ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักสุดซ่าของนายบ้าสุดหล่อ

    ลำดับตอนที่ #3 : วันหยุดหฤโหด

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 50


    โว้ยรอนานแล้วนะโว้ย ถ้ายังไม่มาฉันจะกลับบ้านแล้วเสียงยัยข้าวปั้นยังคงบ่นต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย

    เฮ้ยไอ้ข้าวปั้น แกใจเย็นก่อนดิ นี่กินไอศกรีมแกเข้าไปยัยวีต้าพูดพร้อมกับตักไอศกรีมยัดเข้าปากไอ้ข้าวปั้นต่อไป

    ไอ้วีต้า ฉันกินไอศกรีมแกอ่ะ เป็นถ้วยที่สามแล้วนะโว้ยข้าวปั้นพูดแล้วเอามือจับแก้มที่เริ่มแดงระเรื่อด้วยอาการเย็นของไอศกรีม

    เอาน่ากินเข้าไปยัยโตเกียวพูดแล้วก็ช่วยกันยัดไอศกรีมเข้าปากไอ้ข้าวปั้นจนไอ้ข้าวปั้นหน้าดำหน้าแดง

    แต่ลูแปงก็มาช้าจังเลยนะฟูจิคนที่ใจเย็นที่สุดยังพูด

    เฮ้ย มานู่นแล้ว ไม่ต้องบ่นกันป่ะฉันพูดพลางชี้ไปที่สามหนุ่มสามมุมที่กำลังเดินเข้ามาด้วยอาการโคตรจะเท่เลย

    พวกเธอนัดกันหน้าโรงเรียน แล้วจะมานั่งที่นี่กันทำไมไม่บอกอ่ะ ให้พวกเราไปยืนรออยู่ได้นายแมคม่ามาถึงก็บ่นเป็นหมีกินผึ้ง

    ฉันก็นั่งรอพวกนายอยู่เนี้ย มาช้าแล้วยังจะมาพูดมากอีกฉันพูดพร้อมกับมองหน้าเหล่ารุ่นพี่ที่ทำตัวไม่ค่อยจะเป็นรุ่นพี่เอาซะเลย

    อ่ะๆไม่ต้องเถียงกันแล้ว คู่นี่อยู่ด้วยกันไม่เกินห้านาทีทะเลาะกันอีกแล้วนายไต้ฝุ่นพูดพยายามแยกสงครามขนาดย่อมออกจากกัน

    เออ เราไปขึ้นรถกันดีกว่าป่ะนายลูแปงรีบพูดทันทีกลัวจะมีสงครามเกิดขึ้นอีกครั้งแล้วชี้ไปที่รถJass สีดำที่ใหญ่พอที่จะบรรจุพวกเราทั้งหมดเข้าไปได้

    เมื่อขึ้นรถมาแล้วโดยด้านหลังสุดจะเป็นฟูจิ โตเกียวและไอ้เบสที่ตามมาเพราะมีคำสั่งจากท่านพ่อคุณหนูฟูจิ ถัดขึ้นมาเป็นข้าวปั้น ลูแปง  วีต้า และไต้ฝุ่น  ส่วนฉันก็นั่งหน้าคู่กับคนขับนั้นก็คือไอ้คุณแมคม่า ที่เปิดเพลงซะดังจนหูจะแตกอยู่แล้วเนี้ย

    นี่นายหูแตกรึ เปิดซะดังจนรถคันข้างๆเค้าได้ยินด้วยแล้วมั้งฉันด่านายแมคม่าทั้งที่มือยังคงปิดหูอยู่

    อะไรของเธอเนี้ยเปิดแค่นี่บอกเสียงดัง เธอนี่น่ารำคาญชะมัดเลยอ่ะนายแมคม่าพูดพร้อมกับเอามือมาขยี้ผมฉันถามจริงที่บ้านเปิดร้านสระ-ไดส์เหรอไงฟะ

    เออ แล้วนี่เราจะไปไหนกันเนี้ยข้าวปั้นถามขึ้น

    เราจะไปเล่นไอซ์กันลูแปงเป็นผู้ตอบ

    เออ งั้นวีต้าไม่เล่นนะ วีต้าเล่นไม่เป็นอ่ะวีต้ารีบออกตัวเพราะไม่เคยเล่น

    นี่ไง เดี๋ยวให้ไต้ฝุ่นสอนก็ได้ ไต้ฝุ่นอ่ะเล่นเก่งมากๆเลยล่ะลูแปงพูดพร้อมกับยิ้มนิดๆ

    ใช่ๆไต้ฝุ่นสอนวีต้านะยัยข้าวปั้นรีบเสริมทันที

    อือนายไต้ฝุ่นตอบเพียงเท่านี้

    ข้าวปั้นเล่นกับเค้านะนายลูกแปงพูดแล้วรอความหวัง

    ได้ฉันยิ่งเล่นไม่เป็นอยู่นะ แล้วนายจะเสียใจ^^~”ข้าวปั้นพูดพร้อมกับสายตาที่มีเลศนัย

    เออ ฉันไม่เล่นนะฉันรีบพูดออกตัวทันที

    ทำไม เธอจะบอกว่าเธอเล่นไม่เป็นอีกงั้นเหรอนายแมคม่าถ้าไม่พูดก็ไม่มีคนหาว่าใบ้หรอกนะ

    เปล่า เล่นเป็นแต่ไม่อยากเล่นมีปัญหาอะไรป่ะ

    ถ้าเล่นเป็นแล้วทำไมไม่เล่นล่ะ ฉันว่าเธอเล่นไม่เป็นมากกว่า เล่นไม่เป็นเดี๋ยวฉันสอนให้ก็ได้นายนั้นพูดท้าฉัน

    ก็ได้ ฉันจะเล่นแต่นายไม่ต้องสอนฉันๆเล่นเป็น

    ฟูจิก็คงคู่กับเบสอยู่แล้วสินะยัยโตเกียวพูดแซวยัยคุณหนูประจำกลุ่ม

    ก็คงเป็นงั้นแหละนะ แล้วโตเกียวล่ะเล่นเป็นรึเปล่า จะให้ใครสอนล่ะยัยฟูจิพูดขึ้นด้วยความสงสัย

    ไม่รู้สิ ฉันมาฉันไม่มีคู่นี่ยัยโตเกียวพูดด้วยความน้อยใจเล็กๆ

    นี่ไง เหลือนายนี่พอดี ให้เค้าสอนแล้วกันฉันพูดพร้อมกับชี้ไปที่คนขับรถ นายนั้นถึงกับทำหน้าเหวอทันที

    พี่แมคม่าโตเกียวต้องขอฝากตัวและหัวใจด้วยนะค่ะไอ้คำว่าตัวนะเสียงดังอยู่หรอก แต่ไอ้คำว่าหัวใจเนี้ยทำไมได้ยินแว่วๆฟะ

    พวกเรานั่งรถจนมาถึงห้างออทิสติกเวิร์ด (มันน่าเข้าจังเลย แค่ชื่อก็กินขาดแล้วนะเนี้ย) เราทั้งเก้าคนเดินไปลานไอซ์ด้วยความเฮฮา จนคนรอบข้างต่างมองกันเป็นตาเดียว ก็ช่วยไม่ได้อ่ะนะก็มีแต่คนน่ารักอ่ะนะในกลุ่ม วันนี้จะยอมให้ก็ได้ว่าไอ้พวกสามตัวนั้นก็เท่อ่ะ ก็มันจริงนี่ไม่ต้องอ้วกกันจะได้ป่ะล่ะ

    เออ พี่แมคม่าค่ะ โตเกียวเพิ่งจะมาเล่นครั้งนี้เป็นครั้งแรกต้องขอฝากตัวด้วยนะค่ะยัยโตเกียวหลังจากที่ไอ้แมคม่าเดินประคองลงมาในลานไอซ์ ก็เกาะไอ้แมคม่าไม่ยอมปล่อยเลย

    ครับเดี๋ยวจะสอนให้เดินก่อนเลยแล้วกันนะนายแมคม่าคุยกับเพื่อนฉันล่ะพูดเพราะเชียวนะทีคุยกับฉันเดี๋ยวก็ยัยลิงเตี้ย ยัยลิงเตี้ย

    ทุกคู่ต่างลงไม่เล่นโดยเริ่มจากการวอร์มร่างกายก่อน ทุกคู่ต่างเดินไปรอบๆลานไอซ์อย่างเป็นแถว ส่วนฉันยังคงนั่งอ่านนิยายไปก่อน พอทุกคนวนกลับมารอบหนึ่ง ไอ้คุณแมคม่าก็กัดทันที

    นี่ ยัยลิงเตี้ย เค้าเสียตังค์ให้เข้ามาเล่นไอซ์นะไม่ใช่ให้เข้ามาอ่านนิยาย ลงได้แล้ว รึว่าเล่นไม่เป็น บอกกันได้นะ^o^”นายแมคม่าพูดด้วยใบหน้ายิ้มเยาะ และด้วยความที่ฉันเป็นคนไม่ยอมคนอยู่แล้ว

    เออ ไปเดี๋ยวนี้แหละน่าฉันรีบลุกแล้วเดินลงในลานไอซ์ เดินวอร์มร่างกายสักสองรอบก็เริ่มป่วนชาวบ้าน โดยรีบไปชวนไอ้ข้าวปั้นที่ทำเป็นเด็กหัดเล่นให้ลูแปงสอน ฉันรีบไปลากมันออกมาทำให้ลูแปงตกใจกลัวว่าไอ้ข้าวปั้นมันจะหัวทิ่ม อย่างมันนะเหรอจะหัวทิ่ม จะทำคนอื่นหัวทิ่มล่ะไม่ว่า

    เฮ้ย ไอ้ข้าวปั้นเล่นคู่ไหนก่อนดีว่ะฉันหันไม่ถามไอ้ข้าวปั้นที่ยังสะใจลูแปงไม่หาย ไปหลอกเค้าแล้วปล่อยให้เค้าเอ๋อแถวนั้นอ่ะนะ

    เอาคู่ไอ้วีต้าก่อนเลย เราต้องจัดการคู่นี้ให้ลงเอยก่อน ใช่ป่ะไอ้ลาวาแกจะมาถามความคิดเห็นฉันทำไมว่ะในเมื่อแกพูดเสร็จแกก็ลากฉันไปแล้วนี้

    หลบหน่อยจ้าวีต้า พวกเค้ากำลังซิ่งเน้อเราสองคนตะโกนขึ้นพร้อมกันทำให้วีต้าตกใจเสียหลัก ทรงตัวไม่อยู่จนไต้ฝุ่นต้องเข้ามาช่วยประคอง ดังนั้นตอนนี้ไอ้วีต้าจึงอยู่ในอ้อมกอดของใต้ฝุ่นเรียบร้อย แต่ไม่ทันไรไต้ฝุ่นก็ทรงตัวไม่ไหวเช่นเดียวกันต่างพากันล้มระเนระนาดอยู่แถวนั้น เรียกเสียงหัวเราะให้แก่พวกเราสองสหายเป็นอย่างมาก

    เออ เป็นอะไรรึเปล่ายัยวีต้าของเราพูดด้วยอาการหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ว่าโกรธหรืออาย

    เออ ไม่เป็นไรคับนายไต้ฝุ่นก็หน้าแดงไม่แพ้กัน แต่ก็รีบพยุงยัยวีต้าที่มัวแต่นั้งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ในลานไอซ์

    ฉันกับข้าวปั้นหลังจากที่ไปป่วนคู่ยัยวีต้าเรียบร้อยก็มาคู่ยัยฟูจิต่อ ซึ่งตอนนี้ยัยฟูจิกับไอ้เบส (ที่จริงเค้าก็รุ่นพี่แกนั้นแหละ) กำลังเล่นท่ากันอยู่ แหมอย่าคิดมากค่ะก็แค่ยัยฟูจิเนี้ เค้าเรียนไอ้ไอซ์สเก็ตเนี้ยอยู่แล้ว ส่วนไอ้เบสที่เป็นเนี้ยก็เพราะตามมาอารักขาคุณเธอนั้นแหละ 

    ตอนนี้แหละ ไอ้ข้าวปั้นไปกันเลยพวกฉันสองคนรีบพุ่งตัวออกจากจุดเดิมทันทีเมื่อถึงท่าที่ยัยฟูจิต้องยกขาขึ้นจากพื้นแล้วหมุนซึ่งถ้าไม่มีสมาธิก็ต้องล้มเป็นธรรมดา

    ว้ายเสียงของยัยฟูจิร้องดังลั่นเมื่อเราสองคนวิ่งเข้าไปเฉียด ทำให้ตกใจจนตั้งหลักไม่ได้ แล้วก็ตามแผน คือยัยฟูจิก็ต้องตกอยู่ใต้อ้อมกอดของนายเบสตามแผน (เป็นเพื่อนที่ดีมากเลยนะพวกแกเนี้ย ถ้าใครเป็นเพื่อนกับพวกแกคงกลุ้มใจน่าดู) คู่ต่อไปคงไม่พ้นคู่ของยัยโตเกียวกับนายแมคม่าแน่นอน

    เฮ้ย ไอ้ข้าวปั้นคู่นั้นอยู่ไหนว่ะดูดิ ฉันหาไม่เจอฟะฉันหันไปหาไอ้ข้าวปั้นเพื่อจะให้มันช่วยมองหา

    เออ นั้นดิ มันอยู่ไหนกันฟ่ะ ฉันว่ามันไม่ได้อยู่ในลานหรอก ไม่งั้นคงเห็นแล้วอ่ะไอ้ข้าวปั้นพูดพร้อมกับพยายามมองหา

    ฉันว่าเราไม่ถามลูแปงดีป่ะฉันชวนไอ้ข้าวปั้นไปหาลูแปงเพราะตอนนี้ลูแปงมันงอนขั้นไปนั่งไม่ลงมาเล่นซะงั้น

    เออ ไปถามมันก็ได้ว่าเห็นเปล่าไอ้ข้าวปั้นพูดพร้อมกับนำไปก่อน

    ฉันเดินมาหาลูแปงพร้อมกับไอ้ข้าวปั้น เห็นลูแปงกำลังนั่งหน้าเศร้าอยู่ ฉันเลยให้ข้าวปั้นตะโกนเรียก เพราะไอ้ลูแปงมันแอบชอบไอ้ข้าวปั้นอยู่อ่ะนะ

    นายข้าวปั้นตะโกนเรียกนายลูแปงที่กำลังนั่งงอนตุ๊บป่องอยู่ ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าควรจะเชียไอ้คุณลูแปงดีป่ะเนี้ย  มันเหมือนผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอีกนะ อะไรก็งอนๆๆๆๆ

    มีอะไรเหรอลูแปงหันมาคุยด้วยใบหน้าเหมือนใกล้ตาย

    ฉันจะถามนายว่า นายเห็นยัยโตเกียวกับเพื่อนนายเปล่าข้าวปั้นพูดกับไอ้ลูแปงที่ยังเล่นตัวไม่เลิกงอนซะที

    ไม่รู้อะไรทั้งนั้นอ่ะ ไปเล่นเหอะ เจอแล้วเดี๋ยวไปบอกลูแปงพูดพร้อมกับหันหน้าหนีเข้าข้างฝา

    เออ อุตส่าห์มาพูดด้วยทำเป็นงอน งั้นก็งอนต่อไปแล้วกัน เชอะรำคาญจริงเลยข้าวปั้นพูดแล้วเดินลงไปเล่นต่อโดยที่ทิ้งเพื่อนรักให้ยืนเซอร์อยู่แถวนั้นอ่ะ

    เฮ้ย ข้าวปั้น ลูแปงขอโทษลูแปงไม่แกล้งงอนแล้วคุยกับลูแปงเหอะนะลูแปงหลังจากที่ข้าวปั้นไม่รู้ว่างอนรึเปล่าอ่ะนะ เดินลงไปในลานไอซ์ลูแปงก็รีบกระโดดตามลงไปง้ออีก (เออ งงนะว่าเมื่อกี้ข้าวปั้นมันไปง้อก่อนแล้วไหงพักเดียวลูแปงต้องมาตามง้อไอ้ข้าวปั้นอีกแล้วว่ะเนี้ย)

    ฉันหลังจากที่ข้าวปั้นแยกตัวออกไปวิ่งไล่จับกับลูแปงแล้ว ฉันลาวาผู้น่าสงสารหรือสมน้ำหน้าก็ต้องมานั่งเดียวดายที่ข้างลานอีกแล้วเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก แต่มันก็ยังไม่วายมาจับแขนฉันหมุนตัวแล้วเกือบล้มแต่พอดีว่าทรงตัวอยู่อ่ะนะแล้วในขณะที่ฉันกำลังนั่งอ่านนิยายมันๆอยู่สายตาก็เหลือบไปเห็นยัยโตเกียวกับไอ้แมคม่ากำลังนั่งกินอะไรอยู่ก็ไม่รู้ในคอฟฟี่ช๊อฟข้างลานไอซ์

    โธ่เอ้ย เราก็นึกว่าหายไปไหน แต่เมื่อโอกาสมาถึงอย่างนี้ เราก็ต้องเก็บรูปไว้เป็นหลักฐานสักเล็กน้อย ไว้แบล็กเมเพื่อน หุหุชั่งเป็เพื่อนที่ดีอะไรอย่านี้เนี้ยฮะคุณลาวา ฉันหลังจากที่นั่งมานานก็เดินลงไปในลานอีกครั้งเพื่อจะเล่นต่อ แต่ที่น่าสงสัยนั้นก็คือ ณ.มุมลานไอซ์ด้านหนึ่งมีคนมันบ้านั่งลงไปที่ลานน้ำแข็งอยู่เป็นวง ด้วยความแปลกใจเลยเดินเข้าไปดูซะหน่อยดิว่าใคร ขอให้ไม่ใช่คนที่รู้จักเลย อายเค้า

    เฮ้ยวีต้า แกทำอะไรอยู่ว่ะนั้นฉันถามยัยวีต้าด้วยความตกใจ

    ก็อย่างที่เห็น จะตกใจทำไมว่ะจะไม่ให้ฉันตกใจแกได้ไงว่ะ ก็พวกแกเอารองเท้าไปขุดลานซะเป็นบ่อขนาดนั้น แกคิดอะไรอยู่คับ แล้วไอ้พวกคุณทั้งหลายก็ดันสุ่มหัวเล่นกันอีกนะ มีแก่นนำเป็นยัยวีต้า ส่วนเหล่าสมุนได้แก่ ยัยฟูจิ นายเบสและนายไต้ฝุ่น ไอ้คนเหล่านี้จากที่เห็นมามันไม่น่าจะบ้าได้ถึงขนาดนี้เลยนะเนี้ย เห็นแล้วกลุ้มใจกับพวกมันเลยให้ตายดี

    นี่ นายไต้ฝุ่น เลิกปั้นน้ำแข็งเป็นตัวได้แล้ว รีบออกจากลานเดี๋ยวนี้เลยป่ะฉันพูดพลางดึงยัยวีต้าให้ลุกขึ้น แต่ทำอย่างไงยัยพวกนี้ก็ไม่ลุกแถมยังขุดต่อไปเรื่อยๆ นี่พวกแกจะขุดหาบ่อน้ำมันรึไงฟะ

    ฉันไม่รู้จะทำอย่าง เออ ต้องเรียกไอ้ข้าวปั้นมาช่วย  แต่ตอนนี้มันคงไม่ว่างหรอกมั้ง เนื่องจากพอฉันหันไปจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสุดน่ารัก แต่ภาพที่เห็นก็คือ มันกำลังวิ่งหนีลูแปงพลางร้องเพลงเหมือนหนังอิยเดียตอนที่พระเอกวิ่งไล่นางเอกยังไงยังงั้นเลยให้ดิ้นตายดิ ดูแต่ละคนมันทำสิ ติ๊งต๊องไม่ต้องปรึกษาหมอกันเลย

    นี่ยัยลิงเตี้ย มายืนเอ๋ออะไรแถวนี่อ่ะ เพื่อนๆอ่ะนายแมคม่าเดินเข้ามาโดยที่ยังปากหมาเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน

    มาถามฉันตามีไม่มองเอาเองว่ะ ว่ามันมีอะไรผิดปกติภายในลานฉันพูดพร้อมกับเดินไปถอดรองเท้า เพราะเริ่มไม่อยากจะอยู่ท่ามกลางสายตาที่มองประมาณว่ามันมาจากหลังเขาไหนกันว่ะเนี้ย

    ฉันไม่ต้องพูดอะไรต่อนายแมคม่าก็รีบเดินไปหากลุ่มตัวแสบทั้งหลาย พักเดียวทั้งหมดก็ยืนขึ้นแล้วเริ่มเดินมานั่งที่ริมลาน ยกเว้นไอ้ข้าปั้นกับลูแปงที่ยังคงเล่นละครอินเดียต่อไป

    เออ ฉันว่าฉันจะออกแล้วนะฉันหันไปพูดกับเพื่อนๆที่ตอนนี้นายแมคม่าไปลากคอมากันครบแล้ว

    เฮ้ยรีบไปไหนว่ะ เพิ่งจะเที่ยงเองนะไอ้ข้าวปั้นรีบบอกเพราะถ้าขาดฉันงานนี้ต้องเหงาเป็นแน่แท้อย่างไม่ต้องสงสัย

    นั้นดิ จะรีบไปไหนนานๆจะได้ออกมาเที่ยวทั้งทียัยวีต้ารีบบอกอีกคน

    อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนนะนานๆฟูจิจะได้ออกจากบ้านไม่ต้องมาทำหน้าเศร้าเล่าความเท็จฉันได้ข่าวว่าแกขอพ่อออกมาเที่ยวทุกอาทิตย์

    เออ งั้นเราออกไปกินข้าวกันดีกว่าแหมในสมองแกคิดแต่เรื่องกินรึไงกันยัยโตเกียว นี่ขนาดอยู่กับผู้ชายนะ

    ใช่ๆๆพวกแกพูดได้แค่นี่ใช่ป่ะ (ก็ไอ้พวกผู้ชายทั้งหลายนั้นแหละ)

    เออ ก็ได้ฉันพูดพร้อมกับลุกแล้วเดินเอารองเท้าไปให้เจ้าหน้าที่ โดยที่คนอื่นๆก็เดินตามหลังมาไงไม่น่าคิดมาก แหะๆๆโทษจ้า

    เมื่อเดินออกมาจากลานไอซ์สู่บรรยากาศที่ร้อนเล็กน้อยเนื่องจากเพิ่งออกมาจากลานที่มีแต่น้ำแข็ง มันก็ต้องร้อนเป็นธรรมดา พวกเราเก้าชีวิตก็ต่างคิดเมนูเป็นของตัวเองทันที

    ฉันว่าเราไปกิน เคเอฟซีกันฉันเสนอความคิดคนแรก

    ไม่เอาไม่เอา กินแมคฯดีกว่านายแมคม่ารีบสอดขึ้นมาทันที

    พี่แมคม่ากินอะไร ฉันก็กินยัยโตเกียวพูดแล้วเดินไปอยู่ข้างๆนายแมคม่าทันที

    แต่ฉันว่าเราไปกินเอ็มเคกันดีกว่านะลาวาไอ้ข้าวปั้นทำไมวันนี้แกความเห็นไม่ตรงกับฉันฟะ

    ข้าวปั้นกินอะไร ลูแปงก็กินด้วยนะลูแปงแกจะมากเกินไปแล้วนะ เพื่อนฉันไม่ใช่อาหารนะโว้ยแทะโลมเพื่อนฉันอยู่ได้ พูดเสร็จมันก็เดินไปอยู่ข้างๆไอ้ข้าวปั้นทันที พอๆกันเลยยัยโตเกียวกับ

    ลูแปงเนี้ย

    แต่วีต้าว่าเราไปกินไก่ย่าง เชสเตอร์กิวกันดีกว่านะยัยวีต้าแค่นี้เค้าก็ทะเลาะกันจะแย่อยู่แล้วยังจะออกความเห็นอีก

    เออ ผมว่าเราโอน้อยออกกันดีกว่านะ เพราะต่างคนก็ต่างคิดไม่เหมือนกันนายไต้ฝุ่นรีบพูดห้ามทัพทันทีโดยไม่รอให้อีกสองคนที่ยังไม่ได้ลงความเห็นเอยปาก แต่ทั้งสองก็ต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของไต้ฝุ่นมากๆ

    โอน้อยออก

    เฮ้ยไอ้เบสทุกคนต่างพากันร้องเรียกชื่อไอ้เบส ก็มันเป็นคนที่ออกไม่เหมือนคนอื่นเค้าเลยนะสิ มื้อนี่เลยต้องขึ้นอยู่กับมันแล้วล่ะว่าจะกินอะไร

    อ่ะ ไอ้เบสว่ามาจะไปกินอะไรฉันถามขึ้นด้วยอารมณ์โมโหหิวสุดๆแล้ว

    เออ ฟูจิกินอะไรดีล่ะนายเบสหันไปถามความคิดเห็นของคู่บัดดี้ตัวเองทันที

    ฟูจิว่าเราไปกินพิซซ่าดีกว่าป่ะเออ ยังพอรับได้ ดีกว่าไปกินแมคฯตามไอ้บ้านั้นเยอะ

    พวกเราทั้งเก้าชีวิตต่างเดินไปที่ร้านพิซซ่าทันที เมื่อถึงร้านแล้วทุกคนต่างนั่งคู่กัน ส่วนฉันล่ะเป็นนางเอกกับเค้าแต่ไม่มีคู่ชั่งน่าสงสารอะไรเช่นนี้  พวกเรานั่งโซ้ยกันอย่างรวดเร็ว ไม่ทันถึงหนึ่งชั่วโมงพิซซ่าสี่ถาดแบบบิ๊กจัมโบ้ก็หายไปกับสายลมทันที(มันคนหรือปอบลงกันแน่ฟะเนี้ย น่ากลัวชะมัดเลย) แต่ที่น่าขำที่สุดก็คือตอนนี้มีคนนั่งหน้าดำหน้าแดงอยู่ที่โต๊ะไม่รู้เป็นเพราะอะไรสงสัยจะไม่อิ้ม (แกใช้สองส่วนไหนคิดฟะว่าพิซซ่าสี่ถาดมันจะไม่อิ่มเนี้ย)

    เฮ้ยไอ้แมคม่า แกเป็นอะไรว่ะหน้าแดงเชียวลูแปงถามเพื่อนชายที่ตอนนี้นั่งเงียบอยู่

    เออ นั้นดิ พี่แมคม่าเป็นอะไรรึเปล่าค่ะยัยโตเกียวรีบถามนายแมคม่าเป็นการใหญ่ เชอะน่าหมั่นไส้จริงเลย ขอให้เผ็ดจนปากพัง สาธุ

    ไม่รู้ว่ะ แต่พิซซ่าที่อยู่ในจานฉันตอนฉันไปเข้าห้องน้ำพอกลับมา มันรู้สึกเผ็ดมากๆเลยว่ะนายแมคม่าพูดด้วยน้ำเสียงที่แทบจะร้องไห้ก็ว่าได้

    ฉันไม่รู้นะ เพราะพวกเราก็ไปล้างมือกันหมดโต๊ะเนี้ยไอ้ข้าวปั้นแกทำไมรีบร้อนตัวจังว่ะ

    ฉันก็ไม่รู้แต่ชั่งมันเถอะนายแมคม่าพูดเสร็จก็ยกแก้วน้ำกระดกเป็นการใหญ่ ยะฮู้ สะใจเป็นบ้า ไม่ต้องงงค่ะ คือฉันเองแหละที่เป็นคนโรยพริกเข้าไปในพิซซ่าชิ้นที่นายแมคม่ากินเข้าไป ก็ตอนที่พวกเค้าหันหลังไม่ล้างมือ เข้าห้องน้ำกัน ฉันก็วิ่งมาโรยพริกก่อนแล้วก็วิ่งกลับไปที่ห้องน้ำอีกรอบไม่เห็นจะยากจริงไหมค่ะคุณผู้อ่าน

    พวกเราหลังจากที่เช็คบิลเสร็จแล้วต่างพากันคิดโปรแกรมเที่ยวต่อ เนื่องจากยังไม่มีใครอยากจะกลับบ้านกันเลย  และทุกคนต่างก็ตกลงปลงใจว่าจะไปคาราโอเกะกันต่อ โดยที่คนที่จ่ายก็ไม่ต้องพูดไม่นายแมคม่าก็นายลูแปงอยู่แล้ว ไม่ต้องถาม

    ห้ามตัวเองไม่ให้รักเธอ จะทำยังไงใจมันไม่ฟัง   หัวใจฉันยังเกเรทุกครั้ง ยังดึงดันไปรักเธอ   ห้ามตัวเองว่าพอซักที กับเธอคนนี้ไปต้องไปเจอะ ไม่มีวันเป็นเจ้าของใจเธอ ใจมันยังเกเรเสมอ
    ไม่เคยจะเชื่อฟังนี่คือเสียงของนายแมคม่าที่พยายามแหกปากร้องมาเป็นเวลาประมาณสามชั่วโมงมาแล้ว ไม่รู้มันใช้แรงที่ไหนยืนร้อง นั่งร้อง อยู่ได้จนเพื่อนๆในห้องจากตบมือให้ ตอนนี้คงเริ่มเปลี่ยนใจอยากจะตืบมันก็เป็นได้ แต่ก็นะมันเสียงดีปล่อยมันไป

    เออ ไอ้แมคม่าตูร้องมั้งมานายลูแปงคงทนไม่ไว้รีบไปแย่งไมค์มาจากมือนายแมคม่าทันที นายแมคม่าก็ยอมให้โดยดีเช่นกัน สงสัยจะเหนื่อย แต่ก็สมควรอยู่หรอกเล่นครองไมค์อยู่คนเดียวเลย หลังจากที่นายลูแปงแย่งไมค์ไปเรีบยร้อย นายลูแปงก็เลือกที่จะร้องเพลงเพื่อบอกความในใจไอ้ข้าวปั้นทันที

    แต่ก่อนนั้นฉันเองก็คิดกับเธอแค่เพื่อน ต่างเป็นเหมือนเช่นเพื่อนที่รักที่คอยเข้าใจ ไม่เคยคิดว่าความใกล้ชิดที่มันชิดใกล้ จะทำให้หัวใจมันไหวมันหวั่นเหลือเกินฉันไม่รอฟังจนจบ ขอตัวมาเข้าห้องน้ำก่อน และความคิดก็ประมาณว่าจะแอบโดดกลับบ้านซะเลย ฮะๆเป็นไงล่ะความคิดของฉันชั่งเป็นคนดีอะไรเช่นนี้ แต่ตอนนี้เข้าห้องน้ำก่อนเน้อ (ยังจะมาบอกชาวบ้านเค้าอีกนะ) ในที่สุดฉันก็ย่องออกมาจากห้องน้ำ คนแถวนั้นเค้าคงสงสัยอ่ะนะว่าทำไมมันต้องย่องด้วย มันหนีตำรวจรึเปล่าฟะ

    ไง ยัยลิงเตี้ยนึกว่าเข้าไปนั่งหลับในห้องน้ำซะอีกนะเนี้ยช้าจริง

    “-0-“ไม่ต้องสงสัยแต่อย่างใดเสียงนรกอย่างงี้มีมันตัวเดียว

    อะไรของเธอ

    นี่นายมายืนทำไมเนี้ยไม่อายช้าวบ้านบ้างรึไงวะมายืนหน้าห้องน้ำหญิงเนี้ย

    มาดักรอน่ะซิกลัวว่าลิงเตี้ยจะหนีกลับบ้านวะ

    หน่อยมันรู้ทันได้ไงวะ แล้วแมคม่าก็ลากฉันมาจนฉันไม่กล้าขยับตัวไปไหนจนต้องกลับเข้ามานั่งยังห้องคาราโอเกะต่อ เซ็งโว้ยๆๆๆๆ เชอะ

    ฟูจิกลับบ้านเถอะคุณพ่อเธอโทรมาตามหลายรอบแล้วนะ

    แต่ฟูจิยังสนุกอยู่เลยนี่นาฟูจิพูดแกป่องๆใส่เบส

    แต่...

    กลับไปเลยไป๊ข้าวปั้นพูดพร้อมถีบส่งคุณหนูผู้แสนดีจนทุกคนมองเอ๋อๆ

    แกจะบ้ารึไงวะไอ้ข้าวปั้นขืนมันมีรอยชำพ่อมันไม่มาฆ่าเรายกแก๊งเลยรึไง

    โด่-3-“ดูมันนังเพื่อนสารเลวเคยสำนึกอะไรกับเค้าบ้างมั๊ยฮะแก

    งั้นกลับก่อนนะทุกคนขอโทษด้วยที่ทำให้งานกร่อยฟูจิพูดพร้อมสีหน้าที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

    เอาน่าเดี๋ยวเราค่อยมาเที่ยวกันใหม่ก็ได้วีต้าพูดปลอบใจฟูจิที่ตอนนี้เบสก็เอารถมารับเรียบร้อย

    งั้นเด๋วลูแปงไปส่งข้าวปั้นนะ^^~”เสนอหน้าเชียวนะไอ้ลูแปง

    นี่ไอ้กระแป๋งจะไปส่งทำไมเนี้ย ฉันก็มีมือมีเท้านะยะทำไมยัยนี้มันเสียงดังจังวะกินนกหวีดแทนข้าวรึไงเนี้ย

    ก็......-___-”

    เออๆไปก็ไปดูทำหน้า ไปนะทุกคนข้าวปั้นหันมาพร้อมก้าวขึ้นรถJassสีดำเงางามของบ้านลูแปง

    ไปเลยยัยลิงเตี้ยเดี๋ยวแอบหนีเที่ยว

    นี่นายจะบ้ารึไงฮะ0_0ปล่อยนะโว้ยฉันอายเค้า

    ก็ถ้าเธอยังแหกปากอยู่เนี้ยมันก็น่าอายอยู่หรอกตอนนี้ที่ฉันกำลังแหกปากลั่นก็เพราะไอ้คุณแมคม่าพี่แกเล่นหิวฉันขึ้นรถไฟฟ้าน่ะซิคะ โดยที่ทิ้งไอ้คุณโตเกียวหน้าตาเฉย ส่วนวีต้าก็ไม่ต้องสงสัยคะเพราะคุณมันไปกับไต้ฟุ่นเรียบร้อย ส่วนโตเกียวก็ติดรถไปกับลูแปงเพราะไม่มีคนไปส่งมัน

    ไปไหนมา!!!”มาถึงก็เสียงแสบแก้วหูเลยนะ

    อะไรเนี้ยพ่อฉันแว๊ดทันทีที่พ่อขึ้นเสียง (นี่แกเป็นลูกรึเปล่าเนี้ย)

    แล้วใครมาส่ง

    เพื่อนฉันตอบสั้นๆแต่ได้ใจความเป็นที่สุด

    ไอ้คนที่ขับรถสปอร์คันหรูเมื่อวันนั้นใช่มะถามทำไมวะ

    ใช่

    แล้วไหงวันนี้เดินมาล่ะ

    ก็นั่งรถไฟฟ้ากลับมานี่นาจะให้ทำไงเล่า

    เออๆ ว่าแต่แกเป็นแฟนกับไอ้เจ้าหนุ่มนั่นรึไงดูคำถามของคุณพ่อสุดที่รัก

    โถ่พ่อจะบ้าเหรอ

    ก็ดูซิมาส่งกันทุกวันเลยพ่อเนี้ยสงสัยอยากจะมีเรื่องแน่ๆ แต่ว่าแววตาเนี้ยสงสัยจะโกรธแหงหรือไม่ก็หวงลูกล่ะซิ คนสวยก็งี้แหละคะท่านผู้อ่านที่รัก (หลงตัวเองโคตรๆ)

    ไม่คุยดูแล้วชิพูดจบฉันก็รีบเผ่นขึ้นห้องกระโดดลงบนเตียงแล้วนอนหลับทันที โดยที่ไม่ได้อาบน้ำแต่อย่างใด (โถ่นางเอกโสสุดๆฟันก็ยังไม่แปรง หน้าก็ไม่ล้าง)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×