ประวัติของเจ้าพ่อเฟซบุ๊ค - ประวัติของเจ้าพ่อเฟซบุ๊ค นิยาย ประวัติของเจ้าพ่อเฟซบุ๊ค : Dek-D.com - Writer

    ประวัติของเจ้าพ่อเฟซบุ๊ค

    ผู้เข้าชมรวม

    464

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    25

    ผู้เข้าชมรวม


    464

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ต.ค. 56 / 03:13 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    แหล่งรวมบทความสารคดีประวัติศาสตร์ บทความสารคดีจักรวาลและดาวเคราะห์ บทความสารคดีสงคราม บทความสารคดีภัยธรรมชาติ บทความสารคดีชีวิตสัตว์ บทความสารคดีอาวุธทางการทหาร บทความสารคดีการจัดอันดับ บทความสารคดีวิทยาศาสตร์ บทความสัมภาษณ์คนดัง บทสนทนาปัญหาเศรษฐกิจ บทสนทนาประเด็นข่าวร้อน เรื่องราวน่ารู้ ความรู้ทั่วไป สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ผู้หญิง ความงาม แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง อาหาร ร้านอาหาร เกมส์ เทคโนโลยี มาดูกันได้ที่  http://megatopic.blogspot.com
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      มาร์ค เอลเลียต ซัคเคอร์เบิร์ก เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 1984 ที่รัฐนิวยอร์ค ในสหรัฐอเมริกา เขาเป็นเด็กเนิร์ดหัวใสมาตั้งแต่เด็ก โดยมาร์คไม่ได้เรียนเก่งเฉพาะวิชาที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์กลไกอย่างวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเชี่ยวชาญภาษาศาสต์ถึงขนาดอ่านเขียนได้ 5 ภาษา แถมยังสามารถท่องบทกวีจากมหากาพย์เรื่องอีเลียตได้คล่องปากอีกด้วย พออยู่ชั้นมัธยมมาร์คก็ได้ฉายาว่าเด็กอัจฉริยะ จากเดวิด นิวแมน นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่พ่อของเขาจ้างมาสอนลูกชายเกี่ยวกับการใช้และเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งมาร์คสามารถเรียนรู้โปรแกรมยากๆ ได้ว่องไวผิดคาด

      มาร์คหลงใหลการหัดเขียนโปรแกรมใหม่ๆ มาก พอถึงมัธยมปลาย เขาก็โชว์ฝีมือเขียนโปรแกรมซอฟต์แวร์ "ซัคเน็ต" (Zucknet) เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่บ้านตัวเองเข้ากับคอมมพิวเตอร์ที่คลินิกทันตแพทย์ของพ่อ เพื่อให้พ่อของเขาทำงานโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศ ความสามารถที่แม้แต่ผู้ใหญ่ยังยอมแพ้ จนแม้แต่บริษัทไมโครซอฟต์และเอโอแนล ยังแข่งขันกันแย่งตัวมาร์คตั้งแต่ยังเรียนไม่จบม.ปลาย แต่มาร์คยังสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในคอมพิวเตอร์ เขาจึงปฏิเสธข้อเสนอของสองบรอษัทยักษ์ใหญ่ แล้วไปเรียนต่อในภาควิชาคอมพิวเตอร์และสังคมวิทยา ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และที่นี่เองที่มาร์คได้พบกับเพื่อนสาวชาวเอเชีย ผู้กลายมาเป็นกำลังใจในวันนี้ พริสซิลล่า ชาน

      พริสซิลล่าอายุน้อยกว่ามาร์คหนึ่งปี เธอเป็นลูกสาวของชาวจีน-เวียดนาม เดนนิส ชาน ที่อพยพหนีความจนจากบ้านเกิดมาตั้งรกรากในอเมริกาในช่วงทศวรรษ 70 การเป็นผู้อพยพที่มีเพียงเสื่อผืนหมอนใบบีงคับให้เดนนิสต้องทำงานหนักถึงวันละ 18 ชั่วโมง เพื่อเก็บเงินไว้ตั้งร้านอาหารของตนเอง และมันก็ทำให้พรอสซิลล่าเติบโตขึ้นมาอย่างเข้มงวด ต้องกระเบียดกระเสียรตลอดเวลา ต่างจากมาร์คโดยสิ้นเชิง แต่สิ่งที่เหมือนกันคือความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อที่เธอมีไม่แพ้หนุ่มมาร์คเลย มีเรื่องเล่าจากอาจารย์ของพริสซิลล่าว่า "พริสซิลล่าฝันอยากเข้ามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมาตั้งแต่อายุ 13 ปี เธอถามอาจารย์ว่าต้องทำอย่างไรเด็กเอเชียจนๆ อย่างเธอถึงจะเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อก้องโลกนั้นได้ ผมอึ้งไปเลย" อาจารย์ปีเตอร์ สเวนสัน เล่า " ตลอดอาชีพการเป็นครู ผมไม่เคยเจอเด็กอายุ 13 ถามอะไรแบบนี้เลย เธอรู้ว่าเธอต้องการอะไรแม้กระทั่งในตอนนั้น"

      จากคำแนะนำของอาจารย์ พริสซิลล่าจึงเข้าร่วมทีมเทนนิสตั้งแต่เด็กๆ เพื่อให้ประวัติดูดีที่สุดในการสอบเข้าฮาร์วาร์ด และแล้วในอีกหลายปีต่อมาเธอก็สามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในฝันได้จริงๆ ขณะที่กำลังเรียนอยู่ปีสอง โชคชะตาหรือน่าจะเรียกว่ากามเทพก็เล่นกล พาให้เธอได้พบกับมาร์คในที่ๆ ไม่มีใครคาดฝันว่าต้นรักจะเจริญงอกงามขึ้นมาได้ นั่นคือหน้าห้องน้ำ เหตุเกิดขึ้นในงานปาร์ตี้ของสมาคมนักศึกษาชาย เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2003 ทั้งมาร์คและพริสซิลล่าตามเพื่อนไปงานนี้ด้วยกันทั้งคู่ และระหว่างที่มาร์คกำลังไปต่อคิวเข้าห้องน้ำ เขาก็พบพริสซิลล่าเข้า จากนั้นหนุ่มสาวทั้งสองก็เริ่มคบหาดูใจกันนับตั้งแต่นั้นมา

      หลังคบพริสซิลล่าได้หนึ่งปี มาร์คก็ลงมือเขียนโปรแกรม "เฟซแมช" เพื่อให้นักศึกษาในฮาร์วาร์ดได้ลงคะแนนโหวตภาพสวยๆ ของเพื่อนร่วมสถาบัน ผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย ตอนที่เขียนโปรแกรมนี้มาร์คเพียงแค่หาอะไรทำสนุกๆ แก้ว่างตามประสาคนไฮเปอร์เท่านั้น แต่ "เฟซแมช" กลายมาเป็นต้นแบบให้เขาสร้างโปรแกรมเฟซบุ๊คอันลือลั่น และเริ่มทดลองใช้งานเป็นครั้งแรกจากห้องนอนในหอพัก เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2004 เท่านั้นยังไม่พอ มาร์คยังได้เชื่อมต่อเฟซบุ๊คเข้ากับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยอื่นๆ ทั่วประเทศ จนกลายเป็นกิจการที่ทำเงินให้เขาอย่างมหาศาล จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ตัดสินใจพักการเรียนอย่างไม่มีกำหนด เพื่อเอาเวลามาทุ่มเทให้กับการพัฒนาโปรแกรมนี้อย่างเต็มที่

      ล่วงมาถึงปี 2010 คนทั้งโลกไมมีใครที่ไม่รู้จักเฟซบุ๊ค และมาร์คกลายเป็น 1 ใน 100 มหาเศรษฐีของโลก พร้อมกันนั้นเขาก็ต้องเดินขึ้นโรงขึ้นศาลจนรองเท้าสึก เพราะบรรดาผองเพื่อนที่เคยมีส่วนช่วยเขานำเฟซบุ๊คไปเชื่อมต่อกับระบบของมหาวิทยาลัยต่างๆ พร้อมใจกันฟ้องขอส่วนแบ่งอภิมหาศาลจากมาร์คกันจ้าละหวั่น โดยอ้างว่าตนมีส่วนช่วยให้เฟซบุ๊คแจ้งเกิดได้อย่างสวยงามจึงต้องได้รับส่วนแบ่งจากรายได้ของโซเชียลเน็ตเวิร์คสุดฮิตนี้ด้วย



      เดือนกันยายน ปีเดียวกัน อาจจะเพราะต้องการคนมาช่วยเยียวยาขวัญกำลังใจหรืออย่างไรก็ไม่แน่ มาร์คเอ่ยปากชวนพริสซิลล่า ซึ่งกำลังเป็นนักศึกษาแพทย์ให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่พริสซิลล่ามีประสบการณ์มาแล้วว่าการคบกับนักธุรกิจรัดตัวอย่างมาร์คไม่ใช่เรื่องน่าสนุกนัก เธอจึงตั้งโต๊ะเจรจากับหวานใจนานหลายชั่วโมง จากนั้นทั้งคู่ก็ร่างสนธิสัญญาการร่วมบ้านยาวเหยียดนับร้อยข้อ เช่น ข้อหนึ่งระบุว่า ทั้งคู่จะต้องออกเดทสัปดาห์ละครั้ง และแต่ละครั้งต้องมีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังอย่างน้อย 100 นาที ส่วนสถานที่จะต้องไม่ใช่ในอพาร์ตเม้นท์ของมาร์ค และแน่นอนที่สุดว่าจะต้องไม่ใช่ในเฟซบุ๊ค มีข่าวลือแว่วมาว่าที่ท้ายสนธสัญญาตัวนี้ พ่อหนุ่มมาร์คถึงกับต้องเซ็นต์ลายเซ็นต์ไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ไม่อย่างนั้นอย่าหวังเลยว่าพริสซิลล่าจะยอมเก็บข้าวของมาอยู่ด้วย


      การอยู่ร่วมบ้านกินเวลาเพียงปีเดียวเจ้าพ่อเฟซบุ๊คก็ทนต่อไปไม่ไหว มาร์คประจักษ์ว่าชีวิตที่มีพริสซิลล่าอยู่เคียงข้างนั้นดีเพียงไหน เขาตัดสินใจขอเธอแต่งงาน หลังจากเธอเรียนจบด้านกุมารแพทย์แล้ว 1 สัปดาห์ จากนั้นทั้งคู่ก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญแขกมาร่วมงานที่บ้าน แต่ปล่อยให้เพื่อนๆ เข้าใจกันไปเองว่าทุกคนมาร่วมงานฉลองจบการศึกษาของพริสซิลล่า เล่นเอาแขกทั้งหมดถึงกับเหวอเอ๋ออึ้ง เมื่อพริสซิลล่าปรากฏตัวขึ้นในชุดแต่งงานผ้าลูกไม้ขาวบริสุทธิ์ ราคา 4,700 เหรียญ (141,000 บาท) ส่วนเจ้าบ่าวก็หล่อกว่าทุกวันในชุดสูทสีกรมท่าเต็มยศ ผูกเน็คไทเรียบกริบ ซึ่งเป็นชุดที่ไม่ค่อยจะมีใครได้เห็นมาร์คแต่งบ่อยนัก

      มาร์คเล่าว่าการแต่งงานกับพริสซิลล่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวิตเขา เพราะเธอไม่เพียงแต่ฉลาด สุขุม อ่อนโยน เธอยังเข้าใจงานของเขา และคอยเป็นกองหนุนให้เขาทุกอย่าง อย่างเช่นพริสซิลล่าเป็นคนต้นคิดให้มาร์คไปเรียนภาษาจีนกลาง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ก่อนที่เขาจะต้องเดินทางไปเจรจาธุรกิจที่ประเทศจีนในปี 2012 อีกทั้งเธอยังเป็นคนจุดประกายให้มาร์คเห็นคุณค่าของการบริจาคอวัยวะ และได้เป็นโต้โผใหญ่เรียกร้องให้ผู้ใช้เฟซบุ๊คช่วยกันบริจาคอวัยวะด้วยวิธีแสนง่าย เพียงลงทะเบียนในเว็บไซต์เท่านั้นเอง ซึ่งก็ปรากฏว่ามีคนพร้อมใจกันมาลงชื่อบริจาคมากกว่า 1,000,000 คน ภายในวันเดียว

      กำลังใจและความคิดที่ได้จากพริสซิลล่าเป็นแรงกระตุ้นให้มาร์คมีแรงพัฒนาโปรแกรมโซเชียลเน็ตเวิร์คที่เขารักต่อไป เพราะเมื่อมีคนรักอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยากแค่ไหน เจ้าพ่อเฟซบุ๊คก็พร้อมจะฝ่าฟันไปได้เสมอ

      แหล่งรวมบทความสารคดีประวัติศาสตร์ บทความสารคดีจักรวาลและดาวเคราะห์ บทความสารคดีสงคราม บทความสารคดีภัยธรรมชาติ บทความสารคดีชีวิตสัตว์ บทความสารคดีอาวุธทางการทหาร บทความสารคดีการจัดอันดับ บทความสารคดีวิทยาศาสตร์ บทความสัมภาษณ์คนดัง บทสนทนาปัญหาเศรษฐกิจ บทสนทนาประเด็นข่าวร้อน เรื่องราวน่ารู้ ความรู้ทั่วไป สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ผู้หญิง ความงาม แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง อาหาร ร้านอาหาร เกมส์ เทคโนโลยี มาดูกันได้ที่  http://megatopic.blogspot.com


      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×