Special Chapter
Best Mistake ทดเวลาบาดใจ
TaipeixBear’s Part
5 hours ago…
2.14 PM
‘แบร์
ถ้ากูเปิดประตูแล้วมึงเข้ามา
มึงจะไม่มีสิทธิ์ไปไหนกับพี่แดนอีก
กูถือว่ากูพูดแล้วนะ
มึงจะเอายังไง’
ข้อความที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์กำลังทำให้คนที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้องรีบพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้สนใจประโยคใดๆ นอกเสียจากคำว่าเปิดประตูที่คนในห้องได้พิมพ์มาหา มือข้างหนึ่งยกขึ้นปาดน้ำตาอย่างลวกๆ ในขณะที่อีกข้างก็กดส่งข้อความกลับไปหาคนที่อยู่ด้านในด้วยเช่นกัน
‘กูจะเข้าไป’
แบร์เอาแต่ยืนจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองพร้อมกับหัวใจที่กำลังรู้สึกโหวงแปลกๆ
...จะไม่โหวงได้อย่างไร ในเมื่อคนด้านในห้องกำลังทำตัวโหดร้ายกับเขาอย่างถึงที่สุด
ไทเปไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไทเปก็ไม่เคยหันหลังให้กับเขาแม้แต่ครั้งเดียว
แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้ง...สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น กำลังทำให้แบร์ทำอะไรไม่ถูก
แบร์ยอมรับกับตัวเองว่าเขาตื่นตูมมากกับการที่ไทเปทำตัวแบบนี้กับเขา เขาเลือกที่จะมาที่นี่แบบไม่ต้องคิดเพื่ออยากจะเคลียร์กับคนที่อยู่ด้านในห้องให้รู้เรื่อง
คนตัวเล็กเผลอกัดปากตัวเองเมื่อคนด้านในอ่านข้อความที่เขาส่งไปแล้ว แต่บานประตูตรงหน้ากลับยังปิดสนิท
ปัง ปัง!
“ไท” เขายกมือขึ้นทุบประตูเสียงดัง “กูบอกว่ากูจะเข้าไปไง มึงเปิดประตูให้กูดิวะ”
แบร์กำลังจะเงื้อมมือไปทุบอีกครั้ง แต่คราวนี้ประตูห้องกับถูกเปิดออกเสียก่อน เขาเงยหน้ามองร่างสูงตรงหน้าที่กำลังยืนมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ไทเปเปิดประตูให้กว้างมากขึ้นกว่าเก่า ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับเดินไปยังเตียงนอนของตัวเอง ปล่อยให้คนที่อยู่หน้าห้องเป็นฝ่ายเดินตามเข้ามาเอง แบร์ก้าวเข้ามาในห้องพลางปิดประตูลง สายตาของเขายังคงมองตามร่างสูงที่ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว ซ้ำยังเอาแต่นั่งเงียบและไม่ได้มองมาที่เขา
ริมฝีปากเล็กเผลอเม้มเข้าหากันโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นท่าทีที่นิ่งสนิทของไทเป เขาเดินไปทิ้งตัวนั่งลงข้างคนตัวสูงที่คงยังไม่แม้แต่จะหันมามองเขา
“...ไท” สุดท้ายแบร์ก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน เขายกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำตาตัวเองที่ยังคงหลงเหลืออยู่
ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องร้องไห้แบบนี้
...อาจจะเป็นเพราะตัวเขาเองก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกที่ไม่เคยเห็นคนที่คอยตามเขามาตลอดเป็นแบบนี้มาก่อน
“กูขอโทษจริงๆ”
“...”
“กูไม่ได้ตั้งใจจะโกหกมึงเลย”
“...”
“กูก็แค่เห็นว่าพี่แดนเพิ่งเลิกกับจีโน่มา ก็เลยอยากไปหา”
“แต่ก่อนมึงไปไหนกับพี่แดน มึงบอกกูตลอดไม่ใช่เหรอแบร์”
“...” คำพูดสวนขึ้นมาของคนข้างกายทำเอาแบร์พูดอะไรต่อไม่ออก ไทเปหันมามองเขา สีหน้าของร่างสูงยังคงนิ่งสนิท แววตาเฉยเมยของคนตรงหน้ากำลังทำให้ร่างเล็กรู้สึกเหมือนใจหายวาบขึ้นมา
“ทำไมตอนนี้มึงถึงต้องโกหกกู”
“กูขอโทษไท”
“กูกับมึงต้องเป็นแบบนี้ไม่อีกเมื่อไหร่วะแบร์”
“...”
“มึงบอกกูได้มั้ยว่ากูมีโอกาสมั้ย มึงไม่อยากมีใครกูยังอยู่กับมึงได้นะแบร์ แต่ถ้ามึงชอบคนอื่นแล้ว กูอยู่กับมึงไม่ได้หรอกแบร์” คำพูดที่กำลังพรั่งพรูออกมาจากปากของร่างสูงราวกับอะไรที่บีบรัดให้อีกคนรู้สึกหายใจไม่ออกขึ้นมาเสียดื้อๆ
ใช่...ไม่ใช่ว่าแบร์ไม่รู้ว่าไทเปคิดยังไงกับเขา เขารับรู้มันมานานแล้ว
แต่คนอย่างเขาที่ยังไม่พร้อมจะมีใครหรือคบกับใครจริงจังเลยทำได้เพียงแค่บ่ายเบี่ยงกับความรู้สึกของคนตรงหน้าเขามาโดยตลอด
แต่แบร์ก็ปฏิเสธไมได้ว่าการที่ไทเปคอยอยู่ข้างๆ เขาแบบนี้...มันทำให้เขาเคยชินกับมัน เขารู้ว่าไทเปพร้อมที่จะอยู่กับเขา ตามใจและทำอะไรให้เขาก็ได้
แบร์ยอมรับกับตัวเอง...ว่าสุดท้ายเขาก็แค่คนเห็นแก่ตัวคนหนึ่งที่อยากมีคนอย่างไทเปอยู่ข้างกายไปเรื่อยๆ แบบนี้
ตลอดเวลาที่ผ่านมาแบร์ไม่กล้าถามหัวใจตัวเองว่าคิดยังไงกับสิ่งที่เป็นอยู่ เขากลัวว่าการคบกับใครสักคนมันอาจจะทำให้เขาเสียใจ แต่ในทางกลับกันเขาเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งที่เขากำลังทำกับคนตรงหน้า
...มันทำให้อีกคนเจ็บกับความทรมานในสถานะที่ไม่มีที่มาที่ไปแบบนี้มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
“กูขอโทษ” แบร์ยังคงเอ่ยคำเดิมซ้ำๆ
เขาเอื้อมมือไปแตะแขนร่างสูง...และเมื่อเห็นว่าไทเปไม่ได้ปฏิเสธหรือเบี่ยงแขนหนีเขา ร่างเล็กจึงขยับเข้าไปใกล้คนตัวสูงข้างๆ มากกว่าเดิม
“กูจะไม่โกหกมึงอีกแล้ว กูจะบอกมึงทุกอย่างเลยไท”
“ก่อนกูจะให้มึงเข้ามา กูบอกมึงว่ายังไง”
“...”
“กูบอกว่ามึงจะไม่ได้ไปไหนกับพี่แดนอีก”
“...”
“มึงทำให้กูได้มั้ยวะแบร์”
“...” ความเงียบที่กลายเป็นคำตอบของคนตัวเล็ก ทำเอาร่างสูงถึงกับหันหน้าหนีพลางแค่นหัวเราะกับตัวเอง
...ก็รู้มาตั้งนานแล้วไม่ใช่ไม่รู้
ไทเปรู้มาตลอดว่าพี่ชายที่แสนดีสำหรับแบร์อย่างแดน คิดไม่ซื่ออะไรกับคนตัวเล็กตรงหน้าเขา ตั้งแต่เขารู้จักแบร์กี่ครั้งไม่รู้ต่อกี่ครั้งที่แบร์พูดถึงชื่อนี้ให้เขาได้ยิน เขาพยายามข่มใจเชื่อว่ามันไม่มีอะไรมาตลอด
จนกระทั่งวันนั้น...วันที่แบร์เมาแล้วมาเล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรกับขึ้นกับแดน
...ความกลัวที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันนั้นมันทำให้ร่างสูงทุกข์ทรมานใจ เขากลัวมาตลอดว่าจะต้องมีอะไรเปลี่ยนไป
และสุดท้าย...ก็ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขากลัวกำลังจะเป็นจริง
“ถ้ามึงชอบพี่แดน มึงก็พูดมา” ไทเปฝืนใจพูดออกไป เขารู้สึกเหมือนลำคอตัวเองแห้งผาก หัวใจปวดหนึบจนไม่อยากจะมองหน้าคนข้างกาย
...เขาทนมาตลอด
ก่อนหน้านี้ขนาดไม่มีใครเข้ามาแทรกกลาง...เขายังรู้สึกเจ็บกับความไม่ชัดเจนของคนตรงหน้าไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
แล้ว ณ ตอนนี้...หัวใจเขามันยิ่งเจ็บมากขึ้นไปอีก เมื่อคนตรงหน้าดูเหมือนกำลังจะไปชอบคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเขาเอง
ขนาดทำให้รักตัวเองยังเหมือนจะทำไม่ได้...แล้วจะไปห้ามไม่ให้ไปรักคนอื่นอีกได้ยังไง
...มันไม่มีทางเลยที่เขาจะทำอะไรได้สักทาง
“ไท มึงอย่าพูดแบบนี้”
“...”
“กูบอกแล้วไงว่ากูแค่หวั่นไหว กูยอมรับว่าเพราะเรื่องที่เมาแล้วจูบกับพี่แดนวันนั้น”
“มึงอย่าโกหกกู”
“มึงไม่เชื่อกูเหรอไท”
“...”
“ทำไมวะ กูต้องพูดยังไงวะไท”
“...”
“ไท” คนตัวเล็กเสียงสั่นเครือเมื่อเห็นว่าเขาเอาแต่นิ่งเฉย ไทเปยังไม่อยากจะหันกลับไปมองคนข้างกายเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกแบบไหนในเวลานี้
เขารักแบร์มาก...รักมาตลอด และไม่เคยคิดจะรักคนอื่น เขาถึงยอมอยู่แบบนี้และไม่คิดจะไปไหน
แต่เมื่อเขารู้ว่าแบร์กลับโกหกเขาเพื่อไปหาคนอื่น หัวใจของเขาก็เหมือนถูกฉีกจนแหลกละเอียด
...สู้ให้แบร์บอกเขาตรงๆ เสียยังจะดีกว่า
“กูขอโทษ” เป็นอีกครั้งที่แบร์เอ่ยคำขอโทษกับเขา แต่ในครั้งนี้...คนตัวเล็กกลับเขยิบเข้ามาใกล้พร้อมกับสวมกอดเขาไว้ ใบหน้าเล็กซุกลงที่อกของเขาเหมือนอย่างที่เคยทำเช่นทุกครั้งเวลาอยู่กับเขาแค่สองคน
ภายนอก...ทุกคนอาจจะมองว่าเขากับแบร์ก็แค่เพื่อนที่สนิทกันมากเป็นพิเศษ แต่ในความเป็นจริง...มันไม่ใช่เลยสักนิด
เพื่อนที่จับมือกันได้ เพื่อนที่กอดกันได้เป็นประจำอย่างในตอนนี้ หรือเพื่อนที่จูบกันเวลาที่เมาจนนับครั้งไม่ถ้วน...เพื่อนแบบนี้มันมีจริงเสียที่ไหน
เพื่อนอย่างนั้นเหรอ?...เขากับแบร์เลยจุดนั้นมาตั้งนานแล้ว ทุกอย่างมันมากเกินกว่านั้น
มันถึงได้เจ็บ...อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ในเมื่อเขาไม่เคยได้รับความชัดเจนจากคนตรงหน้า ซ้ำยังดูเหมือนพร้อมจะไปจากเขาได้ทุกเมื่ออีก
ไทเปเหลือบลงมองคนที่กำลังกอดเขาอยู่...และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหัวใจเขาเหมือนอ่อนยวบแทบจะในทันทีเมื่อคนตัวเล็กทำแบบนี้กับเขา
...เขาไม่เคยไปไหนรอดเลยสักครั้ง
“มึงอย่าทำแบบนี้กับกูได้มั้ยไท”
“...”
“กู...กูรู้สึกไม่ดีเลย” คำพูดของแบร์กำลังทำให้หัวใจเขาสั่นไหว
รู้ทั้งรู้ว่าสุดท้ายคนที่เจ็บก็ยังคงเป็นตัวเขา...แต่เขาก็หนีไปไหนไม่ได้
“แบร์”
“...”
“กูถามจริงๆ”
“...ฮึ”
“กูเป็นอะไรสำหรับมึง”
“...”
“มึงเคยชอบกูบ้างมั้ย” คำถามที่เขาถามออกไปกำลังทำให้หัวใจของเขารู้สึกหนักหน่วงตามไปด้วย คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองเขาทั้งที่ยังกอดเขาเอาไว้อยู่ ดวงตาใสแป๋วที่กำลังสบตาเขาอยู่ยิ่งทำให้เขากลัวคำตอบที่จะได้ยินหลังจากนี้
“...มึงก็รู้ว่ากูไม่เคยมีแฟน”
“...”
“กูกลัวที่จะมีใคร กูไม่รู้ว่าการชอบใครสักคนจริงๆ เป็นยังไง”
“...”
“...แต่กูไม่อยากให้มึงหนีกูไปไหนเลยไท กูอยากให้มึงอยู่กับกูแบบนี้”
...แค่เพียงเท่านี้ หัวใจของร่างสูงก็ยิ่งอ่อนยวบ...และเหมือนยิ่งหาทางไปไม่ได้ ดวงตาคู่สวยที่ประสานสายตากับเขาอยู่ในเวลานี้ได้ตรึงเขาเอาไว้และเป็นฝ่ายควบคุมเขาเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
...เขาไม่เคยชนะคนตัวเล็กตรงหน้าเขาได้สักที
“มึงบอกกูว่า...กูกับมึงเคยจูบกันตอนกูเมาใช่มั้ยไท”
“...”
“กูไม่รู้จริงๆ กูเมาจนจำอะไรไม่ได้เลยเวลาอยู่กับมึง”
“...”
“ไท”
“...”
“...มึงลองจูบกูได้มั้ยตอนนี้” คำพูดกับแววตาของคนตัวเล็กที่มองมาที่เขาและกำลังกอดเขาอยู่ ทำเอาหัวใจเขาเต้นระส่ำจนควบคุมมันไม่ได้ สายตาของเขาเผลอเหลือบมองริมฝีปากเล็กโดยอัตโนมัติ...
...และอยู่ๆ คนตัวเล็กก็เป็นฝ่ายเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เขาก่อน
ร่างสูงแทบหยุดหายใจเมื่อริมฝีปากเล็กอยู่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่เซนติเมตร ดวงตาเรียวลอบมองทั่วใบหน้าเล็ก...นัยน์ตาของคนตรงหน้ากำลังจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเขาอยู่เช่นกัน
...ถ้าเขาจูบกับคนตัวเล็กครั้งนี้
มันก็จะเป็นจูบแรกระหว่างเขากับแบร์ที่แบร์มีสติอยู่เต็มร้อย และไม่ได้เกิดขึ้นจากความมึนเมา
ร่างเล็กเป็นฝ่ายยกสองมือขึ้นประคองใบหน้าของร่างสูง...ระยะห่างของทั้งสองคนใกล้เข้ามาอีกหนึ่งระยะจนลมหายใจแทบหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และเมื่อไทเปสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของคนตรงหน้า เขาก็ห้ามตัวเองไม่ได้อีกต่อไป...
ริมฝีปากเรียวทาบทับลงบนริมฝีปากเล็กอย่างรวดเร็ว มือเรียวของร่างสูงเป็นฝ่ายรั้งคนตัวเล็กให้เข้ามาใกล้ตัวเองจนแทบไม่มีระยะห่างระหว่างกัน สัมผัสร้อนๆ จากริมฝีปากของทั้งคู่ทำให้หัวใจเต้นแรงจนเหมือนแทบจะระเบิดออกมา มือเรียวกลายเป็นฝ่ายประคองใบหน้าเล็กไว้แทน คนตัวเล็กรู้สึกเหมือนตัวเองแทบจะลืมหายใจเมื่อริมฝีปากคนตรงหน้าบดขยี้ริมฝีปากเล็กของเขา จูบจากร่างสูงไม่มีท่าทีว่าจะผ่อนแรงลง ยิ่งไปกว่านั้นลิ้นร้อนที่แทรกผ่านเข้ามาตักตวงความหวานจากริมฝีปากเล็กของเขากำลังทำให้อุณหภูมิในร่างกายของทั้งคู่สูงขึ้นจนต้านทานแทบไม่อยู่
ร่างสูงละมือที่ประคองใบหน้าเล็กเอาไว้ออก เขาโอบกอดคนตัวเล็กด้วยมือทั้งสองข้างทั้งที่ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงแนบสนิทกัน และเพียงแค่ออกแรงแขนนิดเดียว...เขาก็สามารถพาร่างเล็กมานั่งอยู่บนตักเขาได้ในทันที
ไทเปเป็นฝ่ายทอดถอนริมฝีปากจากริมฝีปากเล็กตรงหน้าก่อน ใบหน้าของทั้งคู่ยังคงอยู่ใกล้กันจนน่าอันตราย...ดวงตาหวานเชื่อมที่กำลังจ้องมองเขาอยู่กำลังทำให้เขาปั่นป่วน...และเมื่อคนตัวเล็กยกมือขึ้นโอบกอดรอบคอเขาไว้ ความคิดที่จะหยุด...ก็ถูกทลายลงในพริบตา
เขาเป็นฝ่ายทาบทับริมฝีปากเล็กก่อนอีกครั้ง คนตัวเล็กหลับตาพริ้มรับจูบจากเขาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะปฏิเสธ ซ้ำยังเบียดร่างของตัวเองเข้ากับร่างของร่างสูงจนไม่เหลือช่องว่างให้อากาศได้รอดผ่าน สัมผัสวาบหวามที่กำลังเกิดกับทั้งคู่กำลังทำให้ความรู้สึกเตลิดจนควบคุมเอาไว้ไม่ได้ มือเรียวของร่างสูงกำลังลูบไล้แผ่นหลังบางของคนบนตักไปตามแรงอารมณ์ที่ฉุดไม่อยู่
...เขาผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากเล็กและสบตาคนตรงหน้าอีกครั้ง นัยน์ตาฉ่ำที่ประสานกันอยู่ของทั้งคู่ต่างเป็นคำตอบให้กันและกันได้ว่า...หลังจากนี้อาจจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้น
เสี้ยววินาที...ที่ร่างสูงกำลังชั่งใจ คนตัวเล็กกลับกลายเป็นฝ่ายจู่โจมเขาเองเมื่อริมฝีปากอุ่นถาโถมมาที่ริมฝีปากของเขาอีกครั้ง
สัมผัสและความต้องการที่กำลังหยุดไม่อยู่ทำให้ร่างสูงปล่อยผ่านความชั่งใจของตัวเอง...เขาเป็นฝ่ายพลิกคนบนตักนอนลงบนเตียง ก่อนจะบดขยี้จูบที่ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ ...มืออีกข้างเลิกเสื้อของคนภายใต้อาณัติตัวเองขึ้น และไม่มีทีท่าว่าคนตัวเล็กจะปฏิเสธเขาแม้แต่นิด...
...รู้ทั้งรู้ว่าหลังจากนี้ สุดท้ายก็อาจจะไม่มีอะไรดีขึ้นเหมือนเดิม
...รู้ทั้งรู้ว่าหลังจากนี้ สุดท้ายก็กลายเป็นเขาเองคนเดียวที่อาจจะเป็นฝ่ายเจ็บมากขึ้นไปอีก
...แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดตัวเองได้อีกต่อไป
7.08 PM
ครืด~ ครืด~
“อื้อ...”
ไทเปรู้สึกตัวเมื่อคนในอ้อมกอดของตัวเองกำลังพลิกตัวหันหลังให้เขา มือเรียวยกมือขยี้ตาตัวเองก่อนจะเหลือบมองโทรศัพท์มือถือของคนตัวเล็กที่กำลังสั่น
...ที่จริงดูเหมือนมันจะสั่นมาหลายทีแล้ว แต่ทั้งคู่เลือกที่จะปล่อยผ่านเสียมากกว่า
เขาจำไม่ได้ว่าเขากับคนข้างๆ หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่...ทุกสิ่งทุกอย่างหรือแม้แต่ทุกสัมผัสที่เพิ่งจะเกิดขึ้นก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมงกลายเป็นสิ่งเดียวที่เขาจดจำได้ในตอนนี้...
ไทเปหันมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของคนที่กำลังนอนหันหลังให้เขา...เขาเขยิบเข้าไปใกล้ก่อนจะรั้งร่างของคนตัวเล็กที่ยังคงหลับอยู่มาไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง ใบหน้าซุกลงที่ลำคอเล็กก่อนที่เขาจะหลับตาลง
...มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว
เขากับแบร์...ก้าวข้ามผ่านความสัมพันธ์มาอีกขั้น และมันก็เป็นการก้าวกระโดดที่น่ากลัว...
ยิ่งเป็นแบบนี้...มันยิ่งทำให้เขาถอยหลังกลับไม่ได้อีกต่อไป
...เขาหนีไปไหนไม่ได้แล้วจริงๆ
ครืด~
ไทเปลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาพลิกตัวกลับไปอีกฝั่งเมื่อคราวนี้ดูเหมือนจะเป็นโทรศัพท์มือถือเขาซะเอง เขาหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะเห็นแจ้งเตือนจาก Line Official ขึ้นมา เขาเข้าไปกดลบมัน พลันสายตาก็เห็นไลน์ของใครบางคนที่ทักเขามาก่อนหน้านี้
...และมันก็ทำให้เขาหงุดหงิดแทบจะในทันที
‘ไท
พี่รบกวนถามอะไรหน่อย
ได้คุยกับแบร์บ้างมั้ย
แบร์บอกพี่ว่าจะไปหาเพื่อนแล้วหายไปเลยตั้งแต่บ่าย’
...ใช่ คนที่ไลน์หาเขาคือพี่แดน
คิ้วของเขาเผลอขมวดเข้าหากันแทบจะในทันทีเมื่อเห็นข้อความที่ปรากฏอยู่หน้าจอ ไทเปรู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะปาโทรศัพท์ทิ้ง แม้กระทั่งในเวลาแบบนี้...คนคนนี้ก็ยังจะโผล่มาให้เขาได้เห็นอีกจนได้
สุดท้ายเขาก็พิมพ์ตอบกลับไปโดยไม่คิดไต่ตรองอะไรทั้งนั้น
‘ครับ
แบร์อยู่ห้องผมครับ
มีอะไรรึเปล่าครับพี่แดน’
“ไท” ไทเปละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เขาหันมองแบร์ที่ดูเหมือนเพิ่งจะตื่นขึ้นมา ร่างเล็กลุกขึ้นนั่งพลางดึงผ้าห่มคลุมร่างที่เปลือยเปล่าของตัวเองมิดจนถึงลำคอ “กูหนาว มึงเพิ่มแอร์หน่อยสิ”
ร่างสูงวางโทรศัพท์มือถือไว้ที่เดิม ก่อนจะคว้ารีโมทแอร์มาเพิ่มอุณหภูมิในทันที ไทเปวางมันกลับลงที่เดิม จากนั้นจึงรวบตัวคนที่นั่งอยู่มากอดเอาไว้...และดูเหมือนคนในอ้อมกอดเขาจะไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำยังซุกหน้าลงที่อกของเขาอย่างที่ชอบทำ
มือเรียวลูบศีรษะของคนในอ้อมอกอย่างแผ่วเบา ความรู้สึกของเขากำลังตีรวนจนไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรก่อน ใจหนึ่งก็ดีใจ...แต่อีกใจเขากลับรู้สึกกลัวอะไรที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
...ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันให้เขาได้ทั้งนั้น ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาแน่ใจได้เลยว่าคนตัวเล็กจะอยู่กับเขาแบบนี้ไม่ไปไหน
มาถึงขนาดนี้แล้ว...เขาถอยหลังกลับไม่ได้อีกแล้ว
เขารู้ตัวเองดี...ว่าเขาเสียแบร์ไปให้ใครไม่ได้แน่
ถ้าเขาไม่ทำอะไรสักอย่างในตอนนี้...เขาอาจจะต้องเสียคนตัวเล็กไปจริงๆ เข้าสักวัน
“แบร์”
“...ฮึ”
“มึงเป็นแฟนกับกูมั้ย”
สำหรับคำตอบของแบร์จะเป็นยังไง
เจอกันตอนที่ 11 ในจอยนะคะ จุ๊บบบบบบ
ท้อ
แบบมันหน่วงมากกว่า คือแบไม่ชัดเจนกับคำพูดนะ แต่ความรู้สึกกับการกระทำมันสวนทางมากเลย คิดอะไรกับไทหน่อยเถอะค่ะ
แต่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่กับไทมานาน จนมันเป็นความเคยชินหรือป่าว เลยมองข้ามไป แต่จริงๆพาร์ทที่แล้วก็น่าจะเป็นคำตอบอะไรได้บ้างนะว่า จริงๆแล้วแบรู้สึกยังไงกันแน่
ไทขอเป็นแฟนแล้ว แบร์จะตอบว่ายังงไง ัามไปอ่านค่า
กราบไรท์งามๆ