมีประสบการณ์ไม่มากพอคนนี้
ไปรู้เรื่องพวกนี้มาได้อย่างไร
“พ่อแสนเป็นตำรวจที่เคยทำคดีค้ายาของเจ้าสัวธนัชเมื่อประมาณห้าปีก่อน
แต่ยังไม่ทันได้เปิดโปงเรื่องนี้ พ่อก็ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต แถมหลักฐานที่มีก็หายไป”
“เราก็เลยคิดว่าเจ้าสัวธนัชเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของพ่อ
รวมถึงหลักฐานที่หายไปด้วย”
“ค่ะ”
“แล้วที่เรามาเป็นนักข่าวก็เพราะสาเหตุนี้?”
“ค่ะ
แต่ที่จริงแสนก็อยากเป็นนักข่าวด้วย” อีกครั้งที่แสนรักยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
“แสนไม่มีหลักฐานเรื่องที่เจ้าสัวอาจจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการตายของพ่อ
แต่แสนจะต้องหาหลักฐานเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายของเขามาแฉให้ได้
อาเจตน์ให้แสนทำข่าวน้องเอมมี่ต่อเถอะนะคะ”
“แล้วแสนคิดว่านักข่าวตัวเล็กๆ
ที่ยังไม่มีประสบการณ์อย่างแสนจะเอาอะไรไปสู้กับคนระดับเจ้าสัวธนัชได้ฮึ”
“แสนไม่รู้
แต่ถึงจะสู้ได้หรือไม่ได้ ยังไงก็ดีกว่าอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย”
“ถ้าอายอมให้แสนทำข่าวเอมมี่ต่อ
แสนมีอะไรตอบแทนอาหรือเปล่า”
แสนรักหันไปมองเขาแล้วก็สบเข้ากับดวงตาคู่คมที่จ้องมองมา
ประกายลึกซึ้งที่ซ่อนแววบางอย่างซึ่งเธออ่านไม่ออกในดวงตาเขาทำให้หัวใจของเธอพลันเต้นแรง
“อย่างแสนจะไปมีอะไรตอบแทนอาเจตน์ได้”
ก็เขาเพิ่งจะพูดอยู่หยกๆ
ว่าเธอเป็นแค่นักข่าวตัวเล็กๆ คนหนึ่งไม่ใช่หรือ...
“มีสิ” เขาเอ่ยบอก
พร้อมกับสอดฝ่ามือเข้ามาที่ซอกคอของเธอ ดวงตาคมลึกซึ้งยังคงจับจ้องใบหน้าพริ้มเพรา
ก่อนจะใช้นิ้วคลึงติ่งหูนุ่มนิ่มเล่น “ถ้าแสนยอมทำตามเงื่อนไขของอา
อาจะช่วยแสนเรื่องเจ้าสัวธนัชด้วย”
“งะ...เงื่อนไขอะไรคะ”
สัมผัสของเขาทำให้แสนรักรู้สึกวาบหวิวจนขนอ่อนลุกชัน เสียงที่เปล่งออกไปเลยสั่นพร่าเล็กน้อย
ก่อนที่ประโยคต่อมาของเขาจะทำให้เธอตะลึงงัน...
“มาเป็นผู้หญิงของอาสิ”
“อาเจตน์หมายความว่าไงคะ”
“แสนก็รู้ไม่ใช่หรือ
ว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ถ้าแสนย้ายมาอยู่กับอา มาเป็นผู้หญิงของอา
แล้วอาจะยอมให้แสนทำเคสของน้องเอมมี่ แล้วก็จะช่วยเรื่องเจ้าสัวธนัชด้วย”
แบบนั้น...ก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาตัวเข้าแลก...
“ทำไมคะ
ทำไมอาเจตน์ถึงต้องการให้แสนไปเป็นผู้หญิงของอา”
“ทำไมน่ะเหรอ”
ฝ่ามือข้างนั้นของเขาประคองใบหน้าของเธอให้แหงนเงย
ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาคมคายจะโน้มต่ำลงมาหา “เพราะอาติดใจแสนเข้าแล้วน่ะสิ”
เพราะเขาติดใจเธอ...แต่
‘ติดใจ’ เพราะร่างกายของเธออย่างนั้นหรือ
หัวใจของแสนรักวูบโหวง
รู้สึกคล้ายกับอาการผิดหวัง แต่เธอจะผิดหวังอะไร ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ
ว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ ไม่ได้รักเธอ ที่เขาอยากได้เธอไปเป็นผู้หญิงของเขา
ก็เพื่อตอบสนองความต้องการทางธรรมชาติของร่างกายก็เท่านั้น เขาไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งอะไรกับเธอ
“ว่าไง
แสนจะตกลงหรือเปล่า” เจตน์ถามย้ำเพื่อเอาคำตอบ
ขณะที่ริมฝีปากของเขาคลอเคลียอยู่ข้างแก้มระเรื่อยไปที่ใบหูพลางขบเม้มเบาๆ
อย่างหยอกเย้า แล้วสัมผัสของเขาก็ทำให้อารมณ์ของแสนรักเตลิดเปิดเปิง
“อาเจตน์คะ”
“หืม...ว่าไง”
เขากระซิบเสียงต่ำพร่า แล้วเสียงนั้นก็ยิ่งทำให้ลมหายใจของแสนรักติดขัด
“ถ้าแสนตกลง
เรื่องของเราจะเป็นความลับใช่ไหมคะ”
เจตน์ชะงักไปครู่หนึ่ง
ก่อนเขาจะผละออกห่างเล็กน้อยเพื่อจ้องหน้าพริ้มเพราหมดจดที่บัดนี้แดงระเรื่อชวนมอง
ดวงตาคมลึกซึ้งมองสบกับดวงตาคู่สวยที่ฉายแววสับสนอย่างน่าสงสาร
“อายังไม่อยากให้ใครรู้...”
“แสนเข้าใจค่ะ”
แสนรักพยักหน้าเบาๆ แน่ล่ะ ในเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เธอเป็นเด็กเสี่ย
แล้วเธอยังเป็นพนักงานในบริษัทของเขา อีกทั้งยังเป็นเพื่อนกับหลานสาวเขาด้วย
ไม่ว่ามองจากมุมไหน เรื่องนี้ก็ไม่ควรเปิดเผยให้ใครได้รู้
เจตน์โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้
ก่อนจะประทับริมฝีปากของตัวเองกับริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอ
มอบจูบอ่อนหวานละมุนจนหัวใจของแสนรักแทบจะกระเด็นกระดอนด้วยความรู้สึกวาบหวาม
ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่เธอแอบเอาน้ำพริกกะปิไปเก็บใส่ตู้เย็นเอาไว้
ไม่อย่างนั้นจูบนี้คงไม่หวานละมุนแบบนี้แน่ๆ
เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวก่อน นี่เธอหวังว่าเขาจะจูบเธออย่างนั้นหรือ...
“อาเจตน์...”
แสนรักเอามือดันอกเขาไว้ เมื่อริมฝีปากร้ายกาจนั้นผละออกแล้วหมายจะเคลื่อนไปยังซอกคอ
ขณะที่มือซุกซนก็สอดเข้ามาในเสื้อยืดตัวโคร่งที่เธอสวมอยู่แล้วทำท่าจะปลดตะขอเสื้อชั้นใน
“ดะ...เดี๋ยวก่อนค่ะ”
แสนรักร้องห้ามด้วยเสียงเบาหวิว
แต่อีกฝ่ายเหมือนจะไม่ใส่ใจ เพราะทั้งปากและมือเขายังคงเคลื่อนไหวอย่างชำนาญ และเมื่อเขาย้อนกลับมาจูบที่ริมฝีปากของเธออีกครั้งพร้อมกับฉวยโอกาสสอดแทรกเรียวลิ้นเข้ามาในโพรงปากอ่อนนุ่ม
แสนรักรู้สึกเหมือนถูกจูบของเขามอมเมาจนคิดอะไรไม่ออก
เจตน์จูบเธออย่างดูดดื่ม
ริมฝีปากเขาบดคลึงกับริมฝีปากของเธอ
ลิ้นหนาที่รุกล้ำเข้ามาเกี่ยวกระหวัดรัดรึงกับลิ้นเล็กน่ารักอย่างร้อนแรง กระทั่งเขารับรู้ได้ว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจถึงได้ยอมผละออก
แสนรักหายใจหอบ
ก่อนจะพบว่าเธอขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตักเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
แถมสองแขนยังกอดคอเขาไว้ด้วย
“จะทำตรงนี้หรือว่าอยากขึ้นไปบนห้อง”
เสียงห้าวทุ้มทว่าแหบพร่าของเขาเอ่ยถาม
ขณะที่ฝ่ามือยังคงลูบไล้แผ่นหลังบอบบางเล่นเบาๆ อย่างเพลินมือ
@@@@@@@@@@@@
ฝากอีบุ๊กด้วยน้าาาาาาา
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น