ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tales of Love :: บทนิทานแห่งความรัก (รับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #10 : The Tale 2 :: The Twins [ฝาแฝด] 01 - เหยื่อรายที่หนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 60




    The Main Character

    From The Twins



    ตัวละครหลัก

    "ข้ากับเขาก็เหมือนหยินและอย่าง...ถึงแม้จะเข้ากันไม่ได้ แต่ก็คอยเกื้อหนุนค้ำจุนกันและกัน"
    "ก็ตามใจหมอนั้นสิ.....จะให้โดดผาหรืออะไรก็แล้วแต่..."

    สองพี่น้องฝาแฝด


    ตัวละครเสริม

    -แม่มดชุดขาว-

    - วิกตอเรีย -

    -ชายหนุ่มชุดดำ และ ชายหนุ่มนัยน์ตาสีแดง-

    - เฮเลน (มารดาของสองฝาแฝด) -



    The Twins[ฝาแฝด] 01
    เหยื่อรายที่หนึ่ง



              ยุคสมัยนั้นยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แม้จะเชื่องช้าแค่ไหนก็ตาม ทว่าเวลานั้นกลับไม่เคยหยุดอยู่กลับที่...ที่นี่ครั้งหนึ่งเป็นคฤหาสน์สูงสง่า ทว่าสิบปีผ่านไปที่นี่กลับเหลือเพียงแค่เศษซาก...ไม่เหลือเค้าเดิมแม้แต่น้อย ครั้งหนึ่งเคยถูกเผา และถูกทิ้งร้างไว้เนื่องจากไม่มีใครรอดออกจากกองเพลิงนั้นแม้แต่คนเดียว


              แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานที่ดินนี้ถูกมอบให้ทางขุนนางแทน ทว่าเพราะมีเล่ามากมายตลอดสิบปีทำให้ที่ดินแห่งนี้ถูกปล่อยทิ้งรอวันที่จะมีผู้คนที่ไม่รู้เรื่องราวเข้ามาเหยียบมันอีกครั้ง และในที่สุดที่ดินแห่งนี้ก็ถูกสร้างคฤหาสน์หลังใหญ่ขึ้นมาในเวลาไม่นาน ครอบครัวที่ย้ายมาจากเมืองที่ห่างไกลเข้ามาพักโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว


              รถม้าสามถึงสี่คันวิ่งตรงเข้าไปเขตคฤหาสน์ทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นเหลือบมองอบ่างอดไม่ได้พลางหันมองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก...คฤหาสน์แม้จะไม่เหลือซากเพราะเปลวไฟทว่าเท่าที่ผู้ใหญ่เล่ามานั้นยังคงมีบางอย่างที่ยังวนเวียนอยู่ในนั้น มันไม่ใช่วิญญาณฆาตหรืออะไรทั้งสิ้น แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือบาปและคำสาปของเด็กสาวที่ถูกเรียกว่าแม่มด


    ดาร์เลเน่


    ....ใช่แล้ว ที่นี่คือคฤหานส์ของวิลเลี่ยม....เพราะชายหนุ่มไม่มีญาติทำให้ที่ดินตกเป็นสมบัติของขุนนางไป


    รถม้าทั้งสี่วิ่งเข้ามาภายในเขตที่ดินนั้นอย่างเชื่องช้าก่อนที่ร่างของหญิงสาววัยสี่สิบในชุดที่ดูหรูหราจะเดินลงมาพร้อมกับชายหนุ่มอีกคน เธอเลื่อนสายตามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ห่างหลายเมตรเล็กน้อยก่อนออกคำสั่งให้เขายกกระเป๋าขึ้นไปบนคฤหาสน์ แน่นอนว่าชายหนุ่มคนนั้นรีบทำตามอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะเดินเชิดเข้าประตูไป


    หารู้ไม่ใบหน้าคนที่อยู่ละแวกนั้นมองเธอด้วยสายตาเช่นไร อนึ่งไม่เห็นพวกวิลเลี่ยมจะยโสเท่าคนพวกนี้เลย แถมยังใจดีเลยด้วยซ้ำ แต่ว่าน่าสงสารที่คนดีๆ อย่างพวกเขาต้องถูกสังหารเพียงเพราะความผิดเล็กๆ น้อยๆ นั้น ทว่าระหว่างที่ผู้คนมัวแต่มองหญิงสาวกับชายหนุ่มสองคนเมื่อครู่นั้นพวกเขากลับสะดุ้งเข้ากับชายหนุ่มสองคนที่เพิ่งก้าวลงมาจากรถม้า


    พวกเขาทั้งสองมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกันมาจนมองแล้วดูออกทันทีว่าเป็นแฝด...เรือนผมสีเทาประหลาดคล้ายกับเด็กสาวที่พวกเขาเคยเห็นก่อนหน้านี้ รับกับดวงตาสีเขียวมรกตคล้ายกับพรไพร ผิวขาวเนียนราวกับถูกดูแลอย่างดี ทั้งสองเดินลงมาเอ่ยถามชายหนุ่มที่คาดว่าเป็นคนรับใช้ว่าให้ช่วยรึเปล่า


    แน่นอนว่าฝ่ายคนใช้แทบปฏิเสธทันทีทำให้ทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านอย่างง่ายดาย แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงเรียกของเด็กสาวอีกคน


    มอร์แกน! เมลอส!


    “?”


    ชายหนุ่มทั้งสองหันมองเธอด้วยสีหน้างุนงงก่อนที่เด็กสาวคนนั้นจะวิ่งเข้ามาแทรกกลางระหว่างทั้งสองก่อนลากพวกเขาเข้าไปในบ้านอย่างสบายอารมณ์สองฝาแฝดหันมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนเลื่อนกลับไปมองทางเดินตรงหน้า บ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบนั้น เต็มไปด้วยเครื่องเรือนราคาแสนแพง


    เสียงกระดิ่งดังแว่วเข้ามาภายในบ้านพร้อมทั้งสายลมที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งพัดผ่านม่านสีแดงสด มอร์แกนเหลือบมองผ่านหน้าต่างบานใหญ่อย่างงุนงง เขามองเห็นบางอย่างที่คล้ายกับวิหารตั้งอยู่บนเนินเขาที่ไม่ไกลจากที่นี่นัก เสียงกระดิ่งลู่ลมยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ เสียงของมันราวกับกำลังตื่นเต้นกับบางสิ่งบางอย่างที่ใกล้เข้ามา


    เกสรของดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ปลิวไปตามสายลมพร้อมทั้งเรือนร่างของเด็กสาวคนหนึ่งลุกขึ้นจากทุ่งดอกไม้ตรงหน้า เรือนผมสีขาวประหลาดของเธอปลิวไปมาก่อนที่เธอจะเดินหายขึ้นไปบนเขาตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจเล็กน้อยก่อนเดินตามน้องชายและน้องสาวทั้งสองไป


     หารู้ไม่ว่าสายลมที่พัดพานั้นกำลังรอคอยเหยื่อรายที่สองที่ต้องพบกับเรื่องที่น่าสังเวช...เหยื่อรายแรกที่ต้องพบกับคำขอของแม่มดสาว...และเรียกหาคนที่มีบาปอีกสองคน เช่นเดียวกับพวกเขา...ที่ตายในที่แห่งนี้

     


     

    ห่างออกไปท่าเรือประจำเมือง เรือที่แล่นมาจากดินแดนที่ห่างไกลนั้นยังคงมีเรื่อยๆ เสียงคลื่นซัดกระหน่ำกับพื้นปูนนั้นทำให้ได้กลิ่นเกลือทะเลอ่อนๆ...ชายหนุ่มเรือนผมสีดำสนิทในชุดโทนสีเข้มทั้งตัวก้าวขึ้นบนเหยียบสะพานไม้พลางหันไปฉุดเด็กหนุ่มอีกคนที่มีเรือนผมสีเดียวกัน ทว่าต่างตรงที่อีกคนสวมผ้าคลุมหัวสีดำเอาไว้


    พวกเขาเดินออกจากท่าเรือของเมืองอย่างไม่ลังเลท่ามกลางเสียงคุยกันของผู้คนอนึ่งคนที่นี่คงไม่คุ้นกับการที่มีผู้คนจากต่างแดนมาเช่นเดียวกับทั้งสองไม่คุ้นเคยกับสภาพสังคมที่ต่างจากที่ตนเองเคยอยู่ พวกเขาเดินผ่านกลุ่มคนมากมายอย่างยากลำบากก่อนที่หยุดลงที่ทางเดินขึ้นเขาที่ว่างเปล่า


    ทางเดินที่ทำจากปูนเต็มไปด้วยกิ่งไม้และใบไม้ที่เหี่ยวเฉาจนร่วงลงมาจากต้นลงสู่พื้น ฝุ่นที่หนาเต็มพื้นที่และทางเดินที่มีรอยแตกหักนั้นทำให้ชายหนุ่มเหลือบมองขึ้นไปด้านบนเล็กน้อย....ที่นี่ถูกทิ้งร้างไว้กี่ปีแล้วนะ สิบ...ไม่สิน่าจะมากกว่านั้นอีก


    พวกเขาเดินขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุดของวิหาร...ที่นี่ดูงดงามถ้าไม่ได้ถูกทิ้งแบบนั้น ทว่าระหว่างที่กำลังเดินตรงไปยังหน้าต่างบานที่ถูกตกแต่งอย่างนั้น เท้าของเด็กหนุ่มสวมผ้าคลุมกลับเตะเข้ากลับอย่างทำให้เขาชะงักก่อนเหลือบมองเล็กน้อย อ่า สิ่งที่อยู่ตรงหน้าถ้าเป็นคนธรรมดาต้องตกใจแน่ๆ แต่ว่าที่น่าแปลกคือดวงตาสีแดงจ้องมองมันอย่างไร้อารมณ์จรกระทั่งชายหนุ่มอีกคนกล่าวถามออกมาด้วน้ำเสียงงุนงงเมื่อเห็นเขานิ่ง


    “เจคอป มีอะไร?”


    “อืม โครงกระดูกฮะ”


    “อ่า จริงสินะ ฉันเกือบลืมเรื่องนี้ไป”


    ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ ก่อนหยิบโครงกระดูกส่วนหัวขึ้นมาดูพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ทำให้อีกคนหันมองอย่างอดไม่ได้ แต่ถึงแม้คนข้างตัวจะหัวเราะโรคจิตแค่ไหนแต่ว่าสีหน้าของเด็กหนุ่มก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ดวงตาสีแดงเหลือบมองไปยังคฤหาสน์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล


    รถม้าวิ่งเข้ามาภายในเขตคฤหาสน์พร้อมร่างเจ้าของที่ดินคนใหม่ แต่ว่าพวกเขาไม่ได้สนใจผู้เป็นเจ้าของทั้งหญิงชายเลยแม้แต่น้อย ทว่าคนที่พวกเขาสนใจนั่นคือ


    พี่น้องฝาแฝด...


    ริมฝีปากของชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมามากกว่าเดิมก่อนเหลือบมองภาพฝาแฝดที่เดินเข้าไปในคฤหาสน์จนพวกเขาลับสายตาไป...อ่า ในที่สุด...ในที่สุดก็เจอเหยื่อแรกจะมอบชีวิตให้กับ....


    คำสาปที่น่าสังเวช



    ------------------------------------------------------------


    สั้นไปหน่อยขออภัยนะคะ เรื่องนี้มีประมาณห้าตอนขึ้นไปค่ะ ยังไม่ชัดว่าจะมีกี่ตอนกันแน่

    แต่ไม่ต่ำกว่าห้าแน่ๆ....ตอนนี้เป็นคล้ายเกริ่นเรื่องนะคะ ยังไม่เข้าเนื้อเรื่องจริงๆ ส่วนก่อนหน้านี้

    เรียกว่าแนะนำเรื่องราวย่อๆ ก็ได้ ถถถ รู้สึกว่าจะเขียนวนไปวนมายังไงไม่รู้ TT




    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×