คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : The Tale 2 :: The Twins [ฝาแฝด] 01 - เหยื่อรายที่หนึ่ง
The Main Character
From The Twins
ตัวละครหลัก
สองพี่น้องฝาแฝด
ตัวละครเสริม
-แม่มดชุดขาว-
- วิกตอเรีย -
-ชายหนุ่มชุดดำ และ ชายหนุ่มนัยน์ตาสีแดง-
- เฮเลน (มารดาของสองฝาแฝด) -
ยุคสมัยนั้นยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
แม้จะเชื่องช้าแค่ไหนก็ตาม
ทว่าเวลานั้นกลับไม่เคยหยุดอยู่กลับที่...ที่นี่ครั้งหนึ่งเป็นคฤหาสน์สูงสง่า ทว่าสิบปีผ่านไปที่นี่กลับเหลือเพียงแค่เศษซาก...ไม่เหลือเค้าเดิมแม้แต่น้อย ครั้งหนึ่งเคยถูกเผา และถูกทิ้งร้างไว้เนื่องจากไม่มีใครรอดออกจากกองเพลิงนั้นแม้แต่คนเดียว
แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานที่ดินนี้ถูกมอบให้ทางขุนนางแทน
ทว่าเพราะมีเล่ามากมายตลอดสิบปีทำให้ที่ดินแห่งนี้ถูกปล่อยทิ้งรอวันที่จะมีผู้คนที่ไม่รู้เรื่องราวเข้ามาเหยียบมันอีกครั้ง
และในที่สุดที่ดินแห่งนี้ก็ถูกสร้างคฤหาสน์หลังใหญ่ขึ้นมาในเวลาไม่นาน ครอบครัวที่ย้ายมาจากเมืองที่ห่างไกลเข้ามาพักโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว
รถม้าสามถึงสี่คันวิ่งตรงเข้าไปเขตคฤหาสน์ทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นเหลือบมองอบ่างอดไม่ได้พลางหันมองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก...คฤหาสน์แม้จะไม่เหลือซากเพราะเปลวไฟทว่าเท่าที่ผู้ใหญ่เล่ามานั้นยังคงมีบางอย่างที่ยังวนเวียนอยู่ในนั้น
มันไม่ใช่วิญญาณฆาตหรืออะไรทั้งสิ้น
แต่สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือบาปและคำสาปของเด็กสาวที่ถูกเรียกว่าแม่มด
ดาร์เลเน่
....ใช่แล้ว ที่นี่คือคฤหานส์ของวิลเลี่ยม....เพราะชายหนุ่มไม่มีญาติทำให้ที่ดินตกเป็นสมบัติของขุนนางไป
รถม้าทั้งสี่วิ่งเข้ามาภายในเขตที่ดินนั้นอย่างเชื่องช้าก่อนที่ร่างของหญิงสาววัยสี่สิบในชุดที่ดูหรูหราจะเดินลงมาพร้อมกับชายหนุ่มอีกคน
เธอเลื่อนสายตามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ห่างหลายเมตรเล็กน้อยก่อนออกคำสั่งให้เขายกกระเป๋าขึ้นไปบนคฤหาสน์
แน่นอนว่าชายหนุ่มคนนั้นรีบทำตามอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะเดินเชิดเข้าประตูไป
หารู้ไม่ใบหน้าคนที่อยู่ละแวกนั้นมองเธอด้วยสายตาเช่นไร
อนึ่งไม่เห็นพวกวิลเลี่ยมจะยโสเท่าคนพวกนี้เลย แถมยังใจดีเลยด้วยซ้ำ
แต่ว่าน่าสงสารที่คนดีๆ อย่างพวกเขาต้องถูกสังหารเพียงเพราะความผิดเล็กๆ น้อยๆ
นั้น ทว่าระหว่างที่ผู้คนมัวแต่มองหญิงสาวกับชายหนุ่มสองคนเมื่อครู่นั้นพวกเขากลับสะดุ้งเข้ากับชายหนุ่มสองคนที่เพิ่งก้าวลงมาจากรถม้า
พวกเขาทั้งสองมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกันมาจนมองแล้วดูออกทันทีว่าเป็นแฝด...เรือนผมสีเทาประหลาดคล้ายกับเด็กสาวที่พวกเขาเคยเห็นก่อนหน้านี้
รับกับดวงตาสีเขียวมรกตคล้ายกับพรไพร ผิวขาวเนียนราวกับถูกดูแลอย่างดี
ทั้งสองเดินลงมาเอ่ยถามชายหนุ่มที่คาดว่าเป็นคนรับใช้ว่าให้ช่วยรึเปล่า
แน่นอนว่าฝ่ายคนใช้แทบปฏิเสธทันทีทำให้ทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านอย่างง่ายดาย
แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงเรียกของเด็กสาวอีกคน
“มอร์แกน! เมลอส!”
“?”
ชายหนุ่มทั้งสองหันมองเธอด้วยสีหน้างุนงงก่อนที่เด็กสาวคนนั้นจะวิ่งเข้ามาแทรกกลางระหว่างทั้งสองก่อนลากพวกเขาเข้าไปในบ้านอย่างสบายอารมณ์สองฝาแฝดหันมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนเลื่อนกลับไปมองทางเดินตรงหน้า
บ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบนั้น เต็มไปด้วยเครื่องเรือนราคาแสนแพง
เสียงกระดิ่งดังแว่วเข้ามาภายในบ้านพร้อมทั้งสายลมที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งพัดผ่านม่านสีแดงสด
มอร์แกนเหลือบมองผ่านหน้าต่างบานใหญ่อย่างงุนงง เขามองเห็นบางอย่างที่คล้ายกับวิหารตั้งอยู่บนเนินเขาที่ไม่ไกลจากที่นี่นัก
เสียงกระดิ่งลู่ลมยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ
เสียงของมันราวกับกำลังตื่นเต้นกับบางสิ่งบางอย่างที่ใกล้เข้ามา
เกสรของดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ปลิวไปตามสายลมพร้อมทั้งเรือนร่างของเด็กสาวคนหนึ่งลุกขึ้นจากทุ่งดอกไม้ตรงหน้า
เรือนผมสีขาวประหลาดของเธอปลิวไปมาก่อนที่เธอจะเดินหายขึ้นไปบนเขาตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจเล็กน้อยก่อนเดินตามน้องชายและน้องสาวทั้งสองไป
หารู้ไม่ว่าสายลมที่พัดพานั้นกำลังรอคอยเหยื่อรายที่สองที่ต้องพบกับเรื่องที่น่าสังเวช...เหยื่อรายแรกที่ต้องพบกับคำขอของแม่มดสาว...และเรียกหาคนที่มีบาปอีกสองคน เช่นเดียวกับพวกเขา...ที่ตายในที่แห่งนี้
ห่างออกไปท่าเรือประจำเมือง
เรือที่แล่นมาจากดินแดนที่ห่างไกลนั้นยังคงมีเรื่อยๆ เสียงคลื่นซัดกระหน่ำกับพื้นปูนนั้นทำให้ได้กลิ่นเกลือทะเลอ่อนๆ...ชายหนุ่มเรือนผมสีดำสนิทในชุดโทนสีเข้มทั้งตัวก้าวขึ้นบนเหยียบสะพานไม้พลางหันไปฉุดเด็กหนุ่มอีกคนที่มีเรือนผมสีเดียวกัน
ทว่าต่างตรงที่อีกคนสวมผ้าคลุมหัวสีดำเอาไว้
พวกเขาเดินออกจากท่าเรือของเมืองอย่างไม่ลังเลท่ามกลางเสียงคุยกันของผู้คนอนึ่งคนที่นี่คงไม่คุ้นกับการที่มีผู้คนจากต่างแดนมาเช่นเดียวกับทั้งสองไม่คุ้นเคยกับสภาพสังคมที่ต่างจากที่ตนเองเคยอยู่
พวกเขาเดินผ่านกลุ่มคนมากมายอย่างยากลำบากก่อนที่หยุดลงที่ทางเดินขึ้นเขาที่ว่างเปล่า
ทางเดินที่ทำจากปูนเต็มไปด้วยกิ่งไม้และใบไม้ที่เหี่ยวเฉาจนร่วงลงมาจากต้นลงสู่พื้น
ฝุ่นที่หนาเต็มพื้นที่และทางเดินที่มีรอยแตกหักนั้นทำให้ชายหนุ่มเหลือบมองขึ้นไปด้านบนเล็กน้อย....ที่นี่ถูกทิ้งร้างไว้กี่ปีแล้วนะ
สิบ...ไม่สิน่าจะมากกว่านั้นอีก
พวกเขาเดินขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุดของวิหาร...ที่นี่ดูงดงามถ้าไม่ได้ถูกทิ้งแบบนั้น
ทว่าระหว่างที่กำลังเดินตรงไปยังหน้าต่างบานที่ถูกตกแต่งอย่างนั้น เท้าของเด็กหนุ่มสวมผ้าคลุมกลับเตะเข้ากลับอย่างทำให้เขาชะงักก่อนเหลือบมองเล็กน้อย
อ่า สิ่งที่อยู่ตรงหน้าถ้าเป็นคนธรรมดาต้องตกใจแน่ๆ แต่ว่าที่น่าแปลกคือดวงตาสีแดงจ้องมองมันอย่างไร้อารมณ์จรกระทั่งชายหนุ่มอีกคนกล่าวถามออกมาด้วน้ำเสียงงุนงงเมื่อเห็นเขานิ่ง
“เจคอป มีอะไร?”
“อืม โครงกระดูกฮะ”
“อ่า จริงสินะ
ฉันเกือบลืมเรื่องนี้ไป”
ชายหนุ่มพึมพำเบาๆ
ก่อนหยิบโครงกระดูกส่วนหัวขึ้นมาดูพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
ทำให้อีกคนหันมองอย่างอดไม่ได้
แต่ถึงแม้คนข้างตัวจะหัวเราะโรคจิตแค่ไหนแต่ว่าสีหน้าของเด็กหนุ่มก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
ดวงตาสีแดงเหลือบมองไปยังคฤหาสน์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
รถม้าวิ่งเข้ามาภายในเขตคฤหาสน์พร้อมร่างเจ้าของที่ดินคนใหม่
แต่ว่าพวกเขาไม่ได้สนใจผู้เป็นเจ้าของทั้งหญิงชายเลยแม้แต่น้อย
ทว่าคนที่พวกเขาสนใจนั่นคือ
พี่น้องฝาแฝด...
ริมฝีปากของชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมามากกว่าเดิมก่อนเหลือบมองภาพฝาแฝดที่เดินเข้าไปในคฤหาสน์จนพวกเขาลับสายตาไป...อ่า
ในที่สุด...ในที่สุดก็เจอเหยื่อแรกจะมอบชีวิตให้กับ....
คำสาปที่น่าสังเวช
------------------------------------------------------------
สั้นไปหน่อยขออภัยนะคะ เรื่องนี้มีประมาณห้าตอนขึ้นไปค่ะ ยังไม่ชัดว่าจะมีกี่ตอนกันแน่
แต่ไม่ต่ำกว่าห้าแน่ๆ....ตอนนี้เป็นคล้ายเกริ่นเรื่องนะคะ ยังไม่เข้าเนื้อเรื่องจริงๆ ส่วนก่อนหน้านี้
เรียกว่าแนะนำเรื่องราวย่อๆ ก็ได้ ถถถ รู้สึกว่าจะเขียนวนไปวนมายังไงไม่รู้ TT
ความคิดเห็น