ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประสบการณ์ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง เดือนละ 10 กิโลฯ

    ลำดับตอนที่ #108 : ประสบการณ์มันๆของ \"ป้ายนี้ยกเลิก\"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.05K
      0
      21 พ.ย. 48





                           น่าจะจับมาสัมภาษณ์ซะให้เข็ดว่าทำไมถึงใช้นามแฝงนี้ มีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับรถเมล์รึ ก็ไม่น่าจะใช่  เปิดร้านแล้วโดยภาษีป้ายแพงๆเหรอ ก็ไม่น่าจะใช่  โดนใครใส่ร้ายป้ายสีมาเหรอ ก็ไม่น่าจะใช่ หรือเบื้องหลังคือ กำลังนั่งเล่นเน็ตอยู่ในเน็ตคาเฟ่ แล้วนึกนามแฝงไม่ออก พอดีเหลือบมองไปเห็นป้ายรถเมล์ร้าง แล้วเห็นเขาติดไว้ว่า \"ป้ายนี้ยกเลิก\" ก็เลยเอาชื่อนี้มันซะเลย  ต้องเป็นอย่างนี้แน่ๆเลย สารภาพมาซะดีๆ





                         \"เข้ามาอ่านเวปนี้ตั้งแต่หนังสือยังไม่ออกจำหน่าย แอบจำวิธีของพี่ไปลดน้ำหนักบ้าง จนลดลงไปได้หลายกิโลแล้ว ก็ใช้ทั้งการปรับการกินอาหาร และออกกำลังกาย ก็ด้วยการเดินเช่นกันค่ะ บางวันก็ทั้งเดินทั้งวิ่ง อาหารระหว่างมื้อไม่ทานเลย ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรมาก ทำไปเรื่อยๆ น้ำหนักก็ลดเรื่อยๆ เลยโดนคนรอบข้างเพ่งเล็งอ่ะค่ะ หาว่ากินยาลดน้ำหนักบ้าง อะไรบ้าง แล้วชอบถามว่าจะลดไปทำไม ไม่ต้องลดหรอก เลยเริ่มซีเรียสสิคะทีนี้ แต่พอได้อ่านหนังสือของพี่แล้ว ก็ทราบว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา โดนกันถ้วนหน้าสำหรับคนลดความอ้วน ก็ขำขำดีนะคะ กับคนพวกนี้ ช่างไม่เข้าใจเราเล้ย ไม่อ้วนมั่งก็ให้มันรู้ไป







                         การลดน้ำหนักของหนูถือว่าไม่มีอุปสรรคอะไรมากค่ะ เพราะน้ำหนักตัวเกินไม่มาก สูง 160 หนักตอนนี้ก็ 54 จากแต่ก่อน 58-60 เรื่องความอยากอาหารระหว่างมื้ออะไรก็ไม่ค่อยมี เพราะไม่ค่อยได้ทานอะไรจนติดเป็นนิสัย แต่ก่อนนึกอยากทานขนมก็ทาน แต่เดี๋ยวนี้นึกอยากทานแล้วไม่ทานก็ได้ ไม่ได้รู้สึกทรมานอะไร พวกข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ อะไรเทือกนี้ไม่ชอบอยู่แล้ว หนูไม่ทานหมูและเนื้อค่ะ โปรตีนที่ชอบจะเป็นพวกปลามากกว่า แต่ที่อ้วนได้เพราะแต่ก่อนชอบทานขนม ยิ่งตอนเรียนปอตรีอยู่หอพักมีเพื่อนทานขนมก็จะทานไปเรื่อยๆ และไม่ชอบออกกำลังกาย แต่พอไม่มีเพื่อนทานมันเลยไม่อยากและไม่สนุก ก็ถือเป็นเรื่องดีที่ช่วยให้หนูลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น อีกทั้งลดแบบไม่เครียดค่ะ ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าเดือนนึงต้องลดเท่านั้นเท่านี้ พยายามใช้พลังงานในช่วงวันให้มาก ไม่ขึ้นลิฟท์ เวลาเดินก็จะเดินเร็วๆ หน่อย พอไปชั่งน้ำหนักมันก็มีแนวโน้มลดเรื่อยๆ อ่ะค่ะ





                        ส่วนเรื่องปัญหาน้ำหนักตัวคงที่ไม่ทราบว่าตัวเองเจอหรือเปล่า เพราะชั่งน้ำหนักไม่บ่อย 3 อาทิตย์ชั่งที บางทีก็ 2 อาทิตย์ หรือ 1 อาทิตย์ก็มาชั่ง แค่ทุกครั้งที่ชั่งน้ำหนักน้อยลงกว่าเดิมก็พอใจแล้วค่ะ แม้จะลดลงทีละไม่มาก แต่มันลดเรื่อยๆ บางทีน้ำหนักก็ไม่ได้ลงมากอะไรแต่ดูตัวผอมลง เพื่อนก็ทักกันเยอะเลยค่ะ ก็งงๆ เหมือนกันนะคะ เพราะเราจะรู้อยู่ว่าตัวเองน้ำหนักไม่ได้ลงมากอะไรเลยแต่ทำไมดูตัวเล็กลงไปได้ก็ไม่ทราบ บางทีชั่งอาทิตย์นี้ได้ 55 พอสักอาทิตย์กว่าๆ ถัดไป ชั่งใหม่ได้ 54.3 แต่เพื่อนทักว่าดูผอมลง พูดบ่อยซะอย่างกับว่าเราลดไปทีละ 5 โลงั้นแหละ พูดจนบางครั้งเหมือนเราผิดนะคะที่ผอมลง บางคนน้ำหนักต้องลงเยอะถึงจะดูว่าผอมลง บางคนน้ำหนักลงนิดเดียวก็ดูผอมลงแล้วก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรเหมือนกันนะคะ







                       ตอนนี้พอหนูผอมลงอย่างเห็นได้ชัดแล้ว หนูก็รู้สึกว่าเรื่องของพี่นี่มันดีจริงๆเลยค่ะ เลยเอาไปแนะนำให้เพื่อนๆ ดู และบอกว่าพี่เขียนหนังสือด้วย หนูอ่านไปแล้ว นอกจากจะได้ประโยชน์เรื่องลดน้ำหนักแล้ว ยังทำให้ได้รับรู้ถึงความอบอุ่นภายในครอบครัวของพี่ด้วย รู้สึกดีจริงๆเลยค่ะ การลดน้ำหนักคนในครอบครัวก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ด้วยเหมือนกัน อย่างหนูตอนที่จะเริ่มลด ไม่ได้บอกใครเลย เพราะกลัวว่าถ้าเผื่อบอกไปแล้วทำไม่ได้จะมีแต่คนว่าเอาว่าดีแต่พูด แต่พอตั้งใจจริงคนรอบข้างโดยเฉพาะคนในครอบครัวเริ่มสังเกตได้ว่า เราลดน้ำหนักนะ เค้าก็จะหาอาหารหรือผลไม้อะไรที่เหมาะกับคนลดน้ำหนักไว้ให้เราน่ะค่ะ ก็รู้สึกดีที่เค้ายอมรับกับสิ่งที่เราทำโดยที่เราไม่ต้องบอก





                       หนูอ่านหนังสือของพี่จบ หนูเอาไปให้เพื่อนอ่านด้วยอ่ะค่ะ เพราะมีเพื่อนอยู่คนนึงที่น้ำหนักตัวพอๆ กัน ทราบว่าเค้าอยากลดน้ำหนักแต่ไม่ทราบว่าจะเอาจริงแค่ไหน แต่หนูก็พยายามให้กำลังใจเพื่อนนะคะ พบเจออะไรดีดีในนี้ก็เอาส่งเมลล์ไปให้เพื่อนอ่าน เชียร์จนเพื่อนหลายคนอยากได้หนังสือกันมั่ง หนูก็บอกไปแล้วว่าหาซื้อที่ไหนได้บ้าง ตอบแทนที่พี่ให้ความรู้และคำแนะนำดีดีมาน่ะค่ะ







                      พี่รู้มั้ยคะที่หนูบอกว่าหนูออกกำลังด้วยการเดินน่ะค่ะ หนูก็ใช้เส้นทางเดียวกับพี่นั่นแหละ แต่หนูจะเดินจากแค่แยกรามถึงแยกลำสาลีเอง เพราะว่าหนูไปเรียนที่บางขุนเทียนกว่าจะมาถึงแยกรามก็ประมาณ หกโมงครึ่งน่ะค่ะ ก็จะเดินประมาณชั่วโมงนึง แล้วขึ้นรถกลับ ไม่กล้าเดินจนดึกมากเพราะไม่มีเพื่อน ทั้งที่จริงแล้วหนูสามารถเดินให้ถึงบ้านเลยก็ได้เพราะอยู่แค่บางกะปิเอง แต่ว่ามันมีทางบางช่วงก่อนถึงบ้านที่คิดว่าเราไม่น่าเดินคนเดียวนะ เลยไม่กล้า ก็นั่งรถเอาละกัน





                       นั่นเป็นชีวิตในวันธรรมดานะคะ ถ้าเป็นวันหยุด หรือเสาร์-อาทิตย์ ก็จะไปออกกำลังที่สวนสาธารณะแทน ก็เดินเหมือนเดิม เดินเร็วประมาณ 40 นาทีแล้ววิ่ง แต่ก็วิ่งๆ เดินๆอ่ะค่ะ เพราะหนูวิ่งไม่เก่ง ถ้าเดินไม่เกี่ยง ตอนแรกที่ไปเดินนะคะก็เผลอดูวิวรอบข้างมั่งดูคนมั่ง บางทีเค้าพาครอบครัวพาเด็กเล็กๆ มาวิ่งเล่น พอเผลอก็ทำให้เดินช้าลง มีลุงแก่ๆคนนึงคิดว่าแกคงมาออกกำลังด้วยการเดินเป็นประจำเพราะดูรักษาระดับความเร็วได้ดีและเดินได้หลายรอบด้วย เวลาหนูเผลอเดินช้าลง ลุงแกก็เดินแซงได้ทุกที หนูเลยได้สติ อายุเพิ่ง 24 มาเดินแพ้คนแก่ซะงั้น ก็เลยตั้งใจเดินเร็วใหม่ ก็สนุกดีนะคะ ลดน้ำหนักโดยไม่เครียดมันทำให้เราลดได้ง่ายจังเลยนะคะ และแถมตอนนี้หนูก็มีเพื่อนลดน้ำหนักเพียบเลยด้วย ทั้งเพื่อนในนี้และอีกหลายๆคนในชีวิตจริงที่หนูไปกระตุ้นให้เค้ามาร่วมลดน้ำหนักด้วย เวลาทำอะไรแล้วมีเพื่อนทำ มันสนุกค่ะ\"





    ...

    จาก : ป้ายนี้ยกเลิก [ IP : 61.91.164.151 ]  E-mail :  

    วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2548





    เรื่องดีๆแบบนี้ไม่น่าหล่นหายไปตามกาลเวลา ว่าไหมครับ



      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×