พ.ศ.๒๕๓๕ จากสถานการณ์การก่อความไม่สงบของเด็กและเยาวชนที่ทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนั้น
กองทัพจึงได้จัดตั้ง หลักสูตรลาดตระเวนและตอบโต้เหตุฉุกเฉิน เพื่อฝึกยุวชนทหารให้มีขีดความสามารถในภารกิจการรักษาความปลอดภัยโรงเรียนขั้นสูง
แต่จากยุวชนทหารที่อาสาสมัครเข้ามาฝึกในรุ่นที่ ๑ จำนวน ๑๐๐กว่านาย มีเพียง ๖นายเท่านั้นที่สำเร็จหลักสูตร
ภายหลังทั้งหมดได้ถูกบรรจุเข้าประจำการที่ หมู่ลาดตระเวนและตอบโต้เหตุฉุกเฉินที่ ๑๓ โรงเรียน A71 ช่วงปี ๒๕๓๕-๒๕๓๘
และได้กลายเป็นตำนานเล่าขานสืบมาว่า "สารวัตรนักเรียนเดนนรก"
ณ เวลาปัจุบัน นักข่าวสาว เซลีน แบร์นาร์ กำลังทำรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกปกปิดไว้นี้
ขอต้อนรับท่านย้อนเวลากลับสู่ช่วงปี พ.ศ.๒๕๓๓-๒๕๓๘ หรือยุคต้นทศวรรษปี ๙๐
ยุคที่หนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ที่รับสัญญาณผ่านเสาอากาศ ยังคงเป็นสื่อหลักของโลก
ยุคที่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โทรศัพท์เคลื่อนที่ โทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและเคเบิล ยังเป็นของสำหรับคนมีฐานะเท่านั้น
ยุคที่เพลงไทยแนววัยรุ่นยุคใหม่อย่าง Rap Hip-Hop Alternative-Rock Boy Band และ Girl Gang รุ่งเรื่องถึงขีดสุดยุคหนึ่ง
ยุคที่สงครามเย็นสิ้นสุดด้วยการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
ยุคที่ภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์หายไปจากพรมแดนตะวันออกของไทยเมื่อกัมพูชาจัดการเลือกตั้งหลังเวียดนามถอนกำลัง
แต่สำหรับจักรวาลของ "สารวัตรนักเรียนเดนนรก" แล้วนั้น
เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ที่สมมุติขึ้นในยุคต้นปี ๑๙๙๐
เมื่อประเทศไทยต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามรูปแบบใหม่
ที่หน่วยงานความมั่นคงของรัฐ เช่น รัฐบาลและกองทัพ ซึ่งอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไม่เคยเผชิญมาก่อน
เป็นที่มาของสงครามที่ถูกพยายามทำให้"หายไป"จากหน้าประวัติศาสตร์
โดยถูกเล่าในลักษณะบทสัมภาษณ์รายงานข่าวเชิงอัตชีวประวัติของตัวละครสมมุติ
สำหรับชุดนิยายขนาดสั้นเรื่องนี้ข้าพเจ้าพยายามจะหลีกเลี่ยงการใช้ข้อความที่สื่อถึงความรุนแรงเกินไป
หรือข้อความอันเป็นการพาดพิงบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรที่มีตัวตนอยู่จริงให้มากที่สุด
ข้อผิดพลาดประการใดๆที่เกิดขึ้นข้าพเจ้าขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ความคิดเห็น