วิจารณ์นวนิยายแปลเรื่อง Stardust - วิจารณ์นวนิยายแปลเรื่อง Stardust นิยาย วิจารณ์นวนิยายแปลเรื่อง Stardust : Dek-D.com - Writer

    วิจารณ์นวนิยายแปลเรื่อง Stardust

    วิจารณ์นวนิยายแปล

    ผู้เข้าชมรวม

    968

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    968

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    4
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 เม.ย. 57 / 12:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้


    หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของ Stardust ผ่านภาพยนตร์ที่เคยสร้างความประทับใจไว้เมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่สำหรับหนังสือเล่มนี้ที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวอักษรคุณอาจจะพบมิติใหม่ที่คุณไม่มีทางคาดคิดได้เพราะหนังสือมันมีอะไรบางอย่างที่ภาพยนตร์ไม่สามารถแสดงออกมาได้ทั้งหมด
     



     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



       

       

      ‘Stardust’ เป็นนวนิยายที่ถูกแต่งขึ้นโดย นีล เกแมน และถูกแปลโดย คุณกานต์สิริ  โรจนสุวรรณ  มันเป็นนวนิยายแฟนตาซีขนาดสั้นที่ถ่ายทอดมุมมองความรักอีกรูปแบบหนึ่ง ความรักที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ไม่แบ่งแยกเผ่าพันธุ์ ตอนจบของมันช่างสวยงามจนใครหลายคนอาจจะคาดไม่ถึง นวนิยายเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์โดยทางสำนักพิมพ์ Words Wonder Publishing


       Stardust เป็นเรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยความเรียบง่ายผ่านหมู่บ้านหนึ่งในจักรวรรดิอังกฤษราวๆเมื่อประมาณ 200 ปีก่อน จากการบรรยายของเขาทำให้ฉันนึกภาพบ้านเรือนในช่วงสมัยล่าอาณานิคมได้ไม่ยาก นั่นเป็นจุดดีข้อหนึ่งของ นีล เกแมนที่สามารถบรรยายให้คนอ่านรู้สึกและสามารถจินตนาการภาพได้ราวกับหลุดเข้าไปในหนังสือ แต่ประเด็นสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นเพราะหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญอย่างหมู่บ้านวอลล์มีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าหมู่บ้านเล็กๆ มันคือกำแพงเก่าแก่ที่ถอดตัววางเรียงแนวยาวจากป่าอีกด้านจนถึงป่าอีกด้าน 'กำแพง' ที่กั้นโลกสองโลกที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

      ทริสตรัน ธอร์น หนุ่มน้อยขี้อายที่เป็นตัวละครหลักของเรื่องเขาไม่เคยรู้ต้นกำเนิดของตัวเองว่าจะจริงๆแล้วเขามาจากแฟรี่หรือดินแดนนอกวอลล์ เขาถูกเลี้ยงดูด้วยครอบครัวที่มีน้องสาวเอาแต่ใจ เรื่องราวของเขาควรจะจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง เมื่อทริสตรัน ธอร์น พบกับหญิงสาวอันเป็นที่รักอย่างวิกทอเรีย แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเมื่อธอร์นเอ่ยขอจูบและคำมั่นสัญญาจากวิกทอเรียโดยที่เธอก็ไม่ได้อยากมอบให้ ทริสตันจึงพยายามพูดถึงสิ่งของจากทั่วโลกเพื่อให้หญิงอันเป็นที่รักสนใจ ตรงจุดนี้ผู้แต่งได้แสดงให้เห็นถึงความรอบรู้ของทริสตรัน ธอร์นที่ได้มาจากการอ่านและการเรียนมันหมายความว่าความรู้นั้นสำคัญและเปิดโลกเราให้กว้างขึ้น ความรู้ของทริสตรันยังถูกนำไปใช้ในการผจญภัยหลายต่อหลายครั้งเพื่อเอาตัวรอด เพราะฉะนั้นสิ่งที่ฉันได้จากตรงจุดนี้คือความรู้นั้นเป็นสิ่งสำคัญเพราะความรู้ก็เหมือนแสงเทียนที่คอยส่องสว่างในที่มืดมิด ไม่ใช่เป็นกบในกะลาที่ไม่รู้ว่าออสเตรเลียคืออะไร และฝิ่นคืออะไร

      และสิ่งต่อมาที่ฉันได้เรียนรู้หลังจากที่ทริสตรัน ธอร์นก้าวข้ามผ่านกำแพงไปยังดินแดนแฟรี่แล้วคือความสามารถในการถ่ายทอดจินตนาการของผู้เขียน เขาสามารถถ่ายทอดโลกของเทพนิยายที่เราเคยรู้จักในนิทานหรือตำนานต่างๆผสมผสานจนมันกลายเป็นดินแดนแฟรี่ในแบบฉบับของเขาเอง ทั้งมังกร ก็อบลิน ยูนิคอร์น รวมถึงแม่มดและเจ้าชายที่เป็นตัวละครหลัก ตอนที่ผู้แต่งเอ่ยถึงเจ้าชายแห่งสตร์อมโฮลด์ ฉันได้เรียนรู้สิ่งหนึ่งจากบทนี้คือ ไม่ว่าคุณจะอยู่แห่งไหน ความกระหายในอำนาจล้วนมีอยู่ทุกที่ เราสามารถทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งฆ่าพี่น้องของตนเองเพื่อได้มาซึ่งความเป็นใหญ่

      “คนที่มีความรักทุกคนคือคนบ้าอยู่ในใจและเป็นนักร้องเร่ร่อนอยู่ในหัว” ฉันอ่านประโยคนี้ที่ชาล์มบอกแก่ทริสตรัน ธอร์น อยู่ประมาณ 3-4 รอบได้ ฉันพยายามจะทำความเข้าใจว่าคนแต่งต้องการจะสื่ออะไร และมันก็ถูกแปลออกมาในรูปแบบที่คิดได้ดังนี้ คนที่มีความรักเหมือนกับคนบ้าที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่เรียกว่ารักกลับคืนมา ไม่ต่างจากทริสตรัน ธอร์นที่ยอมเข้ามาในดินแดนที่ตนเองไม่รู้จักเพียงเพื่อนำดวงดาวไปให้แก่คนรักของเขา แต่ก็นั่นแหละสิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้ต่อจากตอนที่เขาเข้าไปในดินแดนแล้วคือ ถ้าเรามีความตั้งใจและความพยายาม ไม่ว่าสิ่งที่เราจะเสาะหามันยิ่งใหญ่และเป็นไปไม่ได้อย่างการหาดาวสักดวงถ้าเรามีความตั้งใจที่จะทำมันแล้ว คุณก็จะมีความสำเร็จอยู่ในมือเกินครึ่ง

      และสิ่งหนึ่งที่ นีล เกแมน พยายามสอดแทรกเข้ามาในหนังสือคือทุกที่ย่อมมี กฎ กติกา ไม่เว้นแม้แต่แฟรี่ ไม่ว่าจะเป็นแม่มด หรือแม้แต่ดาว ทุกคนมีกฎของตัวเองและยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมันไม่ได้หมายถึงข้อตกลงในการทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขเท่านั้นแต่มันหมายถึงเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเขาด้วย

       Stardust เป็นนิยายที่คู่ควรจะเก็บไว้เป็น 1 ในนิยายประทับใจที่สุดที่เคยอ่าน ฉันอาจจะพูดเว่อร์แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณได้ลองหยิบมันขึ้นมาอ่าน คุณจะนึกไม่ถึงเลยว่าสิ่งที่ฉันพูดไม่ได้ต่างไปจากความจริงแม้แต่นิดเดียว เคยได้ยินไหมจินตนาการของมนุษย์มันแตกต่างกัน และยิ่งเมื่อคุณอ่านมันทุกตัวอักษรคุณจะรู้สึกเห็นคุณค่าในตัวละครมากกว่าที่คุณเคยสัมผัส


       วิจารณ์โดย นาฬิกาแก้ว

       

       


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×