ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #70 : อุปสรรคและความรู้ที่ได้

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.19K
      0
      15 ก.ค. 48





                         เขียนวันที่ 15 ก.ค. 48                                   หนัก 75 กก.





                         ก็อย่างที่เห็นนะครับว่าวันนี้ผมหนักถึง 75 กก. น้ำหนักขึ้นมาอีกตั้ง 1.5 กก. ภายใน 3 วัน เป็นการที่น้ำหนักขึ้นครั้งที่ 2 ของการลดครั้งใหม่ภายในเวลาครึ่งเดือน  ฟังดูแล้วน่าตกใจมากเลยครับ ถ้าเปรียบเทียบกับเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ผมน้ำหนักขึ้นแค่ 1 ครั้ง ทำไมถึงเป็นแบบนี้เหรอครับ ง่ายนิดเดียวครับ เพราะภาพรวมในสังคมยังเป็นแบบนี้อยู่ ผมในฐานะของปัจเจกบุคคลในสังคมเล็กๆสังคมหนึ่งจะไปทำอะไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่



                        เหตุผลสำคัญอย่างแรกเลยคือ เวลา 3 วันที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 12-14 ก.ค. ผมไม่ได้ออกกำลังกายเลยเพราะไม่มีเวลา ส่วนวันที่ 13 และ 14 ก.ค. 48 ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะผมต้องออกสนามไปกับผู้ร่วมงานกลุ่มหนึ่งทั้ง 2 วัน มันเป็น 2 วันที่ไม่ได้เสียค่าอาหารเลยแม้แต่บาทเดียว แต่ก็เป็น 2 วันที่คุมอาหารได้ยากมาก



                        เริ่มจากมื้อเช้าที่เรากินอาหารแบบกับข้าว 3 อย่าง และข้าวเปล่า คนละจาน การกินแบบนี้ค่อนข้างคุมยาก เพราะเป็นการกินไปคุยไป และที่สำคัญผู้ที่กินทั้งหมดก็กินโดยที่ไม่ได้คิดว่า ปริมาณอาหารมันเหมาะกับความต้องการของร่างกายรึเปล่า ผมเองก็โอนอ่อนผ่อนตาม เพราะเห็นเป็นมื้อเช้า พอตกตอนเที่ยงก็สั่งส้มตำมากินกันอีก แถมมีหลายอย่างมากทั้งส้มตำ ลาบหมู ไก่ ข้าวยำ ข้าวเหนียว หมูทอด ฯลฯ พอกินกันในลักษณะนี้ก็กินไปคุยไป บางคนยังรำพึงขึ้นมาเลยว่า \"ทำไมกินแบบนี้ถึงอร่อยจัง ทำให้เจริญอาหารดี กินคนเดียวไม่เห็นอร่อยถึงขนาดนี้\" ถึงแม้จะเอาผักมาถึง 2 จานใหญ่ๆ ก็ไม่ช่วยอะไร ถึงแม้จะมีคนบอกว่า \"กินผักกันเยอะๆสิ ไม่อ้วน\" แต่อาหารที่ไม่ใช่ผักที่กินเข้าไปมันเกินปริมาณไปแล้วครับ กรณีแบบนี้ผักที่กินเข้าไปจะมากสักแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วยในการลดน้ำหนักแต่ประการใด



                        ผมเองนั่งอยู่ตรงนั้น ผมจะทำอะไรได้ ถ้าลุกออกไปก็จะน่าเกลียดมากๆ พอนั่งอยู่ ถ้านั่งอยู่เฉยๆก็ดูไม่ดีอีก ก็เลยต้องค่อยๆกินเข้าไป พอเวลาผ่านไป ภาพเก่าๆก็หวนกลับคืนมา \"ช่วยกินไอ้นี่หน่อยสิ ถ้าเหลือมันเสียดาย\" พอดีพี่ที่เขาบอกก็เป็นพี่ผู้ใหญ่ซะด้วย ผมก็เลยไม่กล้าขัด สรุปว่ามื้อนี้ก็กินเกินปริมาณไปอีกแล้วครับ และมื้อเย็นก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน และทั้ง 2 วันก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เวลาออกกำลังกายก็ไม่มี เมื่อเดือนที่แล้วพี่ในกลุ่มนี้ยังทักผมเลยว่า \"น้องไปทำอะไรมา ผอมไปเยอะเลย เก่งมากๆ พวกพี่ไม่มีทางทำได้เลยนะเนี่ย\" ตอนนี้ผมอยากจะบอกว่า \"มากินกับพวกพี่ผมก็ทำไม่ได้เหมือนกันครับ\" ถ้าเข้ามาอ่านเจอไม่รู้ว่าจะโกรธกันรึเปล่า แต่มันก็เป็นความจริง ที่ผมเคยหนักถึง 107 กก.ได้ก็เพราะชีวิตของผมเป็นเหมือนกับ 2 วันที่ผ่านมา และ 2 วันที่ผ่านมาผมก็ไม่ได้กินน้ำอัดลม ขนมหวาน และอาหารระหว่างมื้อเลย



                       ผมเลยมานั่งย้อนคิดว่า การที่ผมเลือกที่จะลดน้ำหนักในช่วง ก.พ.-พ.ค. 48 ที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่ฟลุ้คมากๆ เพราะเป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยปิดเทอมพอดี ถึงผมจะมาที่คณะแทบทุกวัน แต่หลายๆคนอาจจะต้องไปสัมมนาบ้าง ไปต่างประเทศบ้าง ลาพักร้อนบ้าง พฤติกรรมการกินแบบเป็นกลุ่มก็หายไป ผมจึงสามารถมีอิสระอย่างเต็มที่ในการวางแผนเรื่องการกิน และตอนปิดเทอมงานไม่เยอะครับ ผมเลยมีเวลาที่จะออกกำลังกายตอนเย็นแทบทุกวัน แต่ตอนนี้มันผิดกัน งานมันมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งงานประจำและงานสังคม



                       ผมอยากจะฟันธงลงไปเลยว่า ถ้าบังเอิญผมมาคิดที่จะลดน้ำหนักในช่วงเดือน มิ.ย. -ก.ย. 48 เป็นครั้งแรก ผมอาจจะลดไม่ได้เลยสักกิโลฯ มันอาจจะขึ้นๆลงๆ แล้วผมก็คงท้อ และเลิกคิดที่จะลดน้ำหนักไปในที่สุด และหนังสือ \"ผู้ชายพร่องมันเนย\" คงไม่เกิดขึ้น



                       ตอนนี้ผมเองแหละครับที่เป็นอีกคนหนึ่งที่อยากได้หนังสือเล่มนั้นมาก เพราะอยากเอามาอ่านเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองในตอนนี้ เพราะพอเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น สิ่งที่เป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของผมก็คือ ตัวผมเองในช่วง 4 เดือนนั้นครับผม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×