ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฮอร์ไมโอนี่+เดรโก=รักที่พูดไม่ได้

    ลำดับตอนที่ #1 : เฮอร์ไมโอนี่+เดรโก=รักที่พูดไม่ได้ บทที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 47




    บทที่ 1 บนรถไฟด่วนสายฮอกวอตส์



    ที่ชานชาลาเก้าเศษสามส่วนสี่ เด็กสาวผมฟูคนหนึ่งกำลังกระโดดหย็องแหย็งชะเง้อคอหาใครบางคนอย่างหงุดหงิด

    “เฮ้อ...ตาบ้าสองคนนั่นอยู่ไหนนะ ตื่นสายแน่นอนเลย” เธอบ่น เด็กสาวคนนี้มีชื่อว่าเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เธอกำลังขึ้นชั้นปีที่หกที่ร.ร.ฮอกวอตส์ และสาเหตุที่เธออารมณ์เสียขนาดนี้ก็เพราะเพื่อนรักของเธอ รอน วีสลีย์และแฮร์รี่ พอตเตอร์ นั้นยังไม่ปรากฏตัวให้เห็น เพราะอีกแค่สิบนาทีรถไฟด่วนฮอกวอตส์ ก็จะออกจากชานชาลาแล้ว

    “อ้อ...มาได้ซะที” เธอพูดอย่างดีใจที่เห็นเพื่อนทั้งสองคนกำลังวิ่งเป็นไก่ตาแตกเพราะกลัวไม่ทันรถไฟ เฮอร์ไมโอนี่รีบวิ่งไปหาทันที แต่เธอรีบมากไปหน่อยจนไปชนกับใครคนหนึ่งจนล้มก้นจ้ำเบ้า

    “โธ่...ให้มันได้อย่างงี้เซ่” เธอบ่นพลางปัดเนื้อปัดตัวแต่ยังไม่ลุกขึ้น

    “เป็นอะไรรึเปล่าครับ” เสียงใครคนหนึ่งพูดและยื่นมือออกมาเพื่อช่วยให้เธอลุกขึ้น

    “ไม่เป็นไรค่ะขอบคุณ” เธอพูดโดยไม่มองหน้าเพราะกำลังสาละวนกับการปัดฝุ่นตามเนื้อตามตัวอย่างไม่ลดละ “ขอโทษด้วยนะคะที่ชนคุ.. เดรโก มัลฟอย!!!”

    “อี๋!!! ยัยเกรนเจอร์” มัลฟอยแหกปากแล้วรีบปล่อยมือเฮอร์ไมโอนี่ทันที

    “มาอี๋เอ๋อบ้าบออะไรกันเล่า! ฉันต่างหากที่ต้องอี๋นาย” เฮอร์ไมโอนี่สวนกลับ

    “หนอย...พูดงี้หมายความว่าไง” เขายังไม่ลดละ

    “หัดดูตัวเองซะบ้างสิ ก่อนที่จะมาแว้ดๆใส่คนอื่นน่ะ”

    “เธอกำลังพูดกับใครอยู่รู้มั้ย ยัยปากมาก”

    “ก็ไอ้คุณหนูไร้สมองพ่อรวยยังไงล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ว่าเข้าให้

    “ยัยเด็กสลัม!!” มัลฟอยเริ่มโมโห

    “ไอ้หัวเป็ด!” เฮอร์ไมโอนี่ตอกกลับ

    “เฮอร์ไมโอนี่ ไปกันเหอะ” รอนซึงวิ่งมาถึงพอดีกำลังดึงแขนเธอทั้งสองข้างเพื่อลากตัวเธอออกไปจากมัลฟอย รอนหันไปว่าเขา “หุบปากซะไอ้บ้า”

    “อย่าสะเออะได้มะวีสลีย์” มัลฟอยตวาด

    “จะสะเออะอ่ะ มีไรป่าว” รอนเถียง

    “หุบปากซะมัลฟอย” แฮร์รี่พูดขึ้น

    “หุบปากตัวแกเองเหอะพอตเตอร์” มัลฟอยพูดแล้วเดินผ่านทั้งสามคนไป โดยที่ไม่ลืมที่จะหันมามองสบตาเฮอร์ไมโอนี่อย่างชิงชังพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างน่ารังเกียจ

    “โธ่เว้ย....อารมณ์เสียตั้งแต่เปิดเทอมเลย” รอนตะโกนไล่หลังไป แต่มัลฟอยท่าจะไม่ได้ยิน ทำให้รอนหงุดหงิดที่ยั่วโมโหมัลฟอยไม่สำเร็จ

    “อีกห้านาทีรถไฟจะออกแล้ว ไปกันเหอะ” แฮร์รี่บอก



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++





    เมื่อขึ้นไปที่รถไฟและหาตู้ที่ว่างให้แฮร์รี่เสร็จแล้ว รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ต้องไปนั่งที่ตู้ของพรีเฟ็ค ทำให้แฮร์รี่อารมณ์ไม่ดีที่ต้องอยู่คนเดียว

    “เอาน่าแฮร์รี่เดี๋ยวฉันจะแว่บมาหานายบ่อยๆละกันนะ” รอนพูด เขาลืมเรื่องมัลฟอยไปซะสนิทเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน

    “เดี๋ยวก็มีคนมานั่งด้วยแหละน่า” เฮอร์ไมโอนี่ปลอบ เธอก็ลืมเรื่องมัลฟอยเหมือนกันที่เห็นหน้าที่เซ็งสุดขีดของแฮร์รี่ “อย่างจินนี่ไงล่ะ”

    “จินนี่ก็เพิ่งได้เป็นพรีเฟ็คนะ” แฮร์รี่พูดอย่างไม่สบอารมณ์

    “เออ...จริงด้วยแฮะ” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มแหยๆ

    “แฮร์รี่...” เสียงใครคนหนึ่งเรียกเขา แฮร์รี่จึงหันไป โชนั่นเอง!!

    “โช...” แฮร์รี่พูด โช แชงคือผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่เขารัก ถึงแม้ว่าโชจะเคยตีจากเขาไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่แฮร์รี่ก็ยังคงรักเธออยู่

    “ฉันมีเรื่องอยากคุยกับเธอ” โชพูดแล้วก้มหน้า “ขอนั่งด้วยได้มั้ย”

    แฮร์รี่พยักหน้า โชจึงไปนั่งที่เบาะตรงข้ามกับเขาและนิ่งเงียบ ทั้งสองไม่พูดอะไรกันจนรอนมองแฮร์รี่ทีมองโชทีอย่างสงสัย เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งเข้าใจเหตุการณ์นี้เป็นอย่างดีจึงยิ้มให้กับโชแล้วลากคอรอนออกมา พร้อมกับพูดว่า “แล้วเจอกันแฮร์รี่”



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    “ทำไมเราไม่อยู่ก่อนล่ะ” รอนถามขณะที่กำลังเดินไปที่ตู้ของพรีเฟ็ค

    “แฮร์รี่เขาจะคุยกับโชนะรอน” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงเรียบ

    “เราอยู่ก่อนก็ได้ เราเป็นเพื่อนเขานะ”

    เฮอร์ไมโอนี่หยุดเดินแล้วถอนหายใจ “แต่เขาไม่อยากให้เราอยู่!!! พวกเขาจะปรับความเข้าใจกันเพียงสองคน เข้าใจมั้ย!!!”

    “แต่เราก็ช่วยเขาปรับความเข้าใจก็ได้นี่ เผื่อแฮร์รี่อยากให้เราช่วย” รอนเถียง

    “เธอเคยรักใครบ้างไหมฮึรอน” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างเหลืออด

    รอนหน้าแดงขึ้นมาทันที “คะ...เคยสิ”

    “แล้วเธอไม่อยากอยู่กับคนที่เธอรักสองคนบ้างเหรอ?”

    “อยาก”

    “นั่นแหละเป็นสิ่งที่เขาสองคนรู้สึก เป็นเธอก็คงไม่ชอบหรอกนะถ้าฉันกับแฮร์รี่อยู่ด้วยตอนที่เธอจะอยู่กับคนที่เธอรักน่ะ จริงมั้ย” เฮอร์โอนี่ขำในความซื่อบื้อของรอนแล้วเดินไปดูประกาศเวรของพรีเฟ็คที่จะต้องเดินตรวจตามตู้ต่างๆของรถไฟและดูตู้ที่เธอกับรอนนั่ง

    “รอน...เธอได้ไปตรวจเวรกับซูซาน โบนส์ล่ะ ตอนบ่ายสาม”

    “เธอล่ะได้ตรวจเวรกับใคร” รอนถาม

    “เดี๋ยวนะ..” เธอชี้นิ้วไล่ลงไปหาชื่อของตัวเอง “อี๋!!!!”

    “อะ..อะไร เป็นอะไร” รอนถามอย่างตกใจ

    “ฉัน...ฉันตรวจเวรกับ..เอ่อ...” เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าเซ็งสุดขีด

    “เดี๋ยวๆๆๆ ทำหน้าอย่างนั้นฉันพอจะเดาออกละ” รอนพูดอย่างรู้ทัน “จัสติน ฟินช์ เฟลชลีย์ใช่มะ ฉันเข้าใจว่าไอ้นั่นมันบ๊องตื้น ฉันเองก็เซ็งมันเหมือนกัน”

    “บ้ารึ!!! ไม่ใช่ย่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “อ้าว...แล้วใครล่ะ”

    “..เดรโก มัลฟอย..”

    “เฮ้ย!!ได้ไงอ่ะ?” รอนตะโกนอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าอย่างสุดเซ็ง

    “ถอยไปดิ้!!!” รอนผลักเฮอร์ไมโอนี่ออกไปข้างตัวเพื่อจะดูประกาศให้ชัดๆ “หวา...จริงด้วย”

    “ฉันบอกแล้วไง...ซวยตั้งแต่เปิดเทอมเลยฉัน” เฮอร์ไมโอนี่พูด

    “เธอซวยสองชั้นเลยคราวนี้” รอนบอก “เธอได้นั่งตู้เดียวกะมัลฟอยด้วยล่ะ อ้อ!ฉันก็นั่งด้วย โบนส์อีกคนนึง”

    “มัลฟอยอีกแล้วเหรอ..” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างหมดแรง “เมื่อไหร่ฉันจะหนีไอ้หมอนี่พ้นซักทีนะ”

    “เอาน่าเฮอร์ไมโอนี่..” รอนพูดอย่างอ่อนโยนแล้วจับมือเธอเอาไว้ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงและใจเต้นอย่างบอกไม่ถูก “ฉันจะไม่ให้มันทำอะไรเธอหรอก” เขาพูดอย่างมั่นใจแต่หน้าแดงเหมือนกับสีผม

    “ขอบใจรอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วก้มหน้าเพื่อแอบยิ้ม

    “ไปเถอะ” รอนพูดแล้วจูงมือเธอไปยังตู้พรีเฟ็คที่พวกเขานั่ง เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นมัลฟอยนั่งข้างหน้าต่างเอามือเท้าคางแล้วมองออกไปข้างนอก ส่วนซูซาน โบนส์นั่งฝั่งตรงข้ามกับเขาแต่เธอนั่งริมประตู ทั้งสองคนหันมามองรอนและเฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอยมองมาที่มือของพวกเขาซึ่งจับกันอยู่แล้วมองหน้ารอนเขม็ง รอนก็มองเขาเช่นกัน เฮอร์ไมโอนี่รีบปล่อยมือของรอนเพราะกลัวว่าซูซานจะเห็น

    “หวัดดีซูซาน” เธอทัก

    “หวัดดีเฮอร์ไมโอนี่” ซูซานทักทายตอบ “เธอช่วยนั่งข้างหน้าต่างได้มั้ย ฉันเมารถไฟน่ะ”

    เฮอร์ไมโอนี่เหลือบไปมองมัลฟอยซึ่งตอนนี้หันหน้าไปข้างนอกอย่างเดิมแล้วจึงพูดว่า “ดะ..ได้สิ”

    เธอเดินไปนั่งข้างซูซานแต่รอนยังคงยืนจ้องมัลฟอย

    “เธอจะนั่งมั้ยเนี่ย” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

    “ฉันนั่งข้างเธอละกัน” รอนตอบเสียงเครียดๆโดยไม่ละสายตาไปจากมัลฟอย

    “จะ มานั่งเบียดกันทำไม นั่งข้างมัลฟอยก็ได้นี่” ซูซานพูด

    “ช่ายวีสลีย์ มานั่งข้างฉันก็ได้” มัลฟอยหันมาพูดกับรอนแล้วแสยะยิ้มอย่างน่ารังเกียจเหมือนเคย

    รอนไม่มีทางเลือกจึงไปนั่งข้างมัลฟอยด้วยสีหน้าบึ้งตึง เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าและน่าเบื่อหน่ายโดยไม่มีการพูดคุย ยกเว้นซูซานซึ่งร่าเริงเต็มที่ เธอเล่าเรื่องที่เธอเจอชาลี สแมฟนักร้องพ่อมดคนโปรดของเธอไปเดินเกี่ยวก้อยกับอลิซาเบ็ธ เจนดาราแม่มดสาวแสนสวยให้เฮอร์ไมโอนี่ฟังอย่างกระตือรือร้น

    “นี่นะ..เขาหล่อมาก....ผมสีทองยาวประมาณบ่านี่แหละ ตาสีฟ้าสดใสเชียว ตอนแรกที่เห็นเค้านะฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยจริงๆ ว้าว....หล่อกว่าในหนังสืออีกอ้ะ แถมลิซซี่แฟนเขาก็สวยสุดยอด!!!” ซูซานเล่าเรื่องทำนองนี้ให้เฮอร์ไมโอนี่ฟังอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเพลงใหม่ของศิลปินกลุ่มสุดฮอทอย่างวง ‘เมจิค’ ละครเวทีเรื่องใหม่ของนาตาชา กิลเบิร์ต ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็ได้แต่ยิ้มรับลูกเดียว

    “แล้วก็ยังมีอีกนะ ว้า...ถึงเวลาที่ฉันกับเธอต้องไปตรวจเวรแล้วล่ะวีสลีย์” ซูซานพูดอย่างเสียดายที่ยังเล่าไม่จบ

    รอนหน้าซีด เขาไม่ต้องการให้เฮอร์ไมโอนี่อยู่กับมัลฟอยตามลำพัง

    “นี่โบนส์” รอนเรียกซูซานที่กำลังจะออกไป “ฉันไม่ไปได้ป่ะ”

    “เธอจะบ้าเหรอ!! เดี๋ยวก็เจอลูกระเบิดจากศาสตราจารย์มักกอนนากัลหรอกเมื่อไปถึงน่ะ” เธอตำหนิรอน “เค้าเป็นคนจัดเวรกับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์นะยะ”

    รอนหันมามองเฮอร์ไมโอนี่อย่างเป็นห่วง แต่เธอก็พยักหน้าให้รอนไป แล้วพูดแบบไม่มีเสียงว่า ‘ฉันไม่เป็นไรหรอก’ รอนจังลุกไปอย่างไม่เต็มใจนัก แต่ก่อนที่จะออกไปเขาก็พูดตอบกับเธอโดยไม่มีเสียงเช่นกันว่า ‘อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะกลับมา’ ทั้งสองยิ้มให้กันโดยไม่รู้ตัวว่ามีสายตาใครอีกคนในนี้กำลังมองพวกเขาอยู่



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×