ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] What's the hell happened!! [WonHyuk]

    ลำดับตอนที่ #1 : What's the hell happened!! # 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.61K
      23
      29 ก.ย. 51

    พระเจ้าครับ…ผมอยากกรีดร้อง





    “แกจะต้องบอกรักกับผู้ชายคนแรกที่เดินเข้ามาในโรงอาหาร”




    ไหล่บางห่อลงทันทีที่ริมฝีปากสวยนั้นเอ่ยประโยคสุดแสนจะบาดใจเขาออกมา เกิดมาสิบเจ็ดปีไม่เคยมีอะไรที่จะทำให้เขารู้สึกเสียความมั่นใจขนาดนี้อีกแล้ว ทำไมต้องกลั่นแกล้งเขาขนาดนี้นะ

    “พี่ฮีซอลอ่า…” พยายามส่งเสียงอ้อนแง๊วๆสุดชีวิตแต่เจ้าแม่ก็ยังคงยืนยันคำเดิม

    “ใครใช้ให้แกเล่นเกมส์แพ้ฉัน?” ไก่น้อยยิ่งหงอลงไปอีกเมื่อถูกย้อนถามมาแบบนั้น แล้วใครกันที่หักคอแกมบังคับขู่เข็นให้เขามานั่งเกมส์ต่อศัพท์ที่เขาถนัดนักหนาแบบนี้เล่า!



    ประชดเว้ยครับ!



    ให้คนเก่งภาษาอังกฤษเรเวลศูนย์อย่างเขามานั่งเล่นเกมส์ต่อศัพท์มันก็แพ้ย่อยยับตั้งแต่ไม่ได้เริ่มเกมส์แล้ว แล้วนี่อะไร? พี่หมั่นไส้อะไรผมหนักหนา ผมออกจะเป็นเด็กดี พี่แกล้งผมทำไม ทำมายยยยยยยยยยย ฮยอกแจอยากจะร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือด

    “ผู้หญิงไม่ได้หรอพี่? ผู้ชายมันทะแม่งๆยังไงไม่รู้สิ” คนอย่างอี ฮยอกแจถึงแม้จะมีผู้หญิงผ่านเข้ามาในชีวิตให้กระชุ่มกระชวยอยู่น้อยครั้ง แต่เขาก็ไม่คิดที่จะผันเส้นทางไปหาไม้ป่าเดียวกันหรอกนะ



    ไม่เด็ดขาด!




    “โธ่~! เจ้าไก่โง่ดักดาน ฉันแค่ให้แกบอกรักเขา ไม่ได้หมายความว่าเขาต้องเซย์เยสกับแกนี่ แกแค่ไปพูดกับเขาเฉยๆเท่านั้นก็ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว ง่ายจะตายไป”

    “ง่ายที่ไหนกันเล่า” บ่นอุบอิบก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนรักสองคนที่นั่งหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ข้างๆ ฮีซอลมองอย่างรู้ทัน

    “เพื่อนแกจะไปช่วยอะไรได้ ในเมื่อฉันบอกให้แกเป็นคนไปทำ”

    “ฮยอกแจอ่า…แค่พูดเท่านั้นเอง” ซองมินจำต้องช่วยพูดเมื่อนัยน์ตาสวยดุตวัดมองเป็นเชิงสั่ง ทงเฮเองก็ตบไหล่เพื่อนรักเป็นเชิงปลอบ สู้ๆเว้ยเจ้าไก่ แค่ไปสารภาพรัก ไม่ได้ไปเสียตัวเสียหน่อย

    “ถ้าทำไม่ได้ก็เตรียมเงินไปเลี้ยงข้างกลางวันฉันด้วย วันนี้อยากกินซูชิเซทใหญ่ที่ร้านโอโตยะพอดี” ใบหน้าที่ว่าขาวแล้วยิ่งซีดเข้าไปอีกเมื่อได้ยินประโยคนั้น มื้อหนึ่งของพี่เท่ากับเงินค่าขนมผมทั้งเดือนเลยนะ! ฆ่ากันเลยดีกว่าแบบนั้นหน่ะ

    “ไปก็ได้ๆ แค่บอกรักเฉยๆใช่ไหม? บอกเสร็จก็จบใช่ไหม? ผมไปก็ได้” บ่นซ้ำไปซ้ำมาก่อนจะลุกไปยืนรอเหยื่อ (?) ที่จะเดินเข้ามาในโรงอาหารในไม่ช้าท่ามกลางสายตาลุ้นจากเพื่อนๆและพี่ๆในกลุ่มที่มองมาจากกลางโรงอาหาร ฮีซอลหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นท่าทางเก้งก้างและเก้อเขินของน้องชายที่เขามักจะหาเรื่องแกล้งอยู่เสมอ



    แกล้งฮยอกแจหน่ะ สนุกที่สุดแล้ว



    “วันนี้ก้าวเท้าออกจากบ้านผิดหรือไงวะเนี่ย” บ่นกับตัวเองเบาๆก่นจะยิ้มเจื่อนๆให้กับกลุ่มนักเรียนหญิงที่กำลังเดินผ่านไป ถ้าเป็นสาวๆน่ารักกลุ่มนี้ ฮยอกแจทุ่มขาดใจเลย ว่าแล้วก็ถอนใจอีกรอบเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตัวเองจะต้องทำในอีกไม่ช้า




    พระเจ้าครับ…ขอเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักหน่อยแล้วกันนะครับ




    ยังไม่ทันขาดคำชายหนุ่มคนแรกก็ก้าวเท้าเข้ามาในโรงอาหาร ทำเอาคนที่กำลังยืนกอดอกพิงกำแพงดีดตัวตรง หนุ่มน้อยน่ารักที่ผมขอทำไมมันสูงชะรูดแบบนี้ล่ะครับ แล้วเขาจะไม่อะไรเลยถ้าหมอนั่นมันไม่ใช่ประธานนักเรียนคนล่าสุดของโรงเรียนที่เพิ่งจะรับตำแหน่งหมาดๆต่อจากพี่อีทึกเมื่อวานนี้เอง



    ชเว ซีวอน




    เพราะมัวแต่ยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ร่างสูงจึงเดินผ่านไปจากหน้าประตูโรงอาหารจวนจะถึงกลางโรงอาหารอยู่แล้ว คนความรู้สึกช้าถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเหยื่อกำลังจำหลุดลอยไป ฮีซอลยกนิ้วขึ้นทำท่าปาดคอทันทีเมื่อน้องชายหันมามองเหมือนขอความช่วยเหลือ





    ถ้าไม่บอกรักซีวอนตอนนี้ ก็เตรียมเงินจ่ายค่าอาหารมื้อหฤโหดของพี่ฮีซอลได้เลย






    เอาวะ! ก็แค่บอกรัก






    “ซีวอน!” ร้องเรียกชายหนุ่มเสียงดังก่อนจะวิ่งไปหา ร่างสูงหันมาตามเสียงเรียกก่อนจะเลิกคิ้วสูง นั่นอี ฮยอกแจที่อยู่ชมรมฟุตบอลของพี่คังอินไม่ใช่หรือไง

    “เอ่อ…” เรียกเขาแล้วดันปอดเสียอย่างนั้น มันพูดไม่ออกทำไงดีว๊า

    “มีอะไรกับฉันหรือเปล่า” ทั้งโรงอาหารดูจะเบนความสนใจมาที่ร่างสูงของประธานนักเรียนคนใหม่กับร่างเล็กของศูนย์หน้าทีมฟุตบอลของโรงเรียนทันที ก็ฮยอกแจตะโกนเรียกเสียงดังเสียขนาดนั้น ใครไม่สนใจก็บ้าแล้ว ยิ่งกลุ่มเพื่อนๆพี่ๆที่สังเกตการณ์อยู่ที่โต๊ะดูเหมือนจะลุ้นกันเป็นพิเศษ สังเกตได้จากทงเฮกับซองมินที่นั่งกุมมือกันแน่นลุ้นจนตัวโก่งราวกับเพื่อนกำลังจะออกเรือนก็ไม่ปาน

    “เอ่อ…คือว่า”

    “ถ้าไม่มีอะไรฉันจะไปซื้อข้าวแล้วนะ ฉันมีเวลาไม่มากเพราะต้องรีบไปพบอาจารย์ฝ่ายปกครองต่อ” ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะหันหลังเดินจากไปแต่แล้วก็ต้องชะงักเท้าเมื่อร่างบางพูดด้วยเสียงไม่เบานัก…มันก็คือตะโกนจนลั่นโรงอาหารนั่นแหละ

    “คบกับฉันนะ!” บังเกิดเสียงอื้ออึงภายในโรงอาหารทันที นัยน์คมเบิกขึ้นเมื่อถูกสารภาพรักกะทันหันก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ชายหนุ่มยกมือขึ้นกอดอกมองคนตัวเล็กที่ดูจะหูอื้อตาลายตื่นเต้นไปกับคำสารภาพรักของตัวเอง ฮยอกแจก้มหน้าหลับตาปี๋เตรียมรับคำปฏิเสธเต็มที่ เดี๋ยวก็จบแล้วฮยอกแจ จากนี้เขาจะไม่หลงเล่นเกมส์กับพี่ฮีซอลอีกแล้ว เข็ดจนตาย!

    “เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ” เอ่ยถามซ้ำอีกครั้งให้มั่นใจ คนถูกถามถึงกับจิ๊ปากอย่างขัดใจ อับอายจะตายอยู่แล้วยังจะมาให้พูดซ้ำอีก จะกลั่นแกล้งกันไปถึงไหนเนี่ย

    “ฉันชอบนาย คบกับฉันนะ” เอ่ยซ้ำอีกครั้งทั้งที่ยังก้มหน้า โอย….รีบๆจบเสียทีเถอะ อายจะตายแล้ว เย็นนี้ไปซ้อมฟุตบอลที่ชมรมถูกล้อตายแน่เลย

    “ชอบฉันหรอ?”

    “อะ…อือ” พยักหน้าเร็วๆแล้วก็ก้มหน้าตามเดิม คนภายนอกมองแล้วต่างคิดว่าฮยอกแจคงจะเขินอายน่าดูที่ต้องเป็นฝ่ายมาสารภาพรักก่อน ทั้งที่ความจริงแล้วฮยอกแจกำลังลุ้นให้ซีวอนเอ่ยปฏิเสธแทบขาดใจอยู่แล้ว แค่บอกว่าไม่มันยากนักหรือไงเนี่ย รีบพูดเร็วๆเซ่!

    “จริงหรอ?” เว้ย! ถามอยู่นั่นแหละ ชักทนไม่ไหวอยู่แล้วนะ

    “ไม่เชื่อก็ตามใจ ฉันพูดแล้วก็จบ” ไม่รอฟังคำปฎิเสธแล้ว ไหนๆก็พูดไปแล้ว ถือว่าภารกิจเสร็จสิ้นก็แล้วกัน ไก่น้อยเตรียมกระพือปีกกลับไปหากลุ่มเพื่อนที่โต๊ะแต่ก็ต้องหันกลับมาอีกครั้งเมื่อถูกคว้าแขนเอาไว้

    “เลิกเรียนกี่โมง”

    “มีซ้อมที่ชมรมเลิกห้าโมงเย็น” ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลของการถามนักแต่ก็ยังตอบไปตามความเป็นจริง ซีวอนพยักหน้าเข้าใจก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบข้างหู ท่าทางนั้นทำเอาสาวๆในโรงอาหารปิดปากกรี๊ดแทบบ้าคลั่ง

    “งั้นฉันไปรับนะ” ส่งยิ้มกระชากวิญญาณก่อนจะเดินไปซื้อขนมปังสองชิ้นกับนมสองกล่องแล้วเดินกลับมาหาคนที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ขนมปังไส้คัสตาร์ดครีมกับนมสตรอเบอรี่ถูกถือยัดใส่มือเรียวก่อนที่เจ้าตัวจะเดินจากไปอย่างไร้ร่องรอย

    “ฮยอกแจๆ” ทงเฮกับซองมินรีบวิ่งมาหาเพื่อนรักที่ดูจะยังสติหลุดพลางตบไหล่เรียกเบาๆ เมื่อเห็นว่าเพื่อนยังไม่มีการตอบรับจึงช่วยกันพากลับมาที่โต๊ะ พอเริ่มได้สติมือเรียวก็ตบโต๊ะดังป๊าบทำเอาเพื่อนร่วมโต๊ะสะดุ้งกันเป็นแถบ

    “มันหมายความว่าไงพี่ฮีซอล หมอนั่นต้องปฏิเสธผมสิ มันจะมารับผมเย็นนี้ทำไม” เอ่ยถามพี่ชายคนสวยที่ดูจะอึ้งกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่ไม่แพ้กัน ฮีซอลมองน้องชายแล้วถอนใจเบาๆ

    “ฉันว่าซีวอนตอบรับคำสารภาพรักนายแล้วล่ะ”

    “เฮ้ย! พี่อย่าล้อเล่นกับผมสิ ไม่ตลกเลยนะ” ไก่น้อยโวยวายขึ้นทันที คนสวยถึงกับกรอกตา ใครจะไปรู้ว่าซีวอนมันจะรับรักฮยอกแจล่ะ งานนี้ก็ตัวใครตัวมันเว้ย

    “ลองคบกันก่อนก็ได้ ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวก็เลิกกันเองแหละ” คนฟังถึงกับอ้าปากค้าง ตัวต้นเหตุอย่างพี่พูดแบบนี้ได้ไงเนี่ย ชีวิตหนุ่มหล่ออย่างอี ฮยอกแจจะต้องคบกับผู้ชายด้วยกันนี่นะ




    นรกที่สุด~~!!!




    user posted image




    ความกระตือรือร้นในการซ้อมอย่างทุกครั้งดูเหมือนจะหายไปหมด วันนี้ศูนย์หน้าคนสำคัญของทีมจึงแค่ใช้เท้าเขี่ยลูกบอลไปมาอยู่ข้างสนาม วันนี้ทั้งวันเขาค่อนข้างจะเสียเซล์ฟพอสมควรไม่ว่าจะเดินไปไหนถ้าไม่มีเสียงกระซิบกระซาบตามหลังก็จะมีเสียงแซวกระแทกหน้าขึ้นมาเลยทีเดียว ไม่น่าเลยพี่ฮีซอล พี่ไม่น่าหาเรื่องให้ผมเลย

    “วันนี้เขาซ้อมเขี่ยบอลกันหรอ?” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นข้างหลังทำเอาคนตัวเล็กรีบหันขวับ ลูกบอลที่รักเหมือนลูกกลับแผลงฤทธิ์จนเขาเสียหลักจะล้มลงไปนอนกับพื้นถ้าไม่ได้ใครอีกคนคว้าตัวเขาเอาไว้ได้ทัน

    “ไม่เป็นไรนะ” เอ่ยถามคนในอ้อมกอดที่ยังคงซุกหน้านิ่งอยู่กับอกเขา คงจะตกใจที่เกือบจะล้มหัวฟาดพื้นล่ะมั้ง

    “ไม่…ไม่เป็นไร” เสียงผิวปากพร้อมโห่แซวดังมาจากในสนามและข้างสนามเรียกเลือดสูบฉีดใบหน้าเล็กได้เป็นอย่างดี มือเรียวรีบผลักร่างสูงให้ออกห่างก่อนจะหันไปกางกำปั้นใส่เพื่อนๆในชมรมให้หุบปาก แต่กลับยิ่งได้เสียงแซวมากขึ้นกว่าเดิมเพราะคิดว่าร่างบางกำลังเขินจนทำอะไรไม่ถูก

    “เพราะนายคนเดียวเลย!” ผลักอกร่างสูงอย่างนึกฉุนก่อนจะเดินหน้ามุ่ยไปนั่งที่ม้านั่งข้างสนาม ซีวอนมองตามแล้วยิ้มออกมาบางๆ เขาไม่ได้เอ่ยอะไรอีกนอกจากเดินไปนั่งข้างๆคนตัวเล็กที่กำลังดื่มน้ำแก้เขินอยู่

    “กลับเลยไหม?”

    “ทำไมฉันต้องกลับกับนายด้วยล่ะ?!” เขยิบตัวออกสร้างระยะห่างพอสมควรซึ่งซีวอนก็ไม่ได้คิดที่จะขยับตัวตามมาแต่อย่างใดนอกจากนั่งมองการกระทำเหมือนเด็กๆนั้นอย่างนึกเอ็นดู

    “หน้าที่ของแฟนที่ดีก็ต้องไปรับไปส่งคนรักสิ”

    “เราไปเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่?!” แทบอยากจะขว้างขวดน้ำในมือใส่หน้าหล่อๆนั่นให้หายหมั่นไส้ คนบ้าอะไร…ตัวก็สูง หน้าตาก็ดี บ้านก็รวย สาวๆติดตรึม แถมเรียนเก่งอีก เฟอร์เฟคเกินคน อิจฉาว้อยยย~!

    “แล้วเมื่อกลางวันใครสารภาพรักกับฉันล่ะ?”

    “เอ่อ…” สะอึกสิครับ ใครกันนะที่ไปสารภาพเมื่อกลางวัน…มันคือใคร!!! มันก็คือตัวเขาเองนั่นแหละ เฮ่อ~!

    “นั่นมัน…ฉันอธิบายได้นะ”

    “สิ่งที่ฉันเชื่ออย่างหนึ่งก็คือ…ความรู้สึกไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่น” บรรลัยแล้วไหมล่ะ ฮยอกแจลอบสบถอยู่ในใจ ยิ่งเจอนัยน์ตาคมที่จ้องมองมาที่เขาก็ทำเอาพูดอะไรไม่ออก แค่พูดเท่านั้นเอง…แค่พูดออกไปทุกอย่างก็จบแล้ว



    ก็มันพูดไม่ออกนี่ครับ!




    “ถ้าไม่ซ้อมต่อก็กลับกันเถอะ” หยิบกระเป๋าเป้มาสะพายไว้ข้างหนึ่ง ส่วนมือข้างที่ว่างก็ดึงคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นตาม

    “อะไรเนี่ย…จู่ๆจะมาคว้าลูกรักฉันไปไม่บอกไม่กล่าว” ร่างสูงใหญ่ของกัปตันทีมฟุตบอลเดินเข้ามาทักอย่างอารมณ์ดี ซีวอนยิ้มก่อนจะโค้งให้คังอินเล็กน้อย ผิดกับฮยอกแจที่ตีหน้ายู่เมื่อเห็นสีหน้าล้อเลียนอย่างไม่ปิดบังจากคนที่เคารพเหมือนพี่ชายแท้ๆ

    “วันนี้มีซ้อมอะไรอีกหรือเปล่าครับ? ถ้าไม่มีผมจะพาฮยอกแจไปส่งบ้าน”

    “ก็มีอยู่หรอก แต่วันนี้ลูกฉันคงซ้อมไม่รู้เรื่องหรอก ตั้งแต่มาที่ชมรมก็เอาแต่เขี่ยลูกบอลอยู่ตรงมุมสนามไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย”

    “ผมก็เห็นอยู่ครับ” สองหนุ่มหัวเราะกันอย่างถูกคอในขณะที่คนถูกแซวได้แต่ยืนหน้าง้ำ

    “ผมกลับก็ได้ พี่ไม่ต้องมาแขวะผมเลย” กระชากกระเป๋าเป้จากร่างสูงมาสะพายเองก่อนจะเดินลิ่วไปเปลี่ยนชุดที่ห้องชมรม ซีวอนหันมาโค้งให้คังอินอีกครั้งก่อนจะรีบเดินตามไป คนเป็นรุ่นพี่เพียงแค่มองตามก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ




    ราชสีห์หนุ่มที่ว่าแน่กลับมาเดินตามลูกไก่ตัวน้อยต้อยๆเสียได้


    เกิดสะดุดตาลูกรักฉันขึ้นมาหรือไงชเว ซีวอน





    user posted image




    “ฉันจะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก อ๊ากกกก~~!!” ร่างบางระบายอารมณ์โดยการระดมถีบตู้เหล็กตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง ทำไมใครๆก็เห็นดีเห็นงามที่เขาต้องคบกับซีวอนทั้งนั้นเลยนะ ไม่ว่าจะออกแรงเตะถีบยังไงกล่องเหล็กสี่เหลี่ยมก็ยังคงเหมือนเดิมไม่บุบสลายแต่อย่างใด

    “ตู้เหล็กทนเป็นบ้า ก็ดี…จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อม” ยืนหอบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอดเสื้อฟุตบอลออกแล้วโยนแหมะไว้ที่เก้าอี้ยาวกลางห้อง มือเรียวเปิดตู้ล็อคเกอร์ของตัวเองก่อนจะหยิบเสื้อนักเรียนหันหลังกลับมาว่าจะใส่เสื้อแต่ก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อเห็นร่างสูงยืนกอดอกมองเขาอยู่ข้างหลัง

    “เข้ามาทำไมเนี่ย! สมาชิกชมรมก็ไม่ใช่” เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกกอดไว้แนบอก แต่ก็ไม่สามารถปิดความขาวของเรือนร่างบอบบางไปได้ ซีวอนไล่มองไหล่ขาวเนียนเลื่อยมาจนถึงเอวคอดอย่างเพลินตา

    “ประธานนักเรียนต้องเข้าได้ทุกชมรมอยู่แล้ว”

    “แต่นี่ฉันจะเปลี่ยนเสื้อ จะเข้ามาทำไม”

    “แล้วนายจะอายอะไร ในเมื่อทุกเย็นนายก็เปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกับรุ่นพี่แล้วก็เพื่อนๆในห้องนี้เป็นประจำอยู่แล้ว วันนี้ก็แค่เป็นฉันเท่านั้นที่อยู่ด้วย” คำพูดของซีวอนทำเอาร่างบางคิดตาม แล้วเขาจะมาทำตัวอายทำไมเนี่ย ผู้ชายเหมือนกันนี่หว่า




    สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนเผลอทำตัวเป็นผู้หญิงไปได้


    บ้าไปใหญ่แล้วฮยอกแจ





    “ทำไมไม่ใส่เสื้อกล้ามข้างใน” คำถามนั้นทำเอาคนที่กำลังติดกระดุมเสื้อเงยหน้าขึ้นมามองอย่างไม่เข้าใจนัก สายตาเหมือนกำลังดุเด็กอนุบาลนี่มันอะไรกัน

    “มันร้อน…ฉันต้องออกไปเตะฟุตบอลกลางสนามนะ ไม่ได้เล่นโยคะอยู่ในห้องแอร์” นิ้วเรียวที่กำลังจะเกี่ยวขอบกางเกงบอลลงชะงักอยู่ครู่หนึ่ง นัยน์ตาเรียวเหลือบมองร่างสูงที่ยังคงจ้องมองเขาอยู่เหมือนเดิม ที่มันอายไม่ใช่เพราะว่าต้องเปลี่ยนชุดต่อหน้าผู้ชายหรอก แต่มันเพราะสายตาที่เดาอารมณ์ไม่ออกของหมอนี่มากกว่าที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ

    “จะมองให้ท้องเลยไหม? มันเขินเหมือนกันนะ!” ซีวอนอมยิ้มขำเมื่อเห็นใบหน้าเรียวเล็กนั้นกำลังขึ้นสีระเรื่อ เขาจึงยอมหันหลังให้คนตัวเล็กได้เปลี่ยนชุดอย่างสบายใจ ไม่นานนั้นฮยอกแจก็ส่งเสียงเป็นเชิงว่าเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเขาถึงหันกลับมาเหมือนเดิม

    “กลับกันเลยนะ” บอกกับคนที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าเป้ใบเก่ง ฮยอกแจพยักหน้ารับก่อนนะสะพายกระเป๋าเตรียมกลับแต่ก็ต้องชะงักเมื่อร่างสูงคว้ามือของเขาเป็นเชิงให้เดินไปด้วยกัน

    “จะมาจูงมือเหมือนฉันเป็นเด็กอนุบาลหมีน้อยทำไมเนี่ย!” สะบัดมือออกอย่างรวดเร็ว คนตัวเล็กกอดอกมองร่างสูงแล้วถอนใจยาว

    “เราคงมีเรื่องต้องคุยกันหน่อยแล้วซีวอน”

    “เรื่องอะไร?”

    “เรื่องเมื่อกลางวัน ขอโทษที่ทำให้นายเข้าใจผิด…ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่มันเป็นคำสั่งพี่ฮีซอล” สิ้นประโยคบรรยากาศรอบตัวก็อึมครึมขึ้นมาทันที ไก่น้อยขยับตัวอย่างอึดอัด…เขาทำอะไรผิดไปอีกแล้วล่ะเนี่ย

    “พี่ฮีซอลให้นายมาสารภาพรักกับฉันงั้นหรอ?” น้ำเสียงเรียบๆนั่นถึงจะไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ แต่ก็ทำให้ฮยอกแจรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

    “ไม่ใช่กับนาย…แต่กับผู้ชายคนแรกที่เข้ามาในโรงอาหารต่างหาก มันก็แค่เกมส์หน่ะซีวอน ฉันไม่อยากให้นายคิดมาก ฉันรู้ดีว่านายเป็นสุภาพบุรุษอันดับต้นๆของโรงเรียน บางทีนายอาจจะกลัวฉันผิดหวังนายเลยไม่กล้าที่จะปฏิเสธ แต่นี่ฉันก็บอกเหตุผลกับนายแล้วนะ นายไม่จำเป็นต้องมาทำหน้าที่แฟนอะไรนี่ก็ได้”

    “แสดงว่านายไม่ได้ตั้งใจที่จะสารภาพรักกับฉัน”

    “อะ…อืม” อะไรกันเนี่ย…สถานการณ์น่าลำบากใจนี่มันอะไร? ผู้ชายแสนแมนอย่างเขาจะมากังวลอะไรกับความรู้สึกแบบนี้ทำไม ไม่นะฮยอกแจ…นายแมนนะเฟ้ย ซีวอนก็ออกจะแมน…ไม่มีอะไรหรอกหน่า ไม่มีๆ




    มันต้องไม่มีนะเว้ย~!





    “งั้นก็ถือว่าเป็นโมฆะสินะ”

    “ใช่…ใช่ แบบนั้นแหละ” ลอบถอนใจอย่างโล่งอก ซีวอนเข้าใจอะไรง่ายกว่าที่คิด พรุ่งนี้ชีวิตหนุ่มโสดของเขาก็จะกลับมาเป็นปกติแล้ว ขอบคุณสวรรค์~!!

    “งั้นฉันคงต้องเป็นฝ่ายสารภาพรักกับนายเองสินะ”

    “อืม…” เอ๊ะ…เมื่อกี้ซีวอนพูดว่าอะไรนะ?

    “ฉันชอบนาย คบกับฉันนะ” ริมฝีปากได้รูปโฉบลงมาแตะกลีบปากบางเพียงเบาๆก่อนจะผละออกมา คนถูกสารภาพรักหมาดๆได้แต่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก เมื่อกี้อะไร? เขาถูกจูบงั้นหรอ? ถูกผู้ชายจูบ? ชเว ซีวอนมันจูบเขางั้นหรอ?!!!!




    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก




    “กลับบ้านกันเถอะ เย็นมากเดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วงนะ” คว้าแขนคนตัวเล็กที่สติหลุดไปไหนต่อไหนแล้วให้เดินไปที่รถด้วยกัน เรื่องที่อยู่บ้านไม่ต้องห่วง…ประวัตินักเรียนคนหนึ่งในโรงเรียน ประธานนักเรียนหาได้ไม่ยากหรอก จริงไหม? ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มเมื่อตุ๊กตาน่ารถหน้าตาน่ารักยังคงบ่นพึมพำอยู่คนเดียว และรอยยิ้มบุ๋มยิ่งกดลึกเมื่อพอจะจับใจความได้บางส่วน





    ‘ถูกจูบซะแล้ว…’





    TBC.



    บอกแล้วว่าเรื่องนี้มาเหนือเมฆมาก มาได้ไงไม่รู้ -*-

    พลอตมาเมื่อวานสดๆ แต่งกันสดๆ ว่าจะตอนเดียวจบ

    ปรากฎว่า...ฟิคยาวค่ะ (ยาวมากยาวน้อยนั้นอีกเรื่องนึง)

    ฝากไว้อ้อมใจอีกเรื่อง ส่วนเรื่องไหนที่ค้างไว้...มองข้ามไปก่อนนะคะ TT^TT

    สอบเสร็จเจอกันใหม่ค่ะ

    ปล. ขอฝากบอร์ดฟิคซักบอร์ด เอาฟิคไปลงไว้เยอะมาก อยากหาคนไปลงฟิคด้วย -*-

    http://fixland.19.forumer.com

    ไปเยี่ยมกันบ้างนะคะ ~~!!!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×