ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [NeRVe] 6 Soap Opera น้ำเน่า 100%
Chapter: 6
Title: Soap Opera
Type: Try to Lie
Type: Try to Lie
Author: Deirc
“คิบอม วันนี้พี่เห็นเด็กมหาลัยนายคนนึง เท่สุดๆเลยล่ะ แต่น่าเสียดาย เพราะเหมือนเค้าจะมากับแฟน รู้สึกแฟนจะชื่อะไรแจๆซักอย่าง อืม...... อ๋อ ฮยอคแจ ตัวเล็กๆขาวๆ หมั่นไส้ชะมัด” คนสวยยิ้มร่าด้วยคำพูดทีเล่นทำจริง
แกล้งน้องเสียหน่อยไม่ผิดหรอกจริงมั้ย?
คนมาดนิ่งตีหน้าตายต่อไปทั้งที่หูผึ่งตั้งแต่ได้ยินชื่อคนตัวเล็กแล้ว ด้วยคำให้การของพี่ชายจอมเจ้าเล่ห์ ทำให้เขาเริ่มคิดเกี่ยวกับคำพูดของฮยอคแจที่ว่า.... มีแฟนแล้ว
ถึงคำพูดของคนตัวเล็กจะดูไม่น่าเชื่อถือแต่ถ้าสิ่งที่พี่ชายของเขาพูดเป็นจริงเปอร์เซนต์ความน่าเชื่อถือก็เพิ่มขึ้นไม่ใช่หรอ
.. แต่จะรู้ได้ยังไงล่ะว่าจริง
สมองประมวลผลเรื่องต่างๆอย่างหนักแต่ก็ไร้ซึ่งการแสดงออกทางสีหน้า แม้ความเงียบเฉยไม่ใช่ปฏิกิริยาที่คิมฮีชอลต้องการจะเห็น แต่ด้วยแววตาเหม่อลอยนั่นก็ทำให้รู้ว่าคำพูดของเขามีผลให้เจ้าน้องคนนี้คิดได้ไม่มากก็น้อย
“ผมจะนอนแล้ว พรุ่งนี้มีเรียนตอนเช้า พี่จะนอนที่นี่หรือจะกลับห้อง” หันไปถามด้วยท่าทางปกติจนไม่ปกติ
“อืม.... งั้นฉันกลับห้องดีกว่า ฝันดีนะ” โดดดึ๋งออกจากห้อง หลังทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้น้องชายสุดที่รัก
หลังเคลื่อนย้ายร่างเพรียวของตนกลับเข้าห้องเจ้าตัวก็โดดขึ้นแผ่หลาบนเตียงคิงไซส์ทันที ก่อนจะเริ่มคำนวนแผนการอีกครั้ง
คิบอมใช้ฮยอคแจเป็นของเล่นแต่ก็ให้ความสำคัญในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันทงแฮผู้ไร้เดียงสาดูการแสดงราคาถูกของสองคนนั้นไม่ออก และคิดว่าฮยอคแจคบกับคยูฮยอน ส่วนคยูฮยอนก็ชอบทงแฮอย่างไม่มีเงื่อนไข เหลือแค่ตัวละครหลักลีฮยอคแจเท่านั้นล่ะ ที่จะกำหนดตอนต่อไปของเรื่อง แต่ในเมื่อเป็นคนดู คนดูนั่นแหละที่จะเป็นคนกำกับเรื่องทั้งหมด
ตอนนี้ก็แค่รอให้ถึงเช้าแล้วไปเจรจากับตัวร้าย
“รยออุค!! ทางนี้!” คนสวยโบกมือเรียกเป้าหมายอย่างร่าเริง ความเป็นกันเองสามารถทำให้คนที่รู้จักกันไม่นานรู้สึกดีได้ไม่น้อย
“สวัสดีครับ พี่เรียกผมออกมามีอะไรรึเปล่าครับ” ท่าทีถ่อมตัวกับเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้นไม่ค่อยจะเข้าหูสักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อจะใช้ประโยชน์การยิ้มจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ร่างเพรียวส่งยิ้มพราวให้อีกคนอย่างจริงใจที่สุดก่อนตบเรียกให้นั่งลงข้างๆ
“พี่แค่จะคุยกับนายเรื่องฮยอคแจน่ะ”
เพียงได้ยินชื่อบุคคลที่สามรอยยิ้มก็หายไปจากใบหน้าคนฟัง
“อย่าทำหน้าเครียดสิ พี่จะบอกว่า คิบอมน่ะไม่ได้สนใจฮยอคแจ เจ้านั่นก็แค่ของเล่น เพราะงั้นคิดอะไรไว้ ก็ทำไปเถอะ” กระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาแต่กลับชัดแจ้งในโสตคนฟัง
รยออุคนึกขอบคุณพระเจ้า ที่ทำให้ฮีชอลเข้าข้างเขา ทั้งๆที่ความจริงแล้ว คิมฮีชอลไม่เคยเข้าข้างใครนอกจากตัวเอง
- - - - - - - - - - - - - - - -
เมดสาวอุ้มจดหมายกองใหญ่มาหย่อนลงในกล่องของขวัญใบยักษ์หน้าห้องคุณชายใหญ่อย่างอารมณ์ดีก่อนเคาะประตูบอกคนเป็นนายให้ทราบ
“คุณฮีชอลคะ จดหมายสัปาดาห์นี้ค่ะ” ทันทีที่หันหลังกลับก็ต้องหยุดเพราะเจ้าของกองจดหมายเรียกไว้เสียก่อน
“คุณโคครับ แล้วนั่นจดหมายของใครหรอครับ” นิ้วเรียวชี้ดิ่งไปยังซองเอกสารสีน้ำตาลในมือหญิงสาว
“ของคุณเยซองค่ะ”
“อ๋อ งั้นเดี๋ยวผมเอาไปให้ครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวดิฉันเอาไปให้เอง ไม่รบกวนคุณชายหรอกค่ะ” ปฎิเสธเป็นพัลวัน
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ ยังไงคุณโคก็ยังมีงานต้องทำอีกเยอะ แล้วผมก็ต้องเจอคุณเยซองบ่อยๆ เดี๋ยวผมเอาไปให้เองครับ”
“จะ จะดีหรอคะ”
“ดีที่สุดครับ” โปรยยิ้มดังน้ำหวานอาบยาพิษจนหญิงสาวต้องยอมจำนนยื่นซองเอกสารให้ แล้วรีบกลับไปทำหน้าที่ของตนต่อ โดนไม่ลืมเอาเรื่องนายน้อยไปโม้ให้บรรดาเพื่อนๆอิจฉา
เมื่อหญิงสาวลับตาไปมือเรียวจึงพลิกดูที่อยู่ผู้ส่ง
135-511
서울 강남구
โซล คังนัมกู
압구정2동
อับกูจอง 2 ดง
489-490
ที่อยู่คุ้นตาทำให้สามารถบอกได้ทันทีว่าผู้ที่ส่งมาคือคนในคฤหาสถ์ตระกูลลี
ฮีชอลรีบเดินเข้าห้องล็อคประตูเสร็จสรรพแล้วใช้คัตเตอร์กรีดซองออกอย่างปราณีต กอนคว้าเอาเอกสารภายในมาสำรวจ
ในซองประกอบไปด้วยกระดาษจดหมายยืดยาว 2ฉบับ และรูปถ่ายชายคนหนึ่งซึ่งไม่คุ้นหน้า
จองอุน นายอยู่ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง สบายดีรึเปล่า ทางนี้ทุกอย่างโอเค เพราะได้ลูกมืออย่างเจ้าซึงริเนี่ยแหละ เห็นมันเล่นๆพอเอาจริงก็ได้เรื่องอยู่นะ แล้วก็
..
“ไร้สาระ” คนสวยเริ่มเบื่อกับจดหมายไร้เหตุผลน่ารังเกียจของพวกคนที่เรียกตัวเองว่าเพื่อน
แต่แล้วตาคมก็ต้องสะดุดกับข้อมูลดีๆในจดหมายฉบับที่สอง
สุดท้ายนี้ของขวัญที่ฉันพยายามหามาให้นายก็คือรูปของผู้ชายคนนั้น คนที่ช่วงชิงทุกอย่างไปจากนาย หวังว่านายจะชอบของขวัญชิ้นนี้นะ มันทำนายไว้เท่าไหร่ ก็เอาให้มันสาสม
การแก้แค้น การกลั่นแกล้ง ครั้งเป็นเด็ก เคยคิดว่าคงมีเพียงในละครเท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อโตมาทุกอย่างในชีวิตจริงมันจะน้ำเน่ากว่าละครเสียอีก แถมยังยุ่งยากไม่รู้จบ
ในชีวิตจริง คนที่คิดแผนได้เหนือชั้นและแนบเนียนที่สุดเท่านั้น ที่จะเป็นผู้อยู่รอด
ข้อมูลที่ได้มาไม่เพียงพอที่จะนำมาใช้ ดังนั้นคนสำคัญในตอนนี้คงหนีไม่พ้นชเวซึงฮยอนแบล็คแฮคเกอร์ อู่ข้าวอู่น้ำของคิมฮีชอลยามขาดแคลนข้อมูล
“ซึงฮยอน เช็คเมลเดี๋ยวนี้ฉันจะส่งรูปคนๆนึงไปให้ ฉันต้องการข้อมูลทั้งหมดของหมอนี่และข้อมูลที่เกี่ยวกับคุณเยซอง ภายในพรุ่งนี้ฉันต้องได้ แค่นี้นะ” การออกคำสั่งที่อีกฝ่ายปฏิเสธไม่ได้เป็นหนึ่งงานอฎิเรกที่ทำให้ฮีชอลอารมณ์ดีเสมอ
ระหว่างรอข้อมูลแผนการสับเปลี่ยนจดหมายสร้างความเข้าใจผิดก็ไม่เลวเหมือนกัน
“ทำไมน้า คนที่เป็นเพื่อนกันต้องสนับสนุนให้แก้แค้นด้วย การแก้แค้นมันผิดไม่ใช่หรอไง ฮะๆๆ” ร่างบางพึมพำขณะสับเปลี่ยนรูปผู้ชายในซองเป็นรูปเด็กรับใช้ผู้โชคร้ายที่พึ่งลาออกไปใส่ซองเอกสารอันใหม่ ก่อนลงมือลอกที่อยู่ผู้ส่งผู้รับด้วยลายมือปลอม ติดแสตมป์และลอกลายตราไปรษณีย์ตามวิธีที่ชเวซึงฮยอนเคยสอน
“คิมฮีชอล นายน่ะทั้งสวยแล้วก็ฉลาดมากเลยรู้มั้ย” หน้าหวานยิ้มให้ตัวเองในกระจกก่อนจะเดินออกจารกห้องไป
ระหว่างเดินเล่นรอบบ้าน ร่างบางไม่ลืมโปรยรอยยิ้มเอ็นดูบรรดาให้เด็กรับใช้ในบ้าน จนกระทั่งเห็นบุคคลที่อยากพบกำลังทำความสะอาดบริเวณหลุมศพของสุนัขตัวน้อย
“คุณเยซองครับมีจดหมายถึงคุณแน่ะ” โปรยยิ้มเป็นรอบที่ร้อยของวัน
คนที่มีทีท่าไม่อยากจะสนใจรีบก้าวออกจากบริเวณพุ่มไม้ตรงมาหานายน้อยที่กำลังยื่นซองจดหมายให้ ด้วยคิดว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะที่ผู้รับใช้จะรับของจากนายช้า ทั้งที่หาใช่หน้าที่ของนาย
“ขอบพระคุณมากครับ ทีหลังคุณหนูไม่ต้องเอามาให้ผมหรอกครับ ปล่อยให้พวกเด็กๆเอามาเองจะสะดวกกว่า” โค้งอย่างอ่อนน้อมพร้อมยื่นมือออกรับของจากอีกฝ่าย
แต่ร่างบางกลับชูมือขึ้นแล้วถอยหลังสร้างระยะห่างแล้วหัวเราะคิกคัก แม้จะไม่ประหลาดใจกับการเล่นแผลงๆ แต่เขาไม่ใช่คนที่จะเล่นอะไรแบบนี้กับใคร ยิ่งกับผู้มีศักดิ์สูงกว่ายิ่งแล้วใหญ่
“คุณหนูครับผมยังมีงานต้องทำครับ กรุณาส่งมาเถอะครับ” น้ำเสียงจริงจังอาจทำให้คนฟังสลดแต่ไม่ใช่ในกรณีของฮีชอล
“คุณเยซองครับ เอาแต่ทำหน้าจริงจังชีวิตจะไม่มีความสุขเอานะครับ”
“รับทราบครับ แต่ในกรณีนี้เป็นการไม่เหมาะสม”
ไอ่ท่าทีภักดีเวอร์นั่นขัดหูขัดตาคุณชายใหญ่คนนี้อยู่ไม่น้อย แต่รอยยิ้มก็ไม่จางหาย
“ตามมาเอาจดหมายจากผม นี่คือคำสั่ง” ทันทีที่ออกคำสั่งเสร็จก็รีบวิ่งทิ้งระยะออกไป
คนฟังระเหี่ยใจไม่น้อยที่ต้องมาวิ่งไล่เอาจดหมายส่วนตัวกับนายน้อยอารมณ์ขึ้นๆลงๆ แต่ในเมื่อคนๆนั้นพูดว่าเป็นคำสั่ง เขาก็ต้องทำตาม คิดได้ขายาวจึงออกวิ่งตามร่างนั้นไป
ระหว่างเกมขนาดย่อมที่ฮีชอลสร้างขึ้น ได้สร้างความประหลาดใจเล็กๆให้เยซอง ร่างบอบบางที่วันๆเอาแต่นั่งรถ นอนเล่น แล้วก็ชี้นิ้วสั่งนู่นนี่ ไปเอาแรงมากมายมาจากไหนกัน วิ่งไล่มาครึ่งชั่วโมงคนตัวบางกลับดูไม่เหนื่อยทั้งยังแรงไม่ตกเลยด้วยซ้ำ คนที่ดูแข็งแรงดีอย่างเขากลับเริ่มล้า แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา งานที่ยังเหลืออีกเป็นกองนั่นต่างหากปัญหาใหญ่
ไม่ได้การ ถ้ามัวแต่วิ่งไล่กันต่อไปงานไม่เดินแน่
เมื่อตั้งใจจะจบเกมเสียที เยซองกลับมารวบรวมแรงแล้วออกวิ่งอย่างเต็มที่อีกครั้ง ทีนี้เจ้านายตัวดีก็วิ่งขึ้นชั้นสองไปแล้ว
ด้านฮีชอล ตาคมปลายมองคนที่พยายามวิ่งไล่ก่อนจะวิ่งขึ้นชั้นสอง และวิ่งไปยังบริเวณเป้าหมายที่คิดไว้แต่แรก ร่างบางวิ่งผ่านหน้าห้องของน้องชายเอาไหล่กระแทกประตูให้คนในห้องได้ยินวิ่งเลยไปอีกหน่อยแล้วลดความเร็วลงกระทันหัน
และแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน เยซองที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงชนร่างบางที่ลดความเร็วอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเข้าอย่างจัง จนทั้งสองลงไปกองทับกันทีพื้น ขณะเดียวกันคิบอมก็เปิดประตูออกมาตามเสียงกระแทกที่ฮีชอลสร้างไว้
และผู้โชคร้ายในเกมนี้คือ เยซอง
“กำลังทำอะไรอยู่หรอครับ” ผู้เห็นเหตุการณ์เอ่ยถามด้วยเสียงเรียบเกินจริงจนคนฟังรู้สึกถึงลางไม่ดี
เยซองรีบคว้าจดหมายในมือบางแล้วยันตัวขึ้นมาคุกเข่าโค้งจนศีรษะติดพื้นขอขมาคุณชายใหญ่
“ขอประทานโทษครับคุณหนู เพราะผมไม่ระวัง” ไม่ทันจะพูดให้จบเสียงหวานก็ขัดขึ้น
“ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ ก็ผมเป็นคนแกล้งเอาจดหมายของคุณเยซองมาเองนี่ครับ ลุกขึ้นเถอะครับ แล้วก็คิบอม ไม่มีอะไรหรอก พอดีพี่วิ่งชนประตูห้องนายน่ะ เข้าห้องไปเถอะ” ตัวต้นเหตุพูดด้วยสีหน้าสำนึกผิด ที่ไม่ว่าใครมาเห็นก็ต้องยกโทษให้
ร่างสูงยืนมองคนทั้งสองไม่วางตา สายตาเรียบๆนั่นแฝงไปด้วยความแข็งกร้าวที่รู้สึกได้ มือเรียวตบหลังคนที่คุกเข่าอยู่ให้ยืนขึ้นก่อนกระซิบสั่งให้กลับไปทำงาน
เมื่อบุคคลที่สามเดินลับตาไปสงครามเงียบๆของสองพี่น้องก็เริ่มขึ้น คนตัวโตจ้องเขม็งไปยังพี่ชายตัวบางที่พยายามหลบสายตาอย่างสำนึกผิด
.. ทั้งที่ในใจกำลังหัวเราะ แต่เหมือนคราวนี้จะผิดคาด
“แกล้งกันสนุกมั้ย” คิบอมเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ
หลายๆครั้งที่ฮีชอลแกล้งสร้างสถานการณ์เพื่อให้เขาแสดงท่าทีหวง ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่คนช่างคิดต้องการ แต่เมื่อเวลาผ่านไป คิบอมเองก็เริ่มรู้สึกเหมือนโดนคนๆนี้ปั่นหัวไม่ต่างจากคนอื่นๆ
“รู้มั้ยว่าผมพยายามมองข้ามเรื่องส่วนตัวพี่กับคนอื่น ผมรักพี่ ผมเคารพการตัดสินใจของพี่ ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้เป็นของผมคนเดียว ดังนั้นช่วยเคารพความเชื่อใจ อย่าเปลืองตัวเพียงเพราะความสนุก ไม่ใช่เพื่อผม แต่อย่างน้อยก็ทำเพื่อคนๆนั้นของพี่ พี่เจ็บแค่ไหนทำไมผมจะไม่รู้ การทำร้ายคนอื่นโดยเอาตัวเข้าแลกเพราะคิดว่ามันสนุกน่ะ ความจริงพี่กำลังซ่อนความอ่อนแอของตัวเองตังหาก”
คนฟังยืนก้มหน้านิ่ง ทุกอย่างที่คิบอมพูดเป็นเรื่องจริง แต่ในเมื่อไม่อยากยอมรับ มันผิดตรงไหน แล้วคนๆนั้นของเขามันมีที่ไหนกัน คนที่เขากล้าจะรักมีแค่คิบอมคนเดียว บนโลกนี้จะมีใครมาหวังดีกับคนอื่น
“อ่อนแองั้นหรอ ไม่ได้ยินคำนี้มานานแล้วนะ เป็นคำที่น่ารังเกียจจริงๆเลยว่ามั้ย คนที่ฉันจะรักมีแค่นายคนเดียว นายเท่านั้น คิบอม ดังนั้นอย่าใส่ใจการกระทำของฉันจนลืมความสุขของตัวเอง เพราะฉันก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน”
ร่างบางเดินเข้าห้องอย่างเงียบเชียบปล่อยให้อีกคนยืนนิ่งครุ่นคิดกับคำพูดของตน
“คิบอม นายรู้มั้ยว่าคนเดียวที่ฉันจะไม่ทำร้ายมีแค่นายเท่านั้น” เสียงหวานพึมพัมกับตัวเองก่อนทิ้งตัวลงนอนหวังจะหนีไปใจโลกแห่งความเป็นจริงที่แสนยุ่งยาก
คิบอมเดินเข้าห้องพร้อมความรู้สึกหนักอึ้งในสมอง แล้วความรู้สึกแปลกๆก็แล่นเข้ามาในหัว เขาอยากเจอลีฮยอคแจ แม้จะประหลาดใจกับความคิดของตัวเอง แต่บางทีการไปเจอกับของเล่นก็คงช่วยอะไรได้ไม่มากก็น้อยล่ะ
- - - - - - - - - - - - - - - -
“สวัสดีครับผู้จัดการ” ร่างบางเดินเข้ามาในร้านพร้อมรอยยิ้มเปล่งประกายตามแบบฉบับลีฮยอคแจ
“เฮ่ย วันนี้มาแต่หัววันเชียว ไม่มีเรียนหรอไง” ผู้จัดการหนุ่มที่กำลังเคร่งกับการขัดโต๊ะที่เป็นรอยเงยหน้ามองอย่างประหลาดใจ
“ช่ายยยยยยย วันนี้ไม่มีเรียนบ่าย ผมมาทำงานนอกตารางพี่ต้องจ่ายโอทีผมนะ คริๆ” หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ไอ่เวร แกมาทำงานทั้งที่เห็นว่าเวลานี้มันโลวอาวร์อ่ะนะ แค่ไอ่แดซองคนเดียวมาทำงานทุกวันทั้งวันฉันก็ไม่มีเงินจะจ่ายมันอยู่ละ คุณนายนั่นก็ไปเมืองทีอย่างกะจะไปอยู่จนตาย ไม่มีตังค์เว้ย กลับไปเลยปะ” ปากก็บ่นถึงแม่ มือก็โบกไล่อย่างไร้เยื่อใย
“โห่พี่ เห็นแก่น้องตาดำๆคนนี้เหอะ ผมไม่มีตังค์จะกินข้าวอาทิตย์หน้าแล้วนะ ช็อต” ไม่ลืมส่งสายตาอ้อนวอนสุดกำลัง
“แล้วช็อตเพราะอะไร แกเอาเงินไปทำอะไรไม่ทราบ” ถามหน้าตายเต็มกำลังไม่แพ้กัน รู้ทั้งรู้ว่าเกมส์มันกินไม่ได้ก็ยังซื้อเอาๆอยู่นั่นแหละ แล้วจะมาบ่นหาอะไร
“ผมไม่ได้ไปซื้อเกมส์จริงๆนะพี่ ผมสาบานด้วยเลือดเลย เอ้า” กราบไหว้อ้อนวอน พร้อมยกข้อมือเรียวบางขึ้นก่อนทำท่าจะแทะข้อมือตัวเอง
“ไม่ต้อง ขี้เกียจเก็บซาก กลับไปเรียนไป๊ ชิ่ว” โบกมือพร้อมมองออกไปยังมหาลัยที่อยู่สุดถนนอีกฝั่ง
แล้ววิวภายนอกก็ถูกบดบังด้วยแผ่นอกของใครบางคนที่มายืนชะเง้อมองฮยอคแจไม่วางตา
“นะพี่นะ ให้ผมทำงานเถอะ” คนถูกจ้องยังคงไม่รู้ตัวกราบไหว้หารายได้ต่อไป
“นายบอกว่าอาทิตย์หน้าไม่มีข้าวกินใช่ปะ”
ไร้เสียงตอบมีเพียงเสียงหงึกๆจากการะเคลื่อนตัวของกระดูกสันหลังดังเป็นจังหวะ
“นั่นเลย ไอ่หล่อนั่นแฟนนายใช่มั้ย ไปให้มันเลี้ยงข้าวดิ” ชี้ไปยังร่างสูงที่ยืนมองผ่านกระจกใสหน้าร้าน
“บ้าปะ ผมยังไม่มีแฟนว่ะ” พูดเสียงดังด้วยความมั่นอกมั่นใจแล้วหันไปตามที่นิ้วอวบของผู้จัดการ
พระเจ้าครับลีฮยอคแจก็รู้สึกว่าท่านควรทำให้ผมเป็นใบ้ซักวัน
“ไหนนายบอกว่ามีแฟนแล้วไง” คิมคิบอมที่ไม่น่าจะมีส่วนร่วมในซีนของร่างบางอีกแล้ว ท้าวถึงคำโกหกเล็กๆของคนตัวบางด้วยสีหน้านึ่งเกินกว่าคนๆนึงจะทำได้ในสถานการณ์แบบนี้
NeRVe - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
พาร์ทหกมี 9 เม้นนน
ทุกคนช่วยกันหาหน่อยเร็วว่าเม้นมันหายไปไหนนนน
ไม่มีเม้นไม่สามารถอัพได้~
PS.แฟนๆป้าทึกรออีกหน่อย ใกล้มาละ
NeRVe - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
พาร์ทหกมี 9 เม้นนน
ทุกคนช่วยกันหาหน่อยเร็วว่าเม้นมันหายไปไหนนนน
ไม่มีเม้นไม่สามารถอัพได้~
PS.แฟนๆป้าทึกรออีกหน่อย ใกล้มาละ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น