คีตะคีรีมิรู้จบ แนวรบตะวันตกไม่เคยสิ้นสุด - นิยาย คีตะคีรีมิรู้จบ แนวรบตะวันตกไม่เคยสิ้นสุด : Dek-D.com - Writer
×

    คีตะคีรีมิรู้จบ แนวรบตะวันตกไม่เคยสิ้นสุด

    พ.ศ.๒๕๔๘ สหราชรัฐไกลาล่มสลายจากการรุกรานของสหภาพฯเมื่อสิบปีก่อน กองทัพไทยได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจ ๗๑๗ เพื่อสืบความเคลื่อนไหวผิดปกติในรัฐไกลา และนี่คือบันทึกประวัติศาสตร์สงครามที่ถูกลบ!

    ผู้เข้าชมรวม

    4,007

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    41

    ผู้เข้าชมรวม


    4K

    ความคิดเห็น


    22

    คนติดตาม


    36
    หมวด :  สงคราม
    จำนวนตอน :  22 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  3 ก.ค. 59 / 09:45 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

    นานมาแล้ว ณ หุบเขาลึกอันห่างไกลในดินแดนสุวรรณภูมิ มีรัฐอิสระเล็กๆแห่งหนึ่งนามว่า สหราชรัฐไกลาปกครองด้วยพระราชาแห่งราชวงศ์ซิววามานานหลายพันปี

    ไกลานั้นประกอบชนเผ่าหลักสี่เผ่าคือ สุบาราอาศัยอยู่ทางภูเขาสูงด้านทิศใต้และเป็นชนชั้นปกครอง เคงมูอยู่แถบหนองน้ำใหญ่ทิศเหนือ นักกาอยู่ตามริมแม่น้ำทางทิศตะวันออก และ เบียคูอยู่ตามชายแดนในป่าทึบด้านทิศตะวันตก ซึ่งทั้งสี่เผ่านั้นต่างมีตำนานสืบทอดร่วมกันมาว่าเผ่าของตนต่างสืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษที่สร้างโดยเทพบิดรองค์เดียวกันทั้งสิ้น

    ทั้งสี่เผ่าต่างมีกำลังรบของตนจัดเป็นสี่กองธงประจำตามทิศที่ตั้งของเผ่าตน โดยแต่ละเผ่าก็มีเจ้าฟ้าครองเผ่าและขุนนางเป็นตัวแทนของเผ่าตนในราชสำนักด้วย ซึ่งความเข้มแข็งและสามัคคีของสี่เผ่านั้นทำให้ไกลาสามารถรักษาความเป็นเอกราชมาได้ยาวนานนับแต่ปลดแอกตนได้หลังสมัยพระเจ้าชนะสิบทิศบุเรงนอง แม้แต่ล่วงมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ มหาอำนาจตะวันตกคืออังกฤษที่เข้ายึดครองดินแดนแถบนี้เป็นอาณานิคมก็ต้องยอมให้ไกลามีอำนาจในการปกครองตนเองเพราะไม่อาจจะใช้กำลังรบชนะได้โดยง่าย

    อย่างไรก็ตามหลังจากมีการจัดตั้งสหภาพขึ้นหลังจากที่อังกฤษปล่อยให้ดินแดนอาณานิคมแถบนี้เป็นอิสระในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่๒ เหตุลอบสังหารผู้นำที่ให้สัญญาว่าจะให้รัฐต่างๆที่อยู่ร่วมในสหภาพสามารถตัดสินใจแยกตัวเป็นอิสระได้ภายในสิบปี รัฐบาลทหารที่ปกครองสหภาพได้เริ่มใช้กำลังปราบปรามชนกลุ่มน้อยในรัฐต่างๆนำมาสู่สงครามกลางเมืองภายในสหภาพมากว่า ๕๐ปี ถึงกระนั้นไกลาก็ยังมีกำลังเข้มแข็งพอที่จะปกป้องความเป็นเอกราชของตนได้

    แต่หลังช่วงปี พ.ศ.๒๕๓๓  เป็นต้นมา รัฐบาลทหารชุดใหม่ของสหภาพได้รับการสนับสนุนในการจัดหาด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ที่ทันสมัยจากบางประเทศเช่น จีน และ รัสเซีย หลังจากยกเลิกนโยบายปิดประเทศที่ใช้มานาน แม้ว่าจะถูกกลุ่มประเทศชาติตะวันตกคว่ำบาต แต่กองทัพรัฐบาลทหารของสหภาพก็ได้เพิ่มขีดความสามารถในการรบต่อกองกำลังชนกลุ่มน้อยมากขึ้น และด้วยนโยบายต่างประเทศที่เปลี่ยนไปของชาติมหาอำนาจและประเทศที่มีพรมแดนติดกันกับสหภาพที่เดิมใช้ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้เป็นรัฐกันชน ไกลาเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์รบที่เพลี่ยงพล้ำต่อรัฐบาลทหารมากขึ้น ความแตกแยกในหมู่เจ้าฟ้าขุนนางสี่เผ่าและสี่กองธงก็เริ่มเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ

    ปี พ.ศ.๒๕๓๙ กองทัพรัฐบาลทหารแห่งสหภาพได้เปิดยุทธการรุกครั้งใหญ่ต่อไกลา โดยได้มีการติดต่ออย่างลับๆให้ผู้นำกองธงเขียวแห่งเผ่านักกาเข้าสวามิภักดิ์ต่อรัฐบาลกลางสหภาพ ด้วยแสงยานุภาพทางทหารที่เหนือกว่าของสหภาพ ผลของสงครามครั้งนั้นทำให้กองธงดำแห่งเผ่าเคงมูถูกทำลายราบคาบ กองธงขาวแห่งเผ่าเบียคูซึ่งเป็นนักรบที่เข้มแข็งที่สุดในไกลาเสียหายอย่างหนัก กองธงแดงแห่งเผ่าสุบาราซึ่งเป็นทัพหลวงก็ถูกกองธงเขียวหักหลังเข้าโจมตีซ้ำและทำให้พระราชาแห่งไกลาผู้ชราภาพถูกลอบสังหารจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและสิ้นพระชนม์พร้อมขุนศึกคู่พระทัยในเวลาต่อมาไม่นาน

    กองทัพรัฐบาลทหารแห่งสหภาพได้เข้ายึดรัฐไกลาได้ทั้งหมดในเวลา ๓เดือนก่อนเข้าฤดูฝน แม้ว่าจะต้องเสียกำลังพลไปจำนวนมากหลายร้อยกว่านายก็ตาม แต่เจ้าฟ้าเชื้อพระวงศ์ในราชวงศ์ซิววาแทบทั้งหมดพร้อมขุนนางผู้ภักดีต่อไกลาก็ถูกรัฐบาลทหารสหภาพจับมาสังหารจนหมดสิ้น แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งภูเขา แม่น้ำ ถ้ำ และ หนองน้ำ ของทั้งสี่เผ่าถูกทหารรัฐบาลสหภาพเข้ายึดครองเพื่อใช้ประโยชน์ เจ้าฟ้าครองเผ่านักกาผู้ทรยศถูกแต่งตั้งจากรัฐบาลทหารให้เป็นหัวหน้าคุมกองกำลังป้องกันชายแดน ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ถูกทหารสหภาพเข้ามากระทำการกดขี่อย่างโหดเหี้ยมทั้งเข่นฆ่า เผา และข่มขืน

    ผู้คนทั้งสี่เผ่าที่รอดชีวิตจากภัยสงครามหลายพันคนต่างอพยพข้ามพรมแดนลี้ภัยเข้ามายังชายแดนทางตอนเหนือของประเทศไทยซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังนเรศวร และอยู่ในค่ายอพยพขนาดใหญ่ภายใต้การดูแลของ UNHCR (ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ) ซึ่งกลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคงของไทยมาจนถึงปี พ.ศ.๒๕๔๘

    แม้ว่าบัดนี้ไกลาจะได้ล่มสลายไปแล้วแต่กลุ่มกองโจรนักรบเผ่าเบียคูอดีตกองธงขาวเดิมที่ยังคงยืนหยัดต่อสู้กับทหารรัฐบาลสหภาพ และผู้อพยพสี่เผ่าที่อยู่ฝั่งไทยส่วนใหญ่คงเชื่อมั่นในตำนานที่เล่าต่อมาแต่ครั้งโบราณว่า

    คราใดที่แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งไกลาถูกย่ำยีจากผู้รุกราน ครานั้นจะมีจอมกษัตริย์แห่งวงศ์ซิววาผู้มีพลังแห่งครุฑเพลิงและนาคาวารี จุติลงมาจากสวรรค์เพื่อปลดปล่อยไกลาสู่อิสรภาพอีกครั้ง ดังเช่นเมื่อครั้ง ราชันย์ดำได้ให้คำสัตย์ต่อกษัตริย์แห่งไกลาว่าจะกรีฑาทัพมาช่วยปลดแอกไกลาจากทัพหงสาในอดีตหลายร้อยปีล่วงมาแล้ว

     

    ผู้คนแห่งไกลายังคงเชื่อและรอคอยจอมกษัตริย์ในตำนานผู้นั้น แม้บางส่วนจะเลิกให้ความหวังกับตำนานโบราณที่มองว่าไร้สาระไปแล้วก็ตาม แต่จนถึงปัจจุบัน...

    แนวรบตะวันตกไม่เคยสิ้นสุด...


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น