ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love of Paradise... ไอ้คุณชายกับยัยคุณหนู [CinTeuk&WonHyuk]

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 : Starting Point ! (จุดเริ่มต้น)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.61K
      2
      7 ธ.ค. 52

    Love of  Paradise

     

    Couple ::: CinTeuk X WonHyuk

     

     

    ………………………………………

     

    Chapter 1

     

    Starting Point ! :  ุดเริ่มต้น

     

     

    ก๊อกๆๆ 

    สียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสองสามที  แต่ทว่าไม่มี  เสียงตอบรับจากภายในห้อง 

     

    คุณหนูคะ  แม่บ้านเคาะประตูอีกครั้ง  แต่ก็ไร้เสียงตอบรับเช่นเคย 

     

    เธอค่อยๆเปิดประตูห้องเข้าไป  ปรากฏว่าเจ้าของห้องที่น่าจะอยู่ในห้องกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย   พวกเธอหันหน้ามองกัน  อย่างไร้หนทางออก  คุณหนูตระกูลปาร์คหายไปไหนเนี่ย ??

     

     

     

     

    ูชอน  นายขับเร็วๆหน่อยได้มั๊ย  ช้าอย่างเนี่ย  ฉันเห็นเต่ามันวิ่งไล่งับล้อรถเราอยู่นะ”  ปาร์คจองซู หรือ อีทึก คุณหนูตระกูลปาร์ค  บ่นน้องชายตัวดีของตัวเองแว้ดๆๆ   โทษฐานที่ขับรถช้า  อุตส่าห์จะหนีคุณพ่อ ออกมาสักหน่อย  น้องชายดันขับรถแค่  50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

     

    RR rr RRRrrrrr

     

    “เฮ้ย  คุณพ่อโทรฯมา  เอาแล้วไงแกเอ๋ย  ยูชอน!!!!”  อีทึกคว้าหูน้องชายตัวเองแล้วบิดไปมา  จนยูชอนทรงตัวไม่อยู่ ต้องรีบจอดรถข้างทาง

     

    “พี่อีทึก  ผมเจ็บนะ”  ยูชอนจับหูตัวเองนวดไปมาเบาๆ

     

    “ถ้างานนี้คุณพ่อจับได้นะ  ฉันจะโทษนายคนเดียว  คนเดียวเลยจำไว้” อีทึกหันไปคาดโทษ 

     

    “ได้ไง  พี่จะมาโทษผมคนเดียวไม่ได้นะ  พี่นั่นแหละ  พี่ก็ผิด  ผิดมากกว่าผมด้วย” 

     

    ยูชอนตอบกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้  แต่พอเจออีทึกยกกำปั้นขึ้น  หน้ายูชอนก็เหลือแค่สองนิ้ว

     

    “โอเค  โอเคผมผิด  ผิดตลอดพี่ถูกเสมอ  พอใจยัง” ยูชอนประชดประชันเต็มที่

     

    “เออ  รู้ตัวก็ดีแล้ว”  อีทึกหันไปมองน้องชายตัวดีที่แอบพึมพำด่าเค้าอยู่   “แกด่าฉันอยู่ใช่มั๊ย”

     

    “อุ้ยพี่ครับ  เป็นสาวเป็นนางพูดจาไม่เรียบร้อยเลยนะครับ”  ยูชอนแกล้งล้อเล่นพี่สาว(??)ตัวเอง

     

    “อยากเป็นผีเฝ้ารถใช่มั๊ย” 

     

    “ป่าวครับ”  ท่าทางยียวนของยูชอนทำเอาอีทึกอดใจไว้ไม่ไหว

     

    ป้าบ!!

    ฝ่ามือบางวาดวงสวยเข้าเต็มแผ่นหลัง  ทำเอาคนถูกตีแอ่นหลังอย่างอัตโนมัติ

     

    “ออกรถสักที”  อีทึกหันไปสั่งก่อนจะนั่งกอดอกมองนิ่งตรงไปด้านหน้า  

     

     

    “พี่อีทึก”  ยูชอนหันหน้ามาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

     

    “อะไร”  อีทึกขมวดคิ้ว

     

    “น้ำมันหมด”  ยูชอนแทบจะนั่งร้องไห้  นึกภาพไม่ออกว่าพี่ชายตัวเองจะทำหน้ายังไง

     

    “เวรแล้วไง  ยูชอน  เมื่อวานเพิ่งไปเติมมาไม่ใช่หรอ  อย่าบอกนะว่าเอาไปขับรถเล่นอีกน่ะ” อีทึกกระวนกระวาย พร้อมใส่มาดนายร้ายเต็มที่

     

    “ถูกแผงเลยพี่” 

     

    “กลับไปนายตายแน่”  อีทึกหันไปคาดโทษก่อนจะหยิบดทรศัพท์เครื่องหรูโทรฯหาใครสักคน

     

     

     

    “คุณพ่อ  จองซูกลับบ้านไม่ได้  รถจองซูก็น้ำมันหมดด้วย  คุณพ่อฮะ”  น้ำเสียงออดอ้อนต่างจากเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิง 

     

    ยูชอนขมุบขมิบปาก  จนต้องถูกมือบางฟาดเข้าที่หลังอีกรอบ

     

    “คุณพ่อ  จองซูก็แค่อยากมานั่งรถเที่ยวเฉยๆ  คุณพ่อให้คนออกมารับจองซูพน่อยได้มั๊ย”  อีทึกพยายามทำน้ำเสียงให้น่าสงสารที่สุด  ก่อนจะได้ยินคำตอบตกลง ทั้งคู่แท็กมือกันเบาๆ  ก่อนจะหันไปยิ้มเย็นๆให้ยูชอน 

     

    “คืนนี้นอนไม่หลับแน่  ไอ้น้อง” 

     

    …………………

     

    “คุณพ่อฮะ  จองซูก็แค่  อยากไปนั่งรถอย่างที่บอกคุณพ่อไป”  อีทึกพยายามบีบน้ำตาให้ดูน่าสงสาร

     

     

    “จองซูขอโทษ  ที่ไม่ได้ขออนุญาติคุณพ่อก่อน”

     

    -ตีน่าเศร้า เล่าเรื่องตอแหล-  ก็มีให้ดูวันนี้แหละ

     

    “แน่ใจนะจองซู  ไม่ได้หนีคุณพ่อไปเพราะไม่อยากไปรีสอร์ทกับคุณพ่อน่ะ”  อีทึกสะอึก  เมื่อเห็นว่าคุณพ่อจะรู้ความจริง ก็รีบปรี่เข้าไปเกาะแขนผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน 

     

    “ใครจะไม่อยากไปกับคุณพ่อหล่ะ  จองซูอยากไปกับคุณพ่อจะตาย  น่าสนุกออกมีเพื่อนคุณพ่ออีกตั้งสามคน”  อีทึกรีบกอดเอาใจ  ก่อนจะแอบเบ้ปากเล็กๆ แล้วเปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มโดยไม่ให้สังเกตเห็น

     

    “รางวัลตุ๊กตาทองต้องเป็นของยัยนี่อย่างแน่นอน” ยูชอนพึมพำ  แต่ก็ถูกสายตาของอีทึกส่งมาให้ จนต้องรีบปิดปาก 

     

     

    “พ่อฮะ  ผมไปบนห้องก่อนดีกว่า”  ยูชอนเดินไปหาอีทึกก่อนจะตบบ่าเบาๆ “ยินดีด้วยนะพี่”

     

    อีทึกส่งสายตาอาฆาตไปให้ 

     

    “ยูชอนต้องอิจฉาจองซูแน่เลยคุณพ่อ” รอยยิ้มราวกับนางฟ้าส่งไปให้ผู้เป็นพ่อ 

     

    “ขึ้นไปเก็บกระเป๋าเถอะลูกเราต้องรีบไป”  คุณปาร์คบอกก่อนจะเดินขึ้นไป

     

     

    ……..

     

     

      ห้องโถงขนาดใหญ่ที่ถูกจัดแต่งด้วยของราคายิ่งทำให้ดูสง่า  เมื่อผู้บริหารระดับสูง  ทั้ง 4 คนของเกาหลี  ได้มานั่งอยู่ด้วยกัน  แถมพ่วงมาพร้อมกับลูกชาย  ที่หวังจะให้สานงานนี้ต่อ 

     

    มีทั้งตระกูลชเว คิม อีและปาร์ค  ผู้บริหารระดับสูง  ทั้งธรุกิจพันล้าน   มหาศาลอย่าบอกใคร!

     

    “นี่ครับลูกชายผม ปาร์คจองซู”  คุณปาร์ครีบแนะนำลุกชายตัวเองก่อนให้ใครเพื่อน

     

    อีทึกลุกขึ้นยืน  แล้วส่งหวานอย่างคนสุภาพ  “สวัสดีครับ  ผมปาร์คจองซูครับ”   อีทึกยืนมือไปจับทั้งคุณอี คุณคิม และคุณชเว  รอยยิ้มนางฟ้า ที่ทำให้บางคนต้องมองแล้วมองอีก

     

    “อย่านี้ไม่น่าใช่ลูกชายมั้งครับ  ยิ่งโตยิ่งสวย”  คุณอีเอ่ยแซวเล่น  เรียกเสียงหวัเราะได้ไม่น้อย  ทำเอาคนถูกชมเขินหน้าแดงไปถึงไหนต่อไหน 

     

    “จริงรึป่าวหล่ะลูก”  คุณปาร์คเอ่ยแซวลูกชายตัวเองบ้าง  ทำเอาอีทึกต้องซบลงกับอกผู้เป็นพ่อ

     

    “คุณพ่ออ้ะ  อย่าแกล้งจองซูสิ” คุณปาร์คหัวเราะขำๆ  ก่อนจะลูบผมลูกชายตัวเองเบาๆ 

     

     

     

    “ฮยอกแจ”  คุณอีเรียกชายตัวเองที่กำลังนั่งจ้องตากับลูกชายของคุณชเว

     

    “ครับ”  ฮยอกแจยืนขึ้น  “ผมอีฮยอกแจครับ”  ฮยอกแจลุกขึ้นยืนโค้งอย่างสุภาพให้ผู้หใญ่พร้อมยิ้มอย่างเคยตัว

     

    “ลูกชายคุณก็ไม่ต่างกันนะครับ  ยิ่งโตยิ่งสวย”  คุณปาร์คแซวกลับบ้าง  ทำเอาฮยอกแจก็เขินบ้างหล่ะ 

     

    อีทึกจ้องฮยอกแจไม่วางตา     -ใครกันนะ –

     

     

    “ผมคิมฮีชอลครับ”  ลูกชายคระกูลคิมลุกขึ้น  พร้อมโค้งอย่างสุภาพ ก่อนจะมองไปที่อีทึกแล้วเบ้หน้าทีหนนึ่ง

     

    อีทึกได้แต่มองอย่างเคืองๆกลับไป  โดยที่ร่างสูงไม่ทันมอง

     

    “โตขึ้นมากเลยนะ  ฮีชอล  อังกฤษเป็นไงบ้างหล่ะ” คุณลีเอ่ยถาม  พร้อมขึ้นลุกตบบ่า ร่างสูงเบาๆ

     

    “ก็ดีครับ คุณอา  วันหลังผมจะพาคุณอาไปอังกฤษบ้างหล่ะ” ฮีชอลตอบ 

     

    “ก็ดี” คุณอีหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงพร้อมฮีชอล 

     

    อีทึกเบ้หน้า  - แหวะ อังกฤษสู้ฝรั่งเศสไม่ได้หรอกหน่า -

     

     

     

     

    “สวัสดีครับ  ผมชเวซีวอน”  ซีวอนเลิกหันไปต่อสู้ทางสายตากับฮยอกแจแล้วลุกขึ้นแนะนำตัว

     

    “โตขึ้นมากเลยนะเนี่ย” คุณคิมเอ่ยขึ้นบ้างหลังจากที่นั่งเงียบมานาน 

     

    “ฮีชอลก็เหมือนกัน  โตเป็นหนุ่มกันหมดแล้ว  พวกพ่อแก่ๆก็ต้องถอยกันไป” คุณชเวพูดก่อนจะมีท่าทีขำๆกับคำพูดตัวเอง

     

     

     

    “คุณพ่อไม่แก่ใช่มั๊ยครับ  ถ้าคุณพ่อแก่ จองซูจะเสียใจ” อีทึกซบหน้าลงที่อกผู้เป็นพ่อ

     

    “แก่สิครับ จองซู”  ผู้เป็นพ่อลูบผมนิ่มช้าๆ 

     

     

    “คุณป๊าฮะ  คุณป๊าต้องไม่แก่  คุณป๊าต้องไม่จากหนูไปใช่มั๊ย” ฮยอกแจหน้ายู่ลงทันที  เมื่อได้ยินคุณชเวเปิดประเด็น

     

    “ฮยอกแจ  ใครบ้างไม่แก่  เฉพาะหนูต้องไม่ดื้อนะ”  คุณลีเช็ดน้ำตาออกช้าๆ 

     

     

    “ลูกนายสองคน  ขี้อ้อนจังนะ” คุณคิมเอ่ยแซว ก่อนจะหันไปมองหน้าคุณชเว  แล้วยิ้มบางๆให้กัน 

     

    “ผมว่าพวกเราคงต้องคุยกันแล้วหล่ะ  ให้พวกเด็กๆกลับขึ้นห้องไปก่อน”  คุณชเวว่า 

     

    “หนูขึ้นไปก่อนนะ แล้วคุณป๊าจะตามขึ้นไป” คุณอีลูบผมลุกชายเบาๆ 

     

     

    ทั้ง4 คน ค่อยๆออกมาจากห้อง  ต่างคนก็ต่างไปคนละทาง

    อีทึกเดินไปที่ลิฟต์ที่ใกล้ที่สุด

     

    “เดี๋ยวสิ  จองซู”  เสียงหนึ่งเรียกให้อีทึกหันไปมอง  “นายจะขึ้นห้องหรอ”

     

    อีทึกพยักหน้า  “แล้วนายหล่ะ”

     

    “ฉันก็อยากขึ้นห้อง  แต่ว่า  ฉันไม่ได้มาที่นี่นาน ก็จำทางไม่ค่อยได้  คุณป๊าก็ไม่ได้บอกทางไว้ด้วย” ฮยอกแจมองหน้าอีทึก

     

    “ฉันก็จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน  แต่ก็เดินๆไปดูเผื่อจะเจอ” อีทึกบอก  “เข้ามาเร็ว” 

    ทึกรีบดึงมือฮยอกแจเข้ามาในลิฟต์ก่อนลิฟต์จะปิด

     

    “จองซู  นายไม่กลัวหลงหรอไง” ฮยอกแจคนที่ยืนข้างๆ  ที่มองลิฟต์อย่างใจจดใจจ่อ

     

    อีทึกส่ายหน้าอีกครั้ง  “นี่ฮยอกแจ  เรียกฉันอีทึกดีกว่า”

     

    “อีทึกหรอ”  ฮยอกแจทวนคำ

     

    อีทึกยิ้มก่อนจะพยักหน้ารัวๆ 

     

    “เรามาเป็นเพื่อนกันนะ”  ฮยอกแจบอกพร้อมกับยื่นมือไปจับ  อีทึกก็เช่นกันยื่นมือมาจับ 

     

    มิตรภาพเล็กๆที่เริ่มก่อตัวขึ้น  ที่ค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างอย่างน่าอัศจรรย์  สิ่งที่สวยงามไม่แพ้ความรักก้คือมิตรภาพดีๆที่เราได้จากเพื่อนนั่นเอง…

     

     

     

    “อีทึก  ห้องนี้ๆ”  ฮยอกแจดึงมืออีทึกเข้าไปในทางเล็กเล้กๆที่แบ่งออกเป็นห้องๆ  ฝั่งละสองห้อง

     

    “อ๊า  ใช่แล้วๆ”  อีทึกมองแผนที่ในมือ  “นายอยู่ห้องข้างๆฉันหนิ” 

     

    อีทึกบอกพร้อมควานหากุญแจ  ในกระเป๋ากางเกง  “อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันหน้าห้องนะ”   อีทึกมองนาฬิกาในมือ แล้วเดินเข้าห้องไป

     

    แค่เพียงไม่ถึง ห้านาทีแต่เค้ารู้สึกดี  รุ้สึกถูกชะตายังไงไม่รู้ 

     

    ………………..

     

    “ฮีชอลจะไปไหน” ซีวอนเรียกร่างสูงที่เดินนำออกไป

     

    “ไปขับรถเล่นซักหน่อย”  ฮีชอลพร้อมควงกุญแจรถในมือเล่น  “จะไปด้วยกันมั๊ย”

     

    “ก้ดี  ฉันจะไปทำความคุ้นเคยซะหน่อย”  ซีวอนตอบพร้อมเอามือลูบท้อง 

     

    เค้าสองคนพอจะรู้จักกันมาบ้างแล้ว  ตอนที่นั่งรออยู่หน้าห้อง  รู้สึกว่าพวกเค้าสองคนชอบอะไรที่เหมือนๆกัน

     

    “อีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันที่ห้องอาหารนะ”  ซีวอนบอกพร้อมขึ้นรถตัวเองไป

     

     

     

     

    หนึ่งชั่วโมงผ่านไป      

     

    อีทึกกับฮยอกแจก็มาเจอกันตามที่นัดไว้

     

    “ฮยอกแจ  ฉันหิวจัง”  อีทึกพูดน้ำเสียงอ้อนๆ

     

    “งั้นเราลงไปหาอะไรกินกันเถอะ” ฮยอกแจจูงมืออีทึกลงไป

     

     

     

    “เราหลงทางกันซะแล้วหล่ะ  ฮยอกแจ” อีทึกพูดพร้อมทำหน้าจะร้องไห้

     

    “ยังหน่า  อีทึก”  ฮยอกแจดึงมืออีทึกเดินไปอีกทาง  “นี่ไงเจอ” 

     

    ฮยอกแจร้องออกมาพร้อมรีบดึงมืออีทึกเข้าไป 

     

     

    …………

     

     

    “เฮ้ย  ฮีชอล  จะนั่งตรงไหน ริมนู่นมั๊ย  มันติดทะเลเห็นภูเขาด้วยนะเว้ย”  ซีวอนเสนอ 

     

    “ตามใจ  จะนั่งไหนก็นั่งเถอะ  ฉันหิวแล้ว  ฮีชอลบ่นพร้อมมองหาโต๊ะที่ซีวอน

     

    แต่ซีวอนก็เดินนำไปแล้ว 

     

     

    พอแค่ฮีชอลเข้าไปนั่งเท่านั้นแหละ  ก็ได้ยินเสียงปริศนาดังมาจากข้างหลัง

     

    “เฮ้ย  นายอ่ะ  ลุกจากโต๊ะฉันเดี๋ยวนี้นะ”  อีทึกเดินมาเอามือตีโต๊ะดังลั่น  จ้องหน้าร่างสูงราวกับว่าอาฆาตแต้นมาแต่ชาติปางก่อน

     

    ฮีชอลเงยหน้ามอง  “จำเป็น”  คำถามกวนๆของร่างสูง  ทำเอาอีทึกยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปอีก

     

    “จำเป็นสิ  จำเป็นมากด้วย  ลุกเดี๋ยวนี้นะนาย…”  อีทึกชะงักไปก่อนจะหันไปหาฮยอกแจ  “เค้าชื่อะไรนะ”

    จำได้ว่าเป็นคนที่ส่งสายตาก่อกวนมาให้เมื่อเช้า  แต่ก็จำชื่อไม่ได้สักที

     

    “ฮีชอล…เค้าชื่อคิมฮีชอล” ฮยอกแจกระซิบบอก 

     

    “เอ่อ…นายฮีชอล” อีทึกรีบปรับสีหน้า  ไม่ให้เสียฟอร์ม  “ลุกออกไปจากโต๊ะฉันเดี๋ยวนี้!”  อีทึกรีบเปลี่ยนเสียงเป็นเหมือนเดิม

     

    ฮีชอลยังคงนั่งนิ่ง ก่อนจะเงยหน้ามองอีกครั้ง  “เดี๋ยวนี้” 

     

    ท่าทีกวนๆของร่างสูงทำเอาอีทึกแทบจะดิ้นเป็นเจ้าเข้า 

     

    “ใช่! เดี๋ยวนี้เลย  ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนะ  อีตาบ้า”  อีทึกพยายามจะดึงฮีชอลที่นั่งอยู่ที่โต๊ะขึ้นมา  แต่ว่า ฮีชอลย่อมแข็งแรงกว่าอยู่แล้ว  คนตัวเล็กเลยหล่นไปอยู่อ้อมกอดร่างสูง

     

    ฮยอกแจรีบเอามือปิดตาทันที  ส่วนซีวอนที่เพิ่งเดินมาก็ถึงกับช็อคเหมือนกัน 

     

    ซีวอนที่เห็นฮยอกแจอยู่ใกล้ๆก็รีบดึงมือเล้กให้เดินตามมาทันที

     

     

     

    “โอ๊ย  นายเป็นใครเนี่ย  ฉันเจ็บนะ”  ฮยอกแจสะบัดมือซีวอนออก  ทันทีที่ออกมาจนถึงสวนที่ล็อบบี้

     

    “มันเกิดอะไรขึ้น”ซีวอนปล่อยก่อนจะเอ่ยถาม  ส่วนฮยอกแจตั้งท่าจะเดินหนีแต่ก็ถูกซีวอนดึงกลับมา

     

    “อย่างที่เห็น  มีหัวไว้ตั้งบนคอหรอไง  แค่นี้ก็คิดเองสิ” ฮยอกแจตอกกลับอยากจะเดินหนี แต่ว่าซีวอนกับจับข้อมือเค้าไว้ซะแน่น

     

    “นายคือ  อีฮยอกแจ  ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของอีกรุ๊ปใช่มั๊ย”  ซีวอนถาม

     

    “ใช่  รู้แล้วก็ปล่อยเซ่”  ฮยอกแจสะบัดมือซีวอนออกแล้วจะเดินหนีไป

     

    แต่ซีวอนก็คว้าเข้ามาอีกครั้ง  ก่อนจะก้มลงหอมแก้มนิ่มอย่างถือวิสาสะเบาๆ  “หอมจัง”

     

    “ไอ้คนฉวยโอกาส”  ฮยอกแจสะบัดมือออกแล้วรีบวิ่งหนีหายไป

     

    “คนหรือลิงวะ”  ซีวอนได้แต่มองตาม  แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องอาหารเหมือนเดิม

     

    ………………………….

     

    “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะเว้ย”  อีทึกพยายามดันตัวเองขึ้น  จากอ้อมกอดคนตัวสูง

     

    ฮีชอลก้มลงมอง ก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปาก ตามสไตล์ตัวเอง  แต่ก็ยังกอดคนตัวเล็กไม่ยอมปล่อย

     

    “หูตึงหรือไงห๊ะ  อีตาบ้านี่ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ  ไม่งั้นฉันจะฟ้องคุณพ่อ”  คนตัวเล็กในอ้อมกอดเริ่มแผลงฤทธิ์โดยการดิ้นพลาน  ดิ้นไปดิ้นมาไม่หยุด  แถมร้องให้คนช่วยอีกจน  ฮีชอลต้องรีบเอามือปิดปาด เพราะคนก็เริ่มหันมามอง

     

    “ฤทธิ์เยอะจริงนะแม่คุณ  ทีอยู่กับพ่อหล่ะ  คุณพ่อคะ คุณพ่อขา  จองซูอย่างโน้น จองซูอย่างนี้” ฮีชอลทำเสียงล้อเลียน

     

    “นายทำกะแดะกว่าฉันอีกนะ”  อีทึกมองท่าทานสะดีดสะดิ้งของฮีชอล

     

    “ก็เลียนแบบนายมาไง” 

     

    “นายว่าฉันกะแดะหรอ” 

     

    “ฉันเคยพูดคำนั้นหรือไง” 

     

    “นายนี่มัน…”  อีทึกชี้หน้าฮีชอลอย่างเครียดแค้น 

     

    ฮีชอลจับมืออีทึกไว้  “ฉันนี่มัน…หล่อจริงๆ”  ว่าแล้วฮีชอลก้ปล่อยอีทึกเป็นอิสระ  

     

    พอคนตัวเล็กหลุดออกมาได้ ก็เริ่มแผลงฤทธิ์ต่อ  

     

    “ถุ้ย  ไอ้คนหลงตัวเอง  หล่อตายหล่ะ  หน้าอย่างกะปลาบู่ตกเขา” 

     

    “นี่  ไอ้เตี้ยพูดให้มันดีๆหน่อยนะ  นายว่าใครเหมือนปลาบู่ตกเขาห๊ะ”  ฮีชอลลุกยืนขึ้นมาต่อล้อต่อเถียงกับอีทึก

     

    “นายไง ไอ้โง่  นายว่าใครเตี้ยห๊ะ”  อีทึกเริ่มของขึ้นอีกรอบ

     

    “ไม่รู้ตัวหรอไง” ฮีชอลใช้นิ้วชี้ดันหน้าผากอีทึกออก  “นายน่ะโง่กว่าฉันอีก”  

     

    “นายโง่กว่า” 

     

    “นายต่างหากหล่ะ  ว่าแล้วยังไม่รู้ตัว”

     

    “นายรู้ตัวตายหล่ะ  ฉันด่านายทีคิดเป็นสิบนาที”  

     

    “ฉันยังหัวไวกว่าคนแถวนี้หล่ะนะ  ชื่อฉันนายยังหันไปถามฮยอกแจเลย”

     

    “ชื่อนายมันไม่จำเป็นที่จะต้องจำ  รกสมอง!!”

     

    “นายมีกับเค้าด้วยเนี่ย”  ฮีชอลยิ้มเหยียดมองร่างเล็ก

     

    “ไอ้…”

     

     

    “เฮ้ยหยุด  พวกนายสองคนหน่ะ”  อีทึกกำลังจะเปิดปากด่าแต่ก็ได้ยินเสียงห้ามมาแทรก  ซีวอนนั่นเอง  “ทะเลาะอะไรกันวะ  เสียงดังไปถึงหน้าประตูเลย”

     

    “ก็ยัยนี่…”

     

    “หยุด! ถ้านายด่าฉันอีกคำเดียวนะ  ฉันจะกระโดดกัดหูนาย” อีทึกขู่

     

    “เหอะ  กลัวตายหล่ะ”

     

    “อยากจะลองมั๊ยหล่ะ”

     

    “เฮ้ย!  หยุด!  เลิกทะเลาะกันเหมือนเด็กๆได้แล้ว”  ซีวอนต้องรีบห้ามทัพอย่างเร่งด่วน  “นี่  นายน่ะ  เป็นคุณหนูไม่ใช่หรอก  เห็นตอนอยุ่กับพ่อนะ  เรียบร้อยซะไม่มี แล้วทำไมลอกคราบไวอย่างนี้หล่ะ”

     

    “ก็ยัยนี่  มันลิงหลอกเจ้าชัดๆ” ฮีชอลแลบลิ้นใส่  อีทึกยกมือจะตีร่างสูง  “อย่านะถ้าตีฉัน  ฉันเตะนะเว้ย” 

     

    “นายกล้าหรอไง” 

     

    “ทำไมฉันจะไม่กล้า”  ฮีชอลตั้งท่าจะเตะอีทึก  อีทึกก็หลับตาปี๋ 

     

    “เฮ้ยๆ  ไอ้ฮีชอล  แกนี่โครตใจร้าย แกจะเตะยัยคุณหนูนี่จริงหรอวะ”  ซีวอนรีบดึงฮีชอลไว้

     

     

     

    “เด็กๆ”  เสียงหนึ่งทำทั้งสามคนหันไปมอง 

     

    ทั้งคุณปาร์ค  คุณอี  คุณคิม และคุณชเวก็เดินเข้ามา  แถมข้างๆคุณอีก็มีฮยอกแจเดินอยู่ข้างๆ

     

    “ฮยอกแจ!”  อีทึกรีบเดินเข้าไปหาฮยอกแจทันที  ก่อนจะนึกออกว่า  ต้องรีบฟ้องคุณพ่อเรื่องที่ฮีชอลเข้ามาหาเรื่องซะแล้ว

     

    “คุณพ่อฮะ  จองซูถูก ไอ้…เอ่อ  ฮีชอลแกล้ง  ฮีชอลจะเตะจองซูด้วย  คุณพ่อช่วยจองซู  จองซูกลัว” อีทึกรีบเข้าไปออดอ้อนคุณปาร์คทันที 

     

    “จริงหรอ  ฮีชอล” คุณคิมถามลูกชายตัวดีที่ยืนหน้าเสียไปแล้ว

     

    “ก็ยัยคุณหนูนี่…”    

     

    “ไม่จริง  นายนี่…เอ่อ ฮีชอลใส่ร้ายจองซูนะคุณพ่อ”  อีทึกรีบแทรกทันที

     

    “ฮีชอล วันนี้พ่อว่าเราคงต้องมีเรื่องคุยกันแล้วหล่ะ”  คุณคิมว่าเสียงเข้ม  ฮีชอลหันไปค้อนอีทึก ก่อนจะเดินออกไปสงบสติอารมณ์ข้างนอก

     

     

     

     

    “เอาหล่ะ  วันนี้พวกเราก็รู้ใช่มั๊ย  ที่ให้มากันวันนี้ เพราะเรื่องรีสอร์ทที่ต้องการให้พวกเราน่ะบริหารต่อจากพวกอา” คุณคิมพูด  พร้อมจ้องลูกชายตัวเองที่เอาแต่ก้มหน้านิ่งไม่วางตา

     

    “ครับพ่อ”  ฮีชอลตอบเสยงอ้อมแอ้มก่อนจะเงยหน้าส่งวงค้อนไปให้อีทึกทีหนึ่ง

     

    อีทึกเมื่อพบกับสายตาค้อนๆของร่างสูงที่ส่งมาให้ก็แลบลิ้นกลับไปทีหนึ่ง

     

     

    ส่วนอีกด้านก็มีฮยอกแจที่นั่ง  อยู่เงียบๆ  ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาใคร  ทำตัวหดแทบจะเอาไปอยู่ใต้โต๊ะแล้ว  เพราะซีวอนเอาแต่จ้อง  จ้องแล้วจ้องอีก จนฮยอกแจไม่กล้าแม้แต่จะหันขึ้นไปสบตา 

     

    “เขินฉันหรอไง”  ซีวอนอย่างไม่มีเสียง

     

    “ใครเขินนายกัน”  อยอกแจก็ตอบกับไป

     

    “ไม่จริงหล่ะ  เห็นอยู่” 

     

    “อะแฮ่ม”  เสียงคุณชเวขัด  เมื่อลูกชายตัวดีเอาแต่นั่งคุยกับฮยอกแจ

     

     

    “ที่พวกอาเรียก  พวกเรามาก็เพราะว่า  อยากจะให้พวกเรามาศึกษางานที่นี้โดยห้ามออกไปไหน  เป็นเวลา 3 เดือน” เสียงพูดจบของคุณอี  ทำเอาทั้งสี่คนหันไปมองเป็นตาเดียว

     

    “คุณอา พะ…พูดอะไรผิดรึป่าวครับ”  ฮยอกแจถามเสียงสั่นก่อนจะหันมองหน้าคุณป๊า

     

    “ไม่ผิดหรอกหนูฮยอกแจ  ที่หนุได้ยินน่ะถูกแล้ว  แล้วห้องที่พวกเราอยูน่ะ คือห้องที่ต้องอยุ่ตลอดสามเดือนนี้  แล้วส่วนความสะดวก  ที่นี่เค้ามีจัดการให้อยู่แล้วนะ  ไม่ต้องห่วง”  คุณชเวบอก  ก่อนจะมองหน้าอีทึกที่เป็นกังวลมากที่สุด

     

    “และแน่นอนว่า  การที่พวกเราจะมาอยู่ด้วยกันตลอด 3 เดือนนั้นจะไม่ได้อยู่สบายเหมือนที่เราอยู่บ้าน  ตลอดเวลาจะมีการทดสอบพวกเราด้วยนะ  อย่าลืมเตรียมตัวกันให้พร้อมหล่ะ  จะมีคนดูแลในส่วนนี้ด้วย” คุณปาร์คพูดจบพร้อมลูกผมนิ่มลูกชายเบาๆ

     

     

     

     

     

    “งั้นคุณพ่อกลับก่อนนะลูก”  คุณปาร์คบอกอีทึกที่นั่งนิ่งไปชั่วขณะ

     

    “คุณพ่อ!  คุณพ่อจะทิ้งจองซูไม่ได้นะ  แล้วจองซูจะอยู่กับใคร”  อีทึกโผเข้ากอดคุณปาร์ค 

     

    “อยู่กับฮยอกแจไง  ฮีชอล  ซีวอนด้วยนะ” คุณปาร์คพูดปลอบเหมือนกำลังปลอบเด็กดื้อ

     

    “ไม่เอา คุณพ่อแล้วถ้าเกิด อะ…ฮีชอลเค้าแกล้งจองซูขึ้นมาอีกหล่ะ  ใครจะช่วยจองซูหล่ะคุณพ่อ” อีทึกกกำลังอ้อนคุณปาร์ค

     

    “ไม่มีใครแกล้งจองซูแล้วหล่ะ  หนูไม่ต้องกลัวนะ  จริงมั๊ยฮีชอล”  ประโยคสุดท้ายหันไปถามฮีชอลที่ยืนแทบจะติดกำแพงอยู่แล้ว

     

    “ครับ”  ฮีชอลรับคำก่อนจะแสร้งมองพื้น

     

    “ก็ได้ จองซูยอมก็ได้  แต่ว่า…  คุณพ่อ  คุณพ่อต้องมาหาจองซูบ้างนะ จองซูต้องเหงาแน่เลย”  อีทึกเข้ากอดคุณปาร์คอีกครั้ง

     

    “ครับ  คุณพ่อสัญญานะ” 

     

     

     

    “คุณป๊า  คุณป๊าไม่เห็นบอกหนูเลย” ฮยอกแจอมลมเข้าปากเหมือนเด็กๆ

     

    “นี่ไง  คุณป๊าบอกหนูแล้วนี่ไง”  คุณอีพูดติดตลก

     

    “ไม่เอาอ่า  คุณป๊า  หนูอยากอยู่กับคุณป๊านะ  หนูไม่อยากอยู่คนเดียวด้วย”  อยอกแจซุกหน้าลงกับอกคุณอีอย่างอ้อนๆ

     

    “หนูไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย  นี่ไง  ยังมีฮีชอล จองซูแล้วก็ซีวอนด้วยนะ”  คุณอีพยายามเกลี่ยกล่อมฮยอกแจ

     

    “หนูไม่อยากอยู่กับซีวอนนี่หน่า”  ฮยอกแจเผลอพูดเสียงดังออกมา  ทำให้เจ้าของชื่อหันขวับ

     

    “ทำไมถึงไม่อยากอยู่กับฉันหล่ะ  ฮยอกแจ”  ซีวอนแกล้งทำเป็นถามน้ำเสียงอ่อนโยน

     

    ฮยอกแจหันหน้าหนีไม่ยอมตอบคำถาม

     

    “ฉันสัญญาเลยนะ  ว่าฉันจะดูแลนาย  ดีมั๊ย”  ซีวอนถามแต่แอบซ่อนความเจ้าเล่ห์ไว้ไม่จบไม่สิ้น 

     

    ฮยอกแจมองทีเดียวก็รู้ว่าร่างสูงจะต้องหาเรื่องแกล้งเค้าอีกเป็นแน่ๆ  ปากกำลังจะบอกปฏิเสธ แต่ก็ถูกซีวอนแทรกขึ้นมา

     

    “คุณอาครับผมสัญญาจะดูแล  หนูฮยอกแจของคุณอาให้ดีที่สุดครับ”  ซีวอนทำท่าตะเบ๊ะ  จนคุณอียิ้มกว้าง  สีหน้าเริ่มสบายใจขึ้นมาหน่อย

     

    “แต่ว่า…” 

     

    “หนูอย่าขัดเลยนะ  ให้ซีวอนเค้าดูแลไปเถอะ”

     

    คุณอีพูดก่อนจะเดินไป  ทิ้งไว้ให้  คุณหนูตระกูลอี  ยิ้มช็อคกับคำพูดของป๊ะป๋าตัวเอง

     

    -ให้หนูไปตายดีกว่า  เหมือนฝากเนื้อ(ไก่)ไว้กับสิงโต(เจ้าเล่ห์)ชัดๆ-

     

     

     

     

    “ซีวอน  ดูแลนี่ที่ดีๆ  ดูแลหนูจองซู กับหนูฮยอกแจด้วยหล่ะ”  คุณชเวตบบ่าลุกชายเบาๆ“พ่อหวังว่าเรา  จะทำได้นะ” 

     

    “ครับ”  ซีวอนตอบรับสั้นๆก่อนจะยิ้มรับ  แล้วคุณชเวก็เดินขึ้นรถไป

     

     

     

    “พ่อเชื่อว่า  เราก็ทำได้นะ  ฮีชอล” คุณคิมตบบ่าให้กำลังใจฮีชอลยืนหงอยอยู่  “อย่าแกล้งหนูจองซูบ่อยนักหล่ะ  เราต้องดูแลเค้าด้วยหล่ะ  รู้มั๊ย” 

     

    “ครับ”  ฮีชอลยิ้มออก  ก่อนจะสวมกอดคุณคิมหลวมๆ  ก่อนที่คุณจะขึ้นรถไป 

     

    ตอนนี้บนรถมีทั้งคุณอี คุณชเว คุณคิม  ขาดก็แต่…

     

     

    “คุณพ่อ  คุณพ่อต้องมาหาจองซูบ่อยๆนะ”  อีทึกยังไม่ยอมคลายอ้อมกอดจากคุณปาร์ค

     

    “ครับ  รู้แล้ว จองซุก็อย่าดื้อนะ  รู้มั๊ย”  อีทึกจ้องคุณพ่อตาแป๋วก่อนจะพยักหน้า “เก่งมากเลย  ไว้คุณพ่อจะมาหาจองซูบ่อยๆนะ” 

     

    “คุณพ่อ สัญญาแล้วนะครับ” 

     

    “ครับ”  คุณปาร์คยิ้มก่อนจะแกะมือจองซูออกจากเอวอย่างแสนยากลำบาก  แล้วขึ้นรถไป

     

    อีทึกได้แต่น้ำตาคลอ  มองตามรถที่แล่นออกไป

     

     

     

    “ไอ้เด็กสามขวบเอ้ย!”  เสียงฮีชอลดังเข้ามาในโคตประสาท ทำให้อีทึกต้องรีบตวัดสายตาขึ้นไปมองทันที

     

    “หุบปากหมาๆนายไว้กินข้าวดีกว่า”  อีทึกสวนกลับทันที

     

    “นายทำกับฉันไว้เจ็บแสบมากนะ  ปาร์คจองซู  นายไม่รอดแน่!!”  ฮีชอลหันมาคาดโทษ

     

     

     

    …บทเริ่มต้น  ที่ไม่ค่อยสวยงาม  จะนำพาพวกเค้า  ไปพบกับบทสุดท้ายที่สวยงามได่หรือไม่…

    …แล้วการแก้แค้นของคิมฮีชอลจะเจ็บแสบแต่ไหน  แต่ทว่าปาร์คจองซูสักอย่าง  งานนี้ก็คงไม่มีใครยอมใคร…

    …เมื่อไก่ตัวน้อย ถูกตกไปอยู่ในอุ้งมือสิงโต จะมีอะไรบกพร่องหรือเปล่าน้า  ?…

     

    ………………………………..

     

    Story by ::: viOlin viOla


    J

    ได้ฤกษ์งามยามดีเปิดเรื่องใหม่สักที  ^^  ฝากไว้ด้วยนะคะ  
    อยากให้เม้นให้โหวต ให้อ่านกันเยอะๆ เหมือนเคยน้า รั

    กซินทึกก็อย่าลืมนะ  รักวอนฮยอกก็อย่าลืมเม้นด้วยหล่ะ!!  

     

    แต่ยังไง ก็รักรีดเดอร์เหมือนเดิม เด๊ะๆ




    ตอนนี้ยังไม่ขอเม้นนะคะ  แต่ก็ยังอยากให้เม้นอ่า

    T^T

     

    ^U^  รักรีดเดอร์ที่ซู้ดดดด  


    nu eng

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×