คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Kapitel 00 : เรื่องมันมีอยู่ว่า...
“ฮัลโหลครับ”
เสียงหวานกรอกบอกปลายสายพร้อมเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่แสดงถึงความรำคาญอย่างไม่เกรงใจคนฟัง
(แบคฮยอน!! นายอยู่ไหน!! อีกสิบนาทีก็จะเริ่มถ่ายทำฉากต่อไปกันแล้วน่ะ)
“แล้วไงละครับ?” แบคฮยอนยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้านอะไรกับเสียงเป็นเดือดเป็นร้อนของเมเนเจอร์หนุ่ม
แล้วกดเปิดลำโพงตั้งโทรศัพท์ที่มีตราผลไม้โดนกัดชื่อดังไว้บนโต๊ะพลางตะไบเล็บอย่างที่ทำก่อนหน้านี้
บางทีพี่มินซอกก็น่ารำคาญเกินไป
คนน่ารำคาญก็ไม่จำเป็นต้องได้รับความสนใจไม่ใช่หรอ?
(แบค! อย่ามากวนพี่น่ะ!! ประธานจางแทบจะเรียกตัวนายไปแล้วฆ่าหั่นศพทิ้งอยู่แล้ว
ไม่รู้หรือไงห้ะ?!)
“ก็เรื่องของประธานจางดิพี่” ร่างเล็กยกฝ่ามือเรียวขึ้นมาจนถึงระดับสายตา
แล้วเป่าเศษเล็บที่โดนขัดออกจนเรียบสวยเข้ากับเรียวนิ้วของเขาเสียจริง
(หึ่มมม แบค! นายเป็นซุปตาร์นะเว้ย!
เลิกทำแบบนี้สักที) แบคฮยอนกลอกตาไปมาแล้วพูดใยตามเมเนเจอร์ของตัวเองแบบไม่มีเสียง
ไม่ ไม่ ไม่
ไม่เด็ดขาดเว้ยอีพี่มินซอก! ก็รู้หรอกว่าตัวเองเป็นคนดัง
...แต่พี่เว้ย เป็นคนดังก็ส่วนของการเป็นคนดังดิ
แต่โดนผู้กำกับลวนลามตลอดเวลาเยี่ยงคนขายบริการนี่ยังไง?
เกี่ยวอะไรกับการเป็นคนดัง? ศักดิ์ศรีกูละพี่!
“ก็แบคไม่ได้รับงานนี้เองนี่หว่าพี่ แบคก็บอกพี่มินซอกแต่แรกแล้วไม่ใช่อ่อ?
ว่าแบคไม่อยากทำงานร่วมกับอีผู้กำกับนี่ตลอดชีวิต”
(เอ้า! แล้วจะให้พี่ทำยังไง? พี่ไม่ใช่คนรับงานนี้
ก็พี่บอกแล้วว่าพี่ให้อี้ฟานมันรับให้ พี่ไม่ว่างอะวันนั้น เข้าใจพี่ด้วยสิแบค)
“ไม่รู้อะ! มันผิดที่พี่กับพี่อี้ฟานนั่นแหละ!” นักแสดงตัวเล็กบุ้ยปาก หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาปิดเสียงลำโพง
แล้วแนบหูตามปกติเวลาที่คนเขาคุยโทรศัพท์กัน
เหอะ! แค่เอาเรื่องนี้มาพูดพี่มินซอกแกก็คงไม่บ่นมากแล้วแหละ
คงจะรู้สึกผิดอยู่ลึกลึกละสิท่า หึ!
(ก็ปิดกล้องวันนี้แล้วนี้นา
ทนไปอีกแค่วันเดียวไม่ได้หรอ?)
“ยิ่งวันสุดท้ายนี้แหละพี่
ไอห่าผู้กำกับนั่นคงจะทบต้นทบดอกแบคแน่!
จากที่แค่แต๊ะอั๋ง จับเอว
มันจะเปลี่ยนเป็นจับสะโพกหรืออาจจะปลุกปล้ำแบคไปเลยก็ได้อะพี่มินซอก แบคมั่นใจ!” พอพูดถึงแล้วก็โคตรอารมณ์เสีย ไม่ใช่ว่าบยอนแบคฮยอนไม่เคยร่วมงานกับผู้กำกับคนนี้มาก่อน
แค่งานก่อนหน้านี้ก็โดนจับต้องไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว อุตส่าห์บอกพี่มินซอกแล้วแท้ๆว่าจะไม่รับงานกับผู้กำกับคนนี้อีก
แล้วไง?
พี่อี้ฟานก็มาฟาดไปแบบเงียบๆเลยจ้ะ ไม่ถงถามสุขภาพคนแสดงซ๊ากกกคำ
คนตายคือกูปะ?แล้วพอเล่าให้พี่แกฟังนะ พี่แกว่าอะไรรู้ปะ?
“โหยย อย่าคิดมากเลยแบค
ถ่ายไม่กี่ตอนก็เสร็จแล้ว พี่ขอโทษละกัน แต่พี่ก็ร่วมงานกับผู้กำกับ ‘ซีวอน’ เขาบ่อยน่ะ เขาก็ออกจะทำงานดีมีแต่คนชื่นชม
พี่ว่าเขาก็ดี”
“ดีที่หน้าพี่?”
“ปากแบบนี้สรุปใครเป็นพี่เป็นน้องเนี่ย”
“ก็พี่ผิดนี่หว่า ไม่ต้องพูดมากเลยอู๋อี้ฟาน!!”
“เออน่า ยังไงก็ทนทนไปหน่อยละกัน ไฟท์ติ้งแบค”โถถถถ อีซั๊ซพี่ฟานนนน เป็นกูไหมล๊า เป็นกูม้ายยยยยยย
แล้วไง? เริ่มวันแรกพอย่างเข้ากองถ่ายปุ๊ปอีผู้กำกับบ้ากามก็วิ่งหางดุ๊กดิ๊กเข้าใส่กูเลยจ้า
แถมตอนนั่งอ่านบทอยู่ก็ชอบมานวดที่ไหล่ นวดแบบไหนไม่รู้อยู่ๆดีดีก็เลื้อยเข้าไปในเสื้อซะงั้น
นี้ถ้าพี่มินซอกไม่มาช่วยไว้นี่ระวังเป็นศพไปซะก่อนน่ะอีห่าน
เดี๋ยวมึงเจอดี เดี๊ยว!
(ปิดกล้องแล้วแบค พี่ขอร้องทนหน่อยนะนะ
เสร็จจากเรื่องนี้พี่จะไปขอร้องท่านประธานว่าให้แบคหยุดสัก 2 วันเลยเอ้า!) พอได้ยินคำว่า ‘วันหยุด’ แบคฮยอนก็ถึงกับหูผึ่ง
ว่าก็ว่าเถ๊อะ
วันหยุดสำหรับไอดอลมันไม่ได้หากันได้ง่ายๆน่ะ ยิ่งบยอนแบคฮยอนโคตรบูมอะในเวลานี้
แทบจะเรียกได้ว่าทำงานตลอด24ชั่วโมงเลยก็ยังได้
“สัญญาน่ะพี่!”
(เออ ไม่รับปากแต่จะพยายายาม...)
“รับปากมาก่อนดิ!”
(ก็บอกว่าจะพยายามงายยยย)
“รับปากมา ไม่งั้นแบคไม่ไป”
(เห้อออ เออๆ พี่รับปาก...)
“อีกสิบนาทีถึง ติ๊ด!”
นักแสดงหนุ่มหน้าสวยพุ่งทะยานใส่ห้องน้ำหรูทันทีที่ตัดสายเมเนอร์เจอร์ของตัวเองไป
คุ้ม ไม่คุ้มไม่รู้กับการที่ต้องไปให้ไอผู้กำกับหน้าหล่อแต่หื่นกามลวนลามเป็นวันสุดท้าย รู้แต่ว่าวันหยุดคือสิ่งที่ Me ต้องการรรรร
“คัท! โอเค ผ่านครับทุกโคนนนนนน”
“เฮ! วู๊ววววววว” ทันทีที่ผู้กำกับสั่งคัท นักแสดงและทีมงานถึงกับตะโกนโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจที่งานอันแสนยาวนานสำเร็จลงด้วยดี
แน่นอนว่าหนึ่งในเสียงนั้นต้องมีเสียงของ ‘บยอน แบคฮยอน’
ผสมโรงอยู่ด้วย
อาจจะใช่ที่เขาดีใจเพราะงานเสร็จสักที
แต่สำคัญอีกอย่างนึงคือวันนี้ผู้กำกับบ้านั่นไม่แม้แต่จะแตะต้องเขาสักนิด
ขนาดเรื่องการสอนแอคติ้งหรืออะไรก็ตามแต่ที่ผู้กำกับต้องช่วยเหลือนักแสดงเฮียแกก็ไม่ทำ
แล้วส่งคนอื่นมาทำหน้าที่แทนซะงั้น นี่ก็ไม่รู้ว่ากลัวอะไรเขานักหนา คนกลัวนี้ควรจะเป็นเขาไม่ใช่เรอะ?
ถึงอย่างงั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่
เพราะนี้คือสิ่งที่บยอนแบคฮยอนประสงค์อย่างยิ่งมาตั้งแต่วันแรกของการถ่ายทำ
แถมยังได้วันหยุดอีก 2 วันอีก เยี่ยมขนาดไหนคิดดู หึ...อยากได้อะไรก็ได้
ชีวิตแบคฮยอนนี่มันช่างดีจริงๆ
“ทุกคนครับ
วันนี้ผมขออนุญาตเลี้ยงตอบแทนพวกคุณทุกคนที่ทำงานหนักมาตลอดหลายเดือน...มาเลี้ยงปิดกล้องกันเถอะครับ”
ผู้กำกับร่างหนาที่มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรนักเนื่องจากเพิ่งผ่านการทำงานแสนยาวนานและหนักหน่วง
แต่กระนั้นเขาก็ยังคงพูดกับทีมงานและนักแสดงคนอื่นด้วยรอยยิ้ม
“วู๊ววววววว”
“แล้วเจอกันที่ผับSBราวๆสามทุ่มน่ะครับทุกคน...คุณบยอนครับ
มาให้ได้นะครับ”
ผู้กำกับซีวอนเรียกร่างเล็กที่เกือบจะเดินหนีเพราะทนเห็นสายตาแทะโลมของเขาไม่ได้
จนแบคฮยอนต้องหยุดชะงักกึกฟังประโยคหลังแล้วเดินจากไปอย่างไร้เยื่อใย
สุดท้ายกูก็ไม่รอด!!
เสียงดังตึงตัง ดังออกมาจากผับSB แบคฮยอนถอยรถนิสสันสีขาวประจำตัวของตนอย่างชำนาญ แล้วเดินชูบัตรประชาชนให้การ์ดหน้าร้านดู สุดท้ายเขาก็ต้องมาอยู่ดี เพราะขัดพี่เมเนเจอร์ที่รักไม่ได้ รายนั้นขู่อย่างเดียวเลยว่าถ้าไม่ไปวันหยุดก็จะไม่ได้
ก็เอาเถ๊อะ
ถ้าวันนี้น้องเสียตัวก็เป็นเพราะพี่เลยนะเว้ย! แล้วตัวเองก็เสือกติดงานอีก อย่างงี้เปอร์เซ็นต์ในการเสียตัวก็เป็นร้อยไปเลยดิ
สรุปมันคุ้มหรอ? แต่ก็น่ะ...เขาจะไม่ยอมเสียครั้งแรกให้ผู้กำกับบ้ากามนี่เด็ดขาด
ด้วยเกียตริของลูกชายคนเล็กของตระกูลบยอนเลย
“ในที่สุดคุณก็มา” แบคฮยอนยื่นหลังมือให้ซีวอนตามมารยาท ก่อนมือสากจะจับมือเรียวแล้วจรดริมฝีปากลงไป
ประเด็นคือหน้าตากูอยากมามากไหม?
“ครับ”
“คุณยิ้มแล้วสวยกว่านี่เยอะเลยนะซินญอริต้า”
เพราะซีวอนเป็นคนลูกครึ่งเกาหลี สเปน
เลยติดเรียกสรรพนามบุคคลอย่างงี้...แต่มันก็เฉพาะคนน่ะ
ว่าแต่ซีวอนน่าจะเข้าใจผิดนะ...ซินญอริต้ามันใช้กับผู้หญิงไม่ใช่เรอะ?
“ขอบคุณครับ...แต่ผมจะยิ้มเฉพาะคนที่สมควรจะได้รับมันเท่านั้นนะครับ”
แบคฮยอนแค่นยิ้มพลางแกะมือปลาหมึกที่ยังคงจับมือเขาออก
ก่อนจะเดินไปนั่งตรงโซฟาที่มีนักแสดงสาวผู้ที่เล่นเป็นนักเอกคู่กับเขานั่งอยู่พร้อมกับชุดเดรสสีแดงรัดรูปบนเรือนร่างเรียว
โดยไม่หันกลับไปมองผู้กำกับซีวอนเลยแม้แต่ปลายหางตา
“สวัสดีครับคุณนานะ”นักแสดงหนุ่มนั่งลงบนเบาะที่นั่งวีไอพีของผับ
เว้นระยะห่างกับยิ่งสาวอย่างสุภาพที่สุด
“สวัสดีค่ะคุณแบคฮยอน”
หญิงสาวผงกหัวให้ แล้วหันกลับไปสนใจวายแดงเกรดAในแก้วต่อ เช่นกันที่แบคฮยอนเพียงเเค่ผงกหัวตอบกลับไปเเล้วเรียกพนักงานเสริ์ฟมาเพื่อสั่งน้ำส้มหนึ่งแก้ว
น่าแปลกที่วันนี้เขาไม่เห็นไอมารคยองซูที่น่าจะมาขัดขวางเขาตั้งเเต่ตอนที่ชวนคุณนานะคุยเเล้ว เเต่ก็นั่นแหละ ไอนั้นมันไม่ได้มีค่าอะไรให้เขาต้องสนใจโทรตาม หรือถามคนอื่นว่ามันมาไหม
"ว่าแต่...คุณนานะเห็นคยองซูไหมครับ?" ไหนตะกี้บอกไม่?
"อ๋อ ตะกี้เหมือนคุณดีโอจะออกไปนอกร้านก่อคุณมาไม่นานเองคะ ท่าทางดูเร่งรีบ"
"อ่อ งั้นหรอครับ.." แบคฮยอนไม่ได้ถามเอาความอะไรจากหญิงสาวต่อ เขาหันไปรับแก้วจากพนักงานเเล้วดื่มมันไปเพียงอึกเดียว...ไอดโยหมาที่บ้านของมันคงตายหรืออะไรทำนองนั้นแหละมั้ง อย่าไปสนใจเลยแบคฮยอนอ่า
เสียงเพลงจังหวะตื้ดๆเรียกให้ร่างเล็กกระดิกเท้าไปตามจังหวะ
บนฟลอมีเพียงพวกทีมงานที่เต้นกันด้วยความเมามันส์
เรียกได้ว่าปลดปล่อยหลังจากที่เครียดมานาน ซึ่งแบคฮยอนก็ทำเพียงยิ้มขำให้กับความบ้าบอของบุคคลเหล่านั้น
เขาไม่ได้แตะต้องเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์นอกจากน้ำส้มเพียงแก้วเดียวเพราะเขาแพ้แอลกอฮอลล์ขั้นหนัก แพ้เเบบเเพ้จริงๆ ย้ำว่า แพ้! ดื่มได้มากสุดก็แค่วายที่แอลกอฮอล์น้อยมากมากเท่านั้น
“เอ่อ..คุณนานะพอจะรู้ไหมครับว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน?”
“ตรงไปทางออกแล้วเลี้ยวขวาเลยคะ”
“อ่อ ขอบคุณครับ”
นักแสดงหนุ่มโค้งหัวแล้วอมยิ้มให้หญิงสาวเป็นการขอบคุณตบท้าย
แล้วเดินไปตามทางที่นักแสดงสาวแนะนำ
“ซ่า ซ่า”
เสียงเปิดก๊อกน้ำจากห้องน้ำชายของผับSB ตอนนี้ในห้องน้ำมีเพียงนักแสดงบยอนเพียงคนเดียวเพราะวันนี้ผู้กำกับสั่งปิดผับเพื่อเลี้ยงทีมงานนักแสดงโดยเฉพาะ
Rrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังอีกครั้งในรอบวันนี้
แบคฮยอนสะบัดมือที่เปียกลวกลวกแล้วดึงสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์รัดรูปสีดำ
หน้าจอปรากฏชื่อของสายที่เรียกเข้า ‘พี่มินซอก’
“ติ๊ด! ฮัลโหลครับพี่มินซอก” นักแสดงหนุ่มกดรับสายแล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนอ่างล้างหน้า
พลางยกนิ้วเรียวลากไปตามใบหน้าของตนที่สะท้อนอยู่ในกระจกอย่างนึกสนุก
(โอเคไหมแบค?
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม?) เมเนเจอร์หนุ่มถามเสียงสูง
แบคฮยอนอมยิ้มอ่อนๆทันทีที่ได้ฟัง
ถึงพี่มินซอกจะเป็นคนทำให้เรื่องมันออกมาเป็นอย่างนี้ แต่แบคฮยอนเองก็รู้ว่าพี่แกก็รู้สึกผิดไม่ใช่น้อยเลย
นอกจากนั้นยังเป็นห่วงเขามากเกินกว่าที่เมเนเจอร์มีให้นักแสดงอีกด้วย
ถึงพี่มินซอกจะน่ารำคาญไปหน่อย แต่ก็ใจดีและรักเขาไม่ใช่น้อยเลยละ
“แบคยังอยู่ครบสามสิบสองละกันฮะพี่
อย่างน้อยๆก็มีมือรับสายได้”
(ไมเดี๋ยวนี้ชอบกวนตีน?)
นักแสดงหนุ่มยิ้มขำให้กับน้ำเสียงของพี่ชายที่รัก
ที่ดูเหมือนจะเอือมระอากับพฤติกรรมของเขาเสียเหลือเกิน
“แบคก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วปะ?”
(อะจ้า แล้วนั่นอยู่ไหน?
ทำไมพี่ไม่ได้ยินเสียงดนตรีเลย?)
“อ่อ แบคอยู่ นะ..”
ปัง!
เสียงปิดประตูหน้าห้องน้ำดังลั่นสนั่น
แบคฮยอนสะดุ้งแล้วกระโดดลงจากอ่างล้างหน้า ทำท่าตั้งการ์ดโดยอัตโนมัติ
“แปปนะพี่มินซอก
เดี๋ยวแบคโทรกลับ..ถ้ารอด”
แบคฮยอนพูดเสียงแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน นักแสดงหนุ่มยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบอุปกรณ์ป้องกันตัวที่อยู่ใกล้ที่สุดนั่นก็คือแจกันดอกไม้ที่ตั้งอยู่กลางอ่าง
ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม
แต่มันอันตรายๆแน่แน่เพราะบยอนแบคฮยอนทำอาชีพแบบนี้
แน่นอนว่าต้องมีทั้งคนชอบและไม่ชอบในตัวเขา
การระวังตัวเองให้มาก
คือพื้นฐานของการอยู่รอดในโลกมายา
และแน่นอน
ว่าทำงานอาชีพนี้จะต้องมีการแก่งแย่งชิงดีและคนอิจฉาริศยามากมาย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆที่จะใช้ชีวิตอยู่อย่างผาสุขโดยไม่ต้องระวังตัว
เสียงฝีเท้ายังคงดังอยู่และใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
จากประสบการณ์ที่เขาเคยผ่านการแสดงแนวสืบสวนสอบสวนมามากแล้ว การลงฝีเท้าที่หนักขนาดนี้
เดาไม่ยากว่าผู้มาเยือนคือผู้ชาย ซึ่งตัวคงจะใหญ่กว่าเขาอยู่หลายขุม
เอาละแบคฮยอน...ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตามนายต้องรอดไปให้ได้
และไม่ว่าไอ้อีคนนั้นมันเป็นใคร นายต้องสั่นสอนให้มันรู้ว่า ‘เล่นกับบยอน แบคฮยอน’
คือการตัดสินใจที่ผิดพลาด...อย่างมหันต์
ปึก! เพล้ง!!
“โอ้ย!!” นักแสดงหนุ่มใช้เวลาเตรียมใจอยู่ราวๆสามวินาที
ก่อนจะพุ่งตัวออกจากผนังกระเบื้องพร้อมกับแจกันในมือ ฟาดมันลงไปเต็มที่โดยไม่แม้แต่จะมองว่าร่างของชายคนนั้นเป็นใครกันแน่
แต่แล้วแบคฮยอนก็พลาด...
เขาเป็นผู้ชายจริงๆและตัวใหญ่กว่าอย่างที่คาดไว้
ใหญ่ถึงขนาดคว้ามือแบคฮยอนแล้วบิดจนแจกันตกลงไปบนพื้นได้ภายในพริบตา
นักแสดงหนุ่มถูกล็อคตัวด้วยการที่ข้อมือทั้งสองข้างไขว้กันกลางลำตัวด้วยฝ่ามือของใครอีกคนจากข้างหลัง
ทำให้แบคฮยอนไม่สามารถขยับได้แม้แต่การขยับตัว
“รุนแรงจังเลยครับ”เสียงนุ่มทุ้มที่อยู่ข้างหูอันแสนน่าขนลุกมาพร้อมกับกลิ่นลูกอมรสมินท์กลิ่นประจำของเจ้าตัว
หึ! สุดท้ายเขาก็เดาถูกแบบไม่ต้องเดาอะไรมากนัก เดาถูกตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าผับมาแล้วด้วยซ้ำ
“สุดท้ายผมก็ไม่รอดสินะครับ ผู้กำกับซีวอน”
“อย่าเล่นตัวเลยครับคุณแบคฮยอน
ผมให้คุณได้ทุกอย่างเลยน่ะ คุณไม่รู้หรอ?” ซีวอนกระชับกอดแน่นจนแผ่นหลังของแบคฮยอนบดเบียดไปกับหน้าท้องของอีกฝ่าย
แบคฮยอนถึงกับขนลุกซู่ ให้ตายเถอะแม่ ไม่คิดว่าจะเจอกับโรคจิตขนาดนี้เลยในชีวิต
“ใครว่าผมเล่นตัวละครับ หื้ม?” คนตัวเล็กพลิกตัวหันหน้าเข้าหาซีวอนแทน
แล้วลูบไร้ไปยังอกแกร่งอย่างเย้ายวนจนคนตัวสูงกว่าถึงกับใจเต้นแรง
“ถ้าคุณไม่ได้เล่นตัว...งั้นผมก็ขอเอาจริงน่ะครับ”
ผู้กำกับหนุ่มผลักร่างเล็กของแบคฮยอนไปกับกำแพงกระเบื้องของห้องน้ำ
แล้วบดจูบปากบางอย่างหื่นกระหายจนแบคฮยอนตั้งตัวไม่ทัน
นักแสดงหนุ่มพยายามดันร่างของอีกฝ่ายให้ออกห่าง
ในขณะที่ผู้กำกับซีวอนยังคงใช้ความพยายามในการแทรกลิ้นเข้าไปในปากของเขา
นี่ก็อยากจะถามผู้กำกับแกอยู่น่ะ ว่า ‘นี่ใช่ไหมคือเหตุผลที่ทำให้คุณเป็นหม้ายมาจนปูนนี้’
แต่ก็นั่นแหละ เกรงว่าพี่แกจะปล้ำเอาทันทีที่พูดจบ
“อื้อ! อั่ก!”
เพราะแบคฮยอนเอาแต่กัดฟันไม่ยอมให้ลิ้นร้อนของร่างหนาได้เข้าไปเซย์ฮัลโหลเสียที
เขาเลยจำเป็นที่จะต้องทำร้ายร่างกายด้วยการชกท้องเพื่อให้อีกคนยอมอ้าปาก ซึ่งมันก็ได้ผลดีเลยที่เดียวแหละ
J
ในขณะที่ลิ้นสากแสนน่าขยะแขยงกำลังเลื้อยเข้ามาในโพรงปากแบคฮยอน
เขาก็สัมผัสได้ว่าไอผู้กำกับบ้ากามมันอมยาเอาไว้สองเม็ด...
ไม่ว่าจะเป็นยาอะไรก็ตามแต่
แบคฮยอนเลือกที่จะอมมันเอาไว้และพยายามไม่ให้กลืนเข้าไปเด็ดขาด ก็น่ะ
เวลาจะข่มขืนใครคุณจะให้กินวิตามินกับยาพาราหรือ? หึ
มันก็มีแค่ในละครตลกหลังข่าวเท่านั้นแหละ
“แฮ่ก..อ่า..เดี๋ยวสิครับผู้กำกับ
ใจเย็นๆน่ะ” นักแสดงหนุ่มสูดหายใจเข้าปอดด้วยความเหนื่อยหอบ
ผิดกับอีกฝ่ายที่ยังมองมายังปากแดงของร่างเล็กอย่างแทะโลม
“ผู้กำกับครับ”
ราวๆสิบวินาทีที่แบคฮยอนใช้เวลาในการหายใจเข้าปอด
ซึ่งในระหว่างนั้นแบคฮยอนก็ไม่ได้ปล่อยให้เวลาเสียเปล่า สมองอันชาญฉลาดของเขาผุดคิดแผนอะไรบางอย่างที่จะสามารถสั่งสอนผู้กำกับบ้ากามคนนี้ได้...สั่งสอนให้รู้ว่าอย่าริอาจแตะบยอนแบคฮยอนคนนี้แม้แต่ปลายเล็บนับจากนี้
ซึ่งเอาจริงๆแผนที่คิดไว้ก่อนหน้านี้มันน่าจะเจ็บแสบกว่าแต่เพราะทุกอย่างผิดแผนไปหมดมันเลยออกมาเป็นแบบนี้...
แต่ถึงกระนั้นก็ถือว่าลดโทษให้เพราะว่าพี่อี้ฟานชอบก็ละกันเนอะ J
มาสานต่อแผนให้จบกันเถอะครับ
ผู้..กำ..กับ
“ไม่เอาสิ...เรียกว่าพี่ซีวอนน่ะ”
นักแสดงหนุ่มไร้มือเรียวลงไปตั้งแต่หน้าอกแกร่งของอีกฝ่าย
ลาก...ไปจนถึงท้องของอีกฝ่ายจนผู้กำกับทำหน้าฟินโลกแตก
“ครับ..พี่..ซี..วอน” มือเรียวลากผ่านท้องน้อยของอีกคนจนมาถึงจุดที่ฟินที่สุดของผู้ชาย
แบคฮยอนใช้ฝ่ามือลูบเบาๆให้ผู้กำกับหนุ่มส่งเสียครางเล่นพร้อมกับหลับตาพริ้ม...หลอกเหยื่อให้ตายใจน่ะครับ
ไม่เคยได้ยินหรอ?
“อ่า..ดีมากเลยแบคฮยอน”
“พี่ซีวอนครับ”
นักแสดงหนุ่มเขย่งฝีเท้าพอให้ริมฝีปากอยู่เฉียดหูของคนตัวสูงกว่า ยิ่งพอพูดแล้วริมฝีปากบางแตะบางเบาไปที่ใบหูของร่างสูง...ผู้กำกับซีวอนขอบอกเลยว่าฟินระดับสิบ
“คระ...ครับ”
“.....ไอ้งั่งเอ้ย!”
“โอ้ย!! อร๊ากกกกกก” ผู้กำกับซีวอนลงไปนอนดิ้นร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดแอนด์จุก...ก็แบคฮยอนเล่นขยำมือไปที่ส่วนนั้นของเขาอย่างไม่ยั้งแรง
แถมยังทุบซ้ำอีก..หมันแดกละครับแบบนี้
“เสียวมากไหมครับ? J” แบคฮยอนคุกเข่าลงใกล้ๆซีวอนที่นอนคุดคู้ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลหมดสภาพผู้กำกับมือทอง
แล้วยิ้มตาหยีแสนน่ารักให้อย่างบริสุทธิ์ใจม๊ากมาก
“อั่ก..บะ..แบคฮยอน
คุณไม่..อึก..รู้แล้วว่าผมเป็นใคร”
“ครับ?...ผมรู้แค่ว่าคุณเป็นผู้กำกับมากความสามารถรู้จักคนทั่วทั้งวงการบันเทิง
และนั่นก็เป็นเรื่องดีสำหรับผมครับ ^_^”
“ดีอะ..อึก..ไรของคุณ?”
“ก็....”
ปั๊ก!
เครื่องอัดเสียงสีดำตกลงมาจากกระเป๋าแจ๊คเก๊ตหนังแบรนด์ดังของร่างเล็ก
“อุ้ย! ขอโทษครับผู้กำกับ พอดีของตกน่ะครับ” แบคฮยอนทำตาโตอย่างตกใจที่สุด
ซึ่งถ้ามองนัยนัยมันก็คือการกวนตีนดีดีนี่แล
แล้วใช้มือเรียวหยิบเครื่องอัดเสียงที่จงใจทำตกไปเมื่อสักครู่
ติ๊ด!
“อ่อ ผมลืม ‘กดเซฟ’น่ะครับ
แหะแหะตะกี้ซ้อมบทอยู่”
นักแสดงหนุ่มหันมายิ้มเยาะแล้วเก็บเครื่องอัดเสียงไว้ในกระเป๋าแจ๊คเก็ตดังเดิม
แล้วลุกขึ้นเตรียมเดินออกจากห้องน้ำนี่
“อ้อแล้วก็ ถุย!!” แบคฮยอนถ่มเม็ดยาสีขาวสองเม็ดที่เล็กลงจากตอนแรกมากและมีน้ำลายปะปนมาด้วยข้างๆตัวผู้กำกับซีวอนอย่างเย้ยหยัน
“ไอยาพวกนี้มันทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ ^_^”
“คะ..คุณนี่มัน!!”
“ครับ?” ขาเรียวหยุดชะงักแล้วหันมามองผู้กำกับหนุ่มที่พยายามพยุงตัวให้ลุกขึ้นนั่งได้
“ยิ่งกว่า..ตัวร้ายในละคร!” แบคฮยอนแค่นหัวเราะ..ช่างน่าสมเพศ
“คุณก็ยิ่งกว่า ‘โรคจิต’ ในละครอีกน่ะครับ
คุณ..ซี..วอน อ้อ!
แล้วหวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก..ตลอดชีวิตนะครับ J”
ปัง!!
นักแสดงหนุ่มพลิกตัวเดินตรงไปยังทางออกหลังจากจัดการล๊อคประตูห้องน้ำเสร็จ
ถึงแม้โพรงปากของเขาจะเริ่มขมเพราะยาสองเม็ดนั้นก็ตามเถอะ
หึ! นอนเจ็บลูกชายในนั้นสักชั่วโมงก่อนนะผู้กำกับ!!
แบคฮยอนกระโดดขึ้นรถนิสสันสีขาว
แล้วขับไปด้วยความว่องไว..แต่ก็หารู้ไม่ว่ายาสองเม็ดที่ผู้กำกับยัดเข้ามานั้น...มันคือยานอนหลับและยาปลุกเซ็กซ์...ถึงแม้ว่าแบคฮยอนจะไม่ได้รับเข้าไปเต็มๆ
แต่ด้วยฤทธิ์ยาที่แรงขนาดนั้น...มันเลยทำตอนนี้แบคฮยอนรู้สึกง่วงและร้อนรุ่มไปในตัวจนไม่ได้มองทาง
ให้ตายสิตาของเขากำลังปิด
“เห้ย!!” ก่อนที่ตาทั้งสองข้างของเขาจะปิดลง ทางข้างหน้าของเขากลับมีร่างของผู้ชายคนหนึ่งอยู่กลางถนน แบคฮยอนเบิกตาโพลงแล้วเหยียบเบรคจนมิด
“เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดด ปึก พลั่ก!”
เสียงล้อรถเสียดสีไปกับถนนและลูกหินที่ทำให้ทิศทางของรถไขว้เขวจนร่างเล็กกระแทกไปมาอย่างกับลูกตุ้ม
จนกระทั่งรถของแบคฮยอนจอดนิ่ง
นักแสดงหนุ่มใช้เวลาตั้งสติและเวลาในการพยายามลืมตาไม่นานก็รีบลงจากรถมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีคนอยู่กลางถนนเมื่อสักครู่
“คะ..คุณครับ อ้ะ”
ร่างเล็กยกฝ่ามือขึ้นมาแตะสัมผัสหัว เขารู้สึกเจ็บจี๊ดๆเหมือนกระโหลกจะร้าวยังไงอย่างนั้น
แต่พอเห็นฝ่ามือที่สัมผัสไปเมื่อสักครู่มีน้ำสีแดงๆติดอยู่
แบคฮยอนถึงได้ตรัสรู้ว่า...หัวของเขาแตก
แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าชายหนุ่มที่ไม่ได้สติกลางถนนนั่นหรอกน่ะ
แบคฮยอนพยายามพยุงตัวเองลากให้ไปถึงกลางถนน
วินาทีแรกที่เห็นร่างของชายปริศนาแบคฮยอนก็ถึงกับใจหายวาบเพราะร่างของเขาโชกชุ่มไปด้วยเลือด..และเมื่อขยับเข้าไปใกล้อีกครั้ง
เขาก็ถึงกับหยุดหายใจเลยทีเดียว เมื่อผู้ชายคนนี้เขาคุ้นหน้าเป็นอย่างดี
โด คยองซู คู่ปรับของเขา
“คะ..คยองซู มะ...ไม่จริง ไม่!!” แล้วสติของแบคฮยอน ก็ดับวูบลง...
TBC
ไว้มาตรวจคำผิดน่ะคะ เเต่ว่าคุณนักแสดงคะ...ทำไมเเซ่บเว่อร์งี้อะคะ?
สกรีมแท๊ก #ฟิคนักโทษของคุณปาร์ค กันได้น้าาา เราไม่ได้บังคับเเค่ร้องขอ
ไม่ใช่ฟิคดราม่า มีแววว่าจะเป็นฟิคตลก
เรารักพวกนายน่ะ♥
ความคิดเห็น