ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    p u z z l e

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 64


    l*** is a bad word


         
    ทุกคนเกิดมาล้วนมีหน้าที่, เคยมีใครบางคนบอกเธอเอาไว้แบบนั้น

         บอนนี่เป็นหญิงสาวที่เกิดในวันที่ยี่สิบธันวาคม เธอมีน้องชายอยู่หนึ่งคน แต่เธอก็ไม่ใช่พี่สาวคนโตแต่อย่างใด

         แอนนิต้า คาเมโล ผู้ปกครองของเธอ เคยบอกว่าจริง ๆ แล้วเธอมีพี่สาวอยู่คนหนึ่ง แต่พี่สาวก็เสียชีวิตไปก่อนที่เธอจะเกิด และในตอนที่เธออายุได้สามขวบ แม่ของเธอก็จากไปอีกคน ส่วนพ่อของเธอนั้น ตั้งแต่ที่จำความได้ เธอก็ไม่เคยเห็นเขาเลยสักครั้งเดียว

         ในวัยเด็กของบอนนี่และน้องชาย พวกเขาอาศัยอยู่ที่บ้านสวนแห่งหนึ่ง กับพี่เลี้ยงที่ชื่อว่า วิเวียนน่า ผู้หญิงที่ทั้งเธอและแอนดี้มีความเห็นตรงกันว่าเป็นผู้หญิงที่ใจดีที่สุด และในตอนนั้น ชีวิตของพวกเขาก็ช่างมีความสุขเหลือเกิน

         พวกเรายังเป็นแค่เด็กธรรมดา ๆ เท่านั้น จนกระทั่งโชคชะตาเริ่มทำหน้าที่ของตัวเอง

         บอนนี่อายุสิบขวบ กับแอนดี้ที่อายุแปดขวบ วิเวียนน่าเสียชีวิตอย่างปริศนา และนั่นคือจุดเปลี่ยนชีวิตของพวกเขา --- ทั้งสองคนถูกจับแยกกัน ทั้งที่ยังไม่เคยห่างกันมาก่อน เธอถูกส่งไปอยู่กับแอนนิต้าที่เคยเป็นคนสนิทของคุณแม่ ส่วนแอนดี้ พ่อของทั้งสองคนได้มารับกลับไป

         และถ้าเป็นตอนนี้ เธอก็คงโวยเป็นแน่ว่าจะมาหาอะไรเอาป่านนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะสนใจใครเลยแท้ ๆ

         แอนนิต้าบอกกับเธอ แท้จริงแล้วเธอเองก็มีหน้าที่...

         แต่งตัวให้สวย ทำอาหารให้อร่อย อย่าบกพร่องเรื่องงานบ้าน

         "แล้วนั่นมันอะไรกันคะ!?"

         หญิงวัยสี่สิบต้น ๆ มองเด็กสาววัยสิบห้าด้วยสายตาที่เรียบนิ่ง แต่นั่นก็ทำให้บอนนี่รู้สึกไม่เข้าใจมากกว่าเดิม หน้าที่บ้าบออะไรไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย!

         "อนาคตของเธอมันถูกกำหนดไว้อยู่แล้ว บอนนี่"

         "ในภายภาคหน้าเธอก็จะเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของวงการมาเฟียเหมือนกันนะ เพื่อความมั่นคง มันต้องมีคนที่เสียสละเสมอ เธอเข้าใจใช่ไหม"

         เข้าใจก็บ้าแล้ว

         บอนนี่ขมวดคิ้ว จริง ๆ เธอก็ชอบแต่งตัวให้ดูดีอยู่แล้ว จะทำอาหารหรือทำงานบ้านเธอก็ทำได้เป็นอย่างดี ไม่เห็นต้องมาย้ำอะไรแบบนี้เลยนี่

         ยกเว้นก็แต่ว่า ---

         "ไว้เราจะมาคุยเรื่องนี้อีกครั้งตอนเธอโตกว่านี้ ตอนนี้เธอแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ"

         ไม่สิ คงไม่ใช่แบบนั้นหรอก...


         พอได้เจอกับน้องชายของตัวเองอีกครั้ง บอนนี่ก็สัมผัสได้ว่าเขาเปลี่ยนไป --- เปลี่ยนไปมากซะด้วย

         แล้วไอ้หมอนั่นน่ะใครเถอะ

         "เขาเป็นคู่ซ้อมของผมตอนฝึกน่ะ ชื่อจูเลียน เป็นเด็กที่คุณออกัสต์รับเลี้ยงล่ะ"

         ผู้ชายผมสีดำที่ดูยังไงก็อายุมากกว่าเธอและแอนดี้ชัด ๆ ตอนเจอกันครั้งแรกเขาดูเป็นคนที่ไม่มีแก่นสารอะไรเลย หรือบางทีแอนดี้จะไปซึมซับอะไรผิด ๆ มาจากหมอนี่กันนะ?

         แต่หลังจากนั้น เธอก็พบว่าตัวเองคิดผิดไป

         เธอค่อนข้างจะคุ้นเคยกับวงการมาเฟียก็จริง พอจะรู้อยู่แล้วว่าสักสันอาจเข้ามาเกี่ยวข้องกับมันจริง ๆ แต่ดูเหมือนมันจะเกินคาดไปหน่อย...

         บอนนี่เห็นน้องชายของเธอจับอาวุธ และเขาก็ใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วซะด้วย เธอคาดเดาไม่ออกเลย ว่าห้าปีที่ผ่านมา เขาไปเจอกับอะไรมากันแน่

         ครั้งแรกที่ออกทำภารกิจ จริง ๆ เธอเกือบจะเอาตัวไม่รอดแล้วด้วยซ้ำ เธอไม่เคยจับอาวุธเลยสักครั้ง ไม่มีใครสอนเรื่องนี้กับเธอเลย แม้แต่แอนนิต้าเองก็ไม่เคยสอน

         ให้ตาย ทำอย่างกับจะให้เธอไปเป็นคุณนายมาเฟียยังไงก็ไม่รู้ ---

         เอ๊ะ หรือบางทีสิ่งที่น้าแอนนิต้าอยากจะพูดกับเธอเมื่อตอนนั้นคือเรื่องนี้?

         ตอนนั้นเธอบาดเจ็บนิดหน่อย แต่หลังกลับจากการทำภารกิจ เธอก็ได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อแคโรไลน์ พี่สาวคนนั้นเป็นคนที่ทำแผลให้เธอ ถึงจะไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่เธอกลับรู้สึกคุ้นเคยกับเธอคนนี้อย่างน่าประหลาด...

         เหมือนเคยเจอกันที่ไหนสักที่

         จูเลียนบอกว่าแคโรไลน์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา แต่จากที่เธอเห็นน่ะ แคโรไลน์ไม่ได้ดูแปลกอะไรเลย ทั้งท่าทางและแววตา แต่ไอ้พี่นั่นน่ะสิที่แปลก

         อย่างกับแต่งนิทานหลอกเด็ก --- แต่จริง ๆ เธอก็ไม่มั่นใจขนาดนั้นหรอก

         และเพราะแคโรไลน์ไม่ยอมพูดอะไรเลย เธอถึงต้องเป็นฝ่ายที่ต้องชวนคุยก่อน...

         "เขาไม่เคยทำงานพลาดเลยนะคะ"

         ทั้งที่ท่าทางของแคโรไลน์เองก็ดูไม่ค่อยจะเข้ากับวงการนี้เลยแท้ ๆ แต่ดวงตาของเธอมันกลับดูเหมาะสมอย่างน่าแปลก ทั้งที่ควรจะเป็นดวงตาสีคอร์นฟลาวเวอร์บลูธรรมดา แต่มันกลับดูมีอำนาจ ดูไม่เข้ากับเธอเลยสักนิดเดียว

         "คุณเคยจับอาวุธด้วยเหรอ?"

         "...นาน ๆ ทีค่ะ แต่ก็ไม่บ่อยนักหรอก"

         แล้วทำไมเธอจะจับมันบ้างไม่ได้ล่ะ?


         "พี่จูเลียน ช่วยสอนฉันทีสิ"

         ชายหนุ่มทำหน้างง ก่อนจะทำหน้ายิ้ม ๆ แต่แววตากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

         "หมายถึงขับรถน่ะเหรอ ตอนนี้เธอยังเด็กเกินกว่าจะขับได้นะ --- "

         "หมายถึงเรื่องต่อสู้ต่างหากล่ะ! ฉ้นรู้นะว่าพี่เข้าใจแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ น้าแอนนิต้ากับลุงออกัสต์น่ะไม่มีทางยอมสอนฉันแน่นอน แอนดี้ก็คงจะไม่สอนฉันดี ๆ หรอก ส่วนคุณแคโรไลน์ ฉันไม่อยากทำให้เธอลำบากใจ..."

         "เพราะงั้น ก็มีแค่พี่คนเดียวที่จะช่วยฉันได้นะ"

         เจ้าของดวงตาสีแซฟไฟร์มองหน้าเธออย่างชั่งใจ ก่อนจะถามคำถามหนึ่งออกมา

         "แน่ใจนะ?"

         "แน่"

         "ตอนสอนเรื่องนี้ฉันไม่ได้ใจดีขนาดนั้นนะ"

         "เออน่า! เรื่องนั้นฉันไม่เป็นไรหรอก"


         และใช่ เขาไม่ได้ใจดีเลยสักนิด ไอ้พี่เวร มันจะสอนหรือจะทำอะไรกันแน่!?

         "รู้นะว่าไม่ได้ใจดี แต่มันจะเกินไปหน่อยไหมเนี่ย! ถ้าฉันตายเพราะการฝึกของพี่ขึ้นมาจะทำยังไงหา!?"

         "มันไม่ขนาดนั้นหรอกน่า อีกอย่าง ถ้าเป็นแบบนั้นฉันเองก็จะได้ตามเธอไปอีกคนน่ะสิ" เขาว่า แต่ดูท่าแล้วคราวนี้เขาจะพูดจริงแน่นอน ถึงเธอจะไม่รู้เหตุผลก็เถอะ

         จูเลียนไม่ได้อ่อนข้อในการฝึกให้เธอเลย แต่การสอนของเขาก็ช่วยให้ทักษะด้านการต่อสู้ของเธอดีขึ้นได้ภายในเวลาไม่นานนัก

         ยังไงก็ต้องขอบคุณเขานั่นแหละนะ...


         และจริง ๆ แล้ว บอนนี่ก็เคยมีความรักเหมือนกันนะ แต่ถ้าเป็นไปได้เธอก็ไม่อยากจะจำสักเท่าไรหรอก โคตรเฮงซวยเลยนะนั่น...

         ตอนสมัยที่เธออยู่ไฮสคูลเกรดสิบเอ็ด เธอเคยมีแฟนคนหนึ่งชื่อเจมส์ อยู่ชมรมเบสบอลของโรงเรียน แต่จริง ๆ ถ้าจะถามว่าเจอกันได้ยังไง มันก็อาจจะฟังดูไม่ค่อยมีเหตุผลหรอก เขาสนใจเธอก่อน และตอนนั้นเธอก็คิดว่าเขาไม่ใช่คนไม่ดีอะไร

         แต่หลัง ๆ มานี่ยิ่งกว่าหน้ามือเป็นหลังเท้า ไอ้เวร...

         จากที่คบกันมาดี ๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเป็นพิเศษ เจมส์ก็เริ่มวุ่นวายกับเรื่องของเธอมากขึ้นกว่าเดิม เวลาเธอมัวแต่ทำงานแล้วไม่รับสายก็มาหงุดหงิดใส่ อธิบายก็ไม่เคยคิดจะฟัง จะใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ไม่ได้ เอาเธอไปเปรียบกับคนนั้นคนนี้ และบอนนี่ก็คิดว่าตอนนั้นเธอใจเย็นสุด ๆ แล้วที่ไม่ได้หันไปว้ากใส่เขาเพราะโมโหเข้า

         จนในที่สุด ความอดทนของเธอก็ขาดสะบั้นเข้าจริง ๆ

         "ไอ้เส็งเคร็งนี่!! แกคิดว่าฉันโง่มากขนาดนั้นเลยรึไง!?"

         ตอนนั้นถ้าไม่ใช่ว่าแอนดี้ยืนอยู่ด้วย เธอคงจะได้ตบไอ้หมอนั่นจริง ๆ แล้วมั้งนั่น --- ไอ้บ้านั่นดันแอบไปมีคนอื่นทั้งที่ยังไม่ได้เลิกกับเธอ แถมยังมาให้เหตุผลว่าเธอไม่ใช่คนในแบบที่ตัวเองคิด ทั้งที่เธอเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอไม่เคยใจเย็นกับเรื่องไหรได้เท่านี้มาก่อนด้วยซ้ำ

         "ถ้าไม่ชอบก็เลิกกันไปสิวะ! คิดว่าฉันจะอาลัยอาวรณ์แกแค่ไหนกันเชียว พอกันที ฉันเองก็ไม่ทนแล้ว ลาขาด!!"

         และมันก็จบลง แบบที่นอกจากจะไม่สวยแล้วยังเละเทะสุด ๆ อีกต่างหาก

         เอาจริง ๆ นะ ตอนนี้เธอไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้วล่ะ


         ปัจจุบันบอนนี่อายุสิบเก้าปี เธอเพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ปีแรก แต่เธอเข้าสู่วงการมาเฟียอย่างเต็มรูปแบบมาได้เกือบสี่ปีแล้ว...

         และมันก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริง ๆ แอนนิต้าบอกว่าอีกไม่นานจะคุยเรื่องนั้นกับเธอ เรื่องการหมั้นหมายกับใครสักคนที่เธอยังไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ

         แล้วทำไมต้องเป็นเธอด้วยล่ะ?

         เธอไม่ชอบเลยจริง ๆ กับการที่ทำอะไรไม่เคยปรึกษาเธอแบบนี้ ทำไมเธอถึงใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการไม่ได้กันล่ะ หรือแม้แต่เรื่องนี้ ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่เธอควรจะเลือกได้เองแท้ ๆ

         ไม่ว่าคนคนนั้นคิดจะทำอะไรก็ตาม ถ้ามันกำลังจำกัดทั้งอิสรภาพและความสุขของเธอหรือคนสำคัญของเธออยู่ล่ะก็ ---

         เธอจะไม่ยอมให้มันเป็นไปตามเกมของเขาเด็ดขาด.


    to be continue...



    ps. เป็นการเล่าประวัติแบบคร่าว ๆ จาก "ความทรงจำของบอนนี่" เท่านั้น 


    SNAP
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×