คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter:1st Please
Chapter:1st Please
“ขอร้องล่ะนะคุณ!!”เสียงหลอกหลอนของสิ่งมีชีวิตเร่ร่อนไร้ที่สิ่งสถิต และแสนจะไร้แก่นสาร ตามการวิเคราะห์น้ำเสียงและคำพูดแล้ว มีความเป็นไปได้สูงมากที่สิ่งมีชีวิตชนิดนี้จะเป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ และแน่นอนผมคาดเดาว่า มันคงเป็นอันตรายต่อผมที่สุด
“คุณ!! ช่วยแพทหน่อยนะ ที่รัก” เฮ้อ!! พวกคุณคงรู้แล้วใช่หรือไม่ครับที่ว่า สิ่งมีชีวิตที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น มีชื่อเรียกขานว่า แพท และ ‘คุณ’ ที่เธอเรียกนั้น ก็คือชื่อของผมเอง!!!
“ไม่มีทางแพท” สีหน้าของผมในขณะนี้มันคงดูจริงจังสิ้นดี แต่ดูเหมือนมันจะไม่ช่วยให้ผมรอดพ้นจากสิ่งมีชีวิตอันตรายนางนี้ได้เลย ให้ตายเหอะผมอยากเอาถั่วฝักยาวผูกคอตายใต้ต้นผักชีให้มันรู้แล้วรู้รอดไป(?)
“อะไรกัน! คุณทำอย่างนี้กับที่รักเหรอ ใจร้ายอ่ะ”แพทยังพูดพร่ามต่อไป ผมก็เดินสู้ฟัดต่อไปอย่างไม่ลดละ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเธอจะมาส่งสายตาเหมือนลูกสุนัขถูกทิ้ง หรือจะมากอดขาอ้อนวอนผมก็ตาม ไม่มีทางที่ผมจะช่วยเธอเด็ดขาด!!!
“แพทอ่านปาก เรานะ ไม่-มี-ทาง!” ผมหยุดเพื่อให้เธออ่านปากผมชัดๆ มองหน้าเธออย่างจริงจัง มาดเคร่งขรึม พยายามอย่างมากให้เธอเข้าใจในสิ่งที่ผมเอ่ยปากบอกเธอ เป็นรอบที่หนึ่งพันสามร้อยของวันนี้
“คุณใจร้าย!! ทำอย่างงี้กับที่รักเหรอ” แพทหยุดเดิน เอามือกอดอกแล้วทำปากเบ้เหมือนไม่พอใจ(ความจริงเธอก็ไม่พอใจอยู่แหละครับ)ใส่ผม ซึ่งปกติแล้ว ผมก็ไม่สนใจท่าทางแบบนี้ของเธออยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เอ่อ~!! เอาเป็นว่าผมไม่สนใจก็แล้วกัน
“คบกันมาสิบกว่าปี เพิ่งจะรู้หรือแพท ช้าไปหรือเปล่า”ผมแสยะยิ้มมุมปาก แล้วทำท่าจะออกเดินใหม่อีกรอบ แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมีแขนสองข้างของแพทมาฉุดแขนผมไว้
“สามีที่ดีเขาทำแบบนี้กับภรรยาสุดที่รักเหรอ?” เออ!! อย่าเพิ่งตกใจไปนะครับ ที่ว่า สามี และ ภรรยาน่ะ มั่นเป็นเหมือนตำแหน่งที่แพท(แน่นอนว่าไม่รวมผม)เป็นคนคิดขึ้นมา โดยมี แพท เป็นภรรยา ว่ากันตาม(ที่พวกเธอตั้ง)นั้นก็คือ เมียหลวง ส่วนผม(ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ)เป็นสามี มันเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมากครับ มีผู้หญิงน่ารัก(น่าชัง)มาโมเม(คิดเอาเอง)กับผมแบบนี้ เหมือนผมอยู่ใน นรกขลุมสุดท้ายเลยล่ะครับ!!
“เราไม่ชอบให้ใครมาบังคับเรานะ แพทก็น่าจะรู้” ตอนนี้ผมคงเป็นที่น่ารังเกียจของน้องๆ(ผู้ชาย) ม.ต้นที่ผ่านไปผ่านมาซะแล้วล่ะครับ ทำไมน่ะเหรอ~!~ ผมรู้สึกถึงสายตา ทุกคู่ที่จองมองผมกับแพทอยู่น่ะสิครับ
“นะคะ คุณ ช่วยภรรยาที่น่ารักหน่อยน้า~~!” แพทยกมือสองข้างของเธอขึ้นประกบกัน เสมือนเธอกำลังสวดอ้อนวอนต่อพระเยซูเจ้า แต่เสียใจด้วย! ผมนับถือศาสนาพุทธ ( -_-;;)
“ไม่มีทางเด็ดขาด!!!” ไม่รอช้าครับ ผมทำการใส่เกียร์หมาระยะสุดท้าย(??) วิ่งเต็มสตรีมขนาดนักวิ่งทีมชาติยังอาย(พวกคุณไม่เชื่อที่ผมพูดเหรอ? ดีแล้วล่ะครับ ขนาดผมยังไม่เชื่อคำพูดตัวเองเลย 55+) ออกมาจากสถานการณ์อันน่าอึดอัดใจ
เรื่องควรจะจบอยู่แค่นี้ ใช่ครับ เรื่องมันจบแค่นี้!!! Y-Y เฉพาะในความคิดของผมนะครับ
+++++++
“ตกลงก็ได้” ผมตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง แน่นอนครับ มันไม่มีทางเป็นครั้งแรกหรอกที่ผมตะโกนใส่หน้าผู้หญิงที่มีชื่อว่า พิมพ์ณรา ศิริสกุล ใช่ครับ!! ผมตะโกนใส่หน้าผู้หญิงที่ไล่ตามผมมาตั้งแต่ผมก้าวลงจากรถโตโยต้า ยารีสสีบรอนด์เงินของพี่ชายผม จนถึงเวลาเลิกเรียนของวันนี้
“ก็แค่นี้แหละ” ใช่ครับ!! นี่คือคำพูดแสดงอาการขอบอกขอบใจผม หลังจากที่ผมตอบตกลงจะช่วยเหลือตามคำขอร้องของเธอ ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจับเธอกดสระน้ำหน้าตึกจริงๆ
“แค่เอาจดหมายไปเสียบใต้โต๊ะมัน ใช่มั้ย??”ผมมองแพทที่พยักหน้า อมยิ้มอยู่ตรงหน้าผม เห็นเธอทำหน้าแบบนี้แล้วทำให้ผมเสียวสันหลังวาบ!! ผมอยากผ่าสมองของเธอออกมาดูเหลือเกินว่าเธอเอาสมองซีกซ้าย หรือ ซีกขวาคิดแผนอันร้ายกาจที่คงผุดอยู่ให้หัวเธอทุกๆครั้งที่เธอทำหน้าแบบนั้น หรือบางทีแพทอาจใช้สมองทั้งสองข้างคิดและจำลองแผนการของเธอก็ได้ เหมือน อินุอิในเรื่อง The Prince Of Tennis ที่ผมเพิ่งดูเมื่อวันเสาร์ตอนเช้าที่ผ่านมา!!!!!!!! (ไม่รู้จักก็ไปหาอ่านเอานะครับ การ์ตูนเรื่องนี้ผมปลื้มสุดๆ)
“แต่เราว่ามันไม่เชยไปหน่อยเหรอแพท” จู แตะไหล่แพท จู เป็นเพื่อนคนหนึ่งที่สนิทกับแพทครับ ความจริงเธอชื่อจูดิธน่ะ แต่ผมชอบเรียกเธอว่าจู มันสั้นดี ผมชอบ 555+
“เราก็ว่ามันเชยไปอ่ะแพท” ส่วนคนที่ออกความคิดเห็นตามมาคือ เร เพื่อนสนิทของแพทอีกคน และเธอยังน้องสาวฝาแฝดของจู อีกตั้งหาก แน่นอนครับ เธอไม่ได้ชื่อเรเฉยๆหรอก เรเชลเป็นชื่อเต็มๆของเธอครับ เหตุผลก็เหมือนกับที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น ว่ามันสั้นดี หลายคนคงคิดว่าผมมักง่าย ครับ!! ยอมรับ (มีคนคิดว่าผมหน้าด้าน!! ก็ยอมรับอีกอะแหละ 555+)
“ไม่หรอก!! คลาสสิกดีออก เราชอบ”แพทกอดอกตอบ จู กับ เร ยิ้มๆ
“บอกไว้ก่อนนะแพท เราจะช่วยเป็นครั้งสุดท้าย”ผมมองแพท ทำท่าดุๆ เอาจริงเอาจังตามพระเอกที่เคยเห็นในภาพยนตร์ที่ผมเพิ่งจะดูกับพวกเธอเมื่อวันก่อน ทั้งๆที่รู้ว่าผมไม่สามารถทำอย่างที่พูดได้ก็ตามที
“จ้า จ้า!! ภรรยาสุดที่รักรับทราบแล้วล่ะ”
“แล้วก็เลิกพูดแบบนี้ซะที เดี๋ยวมันก็เข้าใจผิดหรอก”ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็ทำหน้าจริงจังต่อหน้าเธอไม่เกิน 1 นาทีซะที (ต้องกับไปฝึกใหม่นะเรา) แพทก้าวมาตรงหน้าผมแล้วพูดเบาๆว่า “แล้วจะช่วยเรื่องพี่อันอันนะ”
“อะไรกัน ทำไมคุณต้องหน้าแดงด้วยล่ะ?” หน้าผมร้อนวูบวาบเหมือนเพิ่งอังไฟมา ให้ผมตายไปซะ!!! ผมขอถอนตัวจากบทเรื่องนี้ยังทันไหม!? (มีเสียงตอบกับมาว่าไม่ทันแล้ว) แพทรู้เรื่องนี้ได้ไงกัน!!!!!
พี่อันอัน เป็นสาวสวยรวยทรัพย์และความสามารถที่หาได้ยากยิ่งในโรงเรียนของเรา เธอเป็นพี่สาวที่สนิทที่สุดของผม พอๆกับพี่พาลาสซึ่งเป็นสาวสวยสุดเท่เก่งกล้าสามารถในทุกด้านและเป็นเพื่อนกับพี่ชายของผม ‘ปองคุณ’ ที่เป็นประธานนักเรียนเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนั้นพี่อันอันยังเป็นผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด มากกว่าที่ใครๆคิด
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกแพท เธอก็รู้ว่ามันไม่มีทาง”ผมพูดกับตัวเองหลังจากที่หายหน้าแดงแล้ว อย่างที่ผมว่าแหละครับ มันไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่มีทางเป็นไปได้จริงๆ
“ไม่มีทางอะไรกัน คุณทั้งหล่อทั้งนิสัยดี พี่อันอันเขาก็รักคุณจะตาย แถมยังมีพี่ปองเป็นกำลังเสริม จะกลัวอะไร?” แพทมองหน้าผมยิ้มๆ
“โกหกถือเป็นบาปนะ” <<จูดิธ
“ถึงจะเป็นการให้กำลังใจเพื่อนก็เถอะ”<< เรเชล
ท่าทางไอ้ทฤษฎีที่เขา(ใคร?)ลำลือกันเรื่องแฝดมีสายสัมพันธ์ สามารถล่วงรู้ความคิดของอีกฝ่ายได้จะเป็นจริงครับ เพราะยัยจูดิธ กับ เรเชล พวกเธอสามารถพูดต่อประโยคของอีกฝ่ายได้(แถมคำพูดยังเย็นชาเหมือนกันอีกต่างหาก) โดยไม่มีการมองตากันสัก ครึ่งวิ เลยทีเดียว นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกกันว่า “ไม่ต้องมองตาก็รู้ใจ” (หมายเหตุ :บัณญัติสุภาษิตนี้ไว้ โดย นายกานคุณ หิรเวชชากุล)
“จูดิธ!! เรเชล!! เรามีทางให้เลือก 2 ทาง ระหว่าง ตายกับตาย จะเลือกอะไร?” ผมมองหน้าพวกเธอด้วยสายตาอาฆาต แบบ พี่เคน ธีรเดช ส่งไปให้พวกเธอสองคน (มันช่างกล้า : โทรเลข จากคนแต่ง) (แน่นอน : sms จากน้องคุณ)
“อย่าทำหน้าแบบนั้นเลย คุณ”<<จูดิธ
“มันทำให้ฉันนึกถึงโทฟี่ที่บ้าน”<<เรเชล
ถ้าผมไม่เป็นสุภาพบุรุษผมคงจับพวกเธอสองคนกดน้ำพุไปแล้ว แต่โชคดีที่ความเป็นสุภาพบุรุษมันค้ำคอเอาไว้ ทำให้ผมทำอะไรพวกเธอไม่ได้ นอกจากส่งสายตาแผดเผาให้พวกเธอต่อไป (แล้วตอนนี้แกเป็นด้วยเหรอ ไอ้สุภาพบุรุษน่ะ :โทรเลข จากคนแต่ง) และขอแจ้งอะไรนิสสสส! นึง คือโทฟี่ที่ว่านั้นก็คือสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ ที่พวกเธอเลี้ยงไว้ที่รังของพวกเธอครับ(เน้นครับว่ารัง)
“จูกับเร ก็อย่าไปแกล้งคุณสิ”แพทยิ้มหน้าบานมากครับ ทำให้ผมรู้ว่าเธอจริงใจกับผมมากมาย!!!
“ยังไงก็ไม่มีทางสู้ได้หรอก”<<จูดิธ
“อีกฝ่ายเป็นพี่นิเคอิ”<< เรเชล
“แพ้ขาดลอยอยู่แล้ว”<<จูดิธ
“โดนน็อคตั้งแต่ยังไม่ขึ้นสังเวียนเลยล่ะ”<< เรเชล
“เนอะ!!!”<< สองแฝดนรก
เยอะเย้ยยังไม่พอ มีกระทืบซ้ำอีก -_-;; แต่ที่พวกเธอพูดมามันก็ถูกทั้งหมดล่ะครับ อีกฝ่ายเป็นอดีตเลขาสภาในตำนาน(โปรดอ่านอีกครั้งหนึ่งในตำนาน) ที่เก่งที่สุด ไม่ว่าเป็นเรื่องใดที่นักเรียนร้องเลียนมา พี่นิเคอิสอยร่วงหมด(เอ่อ!! หมายถึงจัดการได้หมดอ่ะครับ) ส่วนหน้าตาก็หล่อขั้นเหนือเทพ (เพราะผมหล่อขั้นเทพครับ: sms จากน้องคุณ) แล้วอีกอย่างก็คือพี่เขายังเป็นประธานชมรมบาสชายที่ผมสังกัดอยู่อีก ไม่ริอาจต่อกรครับ (จากใจ)
“เค้าจะช่วยคุณเอง ถ้าคุณเอาจดหมายนี่ไปส่งถึงโต๊ะ อัค นะ “
To Be Continued.
4 October 2009
Edit 13 March 2011
ความคิดเห็น