ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เคียงรักยาใจ (Set...รักในเงาใจ) รีอัพ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ = คำสั่งแม่ อัพเดตเนื้อหา 100 %

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ค. 64


    บทนำ
    คำสั่งแม่
    _____________________________________________________________



    ไม่ว่า ความรัก ของเราจะเกิดขึ้นจากความบังเอิญหรือตั้งใจก็ตาม
    แต่ในเมื่อทุกอย่างมันถูกผูกมัดด้วยความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันแล้ว
    มันก็ยากเหลือเกินที่ผมจะยอมถอนตัวออกจาก สนามรบ ของ เกมรัก ครั้งนี้
    .. หมอราม ..


     

      สำนักพิมพ์ดาวกระดาษ

    “พี่พริมขา~ คุณอา บก. ให้หนูมาเรียกพี่พริมไปประชุมค่ะ บอกว่าเป็นเรื่องด่วนมาก!

    เด็กฝึกงานของ สำนักพิมพ์ดาวกระดาษซึ่งสวมเครื่องแบบนักศึกษาตามข้อตกลงของทางสำนักพิมพ์เดินตามโต๊ะต่างๆ มาส่งเอกสารให้กับห้องทำงานห้องอื่นๆ จนกระทั่งมาถึงห้องนักเขียนและเดินเข้ามายังโต๊ะด้านในสุด ซึ่งเป็นโต๊ะทำงานของ พิมพ์พิศาหรือ ‘พริม’ นักเขียนสาวพราวเสน่ห์

    หญิงสาวเขียนนิยายแนวโรมานซ์ เอกลักษณ์คือบทรักเร่าร้อนละลายใจที่มียอดขายสูงสุดประจำสำนักพิมพ์นี้

    ก่อนหน้าที่หญิงสาวจะกลายเป็นนักเขียนขวัญใจนักอ่านทั่วประเทศนั้น พิมพ์พิศาเคยนั่งทำงานให้กับสำนักพิมพ์ดาวกระดาษด้วยการอยู่กองบรรณาธิการทำหน้าที่ผู้ช่วยตรวจต้นฉบับนิยายมาก่อน ทำตั้งแต่สมัยที่เธอเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยฯใหม่ๆ ไม่เพียงแค่นั้นหญิงสาวยังคอยพิจารณางานเขียนต่างๆ ของนักเขียนที่ส่งต้นฉบับเข้ามาให้พิจารณากันเป็นว่าเล่นอีกด้วย

    ดังนั้นพอเริ่มมีประสบการณ์ในการอ่านมากเข้าๆ พิมพ์พิศาก็เริ่มจับงานเขียนในแนวที่ตนเองถนัดและชื่นชอบ หญิงสาวหาแนวทางและสำนวนของตัวเองอยู่พักใหญ่ทีเดียว จนในที่สุดผลงานชิ้นแรกก็ถูกตีพิมพ์และวางขายทั่วประเทศ แค่เพียงเล่มแรกที่ออกมาสู่สายตานักอ่านก็ได้ผลตอบรับดีเกินคาด ราวกับว่านี่คือพรสวรรค์ที่ติดตัวพิมพ์พิศามาตั้งแต่เกิด

    หลังจากนั้นพิมพ์พิศาก็กลายเป็นนักเขียนเต็มตัว และเป็นที่รู้จักในนามปาก ลูกไม้’ มีนักอ่านติดตามผลงานของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้จะไม่มีใครเคยเห็นหน้าค่าตาเธอมาก่อน แต่เพราะแรงสนับสนุนจากนักอ่านที่น่ารัก มีคนรักในตัวอักษรที่เธอเรียบเรียงเป็นเรื่องราวมากมาย นั่นจึงทำให้เส้นทางสายนักเขียนของพิมพ์พิศาสวยงามเสมอมา

    แต่คนอย่างพิมพ์พิศาไม่ได้มีดีแค่ผลงานเท่านั้น นอกจากจะประสบความสำเร็จในเรื่องการงานตั้งแต่อายุยังน้อย หญิงสาวก็ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมไปเสียทุกด้านอีกด้วย โดยเฉพาะรูปลักษณ์หน้าตาที่โดดเด่นสะกดทุกสายตาคนมอง จึงมีคนที่รู้จักพยายามพิชิตหัวใจสาวนักเขียนคนนี้มากมาย

    พิมพ์พิศาเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าอ่อนหวาน แต่ก็แอบซ่อนความเซ็กซี่เล็กๆ เอาไว้อย่างลงตัว เธอมีดวงตาเรียวสวย นัยน์ตาหวานชวนมอง ขนตายาวรับกับคิ้วโค้งได้รูป จมูกโด่งเรียวเล็กปลายรั้นเชิดนิดหน่อย ยิ่งมีปากกระจับสีระเรื่ออิ่ม ยิ่งทำให้ใบหน้าของพิมพ์พิศาดูงดงามราวกับจิตกรตั้งใจวาดผู้หญิงในฝันออกมาให้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้จริงๆ

    และไม่ใช่เพียงแค่หน้าตาที่สวยสะกดจิตใจผู้พบเห็น แต่รูปร่างกะทัดรัด ได้สัดส่วนในแบบที่ทำให้ผู้ชายหลายคนต้องมองเหลียวหลังจนคอเคล็ดนั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พิมพ์พิศาดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น

    แต่รูปร่างที่เย้ายวนยั่วใจของพิมพ์พิศาก็ขัดกับนิสัยของเธอโดยสิ้นเชิง หญิงสาวเป็นผู้หญิงเรียบร้อย วางตัวดี ไม่พูดเยอะ ทว่าถึงจะเรียบร้อยแต่เวลาทำงานก็คล่องแคล่ว และแอบซ่อนความเด็ดขาดเอาไว้ได้อย่างพอเหมาะพอดี

    "คุณอาบอกหรือเปล่าว่ามีเรื่องด่วนอะไร?"

    "ไม่ได้บอกนะคะ"

    “โอเคจ้ะ เดี๋ยวพี่ตามไปนะ ขอเคลียร์งานอีกแป๊บนึง” คนถูกตามยิ้มบางๆ ส่งคืนพร้อมคำพูดนิ่งเรียบแต่ละมุนละไม นั่นทำให้คนที่รอคำตอบอยู่ถึงกับยิ้มตามไปด้วย

    “ได้ค่ะพี่พริม งั้นเดี๋ยวหนูไปบอกคุณอา บก. ให้นะคะ”

    เมื่อพิมพ์พิศาพยักหน้าให้น้องฝึกงานเป็นเชิงรับรู้แล้ว เด็กสาวในชุดนักศึกษาก็รีบวิ่งออกจากห้องทำงานไปทันที

    พิมพ์พิศารีบเคลียร์งานที่ค้างอยู่อีกนิดหน่อย พร้อมกับเตรียมสมุดจดคู่ใจกับปากกาคู่บุญเข้าร่วมประชุมด้วย

    ปกติถ้ามีเรื่องด่วนมากคุณอาของเธอต้องต่อสายตรงมาแล้วนี่นา ไม่รู้เหมือนกันว่าครั้งนี้เป็นเรื่องอะไร?

    ถึงจะยังค้างคาใจ แต่ในที่สุดร่างระหงก็มาหยุดอยู่หน้าห้องประชุมขนาดเล็กของสำนักพิมพ์

    หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ เพื่อระบายความรู้สึกอัดอั้นที่มีอยู่ในใจ เธอยกมือเคาะประตูห้องสองสามครั้งตามมารยาท ก่อนจะผลักบานประตูและพาร่างของตัวเองเข้าไปนั่ง ซึ่งคนมีเรื่องด่วนจะคุยด้วย นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

    “น้องบอกว่าคุณอาเรียกพริมให้มาพบเพราะมีเรื่องด่วน เอ..หรือว่างานเขียนของพริมมีปัญหาคะ”

    หลังจากนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับ ‘ธิติ’ เจ้าของสำนักพิมพ์วัยเลขห้าตอนต้น หญิงสาวก็รีบเอ่ยถามทันทีด้วยความเป็นกังวล แต่คำตอบที่ได้กลับมาเป็นเพียงการส่ายหน้าเท่านั้น

    “ใจเย็นๆ ก่อนพริม งานเขียนของเราไม่มีปัญหาอะไรเลย เราเองก็รู้นี่นาว่าตัวเองน่ะคือสุดยอดนักเขียนนิยายแนวโรมานซ์ของสำนักพิมพ์นี้ แต่ที่อาเรียกมาประชุมเนี่ย...เห้อ...รออีกสองสาวก่อนแล้วกัน” ธิติบอกด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้มีท่าทีเคร่งเครียดใดๆ อีกทั้งใบหน้าขาวจัดยังระบายไปด้วยรอยยิ้มจางๆ ให้ได้เห็นอีก

    “นี่คุณอากำลังรอใครหรือคะ?”

    “ก็รอคุณมาร์คนดีกับหนูหวันน่ะสิ นี่อาให้น้องฝึกงานไปตามแล้วนะ ไม่รู้ทำอะไรกันอยู่ ช้ากันจัง” ธิติบ่นกระปอดกระแปด แต่ยังไม่ทันขาดคำก็ปรากฏร่างของสองสาวที่กำลังบ่นถึงอยู่พอดี

    อโนมา’ หรือ ‘มาร์’ เป็นนักเขียนสาวสายบู้ล้างผลาญ

    หญิงสาวถนัดงานเขียนนิยายประเภทสืบสวนสอบสวน ฝีมือการเขียนระดับเทพเพราะจินตนาการเรื่องสยองขวัญสุดล้ำเลิศจนไม่มีใครคาดถึง อีกทั้งนิสัยส่วนตัวก็ยังเป็นคนลุยๆ ออกห้าวหน่อยๆ เหมือนผู้ชาย แก่นแก้ว และกล้าได้กล้าเสีย ไม่ยอมใคร

    ซึ่งผิดกับรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นและหน้าตาที่อ่อนหวานจับใจที่ใครเห็นแล้วก็ต่างพากันลงความเห็นว่าเธอเหมือนตุ๊กตาน่าทะนุถนอม บุคลิกภายนอกเหมือนลูกคุณหนูในละครไม่มีผิด และเพราะความที่ทุกอย่างดูแตกต่างแต่ลงตัว เลยทำให้อโนมาเปี่ยมเสน่ห์จนหนุ่มๆ ทั้งหลายอยากจะเอาชนะใจแม่สาวนักเขียนสายบู้ล้างผลาญคนนี้เสียเหลือเกิน

    ส่วนสาวน้อยอีกคนที่เดินเคียงข้างอโนมาคือ ‘ดาหวัน’ หรือ ‘หวัน’ สาวน้อยโลกสวย

    หญิงสาวเป็นทั้งบิวตี้บล็อกเกอร์แล้วก็เป็นนักเขียนนิยายรักโรแมนติกแนวกุ๊กกิ๊ก ใสใสไฮสคูล เข้ากับบุคลิกของเธอ ดาหวันมีท่าทางแสนซน แก่นเซี้ยวเหมือนแมวน้อย กอปรกับหน้าตาคล้ายตัวการ์ตูนในหน้าปกหนังสือนิยายวัยรุ่น จึงทำให้ดาหวันกลายเป็นขวัญใจของคนในสำนักพิมพ์นี้ไปเรียบร้อยแล้ว

    “โถๆ แม่คุณแม่ทูนหัวทั้งสองคน. ผมให้เวลาพวกคุณห้านาทีนะครับไม่ใช่ห้าชั่วโมง แล้วนี่ไปไหนกันมาล่ะ อย่าบอกนะว่าอู้งานไปซื้อขนมหน้าออฟฟิศอีก” ธิติบ่นยาวเหยียดจนสองสาวที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องยกมืออุดหูแทบไม่ทัน

    “แล้วคุณอา บก. จะเอายังไงอีกล่ะคะ เราก็มาแล้วนี่ไง เคยได้ยินสำนวนไทยที่เขาว่า...มาช้าดีกว่าไม่มาไหมคะ?” ถ้อยคำยอกย้อนเจ็บแสบอย่างนี้คงเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากอโนมา สาวห้าวประจำสำนักพิมพ์ คำพูดร้อนแรงของเธอทำเอาธิติที่กำลังทำท่าจะบ่นต่อถึงกับอ้าปากค้างมองตาปริบๆ กันเลย

    “นี่มาร์! ไม่ต้องมาย้อนผมเลยนะ มาแล้วก็รีบๆ นั่งลง ผมมีเรื่องจะคุยกับพวกคุณสามคน และไอถุงขนมในมือนี่วางก่อนก็ได้ ผมไม่แย่งคุณกินหรอกน่า” ธิติบ่นอีกรอบพลางหันไปบอกดาหวันที่ยังถือถุงขนมเต็มไม้เต็มมือ

    เห้อ  พนักงานที่นี่ช่างมีอิสระกันเสียจริง

    “ขอโทษนะคะคุณอา บก. แต่ร้านนี้เพิ่งมาเปิดใหม่หน้าสำนักพิมพ์เรานี่เอง ว่ากันว่าเจ้าของร้านเคยเป็นเชฟของโรงแรมดัง แค่หน้าตาของขนมเนี่ยมันก็ทำให้หวันอดใจไม่ไหวแล้ว ขนมก็หน้าตาดี๊ดี คนขายก็หล้อหล่อ รสชาตินี่คงจะตราตรึงลิ้นไม่น้อย”

    “ให้มันได้อย่างนี้สิ นี่ถ้าไม่ใช่ยอดฝีมือของสำนักพิมพ์ล่ะก็ บ.ก. อย่างผมคงต้องหามาตรการทำโทษพวกคุณบ้าง เพราะตามใจพวกคุณนี่ไง พนักงานคนอื่นถึงได้ด่าผมว่าลำเอียง”

    “จะบอกว่าพวกเราสามคนเป็นลูกรักใช่ไหมคะคุณอา บ.ก. ขา”  อโนมายิ้มกริ่มอย่างทะเล้น

    “ก็ใช่น่ะสิ”  ธิติอดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่

    แต่เชื่อเหอะว่าถึงจะดุไปเท่าไหร่ เขาก็ไม่สามารถทำอะไรสามสาวตรงหน้าได้ แม้แต่ทำหนังสือตักเตือนก็ยังทำไม่ได้เลย เพราะอะไรน่ะเหรอ?....เพราะเขากลัวฤทธิ์เดชแม่สาวห้าวอย่างอโนมาจะมาแหกอกถึงห้องทำงานน่ะสิ ปกครองใครก็ปกครองได้ แต่สำหรับสามสาว มันเสียการปกครองไปตั้งแต่ที่พวกเธอก้าวเข้ามาทำงานที่นี่แล้ว

    อีกอย่างพิมพ์พิศาก็เป็นคนกันเอง เธอเป็นลูกสาวของหุ้นส่วนใหญ่ซึ่งเป็นรุ่นพี่สมัยเรียน ธิติเองเอ็นดูเธอเหมือนหลานคนหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องยกเว้นกฎเหล็กในบริษัทให้กับสามสาวนี้ไปโดยปริยาย

    “พริมขอโทษแทนน้องๆ ด้วยนะคะคุณอา แต่คุณอาก็รู้ว่างานของพวกเราต้องใช้แรงบันดาลใจสูงมาก เราบังคับน้องมากไปงานก็ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ ถ้างานเสร็จทันแล้วมีคุณภาพ พริมว่าก็ปล่อยน้องๆ ไปเถอะค่ะ”

    “อารู้แล้วน่า ไม่ต้องออกโรงปกป้องกันเลย” ธิติไม่มีทางเถียงสู้สามสาวได้เลยจริงๆ สุดท้ายก็คงต้องปล่อยไปตามเคย มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ผมมีโปรเจกต์ใหม่ให้พวกคุณสามคนทำ เพิ่งคิดได้สดๆ ร้อนๆ”

    “โปรเจกต์อะไรเหรอคะ ถ้าให้ไปเสี่ยงตายหวันไม่ทำนะ” ดาหวันรีบออกตัว

    “งั้นพี่ทำเอง ชอบนักเรื่องแบบนี้คันไม้คันมืออยากถือปืนมานาน ได้ลงสนามจริงบ้างคงดี” อโนมาสาวสายบู้ขันอาสาออกรบพลางขยับท่าทางให้ดูทะมัดทะแมงขึ้น ก่อนจะทำท่าถือปืนประกอบ เล็ง และเหนี่ยวไก ปัง!

    “เดี๋ยวได้เหนี่ยวไกปืนสมใจแน่คุณนายมาร์แน่ เพราะผมจะให้คุณทำงานที่เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้โดยเฉพาะเลย” ธิติมองสาวห้าวตรงหน้าด้วยความระอาใจนิดหน่อย

    “งานอะไรเหรอคะ มาร์ตื่นเต้นจนตัวสั่นเลย” แม่สาวนักเขียนจอมห้าวยิ้มจนนัยน์ตาเปล่งประกายระยับ ฉายแววความร้ายออกมาตามประสาคนไม่ยอมคน

    “ผมจะให้คุณทำงานร่วมกับตำรวจน่ะสิ ความจริงจะให้แต่งนิยายเรื่องใหม่ที่พระเอกเป็นตำรวจต่างหาก” ธิติได้ทีสั่งการแกมบังคับหญิงสาวอย่างใช้อำนาจเข้าข่ม และไอที่ต้องบังคับกันเพราะรู้ดีว่าหญิงสาวมีปมเรื่องข้าราชการไม่น้อย ที่เห็นจะเกลียดเข้าไส้สุดๆ ก็อาชีพตำรวจนี่แหละ

    “จะบ้าเหรอ! คุณอาก็รู้ว่ามาร์เกลียดตำรวจจะตายไป ไม่ชอบ! ไม่เอานะ...อย่าให้มาร์ไปพัวพันกับคนพวกนั้นเลย..ขอร้องแหละ  ขืนเข้าไปยุ่งด้วยมีหวังธุรกิจที่บ้านได้โดนหางเลขอย่างไม่ต้องสงสัยแน่ อีกอย่างขอเตือนเอาไว้ก่อนเลยว่าถ้าธุรกิจที่บ้านมาร์ล่มไม่เป็นท่า ที่นี่ก็จะโดนคุณป๋ามาถล่มเละเหมือนกัน” ได้ทีแม่เสือสาวก็ทั้งตวาด ทั้งยื่นคำขู่เอาไว้เสร็จสรรพ

    “โถ่..มาร์ ใจเย็นๆ ฟังคุณอาพูดให้จบก่อนเถอะนะ” พิมพ์พิศาจับแขนรุ่นน้องร่วมสายอาชีพเดียวกัน ยึดเอาไว้แน่นหนาเพื่อให้อีกฝ่ายหยุดฟังและหยุดโวยวาย

    “ดูเอาเถอะนะพริม นี่ตกลงใครเป็นเจ้านาย ใครเป็นลูกจ้างกันแน่ฮึ” ธิติแทบกุมขมับระงับอาการปวดประสาท

    แต่จะทำเช่นไรได้ ในเมื่อเขาอยากให้อโนมาทำงานที่พระเอกมีคาแรคเตอร์ชัดเจนจริงๆ และอยากให้คนในสังคมเปลี่ยนมุมมองกับอาชีพตำรวจใหม่ ธิติเลยไม่อยากเถียงให้เสียความ ยอมให้อีกฝ่ายอาละวาดไปก่อน

    มาร์ เรื่องนี้ผมอยากให้พระเอกของคุณเป็นตำรวจและนางเอกก็เป็นสายสืบที่ปลอมตัวเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรรม ผมคิดพล็อตเรื่องคร่าวๆ เอาไว้ประมาณนี้เพราะนิยายประเภทนี้ค่อนข้างซับซ้อนซ่อนปม แต่ฝีมือการใส่สีตีไข่ทำให้เนื้อเรื่องเข้มข้นน่ะ คุณเก่งอยู่แล้ว”

    “เลยจะให้มาร์เข้าไปใกล้กับคนพวกนั้นเพื่อหลอกเอาข้อมูลมาแต่งนิยายล่ะสิ” อโนมายิ้มหยันในความคิดของเจ้านายตัวเองที่มีแต่ได้กับได้ ในขณะที่ดูเหมือนว่าเธอนั้นเสียเปรียบทุกประตู

    “มันจะไปยากอะไร ในเมื่อบ้านคุณนายมาร์เองก็พัวพันกับพวกเขาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ คุณเองก็กำลังหลอกใช้คนระดับสูงเป็นเครื่องมือในการหากินนี่นา ดูไม่ใช่งานยากเกินเอื้อมนะ” ธิติหรี่ตาลงอย่างจับผิดลูกน้อง แต่คำพูดแกมประชดก็ทำให้อโนมาตัดสินใจลำบากอยู่ดี

    ทางบ้านของอโนมาทำธุรกิจสีเทา ก็อย่างว่าแหละ หญิงสาวเลยจงใจหว่านเสน่ห์ใส่คนพวกนั้นเพื่อการงานที่ราบรื่น ไม่ได้คิดสานสัมพันธ์กันจริงจังเลย

    “โธ่ เปลี่ยนไปเขียนเรื่องที่พระเอกเป็นเจ้าพ่ออะไรทำนองนี้ไม่ได้เหรอคะ เผื่อจะได้พ่วงธุรกิจที่บ้านไปด้วยเลย อันนั้นง่ายกว่าอีก” หญิงสาวต่อรองในขณะที่ธิติทำหน้าเซ็งสุดขีด

    “อย่าอ้อนซะให้ยากเลย นี่มันเป็นงาน และที่ผมอยากให้พระเอกของคุณเป็นตำรวจก็เพราะว่าอยากจะช่วยลบอคติในใจคุณนะ งานเขียนคุณน่ะมีจำนวนสิบเล่มที่วางแผง ผู้ร้ายเป็นตำรวจไปแล้วเจ็ด แถมเลวได้ใจทั้งนั้น ถามจริง...นี่คุณกะจะล้างสมองนักอ่านของตัวเองให้เกลียดตำรวจไปด้วยหรือยังไง อ่อ..แล้วก็ไม่ต้องเถียงนะว่าทำไมถึงมีแต่แฟนคลับส่งจดหมายมาชื่นชมคุณ จะบอกให้รู้ไว้เลยว่าไอนิสัยดุเหมือนน้องหมา ตั้งท่าจะแหกอกประชาชีของตัวเองนั่นแหละ เลยทำให้ฝ่ายที่จัดการเรื่องนี้เขาไม่กล้าเอาจดหมายที่แฟนคลับถามถึงอคติที่มีในตัวนักเขียนไปให้คุณอ่าน ใครๆ ก็กลัวโดนคุณจับหักคอตายด้วยกันทั้งนั้น”

    “เหนื่อยหรือยังคะคุณอา นี่ค่ะน้ำ พักหายใจก่อน” ดาหวันเห็นว่าธิติร่ายยาวกับเรื่องอคติในใจของอโนมาจนไม่มีจังหวะหายใจ เธอเลยกลัวว่าเจ้านายจะเหนื่อย ถึงได้ยื่นน้ำที่เพิ่งซื้อให้ดื่ม ซึ่งธิติเองก็รับแล้วดื่มทันทีเหมือนต้องการพักยก

    “งั้นประชุมเสร็จคุณอาก็บอกให้เขายกจดหมายที่เขียนด่ามาร์มาได้เลย เอาไปไว้ที่โต๊ะของมาร์ก็ได้ รับรองว่ามาร์จะไม่แหกอกคนพวกนั้น” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงประชดประชัน

    “มาร์เราฟังพี่นะ ในฐานะที่เราก็เป็นสื่อ เราเองควรนำเสนอความจริงให้ถูกต้องแม้มันจะเพื่อความบันเทิงก็ตาม ควรมีความเป็นกลางบ้าง ไม่ใช่เขียนเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเพื่อความสะใจของตัวเอง” พิมพ์พิศาแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆ ละมุนละไม ฟังแล้วเย็นใจ เหมือนสายน้ำเย็นที่เอามาราดรดลงบนกองเพลิงไม่มีผิด

    “เห็นไหม พี่พริมของพวกเธอยังเห็นด้วยเลย” ธิติว่าพลางดื่มน้ำต่อเหมือนกับต้องการระงับอารมณ์ที่ยังไม่หายร้อนระอุ และที่เรียกมาเนี่ยก็เพราะอยากให้นิยายเป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย”

    “นี่คุณอาจะให้เราแต่งเป็น Set ใช่ไหมคะ?ดาหวันถามพลางทำตาใสซื่อใส่

    “ก็ใช่น่ะสิ ไม่งั้นจะเรียกมาคุยด้วยกันทั้งหมดทำไม”

    “แต่นิยายที่เราเขียนมันคนละแนวกันเลยนะคะ คนละสไตล์เลย หวันว่ามันดูเข้ากันไม่ได้” ดาหวันออกความเห็น

    “ก็เพราะมันยากและดูแตกต่างนี่แหละเลยอยากให้ทำร่วมกัน คนอ่านเขาก็ต้องการความแปลกใหม่ มีเนื้อหาสาระและครบรสชาติ จะให้มาหวานอย่างเดียวมันก็เลี่ยนเกิน หรือจะบู้สนั่นสืบสวนอย่างเดียวก็หนักไป เลยหวานบ้าง เผ็ดบ้าง จะได้ไม่เบื่อไง”

    “แล้วคุณอาอยากให้ของพริมออกมาแนวไหนเหรอคะ” พิมพ์พิศาอดเป็นห่วงแนวทางของตัวเองไม่ได้

    หญิงสาวกังวลว่างานเขียนของตัวเองจะไม่เข้าพวกจนทำให้งานออกมาเละไม่เป็นท่า เนื่องจากส่วนตัวแล้วเธอถนัดเขียนแต่แนวโรมานซ์ นิยายส่วนใหญ่ของเธอพระเอกก็อยู่แต่ในป่าในดอยหรือเทือกสวนไร่นาเป็นหลัก การหาแนวทางของตนก่อนน่าจะดีกว่าการตีความไปเอง

    “โอเค อย่างนั้นจะแจกงานให้ฟังนะ ของมาร์อย่างที่รู้กันว่า...”

    “พระเอกเป็นตำรวจ นางเอกเป็นโจร” อโนมากอดอกพูดแทรกขึ้นแกมค่อนขอด สายตามองบนอย่างขัดใจ

    “นางเอกเป็นสายสืบ ไม่ใช่โจรและก็หยุดเหลือกตาใส่กันสักที!” ธิติไม่วายหันไปเถียงกับอโนมาอีกรอบ ส่วนของหวันจากที่เคยเขียนแนวรักไฮสคูลใสๆ ก็เปลี่ยนหน่อยแล้วกันถือว่าพิสูจน์ความสามารถตัวเองด้วย”

    “ได้ค่ะ” ดาหวันรับคำสีหน้าสดใสระคนตื่นเต้น

    “ของคุณพระเอกเป็นเชฟ ส่วนนางเอกเป็นเน็ตไอดอล พอไหวไหม?”

    “โหว ลำเอียงสุดฤทธิ์เลย งานน้องอย่างง่าย แถมเป็นทางถนัดของยายหวันอีก ได้อยู่ใกล้เชฟสุดหล่อ แล้วยังได้กินขนมอร่อยๆ ด้วย คุณอายุติธรรมมากค่ะ..มาร์พูดเลย!” อโนมาเบะปากอย่างไม่พอใจทันทีที่ได้ยินงานของดาหวัน ซึ่งเธอคิดว่าทั้งง่ายและสบายกว่าของตนเองมาก

    แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ได้อิจฉาจริงจังเพราะรู้ดีว่าดาหวันเป็นผู้หญิงหวานๆ ซุกซนเหมือนแมว ครั้นจะให้มาหาข้อมูลเสี่ยงอันตรายแบบเธอ มันก็คงไม่ใช่

    “อย่าบ่นได้ไหมมาร์ งานของดาหวันอาจจะหินกว่าคุณอีกนะ” พอพูดมาถึงตรงนี้ธิติก็ขมวดคิ้วยุ่งราวกับมีเรื่องหนักใจ

    “มีอะไรหนักใจเหรอคะคุณอา บ.ก. คนดี” ดาหวันเอ่ยถามด้วยความสงสัย

    “คืองี้นะหวัน เชฟที่ผมอยากให้คุณไปหาข้อมูลจากเขาน่ะ เขาเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมาก  อารมณ์ประมาณว่าศิลปินสุดๆ ไม่ยอมให้ใครเข้าถึงง่ายๆ แถมเอ่อ...ผมไม่มั่นใจว่าเขาเป็นผู้ชายแท้หรือเปล่านะ เพราะจากแหล่งข่าวที่ให้ไปสืบข้อมูลมา บอกว่าเขาไม่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงและแฟนเป็นผู้ชายก็ไม่เคยมีเหมือนกัน ค่อนข้างเป็นคนลึกลับ”

    “แล้วอย่างนี้เราจะขอสัมภาษณ์เอาข้อมูลจากเขาได้เหรอคะ ฟังแล้วเขาดูเป็นคนแปลกๆ นะคะ” พิมพ์พิศาเอ่ยถามแทนดาหวันและอดแปลกใจไม่ได้ ใจหนึ่งก็เป็นห่วงความปลอดภัยของน้องด้วย

    “อาก็ไม่ได้ให้หวันไปสัมภาษณ์ซะหน่อย นี่กะจะให้ปลอมตัวไปเรียนทำขนมกับเขานั่นแหละ ตอนนี้เชฟกำลังเปิดรับสมัครนักเรียนสำหรับคนที่สนใจทำขนมจริงๆ รับคนเดียวนะหวัน เอาข้อมูลเท่าที่ได้ก็พอ ไม่ต้องเยอะมาก มานั่งมโนต่อก็ได้ พอเห็นท่าไม่ดีก็ชิ่งหนีมาเลย”

    “เดี๋ยวนะคะคุณอา ถ้ามันน่ากลัวขนาดนั้นพริมว่าคุณอาหาเชฟคนอื่นให้น้องสัมภาษณ์แทนดีกว่าไหมคะ” พิมพ์พิศายื่นข้อเสนอด้วยความเป็นห่วงว่าดาหวันจะเจอศึกใหญ่ที่ผู้หญิงใสซื่อตัวเล็กๆ จะไม่สามารถรับมือได้

    “โธ่พริม อาก็อยากทำแบบนั้นอยู่นะ แต่คนนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเชฟทำขนมมือหนึ่งเลย เพิ่งบินกลับมาจากต่างประเทศด้วย และฝีมือทำขนมก็เลื่องลือระบือไกลมาก”

    “เรื่องมากแท้เชียว ฟังดูแล้วประหลาดชะมัด พิลึกคน” อโนมาบ่น

    “แต่ถ้าเข้าถึงยากขนาดนั้น หวันก็ไม่มั่นใจนะคะว่าจะดึงข้อมูลออกมาได้มากน้อยแค่ไหน” ดาหวันแสดงท่าทางกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งธิติเองก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

    “ของหวันผ่านนะ รับงานแล้ว อาจะได้ส่งไม้ต่อมาให้พริม”

    “โอเคค่ะ”

    พอดาหวันรับคำ ธิติก็หันมามองหลานสาว ก่อนถอนหายใจออกมา

    “เราไม่ต้องปลอมตัวให้ยุ่งยากเลยพริม” ธิติอธิบายงานต่อเพื่อความกระชับและรวดเร็ว ทว่าสีหน้ากลับมีความวิตก “แต่อาอยากให้เรา..เอ่อ...ลองมีแฟนหรือเปิดใจคบหาใครดูสักครั้งนึง”

    “แม่เจ้า!” ทั้งสองสาวที่นั่งฟังอยู่อุทานออกมาพร้อมกัน แต่พิมพ์พิศากลับเงียบ หน้าเปลี่ยนสีไป

    อีกแล้ว วกเข้าเรื่องให้เธอหาแฟนอีกจนได้!

    “งานเอาชนะใจตัวเอง หินโคตร..” อโนมาหันไปกระซิบกระซาบกับดาหวันเสียงเบาและน้องเล็กสุดก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

    “แม่โทรมาขอร้องคุณอารึเปล่าคะ” หญิงสาวมองธิติด้วยสายตาไร้ความรู้สึก แม่คงอยากให้คุณอาช่วยเกลี้ยกล่อมพริมอีกแรงใช่รึเปล่า” พิมพ์พิศารู้ดีว่าธิติคงไม่กล้าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอมากเกินความพอดีแน่ ถ้าไม่ใช่เพราะ คำสั่งของมารดาที่ใช้อำนาจสั่งการธิติอีกที

    ใช่! ธิติและมารดาของเธอสนิทกันมานาน มารดาเธอเป็นรุ่นพี่ของธิติตั้งแต่สมัยเรียนเห็นจะได้

    พิมพ์พิศาเองก็เคารพธิติเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เธอเลยเรียกอีกฝ่ายว่า 'คุณอาตั้งแต่จำความได้ กระทั่งบิดาเธอเสียไป ธิติเองก็เข้ามามีบทบาทประหนึ่งพ่อของเธออีกคน

    ในบางครั้ง หญิงสาวก็แอบสงสัยในความสัมพันธ์ของมารดากับธิติเหมือนกัน แต่สุดท้ายความเคลือบแคลงเหล่านั้นก็ถูกทำลายหายไป

    “ฟังอานะพริม แม่เป็นห่วงเรามาก เราเองก็รู้นี่ว่าแม่อยากให้พริมหาใครสักคนมาดูแลหรือไม่ก็อยู่เป็นเพื่อนก็ยังดี” ธิติมองหญิงสาวที่รู้จักตรงหน้าด้วยสายตาไม่เข้าใจ ความรักอาจเป็นเรื่องหอมหวานสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับหลานสาวคนนี้แล้วมันคงเป็นเหมือนยาขมเลยทีเดียว

    ไม่ก็..ยาพิษ!

    “ถ้าพริมเขียนนิยายขาดอรรถรส ไร้อารมณ์ของตัวละครจนคนอ่านไม่คล้อยตาม ในฐานะที่คุณอาเป็น บ.ก. เป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ ก็บอกพริมมาตามตรงได้เลยนะคะว่างานมันแย่มากแค่ไหน พริมรับได้ แต่ถ้าที่คุณอาพูดเพราะเป็นรุ่นน้องของแม่และรับคำสั่งหรือการขอร้องอ้อนวอนใดๆ มาอีกทีก็ตาม พริมขอไม่ทำและไม่รับปากว่าจะทำค่ะ”

    “พริม นี่อาไม่รู้หรอกนะว่าเรามีปมอะไรกับเรื่องความรักนักหนา แต่ถ้าพริมลองมีแฟนหรือลองคบหากับใครดูบ้างมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่ ถือซะว่ามันเป็นงานก็แล้วกัน”

    “บอกแล้วไงคะถ้าเป็นงาน พริมก็ไม่รับปาก ถอดพริมออกจากโปรเจกต์นี้ไปเลยก็ได้”

    “หรือว่าเราตั้งสเป๊คชายในฝันไว้สูงอะไรทำนองนี้ ให้อาลองช่วยหาดีไหม” ธิติยื่นข้อเสนอ ไม่สนใจอารมณ์ขุ่นมัวของหลานสาวเลย

    “แม่ทุ่มงบให้คุณอาเท่าเหรอไหร่คะ หนึ่งล้านหรือสิบล้าน คุณอาถึงกล้าลงทุนกับพริม” สายตาเย็นชาของพิมพ์พิศามองสบตาธิติอย่างไม่ยอมลดละ บอกตามตรงว่างานนี้เธออยากชนะแม่ตัวเอง

    ต่อให้เอาช้างมาฉุด เธอก็ไม่ยอมมีแฟนหรอก

    ธิติหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยที่หญิงสาวรู้ทันเขา จริงอยู่ว่าเขารับงบมาจาก ญากานดา’ มารดาของพิมพ์พิศา แต่ญากานดาเองก็เป็นหุ้นส่วนในบริษัทเขาครึ่งหนึ่งเหมือนกัน ที่สำคัญยังเป็นรุ่นพี่ที่เขาเคารพรักมาก ที่ธิติยอมร่วมมือกับญากานดาก็เพราะอยากเห็นพิมพ์พิศามีความสุขต่างหาก ไม่ใช่หวังแต่ผลประโยชน์อย่างเดียว

    “เอาเป็นว่าข้อจำกัดของเราคือหาแฟนให้ได้ แนวเขียนก็รักโรแมนติก โรมานซ์อย่างที่เคยเขียน จะเขียนแบบไหนก็ตามสบายเลย แต่อาอยากให้งานออกมาเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่หวือหวา เอาแบบเรียบง่ายแต่ประทับใจคนอ่าน ส่วนเรื่องชื่อตัวละครไม่จำกัดความคิดพวกคุณหรอกนะ เอาที่ฟังแล้วอยู่บนความเป็นจริงหน่อยไม่ใช่ชื่อไม่เหมือนคน และเรื่องที่พวกคุณจะทำให้เนื้อเรื่องมันสัมพันธ์กันยังไงเนี่ยก็เชิญคุยกันตามสบาย..ผมไม่ห้าม จะทำไปกินไปก็ตามใจ ส่วนกำหนดส่ง ผมให้เวลาพวกคุณสี่เดือน เอาให้ทันงานสัปดาห์หนังสือก็แล้วกัน หมดเรื่องจะคุยแล้ว...ปิดปะชุม!

    พูดจบธิติก็ลุกพรวดออกจากห้องไป เขาไม่อยากเห็นหน้าซังกะตายของอโนมา ไม่อยากเห็นสายตาแกมขอร้องของดาหวัน และสายตาหมดหวังของพิมพ์พิศา

    แค่เท่านี้ ธิติก็ลำบากใจมากพอแล้ว..


     

    พริม พิมพ์พิศา

    แฟนเพจ 'อสรพิษ' เอาไว้ให้ทุกคนติดตาม
    แจ้งข่าวการอัพเดทนิยายที่นี่ เร็วทุกสถานการณ์ 
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×