ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รู้ตัวอีกทีก็เผลอไปเสียแล้ว

    ลำดับตอนที่ #1 : D E A T H :: PROJECT สายัณห์แห่งเหล่าคนตาย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 27
      0
      12 พ.ย. 61

    APPLICATION

    รูปที่โหลดเก็บมันตรงพอดี วาดไม่หวายดึกเกิน

    "แค่ยิ้ม และมีความสุขไปกับชีวิตก็เพียงพอ"

    A_UNDEAD 

    ชื่อ : อรุณ รุ่งธิวา Arung Rungthiwa

    ชื่อเรียก : ดอนล์ [Dawn]

    เพศ : หญิง

    ไทย จีน/ไทย :

    อันเดธรุ่นที่ : 0

    เสียชีวิตเมื่อ : 32

    สาเหตุการตาย : เธอไหลตายขณะทำสมาธิ

    ลักษณะภายนอก : หญิงสาวที่ไบหน้าประดับไว้ด้วยรอยยิ้มเสมอ รอยยิ้มที่จริงและเต็มใจ ที่พร้อมที่จะแบ่งปันมันให้กับผู้ที่ต้องการ หรือไม่ต้องการอย่างเท้าเทียม ผมสีดำดินที่ให้ความรู้สึกเป็นมิต นัยตาสีน้ำตาลแบบคนเอเชียทั้วๆไป รวมแล้วหน้าตาเธอก็ไม่ต่างจากผู้หญิงชาวเอเชียที่เป็นมิตทั้วไป จะต่างก็แค่สีผิลที่ดูดึงดูดและโดดเด่นกว่า อย่างแทนคล้ำ และรอยยิ้มที่มีมันมากกว่าไครๆเท้านั้นเอง ส่วนสัดส่วนร่างกายนั้น 4* 2* 3* พร้อมมีบุดหลายสิบคนส่วนสูง 178 น้ำหนัก82สุดท้ายเรื่องการแต่งกายด้วยความที่มาจากประเทศเขตร้อนเธอชินชากับการใส่ชุดน้อยชิ้นไปเสียแล้ว

    รสนิยม : เธอรักไนความอุดมสมบูร ผู้ชายร่างใหญ่และอบอุ่น เธออายเกินไปที่จะพูดเรื่องเซ็กตรงๆ และอ่อนแอกับเด็กตัวเล็กๆบ่อยๆ ไม่เคยคิดจะซ้อนเนื้อหนังของตัวเองกับไครสักนิด เป็นผู้หญิงหลงไนการมีสติอยู่กับตัวหรือก็คือสมาธิ บลาๆ  และหวังจะเจอเจ้าชายขี้ม้าขาวมาช่วยอยู่บ่อยๆ

    นิสัย : เธอเป็นพวกธรรมชาตินิยมที่หลงรักธรรมชาติอย่างจังซะยิ่งกว่ารักแรกพบเสียอีกไนความเชื่อของเธอมนุษย์คือธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างก็อย่างตึกราบ้านช่องก็เช่นเดียวกัน

    เหมือนเมื่อฝนตกเกิดบ่อน้ำ เมื่อมนุษย์เกิดก็สร้างบ้านอยู่ แต่ถึงด้วยความที่มองโลกอย่างนั้นทำให้เธอไม่ได้กายเป็นพวกรักสัตว์จนไม่คิดจะกินมัน

        ไนความเป็นจริงแล้วเนื้อเนี้ยละคือสิ่งที่เธอชอบและต้องการเติมเต็มมันไนทุกๆมื้ออาหารของเธอให้มากถึงมากที่สุด

      และว่ากันต่อด้วยผลของการเป็นพวกธรรมชาตินิยมทำให้เธอออกจะเป็นพวกเพี้ยนที่หลงไหลและใช้เวลาส่วนมากไปกับการทำสมาธิแบบแปลกๆ อย่างการนั้งสมาธกลับด้านโดยการใช้หัวค้ำพื้นไว้ และอีกหลายอารามที่เรียนแบบหนังจีนกำลังภายไนจึงทำให้เธอกลายเป็นสูนกลางของรอยยิ้มและหัวเราะของคนอื่นเสมอ แต่เธอกับชอบมันและพร้อมจะยิ้มและสนุกไปกับพวกเขาด้วย เพาะ "รอยยิ้มคือสิ่งที่ขาดไปไม่ได้" นั้นคือคติประจำใจของเธอ

       และเช่นเดิมกับความธรรมชาตินิยมแบบแปลกๆของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นพวกบ้าพลัง ด้วยความโชคดีที่เกิดไนแผ่นดินของนักสู้ จึงทำให้เธอได้เรียนแทบจะทุกแขนงการต่อสู้ของเอเชียจนหมด

       แต่ถึงเธอจะแกร่งทั้งกายและจิตใจขนาดใหนก็ตามแต่ก็ยังมีสิ่งที่แพ้อยู่ นั้นคือเทคโนโลยีสมัยใหม่ เธอเคยระเบิดมันโดยการสัมผัดมาอย่างนับไม่ถ้วน จนทำให้บางครั้งก็แอบกลัวอยู่ลึกๆ แต่ถ้าถามว่ากลัวอะไรสุดๆละก็***ยังไงละ แล้วนั้นจึงทำให้เธอโสดยาวยันปัจจุบันจนอาจถึงอนาคตได้เลย

       เพิ่ม เธอรู้คุณและต้องการจะตอบแทนไครก็ตามที่ช่วยเธอ รวมถึงคนที่เรียกเธอมาจากความตาย เธอพร้อมทำทุกอย่าง 

    ประวัติ : อรุณ ดั่งชื่อของเธอ อรุณมักจะมาถึงเสมอไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว และมันจะมาพร้อมกับดวงอาทิตย์ที่พร้อมจะเผาทุกสิ่งเพื่อเริ่มการเปลี่ยนแปลง เมื่อเธอเกิดนั้น แม่ของเธอก็เลิกกับพ่อแล้วหอบเธอกับมาอยู่ประเทศเกิด และเมื่อตอนเข้าเรียนเธอก็เปลี่ยนกลุ่มเพื้อนไนห้องเรียนเป็นสำนักกำลังภายไน ตอนเธอเรียนจบ ทั้งจังหวัดหันมากินเจเพิ่มขึ้น กระทั้งเริ่มทำงานเธอก็พังตลาดหลักทรัพซะมีเงินใช้เดินทางรอบโลก และเมื่อเธอเริ่มเดินทาง รู้ตัวอีกที เธอก็ตายแล้วกลายเป็นเจียงซือไปเสียแล้ว ?

    ทักษะพิเศษ : สมาธิ เธอเป็นชาวพุธที่ไม่ดีนักไนแง่ของการบริจาค แต่เธอกับลุ่มหลงเข้าให้กับสมาธิ และธรรมมะ(ชาติ)

    การตรวจจับมานา : มองเห็น

    อบิลิตี้ : การเข้าถึงมานา เธอสามารถเข้าถึงมานา แต่เธอไม่ได้ควบคุมพวกมัน และเก็บไว้ใช้กับตัว เธอเพียงหยิบยืมและคืนมันสู่สิ่งที่ควรจะเป็น

    เธอใข้สมาธิส่วนมากไปกับการเข้าถึงมานาและหยิบยืมมันมาใช้

    ยิ่งการต่อสู้นานขึ้น มานาที่เธอเข้าถึงไนสถานที่นั้นๆก็จะมากขึ้น

    เธอเข้าถึงมานา เชื้อเชิญให้เข้ามาเพื่อเสริมกำลังและป้องกัน จากนั้นจึงคืนมานานั้นออกไปพร้อมกับเจตจำนงของเธอ

    คิดถึงไฟที่ไหม้ทุงหญ้า ทุกการคืนคือ การปะทุของระเบิดเพื่อเพิ่มความไวของไฟ เมื่อเข้าสู่การต่อสู้ฌเธอจะเริ่มเข้าถึงมานาโดยรอบ ให้กลายเป็นพวกของเธอ การต่อสู้ยิ่งนานเธอยิ่งขยายขอบเขตุการเข้าถึง

    เมื่อมานาถูกเธอเข้าถึง เธอจะปล่อยให้มันไหลผ่านร่างกาย เพื่อเสริมพลัง

    และเธอจะคืนมานาที่ถูกชักจุงออกพร้อมกับเจตจำนงของเธอ*1เพื่อเป็นการโจมตีและขยายการเข้าถึง

    ส่วนสาเหตุที่เธอไม่พกมานาไปไหนมาไหนตรอดคือ (ตีความเองว่ามานาคือส่วนหนึ่งของธรรมชาติ) การขโมยบางอย่างจากธรรมชาติมันไม่ใช้สิ่งที่จะมีผลดีตามมาแน่ๆ ถ้าคิดว่ามานาเป็นสัตว์ป่า การพกมานาจากไนน้ำ(พกปลา)ไปทะเลทราย มันคงเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดนัก

    *1คิดถึงคลื่นกำลังภายไน แบบหนังจีน แบบโจมตีทีมีคลื่นพลังที

    ความโดดเด่น : การป้องกัน การตรวจจับ

    อุปกรณ์ที่ใช้ : อาวุธเย็นประชิตถนัดหมัดมวยเป็นพิเศษ

    รูปแบบ/สไตล์การต่อสู้ : ใกล้ เน้นการต่อสู้แบบประชิตตัวดุดัน จุโจมเพื่อหาช้องว่าง และขัดขวางการเคลื่อนไหว เธอถนัดการสู้แบบตัวต่อตัวเป็นพิเศษ(ลองคิดถึงถ้าเธอเข้าถึงมานารอบตัวของศัตรูทั้งหมดสิครับ)

    ออกแนวมวยจีน

    จุดอ่อน : เธอกำลังจะถูกไรต์เชือดเพาะเป็นรุ่น0อยู่แล้วไง เอาจริงๆ ด้วยความธรรมชาตินิยม จึงทำให้เธอต่อต้านร่างกายตัวเองที่ตายแล้วกับมามีชีวิตอย่างผิดธรรมชาติ (คิดถึงคนที่เชื่อมาตลอดชีวิต แต่ร่างกายตัวเองกับเป็นสิ่งที่ทำลายความเชื่อนั้นสิ) ตอนนี้ร่างกายที่แข็งแกร่งของเธอนั้นกับกำลังพังจิตใจของเธออยู่ แม้ว่าเธอพยายามจะเชื่อว่าอมนุย์คือธรรมชาติก็ตาม

    ความประพฤติ : ดี เธอรู้ตัวตนและหน้าที่ดี

    เพิ่มเติม : ง่วง

    มุมมองของตัวละคร]

    ไม่ต้องอธิบายในเชิงคาแรคเตอร์นะครับ เขียนเหมือนพิมพ์รายงาน

    มุมมองที่มีต่อมนุษย์ : อิจฉา

    มุมมองที่มีต่ออมนุษย์ : ทาศ*2

    มุมมองที่มีต่อบีสต์ : ผู้มีพระคุณ

    มุมมองต่อสัตว์ประหลาด : สิ่งที่ต้องคงอยู่

    คิดเห็นอย่างไรกับการที่ต้องฆ่าสัตว์ประหลาดใน 13 วัน : มันคือธรรมชาติของอมนุษย์?

    คิดเห็นอย่างไรกับหมอกสีดำ : สิ่งที่ทำให้เกิดการพัตนา และเปลี่ยนแปลง

    คิดเห็นอย่างไรกับองค์กรณ์D_E_A_T_H : เจ้านาย ผู้มีพระคุณ

    *2ทาศที่แท้จริงคือผู้ที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นทาศ แต่เธอรู้

    [พูดคุยกับตัวละคร]

    ตอบในเชิงคาแรคเตอร์ เฉพาะอันเดธเท่านั้น

    [ชื่อตัวละคร] ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นในสถานที่อันมืดมิด ทางเดินที่ไร้พื้นและแสงระยิบระยับราวกับดวงดาว

    "ฝัน...ที่เราคุมไม่ได้"

    เธอรู้สึกแปลกใจไม่น้อยไนถานะของผู้มีสมาธิ(ณาน)แบบเธอแล้วนี้แปลกมากที่ฝันทั้งๆที่ไม่ต้องการ และแถมยังควบคุมมันไม่ได้เสียอีก

    สายลมอ่อนๆค่อยๆพัดผ่านออกมา ม้านั่งตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาบนหน้าของเขาพร้อมกับร่างๆหนึ่ง เธอเป็นหญิงสาวผู้มีเส้นผมสีดำ เธอปิดดวงตาของเธอไว้ด้วยผ้าสีดำ การแต่งกายของเธอนั้นเป็นชุดสุภาพไว้ทุกข์สีดำเฉกเช่นเดียวกัน เธอนั่งอยู่บนม้านั่งนั้นอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะเอ่ยทักทายเขา/เธอ

    "สวัสดี นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกัน และมันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย" เธอกล่าว

    "...แปลก..นี้มัน...อืม..ไม่สิ..."

    เธอพึมพำด้วยอารามที่ดูค่อยๆสงบขึ้นๆ

    "ข้าคิดว่าข้าไม่มีชื่อเป็นของตัวเอง พวกเจ้าเรียกข้าว่า 'ความตาย'" เธอกล่าวแนะนำตัวเอง

    "ฉันว่า ความตาย ควรเงียบสงบ"

    เมื่อความตายกับเงียบสงบตามที่บอก เธอจึงเลิกสนใจและสรุปว่าเธอยังฝึกตนไม่พอ แล้วหันไปจดจ่อกับสมาธิต่อ

    "...." เธอนิ่งเงียบซักพัก ปล่อยคำพูดของเขา/เธอไป ราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะพูดคุยด้วย

    สายลมค่อยๆพัดผ่านอีกครั้ง เสียงแอด... ของประตูดังมาจากข้างหลังเขา/เธอ ความว่างเปล่าสีดำกลับกลายเป็นประตูบานใหญ่ที่มีเพียงแสงอันเจิดจ้าเท่านั้นที่บดบังความจริงทุกอย่างอยู่ อรุณ ค่อยๆหันไปอย่างช้าๆและรู้สึกราวกับโดนพรากบางอย่างไป

    "เจ้าได้รับโอกาศในการกลับไปอีกครา" เธอกล่าว

    "แต่จงจำไว้ ข้าไม่ได้ให้โอกาศใครฟรีๆ เจ้าจะต้องตอบแทนข้าอย่างเหมาะสม" เธอยิ้มให้กับเขา/เธอ

    เหมือนคำพูดนั้นมีมนต์มายาบางอย่าง เมื่อทบทวนถึงสถานที่ทั้งหมดไนความทรงจำ

    "ได้...ถ้าหากนี้ไม่เป็นเพียงฝันกลางวันละก็"

    เธอไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้มาก่อน ไนความจริงดูเหมือนเธอจะเจอบางสิ่ง

    "หึ.. ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ ไปสิ ไปเร็วเข้า ประตูอาจจะปิดในไม่ช้า ข้าไม่ใช่คนที่กำหนดเวลาคงอยู่ประตูหรอกนะ" เธอกล่าวพลางโบกมือและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

    "....

    ด้วยอารามที่ดูไม่สู้ดีนักเธอหลับตาลงและพยายามจะปลูกตัวเองจากฝันแบบที่เคยทำ แต่ดูเหมือนมันจะไม้ได้ผล เธอไม่คิดว่าเธอจะตายทั้งๆทีอายุยังน้อยถึงความตายมันจะเป็นเรื่องธรรมชาติก็ตามแต่ว่ามันก็ 

      น้ำตาของเธอค่อยๆไหลออกมา มันปนเปละหว่างความเศร้าและสัปสน ทั้งที่เคยคิดว่าตัวเองเข้าใจและยอมรับธรรมชาติได้แล้วแท้ๆ(ส่วนนี้เกิด แก่จ็บ ตาย)แม้แต่รอยยิมของเธอก็หายไปไนตอนนี้

      "ฮึก ฮึ ...."

    ขาทั้งสองสั่นอย่างไร้ความมั้นคง กางเกงของเธอเปอะไปด้วยฉี่ ร่างของเธอค่อยทรุดลงกับพื้นและเริ่มฟูมฟายราวกับเด็กตัวเล็กๆ

    "ห้าาา~~ ห้าาา~~"

       ทั้งๆที่ยอมรับไนธรรมชาติได้แล่วแท่ๆ แต่ทำไม ทำไม....

       มันเป็นการตัดสินใจที่อยากการผ่านประตบานนี้หมายถึงเธอจะกลับมามีชีวิต  และนั้นมันผิดต่อธรรมชาติ ไม่มีไครสมควรจะมีชีวิตหลังจากตายไปแล้ว.....

       ร่างของเธอที่ตัดสินใจได้แล้วนั้นดูเปาะบางและอ่อนแอราวกับกระจกแก้วที่พร้อมจะแตกหัก เธอค่อยๆหันหลังและก่าวขาเพื่อจะเดินจากไป ทว่า

      "ไม่ ไม่ ไม่ ฮึก มันไม่ดี นะ..ฮึ ... ฮึ..."

       ขณะที่เอามือปาดน้ำตาเธอรู้คำตอบดี ค่อยๆหันหลังความเห็นแก่ตัวและมองไปที่ประตูบานนั้น ขาทั้งสองค่อยๆก่าวเดิน อย่างอยากรำบาก

      ความสัปสนถาโถมมาอีกครั้ง เมื่อยืนต่อหน้าประตู  เธอใช้มือทั้งสองตรบไปที่แก้มอย่างแรง  พร้อมกับยิ้มออกมา ทั้งๆที่ไบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูก ร่างของเธอค่อยเดินเข้าประตูไปอย่างช้าๆ 

         (ช้า) ไปอย่างฉับพลันในตอนนั้นร่างของหญิงสีดำได้เอ่ยคำพูดขึ้น


    "สิ่งที่เจ้าต้องตอบแทนข้า..."

    "คือการตายที่ได้พบกับความสุข มิใช่การโห่ร้องคร่ำครวญอยู่หน้าประตูอันไร้ทางเปิดอีก..." เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆเลือนหายไปพร้อมกับม้านั่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×