คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จะซวยไปถึงไหนเนี้ย..ชีวิต
กริ๊ง...กริ๊ง...เพล้ง...โครม
ไม่ต้องสงสัยค่ะคุณผู้อ่านทุกท่านว่ามันคือเสียงอะไร มันคือเสียงสัญญาณปลุกเจ้าของห้องตัวแสบที่นอนไม่ยอมตื่นซะที แล้วยังจะทำร้ายข้าวของ(นาฬิการูปโดเรมอนตัวโปรด)จนทำให้คุณพ่อสุดที่รักต้องจัดลูกถีบสุดพิเศษให้คุณลูกสาวแต่เช้า
“เฮ้ พ่อบอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าให้ปลุกวิธีอื่น มันเจ็บนะพ่อ”ฉันตะโกนบอกคุณพ่อสุดที่รักที่ประทานลูกถีบให้ลูกสาวคนสวยที่สุดในบ้าน(ก็แกเป็นผู้หญิงคนเดียวในบ้านนี่หว่า)
“ไม่เอาโว้ย ก็แกไม่ยอมตื่นนี่หว่าใช้วิธีอื่นก็นอนเป็นหมูขึ้นอืดไม่ลุกซะที มันต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น”พ่อไม่พูดเปล่าแต่เตรียมยกเท้าขึ้นจะถีบอีกครั้งทำให้ฉันต้องรีบกระโดดลงจากเตียงด้วยความรวดเร็ว แต่ที่สงสัยที่สุดก็คือ คุณพ่อขา เคยคิดบ้างป่ะค่ะว่าไอ้ลูกคนนี้เป็นผู้หญิงนะครับ สงสัยว่าสมองจะมีปัญหานะเนี้ย พ่อใครฟะ สงสัยหยิบผิดมาจากโรงพยาบาล
ฉันไม่พูดอะไรมากรีบวิ่งเข้าห้องน้ำหนีคุณพ่อเข้าห้องน้ำทันที เรื่องรายจะอยู่ให้โดนลุกถีบอีกรอบล่ะค่ะ
“ฉันให้เวลาแก5นาทีนะโว้ย ช้ากว่านี้โดน”แหมจะไปก็ไปเหอะ ยังจะย้ำอีก โอ้ย เซ็ง จะให้อาบน้ำหรือให้ลูกแต่งตัวเลยโดยไม่ต้องอาบน้ำเนี้ย
“รู้แล้วนะเจ้าพ่อจอมโหด ไปรอข้างล่างเลยป่ะ”ฉันรีบตะโกนบอกพ่อจากในห้องน้ำทันที
ฉันใช้เวลาอาบน้ำ3นาที45วินาที โหไว้มาก และแต่งตัวอีก1นาทีเวลาที่เหลือเป้นเวลาที่ใช้วิ่งลงไม่หาท่านพ่อสุดที่รักทันที ฮาอาตรงเวลา 5นาทีพอดี
“มาแล้วพ่อ”ฉันรีบพูดเพราะว่ากลัวจะเกินเวลาที่กำหนด ฉันเป้นคนตรงต่อเวลา
“เออ งั้นก็ไปโรงเรียนดิ มานั่งทำไม”อะไรว่ะ รีบไล่ให้ไปโรงเรียนตอนเนี้ย พ่อจะให้ไปช่วยภารโรงเปิดประตูโรงเรียนรึไง
“ยังไม่ได้กินข้าวเลยพ่อ จะให้รีบไปทำไม”ยิ่งหิวๆอยู่เดี๋ยวของขึ้นนะ
“ไม่ต้องกินไปได้แล้วเดี๋ยวสาย”ว้าก พ่อโว้ยมันยังเช้าอยู่อ่ะ ไม่กลัวลูกถูกใครฉุดไปทำมิดีมิร้ายรึไงกันฮะ(ฉันว่าไม่มีใครเค้าจะไปฉุดแกหรอกน้า แกจะไปฉุดเค้ามากกว่า)
“เออ ไปก็ได้ ไล่จริงเลย ไปแล้ว หวัดดี”ฉันกล่าวลาพ่อเสร็จก็วิ่งไปคว้าจักรยานคู่ใจเคลื่อนตัวออกจากประตูบ้านสู่ประตูโรงเรียนทันที
ฉันขี่จักยานมาสักพัก สงสัยจะง่วงนอนเลยกลิ้งไปนอนกับพื้นใกล้ๆคูน้ำเน่าอ่ะนะ เฮ้ย ไม่ใช่ฉันถูกรถเฉี่ยวเลยตกจักรยานมากลิ้งอย่างนี้ แต่เอ๊ะแล้วเราจะกลิ้งไปถึงไหนเนี้ย แว้กข้างหน้าเป็นคูน้ำเน่าแล้วตกลงไปแน่เลย เบรคสิเฟ้ยจะกลิ้งไปถึงไหน
โครม เปียกเลย โอ้ยเหม็นด้วยให้ตายดิแล้วฉันจะไปโรงเรียนยังไงเนี้ย ขืนกลับบ้านสภาพนี้มีหวังโดนพ่อด่าแน่เลย เอาไงดีว่ะ แต่ตอนนี้ขึ้นจากน้ำก่อนดีกว่า
“เออ เป็นไงบ้างอ่ะ เราขอโทษนะ เผอิญลุงคนขับรถเค้ารีบไปหน่อยนะเลยม่ทันมอง”หึหึ ชนเสร็จก็ทำมาเป็นพูดดี แต่เอ๊ะทำไมเสียงมันคุ้นๆว่ะ ไม่หรอกมั้งอะไรมันจะดวงซวยเจอแต่เช้า แต่เพื่อความมั่นใจขอดูหน้านิดนึง
“เฮ้ย ไอ้ปลากระโห้/ยัยลิงเตี้ย” ทั้งสองต่างตะดกนขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจ
“เชอะ ถ้าฉันรู้ว่าเป็นเธอนะ ฉันไม่ลงมาขอโทษหรอกจะปล่อยให้นอนอยู่แถวเนี้ย”แหม ทำผิดแล้วยังจะปากมากอีกนะไอ้นี่
“ฉันก็ไม่ได้ขอให้นายลงมาขอโทษนี่ ฉัน ฮัดเช้ย ! โว้ยสงสัยจะไม่สบายแน่เลย บรื้อ ชักหนาวๆแล้วแหะ รีบไปโรงเรียนดีกว่าจะได้ไปหาชุดเปลี่ยนด้วย
“เธอเป็นอะไรมากเปล่าอ่ะ ไม่สบายเหรอ”นายปลากระโห้ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงนิดๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็เป็นอย่างนี่แหละ ไม่ต้องห่วง”
“เปล่าฉันไม่ได้เป็นห่วงเธอซะหน่อยก็แค่กลัวมาตายแถวนี่ เดี๋ยวฉันจะตกเป็นผู้ต้องสงสัย” แกอยากตายมากใช่ป่ะฮะ
“ฉันไม่เถียงกับนายแหละ ไปดีกว่า”ฉันพูดเสร็จพยายามลุกขึ้นยืน แต่ทำไมมันเจ็บขาอย่างนี้ว่ะ ยืนไม่ได้อ่ะเจ็บ
“อ้าว ทำไมไม่ยืนขึ้นอ่ะ จะได้ไปโรงเรียน”ปลากระโห้พูดพร้อมกับมองด้วยแววตาสงสัย
“เออน่า ฉันว่าฉันจะนั่งชมวิว แถวนี้ก่อนสักพักเดี๋ยวค่อยไปก็ได้ ยังเหลือเวลาอีกเยอะ”พูดไป แทนที่จะบอกไปว่าเจ็บขาลุกไปขึ้น เจ็บแล้วยังจะทิฐิอีกนะแม่คุณ
“เหรอ แต่ฉันบอกให้ลุกขึ้นไง”
“ก็ไม่อยากลุกอ่ะจะมาสั่งทำไมฮะเป็นพ่อฉันรึไง”
“ลุก”นายปลากระโห้มาพูดเปล่า กระชากตัวตัวฉันยืนขึ้นทันที
“โอ้ย เจ็บนะ บอกดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลย”เหมือนเค้าบอกแกดีๆแล้วแกจะลุกอ่ะ ฉันไม่อยู่เถียงกับไอ้ปลากระโห้รีบเดินไปที่จักรยานทันที(พยายามเดินไม่ให้มันรู้อ่ะว่าเจ็บขา เดี๋ยวเสียฟอร์ม)
“นี่เธอ เจ็บขาก็บอกสิ ไม่ต้องทำเป็นเก่ง”นายแมคม่าพูดพร้อมกับเดินมาจับแขนช่วยพยุง
“ไม่ได้เจ็บอะไรซะหน่อยเนี้ยเดินเป็นปกติดี ไม่เห็นเหรอ”พูดพร้อมกับกระทืบเท้าลงกับพื้นแรงๆสามทีซ้อน โดยซ่อนความเจ็บเอาไว้ข้างในจนอย่างจะบอกเหลือเกินว่า เจ็บขาโว้ย
“เธอแน่ใจนะว่าไม่ได้เป็นอะไร”นายแมคม่ายังคงพูดด้วยความเป็นห่วงต่อไป
“อือ นายไปโรงเรียนได้แล้วป่ะ”ฉันพูดพร้อมกับขึ้นค่อมจักรยาน แต่จังหวะที่ยกขาจะถีบจักรยานนั้น ขาเจ้ากรรมก็ดันเกิดเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที
“โอ้ย”
“ว่าแล้วว่าเธอต้องขาแพงแน่ๆ แล้วก็ไม่ยอมบอกเก็บเอาไว้ทำไมก็ไม่รู้”นายแมคม่ารีบวิ่งเข้ามาช่วยประคองให้ลุกขึ้นยืน แต่มันจะดีมากเลยถ้าไม่พูดมากจะได้ป่ะ
“แล้วทำไมฉันต้องบอกนาย ขืนฉันบอกนายว่าฉันเจ็บขานายก็หัวเราะเยาะสมน้ำหน้าฉันอ่ะดิ”
“นี่ลาวา ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย ฉันไม่หัวเราะกับความทุกข์ของคนอื่นหรอกน่า”นายแมคม่า พูดพลางเอามือมาลูบหัวฉัน เห็นฉันเป็นหมารึไงฟะ
“เออ พอแหละ ฉันจะรีบไปโรงเรียน”ฉันพูดพลางปัดมือแมคม่าออกแล้วเดินเข็นจักรยานเดินไปด้วยความลำบาก
“นี่เธอ ไปกับฉันก็ได้เอาจักรยานขึ้นหลังรถนะ”นายนี่มันเป้นอะไรรึเปล่าเนี้ยวันนี่รู้สึกว่ามันแปลกนะเนี้ย
“ไม่ต้องอ่ะฉันไปเองได้”
“น้าน้า ไปเหอะนะครับไปด้วยกาน”แมคม่าพูดเสียงน่ารักพร้อมกับวิ่งมาดึงจักรยานดยนขึ้นท้ายรถสปอซ์ตสีดำเงางาม
“ใครบอกว่าฉันจะไปกับนายฮะนายปลากระโห้”
“ไม่รู้แต่เธอต้องขึ้นรถเดี๋ยวนี้”
“ไม่ขึ้น”
“ขึ้นเดี๋ยวนี้”
“ก็บอกว่าไม่”
“ฉันจะนับ1-3”นายแมคม่าพูดพร้อมกับชูนิ้ว
“1”ยังเฉยๆ
“2”ก็งั้นๆ
“3”ไม่เป็นอะ.....แว้ก พอนับถึงสามปุบมันก็เดินมาอุ้มขึ้นรถเลยซะงั้นอ่ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะเฟ้ยไอ้ปลากระโห้ ฉันดิ้นขลุกขลักๆอยู่สักพักมันก็จับมาโยนใส่รถ แล้วสั่งลุงให้ออกถทันที
“นี่เธอหัดกินข้าวบ้างเหอะ ตัวเบาอย่างเนี้ยลมพัดทีก็ไปปลิวตามลมแล้วมั้ง”หลังจากที่รถเริ่มเคลื่อนที่นายนั้นก็เริ่มบ่นอีกแหละ
“ฉันจะกินไม่กินมันเรื่องของฉันนายไม่เกี่ยว”ฉันพูดพร้อมกับเริ่มกอดตัวเองบ่งบอกถึงว่าเริ่มหนาวเพราะจะเป็นไข้ชัวร์
“หนาวเหรอ ลุงครับปิดแอร์ให้หน่อยครับ”
“ขอบใจนะ”ฉันพูดแล้วเริ่มเอนตัวลงนอนพิงกับเบาะอย่างอ่อนแรง
“อ่ะนี่ ห่มไปก่อนเดี๋ยวจะหนาวอีก”นายแมคม่าถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วส่งให้ฉัน
“ไม่เอา สกปรก”ฉันพูดเสร็จก็ปัดเสื้อออกทันที
“นี่เธอมันไม่สกปรกหรอกน่า รับไปเหอะอย่าทิฐิให้มากเลยเดี่ยวก็ไม่สบายหนักกว่าเดิมกันพอดี”นี่นายเป้นห่วงฉันเหรอเนี้ย
“ฉันไม่ได้หมายความว่าเสื้อนายสกปรกแต่ฉันหมายถึงฉันตัวสกปรกมันจะทำให้เสื้อของนายสกปรกด้วย”
“ไม่หรอกน่า เอาไปเหอะ อ่ะนี่”นายนั้นไม่พูดเปล่าห่มเสื้อลงบนตัวฉันทันที ถ้าเมื่อวานฉันไม่รู้จักนายฉันคงอาจจะชอบนายก็ได้นะนี่ เฮ้อชั่งมันเถอะ ฉันหยุดคิดเรื่องต่างๆแล้วพล็อยหลับไปในที่สุด
“อะไรนะ ลาวาไม่สบายเหรอ แล้วนายรู้ได้ไงอ่ะพวกฉันยังไม่มีใครรู้สักคน”ข้าวปั้นพูดขึ้นหลังจากที่แมคม่าเดินมาบอกว่าลาวาไม่สบาย นอนอยู่ห้องพยาบาล
“นั้นนะสิ แล้วเป็นอะไรมากรึเปล่าอ่ะ”ฟูจิถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสาวมาก
“ไม่เป็นไรมากหรอกนะ ไม่ต้องห่วง”
“เออ งั้นพวกเราขอไปเยี่ยมลาวาก่อนแล้วกัน ขอบใจนะที่มาบอก”วีต้าพูดเสร็จก็เดินหันหลังไปทันที
“เดี๋ยว อยากรู้ว่าทำไมวันนี้แมคม่าไม่ใส่เสื้อตัวนอกเหรอ”ยัยโตเกียวถามขึ้นจนเพื่อนหยุดแล้วหันหลังกลับมามอง
“ไม่มีอะไรหรอกน่า”พูดเสร็จก็รีบเดินหนีไปทันที”
“อะไรของเค้าฟะ”ข้าวปั้นพูดขึ้นลอยๆอย่างหัวเสีย
ณ. ห้องพยาบาล
“แค่ก..แค่ก..แค่ก”
“เฮ้ยไอ้ลาวาเป็นไงบ้างว่ะ” มาอย่างนี้ไม่ต้องสงสัยว่าใคร ไอ้ข้าวปั้นเพื่อนเลิฟนั้นเอง มันมาถึงก็โดดขึ้นมานั่งบนเตียงคนป่วยทันที
“ไม่เป็นไรมาก ขอบใจนะโว้ยที่พาฉันมาห้องพยาบาลเนี้ย”ฉันพูดขอบใจเพื่อนที่ตอนนี่ งง เป็นไก่ตาแตก
“พวกฉันไม่ไดพาแกมาโว้ย”
“แหม ไอ้ข้าวปั้นถ้าไม่ใช่เพื่อนๆอย่างพวกแกแล้วฉันจะมานอนที่นี่ได้ไง”ฉันพูดขึ้นด้วยความไม่แน่ใจซะแล้ว
“พวกเราไม่ได้พาแกมาจริงๆ คนอื่นต่างหาก”วีต้า พูดด้วยใบหนี้ท่มีเลศนัยมาก
“เฮ้ย เดี๋ยวนะไอ้ลาวา เสื้อที่แกใส่อยู่นะ เสื้อใครว่ะ”ยัยโตเกียวรีบตั้งข้อสังเกตทันที
“เออ เอาน่า ไปเรียนกันได้แล้วป่ะฉันว่าฉันจะนอนต่อ”ฉันรีบไล่เพื่อนๆออกไปทันที เดี๋ยวมันจะสงสัยอะไรขึ้นมาอีก
“งั้นพวกเราก็ปล่อยให้ลาวา พักผ่อนแล้วกัน แล้วตอนกลางวันจะมาเยี่ยมใหม่นะ”คุณหนูฟูจิพูดดีมาก รีบไปกันได้แล้ว
หลังจากที่เพื่อนไปแนก็นั่งคิดถึงว่า ทำไมตัวฉันถึงมานอนอยู่ที่นี่ แล้วถ้าไม่ใช่พวกเพื่อนๆแล้วใครเป็นคนพาเรามา แต่ที่ไม่สงสัยเลยก็คือ เสื้อตัวนี้ของใคร.....
ฉันหลับไปได้สักพักก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้องพยาบาลอีกแล้ว เค้าเดนมาอย่างช้าๆแล้วนั่งลงข้างๆเตียง แล้วเค้าก็เอามือมาวางบนหน้าผากเพื่อตรวจว่าตัวเย็นขึ้นรึยัง พอเอามือออก เคาก็มาดึงผ้าห่มห่มตัวฉันให้มิดชิด ด้วยความสงสัยฉันจึงลืมตาขึ้นทันที แล้วสิ่งที่เห็นก็คือ
“นาย มาทำอะไรที่ห้องพยาบาลอ่ะ”ฉันถามขึ้นเมื่อรู้ว่าเป็นใคร
“ออ ฉันมาเยี่ยมลูแปงมันนะ มันไม่สบาย”นายแมคม่าพูดพร้อมกับชี้ไปที่เตียงตรงข้าม
“เหรอ แล้วเป็นอะไรมากป่ะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ห่วงตัวเองดีกว่านะเรานะตัวยังร้อนอยู่เลยนะ”
“เออน่า เดี๋ยวก็หายไปไหนก็ไปป่ะ”ฉันพูดพร้อมกับซุกหัวลงใต้ผ้าห่มทันที ไม่รู้นายบ้านั้นเป็นห่วงเรารึไง วันนี้มันแปลกตั้งแต่เช้าแล้วนะเนี้ย สงสัยกินยาไม่ได้เขย่าขวด
ฉันตื่นขึ้นมาตอนกลางวันแล้วไงไม่มีเพื่อนๆมาปลุกฉันว่ะเนี้ย อยากรู้จริงว่ามันเป็นเพื่อนกันจริงป่ะเนี้ย สงสัยหิวข้าวกันจัดลืมเพื่อนคนนี้แน่เลย ไม่ง้อก็ได้ว่ะกูไปหาข้าวกินเองก็ได้ เชอะไอ้เพื่อนบ้าทั้งหลาย
“อ้าว ไอ้ลาวาดีขึ้นแล้วเหรอแก”ไอ้ข้าวปั้นเพื่อนสุดที่รักพูดขึ้นเมื่อเจอหน้าเพื่อนที่เดินโซเซมาหา
“ยังโว้ย”ฉันพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย
“อ้าวแล้วแกมาไมว่ะ ไม่นอนต่อไป เดี๋ยวไม่หาย”พวกแกนี่สงสัยสมองมีไว้กั้นหูว่ะ
“หิวข้าวโว้ย จะนอนแห้งตายบนเตียงอยู่แล้ว”พูดเสร็จก็รีบไปจกไข่พะโล้ในจานไอ้ข้าวปั้นทันที
“เฮ้ยแกไปซื้อข้าวกินเองสิว่ะ”แหมแค่นี้ทำงกไปได้ แค่ไข่พะโล้ใบเดียวทำเป็นงก
“ลาวา เดี๋ยวฟูจิไปซื้อให้ก็ได้จะกินอะไรล่ะ”ฮิๆมีเพื่อนดีก็เงี้ยอ่ะนะ
“ไม่เป็นไรคับ เดี๋ยวลาวาไปซื้อเอง ขอบใจนะ ฟูจิเป็นคนที่มีน้ำใจมากๆเลยนะ”พูดพลางมองหน้าไอ้เพื่อนทั้งหลายที่ไม่เคยเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนคนนี้เลย
ฉันเดินไปซื้อข้าวทั้งที่ตาแทบจะลืมไม่ขึ้นอยู่แล้ว ฉันเดินโซเซไปหน้าร้านขายข้าวมันไก่ เฮ้ยใครว่ะหน้าคุ้นๆว่ะ เหมือนเคยเจอว่ะ แต่ทำไมอยู่ๆโลกมันถึงหมุนอย่างนี้ว่ะ ไม่ไว้แล้ว ล้มแน่เลย ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไป และเวลาผ่านไปนานเท่าไรก็ไม่รู้ แต่พอมารู้ตัวอีกทีก็กลับมานอนที่ห้องพยาบาลอีกแล้ว เวงกรรม หิวข้าวโว้ย จะไปหาข้าวกินซะหน่อย ยังไม่ทันได้ข้าวกินเลยดูดิ ต้องกลับมานอนที่ห้องพยาบาลอีกแล้ว โว้ยเซ็ง
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ”ไม่ตื่นมั้งถามมาได้ลูกตาไม่มีรึไงฟะฮะไอ้คุณแมคม่า
“อือ หิวข้าวอ่ะ”โหคุณเธอครับตื่นมาตามบทมันต้องหิวน้ำไม่ใช่เหรอไงฟะ ผิดบทนะเนี้ย
“เออ เธอยังไม่ได้กินข้าวเหรอ เดี๋ยวเค้าไปหามาให้ก็ได้ รอเดี๋ยวนะ”รีบไปเลยหิวจนจะกินช้างทั้งตัวได้อยู่แล้วนะเนี้ย
ฉันรอนายแมคม่าอยู่สักพัก ก็ได้กลิ่นข้าวผัดหอมกรุ่นโชยมาเตะจมูก ชวนให้ลำไส้เริ่มปั่นป่วน น้ำลายเริ่มหก เฮ้ยๆใจเย็นซูดน้ำลายกลับมาก่อน รักษาฟอร์มนิดนึงไอ้ลาวา เดี๋ยวเค้าจะหาว่าแกเป็นคนตะกละนะโว้ย
“อ่ะมาแล้ว ข้าวผัดปูมาแล้วครับ”นายแมคม่าเดินเข้ามาพร้อมจานข้าวผัด นายนั้นพูดพร้อมกับโค้งให้นิดหน่อย
“ขอบใจนายนะ เนี้ยมีแต่นายล่ะน้าที่มาดูแลฉันดูเพื่อนฉันแต่ล่ะคนดิ เป็นห่วงกันมาก ไม่มาดูกันเลย”ฉันพูดในขณะที่มือก็กำลังโซ้ยข้าวมื้อแรกของวันอยู่ เป็นอะไรที่อร่อยมาก
“ทุกคนเป็นห่วงเธอกันทั้งนั้นแหละน่ายัยลิงเตี้ย”
“นี่นายจะไม่พูดหาเรื่องกันบ้างจะได้ป่ะวันนี้ไม่มีแรงเถียง”ที่พูดไปเมื่อกี้ไม่ได้เถียงใช่ป่ะ
“เออ ฉันก็ใช่ว่าอยากจะเถียงกับเธอนักหรอก กินให้เสร็จแล้วนอนได้แล้วจะได้สูงๆ”ไอ้บ้านี่ จะไปแล้วยังจะกวนประสาทอีกนะ อย่าให้สูงมั้งแล้วไป เชอะ
“นี่ข้าวปั้นพรุ่งนี้ไปเที่ยวกับเค้านะ”
“ไม่ไปโว้ย ขี้เกียจจะนอน ไม่มีเงินด้วย”
“โธ่ ข้าวปั้นเดี๋ยวลูแปงเลี้ยงไปนะ พาเพื่อนไปด้วยก็ได้”
“เหรอ เอาเพื่อนไปด้วยนายจะเลี้ยงเพื่อนเราด้วยป่ะล่ะ”แหม ไอ้คุณข้าวปั้นแค่เค้าเลี้ยงแกก็ดีแล้วยังจะไปให้เค้าเลี้ยงเพื่อนแกอีกเรอะ ชั่งเป็นคนดีอะไรอย่างนี้เนี้ย
“ก็ได้ ขอแค่ข้าวปั้นไปลูแปงก็โอเค”เรียกว่าโง่หรืออะไรดีนะ
“ก็ได้กี่โมงล่ะว่ามา”ที่จริงอ่ะไปตั้งแต่บอกว่าจะเลี้ยงแล้ว แต่ขอเล่นตัวอีกนิด
“งั้น7โมงเช้าเจอกันที่หน้าโรงเรียนแล้วกันเดี๋ยวลูแปงมารับ”
“ได้ มาสายแกตาย”โหดจริงนะแม่คุณ
“ครับ งั้นไปแหละ บายครับ จุ๊บๆ”มันพูดพร้อมกับทำท้าส่งจูบมาให้ ฉันเลยรีบรับ ทำให้มันยิ้มแป้น แต่แล้วก็ปาลงพื้นแล้วกระทืบให้เห็นกันจังๆ
ฉันนอนจนถึงตอนเย็นในที่สุดเพื่อนก็มาหา โหมันน่าดีใจมากเลยใช่ไหม มันควรจะมากันตั้งแต่เที่ยงแล้วไม่ใช่เหรอไงว่ะ ทำไมเพิ่งโผล่หัวกันมา ไม่รอให้ตายก่อนอ่ะ จะได้ไปงานศพทีเดียว
“เฮ้ ไอ้ลาวาพวกเรามารับแกกลับบ้านโว้ย”
“เออ แต่พวกแกใครเอารถมาบ้างว่ะ ไอ้ข้าวปั้นแกเอารถมาป่ะ”
“ไม่ได้เอามา”ข้าวปั้นพูดแล้วก็ทำหน้าหงิกทันที
“ทำไมว่ะ ก็ทุกทีแกเอามาไม่ใช่เหรอ”ฉันยังคงถามต่อไป
“แหม ลาวาก็ ข้าวปั้นจะเอารถมาได้ไงล่ะ ในเมื่อเมื่อเช้ามีคนมาส่งนี่ แล้วก็กำลังรอรับกลับบ้านอีกด้วย”ชักยังไงๆ
“ใครว่ะไอ้วีต้า แกทำให้ต่อมอยากรู้อยากเห็นของฉันเริ่มทำงานอีกแล้วนะ”แหมแกมันอยากรู้อยากเห็นตลอกเวลาไม่ใช่เหรอ(เหมือนจะถูกด่า)
“แหม ก็รุ่นพี่ลูแปงสุดน่ารักไง ฉันว่าเค้ากำลังตามจีบไอ้ข้าวปั้นอยู่ชัว”ไอ้โตเกียวพูดพี้อมกับทำท่าทางเพ้อฝัน
“จริงเหรอว่ะ น่าสงสารว่ะ”
“จริงป่ะไอ้ลาวา น่าสงสารฉันที่สุด ฉันเนี้ยรำคาญมาก ตามอยู่ได้ทั้งวัน ฉันไม่ต้องทำอะไรแล้วเนี้ย”
“เปล่าโว้ย ฉันไม่ได้สงสารแก ฉันสงสารรุ่นพี่ลูแปงเค้าเป็นคนซื่อ แกก็ยังจะไปหลอกล่อเค้ามาอีกนะ น่าสงสารจัง”ฉันพูดแหย่ไอ้ข้าวปั้นเพื่อความสนุกของเพื่อนพ้องแกก็โดนไป(ไอ้โรคจิต)
“เฮ้ยตกลงพวกแกเพื่อนใครกันแน่ว่ะ”ไอ้ข้าวปั้นเดือดจนหน้าดำหน้าแดง สนุกโว้ย
“เออ นี่พวกเราจะทะเลาะกันทำไมอ่ะ กลับบ้านเหอะ”ฟูจิรีบห้ามทัพที่กำลังจะยกพวกเข้าถล่มกันอีกครั้ง(สงสัยจะดูหนังกำลังภายในเยอะไปนะเนี้ย)
ยังไม่ทันที่ฉันจะลุกขึ้นจากเตียงเสียงประตูก็เปิดออกอีกครั้ง ใครกันนะมาเข้าห้องพยาบาลตอนเย็นเนี้ย สงสัยพวกเล่นบอลแน่เลย เล่นกันไม่เคยจะระวังอ่ะ
“เออ ลาวามารับกลับบ้านอ่ะ”นายแมคม่าเดินเข้ามายังไม่ทันเห็นหัวกันมันก็ชวนกลับบ้านทันที
“อ้าว ไอ้ลาวาแกมีคนพากลับบ้านแล้วเหรอ งั้นพวกเราก็ไม่มีความหมายแล้วไปเหอะ”ไอ้โตเกียวไหงแกเป็นคนอย่างนี้ว่ะ
“เออ แล้วก็พรุ่งนี้พวกเค้าจะไปเที่ยวกันนะ รีบๆหายล่ะ”ไอ้ข้าวปั้นหันมาบอกนิดนึงแล้วรีบวิ่งตามเพื่อนๆออกไป
“ไง ยัยลิงเตี้ยดีขึ้นยัง”นายแมคม่าพูดพร้อมกับเอามือมาลูบหัวฉัน เห็นฉันเป็นหมารึไงฟะ
“เออ ก็ดีขึ้นแล้ว”ฉันพร้อมพร้อมกับเอามือตีมือของนายนั้นแต่นายนั้นรู้ทันเอามือออกฉันเลยดีหัวตัวเองอ่ะดิ เจ็บใจ
“อ่ะ ไม่ต้องมานั่งลุกได้แล้วกลับบ้าน”นายนั้นพูดขณะที่พยายามเก็บอาการขำไว้อย่างสุดฤทธิ์
“แล้วใครว่าฉันจะไปกับนาย ฉันกลับของฉันเองได้ไม่ต้องมีคนไปส่ง”
“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่ลุกแล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือนล่ะ”
“1”
“โอเค ลุกแล้วไม่ต้องนับแล้ว”เรื่องอะไรจะรอให้มันนับถึงสามเดี๋ยวมันอุ้มอีก เชอะฉันรู้ทันโว้ย
ในขณะที่ฉันพยายามพยุงตัวลงจากเตียงอยู่ๆก็หน้ามือ อาการเวียนหัวเริ่มเข้าอีกแล้ว ยังงี้ก็ตกเตียงอ่ะดิ
โครม..เจี๊ยก
“เฮ้ย ยัยลิงเตี้ยลงไปนั่งนอนกับพื้นทำไมอ่ะ ฮาฮา”เชอะขำไป ขอให้มันสำลักน้ำลายตาย
“ขำมากป่ะ อย่าให้ลุกได้นะโว้ย แม่จะไล่ตืบให้”เอาเป็นว่าแกรีบลุกเหอะ
“มาฉันช่วย”ที่อย่างงี้ทำมาเป็นสุภาพบุรุษ แต่เราก็รับความเป็นสุภาพบุรุษนั้นไว้ ด้วยความที่หมั่นไส้มันมาก ฉันเลยกระตุกแขนมันแรงๆเพื่อจะให้มันล้ม แต่ผิดคาดมันดันรู้ทันกระตุกดึงฉันขึ้นไป ตอนนี้ฉันเลยอยู่ให้อ้อมกอดของมันซะงั้น แว้กๆพ่อจ้าแม่จ้าลูกเปล่าใจง่ายเน้อ มันเป็นอุบัติเหตุ
“ฉันรู้ทันเธอน่า”แล้วแกไม่คิดจะปล่อยฉันเหรอไง
“นี่ปล่อยได้แล้ว เดี่ยวมีคนเห็น”ฉันพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจะไอ้บ้านี่
ในขณะที่ฉันกำลังดิ้นขลุกขละอยู่ในอ้อมกอดของนายแมคมใอยู่นั้นเหตุการณ์ณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่ออยู่ประตูก็เปิดพรวดออกมา พร้อมกับเหล่าเพื่อนและรุ่นพี่นักเรียนใหม่อีกสองคนล้มลงมากองกับพื้น
“เฮ้ย เออ คือว่าพวกฉันจะมาบอกว่าพรุ่งนี้เจ็ดโมงอ่ะนะ”ยัยข้าวปั้นรีบพูดแก้ตัวทันควัน
“ใช่ๆแล้วลูแปงกำลังจะมาเยี่ยมลาวาอ่ะ”ลูแปงสงสัยมันจะติดนิสัยมาจากไอ้ข้าวปั้นแน่ ไหลเป็นปลาไหลอย่างนี้มีคนเดียว
“เออ งั้นเราก็เข้าไปเยี่ยมลาวาดิ”ไต้ฝุ่นผู้ที่เงียบมาตลอดพูดขึ้น(ตอนแรกฉันนึกว่ามันเป็นใบ้ซะอีก)
“ใช่ๆ เข้าไปกันดิ”ยัยวีต้ารีบผลักเข้ามา
“เออ ขอบใจแล้วกันแต่ฉันกำลังจะกลับบ้านกันแล้วน่ะ”
“เออ ไอ้ลาวาแล้วแกกับรุ่นพี่แมคม่าจะกอดกันอย่างนั้นอีกนานป่ะ”ยัยโตเกียวถามขึ้นด้วยอาการหน้าแดง แกจะหน้าแดงทำไมว่ะคนที่ควรจะหน้าแดงควรเป็นฉันมากกว่า และด้วยความตกใจฉันรีบกระโดดออกจากตัวนายนั้นทันทีแต่ด้วยความที่เจ็บขาเป็นทุนอยุ่แล้วกับอาการไม่สบายทำให้ต่อมการทรงตัวเป็นศูนย์ ไม่ต้องพูดมากคือมันจะล้มอีกแล้วนั้นแหละ
“เฮ้ย เธอนี่ มันสบายจะทำอะไรก็ดูสังขารบ้างดิ”มันพูดมาก แต่ก็เพราะมันฉันเลยไม่ล้มลงพื้นแต่ก็ต้องกลับมาอยู่ในอ้อมกอดของมันตามเคย
“เออ ขอบใจ ปล่อยดิ ยืนได้”มันจึงค่อยปล่อยฉันแต่ก็ยังคอยพยุงอยู่
“เออ งั้นพวกเรากลับแหละ”ยัยฟูจิพูด แล้วก็ลากตัวไอ้ข้าวปั้นออกจากห้องทันที
“งั้นเราก็ลานะ”นายลูแปงพูดแล้ววิ่งตามออกไปอีกคน
พวกที่เหลือเลยไม่ต้องสงสัยก็เดินตามกันออหกไปเป็นขบวนสิครับ น่าภูมิในจริงๆที่มีเพื่อนดีอย่างนี้
“เออ รอเดี๋ยวนะคนขับรถฉันกำลังจะถึง”นายแมคม่าพุดขึ้นเมื่อมารอรถนานกว่าสิบนาทีแต่ก็ยังไม่เห็นรถ
“แต่นี่มันหกโมงแล้วนะ ฟ้าก็มืดแล้วเมื่อไรรถจะมาถ้าไม่มาฉันจะได้เดินกลับ”ฉันพูดพร้อมกับเริ่มออกเดินทันทีโดยไม่ให้นายแมคม่าตั้งตัว
“เฮ้ยเธอมันอันตรายนะ กลับบ้านคนเดียวนะ”
“เรื่องของฉัน....”ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อ รถนายแมคม่าก็มาถึงพอดี
“ขึ้นรถเร็วสิ”นายแมคม่าเร่ง
นายแมคม่าขับรถมาส่งฉันถึงหน้าบ้านแล้วก็ยกจักรยานลงมาให้ ฉันก็เลยขอบใจตามมารยาท แล้วก็เดินเข้าบ้าน แต่นายแมคม่าก็ยังไม่กลับขึ้นรถจนเมื่อฉันเดินเข้าบ้านไปแล้วนายแมคม่าถึงจะกลับขึ้นรถกลับไป ฉัยรีบกินยาและเข้านอนทันที ด้วยความเหนื่อยอย่างสุดแรงและก็ด้วยอาการไม่สู้ดี กลัวพรุ่งนี้จะอดไปเที่ยว แหมแกไม่สบายขนาดนี้ยังจะห่วงไปเที่ยวอีกนะคุณเธอ
ความคิดเห็น