ชุด │โชควรวาทิน │เจ้าสาวแสนร้ายที่แสนรัก [เปิดจอง,พิมพ์ครั้งที่2] - นิยาย ชุด │โชควรวาทิน │เจ้าสาวแสนร้ายที่แสนรัก [เปิดจอง,พิมพ์ครั้งที่2] : Dek-D.com - Writer
×

ชุด │โชควรวาทิน │เจ้าสาวแสนร้ายที่แสนรัก [เปิดจอง,พิมพ์ครั้งที่2]

ผู้เข้าชมรวม

177,153

ผู้เข้าชมเดือนนี้

101

ผู้เข้าชมรวม


177.15K

ความคิดเห็น


5.73K

คนติดตาม


1.43K
จำนวนตอน : 11 ตอน
อัปเดตล่าสุด :  15 ม.ค. 62 / 21:02 น.

อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ

xxเจ้าสาวแสนร้ายที่แสนรักxx

เพราะคำประกาศิตจากคุณยายที่สั่งให้แต่งงาน

มันทำให้เธอต้องมาพัวพันกับเขา 

คุณชายหมอจอมเพี้ยน ผู้ขาดการติดต่อกับสังคม

และหมกตัวอยู่แต่กับการทดลองนอกรีต 

ทั้งรักโลก รักน้ำ รักปลา รักซากุระ 

เธอกับเขาไม่มีอะไรเหมือนกัน แตกต่างกันสุดขั้ว!

แต่ทำไมเธอถึงหวั่นไหวอยากอยู่ใกล้เขานักล่ะ!?

ท่านจอมมารได้พรากตัวตนของเธอไปแล้ว

_____________________________________

เพราะหม่อมย่าที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก

เกิดเป็นกังวลกับพฤติกรรมของหลานชายเพียงคนเดียว

ที่ปฏิเสธการเข้าสังคม สันโดษ ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม

วันๆ อยู่แต่กับศพ ต้นไม้ และเพื่อนอีก 1 คนถ้วน

พิธีดูตัวจึงเกิดขึ้น และนั่นคือความพังพินาศ!

เธอ! ผู้ไปงานไหนต้องพังพินาศราบเป็นหน้ากลอง

กับเขา ผู้รักความสงบและหวนพื้นที่ส่วนตัวสุดชีวิต!

แต่ทำไม๊ ทำไม? เขากลับเต็มใจให้เธอเข้ามาป่วน

เซ็ตโชควรวาทิน+หมอ 
เซ็ตสี่จตุรเทพ 
อื่นๆ


      

Twitter : @YBsoulmate_lp
FB:https://www.facebook.com/ybsoulmate


ป.ล.สุดท้ายฝากพี่หมออิน+เฮียเวด้วย
S
N
A
P

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

คำนิยม Top

"ร้านรับวิจารณ์นิยายสไตล์ flower shop"

(แจ้งลบ)

วิจารณ์นิยาย เรื่องgarage senior ประกาศกฎรักระงับความโสด นามปากกา: YBSoulmate สวัสดีคะไรต์เตอร์ก่อนอื่นต้องกล่าวคำว่าขอบคุณมากๆนะคะที่ให้โอกาสเมย์ได้มาติชมนิยายของคุณเพื่อจะได้นำไปเป็นแนวทางในการแก้ไข ถ้าหากผิดพลาดประการใดหรือทำให้คุณไม่พอใจก็ต้องขออภัยด้วย นะคะ ชื่อเรื่อง อันนี้ก็บอกอีกเช่นเคยแม้จะพูดหลายรอบจนไรต์ทุกท่านที่มาใช้บริการจะเบื่อ ... อ่านเพิ่มเติม

วิจารณ์นิยาย เรื่องgarage senior ประกาศกฎรักระงับความโสด นามปากกา: YBSoulmate สวัสดีคะไรต์เตอร์ก่อนอื่นต้องกล่าวคำว่าขอบคุณมากๆนะคะที่ให้โอกาสเมย์ได้มาติชมนิยายของคุณเพื่อจะได้นำไปเป็นแนวทางในการแก้ไข ถ้าหากผิดพลาดประการใดหรือทำให้คุณไม่พอใจก็ต้องขออภัยด้วย นะคะ ชื่อเรื่อง อันนี้ก็บอกอีกเช่นเคยแม้จะพูดหลายรอบจนไรต์ทุกท่านที่มาใช้บริการจะเบื่อหรือเปล่าว่าไม่ถนัดเลยคะแค่อยากจะบอกสักนิดว่าชื่อเรื่องที่ดีไม่ควรจะสั้นหรือยาวเรียกง่ายๆแค่มันสัมพันธ์กับเนื้อเรื่องที่คุณกำหนดไว้เกินพอแล้วคะ การตกแต่ง ไม่โฟกัสคะแต่งได้แต่อย่าเยอะเพราะมันจะทำให้บทความของคุณรกแลดูไม่เป็นระเบียบและถ้าจะตกแต่งจริงๆจัดให้เป็นระเบียบก็โอแล้วคะ ตัวละคร สำหรับตัวละครเรื่องนี้น่าสนใจทุกคาแรกเตอร์ชวนให้อยากอ่านเนื้อเรื่องแค่คาแรกเตอร์ของคุณพี่ฌาณก็กินขาดละคะนางทำทุกอาชีพสากกะเบือยันเรือรบแหมคุณสมบัติยิ่งกว่าเมืองไทยสมายคลับซะอีกนะคะ ตรงนี้ไม่มีปัญหาเดี๊ยนให้ผ่านคะ เนื้อเรื่อง สำหรับเรื่องนี้เป็นนิยายแบบเบาสมองไม่ต้องมีพล็อตก็สามารถอ่านจนฟินจิกหมอนเห็นแล้วจิ้นอ่านแล้วฟินอยากสอยมาเก็บไว้ในคอลเลกชันจริงๆคะผู้ชายแบบคุณพี่ฌาณที่มีคุณสมบัติครบถ้วนหายากจริงๆนะคะบทนางจะน่ารักน่าอ้อนก็ทำให้บรรดาชะนีอย่างเราๆถึงขั้นระทวย(นี่แหละต้นแบบว่าที่สามีในอนาคต)ว่าไปนั่น น้องเกลเองก็เป็นผู้หญิงที่น่ารักสวยใสสไตล์ในแบบที่เป็นตัวเองชื่นชมครอบครัวนางนะคะที่เลี้ยงลูกแต่ละคนได้ดีขนาดนี้ เมย์เองขอชื่นชมการบรรยายของไรต์นะคะที่บรรยายได้ลื่นไหลอ่านแล้วแบบเห็นภาพ ส่วนตัวไม่ค่อยได้อ่านแนวนี้มานานมากแล้วเป็นนิยายที่สนุกจริงๆใครไม่อ่านนี้ถือว่าพลาดนี่พูดเลย(ไม่ได้อวยนะคะ)พูดตามความรู้สึกที่อ่านมาตั้งแต่ตอนแรก เป็นนิยายที่แต่งเพื่อสนองนี๊ดของตัวเองที่สนุกและเป็นนิยายที่ไม่จำกัดจินตนาการของตัวเองและยังอธิบายคาแรกเตอร์การสื่อของอารมณ์ของตัวละครในเรื่องได้แบบเห็นภาพสุดๆ การดำเนินเรื่องก็อยู่ในช่วงที่แบบกำลังดีไม่ช้าไม่เร็วเกินไปคืออ่านแล้วคลายเครียดเบาสมองจริงๆ แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจไปนะคะมีคำชมก็ต้องมีตำหนิกันมั่งละเนาะเมย์ได้ยกตัวอย่างไว้ให้แล้วนะคะ และอย่าลืมปรับตมที่เมย์ได้บอกเอาไว้นะคะนอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วคะ ยังไงก็สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้ไรต์และตัวละครของไรต์ด้วยแอบเป็นแม่ยกเทใจเชียร์พี่ฌาณกับน้องเกลแบบฟินยิ่งกว่าณเดชน์กับญาญ่าอีก(ว่าไปโน่น)ยังไงก็สู้ๆนะคะ ตรงประโยคที่ว่าฉันสั่นหัวเปลี่ยนเป็นฉันส่ายหัวหรือส่ายหน้าเล็กน้อยน่าจะดีกว่านะคะ คำผิด นิตยสาร>>นิตยาสาร สะเพร่า>>สะเหร่า มาราธอน >>มารธอน ล้อมรอบ>>ล้อมรอย   อ่านน้อยลง

lonelyone | 27 ก.พ. 58

  • 4

  • 0

"จาก SM Sweet Review รับวิจารณ์นิยายแนวรักหวานแหวว"

(แจ้งลบ)

นักวิจารณ์ S ฮืออออ เค้าขอโทษที่มาส่งงานช้าขนาดนี้ ช่วงนี้การบ้านค่อยข้างเยอะ ฮ่าๆๆๆ บทนึงของไรต์ดูท่าทางจะค่อนข้างยาวหน่อยด้วยเลยใช้เวลาอ่านเยอะนิดนึง ไม่โกรธกันน้า > บาสฯ เนอะ เพราะย่อมาจากบาสเก็ตบอล นัยน์ตาสีดำใหญ่ที่มีแพขนตาหนาเข้มนั่น คำว่านัยน์ตาจะหมายถึงข้างในตา เพราะงั้นหากจะพูดถึงขนตาตามต่อจากนั้น เราว่าควรใช้คำว่า ดวงตา มากกว่าค่ะ นอกจา ... อ่านเพิ่มเติม

นักวิจารณ์ S ฮืออออ เค้าขอโทษที่มาส่งงานช้าขนาดนี้ ช่วงนี้การบ้านค่อยข้างเยอะ ฮ่าๆๆๆ บทนึงของไรต์ดูท่าทางจะค่อนข้างยาวหน่อยด้วยเลยใช้เวลาอ่านเยอะนิดนึง ไม่โกรธกันน้า > บาสฯ เนอะ เพราะย่อมาจากบาสเก็ตบอล นัยน์ตาสีดำใหญ่ที่มีแพขนตาหนาเข้มนั่น คำว่านัยน์ตาจะหมายถึงข้างในตา เพราะงั้นหากจะพูดถึงขนตาตามต่อจากนั้น เราว่าควรใช้คำว่า ดวงตา มากกว่าค่ะ นอกจากนี้คำว่า ใหญ่ หากพูดถึงดวงตาแล้ว ปกติจะใช้คำว่า โต มากกว่านะคะ ฟังดูเหมาะกว่าเนอะ คำว่าเพอร์เฟค ไรต์ใช้สองครั้งทีเดียวตอนที่อธิบายพี่เว คิดว่าเปลี่ยนไปใช้คำอื่นได้ค่ะ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของการใช้คำ และทำพี่เวดูดียิ่งขึ้นเพราะมีคำอธิบายเยอะเนอะ ฮ่าๆๆ แล้วภาษาอะไรกับ > แล้วนับประสาอะไรกับ (?) อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ เคยได้ยินแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่คิดว่าในกรณีนี้คำว่า นับประสาอะไร จะเหมาะกว่า เสียงเรียงของพี่ชายฉันที่เดินเข้ามาในโรงยิมทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะคำซ้ำหรือเปล่า แต่รู้สึกขัดๆ ตรง ฉัน อ่ะค่ะ เราว่าสามารถตัดออกที่ใดที่หนึ่งได้ หรือไม่ก็เปลี่ยน ฉัน ที่สองให้เป็นคำว่า ต้อง ก็ได้ค่ะ “โทษทีว่ะ พอดีสมเพชมึง มือมันเลยลอยไปเอง” มือลอยไป...มันค่อนข้างน่าติดใจเมื่อคิดตามนะคะ ฮ่าๆๆ คิดว่าควรบอกว่าหลุดมือ หรือบอลลอยไปเองมากกว่านะคะ เพราะที่มาโดนน่ะคือลูกบอลเนอะ ตอนที่พี่เวโยนบอลมาโดนหัวพี่ฟาร์ เราว่าไรต์บรรยายได้มากกว่านี้ค่ะ ตั้งแต่เห็นเลยว่าคนที่โยนมาคือพี่เว จนมาถึงตอนที่สบตากัน อะไรอย่างพวกปฏิกิริยาทางร่างกาย อุณหภูมิร่างกายของฉันพุ่งสูงขึ้นฉับพลัน ก้อนเนื้อในอกเริ่มเต้นถี่จนไม่เป็นจังหวะ อาการพวกนี้นำมาเสริมก็จะได้ผลต่อนักอ่านทำให้อินขึ้นค่ะ ไรต์มีการใช้คำซ้ำในประโยคใกล้กัน หรือสรรพนามที่ซ้ำกันโดยไม่จำเป็น สามารถตัดออกหรือเปลี่ยนไปใช้คำอื่นได้เพื่อให้อ่านลื่นขึ้น ที่เราเจอในบทนี้นะคะ หลังจากที่ฉันวิ่งหนีสายตาคมกล้าของพี่เวออกมาจากโรงยิม ร่างบางผอมแห้งของฉันก็มาเดินซื้อของกิน คำว่า สายตา ซ้ำกับประโยคก่อนหน้าอ่ะค่ะ ส่วนคำว่า ฉัน อ่านแล้วรู้สึกแปลกที่มันซ้ำอ่ะค่ะ คือมันตัดออกได้เลย อย่างฉันแรกนี่ เอาออกไปความหมายก็เหมือนเดิมค่ะ อาจจะทำให้ดูกระชับกว่าเดิมด้วยซ้ำ เด็กผู้หญิงอีกคนที่ฉันเพิ่งเห็น เด็กผู้หญิงน่าจะอยู่... เปลี่ยนไปใช้ เด็กคนนั้น ก็ได้ค่ะ คำว่าเด็กผู้หญิงตอนพูดถึงเกว ไรต์ใช้เยอะมากทีเดียวค่ะ เด็กหญิงไม่แตกต่างจากพี่เวเลยแม้แต่นิด...มอบรอยยิ้มที่ไม่ต่างจากนางฟ้า อาจเปลี่ยนไปใช้คำอื่น เช่น เหมือน คล้าย ราวกับ อะไรแบบนี้ได้ค่า นอกจากนี้ในประโยคนี้มีความไม่สมเหตุสมผลที่เราเห็น คือคำว่า แม้แต่นิด ค่ะ คือคนเป็นพี่น้องกันแถมยังคนละเพศ มันต้องต่างกันสักหน่อยแหละ ขนาดเบลเฟย์ตอนแรกยังนึกว่าเป็นแฟนเวเลย เพราะงั้นคำว่า ไม่ต่างเลยแม้แต่นิดที่หมายถึง ไม่เลยสักนิดเดียวนี้ เป็นไปไม่ได้ค่ะ ฉันนั่งทำงานอยู่ในช้อปเครื่องกลจนเกือบๆ จะทุ่มหนึ่ง ฉันจึงเก็บข้าวของ สามารถตัดคำว่า ฉันตอนหลังออกได้ค่ะ ทำให้อ่านแล้วรู้สึกกระชับขึ้น เพราะว่าฉันเสร็จจากงานเร็วกว่าที่คิด ฉันเลยเดินมองรถ... ตรงนี้ก็เหมือนเดิมค่ะ ฉันที่สองตัดออกได้ค่ะ ตอนที่พูดถึงพี่เวและฌาน เราว่าไรต์ใช้ชื่อพวกเขามากเกินไปนิดนึง อาจเปลี่ยนไปใช้สรรพนามอื่น หรือพวก คนตัวสูง คนตรงหน้า อะไรแบบนี้ได้จ้า ตอนพูดถึงเบล ที่เข้าใจผิดว่าเป็นแฟนกับเว และเป็นผู้หญิงที่สวยมาก เราคิดว่าไรต์อธิบายได้มากกว่านี้ว่าสวยเนี่นสวยยังไง เครื่องหน้าเป็นแบบไหน สวยชนิดที่ทำให้ผู้ชายต้องหันมามองเป็นตาเดียว สวยแบบไหน บรรยายมากกว่านี้จะทำให้คนอ่านเข้าใจสถานการณ์และอินมากขึ้นค่ะ กระโดดยองๆ > อันนี้เราไม่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าไรต์สะกดผิดหรือเราเองที่ไม่รู้ศัพท์นี้นะคะ แหะๆๆๆ ถ้าเฟย์ติดตาม Hi-5 พี่เวตลอด เราสงสัยว่าทำไมเธอถึงเพิ่งจะเห็นรูปน้องสาวของเขาวันนั้น พี่เวจะบังเอิญไปหรือเปล่าที่ลงรูปน้องวันนั้นเลยเป็นครั้งแรกอ่ะค่ะ เมื่อเวออกจากโรงเรียน เราว่าเขาเป็นคนดังและเป็นข่าวใหญ่ขนาดนี้ มันไม่น่าจะต้องใช้เวลาถึงตั้งเดือนนึงกว่าจะรู้ คิดว่าสองสามวันข่าวก็กระจายแล้วอ่ะ นอกจากนี้การใช้คำยังทำให้เราสับสนว่าตกลงเวลาออกหรือถูกไล่ออกกันแน่ เพิ่งรู้ว่าพี่เวลาออก...ทำไมพี่เวถึงโดนให้ออกกลางคัน “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ” > จ้ะ ที่พูดถึงเรื่องเงินและพี่ฟาร์ ไรต์บอกว่า พี่ฟาร์ ไม่เคยคิดจะออก...ก็มาหารเอากับฉัน คำว่าหารนั้นหมายถึง ช่วยกันออกคนละครึ่ง ซึ่งขัดแย้งกับประโยคแรกที่บอกว่าพี่ฟาร์ไม่เคยคิดจะออกเงินเลยน้า เราสังเกตว่าไรต์ใช้ประโยคพวก (ชื่อคน) ที่เป็นคน (การกระทำที่ได้บอกไปแล้วก่อนหน้านี้) เยอะเหมือนกันค่ะ อย่างเช่น เพลินที่เป็นคนนัดฉัน เป็นต้นเนอะ ประโยคแบบนี้อาจทำให้เรื่องมันดำเนินไปช้ากว่าที่ควรจะเป็นและเยิ่นเย้อเล็กน้อยจ้า บทที่ 1.1 ตอนต้นบทเราคิดว่าไรต์สามารถบรรยายถึงการแข่งขัน และรถชนกับอะไรยังไงมันถึงมีสภาพแบบนั้นอ่ะค่ะ เพื่อที่คนอ่านจะได้ลุ้นตามตัวละครไปด้วยว่ารถจะเละไหมไรงี้ ฮ่าๆๆ ทั้งนี้เราว่าไรต์ลองบรรยายบรรยากาศโดยรอบ ผู้คนอื่นๆ หน่อยที่รุมล้อมอ่ะค่ะ เพราะไปมีเรื่องกันในที่ที่มีคนเยอะเพราะดูการแข่งขัน ฉันร้องเสียงลั่นสลับสะอื้นแล้วใช้มือฟาดแขนพี่ชายรัว คนเป็นพี่... ตรงคนเป็นพี่นี่เราว่าเปลี่ยนไปใช้สรรพนามอื่นจะทำให้อ่านได้ลื่นกว่าค่ะ เพราะเหมือนได้บอกไปแล้วว่าเป็นพี่ชาย มาอ่านติดๆ กันเลยให้ความรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย ฉันไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่เอ่อล้นขึ้นมาตรงขอบตาได้อีก ฉันปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างคนอ่อนแอ... อ่านแล้วรู้สึกสามารถเอามารวมกันได้เป็นประโยคเดียวเพราะมันมีความหมายคล้ายกันอ่ะค่ะ หรือจะตัดประโยคแรกออกไปเลยก็ได้เพื่อให้อ่านแล้วดูไม่เยิ่นเย้อเนอะ ก็อาจเป็น ฉันปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเมื่อทนกลั้นมันไม่ไหวอีกแล้ว อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ พี่ฟาร์ร้องโวยวายอย่างหงุดหงิดไม่แพ้กันแล้วผลักฉันจนกระเด็นออกมา อ่านแล้วติดใจเล็กน้อย ฮ่าๆ กระเด็นออกมา คำว่าออกมามันดูแบบ...ออกมาจากอะไร? ออกมาจากพื้นที่ที่กั้นเส้นไว้หรืออะไร คือในกรณีนี้เราว่าตัดคำว่า ออกมา ออกเลยจะดีกว่าค่ะ แอลมอนด์ > อัลมอนด์ แต่ร่างบางของฉันกำลังวิ่งสุดแรงเกิด เราเข้าใจว่าทั้งสามคนก็อยู่ใกล้ๆ กันอยู่แล้วเสียอีก จึงงงนิดนึงที่นางเอกจะต้องวิ่งสุดแรงเกิดเลยเพื่อไปห้ามพี่เวอ่ะค่ะ เสียงของฉันสั่นเครือและน้ำตาก็ไหลนองหน้า อาจทำให้ภาษาสลวยขึ้นโดยการใช้คำอื่น เพราะเห็นไรต์ใช้คำต่อประโยคว่า และ แล้ว เยอะเหมือนกันค่ะ อาจเป็น เสียงของฉันสั่นเครือพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า แหะ > แฮะ พี่เวที่ฉันคิดว่าเดินทิ้งห่างฉันไปไกลมากแล้วปรากฏตัวตรงหน้าฉัน บางทีสามารถตัดออกได้ค่ะ จะได้อ่านลื่นๆ ไม่มีคำซ้ำในประโยคเนอะ ต่อจากนี้เท่าที่อ่านจะมีประเด็นที่อยากแนะนำซ้ำๆ กันค่ะ ฉะนั้นขอสรุปเลยเนอะ ที่เห็นเป็นทุกบทก็จะมีเรื่องของการใช้สรรพนามซ้ำในประโยคเดียวกันหรือใกล้ๆ กัน ซึ่งเข้าใจว่าบางทีมันเลี่ยงใช้เป็นคำอื่นแทนไม่ได้ อย่างคำว่า ฉัน อะไรงี้ แต่บางที่แนะนำให้ตัดออกค่ะถ้าความหมายไม่เปลี่ยน หรือไม่การเอาการกระทำมาใส่ข้างหน้า แทนที่จะเป็น ฉันมองไปทางโน้น ฉันเดินไปทางนี้ ก็เป็น สายตาของฉันเลื่อนไปมองด้านข้าง เพื่อทำให้มันอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่ซ้ำอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าไรต์ตั้งใจหรือเปล่า แต่เหมือนจะเรียกหรือบรรยายนางเอกว่า ร่างผอมแห้งของฉัน บ่อยทีเดียวค่ะ ใช้คำให้หลากหลายก็จะดีขึ้นน้า โครงเรื่อง/ความน่าสนใจ (16/20) โดยรวมแล้วสนุกมากทีเดียวเลยค่ะ ทว่าตอนเราอ่านแรกๆ เรารู้สึกเพลิดเพลินก็จริงแต่ยังไม่ได้รู้สึกอยากอ่านต่อมากกก แบบ เฮ้ย มันจะเกิดอะไรขึ้นอีกวะ นางเอกจะทำยังไง พี่ชายมันจะทำบ้าอะไรอีก คือมันยังไม่ทำให้เราลุ้นและตื่นเต้นอยากจะอ่านต่อให้ได้มากขนาดนั้น เรื่องของไรต์ต้องขอชมว่าเปิดบทนำมาได้ดีค่ะ มันเป็นตัวที่ทำให้เราอยากอ่านต่อในระดับนึงเลยทีเดียว เพราะอยากรู้ว่าทำไมพระเอกถึงอยากแต่งงานกับนางเอก แล้วก่อนหน้านั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง พอมาคิดดีๆ แล้ว อืม...แนวเรื่องแบบนี้เราเห็นมาค่อนข้างเยอะแล้ว จึงยังไม่มีความแปลกใหม่ที่น่าค้นหาขนาดนั้น เราว่าไรต์ลองใส่พวกที่เหมือนบทนำอ่ะค่ะ แบบที่ทำให้คนอ่านงงอยากรู้เรื่องราวเข้ามามากกว่านี้ก็จะช่วยให้พล็อตเรื่องน่าค้นหายิ่งขึ้นเนอะ ตัวละคร (16/20) บทแรกที่พี่ฟาร์พูดกับเฟย์ว่า “พูดมากน่า อย่ายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ แกจะกลับก็กลับไปคนเดียวไป๊!” เรารู้สึก...มันไม่ค่อยเรียลยังไงไม่รู้ โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย ถึงจะร้ายแค่ไหน คือ เข้าใจว่าต้องการให้ดูเหมือนพี่ชายเจ้าปัญหาที่โหดๆ แต่อ่านแล้วรู้สึกแบบ...เฮ้ยๆ อยู่ดีๆ คนมันพูดกันงี้เหรอวะ ไรงี้ ฮ่าๆๆๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เช่น แกจะกลับก็กลับไปคนเดียวดิวะ สำหรับเรา มันดูเรียลกว่าค่ะ “ธุระอะไรอีก! ก็บอกอยู่ว่ารีบ!” ตรงนี้คือตอนที่เบลพูดกับพี่เว ซึ่งเราว่ามันกะทันหันไปหน่อยที่จู่ๆ จะมาโวยแบบนี้ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ดูจะหยอกล้อเล่นกันสนุกสนานแท้ๆ ไรต์อาจจะใส่กิริยาการทำท่าทำทางของเบลเข้าไปมากกว่านี้ตอนพวกเขาคุยกัน ให้รู้ว่าเธอมีนิสัยจะเหวี่ยงๆ เล็กน้อยค่ะ ตัวละครเวตอนที่ให้ลูกอมเฟย์อ่ะค่ะ เราว่ามันดูไม่ค่อยเหมาะกับคาแร็คเตอร์ที่ไรต์บิ้วด์มาตั้งแต่แรกหรือเปล่า มันดูแปลกๆ รู้สึกคนแบบนี้ไม่น่าทำแบบนี้เลย คือไม่ใช่ว่าใส่ฉากกุ๊กกิ๊กอย่างนี้ไม่ได้นะคะ แต่อาจใส่พวกสีหน้าและการทำท่าทำทางอะไรของตัวละครให้มันดูบุคลิกชัดมากขึ้น ในกรณีนี้อาจบอกว่ายื่นลูกอมมาให้ และเร่งให้รับไปท่าทางใจร้อน หรือไม่ได้ทำแบบอ่อนโยนอ่ะค่ะ เวตอนที่เจอกับเฟย์อีกครั้ง ที่ฟาร์เอารถไปแข่ง พอปรากฏตัวออกมาทีแรกเหมือนจะเป็นคนใจเย็นมาดเข้ม แต่นิดๆ ก็ทำท่าทางโกรธสุดๆ แล้ว เราเลยคิดว่าควรใส่อะไรลงไปเพื่อบิ้วด์อารมณ์ของตัวละครระหว่างนั้นนิดนึงค่ะ “...รวมถึงการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของฉัน...” รู้สึกประโยคแบบนี้คนปกติไม่น่าพูดกัน ฮ่าๆๆๆ ยิ่งโดยเฉพาะกับเวแล้วด้วย เลยคิดว่าทำให้มันเป็นธรรมชาติกว่านี้ได้ค่ะ ตัวละครอย่างฟาร์ไรงี้อ่านแล้วรู้เลยว่าเป็นผู้ชายที่เลวมาก แต่บางคนอย่างพี่เว เราว่าบางทีก็ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เล็กน้อย บางทีไม่ค่อยเข้าใจว่า เออ ทำไมต้องโกรธ ทำไมต้องทำแบบนี้ อะไรงี้อ่ะค่ะ ลองใส่อะไรเป็นการบิ้วด์ตัวละครไปก่อนที่จะบอกว่าเขาโกรธนะก็จะดีขึ้นมากเลยค่า การดำเนินเรื่อง (17/20) อืม...อ่านแล้วก็ไปเรื่อยๆ อ่านไปเพลินดีนะคะ แต่ยังมีบางช่วงที่เรารู้สึกว่ามันอาจยืดไปหน่อย แบบเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไร แต่เขียนมาค่อนข้างยาวเลย บางฉากสามารถตัดออกไปเลยโดยไม่มีผลกระทบอะไรได้อ่ะค่ะ ยังไงไรต์ลองดูเนอะ แต่โดยรวมก็ดีแล้วล่ะค่า ความประทับใจจากนักวิจารณ์ (4/5) ภาษาไรต์ค่อนข้างดีเลยอ่ะ ชอบ อ่านแล้วเพลิน ยังไงต้องขอโทษอีกทีที่มาส่งงานช้านะคะ รวมคะแนน (82/100)   อ่านน้อยลง

-S&M- | 29 ก.ย. 58

  • 3

  • 0

ดูทั้งหมด

คำนิยมล่าสุด

"จาก SM Sweet Review รับวิจารณ์นิยายแนวรักหวานแหวว"

(แจ้งลบ)

นักวิจารณ์ S ฮืออออ เค้าขอโทษที่มาส่งงานช้าขนาดนี้ ช่วงนี้การบ้านค่อยข้างเยอะ ฮ่าๆๆๆ บทนึงของไรต์ดูท่าทางจะค่อนข้างยาวหน่อยด้วยเลยใช้เวลาอ่านเยอะนิดนึง ไม่โกรธกันน้า > บาสฯ เนอะ เพราะย่อมาจากบาสเก็ตบอล นัยน์ตาสีดำใหญ่ที่มีแพขนตาหนาเข้มนั่น คำว่านัยน์ตาจะหมายถึงข้างในตา เพราะงั้นหากจะพูดถึงขนตาตามต่อจากนั้น เราว่าควรใช้คำว่า ดวงตา มากกว่าค่ะ นอกจา ... อ่านเพิ่มเติม

นักวิจารณ์ S ฮืออออ เค้าขอโทษที่มาส่งงานช้าขนาดนี้ ช่วงนี้การบ้านค่อยข้างเยอะ ฮ่าๆๆๆ บทนึงของไรต์ดูท่าทางจะค่อนข้างยาวหน่อยด้วยเลยใช้เวลาอ่านเยอะนิดนึง ไม่โกรธกันน้า > บาสฯ เนอะ เพราะย่อมาจากบาสเก็ตบอล นัยน์ตาสีดำใหญ่ที่มีแพขนตาหนาเข้มนั่น คำว่านัยน์ตาจะหมายถึงข้างในตา เพราะงั้นหากจะพูดถึงขนตาตามต่อจากนั้น เราว่าควรใช้คำว่า ดวงตา มากกว่าค่ะ นอกจากนี้คำว่า ใหญ่ หากพูดถึงดวงตาแล้ว ปกติจะใช้คำว่า โต มากกว่านะคะ ฟังดูเหมาะกว่าเนอะ คำว่าเพอร์เฟค ไรต์ใช้สองครั้งทีเดียวตอนที่อธิบายพี่เว คิดว่าเปลี่ยนไปใช้คำอื่นได้ค่ะ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของการใช้คำ และทำพี่เวดูดียิ่งขึ้นเพราะมีคำอธิบายเยอะเนอะ ฮ่าๆๆ แล้วภาษาอะไรกับ > แล้วนับประสาอะไรกับ (?) อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ เคยได้ยินแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่คิดว่าในกรณีนี้คำว่า นับประสาอะไร จะเหมาะกว่า เสียงเรียงของพี่ชายฉันที่เดินเข้ามาในโรงยิมทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะคำซ้ำหรือเปล่า แต่รู้สึกขัดๆ ตรง ฉัน อ่ะค่ะ เราว่าสามารถตัดออกที่ใดที่หนึ่งได้ หรือไม่ก็เปลี่ยน ฉัน ที่สองให้เป็นคำว่า ต้อง ก็ได้ค่ะ “โทษทีว่ะ พอดีสมเพชมึง มือมันเลยลอยไปเอง” มือลอยไป...มันค่อนข้างน่าติดใจเมื่อคิดตามนะคะ ฮ่าๆๆ คิดว่าควรบอกว่าหลุดมือ หรือบอลลอยไปเองมากกว่านะคะ เพราะที่มาโดนน่ะคือลูกบอลเนอะ ตอนที่พี่เวโยนบอลมาโดนหัวพี่ฟาร์ เราว่าไรต์บรรยายได้มากกว่านี้ค่ะ ตั้งแต่เห็นเลยว่าคนที่โยนมาคือพี่เว จนมาถึงตอนที่สบตากัน อะไรอย่างพวกปฏิกิริยาทางร่างกาย อุณหภูมิร่างกายของฉันพุ่งสูงขึ้นฉับพลัน ก้อนเนื้อในอกเริ่มเต้นถี่จนไม่เป็นจังหวะ อาการพวกนี้นำมาเสริมก็จะได้ผลต่อนักอ่านทำให้อินขึ้นค่ะ ไรต์มีการใช้คำซ้ำในประโยคใกล้กัน หรือสรรพนามที่ซ้ำกันโดยไม่จำเป็น สามารถตัดออกหรือเปลี่ยนไปใช้คำอื่นได้เพื่อให้อ่านลื่นขึ้น ที่เราเจอในบทนี้นะคะ หลังจากที่ฉันวิ่งหนีสายตาคมกล้าของพี่เวออกมาจากโรงยิม ร่างบางผอมแห้งของฉันก็มาเดินซื้อของกิน คำว่า สายตา ซ้ำกับประโยคก่อนหน้าอ่ะค่ะ ส่วนคำว่า ฉัน อ่านแล้วรู้สึกแปลกที่มันซ้ำอ่ะค่ะ คือมันตัดออกได้เลย อย่างฉันแรกนี่ เอาออกไปความหมายก็เหมือนเดิมค่ะ อาจจะทำให้ดูกระชับกว่าเดิมด้วยซ้ำ เด็กผู้หญิงอีกคนที่ฉันเพิ่งเห็น เด็กผู้หญิงน่าจะอยู่... เปลี่ยนไปใช้ เด็กคนนั้น ก็ได้ค่ะ คำว่าเด็กผู้หญิงตอนพูดถึงเกว ไรต์ใช้เยอะมากทีเดียวค่ะ เด็กหญิงไม่แตกต่างจากพี่เวเลยแม้แต่นิด...มอบรอยยิ้มที่ไม่ต่างจากนางฟ้า อาจเปลี่ยนไปใช้คำอื่น เช่น เหมือน คล้าย ราวกับ อะไรแบบนี้ได้ค่า นอกจากนี้ในประโยคนี้มีความไม่สมเหตุสมผลที่เราเห็น คือคำว่า แม้แต่นิด ค่ะ คือคนเป็นพี่น้องกันแถมยังคนละเพศ มันต้องต่างกันสักหน่อยแหละ ขนาดเบลเฟย์ตอนแรกยังนึกว่าเป็นแฟนเวเลย เพราะงั้นคำว่า ไม่ต่างเลยแม้แต่นิดที่หมายถึง ไม่เลยสักนิดเดียวนี้ เป็นไปไม่ได้ค่ะ ฉันนั่งทำงานอยู่ในช้อปเครื่องกลจนเกือบๆ จะทุ่มหนึ่ง ฉันจึงเก็บข้าวของ สามารถตัดคำว่า ฉันตอนหลังออกได้ค่ะ ทำให้อ่านแล้วรู้สึกกระชับขึ้น เพราะว่าฉันเสร็จจากงานเร็วกว่าที่คิด ฉันเลยเดินมองรถ... ตรงนี้ก็เหมือนเดิมค่ะ ฉันที่สองตัดออกได้ค่ะ ตอนที่พูดถึงพี่เวและฌาน เราว่าไรต์ใช้ชื่อพวกเขามากเกินไปนิดนึง อาจเปลี่ยนไปใช้สรรพนามอื่น หรือพวก คนตัวสูง คนตรงหน้า อะไรแบบนี้ได้จ้า ตอนพูดถึงเบล ที่เข้าใจผิดว่าเป็นแฟนกับเว และเป็นผู้หญิงที่สวยมาก เราคิดว่าไรต์อธิบายได้มากกว่านี้ว่าสวยเนี่นสวยยังไง เครื่องหน้าเป็นแบบไหน สวยชนิดที่ทำให้ผู้ชายต้องหันมามองเป็นตาเดียว สวยแบบไหน บรรยายมากกว่านี้จะทำให้คนอ่านเข้าใจสถานการณ์และอินมากขึ้นค่ะ กระโดดยองๆ > อันนี้เราไม่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าไรต์สะกดผิดหรือเราเองที่ไม่รู้ศัพท์นี้นะคะ แหะๆๆๆ ถ้าเฟย์ติดตาม Hi-5 พี่เวตลอด เราสงสัยว่าทำไมเธอถึงเพิ่งจะเห็นรูปน้องสาวของเขาวันนั้น พี่เวจะบังเอิญไปหรือเปล่าที่ลงรูปน้องวันนั้นเลยเป็นครั้งแรกอ่ะค่ะ เมื่อเวออกจากโรงเรียน เราว่าเขาเป็นคนดังและเป็นข่าวใหญ่ขนาดนี้ มันไม่น่าจะต้องใช้เวลาถึงตั้งเดือนนึงกว่าจะรู้ คิดว่าสองสามวันข่าวก็กระจายแล้วอ่ะ นอกจากนี้การใช้คำยังทำให้เราสับสนว่าตกลงเวลาออกหรือถูกไล่ออกกันแน่ เพิ่งรู้ว่าพี่เวลาออก...ทำไมพี่เวถึงโดนให้ออกกลางคัน “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ” > จ้ะ ที่พูดถึงเรื่องเงินและพี่ฟาร์ ไรต์บอกว่า พี่ฟาร์ ไม่เคยคิดจะออก...ก็มาหารเอากับฉัน คำว่าหารนั้นหมายถึง ช่วยกันออกคนละครึ่ง ซึ่งขัดแย้งกับประโยคแรกที่บอกว่าพี่ฟาร์ไม่เคยคิดจะออกเงินเลยน้า เราสังเกตว่าไรต์ใช้ประโยคพวก (ชื่อคน) ที่เป็นคน (การกระทำที่ได้บอกไปแล้วก่อนหน้านี้) เยอะเหมือนกันค่ะ อย่างเช่น เพลินที่เป็นคนนัดฉัน เป็นต้นเนอะ ประโยคแบบนี้อาจทำให้เรื่องมันดำเนินไปช้ากว่าที่ควรจะเป็นและเยิ่นเย้อเล็กน้อยจ้า บทที่ 1.1 ตอนต้นบทเราคิดว่าไรต์สามารถบรรยายถึงการแข่งขัน และรถชนกับอะไรยังไงมันถึงมีสภาพแบบนั้นอ่ะค่ะ เพื่อที่คนอ่านจะได้ลุ้นตามตัวละครไปด้วยว่ารถจะเละไหมไรงี้ ฮ่าๆๆ ทั้งนี้เราว่าไรต์ลองบรรยายบรรยากาศโดยรอบ ผู้คนอื่นๆ หน่อยที่รุมล้อมอ่ะค่ะ เพราะไปมีเรื่องกันในที่ที่มีคนเยอะเพราะดูการแข่งขัน ฉันร้องเสียงลั่นสลับสะอื้นแล้วใช้มือฟาดแขนพี่ชายรัว คนเป็นพี่... ตรงคนเป็นพี่นี่เราว่าเปลี่ยนไปใช้สรรพนามอื่นจะทำให้อ่านได้ลื่นกว่าค่ะ เพราะเหมือนได้บอกไปแล้วว่าเป็นพี่ชาย มาอ่านติดๆ กันเลยให้ความรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย ฉันไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่เอ่อล้นขึ้นมาตรงขอบตาได้อีก ฉันปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างคนอ่อนแอ... อ่านแล้วรู้สึกสามารถเอามารวมกันได้เป็นประโยคเดียวเพราะมันมีความหมายคล้ายกันอ่ะค่ะ หรือจะตัดประโยคแรกออกไปเลยก็ได้เพื่อให้อ่านแล้วดูไม่เยิ่นเย้อเนอะ ก็อาจเป็น ฉันปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเมื่อทนกลั้นมันไม่ไหวอีกแล้ว อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ พี่ฟาร์ร้องโวยวายอย่างหงุดหงิดไม่แพ้กันแล้วผลักฉันจนกระเด็นออกมา อ่านแล้วติดใจเล็กน้อย ฮ่าๆ กระเด็นออกมา คำว่าออกมามันดูแบบ...ออกมาจากอะไร? ออกมาจากพื้นที่ที่กั้นเส้นไว้หรืออะไร คือในกรณีนี้เราว่าตัดคำว่า ออกมา ออกเลยจะดีกว่าค่ะ แอลมอนด์ > อัลมอนด์ แต่ร่างบางของฉันกำลังวิ่งสุดแรงเกิด เราเข้าใจว่าทั้งสามคนก็อยู่ใกล้ๆ กันอยู่แล้วเสียอีก จึงงงนิดนึงที่นางเอกจะต้องวิ่งสุดแรงเกิดเลยเพื่อไปห้ามพี่เวอ่ะค่ะ เสียงของฉันสั่นเครือและน้ำตาก็ไหลนองหน้า อาจทำให้ภาษาสลวยขึ้นโดยการใช้คำอื่น เพราะเห็นไรต์ใช้คำต่อประโยคว่า และ แล้ว เยอะเหมือนกันค่ะ อาจเป็น เสียงของฉันสั่นเครือพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองหน้า แหะ > แฮะ พี่เวที่ฉันคิดว่าเดินทิ้งห่างฉันไปไกลมากแล้วปรากฏตัวตรงหน้าฉัน บางทีสามารถตัดออกได้ค่ะ จะได้อ่านลื่นๆ ไม่มีคำซ้ำในประโยคเนอะ ต่อจากนี้เท่าที่อ่านจะมีประเด็นที่อยากแนะนำซ้ำๆ กันค่ะ ฉะนั้นขอสรุปเลยเนอะ ที่เห็นเป็นทุกบทก็จะมีเรื่องของการใช้สรรพนามซ้ำในประโยคเดียวกันหรือใกล้ๆ กัน ซึ่งเข้าใจว่าบางทีมันเลี่ยงใช้เป็นคำอื่นแทนไม่ได้ อย่างคำว่า ฉัน อะไรงี้ แต่บางที่แนะนำให้ตัดออกค่ะถ้าความหมายไม่เปลี่ยน หรือไม่การเอาการกระทำมาใส่ข้างหน้า แทนที่จะเป็น ฉันมองไปทางโน้น ฉันเดินไปทางนี้ ก็เป็น สายตาของฉันเลื่อนไปมองด้านข้าง เพื่อทำให้มันอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่ซ้ำอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าไรต์ตั้งใจหรือเปล่า แต่เหมือนจะเรียกหรือบรรยายนางเอกว่า ร่างผอมแห้งของฉัน บ่อยทีเดียวค่ะ ใช้คำให้หลากหลายก็จะดีขึ้นน้า โครงเรื่อง/ความน่าสนใจ (16/20) โดยรวมแล้วสนุกมากทีเดียวเลยค่ะ ทว่าตอนเราอ่านแรกๆ เรารู้สึกเพลิดเพลินก็จริงแต่ยังไม่ได้รู้สึกอยากอ่านต่อมากกก แบบ เฮ้ย มันจะเกิดอะไรขึ้นอีกวะ นางเอกจะทำยังไง พี่ชายมันจะทำบ้าอะไรอีก คือมันยังไม่ทำให้เราลุ้นและตื่นเต้นอยากจะอ่านต่อให้ได้มากขนาดนั้น เรื่องของไรต์ต้องขอชมว่าเปิดบทนำมาได้ดีค่ะ มันเป็นตัวที่ทำให้เราอยากอ่านต่อในระดับนึงเลยทีเดียว เพราะอยากรู้ว่าทำไมพระเอกถึงอยากแต่งงานกับนางเอก แล้วก่อนหน้านั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง พอมาคิดดีๆ แล้ว อืม...แนวเรื่องแบบนี้เราเห็นมาค่อนข้างเยอะแล้ว จึงยังไม่มีความแปลกใหม่ที่น่าค้นหาขนาดนั้น เราว่าไรต์ลองใส่พวกที่เหมือนบทนำอ่ะค่ะ แบบที่ทำให้คนอ่านงงอยากรู้เรื่องราวเข้ามามากกว่านี้ก็จะช่วยให้พล็อตเรื่องน่าค้นหายิ่งขึ้นเนอะ ตัวละคร (16/20) บทแรกที่พี่ฟาร์พูดกับเฟย์ว่า “พูดมากน่า อย่ายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ แกจะกลับก็กลับไปคนเดียวไป๊!” เรารู้สึก...มันไม่ค่อยเรียลยังไงไม่รู้ โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย ถึงจะร้ายแค่ไหน คือ เข้าใจว่าต้องการให้ดูเหมือนพี่ชายเจ้าปัญหาที่โหดๆ แต่อ่านแล้วรู้สึกแบบ...เฮ้ยๆ อยู่ดีๆ คนมันพูดกันงี้เหรอวะ ไรงี้ ฮ่าๆๆๆ อาจจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เช่น แกจะกลับก็กลับไปคนเดียวดิวะ สำหรับเรา มันดูเรียลกว่าค่ะ “ธุระอะไรอีก! ก็บอกอยู่ว่ารีบ!” ตรงนี้คือตอนที่เบลพูดกับพี่เว ซึ่งเราว่ามันกะทันหันไปหน่อยที่จู่ๆ จะมาโวยแบบนี้ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ดูจะหยอกล้อเล่นกันสนุกสนานแท้ๆ ไรต์อาจจะใส่กิริยาการทำท่าทำทางของเบลเข้าไปมากกว่านี้ตอนพวกเขาคุยกัน ให้รู้ว่าเธอมีนิสัยจะเหวี่ยงๆ เล็กน้อยค่ะ ตัวละครเวตอนที่ให้ลูกอมเฟย์อ่ะค่ะ เราว่ามันดูไม่ค่อยเหมาะกับคาแร็คเตอร์ที่ไรต์บิ้วด์มาตั้งแต่แรกหรือเปล่า มันดูแปลกๆ รู้สึกคนแบบนี้ไม่น่าทำแบบนี้เลย คือไม่ใช่ว่าใส่ฉากกุ๊กกิ๊กอย่างนี้ไม่ได้นะคะ แต่อาจใส่พวกสีหน้าและการทำท่าทำทางอะไรของตัวละครให้มันดูบุคลิกชัดมากขึ้น ในกรณีนี้อาจบอกว่ายื่นลูกอมมาให้ และเร่งให้รับไปท่าทางใจร้อน หรือไม่ได้ทำแบบอ่อนโยนอ่ะค่ะ เวตอนที่เจอกับเฟย์อีกครั้ง ที่ฟาร์เอารถไปแข่ง พอปรากฏตัวออกมาทีแรกเหมือนจะเป็นคนใจเย็นมาดเข้ม แต่นิดๆ ก็ทำท่าทางโกรธสุดๆ แล้ว เราเลยคิดว่าควรใส่อะไรลงไปเพื่อบิ้วด์อารมณ์ของตัวละครระหว่างนั้นนิดนึงค่ะ “...รวมถึงการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของฉัน...” รู้สึกประโยคแบบนี้คนปกติไม่น่าพูดกัน ฮ่าๆๆๆ ยิ่งโดยเฉพาะกับเวแล้วด้วย เลยคิดว่าทำให้มันเป็นธรรมชาติกว่านี้ได้ค่ะ ตัวละครอย่างฟาร์ไรงี้อ่านแล้วรู้เลยว่าเป็นผู้ชายที่เลวมาก แต่บางคนอย่างพี่เว เราว่าบางทีก็ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เล็กน้อย บางทีไม่ค่อยเข้าใจว่า เออ ทำไมต้องโกรธ ทำไมต้องทำแบบนี้ อะไรงี้อ่ะค่ะ ลองใส่อะไรเป็นการบิ้วด์ตัวละครไปก่อนที่จะบอกว่าเขาโกรธนะก็จะดีขึ้นมากเลยค่า การดำเนินเรื่อง (17/20) อืม...อ่านแล้วก็ไปเรื่อยๆ อ่านไปเพลินดีนะคะ แต่ยังมีบางช่วงที่เรารู้สึกว่ามันอาจยืดไปหน่อย แบบเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไร แต่เขียนมาค่อนข้างยาวเลย บางฉากสามารถตัดออกไปเลยโดยไม่มีผลกระทบอะไรได้อ่ะค่ะ ยังไงไรต์ลองดูเนอะ แต่โดยรวมก็ดีแล้วล่ะค่า ความประทับใจจากนักวิจารณ์ (4/5) ภาษาไรต์ค่อนข้างดีเลยอ่ะ ชอบ อ่านแล้วเพลิน ยังไงต้องขอโทษอีกทีที่มาส่งงานช้านะคะ รวมคะแนน (82/100)   อ่านน้อยลง

-S&M- | 29 ก.ย. 58

  • 3

  • 0

"Critic family รับวิจารณ์นิยาย"

(แจ้งลบ)

นักวิจารณ์ : โซระ *หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ* 1.ชื่อเรื่อง : 8/10 ชื่อสื่อถึงแนวเรื่องดีนะคะ แต่สำหรับเรามันดึงดูดใจไม่ได้เท่าที่ควรค่ะ 2.โครงเรื่อง : 24/30 เรื่องนี้จากที่อ่านๆ มาไม่มีโครงเรื่องหลักอย่างแน่นอน เป็นแบบพล็อตที่วางไว้คร่าวๆ แล้วเขียนมากกว่า ทำให้เรื่องยังขาดความสมเหตุสมผลไปสักหน่อย รู้จักกันแค่ครู่เดียวแล้ ... อ่านเพิ่มเติม

นักวิจารณ์ : โซระ *หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ* 1.ชื่อเรื่อง : 8/10 ชื่อสื่อถึงแนวเรื่องดีนะคะ แต่สำหรับเรามันดึงดูดใจไม่ได้เท่าที่ควรค่ะ 2.โครงเรื่อง : 24/30 เรื่องนี้จากที่อ่านๆ มาไม่มีโครงเรื่องหลักอย่างแน่นอน เป็นแบบพล็อตที่วางไว้คร่าวๆ แล้วเขียนมากกว่า ทำให้เรื่องยังขาดความสมเหตุสมผลไปสักหน่อย รู้จักกันแค่ครู่เดียวแล้วชอบอีกฝ่ายเลย แค่สองวันก็ขอเป็นแฟนเลย ตรงจุดนี้ดูขาดเหตุขาดผลไปมากเลยค่ะตามความคิดเรา 3.การบรรยายและการใช้ภาษา : 14/30 การบรรยาย : ตอนที่ 1 – ตอนที่ 4 การบรรยายดูแปลกๆ และไม่ค่อยลื่นไหล คำผิดพอสมควร แต่ก็ยังพอที่จะเข้าใจความหมายที่ไรท์พยายามจะสื่อออกมา ...ตัวอย่างคำผิดและประโยคที่ดูแปลกๆ... ตอนที่ 1 (?)สะดุ้งจนหล่นกลิ้งลงมากับพื้น (ประธานของประโยคคือใครและหายไปไหนคะ)  “ฉัน” สะดุ้งจนหล่นกลิ้งลงมา “บน” พื้น พยายาง  พยายาม ช้อน  ซ้อน นิตายาสาร  นิตยสาร มอเตอร์ไซต์  รถจักรยายยนต์ ตอนที่ 3 สะเหร่า  สะเพร่า ตั้งแต่ตอนที่ 5 การบรรยายมีการพัฒนาที่ดีขึ้น คำผิดมีไม่เยอะ แต่ก็ยังมีบางจุดที่อ่านแล้วสะดุด ดูแปลกๆ และไม่ลื่นไหลค่ะ (1) ในการบรรยายควรบรรยายให้กะทัดรัด ได้ใจความ เข้าใจง่ายและไม่ใช้คำเปลืองมากจนเกินไป มันจะทำให้เรื่องไม่น่าอ่านค่ะ (2) ในงานเขียนทุกอย่างไม่ควรใช้ภาษาพูดนะคะ (3) ในงานเขียนหลังไม้ยมกให้เว้นวรรคเสมอทุกครั้งค่ะ การใช้ภาษา : ใช้ภาษาได้ค่อนข้างดีนะคะ ดูธรรมชาติ น่ารักดี แต่ก็มีคำพวกคำวัยรุ่นเยอะไปหน่อยนะ เช่น เค้า เป็นต้น แม้ตรงนั้นจะเป็นบทสนทนาระหว่างตัวละครด้วยกันเอง มันก็ดูขัดๆ มากเลยค่ะ แนะนำให้เปลี่ยนเป็น “ฉัน” หรือว่า “เรา” แทนจะดีกว่านะคะ เพราะ 2 คำนี้ใช้เป็นสรรพนามแทนตัวเราเองได้ค่ะ 4.ตัวละคร : 19/20 ตัวละครมรเยอะอยู่นะคะ แต่ทุกตัวก็มีบทบาทและคาร์เรกเตอร์ที่ค่อนข้างจะชัดเจน บทสนทนาระหว่างตัวละคร : ดูเป็นธรรมชาติ สื่อถึงอารมณ์ในขณะนั้นของตัวละครออกมาได้ดีค่ะ ความสวยงาม : 5/10 บอกคำเดียวว่า “รก” มากๆ เลยค่ะ รูปกับข้อความเยอะมาก รูปตัวละครเอาไปใส่ในตอนย่อยน่าจะดีกว่า จะทำให้หน้าหลักดูรกน้อยลงค่ะ ส่วนบทสนทนาในหน้าหลัก...ก็เป็นส่วนหนึ่งในตอนย่อยอยู่แล้ว ฉะนั้นตัดตรงหน้าหลักออกไปจะดีกว่านะคะ ธีมหน้าหลักโอเคแล้วค่ะ ตัวหนังสือตัวใหญ่ สีเข้มดีค่ะ ในตอนย่อยใส่ธีมสักหน่อยจะทำให้ดูน่าอ่านมากขึ้นค่ะ (ในหน้าหลักลดขนาดรูปภาพและตัวอักษรลงสักนิด และลงจัดใหม่ให้น่าสนใจดูนะคะ รูปที่ไม่ดึงดูดเอาออกได้จะดีที่สุดค่ะ ลองสรรหาคำที่น่าจะดึงดูดได้มาใส่ จะทำให้เรื่องดูน่าสนใจน่าอ่านมากขึ้นค่ะ) รวมคะแนน : 70/100   อ่านน้อยลง

Ozora(Sora) | 30 มี.ค. 58

  • 2

  • 0

ดูทั้งหมด

ความคิดเห็น