Friend...รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว - นิยาย Friend...รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว : Dek-D.com - Writer
×

    Friend...รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว

    คนหนึ่งรู้จักความรักมาพอสมควร คนหนึ่งไม่ซับซ้อนเรื่องหัวใจ กับความรู้สึกที่ค่อยๆ ก่อตัวโดยต่างคนต่างไม่รู้ตัว ... เรื่องราวน่ารักๆ ระหว่างวินเนอร์ เด็กหนุ่มผู้ไม่ค่อยสนใจใครกับลูกสาวคุณครูที่ปรึกษา...

    ผู้เข้าชมรวม

    2,105

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    47

    ผู้เข้าชมรวม


    2.1K

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    17
    จำนวนตอน : 7 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 ก.ย. 60 / 20:49 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    คนหนึ่งรู้จักความรักมาพอสมควร คนหนึ่งไม่ซับซ้อนกับเรื่องหัวใจ

    ความรู้สึก จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้นโดยที่ต่างคนต่างไม่รู้ตัว

     
    วินเนอร์ ขอยืมรูปน้องเก้านะคะ ส่วนหนูฟักแฟงขอเหลือไว้ให้จินตาการ ^^

    วินเนอร์ นักเรียนชั้นม.4 เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนใหม่ สูง ขาวจัด ที่สำคัญ หล่อมาก เป็นพวกไม่ค่อยสนใจคนรอบข้าง  แค่ไม่สนใจคนรอบข้าง แต่ไม่ถึงกับเย็นชาโลกแคบอะไร


               ฟักแฟง เด็กห้องคิง ที่อยู่ในแก๊งเด็กเรียนมตลอด แต่ก็เป็นแบบเรียนๆ เล่นๆ ไม่ถึงกับเคร่งเครียด เรียนเก่งพอประมาณ ไม่ถึงกับอัจฉริยะ เป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมา ไม่ค่อยคิดเล็กคิดน้อย หรือคิดให้ยุ่งยากซับซ้อน เป็นลูกสาวคุณครูที่ปรึกษาของวินเนอร์ที่ก็เคยเป็นครูที่ปรึกษาของคุณพ่อเขาด้วย ทั้งสองเคยเจอกันบ้างตอนเด็ก

    วินเนอร์ ไมชอบมีเพื่อนเป็นผู้หญิง ส่วนหนึ่งเขาไม่ชอบนิสัยบางอย่างของพวกเธอ อีกส่วนหนึ่ง เขาไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่าผู้หญิง กับ ตัวเขา จะเป็นเพื่อนกันได้

     

    แต่เขาก็เป็นเพื่อนกับเธอได้ … ความรักมันเริ่มก่อตัวขึ้นตอนไหนแล้วทำไมถึงเพิ่งรู้ตัว



    นิยายเรื่องนี้ย้อนวัยกลับไปสมัยเด็กอีกครั้ง เป็นการย้อนที่นานมาก

     




    ดองไปเป็นปี เพิ่งได้ฤกษ์กลับมาเขียนใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบางอย่างเล็กน้อย หวังว่าคราวนี้เราจะไม่ดอง

    แมงมุม

     



            

            

     



         

            

     
     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "บทวิจารณ์"

    (แจ้งลบ)

    บทวิจารณ์ เรื่อง fall in love…รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว การวิจารณ์นิยายของข้าพเจ้านั้นครั้งนี้ เพียงแต่ต้องการฝึกฝนฝีมือ หากท่านเจ้าของบทนิยายเรื่องนี้ ต้องการที่จะนำบทวิจารณ์นี้ ไปใช้ เพื่อปรับปรุงแก้ไขนิยายของตัวท่านเอง โปรดจงพิจารณาให้ดีเสียก่อน เพราะข้าพเจ้าเป็นเพียงเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งเท่านั้น ที่มองผ่านมุมมองผู้อันมีอคติ จึงเรียนเ ... อ่านเพิ่มเติม

    บทวิจารณ์ เรื่อง fall in love…รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว การวิจารณ์นิยายของข้าพเจ้านั้นครั้งนี้ เพียงแต่ต้องการฝึกฝนฝีมือ หากท่านเจ้าของบทนิยายเรื่องนี้ ต้องการที่จะนำบทวิจารณ์นี้ ไปใช้ เพื่อปรับปรุงแก้ไขนิยายของตัวท่านเอง โปรดจงพิจารณาให้ดีเสียก่อน เพราะข้าพเจ้าเป็นเพียงเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งเท่านั้น ที่มองผ่านมุมมองผู้อันมีอคติ จึงเรียนเพื่อทราบ การเตรียมวัตถุดิบ 1. รายชื่อตัวละครของท่าน ข้าพเจ้านับได้ทั้งสิ้น 40 ตัว ทั้งตัวละครหลักและตัวประกอบ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าระหว่างนิยายเรื่องแฮรี่พอตเตอร์ หรือนิยายของท่าน ตัวละครนิยายเรื่องไหน มันจะเยอะกว่ากัน 2. ชื่อตัวละคร เมื่อท่านจะตั้งชื่อตัวละครแต่ละตัว อันดับแรกท่านควรเริ่มมุ่งไปที่ตัวละครหลักเสียก่อน ส่วนตัวประกอบเอาไว้ที่หลังๆ ก็ได้ จะเห็นได้ว่าตัวประกอบของท่านบางตัวมีชื่อทั้งชื่อจริง พร้อมนามสกุล แต่ตัวละครหลักๆ กลับยังมีไม่ครบเลยด้วยซ้ำ 3. วัตถุดิบที่จะนำมาเขียนเนื้อเรื่อง จากที่อ่านนิยายของท่านจบลง ทำให้รู้ว่านิยายของท่าน ดำเนินเรื่องโดยไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบอะไรเลย นิยายเรื่องนี้จึงไม่มีจุดเด่นอะไรให้น่าติดตาม เห็นได้จากตัวละครหลักๆ 3.1 นางเอกของเรื่อง ฟักแฟง เป็นเด็กผู้หญิงไม่สวย แถมออกจะอ้วน กินเก่ง แต่กับเป็นโรคกระเพาะ ในเรื่องฟักแฟงไม่มีผู้ชายมาชอบเลย แม้แต่ผู้ชายที่เคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันมาก่อน เช่น ธันวา และ แทน ยังต้องหนีมามีแฟนอยู่อีกห้องหนึ่ง แต่ท่านเจ้าของนิยายกับท่าน พระเอกของเรื่องที่เพิ่งจะย้ายมา ตกหลุมรัก (มันออกจะไม่สมเหตุสมผลนัก) การทำให้นางเอกของเรื่องด้อยค่าลง มันก็เป็นการลดวัตถุดิบตัวนี้พัฒนาให้เนื้อเรื่องไปต่อไป เนื้อเรื่องมันจึงวนอยู่เพียงแค่ นางเอกกับพระเอก 3.2 พระเอกของเรื่องวินเนอร์ เป็นคนหล่อ บ้านรวย มีความสามารถรอบด้าน ไม่สนใจใครเลย นอกจากนางเอกของเรื่อง สุดท้ายวัตถุดิบตัวนี้ ก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาต่อไปได้เช่นกัน เนื้อเรื่องมันจึงวนไปก็วนมาอยู่ที่เดิม 3.3 ส่วนตัวละครหลักอื่นๆ ก็เป็นเช่นเดียวกันไม่มีวัตถุตัวใด ให้ไปต่อไป เพราะต่างถูกจับคู่เป็นแฟนกันไปจนหมดแล้วตั้งแต่บทแรกๆ เนื้อเรื่อง เนื่องด้วยตัวละครของท่านมันเยอะมากๆ เยอะจนท่านไม่สามารถที่ควบคุมมันได้อีกต่อไป มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีลดลงเลย และยังวัตถุดิบที่จะนำมาแต่งนิยายของท่านมันก็มีน้อยมากเหลือเกิน นิยายของท่านมันจึงเหมือนไดอารี่เล่มหนึ่ง ที่ตัวละครทุกๆ ตัว ต่างแย้งกันพูดๆ หากใครพูดไม่ทันอาจที่จะถูกลืมได้ ดังนั้นเมื่อรวมแก๊งกันได้เมื่อไร ทุกๆ ตัวละครทุกๆ ตัว จะต้องรีบๆ แข่งกันพูดๆ จนกลายเป็นเหมือนปริศนาอักษรไขว้ ที่ทำคนอ่านนิยายของท่าน ถึงกับหน้ามืดได้เลย ถึงแม้ตัวละครหลักๆ ของท่าน แทบที่จะไม่มีบทพูดหลงเหลืออยู่แล้ว บุญซ้ำกรรมยังซัดเพิ่มเข้าไปอีก ยังต้องถูกเหล่าตัวประกอบต่างๆ ที่เยอะมากๆ เข้ามาแย้งบทไปด้วยเสียอีก โดย เฉพาะเหล่าครูอาจารย์ต่อคิวกันเข้ามาแย้งกันพูดเกือบที่จะทุกๆ บท ทุกๆ ตอนกันเลย ดังนั้นบทที่เหลือๆ ให้นางเอกกับพระเอกของเรื่องจึงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดจริงๆ เนื้อเรื่องของท่านแม้ว่าจะผ่านไปแล้ว 14 ตอน แต่มันก็เหมือนว่าจะไปได้ไม่ถึงไหนเลย แม้จะพลาดบทหนึ่งบทใด ก็เหมือนจะไม่ได้พลาดอะไรที่สำคัญไปเลย การบรรยาย 1. การบรรยายที่เยอะเกินไปอาทิเช่นในบทที่ 1 แม้จะอยู่ในบทเดียวกัน ก็ก็ควรบรรยายสรุป ให้เหลือเพียงคอลัมน์เดียวก็พอ 2. การบรรยายซ้ำแล้วซ้ำอีก เนื่องจากไม่ได้เตรียมวัตถุดิบ บทแรกๆ คือการบรรยายแนะนำตัวละครโดยละเอียด บทต่อไปจะได้ลดการบรรยายที่สิ้นเปลืองลงไป จะได้ไม่ต้องบรรยายย้ำคำเดิมๆ ซ้ำหลายๆ รอบ ชื่อจริง นามสกุลจริงของแทน มันไปโผล่อยู่ในบทที่ 6 และชื่อตัวละครอีกหลายๆ ก็ด้วยเช่นกัน ซึ่งการทำอย่างนั้น มันเหมือนกับเป็นการให้คนอ่านไปหาต่อจิกซอกันเอาเอง 3. ควรระวังในการบรรยายชื่อตัวละคร หลักๆ ด้วย มันอาจจะทำให้คนอ่านงงได้อาทิเช่น จากบทที่ 1…เธอมีชื่อจริงๆ ว่า แพรว+พราว จากบทที่ 7...เธอมีชื่อจริงๆ ว่า...แบ๋ม+แอ๋ม จากบทที่ 9...เธอมีชื่อจริงๆ ว่า...กุ๊กกิ๊ก+กิ๋กกิ๋ก ไม่รู้ว่าท่านจำชื่อตัวละครของท่านเองไม่ได้ หรือว่าท่านพิมพ์ผิดกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ให้ทำให้คนอ่านงงได้ครับ คำแนะนำ 1. ฆ่าได้ฆ่า ตัดหัวได้ตัดหัว เผาได้ ก็เผามันทิ้งไปซะ หมายถึงตัวประกอบทุกๆ ตัวเลยครับ(ไม่ต้องให้บทพูด ให้แต่บทบรรยาย เป็นแค่วิญญาณไปวันๆ ก็พอ) ให้เหลือแค่ตัวละครหลักๆ ได้รับผลประโยชน์ในส่วนนี้ไป ตัวละครหลักของท่านมันจะได้มีพื้นทีให้ได้ยืนบ้าง ไม่ต้องไปแออัดอยู่แต่เฉพาะในโรงอาหารแห่งเดียว เพราะนิยายท่านตอนนี้มันเต็มไปด้วยชื่อตัวละคร เนื้อเรื่องไม่มีเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว 2. ไม่ควรลดความสำคัญของตัวละครหลัก ให้เป็นเพียงแค่ตัวประกอบ ดูได้จากการมอบเกียรติบัตร แทน ได้ที่ 2 ฟักแฟง ได้ชมเชยที่ 2 วินเนอร์ ได้ชมเชยที่ 3 ส่วนผู้ได้ที่ 1 กับเป็นตัวประกอบที่เพิ่งโผล่ออกมาเพียงชื่ออย่างเดียว แล้วก็หายไป ท่านมีตัวละครหลักๆ เกือบจะครบยี่สิบตัว เอามาออกมาใช้ให้มันครบซิครับ หรือจะให้ นางเอกของเรื่องได้ที่ 1 ก็เป็นไปได้ อย่างน้อยๆ นางเอกก็เป็นถึงลูกของคุณครูนะครับ ไม่สวยแต่ก็น่าที่จะมีความสามารถอะไรที่โดดเด่นอยู่บ้าง 3. สูตรสำเร็จของนิยายไทย ส่วนใหญ่จะประกอบด้วย พระเอก นางเอก พระรอง นางรอง ตัวโกง นางอิจฉา รวม 6 คน ไม่ต้องมากกว่านี้ก็ได้ เราก็สามารถที่จะแต่งนิยายสนุกๆ ได้แล้วเรื่องหนึ่งหากท่านจัดเตรียมวัตถุดิบดีๆ เพื่อนำมาแต่งเรื่อง เล่าเรื่องให้สนุกได้ จำนวนตัวละครจะมากจะน้อยจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป ดังนั้นนอกจากท่านควรจะฆ่าตัวประกอบออกไปจากนิยายของท่านให้หมดแล้ว ท่านยังสามารถที่จะฆ่า ตัวละครหลักๆ ทิ้งไปเพิ่มได้อีกด้วยเช่นกัน สรุป มาถึงช่วงส่งท้ายเสียที จากที่ผมได้อ่านนิยายของท่านตั้งแต่บทแรกจนจบ มันได้ผมให้ผมเกิดคำถามขึ้น อย่างเช่น 1. ทำไมนางเอกของเรื่อง ถึงได้ไม่ใช่สาวสวยน่ารักๆ ที่ใครๆ เห็นแล้วต้องอิจฉา แต่กับเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ทั้งอวบ และอ้วน (เมื่อเป็นอย่างนี้ นิยายก็ไม่มีวัตถุดิบอะไรให้เขียนต่อไปได้ครับ) สุดท้ายจึงคิดได้ 2 ข้อ เริ่มจาก 1.1 นักเขียน มักจะให้นางเอก เป็นตัวแทนของตัวนักเขียนเอง นั้นจึงพอที่จะอธิบายได้ว่า ถึงแม้ท่านไม่ใช่คนสวย แต่เป็นคนที่มีความสามารถ ฉลาด ถึงแม้ในชีวิตจริงๆ อาจที่จะไม่มีใครมาตามจีบท่านมากนัก แต่เมื่อได้ลงมือแต่งนิยายสักเรื่อง จึงเอามันให้เป็นที่อิจฉาริษยากันทั้งโรงเรียนเลยทีเดียว 1.2 นักเขียน ต้องการอยากจะให้นางเอกของเรื่องมีความโดดเด่นในด้านอื่นๆ ที่ไม่ใช่ความสวย แต่เมื่อได้อ่านนิยายจนจบ กับไม่ได้เห็นความโดดเด่นของนางเอกเลย โดยเริ่มจาก การเรียน และดนตรี พอใช้ ไม่ถึงกับเก่งมาก เป็นคนมีโรคประจำตัว คือโรคกระเพาะ เป็นคนกลัวความมืด เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า และกลัวผี กลัววิญญาณ เป็นคนขี้หลง ขี้ลืม และสุดท้าย ไม่ได้มีความรับผิดชอบอะไรมากนัก มาโรงเรียนก็สายเป็นประจำ ดังนั้น ระหว่างข้อ 1.1 และ 1.2 ผมจึงมุ่งความเป็นไปได้ว่าน่าที่จะเป็นข้อ 1.1 มากกว่า (ล้อเล่น...หรือจะเป็นจริง) 2. ทำไมพระเอกของเรื่อง ถึงได้ปักใจหลงรักนางเอกคนนี้นัก แม้ว่าใครๆ จะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเธอเลยก็ตาม แทน กับ ธันวา ถือเป็นหนุ่มรูปหล่อ มากความสามารถ โดยเฉพาะแทน เป็นผู้ชายเจ้าชู้ (นิสัยของพระเอกเลยทีเดียว) กีฬาดี การเรียนดี เล่นดนตรีเก่ง ซึ่งน่าที่จะเป็นรองก็เฉพาะกับวินเนอร์ พระเอกของเรื่องเท่านั้น แต่ แทน กับ ธันวา กับพากันหนีจากห้อง 3/1 ที่เคยเรียนมากับนางเอก มาหาแฟนสาวสวยยังห้อง 3/2 หลงเหลือฟักแฟงนางเอกของเรื่องเอาไว้เพียงคนเดียว จะว่าแทนไม่มีตาพอที่จะมองผู้หญิงก็ไม่น่าที่จะใช่ แต่หนึ่งในผู้ชายทั้งสอง ก็น่าที่จะมีใครสักคนมองเห็นความสวยของนางเอกบ้าง แม้ว่าจะไม่ใช่ในด้านรูปร่างน่าตา ก็น่าที่จะเป็นทางด้านจิตใจ แต่นี้ พากันวิ่งหนี ซึ่งเรียกว่า “หางจุกตูด” กันเลยที่เดียว เอ่ยถึงวินเนอร์ ทำไมถึงหลงรักนางเอก คำตอบคือ...กูจะรักซะอย่าง ใครมันจะทำไม่ว่ะ...ซึ่งนางเอกของเรื่องหากว่าเธอไม่ใช่คนกลัวผี ก็คงต้องคิดว่าเธอกำลังเล่นของ เข้าทรง ปลุกผี อะไรเทือกนั้น เข้าร่างของพระเอกอยู่อย่างแน่นอน ดูได้จากตอนที่ 14 เธอสัญญากับพระเอกว่าจะทำข้าวกล่องมาให้กับพระเอกทาน แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ทำ โดยบอกว่าเธอลืมซะสนิทเธอ เธอจึงเอาข้าวกล่องของเธอเองให้พระเอกทาน ส่วนตัวเธอเองสั่งข้าวโรงอาหารมานั่งทาน พระเอกเมื่อทานข้าวกล่อง(เริ่มใส่ยาเสน่ห์...ไม่มีอยู่ในเรื่อง) ของเธอแล้ว ว่าก็ไม่รู้สึกที่โกรธเธอแต่อย่างใด เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ฉันไม่ลืมที่จะทำข้าวกล่องมาให้กับตัวฉันเอง แต่ฉันลืมทำข้าวกล่องให้กับคนที่ฉันรัก แม้ฉันจะสัญญาเอาไว้แล้วก็ตามที (ในชีวิตจริงๆ จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไหมนะ) สุดท้าย เรื่องนี้ก็พอที่จะสรุปได้ว่า นักเขียนไม่ได้จัดเตรียมวัตถุดิบอะไรเอาไว้ให้กับตัวละครเลย อยากเขียนอะไรก็เขียนมันไปเรื่อยๆ ดูได้จากที่เอานางเอกกับพระเอกของเรื่องไปติดฝนอยู่ภายในอาคารเรียนด้วยกัน ถึงสองครั้ง ซึ่งคาดว่ากว่านิยายเรื่องนี้จะแต่งจบพระเอกกับนางเอก น่าจะเป็นปอดบวมกันไปเสียก่อน (สร้างเหตุการณ์อย่างอื่นบ้างก็ได้นะครับ) .............................................   อ่านน้อยลง

    ปีจบ | 1 ธ.ค. 56

    • 2

    • 0

    "เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากคะ"

    (แจ้งลบ)

    บรรยายบ้านของฟักแฟงได้แบบสุดๆเลยคะ!!! นานๆไหนจะได้อ่านแบบนึกตามแล้วเห็นชัดๆแบบนี้...และตอนที่วินเนอร์รอส่งงานอาจารย์แม่น่ะคะ อดหวั่นๆตามไม่ได้เลยคะ!!! แบบว่ากลัวสุดๆไปเลย 55555 ตอนที่วินเนอร์กระชากฟักแฟงเข้ามาตอนนี้แอบฟินเบาๆ....กับตอนจักรยานสีแดงเล่าเอาหยุดยิ้มไม่ได้เลยคะ สุดท้ายนี้ถึงจะเขียนต่อหรือเขียนใหม่ก็จะรอและติดตามต่อไปคะ อ่านเพิ่มเติม

    บรรยายบ้านของฟักแฟงได้แบบสุดๆเลยคะ!!! นานๆไหนจะได้อ่านแบบนึกตามแล้วเห็นชัดๆแบบนี้...และตอนที่วินเนอร์รอส่งงานอาจารย์แม่น่ะคะ อดหวั่นๆตามไม่ได้เลยคะ!!! แบบว่ากลัวสุดๆไปเลย 55555 ตอนที่วินเนอร์กระชากฟักแฟงเข้ามาตอนนี้แอบฟินเบาๆ....กับตอนจักรยานสีแดงเล่าเอาหยุดยิ้มไม่ได้เลยคะ สุดท้ายนี้ถึงจะเขียนต่อหรือเขียนใหม่ก็จะรอและติดตามต่อไปคะ  

    b2939 | 16 ต.ค. 56

    • 1

    • 0

    ดูทั้งหมด

    คำนิยมล่าสุด

    "เนื้อเรื่องออกจะเรียบๆ ไปนิดนึงนะคะ"

    (แจ้งลบ)

    เท่าที่ดู พล็อตเรื่องแนวนีเห็นบ่อย ถ้าแต่งให้มันน่าสนใจมันก็น่าสนใจได้นะคะ แต่ดูเหมือนว่าไรต์จะแต่งตามอารมณ์ตัวเองจริงๆ (เอาเรื่องจากชีวิตจริงมาเขียนรึเปล่าคะ อิอิ) เปิดเรื่องมาบทแรก การจัดหน้าก็อ่านง่ายดีค่ะ คำผิดก็มีน้อย แต่มีตัวละครเยอะเกินไปนะคะ บทแรกมาก็เยอะจนจำไม่หมดแล้ว ดูเหมือนจะเป็นตัวประกอบหมดเลยซึ่งเยอะมาก และตัวละครแต่ละตัวไม่มีกา ... อ่านเพิ่มเติม

    เท่าที่ดู พล็อตเรื่องแนวนีเห็นบ่อย ถ้าแต่งให้มันน่าสนใจมันก็น่าสนใจได้นะคะ แต่ดูเหมือนว่าไรต์จะแต่งตามอารมณ์ตัวเองจริงๆ (เอาเรื่องจากชีวิตจริงมาเขียนรึเปล่าคะ อิอิ) เปิดเรื่องมาบทแรก การจัดหน้าก็อ่านง่ายดีค่ะ คำผิดก็มีน้อย แต่มีตัวละครเยอะเกินไปนะคะ บทแรกมาก็เยอะจนจำไม่หมดแล้ว ดูเหมือนจะเป็นตัวประกอบหมดเลยซึ่งเยอะมาก และตัวละครแต่ละตัวไม่มีการบรรยายคาแรคเตอร์ มันดูไม่มีมิติ แยกแยะไม่ค่อยออกเท่าไหร่ ทางที่ดีควรเขียนให้เห็นด้วยว่าในสถานการณ์แบบนี้ ตัวละครตัวนี้จะพูดแบบไหน สร้างความเป็นตัวตนให้ตัวละครของตัวเอง แล้วก็พยายามตัดตัวละครที่ไม่จำเป็นออกไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :)   อ่านน้อยลง

    balody82 | 6 ม.ค. 57

    • 0

    • 0

    "บทวิจารณ์"

    (แจ้งลบ)

    บทวิจารณ์ เรื่อง fall in love…รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว การวิจารณ์นิยายของข้าพเจ้านั้นครั้งนี้ เพียงแต่ต้องการฝึกฝนฝีมือ หากท่านเจ้าของบทนิยายเรื่องนี้ ต้องการที่จะนำบทวิจารณ์นี้ ไปใช้ เพื่อปรับปรุงแก้ไขนิยายของตัวท่านเอง โปรดจงพิจารณาให้ดีเสียก่อน เพราะข้าพเจ้าเป็นเพียงเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งเท่านั้น ที่มองผ่านมุมมองผู้อันมีอคติ จึงเรียนเ ... อ่านเพิ่มเติม

    บทวิจารณ์ เรื่อง fall in love…รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว การวิจารณ์นิยายของข้าพเจ้านั้นครั้งนี้ เพียงแต่ต้องการฝึกฝนฝีมือ หากท่านเจ้าของบทนิยายเรื่องนี้ ต้องการที่จะนำบทวิจารณ์นี้ ไปใช้ เพื่อปรับปรุงแก้ไขนิยายของตัวท่านเอง โปรดจงพิจารณาให้ดีเสียก่อน เพราะข้าพเจ้าเป็นเพียงเสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งเท่านั้น ที่มองผ่านมุมมองผู้อันมีอคติ จึงเรียนเพื่อทราบ การเตรียมวัตถุดิบ 1. รายชื่อตัวละครของท่าน ข้าพเจ้านับได้ทั้งสิ้น 40 ตัว ทั้งตัวละครหลักและตัวประกอบ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าระหว่างนิยายเรื่องแฮรี่พอตเตอร์ หรือนิยายของท่าน ตัวละครนิยายเรื่องไหน มันจะเยอะกว่ากัน 2. ชื่อตัวละคร เมื่อท่านจะตั้งชื่อตัวละครแต่ละตัว อันดับแรกท่านควรเริ่มมุ่งไปที่ตัวละครหลักเสียก่อน ส่วนตัวประกอบเอาไว้ที่หลังๆ ก็ได้ จะเห็นได้ว่าตัวประกอบของท่านบางตัวมีชื่อทั้งชื่อจริง พร้อมนามสกุล แต่ตัวละครหลักๆ กลับยังมีไม่ครบเลยด้วยซ้ำ 3. วัตถุดิบที่จะนำมาเขียนเนื้อเรื่อง จากที่อ่านนิยายของท่านจบลง ทำให้รู้ว่านิยายของท่าน ดำเนินเรื่องโดยไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบอะไรเลย นิยายเรื่องนี้จึงไม่มีจุดเด่นอะไรให้น่าติดตาม เห็นได้จากตัวละครหลักๆ 3.1 นางเอกของเรื่อง ฟักแฟง เป็นเด็กผู้หญิงไม่สวย แถมออกจะอ้วน กินเก่ง แต่กับเป็นโรคกระเพาะ ในเรื่องฟักแฟงไม่มีผู้ชายมาชอบเลย แม้แต่ผู้ชายที่เคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันมาก่อน เช่น ธันวา และ แทน ยังต้องหนีมามีแฟนอยู่อีกห้องหนึ่ง แต่ท่านเจ้าของนิยายกับท่าน พระเอกของเรื่องที่เพิ่งจะย้ายมา ตกหลุมรัก (มันออกจะไม่สมเหตุสมผลนัก) การทำให้นางเอกของเรื่องด้อยค่าลง มันก็เป็นการลดวัตถุดิบตัวนี้พัฒนาให้เนื้อเรื่องไปต่อไป เนื้อเรื่องมันจึงวนอยู่เพียงแค่ นางเอกกับพระเอก 3.2 พระเอกของเรื่องวินเนอร์ เป็นคนหล่อ บ้านรวย มีความสามารถรอบด้าน ไม่สนใจใครเลย นอกจากนางเอกของเรื่อง สุดท้ายวัตถุดิบตัวนี้ ก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาต่อไปได้เช่นกัน เนื้อเรื่องมันจึงวนไปก็วนมาอยู่ที่เดิม 3.3 ส่วนตัวละครหลักอื่นๆ ก็เป็นเช่นเดียวกันไม่มีวัตถุตัวใด ให้ไปต่อไป เพราะต่างถูกจับคู่เป็นแฟนกันไปจนหมดแล้วตั้งแต่บทแรกๆ เนื้อเรื่อง เนื่องด้วยตัวละครของท่านมันเยอะมากๆ เยอะจนท่านไม่สามารถที่ควบคุมมันได้อีกต่อไป มีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีลดลงเลย และยังวัตถุดิบที่จะนำมาแต่งนิยายของท่านมันก็มีน้อยมากเหลือเกิน นิยายของท่านมันจึงเหมือนไดอารี่เล่มหนึ่ง ที่ตัวละครทุกๆ ตัว ต่างแย้งกันพูดๆ หากใครพูดไม่ทันอาจที่จะถูกลืมได้ ดังนั้นเมื่อรวมแก๊งกันได้เมื่อไร ทุกๆ ตัวละครทุกๆ ตัว จะต้องรีบๆ แข่งกันพูดๆ จนกลายเป็นเหมือนปริศนาอักษรไขว้ ที่ทำคนอ่านนิยายของท่าน ถึงกับหน้ามืดได้เลย ถึงแม้ตัวละครหลักๆ ของท่าน แทบที่จะไม่มีบทพูดหลงเหลืออยู่แล้ว บุญซ้ำกรรมยังซัดเพิ่มเข้าไปอีก ยังต้องถูกเหล่าตัวประกอบต่างๆ ที่เยอะมากๆ เข้ามาแย้งบทไปด้วยเสียอีก โดย เฉพาะเหล่าครูอาจารย์ต่อคิวกันเข้ามาแย้งกันพูดเกือบที่จะทุกๆ บท ทุกๆ ตอนกันเลย ดังนั้นบทที่เหลือๆ ให้นางเอกกับพระเอกของเรื่องจึงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดจริงๆ เนื้อเรื่องของท่านแม้ว่าจะผ่านไปแล้ว 14 ตอน แต่มันก็เหมือนว่าจะไปได้ไม่ถึงไหนเลย แม้จะพลาดบทหนึ่งบทใด ก็เหมือนจะไม่ได้พลาดอะไรที่สำคัญไปเลย การบรรยาย 1. การบรรยายที่เยอะเกินไปอาทิเช่นในบทที่ 1 แม้จะอยู่ในบทเดียวกัน ก็ก็ควรบรรยายสรุป ให้เหลือเพียงคอลัมน์เดียวก็พอ 2. การบรรยายซ้ำแล้วซ้ำอีก เนื่องจากไม่ได้เตรียมวัตถุดิบ บทแรกๆ คือการบรรยายแนะนำตัวละครโดยละเอียด บทต่อไปจะได้ลดการบรรยายที่สิ้นเปลืองลงไป จะได้ไม่ต้องบรรยายย้ำคำเดิมๆ ซ้ำหลายๆ รอบ ชื่อจริง นามสกุลจริงของแทน มันไปโผล่อยู่ในบทที่ 6 และชื่อตัวละครอีกหลายๆ ก็ด้วยเช่นกัน ซึ่งการทำอย่างนั้น มันเหมือนกับเป็นการให้คนอ่านไปหาต่อจิกซอกันเอาเอง 3. ควรระวังในการบรรยายชื่อตัวละคร หลักๆ ด้วย มันอาจจะทำให้คนอ่านงงได้อาทิเช่น จากบทที่ 1…เธอมีชื่อจริงๆ ว่า แพรว+พราว จากบทที่ 7...เธอมีชื่อจริงๆ ว่า...แบ๋ม+แอ๋ม จากบทที่ 9...เธอมีชื่อจริงๆ ว่า...กุ๊กกิ๊ก+กิ๋กกิ๋ก ไม่รู้ว่าท่านจำชื่อตัวละครของท่านเองไม่ได้ หรือว่าท่านพิมพ์ผิดกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ให้ทำให้คนอ่านงงได้ครับ คำแนะนำ 1. ฆ่าได้ฆ่า ตัดหัวได้ตัดหัว เผาได้ ก็เผามันทิ้งไปซะ หมายถึงตัวประกอบทุกๆ ตัวเลยครับ(ไม่ต้องให้บทพูด ให้แต่บทบรรยาย เป็นแค่วิญญาณไปวันๆ ก็พอ) ให้เหลือแค่ตัวละครหลักๆ ได้รับผลประโยชน์ในส่วนนี้ไป ตัวละครหลักของท่านมันจะได้มีพื้นทีให้ได้ยืนบ้าง ไม่ต้องไปแออัดอยู่แต่เฉพาะในโรงอาหารแห่งเดียว เพราะนิยายท่านตอนนี้มันเต็มไปด้วยชื่อตัวละคร เนื้อเรื่องไม่มีเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว 2. ไม่ควรลดความสำคัญของตัวละครหลัก ให้เป็นเพียงแค่ตัวประกอบ ดูได้จากการมอบเกียรติบัตร แทน ได้ที่ 2 ฟักแฟง ได้ชมเชยที่ 2 วินเนอร์ ได้ชมเชยที่ 3 ส่วนผู้ได้ที่ 1 กับเป็นตัวประกอบที่เพิ่งโผล่ออกมาเพียงชื่ออย่างเดียว แล้วก็หายไป ท่านมีตัวละครหลักๆ เกือบจะครบยี่สิบตัว เอามาออกมาใช้ให้มันครบซิครับ หรือจะให้ นางเอกของเรื่องได้ที่ 1 ก็เป็นไปได้ อย่างน้อยๆ นางเอกก็เป็นถึงลูกของคุณครูนะครับ ไม่สวยแต่ก็น่าที่จะมีความสามารถอะไรที่โดดเด่นอยู่บ้าง 3. สูตรสำเร็จของนิยายไทย ส่วนใหญ่จะประกอบด้วย พระเอก นางเอก พระรอง นางรอง ตัวโกง นางอิจฉา รวม 6 คน ไม่ต้องมากกว่านี้ก็ได้ เราก็สามารถที่จะแต่งนิยายสนุกๆ ได้แล้วเรื่องหนึ่งหากท่านจัดเตรียมวัตถุดิบดีๆ เพื่อนำมาแต่งเรื่อง เล่าเรื่องให้สนุกได้ จำนวนตัวละครจะมากจะน้อยจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป ดังนั้นนอกจากท่านควรจะฆ่าตัวประกอบออกไปจากนิยายของท่านให้หมดแล้ว ท่านยังสามารถที่จะฆ่า ตัวละครหลักๆ ทิ้งไปเพิ่มได้อีกด้วยเช่นกัน สรุป มาถึงช่วงส่งท้ายเสียที จากที่ผมได้อ่านนิยายของท่านตั้งแต่บทแรกจนจบ มันได้ผมให้ผมเกิดคำถามขึ้น อย่างเช่น 1. ทำไมนางเอกของเรื่อง ถึงได้ไม่ใช่สาวสวยน่ารักๆ ที่ใครๆ เห็นแล้วต้องอิจฉา แต่กับเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่ทั้งอวบ และอ้วน (เมื่อเป็นอย่างนี้ นิยายก็ไม่มีวัตถุดิบอะไรให้เขียนต่อไปได้ครับ) สุดท้ายจึงคิดได้ 2 ข้อ เริ่มจาก 1.1 นักเขียน มักจะให้นางเอก เป็นตัวแทนของตัวนักเขียนเอง นั้นจึงพอที่จะอธิบายได้ว่า ถึงแม้ท่านไม่ใช่คนสวย แต่เป็นคนที่มีความสามารถ ฉลาด ถึงแม้ในชีวิตจริงๆ อาจที่จะไม่มีใครมาตามจีบท่านมากนัก แต่เมื่อได้ลงมือแต่งนิยายสักเรื่อง จึงเอามันให้เป็นที่อิจฉาริษยากันทั้งโรงเรียนเลยทีเดียว 1.2 นักเขียน ต้องการอยากจะให้นางเอกของเรื่องมีความโดดเด่นในด้านอื่นๆ ที่ไม่ใช่ความสวย แต่เมื่อได้อ่านนิยายจนจบ กับไม่ได้เห็นความโดดเด่นของนางเอกเลย โดยเริ่มจาก การเรียน และดนตรี พอใช้ ไม่ถึงกับเก่งมาก เป็นคนมีโรคประจำตัว คือโรคกระเพาะ เป็นคนกลัวความมืด เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า และกลัวผี กลัววิญญาณ เป็นคนขี้หลง ขี้ลืม และสุดท้าย ไม่ได้มีความรับผิดชอบอะไรมากนัก มาโรงเรียนก็สายเป็นประจำ ดังนั้น ระหว่างข้อ 1.1 และ 1.2 ผมจึงมุ่งความเป็นไปได้ว่าน่าที่จะเป็นข้อ 1.1 มากกว่า (ล้อเล่น...หรือจะเป็นจริง) 2. ทำไมพระเอกของเรื่อง ถึงได้ปักใจหลงรักนางเอกคนนี้นัก แม้ว่าใครๆ จะไม่ได้ให้ความสำคัญกับเธอเลยก็ตาม แทน กับ ธันวา ถือเป็นหนุ่มรูปหล่อ มากความสามารถ โดยเฉพาะแทน เป็นผู้ชายเจ้าชู้ (นิสัยของพระเอกเลยทีเดียว) กีฬาดี การเรียนดี เล่นดนตรีเก่ง ซึ่งน่าที่จะเป็นรองก็เฉพาะกับวินเนอร์ พระเอกของเรื่องเท่านั้น แต่ แทน กับ ธันวา กับพากันหนีจากห้อง 3/1 ที่เคยเรียนมากับนางเอก มาหาแฟนสาวสวยยังห้อง 3/2 หลงเหลือฟักแฟงนางเอกของเรื่องเอาไว้เพียงคนเดียว จะว่าแทนไม่มีตาพอที่จะมองผู้หญิงก็ไม่น่าที่จะใช่ แต่หนึ่งในผู้ชายทั้งสอง ก็น่าที่จะมีใครสักคนมองเห็นความสวยของนางเอกบ้าง แม้ว่าจะไม่ใช่ในด้านรูปร่างน่าตา ก็น่าที่จะเป็นทางด้านจิตใจ แต่นี้ พากันวิ่งหนี ซึ่งเรียกว่า “หางจุกตูด” กันเลยที่เดียว เอ่ยถึงวินเนอร์ ทำไมถึงหลงรักนางเอก คำตอบคือ...กูจะรักซะอย่าง ใครมันจะทำไม่ว่ะ...ซึ่งนางเอกของเรื่องหากว่าเธอไม่ใช่คนกลัวผี ก็คงต้องคิดว่าเธอกำลังเล่นของ เข้าทรง ปลุกผี อะไรเทือกนั้น เข้าร่างของพระเอกอยู่อย่างแน่นอน ดูได้จากตอนที่ 14 เธอสัญญากับพระเอกว่าจะทำข้าวกล่องมาให้กับพระเอกทาน แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ทำ โดยบอกว่าเธอลืมซะสนิทเธอ เธอจึงเอาข้าวกล่องของเธอเองให้พระเอกทาน ส่วนตัวเธอเองสั่งข้าวโรงอาหารมานั่งทาน พระเอกเมื่อทานข้าวกล่อง(เริ่มใส่ยาเสน่ห์...ไม่มีอยู่ในเรื่อง) ของเธอแล้ว ว่าก็ไม่รู้สึกที่โกรธเธอแต่อย่างใด เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ฉันไม่ลืมที่จะทำข้าวกล่องมาให้กับตัวฉันเอง แต่ฉันลืมทำข้าวกล่องให้กับคนที่ฉันรัก แม้ฉันจะสัญญาเอาไว้แล้วก็ตามที (ในชีวิตจริงๆ จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไหมนะ) สุดท้าย เรื่องนี้ก็พอที่จะสรุปได้ว่า นักเขียนไม่ได้จัดเตรียมวัตถุดิบอะไรเอาไว้ให้กับตัวละครเลย อยากเขียนอะไรก็เขียนมันไปเรื่อยๆ ดูได้จากที่เอานางเอกกับพระเอกของเรื่องไปติดฝนอยู่ภายในอาคารเรียนด้วยกัน ถึงสองครั้ง ซึ่งคาดว่ากว่านิยายเรื่องนี้จะแต่งจบพระเอกกับนางเอก น่าจะเป็นปอดบวมกันไปเสียก่อน (สร้างเหตุการณ์อย่างอื่นบ้างก็ได้นะครับ) .............................................   อ่านน้อยลง

    ปีจบ | 1 ธ.ค. 56

    • 2

    • 0

    ดูทั้งหมด

    ความคิดเห็น