ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [NeRVe] 10 Perhaps บางที 100%
Chapter: 10
Title: Perhaps บางที
Type: Daily
Type: Daily
Author: Deirc
“
ผมไปก่อนนะ มีธุระ ฝากคุณลีทึกเอารถกลับบ้านด้วยนะครับ” ร่างสูงลุกพรวดแล้วทิ้งกุญแจรถไว้บนโซฟา“
สองขาพาร่างสูงของตนออกมานอกโรงพยาบาล แสงแดดยามบ่ายให้ความรู้สึกดีกว่าแสงไฟสว่างจ้าและกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นไหนๆ
คิบอมยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา บ่ายโมงครึ่ง เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาทำงานของฮยอคแจ เมื่อนึกถึงฮยอคแจสมองก็ประมวลผลสถานที่ที่ควรจะไปมากที่สุดในขณะนี้ ร้านซีดีที่ฮยอคแจแวะไปหลังเลิกงานบ่อยๆ อะไรกันทำให้ร่างบาง
เพราะระยะทางจากโรงพยาบาลไปถึงร้านอยู่ในระยะทางที่สามารถเดินไปได้ ร่างสูงตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆค่าเวลา
มองผ่านสองข้างทาง เบื่อหน่าย จำเจ ซ้ำซาก ชีวีตที่ต้องหมุนให้ทันเวลา การแข่งขันอันไม่มีจุดสิ้นสุด ต่อให้ตัวเองจะช้าลงแต่สิ่งรอบข้างก็ยังคงวิ่งต่อไป
หลายนาทีต่อมาร่างสูงก็มาถึงจุดหมาย ซอยเล็กๆไม่เงียบเหมือนครั้งก่อนที่เคยมา ร้านเดิมยังคงเปิดไฟสีอ่อนให้ความรู้สึกอบอุ่นแม้ในเวลากลางวัน
ขายาวก้าวเข้าไปในบริเวณร้านอย่างเงียบเชียบ กวาดสายตามองไปทั่ว เสียงดนตรีลอยกระทบหูเช่นเคย เพราะบรรยากาศงั้นหรือที่ทำให้คนตัวเล็กต้องแวะมาเป็นประจำหลังเลิกงาน ไม่มีทาง การที่คนๆนึงจะไปสถานที่ไหนบ่อยๆก็จะต้องมีจุดประสงค์ ในเมื่อลีฮยอคแจไม่ได้ซื้อของ ก็แสดงว่ามาหาใครบางคน
ตาคมมองหาคนๆนั้น แต่ทว่าก็ปราศจากการมีอยู่ของใครอีกคน ร่างสูงลดความสูงลงมองแผ่นซีดีเก่าๆบนชั้นข้างเคานท์เตอร์ พลางเหลือบไปเห็นขาข้างหนึ่งโผล่พ้นจากเปียโนหลังใหญ่เล็กน้อย
ร่างโปร่งหลับไหลมีเปียโนสีดำขลับเป็นหลักพิง มีกระดาษบรรทัดห้าเส้นและดินสอวางอยู่บนตัก ปอยผมสีน้ำตาลอ่อนบางส่วนร่วงลงมาปกใบหน้าคม
เพื่อน?
ทีแรกตั้งใจจะดูท่าทีของคนๆนี้แต่ในเมื่อคุยด้วยตอนนี้ไม่ได้ก็เลือกที่จะออกไปอย่างเงียบๆ
ไม่นานหลังออกมาจากร้านซีดี ร่างสูงก็มาถึงที่ทำงานพิเศษของคนตัวเล็ก แม้จะยังไม่ถึงเวลาเปิดร้านก็ตาม ครั้งก่อนๆที่เคยมา เขายังไม่เคยสังเกตบริเวณร้านดีๆ
บริเวณถูกตกแต่งตามแบบตะวันตกใช้โทนสีน้ำตาลสบายตา หน้าร้านมีแปะใบโฆษณาโปรโฒชั่นต่างๆของทางร้าน พร้อมรูปของหวานหน้าตาน่าทานมากมาย
“เอ้า นาย เพื่อนฮยอคแจนี่ ร้านยังไม่เปิดนะ แล้วกว่าเจ้านั่นจะมาก็นู่นสี่โมง” คนตาหยีท่าทางอารมณ์ดีที่พึ่งเดินออกมาจากหลังร้านตะโกนเรียกเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นหน้าคุ้นตายืนด้อมๆมองๆอยู่รอบๆบริเวณร้าน
ร่างสูงโค้งให้คนอีกคนอย่างนอบน้อม
“ผมขอเข้าไปนั่นรอในร้านได้มั้ยครับ”
“น้ำมาแล้วครับ” คนตาเล็กยิ้มกว้างวางแก้วน้ำสองใบบนโต๊ธกระจกแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผู้มาเยือน
“คุณคิบอมเป็นเพื่อนที่มหาลัยของฮยอคแจสินะครับ” รอยยิ้มสดใสไม่เคยหายไปจากใบหน้านี้เลยตั้งแต่เมื่อหลายนาทีก่อน
“ครับ ขอโทษนะครับที่มีรบกวนเวลาทำงาน” ตอบเรียบแล้วคว้าแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“ไม่หรอกครับ ร้านก็ยังไม่เปิดด้วย เลยยังมีเวลา”
ตาคมมองเข้าไปในแววตาสดใสอย่างครุ่นคิด แล้วคนอารมณ์ดีก็ชวนร่างสูงคุยเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย จนกระทั่งวกมาที่เรื่องของฮยอคแจ
“ยอดไปเลย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฮยอคแจจะรู้จักคนแบบคุณด้วย”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ พอดีเรียนวิชาเลือกเดียวกันน่ะครับ” ตอบไปแบบนั้นทั้งที่ความจริงคิบอมไม่เคยเห็นคนตัวเล็กเข้าคลาสเลยซักครั้ง
“ออ แล้ววันนี้คุณคิบอมมาหาฮยอคแจทำไมครับ อยู่มหาลัยไม่เจอกันหรอครับ”
“ครับ วันนี้เห็นบอกยุ่งๆ เลยไม่ได้แวะไปหา” ฟังดูสนิทสนมกันเสียเหลือเกิน ก็แค่เรื่องที่สร้างขึ้นมา
“ปกติเวลาอยู่ที่นี่ฮยอคแจเขาเป็นคนยังไงหรอครับ” เสียงเข้มถามเรียบๆ เหมือนคำถามทั่วๆไปที่จะถามถึงเพื่อนคนสนิท
จะเล่นอะไรก็ต้องรู้จักสิ่งนั้นให้ดีซะก่อน
- - - - - - - - - - - - - - - -
คนตัวบางบนเตียงผู้ป่วยชวนร่างโปร่งคุยเรื่อยเปื่อย ถามนู่นนี่ไปเรื่อย จนกระทั่งหลับไป บทสนทนามากมายที่ได้ฟังไม่มีอะไรดูผิดสังเกตุ เพียงแต่รอยยิ้มและแววตาที่ส่งมาเท่านั้น ที่สร้างความรู้สึกแปลกๆให้กับอีกคน
นาฬิกาบอกถึงเวลาที่ล่วงเลย ร่างโปร่งเดินไปที่เตียง ห่มผ้าห่มให้คนที่หลับไปก่อนจะคว้ากุญแจรถที่อีกคนทิ้งไว้แล้วออกจากห้อง มุ่งหน้ากลับไปยังคฤหาสน์ตระกูลคิม
หลังเอายานพาหนะคันหรูเก็บเข้าโรงรถเรียบร้อยเวลาว่างก็กลับมาถึงอีกครั้ง ระหว่างก้าวเข้าบ้านตาคมก็เหลือบไปเห็นคนงานและสาวใช้ถือกล่องกระดาษใบใหญ่ขนของกันให้วุ่น
“ทำอะไรกันอยู่หรอครับ” เข้าไปถามแม่บ้านคนหนึ่งที่กำลังสั่งงานบรรดาลูกน้อง
“อ๋อ กำลังขนของของคุณเยซองออกมาน่ะค่ะ เห็นว่าจะมีพ่อครัวคนใหม่จะมาน่ะค่ะ นายท่านเลยสั่งให้เตรียมห้องไว้”
“ให้ผมช่วยนะครับ เพราะท่าทางของจะเยอะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณลีทึกพักผ่อนตามสบายเถอะนะคะ” หัวหน้าแม่บ้านรีบโบกมือด้วยความเกรงใจ
“ไม่เป็นไรครับ ผมว่างๆอยู่ด้วย รบกวนด้วยนะครับ” ร่างสูงยิ้มให้หญิงมาอายุ จนลักยิ้มปรากดบนแก้มเนียนแล้วรีบเดินเข้าไปในเรือนย่อย ที่มีคนงานเดินเข้าออก
ในบ้านชั้นเดียวสำหรับคนงานที่ถูกแยกออกมา แบ่งเป็นห้องพักเล็กๆจำนวนมาก ห้องพักขนาดใหญ่สี่ห้อง ห้องครัว และห้องทานอาหารของคนงาน และห้องที่กำลังถูกเคลื่อนย้ายสิ่งของคือหนึ่งในห้องพักขนาดใหญ่
ระหว่างเดินฝ่าบรรดาคนงานทุกๆคนต่างโค้งให้เขาอย่างมีมารยาทพร้อมหลบทางให้
ภายในห้องสี่เหลี่ยมเต็มไปด้วยกองหนังสือที่ถูกหยิบออกมาจากชั้นเตรียมเคลื่อนย้ายลงกล่อง บนเตียงสีขาวสะอาดผ้าห่มและหมอนวางไว้อย่างเป็นระเบียบ บ่งบองถึงนิสัยของเจ้าห้องคนเก่าเป็นอย่างดี
บนโต๊ะไม้ถูกจัดการจนว่างเปล่า ไม่มีแม้ไรฝุ่น นิ้วเรียวไล้ไปตามเนื้อไม้ เมื่อมาถึงขอบโต๊ะมีการขยับเขยื่อนจึงรู้สึกได้ว่า แผ่นไม้นี้มีลิ้นชักอยู่เบื้องล่าง
ร่างสูงเปิดแผ่นไม้ขึ้น ภายลิ้นชักมีเพียงดินสองสองสามแท่ง สมุดบันทึกสามสี่เล่ม และสมุดวาดภาพขนาดใหญ่อีกเล่มหนึ่ง
ลีทึกรีบปิดลิ้นชักไว้ตามเดิมแล้วใส่หนังสือบนพื้นลงในกล่องกระดาษที่เตรียมไว้ ก่อนจะรีบยกไปไว้ที่รวมของเตรียมย้ายขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
หัวหน้าแม่บ้านเห็นร่างสูงเดินผ่านพร้อมกล่องใบโตก็โค้งงามๆก่อนจะหันไปบัญชาการลูกน้องคนอื่นๆต่อไป
เมื่อวางของเสร็จขายาวรีบกลับไปยังห้องเดิมแล้วเปิดลิ้นชักโต๊ะขึ้นอีกครั้ง แล้วคว้าเอาสมุดบันทึกและสมุดวาดภาพติดมือกลับเข้าบ้านไป
หลังล็อคประตู้เรียบร้อยสมุดสามเล่มก็ถูกวางลงบนโต๊ะไม้ในห้องของตน
ที่หยิบสมุกพวกนี้มาก็เพราะคิดว่าบางทีบันทึกนี่อาจจะมีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับที่นี่ก็เป็นได้
สมุดบันทึกสีน้ำเงินทั้งสองเล่มลงวันที่ของปี 2003 ถึง 2006 มีการลงวันที่ไว้ทุกๆหน้า และเขียนหัวข้อหลักๆของแต่ละวันไว้บนหัวกระดาษ ซึ่งข้อมูลต่างๆดูไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการรู้เท่าไรนัก จึงหยิบสมุดบันทึกสีน้ำตาลขึ้นมาแทน
ภายใต้ปกแข็งสีน้ำตาลเข้ม บันทึกหน้าแรกเริ่มที่ปลายปี 2006 ท้ายเล่มเป็นส่วนของปลายปี 2008 ตอนนี้เป็นช่วงกลางปี 2009 จากที่ได้ยินมาคนที่ชื่อเยซองเองก็พึ่งเข้ามาที่นี่ได้ไม่กี่เดือนเท่านั้น ยังไม่น่าจะมีเรื่องเกี่ยวกับตระกูลคิม ขณะกำลังจะปิดสมุดบันทึกเล่มนี้แล้วดูเล่มถัดไป ตาคมก็สะดุดกับหัวข้อของไดอารี่ช่วงท้ายเล่ม
081207 ของขวัญวันเกิดซึงริ/ผังงานเลี้ยง/ตระกูลคิม
มาอัพละ
ห้า ห้า
งงกับคิมฮีจริงๆเลย
ทำไมถึงได้มีเรื่องเยอะแยะอะไรขนาดนี้
แอบกระซิบ พาร์ทหน้าฝั่งนั้นเค้าจะเริ่มเคลื่อนไหวละนะ อิอิ
เดี๋ยวนี้รู้สึกคนอ่านหาย
วิวน้อยลง - -
แต่เม้นอย่าให้น้อยลงนะ
แล้วก็ก่อนไป
โปรโมตฟิคเรื่องใหม่
'm the YOUNGEST but wanna EAT the YOUNGER
ไม่เครียดไม่น่ากลัว
มาแนวรั่ว มันจะเริ่มรั่วจัดที่พาร์ทสอง
ฮ่าๆ
ไปล่ะ
อย่าลืมเม้น + จิ้มตาม
ของขวัญวันเกิดซึงรึ
- นาฬิกาที่ร้านมุมถนน
- 150000
- 081210
- 16.30
ผังงานเลี้ยง
- กึนซอก
- ภัตรคารหวัง
- 50 / 20
- เวที 6/15
ตระกูลคิม
- ตั้งแต่ 081201 มาเป็นแขกพร้อมลูกชายคนเล็ก
- ข้อเสนอระหว่างตระกูล
- พบคุณลี
- ย้าย
- คุณชายคิมคนโต*
* สาเหตุที่ไม่อยู่
เรียนต่อ
ย้ายประเทศ
ทำงาน
ปัญหาด้านสุขภาพ
หนี...............
ตัวหนังสือ ข้อมูลตัวเลข และวันที่ ถูกเขียนเป็นคำสั้นๆที่หากไม่ใช่เจ้าตัวก็คงเข้าใจได้ยาก แต่ลีทึกเองก็ไม่คิดจะสนใจข้อมูลในสองหัวข้อแรก เพราะข้อมูลที่ต้องการคือช่วงย่อหน้าสุดท้าย
ตาคมละเลียดอ่านตัวหนังสืออันน้อยนิดพยายามตีความอย่างละเอียด
ตั้งแต่.... แสดงว่าหลังจากการมาในวันที่1 ก็ยังคงมีครั้งอื่นๆตามมาอีก
ข้อเสนอ ระหว่างตระกูล.... ขณะนี้ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ
พบคุณลี.... การพูดคุยนี้น่าจะเป็นผลจากการมาของคุณคิมไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องรวมในหัวข้อเหล่านี้ ขาดข้อมูล
ย้าย.... ข้อมูลที่รู้ตอนนี้ยังไม่มากพอ แต่จากการคาดเดาน่าจะเกี่ยวกับการย้ายเข้ามาที่นี่
คุณชายคิมคนโต....คิมฮีชอล!!!
จากข้อความที่กาดอกจันทร์ ข้อสังเกตและการสันนิษฐาน หมายความว่า ช่วงนั้นคิมฮีชอลไม่ได้อยู่กับครอบครัวอย่างนั้นหรือ?
ทันทีที่ตาคมกวาดไปยังบรรทัดสุดท้ายของหน้ากระดาษก็พบตัวอักษรสีแดงที่ถูกกาดอกจันทร์ไว้ ดวงตาหลุบมองตามตัวอักษรนั้นแต่ทว่า
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณลีทึกครับ” เสียงชายหนุ่มดังขึ้นขัดจังหวะ จากที่ฟังนี่ไม่ใช่เสียงของคนในตระกูลคิม ดังนั้นน่าจะเป็นคนรับใช้
“ครับ” ร่างสูงรีบดึงเชือกสีดำลงมาขั้นหน้าไดอารี่แล้วปิดปกหนาลง หยิบสมุดบันทึกและสมุดภาพทั้งหมดใส่ในลิ้นชักแล้วเดินไปเปิดประตู
บทสนทนาสั้นๆเกิดขึ้นระหว่างเจ้าของห้องกับคนคาบข่าว สรุปง่ายๆคือเขาต้องไปนอนเฝ้าฮีชอลที่โรงพยาบาลตั้งแต่คืนนี้จนถึงวันที่คนตัวเล็กจะกลับบ้านได้
และนั่นหมายความว่าเขาจะไม่สามารถตรวจสอบไดอารี่ของเยซองได้จนกว่าฮีชอลจะได้กลับบ้าน และเมื่อฮีชอลกลับบ้านการสำรวจทุกอย่างก็จะติดขัด แต่ยังไงการดูแลฮีชอลก็คือหน้าที่ ในขณะที่การตรวจสอบเรื่องต่างๆเป็นเพียงเรื่องส่วนตัว
ลีทึกจัดเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นทั้งหมดลงกระเป๋าใบใหญ่โดยไม่ลืมพกแลปทอปไปด้วย
รถยนต์สีดำจอดนิ่งสนิทท่ามกลางยานพาหนะมากมายบนถนน ความเงียบปกคลุมทั่วพื้นที่เล็กๆ ความสงสัยที่วิ่งวนอยู่ในใจค่อยๆปะทุขึ้นมาทีละนิด
อะไร
เมื่อไหร่
ทำไม
ใคร
- - - - - - - - - - - - - - - -
“มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดอุบัติเหตุกับคนรอบคอบอย่างคุณเยซอง” ชายสูงวัยพิงพนักพิงเก้าอี้ผู้บริหารเอ่ยเบาๆกับหัวหน้าแผนกสืบสวนเพื่อนเก่าตั้งแต่สมัยมัธยม
“อืม ฉันจำบุคลิกของเขาได้เวลาไปที่คฤหาสน์ลี”
“เขาตายเพราะไม่มีแอร์แบ็คอย่างนั้นสินะ” คุณคิมทวนถาม
“ใช่ แรงกระแทกทำให้คอหัก”
“โดยที่นั่งข้างคนขับกลับมีแอร์แบ็ค”
เขาไม่อยากจะคิด
. แต่บางทีนี่อาจจะเป็นการจัดฉากของ ปีศาจที่อาศัยอยู่ในคราบของลูกชายที่น่ารัก
“นายสงสัยฮีชอลใช่มั้ย” เพื่อนร่วมมรุ่นถามคนเป็นพ่อที่กำลังหนักใจ
“ฉันรักลูกนะ แต่
”
“ฉันเข้าใจ ทำไมนายไม่ลองถามฮีชอลตรงๆล่ะ”
คนถูกถามหันไปมองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากเชื่อ เป็นไปได้หรือที่จะถามคนแบบฮีชอลอย่างตรงไปตรงมา
“นายลองถามเขาตรงๆสิว่าเขาต้องการอะไร ฉันว่าบางครั้งคนเราก็ต้องการความจริงใจนะ”
“ฉันจะลองดู”
หลังร่ำลาส่งเพื่อนเก่าเรียบร้อยไม่นานโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก
“ว่าไงเจ้าบอม ไปเยี่ยมฮีชอลกับคุณลีทึกเรียบร้อยดีใช่มั้ย ทำไมไม่กลับมาพร้อมกันล่ะ มีธุระด้วนหรอ” ทักทายเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่ปรากฏเป็นของลูกชายคนเล็ก
-ครับ ผมแค่จะโทรมาบอกพ่อว่า น่าจะมีใครซักคนไปคอยเฝ้าพี่นะครับ-
“ทำไมล่ะ”
-นอกจากสังขารไม่อำนวย ผมว่าคนป่วยคงอยากให้ใครซักคนไปดูแลด้วยนั่นแหละ-
“หืม จริงสิ แล้วที่โรงพยาบาลไม่มีใครมาดูแลงั้นหรอ”
-คนของโรงพยาบาลดูแลได้ไม่ทั่วถึงเท่าที่ต้องการหรอกครับ-
“อยากให้พ่อหาคนไปดูแลพี่แกว่างั้น กินอะไรผิดรึเปล่าเนี่ย เกิดอาการห่วงพี่ขึ้นกระทันหันแบบนี้” ผู้เป็นพ่อพูดทีเล่นทีจริง
-ผมจะบอกแค่นี้แหละ คืนนี้ผมกลับดึกนะ วางก่อนนะครับ สวัสดีครับ- ว่าเสร็จก็วางหูไปอย่างรวดเร็ว
แม้จะไม่เข้าใจว่าอะไรคือเหตุผลแต่เขาเองเชื่อเสมอว่าคิบอมจะทำทุกอย่างเพื่อพี่ชายของตน นิ้วเหี่ยวย่นๆเรียกดูรายชื่อในโทรศัพท์ก่อนโทรสั่งงานให้ใครอีกคนไปเฝ้าลูกชายคนโตตามที่เจ้าคนเล็กขอไว้
ตั้งแต่กลับมาเกาหลีเขาเองมีโอกาสไปเยี่ยมลุกชายเพียงครั้งเดียว และในเมื่อตอนนี้พอมีเวลาว่างจึงคิดจะไปให้ลูกได้เห็นหน้าค่าตาซักนิด
อย่างน้อยให้ได้รู้ว่าเขารักฮีชอลมาก
แม้ว่าฮีชอลจะเกลียดเขาแค่ไหนก็ตาม
บรรดาคนติดตามถูกสั่งให้รอหน้าห้องพักในขณะที่ช่างสูงวัยเป็นเพียงคนเดียวที่เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย
“อ้าว วันนี้พ่อว่างมาเยี่ยมผมด้วยหรอ” ยิ้มบางๆทักทายบิดา
“อืม ไม่เจอแป๊บเดียวดีขึ้นเยอะเลยนะ แล้วตอนบ่ายได้เจอคุณลีทึกแล้วใช่มั้ยลูก” ลูบศีรษะของลูกชายอย่างเบามือ
“ครับเจอแล้ว”
“แล้วเขาดีมั้ย” ถามความเห็น
“ก็ดีครับ ดูฉลาดดี ฮ่าๆ” หัวเราะคิกคักอย่างรื่นเริง
สองพ่อลูกนั่งคุยเรื่อยเปื่อยไปซักพักก็มีบุคคลที่สามเข้ามาสมทบ
“สวัสดี คุณลีทึกมาเร็วๆเหมือนกันนะครับ” ชายสูงวัยส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มที่พึ่งเดินเข้ามา
“ครับ พอดีรถไม่ค่อยติดน่ะ” ส่งยิ้มกลับไป
ตากลมของคนบนเตียงจ้องมองคำทักทายเล็กน้อยๆของอีกสองคนแล้วเหลือบไปเห็นกระเป๋าไปโตในมือของชายหนุ่ม
“เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณลีทึกจะมานอนเฝ้าผมหรอครับ” คนบนเตียงถามขึ้นขัดการปฏิสัมพันธ์ของคนทั้งสอง
“คิบอมโทรบอกพ่อให้หาใครมาดูแลเราน่ะ” คุณคิมหันไปตอบแทน
“อ่อ ครับ มันเกิดบ้าอะไรเป็นห่วงผมขึ้นมานะ ฮะๆ”
รู้ทันทีว่าคิบอมต้องมีเหตุผลบางอย่างที่บอกกับพ่อไปแบบนั้น และที่สำคัญคิบอมรู้อยู่แล้วว่าถ้าใครซักคนจะมาดูแลเขา คนๆนั้นจะต้องเป็นลีทึก
นายต้องการอะไร คิมคิบอม???
“อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นน่ะ เรื่องราวมันเป็นยังไงกัน ช่วยเล่าให้พ่อฟังอย่างละเอียดได้มั้ย” ร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างชายชราหันไปมองราวไม่เชื่อหูตัวเอง ถามคำถามแบบนั้นตอนนี้น่ะหรอ??
“ผมยังไม่อยากนึกถึงมันตอนนี้หรอกนะครับ” ตากลมหลุบลงหลบสายตาผู้เป็นบิดา เป็นไปอย่างที่คาด
“พ่อแค่อยากได้ข้อมูลสำหรับการสอบสวน พ่อว่ายิ่งคดีปิดเร็วเท่าไหร่มันก็ดีกับลูกเท่านั้นนะ”
ร่างบางมองผู้เป็นพ่อด้วยแววตาสับสน ทั้งไม่พอใจ ทั้งเสียใจ ทั้งไม่เข้าใจ แล้วอะไรล่ะคือความรู้สึกที่แท้จริง
ร่างสูงเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่เงียบๆ เขาชอบใช้สมองมากกว่าใช้คำพูด
“พูดแบบนี้ พ่อคิดอะไรอยู่ครับ พ่อคิดว่าเป็นแผนของผมหรือครับ ” พูดน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ น้ำตาเริ่มคลอหน่วย
“พอ่ไม่ได้หมายความแบบนั้น ถ้าลูกไม่ได้ทำ ก็ไม่เป็นไรไม่เห็นต้องร้องไห้เลย”
“ผม
ผมไม่อยากพูดถึงมัน ไม่ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น!!” ตากลมเหลือกมองเพดานเหมือนต้องการให้น้ำตาไหลย้อนกลับเข้าไป
เสแสร้ง คำเดียวที่ร่างสูงรู้สึกได้ คนๆนี้กำลังเล่นละคร แต่การทำแบบนี้ยิ่งดูเหมือนเป็นการร้อนตัวไม่ใช่หรอกหรือ
“แค่ลูกพูดมาว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้น พ่อจะเชื่อ นะฮีชอล บอกพ่อ” ว่าพลางกุมมือลูกชายไว้อย่างแน่นหนา
“ผม ไม่ ไม่ใช่ ผมไม่รู้” ตากลมปิดลงแน่นสนิทพยายามหลบสายตาของคนผู้พ่อ
“ฮีชอล แบบนี้หมายความว่าลูกทำใช่มั้ย” น้ำเสียงอบอุ่นแต่ทว่าคำพูดช่างเสียดแทง
ตากลมลืมขึ้น หน้าหวานสะบัดไปมาอยากรุนแรง น้ำตาไหลเป็นทางเสียงสะอื้นไห้ดังไปทั่ว
“ถ้าไม่ใช่ลูกก็บอกพ่อมาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น!!!” เสียงทุ่มตะคอกใส่หน้ลูกชายที่กำลังร้องไห้ ใครกันนะที่น่าสงสาร
ร่างบางสั่นไหวตามแรงสะอื้นแม้จะนอนราบอยู่กับเตียง จมูกโด่งค่อยๆสูดหายใจลึกๆเอาอากาศเข้าปอดให้ร่างอันสั่นเทาค่อยๆนิ่งลง
“ผม
. ผะ ผม คุณเยซอง เค้า
” เสียงสะอึกสะอื้นทำให้ไม่สามารถฟังได้รู้เรื่องว่างร่างบางพูดอะไรกันแน่ คุณคิมจริงลูบหลังลูกชายเบาๆแล้วรอคอยคำตอบ
“คุณเยซองเค้าจงใจจะฆ่าผม!!!” ฮีชอลตะโกนออกมาเสียงดังจนคนฟังสะดุ้ง
สะดุ้งเพราะไม่คาดคิดว่าคำตอบจะเป็นแบบนี้ ไม่คาดคิดว่าฮีชอลจะโกหกได้ทั้งๆที่ดูไร้เหตุผล
“พ่อบอกว่าจะเชื่อลูกแต่ไม่ใช่ให้ลูกใส่ร้ายเขาแบบนี้” เสียงทุ่มเอ่ยอย่างเหนื่อยใจ
“แต่ผมมีหลักฐาน” ตาโดมองบิดาอย่างน่าสงสาร แต่ลีทึกกับเห็นมันเป็นดวงตาของคนที่กำลังท้าท้ายความจริงอยู่
อะไรคือเหตุผลที่คุณคิมคิดว่าฮีชอลเป็นคนวางแผนการทั้งหมด
แล้วอะไรคือหลักฐานของคิมฮีชอล??
NeRVe - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
NeRVe - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มาอัพละ
ห้า ห้า
งงกับคิมฮีจริงๆเลย
ทำไมถึงได้มีเรื่องเยอะแยะอะไรขนาดนี้
แอบกระซิบ พาร์ทหน้าฝั่งนั้นเค้าจะเริ่มเคลื่อนไหวละนะ อิอิ
เดี๋ยวนี้รู้สึกคนอ่านหาย
วิวน้อยลง - -
แต่เม้นอย่าให้น้อยลงนะ
แล้วก็ก่อนไป
โปรโมตฟิคเรื่องใหม่
'm the YOUNGEST but wanna EAT the YOUNGER
ไม่เครียดไม่น่ากลัว
มาแนวรั่ว มันจะเริ่มรั่วจัดที่พาร์ทสอง
ฮ่าๆ
ไปล่ะ
อย่าลืมเม้น + จิ้มตาม
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น