ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [NeRVe] 3 Wait during Wet รอระหว่างเปียกโชก
Chapter: 3
Title: Wait during Wet
Type: Mask
Type: Mask
Author: Deirc
“ซึงฮยอนอ่า รู้มั้ยใครเอ่ย ฮ่าๆ” เสียงหวานกรอกไปตามสายโทรศัพท์
-แดมน์ซิน- เสียงโหดไหลพรืดผ่านสายโทรศัพท์เข้าหูอีกฝ่ายเต็มๆ
“แหมๆไม่ได้คุยกันไม่กี่ปีเรียกซะเต็มยศเชียว ว่าแต่วันนี้ว่างมั้ย แวะมาเลี้ยงข้าวฉันทีสิ”
-ขนาดนั้น นี่อุส่าห์โทรมาบอกให้ผมถ่อไปเลี้ยงข้าวพี่ทั้งๆที่หายไปตั้งหลายปีเนี่ยนะ มีอะไรก็พูดมาเถอะ-
“อย่าใจร้ายสิ รู้ไปซะทุกเรื่องเลยนะ ยังไงก็ออกมาเจอหน่อยเถอะ ถือซะว่าแสดงความยินดีที่ฉันกลับมาไง สองทุ่มเจอกันที่เดิมนะ อ๊ะ สายซ้อน ฉันวางก่อนนะ”
มือบางพับโทรศัพท์เครื่องจิ๋ววางไว้บนโต๊ะข้างเตียงแล้วเดินไปเคาะห้องข้างๆด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
แค่นึกว่าจะได้อุปกรณ์ทรมานเหยื่อในเร็วๆนี้ความสุขก็แล่นพล่านไปทั่วร่างเสียแล้ว
ไม่เกินอึดใจบานประตูก็เปิดออกรับคนมาใหม่
“คิบอม คืนนี้ฉันจะไปหาเท๊มมี่ พาไปหน่อยสิ” สอดแขนเรียวกอดรัดคนที่หันหลังเดินนำเข้าไปในห้อง
“ไม่ไปบอกคุณเยซองล่ะ”
“ฉันมีเหตุผลน่า ถ้าไม่จำเป็นฉันไม่รบกวนเวลาคิบอมหรอก” เกยคางบนไหล่กว้างคลึงเบาๆอย่างเอาใจ
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ปฏิเสธ จึงผละจากร่างสูงเดินไปหยุดหน้ากระจกบานใหญ่บนประตูตู้เสื้อผ้า ส่งสายตาสำรวจใบหน้าของตนอย่างละเอียด ใบหน้าซูบตอบดูดีขึ้นเล็กน้อย ขอบตาคล้ำจางลง แขนที่เหมือนหนังหุ้มกระดูกเริ่มมีน้ำมีนวล ทุกอย่างดีขึ้น
เว้นแต่
.. ความรู้สึกนึกคิด
หลังสำรวจตัวเองร่างบางตัดสินใจเดินสำรวจบริเวณบ้านเพราะตั้งแต่กลับมาก็ยุ่งเรื่องข้าวของเครื่องใช้ต่างๆเลยยังไม่มีเวลาเดินสำรวจบริเวณสวนรอบบ้าน
คฤหาสน์หลังใหญ่บ้านแสนสุขของครอบครัวตระกูลคิม เป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ โดยถูกสร้างตามแบบตะวัน รอบบ้านปกคลุมด้วยสีเขียวของพฤกษพันธุ์นานาชนิดและกลิ่นหอมของไม้ดอกอักนับไม่ถ้วน
ทั่วบริเวณถูกตกแต่งตามแบบสวนตะวันตกตามรูปลักษณ์ของบ้าน ปูแผ่นหินทางเดินอย่างเป็นระเบียบ บรรยากาศอันประณีตบรรจงทำให้ทุกคนที่ย่างกรายเข้ามารู้สึกเหมือนถูกความฝันสีเขียวชอุ่มโอบอุ้มให้คล้อยตาม
กลิ่นไม้ดอกอันคุ้นเคยฟุ้งกระจายหยอกล้อกับร่างบางให้นึกถึงความทรงจำอันหอมหวาน
“ฮีชอล ฉันรักนาย” เสียงกระซิบจากวันวานแว่วกระทบหูอย่างนุ่มนวล
ร่างบางหลับตาลงเงี่ยหูฟังเสียงรอบตัวอย่างตั้งใจ ปากแดงคลี่ยิ้มกับความสุขของความทรงจำที่หายไป
เสียงนี้
... คิดถึงเหลือเกิน
“ฉันก็รักนาย” กระซิบฝากสายลมไปถึงเจ้าของคำรัก ณ ที่แสนไกล
หยดน้ำใสไหลรินจากหางตา หยาดน้ำที่ไม่หลั่งรินมาเนิ่นนาน ความเศร้าที่ถูกฝังลึกในจิตใจพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่ได้ รอยยิ้มเปื้อนน้ำตา
นายเจ็บมากใช่มั้ย ฉันเข้าใจแล้วว่ามันทรมานขนาดไหน ทั้งหมดเป็นเพราะฉัน ซีวอน ฉันขอโทษ
ก้อนเนื้อในอกเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ บีบรัดจนทรมานเกินกว่าจะรับไหว แต่แล้วจิตใต้สำนึกก็สลัดความรู้สึกทั้งหมดทิ้งอย่างอัตโนมัติ ทั้งที่ทีแรกแทบจะยืนไม่ไหว
ภาพบางอย่างหลั่งไหลเข้ามาในหัว ปากบางหุบยิ้ม ธารน้ำตาสงบลง ภาพคนคนนั้นกับใครที่ไม่ใช่เขา
ยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง และเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ฮ่าๆ คิดอะไรโง่ๆ ฉันทำถูกแล้ว ในเมื่อการเฝ้ามองความสุขที่ตัวเองเคยได้รับถูกช่วงชิงไปมันทรมานมากนัก ก็แค่กำจัดทิ้งซะ ดีกว่าจะเสียไปให้ใคร นี่ล่ะถูกต้องที่สุด
จากนี้ก็แค่ขโมยความสุขของใครซักคน ให้ได้สัมผัสสิ่งที่สวยงามยิ่งกว่าความสุข
ความเจ็บปวดที่จะสร้างรอยแผลติดตัวไปจนตาย
มือเรียวปาดหยดน้ำที่ประปรายบนใบหน้าออกจนหมด
น้ำตาที่หลั่งเพื่อความรักเป็นสิ่งโง่เขลา น่ารังเกียจ
ตากลมกรอกวนสองรอบตามความเคยชินก่อนอารมณ์หลากหลายที่ถูกถ่ายทอดเมื่อครู่จะหายไป เปลี่ยนเป็นแววตานึกสนุกอีกครั้ง
แม้ความทรงจำน่าเวทนาจะผุดขึ้นมาขัดขวางการสำรวจบริเวณบ้าน แต่ฮีชอลก็ไม่ใส่ใจและทำตามที่ตั้งใจต่อไป
มือบางจะยกขึ้นสัมผัสกิ่งใบของไม้พันธุ์ทุกต้นที่เดินผ่าน ส่งสายตาชื่นชมเอ็นดูให้สิ่งมีชีวิตสีเขียวในทุกที่ แต่เมื่อสะดุดกับลิลลี่สีขาวสะอาดความรู้สึกแค้นเคืองก็ผุดขึ้นอีกครั้ง
มือเล็กกระชากดอกสวยจนติดมือออกมา ก่อนจะออกแรงบีบจนยับเยิน และแบมืออกมองผลงานอย่างเศร้าสร้อย
น่าสงสาร ลิลลี่น้อย ช่างบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ต้องตายก็เพราะความบริสุทธิ์ โง่งม ไร้เดียงสาจนกลายเป็นสัญลักษณ์ให้กับคำโกหกน่าสมเพช
ความชิงชังที่วกวนอยู่ในหัวสั่งให้ก้าวเข้าไปใกล้พุ่มไม้ผู้ผลิตดอกลิลลี่น้อยๆ และลงมือฉีกกระชากดอกไม้สีขาวไม่ให้เหลือแม้สักดอก
พื้นเขียวขจีถูกแทรมด้วยสีขาวประปราย สร้างความเพลินตาแก่เจ้าของผลงานอย่างน่าประทับใจ
“ที่ผมซื้อดอกลิลลี่ให้ฮีชอล เพราะสีขาวหมายถึงความบริสุทธิ์ เหมือนกับรักบริสุทธิ์ที่เรามีให้กัน แล้วก็เหมือนความอ่อนโยนของฮีชอลด้วย”
“มันเป็นรักบริสุทธิ์ที่ฉันมีให้นาย แต่นายมีให้คนอื่นต่างหากล่ะ และในเมื่อบวกเจอกับลบมันกลายเป็นลบ ฉันจะทำลายทิ้งไปก็ไม่ผิด แต่ฉันก็อ่อนโยนจริงๆนั่นแหละ ฉันช่วยกำจัดความทรมานให้ทุกชีวิต จริงมั้ยฮันคยอง”ฝากเสียงกระซิบไปกับสายลมอีกครั้ง
กลีบปากยกยิ้มแล้วเดินออกห่างจากอาณาเขตที่ถูกทำลายตรงไปยังด้านในสุดของสวน
แผ่นศิลาหินอ่อนสองแผ่นตั้งตระหง่านเคียงคู่กันในพุ่มไม้ที่ถูกจัดแต่งเป็นพิเศษ
ศิลาทางซ้ายถูกบรรจงสลักอักษรสีดำขลับเป็นชื่อแสนคุ้นเคย “”WonHee” ทันทีที่สมองประมวลผลภาพสุนัขพันธุ์เล็กสีขาววิ่งไปรอบสวนก็ฉายขึ้นมา แต่แล้วก็ถูกทับซ้อนด้วยสุนัขตัวเดิมที่นอนแน่นิ่ง โดยบริเวณศีรษะทับแอ่งของเหลวเล็กๆสีแดงสดไว้
พอหันไปอ่านอักษรแบบเดียวกันบนศิลาทางขวา “HanXi” ภาพสุนัขตัวโตตระกูลเดียวกับหมาป่าวิ่งเข้าลาดเลียใบหน้าตนอย่างออดอ้อนก็ฉายทับภาพสุนัขตัวก่อนหน้า แล้วก็จบลงด้วยจุดจบแบบเดียวกัน
“วอนฮี หานสิ ฉันใจดีใช่มั้ย ฉันรู้ว่าพวกแกต้องเหงา ตอนที่ซีวอนและฮันคยองไม่อยู่ แล้วฉันก็พาพวกแกไปหาทั้งสองคน เพราะงั้นอย่าลืมขอบคุณฉันล่ะ” แหงนหน้ามองฟ้าและตะโกนคำพูดเข้าข้างตัวเองอีกครั้ง
หลังสั่งเสียธุระกับสุนัขซึ่งจากไปเนิ่นนานเรียบร้อยร่างบางก็เดินอ้อมสวนอีกด้านเข้าบ้านทางประตูข้างที่ตรงกับห้องเก็บภาพวาด ซึ่งไม่มีใครคิดจะเข้านอกจากเจ้าตัว
เมื่อบานประตูสวยหรูเปิดออกก็พบกำแพงอีกชั้นกับประตูไม้คร่ำคร่า มือขาวยกขึ้นผลักบานประตูอย่างแรง เพราะถูกแรงกระทำผงฝุ่นบนประตูฟุ้งกระจายไปทั่วจนคนที่ยืนอยู่ไอคอกแคก
แสงอาทิตย์ส่องเข้าห้องผ่านทางประตูที่พึ่งเปิด ทำให้เห็นฝุ่นควันลอยว่อน รวมทั้งกรอบรูปที่ถูกคลุมด้วยผ้าและพลาสติกอย่างดีจำนวนมากวางเรียงรายบนกล่องไม้ขนาดใหญ่รอบห้อง และโซฟาตัวใหญ่ตรงกลางห้องในสภาพถูกห่อไม่ต่างจากกรอบรูป
มือเรียวคว้ากำแพงปะป่ายหาสวิตช์ไฟ
คลิก
ทันทีแสงสว่างจากโคมระย้าเหนือโซฟากลางห้องก็สาดส่องแทนแสงจากดวงอาทิตย์ที่ลอดเข้ามา
ความสว่างเต็มกำลังของแสงไฟทำให้เจ้าของห้องรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่อาจไม่ทันสังเกตุ ตากลมตวัดมองโคมไฟระยับทันทีที่รู้สึกตัว
พลาสติกใสกึ่งโปร่งแสงที่เคยห่อหุ้มโคมไฟเพื่อลดละดับความเข้มของแสงถูกใครบางคนนำออกไป
ใครกันนะเข้ามายุ่งกับความลับของซินเดอเรลล่า
- - - - - - - - - - - - - - - -
“เอ่อ ทงแฮ คยูฮยอนวันนี้พวกนายไปกินข้าวกันสองคนนะ พอดีฉันมีธุระน่ะ” ฮยอคแจรีบบอกเพื่อนทันทีที่ถึงเวลาอาหารกลางวัน
“ธุระอะไร คนอย่างนายมีธุระกับเขาด้วยหรอ” ทงแฮรีบถามขัดกับคยูฮยอนที่พยักหน้ารับรู้
“ก็
. คิมคิบอมเขานัดฉันให้ไปเอาเลคเชอร์ที่ห้องสมุดวันนี้ตอนเที่ยง” ตอบอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียง
“แล้วนายรู้มั้ยว่านี่กี่โมงแล้ว” คยูฮยอนเริ่มมีปากมีเสียงขึ้นมาบ้าง
“สิบเอ็ดโมงห้าสิบ” ตอบอย่างมั่นใจเพราะคำนวนเวลาแล้วว่าเลิกคลาสมาได้ประมาณยี่สิบนาที
“ใครบอกนาย วันนี้คาบเที่ยงเราเรียนเสร็จกันเที่ยงครึ่ง นี่มันจะบ่ายโมงแล้ว”
ตาเรียวเบิกกว้าง รีบยกข้อมือขึ้นดูเวลา แล้วก็เห็นว่าเข็มวินาทีนั้นนิ่งสงัด
ถ่านหมด
ไม่ได้การร่างบางรีบวิ่งไปยังห้องสมุดอย่างไม่คิดชีวิต รีบร้อนจนชนใครต่อใครไปหลายคน
และแล้วลีฮยอคแจก็ทำลายสถิติวิ่งห้านาทีของตัวเองกลายเป็นสามนาที ร่างเหนื่อยหอบเดินเข้าห้องสมุดพร้อมเสียงหายใจถี่กระชั้น กวาดตามองหาคู่กรณี
สองตาสาดส่องไปยังโต๊ะอ่านหนังสือทุกตัวและชั้นหนังสือทุกชั้นแต่ก็ไม่พบผู้นัดหมาย ร่างบางจึงยืนพึงชั้นหนังสืออย่างหมดหวัง
“โธ่ ลีฮยอคแจทำไมนายงี่เง่าอย่างงี้นะ ให้ตายเซ่ อย่างนี้ก็เตรียมกินเอฟเลยดีกว่า” ต่อว่าตัวเองด้วยเสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้
“ทำไมมาเอาป่านนี้ ฉันนึกว่าจะไม่เอาแล้วซะอีก” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูจนขนลุกไปทั้งร่าง คนฟังรีบหันหน้าหาต้นเสียง
“ขะ ขอโทษ คือฉันจำตารางไม่ได้ ก็เลยนึกว่าวันนี้เลิกสิบเอ็ดโมงครึ่ง แล้วนาฬิกาก็ดันถ่านหมดด้วย ขอโทษจริงๆที่ทำให้เสียเวลา” ก้มหน้าก้มตาตอบพร้อมแก้มแดงระเรื่อจากการออกแรงวิ่ง หากใครไม่ได้ยินบทสนทนาคงคิดว่าคนตัวบางกำลังสารภาพรักอยู่เป็นแน่
“ช่างเถอะ นี่ของที่นายต้องการ เอามาคืนภายในวันศุกร์นี้” ยื่นกองเอกสารให้
“ที่ไหน” ถามไปขณะที่กำลังสนใจกับกระดาษในมือ
“เอาเบอร์นายมา เพื่อฉันได้มั่นใจได้ว่าเลกเชอร์พวกนี้จะไม่หายหลังจากที่นายเอาไป”
ยังไงเพื่อเลกเชอร์ร่างบางก็จำต้องยอมทำตามความต้องการของเจ้าของ
“แล้วจะโทรไป” ว่าแล้วก็เดินออกไปอย่างไม่ใยดี
010 77003344 เบอร์โทรศัพท์แปลกใหม่ถูกเซฟในหน่วยความจำภายใต้ชื่อ
“TOY”
วันนี้ก็เดินหน้าไปหนึ่งขั้น
หวังว่าจะได้สนุกเต็มรูปแบบในอีกไม่นานนี้นะลีฮยอคแจ
NeRVe - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ตอนนี้สั้นหน่อยยย
ขอโทษงิ
อิอิ
รอกันนานมั้ย
อย่าบ่นเลยเปิดเทอมมันจะนานกว่านี้
แหะๆ
ยังไงก็จะพยายามให้มากๆ
พาร์ทนี้ก็เข้าคอนเสปจิตทะมึนอีกครั้ง
ชอบมั้ย??
ถ้าชอบก็บอกน้า
เม้นแปะๆไว้
จะได้รีบๆอัพ
ขอพาร์ทละซักยี่สิบได้มั้ย???
เยอะไปป่าว
คือเชื่อว่ามีคนอ่านมากกว่ายี่สิบ
เม้นกันหน่อยเนอะ
เราอ่านคนอื่นก็อ่าน
เพราะงั้นคนอื่นเม้นเราก็เม้น
เราได้อ่านคนอื่นก้ได้อ่าน
จริงมั้ย ฮ่าๆ
อยากกระซิบว่าดีใจมากที่มีคนตามทวง
การทวงการจิกเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ดีมากๆ ^^
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม
จากนี้ก็จะพยายามต่อไป
ไปนอนแล้วววว พรุ่งนี้มีเรียนโอยยยยย
ตีหนึ่งกว่าแล้วฮ่าๆ
ใครที่อ่านกลางคืนก็ขอให้ Sweet Dream
ใครอ่านกลางวันก็ Hav a nice day
ตอนนี้สั้นหน่อยยย
ขอโทษงิ
อิอิ
รอกันนานมั้ย
อย่าบ่นเลยเปิดเทอมมันจะนานกว่านี้
แหะๆ
ยังไงก็จะพยายามให้มากๆ
พาร์ทนี้ก็เข้าคอนเสปจิตทะมึนอีกครั้ง
ชอบมั้ย??
ถ้าชอบก็บอกน้า
เม้นแปะๆไว้
จะได้รีบๆอัพ
ขอพาร์ทละซักยี่สิบได้มั้ย???
เยอะไปป่าว
คือเชื่อว่ามีคนอ่านมากกว่ายี่สิบ
เม้นกันหน่อยเนอะ
เราอ่านคนอื่นก็อ่าน
เพราะงั้นคนอื่นเม้นเราก็เม้น
เราได้อ่านคนอื่นก้ได้อ่าน
จริงมั้ย ฮ่าๆ
อยากกระซิบว่าดีใจมากที่มีคนตามทวง
การทวงการจิกเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ดีมากๆ ^^
ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม
จากนี้ก็จะพยายามต่อไป
ไปนอนแล้วววว พรุ่งนี้มีเรียนโอยยยยย
ตีหนึ่งกว่าแล้วฮ่าๆ
ใครที่อ่านกลางคืนก็ขอให้ Sweet Dream
ใครอ่านกลางวันก็ Hav a nice day
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น