คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 : เขานั่นแหละ..คิมฮีชอล
RRRRR!!!!!
เสียงโทรศัพท์มือถือที่ถูกตั้งเสียงเฉพาะเบอร์ไว้ดังขึ้นทำเอาร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงสะดุ้งขึ้นมาควานหาโทรศัพท์จนแทบตกเตียง
“ฮะ..ฮัลโหล”
“ฉันตื่นแล้ว” คู่สายพูดแค่สามคำก่อนที่จะวางสายไปโดยที่ไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายได้ร่ำลาเลย แต่เจ้าตัวน่ะคงชินกับพฤติกรรมเหล่านี้แล้วล่ะ
ร่างสูงลุกขึ้นบิดขี้เกียจหาวหวอดๆก่อนที่จะเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องน้ำไป...
ปาร์คจองซู..นักศึกษาปีสามมหาลัยชื่อดังในกรุงโซล..ที่มีชีวิตแสนจะธรรมดาบ้านก็ไม่ได้รวยอะไรชีวิตแทบจะหาข้อดีเด่นไม่ได้.. ใช้ชีวิตนักศึกษามหาลัยตามแบบฉบับออริจินัลคือเรียนไปเพื่อจบ..จบมาก็หางานทำ...พอมีงานมีการก็หาเงินแต่งเมียอะไรทำนองนั้น...
จองซูต้องมาอาศัยอยู่กับลูกชายชายของป้า..นั่นก็คือ ชเวซีวอน หนุ่มฮ็อตปี1ประจำคณะนิติศาสตร์ซึ่งผิดกับพี่ญาติคนนี้ซะเหลือเกิน...ไอ้เรื่องหน้าตาน่ะไม่ผิดหรอก.. แต่ความเอ๋อ..ความเซ่อนี่สิ.. ปาร์คจองซูรับเหมาไปทั้งหมด ใช่ว่าเกิดมาหน้าตาดีทุกอย่างจะราบรื่น.. เปล่าเลย..ปาร์คจองซูคนนี้มีดีแค่หน้าตาจริงๆ.. บ้านก็จน.. ไหนจะต้องทำงานพิเศษงกๆทุกวัน ซีวอนก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำขอค่าเช่าอะไรหรอกนะ.. แต่ด้วยความซื่อสัตย์ ความดี เทพพระบุตรส่งมาเกิดเลยทำให้เขาต้องตรากตรำทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยน่ะ..
ร่างสูงลงจากรถเมล์แล้วเดินเข้าไปในมหาลัยก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นนักศึกษาจำนวนมากมุงดูอะไรกันอยู่..หวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่คิด.. ร่างสูงแหวกผู้คนเข้าไปดูถึงกับเบิกตากว้างเมื่อสิ่งที่เขาคิดมันเกิดขึ้นจริงๆ
“คิมฮีชอลเอาอีกแล้วล่ะ”
“นั่นด่าหรือแรพว่ะนั่น ลิ้นรัวซะ”.
“อ่า..ได้ข่าวว่าคราวที่แล้วทะเลาะกับแม่ค้าขายข้าวผัดกิมจิไม่ใช่เหรอ?”
“อันตรายจริงๆ..เมื่อวานฉันเห็นเขาวิ่งไล่ตีเด็กม.ปลายที่ยืนดูดบุหรี่หน้ามหาลัยด้วยล่ะ..”
“ไม่แน่นะ สักวันนึงบนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์อาจจะมีชื่อเขาตระหง่านข้อหาฆ่าคนตายก็ได้ 555”
ปาร์คจองซูยืนมองร่างบางที่ยืนเท้าใส่เอวถกเถียงกับยามอยู่หน้ามหาลัยก่อนที่จะส่ายหน้าหน่ายๆและเข้าไปดึงแขนฮีชอลออกมาพลางโค้งหัวขอโทษขอโพยลุงยามซะยกใหญ่
“ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับลุงยาม”
“อะไร!! นายจะไปขอโทษอีตาแก่หัวเถิกฉายาพระอาทิตย์ดวงที่สองอย่างนี้ทำไม! นายไม่รู้เหรอเพราะตาแก่นี่แท้ๆโลกถึงได้ร้อนขนาดนี้น่ะ!!” ฮีชอลสาวยาวเป็นหางว่าว จองซูได้แค่ยกมือปิดปากอีกฝ่ายแล้วหันไปยิ้มแหยๆ
“ว่าแต่..เกิดอะไรขึ้นน่ะ?” จองซูหันไปกระซิบถามเพื่อนจอมวีนเบาๆ
“ก็ไอ้เด็กเวรนี่น่ะสิ! ฉันแค่บอกให้เลิกขับมอไซซังกะบ๊วยวนรอบป้อมยามก็ไม่ยอมเลิก แถมยังชี้หน้าด่าฉันซะจนรู้สึกผิดที่เกิดมาเป็นคนตลอดห้าสิบสองปีอีก!” คุณลุงยามตอบอย่างคับแค้นใจ แต่สีหน้าคู่ชก..เอ่อ..สีหน้าอีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเอาซะเลย
“อะไรกันลุง! ก็ฉันเห็นลุงแอบหลับก็เลยช่วยปลุก ฉันเป็นผู้มีพระคุณทำให้ลุงไม่ตกงานมันดีแค่ไหนแล้ว สำนึกบ้างก็ดีนะ! แล้วมอไซคันนั้นมันออกจะเก๋.. มันคือรถประจำตำแหน่งของเพื่อนฉันเลยนะนั่น!” ฮีชอลพยายามถกเถียงต่อไป.. แหงล่ะ..มอเตอร์ไซมินิสีชมพูประจำตำแหน่งของปาร์คจองซูที่เขาชอบฉกมาแว๊นซ์เล่นทุกวันๆ จองซูทำงานพิเศษอยู่ที่ร้านบะหมี่ที่ในร้านมีแต่สีชมพูเต็มไปหมด จนหลายๆคนเข้าใจผิดว่านั่นเป็นร้านขายตุ๊กตาบรายธ์ก็มี
“ฮีชอลอ่า..ไม่เอาน่าอายเค้า..ไปกันเถอะ..เอ่อ..ผมขอโทษแทนเพื่อนผมอีกครั้งด้วยนะครับ” จองซูโค้งรอบทิศขณะที่ฮีชอลหันหน้ามาแยกเขี้ยวใส่คุณลุงประจำป้อมยาม
..
..
“ปล่อยได้แล้ว!” ฮีชอลสะบัดแขนออก คิ้วขมวดจ้องหน้าเพื่อนสนิทด้วยความหงุดหงิดที่ถูกขัดใจ
“ไม่เบื่อบ้างรึไง?” ร่างสูงจ้องหน้าอีกฝ่ายหน่ายๆที่ขยันสร้างเรื่องได้ทุกวี่ทุกวัน
“เบื่ออะไร?” คนสวยตีหน้าซื่อ
“ไม่เบื่อบ้างเหรอที่ต้องทะเลาะกับคนไม่ซ้ำหน้าทุกวันน่ะ”
“ไม่เบื่อ”
“เพี้ยน..” จองซูจงใจถอนหายใจใส่แล้วเดินหนีออกมา ฮีชอลเห็นดังนั้นถึงกับถลึงตาแล้วเดินจ้ำอ้าวตามมา
“เฮ้! นายกล้าเดินหนีฉันคนนี้เหรอปาร์คจองซู?!”
“เปล่า จะเข้าเรียนแล้ว”
“เลทสักหน่อยก็ได้น่า!.... เฮ้!” ร่างบางวิ่งตามเพื่อนสนิทที่เดินนำหน้าไปโดยไม่สนใจคนที่ยืนบ่นอยู่ข้างหลังเลย ใบหน้าสวยเบ้ปากด้วยความหมั่นใส้ก่อนที่จะวิ่งไปประโดดขึ้นหลังเพื่อนสนิท
“ฮีชอล!”
“เรียกทำไม?”
“ไม่อายรึไง คนมองใหญ่แล้วนะ”
“บ่นอยู่ได้ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย” ร่างบางยิ้มเยาะกระชับกอดให้แน่นยิ่งขึ้นอีก
ขณะนั้นเองทั้งคู่ก็ต้องหันไปสนใจคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาที่เดินผ่านไป ร่างสูงโปร่งที่เดินตามใครอีกคน
“อา... ไอ้ม้ามันยังไม่เลิกตามตื้อไอ้แป๊ะนั่นอีกเหรอ?” ฮีชอลเอ่ยถามร่างสูง
“นั่นน่ะสิ..ซีวอนคิดอะไรของมันอยู่นะ”
“พี่ฮัน เดี๋ยวสิ” ร่างสูงคว้าข้อมืออีกฝ่ายไว้แต่ก็ถูกสะบัดออกอย่างรวดเร็ว
“อย่าแตะต้องตัวฉัน”ร่างโปร่งมองหวาดๆ ลูบข้อมือตัวเองป้อยๆ... ไม่ใช่ว่ารังเกียจแค่เขาคนเดียว.. แต่เขารังเกียจผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้เขา!
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรพี่เลยนะ” ซีวอนพูดน้ำเสียงน้อยใจ กี่ครั้งแล้วที่ตามเอาชนะใจผู้ชายคนนี้ แต่อีกฝ่ายกลับตัดพ้อด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปซะทุกครั้ง
“...มีอะไร?” ฮันคยองเอ่ยถามพลางมองไปรอบๆตัวที่มีนักศึกษาหลายคนจดจ้องมาเป็นตาเดียวกัน.. แหงล่ะ..เพราะเขาคือเดือนคณะนิติศาสตร์ทั้งคู่เลยน่ะสิ
“ไปทานข้าวกับผมนะ?”
“ไม่ไป”
“โหยย! ทำไมตัดพ้อกันแบบนี้ล่ะ?”
“ทำไมฉันต้องไปกินข้าวกับผู้ชายสองต่อสองด้วย น่าขนลุกชะมัด”
“แค่ทานข้าวเอง พี่ไม่เบื่อเหรอทานข้าวคนเดียวทุกวันทุกวันน่ะ”
“อยู่กับนาย น่าเบื่อกว่านั้นอีก..” ฮันคยองหันไปพึมพำเบาๆ แต่อีกฝ่ายยิ้มซะแก้มบุ๋มกับท่าทางของเขา
“ไปกันเถอะน่า พี่ไม่อายเหรอ? คนมองเราเป็นตาเดียวแล้วนะ”
“อะไร.. ฉันบอกว่าไม่ไปก็คือไม่ไปสิ นายมาวุ่นวายอะไรกับฉันนักหนา ผู้ชายเคะๆในมหาลัยที่ชอบนายออกจะเยอะแยะ ไปชวนพวกเขาสิ”
“แต่ผมอยากทานกับพี่นี่ครับ” ร่างสูงยังคงยิ้มหน้าด้านๆอยู่อย่างนั้น
“ถามฉันบ้างมั้ย? ว่าฉันอยากไปกับนายรึเปล่า??” ฮันคยองชี้หน้าตัวเองด้วยความคับแค้นใจทำเอาร่างสูงหลุดหัวเราะท่าทางเปิ่นๆของเขาออกมา
“หัวเราะอะไร?”
“อ๋อ..เปล่าครับ”
“ฉันไม่ใช่เคะ” ฮันคยองทำสีหน้าไม่พอใจ กี่ครั้งแล้วที่ถูกไอ้หล่อนี่ตามตอแยด้วยคำพูดชวนใจเสีย เพราะเขาออกจะมั่นใจในความแมนของตัวเองซะขนาดนี้
“พี่น่ะเคะ”
“ไม่เคะ!”
“พี่จะบอกว่าตัวเองเมะเหรอครับ?”
“เออ!!”
“ตรงไหนที่บอกว่าเมะ?”
“ตรงนี้แหละ”
“งั้นแสดงให้ผมดูหน่อยได้มั้ย..? ความเมะของพี่น่ะ ^^” ซีวอนอมยิ้ม จ้องหน้าฮันคยองจนเขาต้องผงะออกเดี๋ยวนั้น
..
..
“แหวะ.. ไม่เห็นจะหล่อตรงไหน ดูสิ...ไอ้แป๊ะนั่นพูดก็เหน่อ ตุ๊ดแตกซะขนาดนั้น..ไอ้ม้ามันน่าจะหาได้ดีกว่านี้นะ” ฮีชอลบ่นอุบอิบขณะที่ยืนดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ
“ดูท่านายจะจงเกลียดจงชังเขาจังเลยนะ”
“อะไร! ฉันแค่พูดให้ฟัง นายจะคล้อยตามคำพูดฉันบ้างก็ได้นะ!”
“เรื่องอะไรฉันต้องทำแบบนั้นด้วย”
“เกทึก!” เสียงตะโกนเรียกฉายาที่ตนเองตั้งให้ดังลั่นทำให้ผู้คนที่สนใจเดือนคณะนิติศาสตร์อยู่ต้องหันมามองใบหน้าสวยที่กำลังจะแยกเขี้ยวงับคอคนที่ยืนอยู่ข้างๆ (หมายเหตุ* เก หรือ แก ภาษาเกาหลีแปลว่าหมาครับ)
ฮันคยองพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปหาคิมฮีชอลที่กำลังรัดคอปาร์คจองซูอย่างเอาเป็นเอาตาย ซีวอนเห็นอย่างนั้นก็ได้แค่เดินตามไปอย่างงงๆ
“นี่คุณ.. คิมฮีชอลใช่มั้ย?”
ใบหน้าสวยหันไปมองต้นเสียงนั่นแล้วแอบผงะเล็กน้อย.. หรือไอ้แป๊ะนี่จะได้ยินที่เขานินทาเมื่อกี้
“อะไร?” ฮีชอลถามน้ำเสียงไร้ซึ่งความเป็นมิตรที่สุด
“ผมชื่อฮันคยองเรียนนิติศาสตร์ปีสาม.. ผมชอบคุณ.. คบกับผมนะ” ฮันคยองผุดยิ้มละลายใจ
-------------------------------------------------------------------
ตอนแรกผ่านไปแล้ว.. ถ้ากระแสตอบรับดีผมจะมาลงต่อนะครับ
ปล.เมนท์บ้างอะไรบ้าง~~
ความคิดเห็น