คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro เลขที่สิบสาม
Intro
เลขที่สิบสาม
ท้องฟ้ายามรัตติกาลมีสีดำสนิท คืนเดือนมืดแบบนี้ทำให้ดวงดาวพร่างพราวระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้า แต่ทว่า...ประตูทุกห้อง หน้าต่างทุกบาน ทุกๆ อย่างล้วนปิดสนิทราวกับกลัวว่าสิ่งเร้นลับจะย่างกรายเข้ามา
ร่างสูงโปร่งของนักเรียนชายคนหนึ่งแง้มประตูออกมาจากห้องพักด้านในสุด เขาจะต้องย่ำเท้าให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่มีแม้แต่เสียงฝีเท้าดังอยู่ตามทางเดิน เขาชำนาญในเรื่องแบบนี้ยิ่งกว่าพวกโจรเสียอีก
หลังจากพ้นอาณาเขตของบริเวณหอพักมาได้แล้ว นักเรียนหนุ่มคนนั้นก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ใบหน้าของเขายามต้องกับแสงไฟดูขาวซีดไร้เลือดฝาด มีคนบอกว่าเขาเหมือนผู้ชายที่หลุดออกมาจากนวนิยายแฟนตาซีจำพวกแวมไพร์
...ซึ่ง ‘ชเว ซีวอน’ ไม่เคยสนใจคำพูดเหล่านั้น
เขาใช้ชีวิตในแบบที่ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใคร วันๆ หนึ่งแทบจะไม่คุยกับใครเกินสองประโยคหากไม่มีเรื่องจำเป็น แม้ว่า ‘อี ทงเฮ’ จะชอบเข้ามาตีสนิทด้วยบ่อยๆ แต่เขาก็ทำเพียงเมินหน้าหนีแล้วเดินจากไปเท่านั้น
เมื่อเดินมาจนถึงด้านหลังโรงเรียน ร่างสูงโปร่งก้มตัวลงคุดคู้ไปกับพื้น ก่อนจะใช้มือหนาแหวกพงหญ้าที่แสนรกออกจากกำแพงหิน เผยให้เห็นช่องโหว่ขนาดใหญ่พอที่จะให้คนๆ หนึ่งสามารถลอดออกไปได้
เมื่อหนีออกมาจากโรงเรียนได้แล้ว ร่างนั้นก็เดินไปตามเส้นทางที่เขาไปเป็นประจำทุกคืน จากโรงเรียนลัดเลาะเข้าไปในซอยแคบๆ ที่มีบ้านของผู้คนเรียงรายติดกัน จนกระทั่งสุดทางเดิน เขาเลี้ยวซ้ายผ่านคูน้ำเล็กๆ ที่ทั้งโสโครกและมีกลิ่นเหม็นจนแทบจะอาเจียน บางครั้งได้ยินเสียงหนูร้องจี๊ดๆ และวิ่งเฉียดรองเท้าของเขาไปนิดเดียวเท่านั้น
ซีวอนเดินต่อไปเรื่อยๆ ยังทุ่งหญ้าที่รกทึบ มันดูคล้ายกับจะเป็นป่าจนไม่มีใครกล้าเดินผ่านเข้ามาในบริเวณนี้เลย แต่พอแหวกหญ้าที่ขึ้นสูงเดินต่อไปเรื่อยๆ กลับโผล่ออกไปยังถนนเส้นหนึ่งที่มีความเจริญพอสมควร
ซีวอนเดินเลี้ยวไปยังมุมถนนที่อยู่ไม่ห่างจากบริเวณนั้น เขาหยุดอยู่กลางสี่แยกที่ไร้รถยนต์วิ่งผ่าน มือหนาทั้งสองข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ทของตัวเอง
ก่อนจะจ้องมองสี่แยกแห่งนั้นอยู่นานนับชั่วโมง...
ณ ช่วงเวลาเดียวกัน
“อันนี้จะใช้ได้ผลจริงเหรอ?”
เสียงหวานรื่นหูเอ่ยถามเจ้าของร้านขณะที่กำลังกรีดนิ้วเรียวยาวทั้งสี่ของตัวเองไปมา เขาเลื่อนมันมาดูใกล้ๆ อีกครั้ง หากแต่แววตากลับไร้ซึ่งความมั่นใจชนิดที่ว่าจะต้องถูกปลุกเร้าชุดใหญ่จึงจะยอมซื้อของชิ้นนี้
“คุณสามารถทดลองสินค้าหลังร้านได้นะครับ”
เจ้าของร้านที่ยืนสงบนิ่งอยู่หลังเคาน์เตอร์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ใบหน้าขาวซีดของเขา น้ำเสียงที่เยือกเย็นของเขา กับดวงตาที่บางครั้งมองดูคล้ายกำลังใส่คอนแทคเลนส์สีแดงทำให้ลูกค้าที่เข้ามาแต่ละรายพยายามมองหน้าเจ้าของร้านอย่างค้นหา
“ว่ายังไงล่ะครับ อีกไม่กี่ชั่วโมงร้านเราก็จะปิดแล้ว”
“ผมเป็นคนเกิดอารมณ์ยาก”
“สินค้าของเรารับประกันความพึงพอใจทุกชิ้น ถ้าคุณไม่พอใจ ผมสามารถให้คุณอึ้บผมได้ฟรีๆ แทนคำขอโทษ”
ลูกค้าคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร้านอีกครั้งหนึ่ง เขาคิดว่าข้อเสนอนี้มันน่าสนใจมากเลยทีเดียว ใครๆ ที่มาร้านนี้ต่างก็หลงเสน่ห์ใบหน้าขาวซีดของเจ้าของร้านกันทั้งนั้น จะมีใครขาวไปได้มากกว่าเขาอีกหรือเปล่านะ ขาวโพลนอย่างกับหิมะ ขาวและซีดเซียวราวกับคนที่ตายไปแล้ว
“ตกลงผมจะทดลองสินค้าก่อน” เสียงหวานเอ่ยขึ้นแล้วยิ้มมุมปาก “...แต่มีข้อแม้!”
“ผมรู้ว่าคุณหมายถึงอะไร เชิญไปที่ห้องด้านหลังได้เลย”
เจ้าของร้านคนเดิมพูดห้วนๆ และผายมือไปยังห้องที่มีประตูบานใหญ่สีดำสนิท เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ จะพบว่าประตูถูกแกะสลักเป็นรูปนกฮูกที่มีดวงตาสีแดงฉานปูดโปนน่ากลัว เขาเดินนำลูกค้าและผลักประตูเข้าไป ในขณะที่อีกคนยังงุนงงไม่หาย
“ถอดกางเกงแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงสิ!” เจ้าของร้านออกคำสั่ง ในขณะที่อีกฝ่ายขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจนัก คนที่สั่งควรจะเป็นฝ่ายลูกค้ามากกว่าไม่ใช่หรือ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยอมถอดกางเกงและเดินไปนั่งอยู่บนเตียงอย่างว่าง่าย แต่ยังไม่ยอมนอนราบลง
เจ้าของร้านเดินไปถึงเตียง และดึงสิ่งของที่อยู่ในนิ้วเรียวยาวทั้งสี่ของลูกค้าในตอนแรกออกมารวดเดียวหมด เขายัดซิลิโคนเหล่านั้นเข้ากับนิ้วของตัวเองแล้วผลักลูกค้านอนหงายลงไป
“อ๊ะ!” เสียงหวานร้องเบาๆ อย่างสุดสยิวเมื่อฝ่ามือหนาของเจ้าของร้านจับเรียวขาให้แยกออกจากกัน เจ้าของร้านอยูในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน เหมือนเขาจะคร่อมลำตัวของอีกฝ่ายเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น นิ้วเรียวทั้งสี่ค่อยๆ สอดใส่ซิลิโคนเนื้อนุ่มที่เต็มไปด้วยหนามเล็กๆ เข้าไปในช่องทางคับแคบด้านหลัง
“อย่า...อ๊า...อย่าเพิ่ง!”
“ทำไมล่ะ?!” เจ้าของร้านกระซิบถามเสียงพร่า พร้อมกับยิ้มมุมปากได้น่าสยดสยองยิ่งกว่าตอนที่ลูกค้ายิ้มเมื่อครู่นี้เสียอีก เขาขยับนิ้วราวกับกำลังร่ายรำในช่องทางเล็กๆ นั่น กรีดกรายไปมาจนคนใต้ร่างบิดเร่าอย่างทรมาน
นี่น่ะเหรอ...ที่บอกว่าอารมณ์ขึ้นยาก
ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยสักนิด
ใบหน้าขาวซีดค่อยๆ โน้มลงไปหาลำคอสวยช้าๆ กลิ่นของมนุษย์ที่หอมหวานจนยั่วน้ำลายทำให้เขี้ยวเล็กๆ งอกออกมาจากปาก เขาค่อยๆ ครูดเขี้ยวทั้งสองข้างไปกับลำคอนวลช้าๆ จนเกิดเป็นรอยถลอกและมีเลือดไหลซึมออกมา ดวงตากลมโตฉายแววแดงก่ำจนน่ากลัว นิ้วเรียวที่อยู่ด้านล่างขยับถี่เร็วจนคนใต้ร่างหลับตาพริ้มแล้วบิดเร่าด้วยความทุรนทุรายอย่างแสนสาหัส
ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยพบการออรัลที่สุดยอดมากเท่านี้มาก่อน
มันชวนให้เคลิบเคลิ้มและต้องการอีกไม่รู้จบ
แต่ก่อนที่ลูกค้าจะถึงจุดสูงสุดของอารมณ์นั้น เสียงคนๆ หนึ่งก็ดังขึ้นในห้วงความคิดของผู้เป็นเจ้าของร้าน มันดังก้องเสียจนน่ารำคาญจนกระทั่งเจ้าของร้านต้องซ่อนคมเขี้ยวให้กลับเข้าไปดังเดิมแล้วขู่คำรามดังลั่น
“คริสตัล!”
ไม่กี่นาทีก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ขึ้น
ซีวอนคิดว่าเขาควรจะกลับไปที่โรงเรียนก่อนจะถึงเวลาตีห้าครึ่ง เขาหันหลังให้กับสี่แยกที่เขาใช้เวลาเพ่งมองนานเกือบสองชั่วโมง ขาเพรียวยาวก้าวฉับๆ อย่างเร่งรีบเพื่อให้ถึงห้องก่อนที่หัวหน้าหอพักจะตื่นขึ้นมาพบเขา และจดชื่อเขาส่งให้ฝ่ายปกครอง
ทว่าในขณะที่กำลังจะเลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ เพื่อเดินผ่านป่าหญ้ารกสูงนั้น ค้างคาวขนาดใหญ่ตัวหนึ่งก็บินสวนกลับมา ดวงตาของมันมีสีวาววับคล้ายเหยี่ยว และมันก็ตัวใหญ่เกินกว่าที่จะเป็นเพียงแค่ค้างคาวได้
มันบินผ่านศีรษะของซีวอนไปนิดเดียวเท่านั้น แม้แต่เส้นผมของเขายังปลิวกระจายไปตามแรงปีกที่กระพือผ่าน ซีวอนรีบหันขวับกลับไปมองอย่างรวดเร็ว
นั่นมันอะไรกัน ค้างคาวผีสิงนั่นกำลังยิ้มให้เขา!
ซีวอนรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ค้างคาวที่เพิ่งบินโฉบเขาไปหันกลับมาสะบัดปีกแล้วยิ้ม ซีวอนรู้สึกว่ามันกำลังยิ้ม มันบินช้าลงราวกับจงใจจะให้เขาเดินตาม และซีวอนก็เดินตามราวกับถูกมนตร์สะกด
เขาเดินไปในทิศทางที่ตรงข้ามกับโรงเรียน ผ่านไปเพียงสองช่วงตึกเท่านั้น แล้วค่อยเลี้ยวเข้าไปยังซอยแคบๆ ร้านรวงทุกร้านปิดลงไปหมดแล้ว ไม่มีแม้แต่ดวงไฟหน้าร้าน ไม่มีแม้แต่ดวงไฟตามถนน ทำให้ร้านค้าแห่งหนึ่งเด่นชัดเข้ามาในสายตา
Sexy Story
ซีวอนขมวดคิ้วที่เห็นค้างคาวบินหายเข้าไปด้านในร้านพร้อมๆ กับชายคนหนึ่งที่เดินออกมาจากประตูสีดำหลังร้านอย่างหัวเสีย ค้างคาวบินไปเกาะอยู่บนโคมไฟระย้ากลางร้าน มันทำท่าเหมือนกำลังจะหลับ แต่ในขณะเดียวกันซีวอนก็รู้สึกว่ามันกำลังจ้องมองมาที่เขา
ร่างสูงกำลังจะก้าวขาเข้าไปด้านใน แต่ในขณะนั้นกลับมีชายอีกคนเดินออกมาจากประตูสีดำบานเดิม ชายคนนั้นแต่งตัวยังไม่เรียบร้อย และเดินมาหาเจ้าของร้านที่หน้าเคาน์เตอร์ ซีวอนเดินเข้าไปใกล้ๆ มากขึ้นแล้วได้ยินบทสนทนาในช่วงสุดท้ายอย่างชัดเจน
“คุณสามารถสมัครสมาชิกได้นะ”
“แล้วผมต้องทำยังไงบ้าง?”
“แค่บอกชื่อของคุณมา...”
“ผม...โอ...โอ เซฮุน”
สินค้าถูกจัดใส่ในถุงด้วยแพ็คเกจที่น่ารัก ชายร่างเล็กเดินสวนออกมาจากร้านแล้วรีบก้าวไปอีกทางทันที เขามองเห็นซีวอนแต่แสร้งทำเป็นไม่เห็นใครเลย
ซีวอนมองเข้าไปอีกครั้ง เขาเดาไม่ออกว่านี่เป็นร้านค้าประเภทไหน ชั้นวางของที่อยู่ติดผนังมีกระป๋องพลาสติกรูปการ์ตูนญี่ปุ่นน่ารักๆ ตั้งเรียงรายเป็นแนว ถัดมาอีกชั้นเป็นอุปกรณ์คล้ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารูปร่างประหลาดๆ มากมายหลายสี
อีกมุมหนึ่งเป็นชั้นห้อยสินค้าจำพวกยางรัดผมประหลาดๆ แบบมีขนไก่หรือขนอะไรสักอย่างสีดำอยู่รอบๆ ด้านบนสุดจะห้อยห่วงขนาดต่างๆ กัน ทั้งแบบสวมนิ้ว และสวมอย่างอื่นที่ไม่ใช่นิ้ว
มันเหมือนจะคล้ายกิฟท์ช็อป แต่ก็ไม่ใช่...
สิ่งที่ทำให้ซีวอนมั่นใจว่าที่นี่คืออะไรกันแน่ เป็นเพราะว่าเขาหันไปเห็นตุ๊กตายางของผู้ชายที่โก้งโค้งรูทวารด้านหลังออกมาให้ไปทดลองยืนเสียบได้ทันที
“เซ็กส์ช็อปน่ะ!”
คำตอบที่คลายความสงสัยทำให้ซีวอนหันขวับไปมองเจ้าของร้าน ร่างสูงอ้าปากค้างอึ้งนิ่ง ในขณะที่เจ้าของร้านกลับไม่มีมีอารมณ์ใคร่จะใส่ใจเขาเลยสักนิด
‘นายตอบเขาทำไม?’ เจ้าของร้านกำลังส่งโทรจิตคุยกับค้างคาวที่แกล้งหลับอยู่บนโคมไฟระย้า
‘ก็เขาอยากรู้...’ มันตอบเสียงอ่อยแอ๊บแบ๊วจนผู้ที่ยืนหลังเคาน์เตอร์ข่มอารมณ์แทบไม่ไหว
‘แล้วนายยังพาเขามาที่นี่อีก’
‘ฉันเปล่านะ เขาเดินตามฉันมาเองต่างหาก’
‘แต่ฉันไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาในเขตหวงห้ามของฉัน!’
‘แต่มนุษย์เด็กหน้าตาน่ารักที่เพิ่งเดินออกไปเมื่อกี้ นายก็เพิ่งปล่อยให้เขาเข้ามานี่นา แถมนายยังเกือบจะกัดเขาแล้วด้วย ถ้าฉันไม่พาผู้ชายคนนี้มาก่อน’
‘ตกลงว่านายยอมรับแล้วล่ะสิว่าพาเขามา’
‘โอเค! ฉันยอมรับก็ได้ นั่นก็เพราะว่า...’
‘ไม่ใช่!’ เจ้าของร้านรีบเถียงก่อนที่เจ้าค้างคาวจะพูดอะไรออกมา พวกเขาคุยกันเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ซีวอนที่ยืนมองอยู่ไม่อาจล่วงรู้และคาดเดาสถานการณ์อะไรได้เลย
‘ฉันว่าเขาต้องเป็นผู้พิทักษ์ของนายนั่นแหละโจ คยูฮยอน’
‘คริสตัล!’
‘หึ...นายตะคอกฉันอีกแล้ว เพื่อนมาหาทั้งที นายทำแบบนี้ได้ยังไง’
ค้างคาวสีดำกระพือปีกแล้วบินออกไปนอกร้านก่อนที่คยูฮยอนจะเผาเขาด้วยสายตาอันทรงพลังนั่น มันบินเฉี่ยวศีรษะของซีวอนไปอีกแล้ว จนซีวอนต้องย่อตัวหลบลงก่อนจะหันมาจ้องหน้าคยูฮยอนอีกครั้งแล้วเอ่ยถามใกล้ๆ
“นายคือ...เลขที่สิบสามใช่ไหม?”
Talk with Lee Seen
ก็ไม่รู้ว่าจะแต่งจบไหม
ก็ไม่รู้ว่าจะแต่งไปได้ไกลอีกสักเท่าไรเพราะ...
1. เป็นครั้งแรกที่แต่งแนวนี้
2. เป็นพล็อตเรื่องที่เกิดอาการเห่ออย่างคุ้มคลั่ง
แต่...
3. จะแต่งให้ได้เพราะตอนต่อไปมี NC วอนคยู #ห๊ะ!
คิดว่าอ่านผิดไปล่ะซี่ กลับไปอ่านข้อ 3 อีกครั้งหนึ่งก็ได้
NC จริงๆ แบบยาวต่อเนื่องนาน 13 ล้านชั่วโมงเลย โฮะๆๆๆๆ
เจอกันตอนหน้าค่ะ (เมื่อไรก็ไม่รู้ ยู้ฮูววววว์)
ความคิดเห็น