ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ϟHP : Nomaj & Squib

    ลำดับตอนที่ #174 : Fact } ,, บทสัมภาษณ์นักแสดงจาก นิตยสาร Filmax ★™ϟ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 473
      1
      22 ธ.ค. 54


    Cry
    .Q




     

    คราวนี้ก๊อปมาทั้งดุ้นเลยค่ะ TT
    ขอขอบคุณ คุณ City ofdamn จากบอร์ดเฉลิมกรุง-พันทิป ด้วยค่ะ

    DANIEL RADCLIFF

    ผมจะถูกถามถึงผลกระทบที่หนัง Harry Potter มีต่อชีวิตผม อย่างเป็นยังไงบ้างที่โตขึ้นมาในกองถ่ายหนัง? หนังชุดนี้ได้เปลี่ยนนายหรือทำให้นายโตมาเป็นยังไง? รู้สึกยังไงที่เป็นคนดัง? นายเคยคิดถึงวัยเด็กแบบธรรมดาบ้างรึเปล่า? 
    คำถามทำนองนี้วนเวียนอยู่ในโลกมานานหลายปีแล้ว คำตอบง่ายๆคือผมไม่รู้หรอกว่ามันแตกต่างกันตรงไหน สิ่งที่โลกมองว่าไม่ปกติมันธรรมดาสำหรับผมไปแล้ว และผมก็รักทุกนาทีที่ผ่านไป

    เพื่อนนักแสดงและทีมงานในหนังชุด  Harry Potter เป็นครอบครัวที่สองของผมมาครึ่งชีวิตแล้ว ตั้งแต่ผมยังเด็กแค่ 10 ขวบจนตอนนี้เป็นหนุ่มอายุ 21 หนังทุกภาคให้ความทรงจำที่ต่างกัน เพราะแต่ละภาคมีจุดหักเหเกิดขึ้นตลอด
    จะมีชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมสักกี่คนที่คุยโวได้ว่า เคยแทงงูยักษ์, เกือบตายตายคากระดานหมากรุก, รอดจากการถูกแมงมุมเขมือบอย่างหวุดหวิด, เกือบหล่นลงมาจากรถยนต์เหาะ, สู้กับมังกร, ดำน้ำอยู่ใต้น้ำนานถึง 40 ชั่วโมง, เอาตัวรอดจากเขาวงกตสุดอันตราย, จูบสาว แล้วก็จูบสาวอีกคน (โอเค บางทีนั่นอาจไม่ได้พิสดารนัก)
    นี่ยังไม่ได้พูดถึงการเผชิญหน้าตัวต่อตัวกับพ่อมดที่ชั่วร้ายที่สุดตลอดกาลเลยนะ

    แต่สิ่งสำคัญที่เหนืออื่นใดสำหรับผมใน Harry Potter ก็คือ ทุกคนที่ได้ร่วมงานด้วย ผมได้รับสิทธิพิเศษในการพบเจอและทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้คนที่สร้างสรรค์และเป็นมิตรที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ และผมก็ได้พบและผูกมิตรกับเพื่อนตายหลายคน ผมได้เรียนรู้หลายอย่างในฐานะนัดแสดง และในฐานะคนคนนึงผ่านช่วงเวลา 10 ปีมานี้


    หลังเรียนจบ : (หมายถึงจบการศึกษาที่ฮอกวอตส์นะคะ)
    เล่นละครบรอดเวย์ How to Succeed in Business Without Really Trying และเป็นนักกฎหมายที่เจอเหตุการณ์เหนือธรรมชาติใน The Women in Black ของแฮมเมอร์ฟิล์ม ที่มีโปรแกรมฉายปลายปีนี้

    ROPERT GRINT

    ถ้าจะมีอะไรสักอย่าง ที่ทำให้ผมภูมิใจมากละก็ คงเป็นการที่ทำให้คนหัวแดง ดูเจ๋งขึ้นมาได้ แต่เอาจริงๆนะ จะให้ผมสรุปรวบยอดว่างหนังชุดนี้มีความสำคัญอะไรกับผมได้ยังไง?
    ผมคงพูดได้แค่ ผมจะยอมเล่นหนังชุดนี้ทั้งหมดอีกรอบ โดยไม่ต้องหยุดคิดเลย ผมรักการเล่นเป็นรอน รักการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัววีสลีย์ และรักการมากอลถ่ายทุกๆวันได้ไปไหนมาไหนกับบรรดาเพื่อนรักของผม ผมรู้สึกภูมิใจเป็นบ้าที่ได้ได้รับความไว้วางใจให้เล่นบทนี้


    ตอนที่ผมยังเด็กกว่านี้ คนชอบถามผมว่าผมคิดว่าตัวเองเหมือนกับรอนตรงไหน คำตอบในสต็อคก็มักจะเป็น “ผมชอบลูกกวาด” , “ผมกลัวแมงมุม” , “ผมหัวแดง” หรือ “ผมมาจากครอบครัวใหญ่” 
    แต่ความจริงคือ รอนจัดเป็นฮีโรของผม เขามักจะอยู่เคียงข้างเพื่อนๆของเค้าเสมอ ถึงจะตีกันบ้าง แต่ก็ไม่เคยทิ้งไปไหน เขายังช่วยปล่อยมุขคลายเครียดในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เป็นผู้ชายทะเล้น ที่ปลาอยมุขเจ๋งๆได้ฮา และแม้จะกลัวจนหัวหด เขาก็จะเก็บมันไว้ เพื่อช่วยเหลือและปกป้องคนที่ดเขารัก สำหรับผมแล้ว นั่นเป็นตัวแทนของความกล้าหาญที่แท้จริง

    คงไม่มีอะไรที่ผมอยากกลับไปเปลี่ยนแปลงจากการเล่นเป็นรอน วีสลีย์ มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เอ่อ...นอกเสียจากเจ้าเสื้อถักที่คันทั้งประหลาดตัวนั้นนะ (รอนต้างการการปฏิวัติการแต่งตัวสะใหม่อย่างจริงจัง) และอาจจะเป็นการแพ้ปิงปองให้กับเอมม่าในกองถ่ายหลายเกมรวด
    ผมล่ะภาคภูมิใจหาที่เปรียบไม่ได้ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในโลกใบนี้ และได้เล่นเป็นรอน วีสลีย์ น้องชาย ลูกชาย เพื่อนรัก และ เอาตรงๆนะ เป็นหัวแดง “ขั้นเทพ”


    หลังเรียนจบ :
    กำลังถ่ายหนังดราม่าสงครามโลกครั้งที่ 2  Comrade อยู่ที่ประเทศนอรเวย์ และยังถูกวางตัวเล่นหนังชีวิประวัตินักกระโดดสกีแชมป์ดอลิมปิค เอ็ดดี้ เอ็ดเวิร์ด

    Emma Watson

    ตอนมาทดสอบบทเฮอร์ไมโอนี่ครั้งแรกฉันอายุ 9 ขวบ และสิบขวบตอนที่เริ่มถ่ายทำ มันให้ความรู้สึกเหมือนนานเป็นชาติมาแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลยว่านั่นคือตัวฉัน! หลายอย่างเปลี่ยนไปมาก ฉันโตเป็นสาวแล้ว
    แต่มีอย่างหนึ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงก็คือ ความหลงใหลต่อเรื่องราวพวกนี้ และความรักที่มีต่อเฮอร์ไมโอนี่ เธอจะต้องเป็นหนึ่งในฮีโร่หญิงจากวรรณกรรมคนโปรดตลอดกาลของฉัน (และฉันได้เล่นเป็นเธอ ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้!)

    มันตลกนะ ตอนมองกลับไปในปีแรกๆ ฉันจำได้ว่าเคยยืนกระต่ายขาเดียววว่า ตัวเองไม่ได้มีอะไรเหมือนกับยัยเฮอร์ไมโอนี่สักอย่าง โดยเฉพาะกระโปรงผ้าของเธอกับถุงน่องคู่หนา การเป็นเด็กเนิร์ดตอนนั้นมันไม่เจ๋งเลยสักนิด 
    แต่พอโตขึ้นฉันก็ตระหนักได้ว่าเราเหมือนกันเด๊ะเลย และการเปรียบเทียบไม่ว่าจะเรื่องอะไร ก็ถือเป็นคำชมทั้งนั้นมไม่ใช่การจิกกัด เธอเป็นเพื่อนที่จริงใจ, ภักดี, กระฉับกระเฉง, เด็ดเดี่ยว และไม่กลัวที่จะวิ่งไล่ตามสิ่งที่ตัวเองเชื่อ
    และแน่นอนว่าเธอเป็นพวกบ้าเรียน ฉันสนใจใฝ่ความรู้เหมือนเธอ และถ้าฉันสามารถเป็นอย่างเธอได้สักครึ่งเดียว ฉันก็มีความสุขสุดยอดแล้ว สาวๆไม่ควรกลัวที่จะมีสมอง

    การโตขึ้นมาในโลกของ Harry Potter ทำให้ฉันได้รับาการอบรมเลี้ยงดูที่ผิดปกติไปสักหน่อย และมันก็เป็นงานหนักด้วย แต่ฉันไม่เคยคิดอยากกลับไปเปลี่ยนมันสักนิด ฉันจะยังคงภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในหนังชุดนี้ ลัฉันก็อยากจะขอบคุณทุกๆคนทั้งผู้กำกับ ทีมงาน และนักแสดงร่วมของฉันทุกคน ที่สอนฉันหลายเรื่อง ที่ให้ความทรงจำมีค่ากับฉันมากมาย และขอบคุณเจ เค โรว์ลิ่ง ที่หยิบยื่นโอกาสนี้มาให้ฉันตั้งแต่แรก


    หลังเรียนจบ :
    เป็นพรีเซนเตอร์ให้ Lancome พึ่งดร็อปการเรียนที่มหาวิทยาลัย บราวน์ มาร่วมแสดงหนัง My week With Marilyn ที่มีกำหนดฉายสิ้นปีนี้ และถูกวางตัวในหนัง The Perks of Being a Wallflower



     





     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×